ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่เริ่มต้นภายในโรงรถ ห้องใต้ถุน หรือบ้าน

ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่เริ่มต้นภายในโรงรถ ห้องใต้ถุน หรือบ้าน

การเริ่มต้นธุรกิจ ไม่ใช่สตาร์ทอัพ การเริ่มต้นเป็นอยู่อย่างเล็กไม่ได้หมายความคุณควรจะลืมว่าคุณกำลังดำเนินธุรกิจอยู่ หลายสตาร์ทอัพมีชีวิตอยู่ภายในดินเเดนแห่งจินตนาการ ตรงที่พวกเขาใช้เงินของนักลงทุนอย่างมีความสุข โดยไม่กังวลเกี่ยวกับการทำกำไร บริษัทเหล่านี้ไม่ได้เป็นธุรกิจอย่างแท้จริง เป็นแต่เพียงงานอดิเรกที่ชื่นชมของผู้ก่อตั้งของมัน ถ้าคุณต้องการสร้างธุรกิจที่บรรลุความสำเร็จ คุณควรจะมีเส้นทางที่ชัดเจนไปสู่การทำกำไรภายในใจตั้งแต่ตอนเริ่มต้นคุณควรจะเพลิดเพลินต่อด้านที่ดีของการเป็นอยู่อย่างเล็ก แต่อย่าลืมว่าคุณกำลังดำเนินธุรกิจอยู่ เมื่อพ่อครัวกอร์ดอน แรมซี่ย์ แก้ไขร้านอาหารที่ล้มเหลวภายในรายการทีวีของเขา คิทเช่น ไนท์แมร์ เขาได้เริ่มต้นด้วย กระบวนการวิถีทางอย่างเดียวกัน : การตัดลงประมาณสองในสามของเมนูอาหาร
เจสัน ฟรายด์ ได้เตือนเราอันตรายของการคิดเหมือน สตาร์ทอัพ คุณเป็นธุรกิจ ผูกพันต่อรายได้ – ต้นทุน = กำไร ถ้าคุณใช้วิถีทางนี้ตั้งแต่วันแรกคุณมีโอกาสดีขึ้นที่จะบรรลุความสำเร็จ ธุรกิจไม่มีเส้นทางไปสู่กำไรไม่ใช่ธุรกิจ

ถ้าคุณไม่คุ้นเคยกับซารา เบลคลี่ เธอได้ถูกรู้จักกันต่อการปฏิรูปชุดชั้นในเปิดตัวเมื่อ ค.ศ 2000 นับแต่นั้นมาสแปงซ์ ได้แก้ปัญหาเสื้อผ้าของผู้หญิงทั่วโลก ด้วยการออกแบบยกทรง ชุดชั้นใน และอย่างอื่นภายในวิถีทางที่เปลี่ยนแปลงวิถีทางผู้หญิงรู้สึกเกี่ยวกับร่างกายของพวกเธอ เมื่อโอปราห์ วินฟรีย์ ได้กล่าวชื่อ สแปงซ์ เป็น “Favorite Thing” มันทำให้เกิดการลุกขึ้นอย่างสำคัญของความนิยมแพร่หลาย และยอดขายนับแต่นั้นมาซารา เบลคลี่ตัวเธอเองได้กลายเป็นที่นิยมแพร่หลายและมั่งคั่ง ซารา เบลคลี่ย์ เป็นนักธุรกิจหญิงอเมริกัน แม้ว่าไม่มีประสบการณ์กับแฟชั่น การค้าปลีก หรือผู้นำธุรกิจ เธอได้ก่อตั้งบริษัทชุดชั้นในที่มีชื่อเสียงในขณะนี้ สแปงซ์ เมื่อ ค.ศ 2000 ด้วยการคิดโดยบังเอิญในขณะที่เธอพยายามใหดูดีที่สุดภายในกางเกงสีขาว เมื่อ ค.ศ 2012 ซารา เบลคลี่ได้สวมมงกุฏมหาเศรษฐีสร้างตัวเองสาวที่สุดโดยวารสารฟอร์บ วันนี้ตอนอายุ 50 ปี เธอมีความมั่งคั่งประมาณ 1.2 พันล้านเหรียญ ซารา เบลคลี่ ได้ค้นพบความคิดของสแปวซ์ภายในปลาย ค.