อ้อยเข้าทางช้าง
อ้อยเข้าทางช้าง
โดยพระไพศาล วิสาโล
“ช้างตัวนี้ คว้าหรือม้วนอ้อยจากรถก็จะเอาแค่ฟ่อนเดียว แล้วพอได้แล้วก็ปล่อยรถไป แล้วก็รอรถคันต่อไป รถคันต่อไปมาเขาก็หยุดแล้วก็เอาอ้อยแค่ฟ่อนเดียว ทำไมเขาไม่หยุดรถคันนั้นแล้วก็กินอ้อยให้หมดรถไปเลย เพราะว่าช้างนี่วันๆ หนึ่งกินหญ้า กินอาหารวันละสองร้อยกิโล เพราะฉะนั้นแค่รถอ้อยคันเดียวก็ไม่ต้องทำอะไร ก็แค่กินอ้อยในรถคันนั้นคันเดียวก็พอแล้ว แต่เขาก็ไม่ทำอย่างนั้น เขาแค่เอาแค่ฟ่อนเดียวเหมือนกับว่าขอกันกิน ขอกันนิดหน่อยหรือว่าจะเรียกว่ารู้จักพอก็ได้นะ ไม่เอามากไม่โลภมาก
ถ้าเป็นคนเรานะจะโลภมากนะ แต่ช้างตัวนี้ไม่โลภมากเอาแค่ฟ่อนเดียวแล้วก็ปล่อย เขาคงจะรู้ว่านิดๆ หน่อยๆ ก็คงจะไม่รบกวนมนุษย์เท่าไหร่ อีกอย่างหนึ่งช้างตัวนี้ก็รู้จักพอนะตรงที่ว่า พอถึงจุดหนึ่งเขาก็เลิกขวางถนน เพราะเขาอิ่มแล้ว พอได้หลายฟ่อนเขาก็อิ่ม พออิ่มเขาก็กลับเข้าป่า คนเรานี่นะฉลาดอย่างไรแต่ว่ามีนิสัยเสียนะคือไม่รู้จักอิ่ม ไม่รู้จักพอ เพราะว่าคนเราไม่ได้แค่ต้องการอิ่มท้องเราต้องการอย่างอื่นด้วย
ถ้าความสุขของคนเราเพียงแค่อิ่มท้อง เราก็จะรู้จักพอเพราะว่าท้องเรามีปริมาตรจำกัด เหมือนช้าง ท้องช้างใหญ่แค่ไหนก็ปริมาตรจำกัดอยากกินอาหารแค่ไหน กินไปได้สองร้อยกิโลก็พอแล้วไม่รบกวนใครล่ะ ไม่ไปแย่งใคร แต่คนเราไม่ได้ต้องการแค่อิ่มท้องนะ เราต้องการอะไรมากกว่านั้น ต้องการเงินต้องการทอง แล้วพวกนี้ไม่มีความรู้จักอิ่ม เพราะสะสมมากเท่าไหร่ก็ได้ เงินนี่สะสมมากเท่าไหร่ก็ได้ไม่เหมือนอาหาร อาหารนี่ถ้าเต็มท้องเราก็พอแล้ว เวลาเรากินอาหาร ถ้าอิ่มเมื่อไหร่เราก็ไม่อยากกินแล้ว
แต่มนุษย์เราต้องการมากกว่านั้น จึงเกิดความไม่รู้จักพอซึ่งก็ทำให้เกิดการเบียดเบียนผู้