ศ 1990 เมื่อเธออายุเพียงแค่ 27 ปี และทำงานเป็นพนักงานขาย การขายเครื่องแฟกซ์ตามบ้าน งานกำหนดให้เธอใส่เสื้อผ้ากระชับ และเธอได้กลายเป็นขุ่นเคืองอย่างรวดเร็วจากตะเข็บของเสื้อผ้า ระหว่างนั้นเธอได้ถูกเชิญไปงานเลี้ยง และต้องการให้เธอดูดีที่สุดภายในกางเกงสีขาวเธอไม่สามารถหาชุดชั้นในที่เหมาะสมเพื่อสวมกางเกงสีขาวทับโดยไม่เห็นรอยขอบกางเกงชั้นในได้ อีกทั้งสเตย์รัดสัดส้วนดูหนาและอึดอัดเกินไป ด้วยกรรไกและอัฉริยะ เธอได้ตัดปลายถุงน่องส่วนเท้ามาสวมแท และได้รับรู้ว่าเธอกำลังไปสู่บางสิ่งบางอย่าง
เธอชอบวิถีทางชุดชั้นใหม่สร้างการมองของเธอมาก และได้ใช้สองปีกับการวิจัยอย่างรอบคอบ การวิจัยของเธอได้เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมก่อนหน้านี้ได้ใช้แถบผ้าตรงส่วนเอวขนาดเดียวต่่อผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในทุกอย่างที่จะลดต้นทุน และสายยางสอดเข้าไปแถบผ้าตรงส่วนเอวให้พอดีกับลูกค้าขนาดแตกต่างกัน เธอได้ตระเตรียมเพื่อการเปิดตัวสแปงซ์ เธอเดินทางไปสู่โรงงานผลิตเสื้อผ้าหลายแห่งเพี่อการวิจัย เมื่อ ค.ศ 2000 ซารา เบลคลี่ได้เปิดตัวตราสินค้าสแปงซ์จากอพาร์ตเม้นท์ของเธอ ดำเนินการตัดสินใจเริ่มแรกทุกอย่างและการตลาดด้วยตัวเธอเอง เธอได้ชักจูงนีแมน มาร์คัสให้โอกาสแก่ผลิตภัณฑ์ของเธอ ซาราสามารถชักจูงบลูมมิ่งเดลให้โอกาสแก่สแปรงซ์แต่กระนั้น เธอไม่มีพื้นที่บริษัืท เธอได้บรรจุและจัดส่งคำสั่งซื้อสแปงซ์จากบ้านด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนชายของเธอ และรับโทรศัพท์จากอ่างอาบน้ำหรือที่นอน

เมื่อ ค.ศ 1996 เควิน พลังค์ ได้ขายผลิตภัณฑ์ของเขาจากห้องใต้ถุนของยายของเขา เขาได้ก่อตั้งบริษัท ด้วยเป้าหมายของการสร้างชุดกีฬาที่สามารถซับเหงื่อ ณ เวลานั้น เควิน พลังค์อาศัยอยู่ภายในเทาน์เฮาส์ของยายของเขา ณ ยอร์จทาวน์ ตรงที่เขาใช้ห้องใต้ถุนเป็นสำนักงานของเขาตอนอายุ 23 ปี เควิน พลังค์ ได้เริ่มต้นสร้างข้อแก้ปัญหาต่อเสื้อชุ่มเหงื่อยุ่งยากทุกครั้งเมื่อเขาเล่นฟุตบอลล์ ดังนั้นเขาได้ลงไปห้องใต้ถุนของเขาและสร้างอันเดอร์ อาร์เมอร์ เควิน พลังค์ เป็นฟูลแบลค ณ มหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ และภายหลังจบการศึกษา เขาได้พัฒนาต้นแบบเสื้อตัวแรกของเขา เขาได้ให้เสื้อแก่เพื่อนร่วมทีมแมรีแลนด์ของเขา และเพื่อนที่ได้ไปเล่นภายในเอ็นเอฟเเอล เริ่มแรกเขาได้ขายจากกระโปรงหลังรถยนต์ของเขา อันเดอร์ อาร์เมอร์ ตราสินค้าเสื้อผ้าและรองเท้ากีฬา มีรายได้ 5 พันล้านเหรียญเมื่อ ค.ศ 2019 ด้วยมูลค่าตราสินค้าประมาณไว้ ณ 4.4 พันล้านเหรียญ ตลอดเส้นทางเพียง 20 ปี อันเดอร์ อาร์เมอร์ ก่อตั้งโดย เควิน พลังค์ เมื่อ ค.ศ 1995 อายุ 23 ปี อดีตกัปตันทีมอเมริกันฟุตบอล มหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ เนื่องจากภูมิหลังทางกีฬาของเขาที่อันเดอร์ อาเมอร์ ได้ถูกสร้าง เขาสังเกตุว่าเสื้อยืดผ้าฝ้ายที่เขาและเพื่อนร่วมทีมของเขาใส่อมเหงื่อจนกลายเป็นหนักภายหลังจบการศึษา เควิน พลังค์ ได้เริ่มต้นออกแบบเสื้อยืดที่ดีกว่า เขาไ้ด้ผลิตเสื้อยืดใหม่สร้างจากไมโครไฟเบอร์ที่ดูดความชื้น และทำให้นักกีฬาเย็น แห้ง และน้ำหนักเบา ด้วยการออกแบบของเขา เควิน พลังค์ ต้องการเงินทุนที่จะเปิดตัวเสื้อผ้าของเขา ดังนั้นเขาได้ปรับบัตรเครดิตของเขาสูงสุดเป็น 40,000 เหรียญ และก่อตั้งบริษัทภายในชั้นใต้ดินของยายของเขาภายในวอชิงตัน ดีซี ดังนั้นผลิตภัณฑ์อย่างแรกของตราสินค้าคือ เสื้อยืดผลิตจากใยสังเคราะห์ ระบายความร้อนได้ดี แห้งเร็ว และใส่สบายตัว

เเมทเทล เป็นผู้ผลิตของเล่นอเมริกันใหญ่ที่สุดลำดับสองของโลกในแง่ของรายได้ ตามหลังเดอะ เลโก กรุ้ป พวกเขาเริ่มต้นภายในโรงรถเมื่อ ค.ศ 1945 เป็นความร่วมมือร่วมใจระหว่างรูธ และเอลเลียต แฮนด์เลอร์ และฮาร์โรลด์ “แมทท” แมทสันฮาร์โรลด์ แมทสัน และเอลเลียต เเฮนด์เลอร์ ได้ก่อตั้งยักษ์ใหญ่ของเล่น แมทเทล ภายในโรงรถ แคลิฟอร์เนีย แมทเทลก่อตั้งเมื่อ ค.ศ 1945 เป็นธุรกิจกรอบรูป ดำเนินงานจากโรงรถของรูธ และเอลเลียต แฮนด์เลอร์ ภายหลังจากกรอบรูปบรรลุความสำเร็จอย่างมาก แฮนด์เลอร์ และหุ้นส่วนของเขา ฮาร์โรลด์ แมทสัน ได้ตัดสินใจรวมชื่อตัวท้ายของพวกเขา และเเมทเทิล ได้กำเนิดในขณะที่สร้างกรอบรูปภายในโรงรถ แฮนด์เลอร์ได้สร้างเครื่องตกแต่งบ้านตุ๊กตาด้วยไม้ที่เหลือจากกรอบรูปด้วย เครื่องตกแต่งได้กลายเป็นความสำเร็จที่สูง และในที่สุดบริษัทหมุนไปสู่การผลิตตุ๊กตา ของเล่นที่นิยมแพร่หลายมากที่สุดอย่างแรกคืออูคูเลเล่ชื่อ “Uke-a- Doodle” ในไม่ช้าแมทสัน ได้ขายหุ้นของเขาแก่แฮนด์เลอร์ เนื่องจากสุขภาพไม่ดีพวกเขาเป็นนักออกแบบและวิศวกร จุดมุ่งร่วมกันบนความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ได้เปลี่ยนแปลงตลอดกาลเด็กเล่นอย่างไร แมทเทลได้เจริญเติบโตไปสู่บริษัทของเล่นโลกแนวหน้า และผู้สร้างแฟรนไชส์ที่รักโดยเด็กและครอบครัวทั่วโลก หัวใจของความสำเร็จของเราเป็นความสามารถของเราที่จะนำและตอบสนองต่อวัฒนธรรมประชานิยม และแสดงบทบาทที่สำคัญภายในมัน การสร้างของเล่นและตราสินค้าไอคอน การสร้างสไตล์และการมีผลกระทบทางสังคม แมทเทล ได้กลายเป็นผู้สนับสนุนตลอดปีของมิคกี้ เม้าส์ คลับ เมื่อ ค.ศ 1955 ตุ๊กตาบาร์บี ได้ถูกแนะนำเมื่อ ค.ศ 1959 โดยแมทเทลกลายเป็นของเล่นขายดีที่สุดของบริษัทตลอดกาลแยงกี้ แคนเดิล เป็นผู้ผลิตเทียนใหญ่ที่สุดเเละมีชื่อเสียงมากที่สุดภายในโลก พวกเขาสร้างเทียนพีเมี่ยมตลอด 40 และมีชื่อเสียงทั่วโลกต่อขอบเขตที่กว้างของความหอมและสไตล์ที่แตกต่างกันของเทียน แต่กระนั้น แยงกี้ แคนเดิล ได้เริ่มต้นภายในสภาพถ่อมตัวที่สุด พวกเขาได้ เริ่มต้นภายในเซ้าธ์ เเฮดลี่ย์ แมสซาชูเสตต์ เมื่อไมเคิล คิทริดจ์ ผู้ก่อตั้งได้สร้างเทียนหอมอันแรกของเขาจากดินสอสีละลายเป็นของขวัญแก่แม่ของเขา ไมเคิล คิทริดจ์ ได้อธิยายมันด้วยคำพูดของเขาเองมันทุกอย่างเริ่มต้นภายในธันวาคม ค.ศ 1969 ผมอายุสิบหกปี และมีปัญหาใหญ่ เพียงเเค่วันหลงเหลืออยู่ก่อนคริสต์มาส และผมถังแตก และในขณะที่พิจารณาทางเลือกของผมต่อของขวัญแม่ แรงบันดาลใจได้ติดอยู่ ผมได้รวมดินสอสีวัยเด็กของผม และพบกล่องนมที่ว่างเปล่า ผมได้ละลายมันภายในหม้อบนเตาห้องครัว รินของเหลวที่ร้อนลงไปที่กล่อง และเพิ่มไส้ตะเกียงยืมมาจากเทียนภายในห้องทานอาหารของเรา หลายชั่วโมงต่อมาเทียนอันแรกของผมวางอยู่บนโต๊ะห้องครัวอย่างภูมิใจ แม่ของผมชอบมันมาก และเพื่อนของเธอต้องการเพื่อตัวพวกเขาเอง ไม่นาน ไมเคิล คิทริดจ์ ได้เทขี้ผึ้งสีลงไปที่กล่องนม และขายเทียนทำที่บ้านของเขา ณ งานเเสดงสินค้่าท้องที่ อุปสงค์ได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเขาได้ย้ายการดำเนินงานไปสู้ห้องใต้ถุนและโรงรถของเขา เขาและภรรยาของเขาได้เทเทียนตอนกลางคืนภายหลังการทำงานและวันสุดสัปดาห์และบรรจุมันเพื่อการจัดส่งระหว่างวัน งานเสริมของเขาได้เจริญเติบโตไปเป็นธุรกิจ วันนี้ แยงกี้ แคนเดิล มีร้านค้ามากกว้า 250 ร้าน และยังคงผลิตเทียนคุณภาพสูงอย่างยาวนานแก่บุคคลทั่วโลก ไมเคิล คิทริดจ์ ได้เริ่มต้นละลายดินสอสีสร้างเทียนที่มีสีสันขายแก่เพื่อนของเขาและงานแสดงสินค้าท้องที่ บุคคลชอบสีสันสดใสและกลิ่นหอมที่น่าประหลาดใจ และคำพูดได้กระจายอย่างรวดเร็ว และในไม่ช้าไมเคิล คิทริดจ์ ได้รับคำสั่งซื้อมากกว่าที่เขาสามารถทำได้ภายในครัวของแม่ของเขา เขาได้ตัดสินใจเดิมพัน และเปิดร้านค้าปลีกเทียน ร้านค้าเเรกของแยงกี้ แคนเดิลเปิดภายในเซ้าธ์ เดียร์ฟิลด์ แมซซาจูเสตต์ และนิยมแพร่หลายทันที ดึงผู้มาเยี่ยมมากกว่าหนึ่งล้านคนแต่ละปี ภายในไม่กี่ปี แยงกี้ แคนเดิล ได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยร้านค้าเล็ก เมื่อ ค.ศ 1980 ได้กลายเป็นบริษัทหลายล้านเหรียญ และเป็นผู้บุกเบิกความหอมบ้าน บริษัทได้กลายเป็นผู้นำโลกภายในอุตสาหกรรมเทียนหอม

Cr : รศ สมยศ นาวีการ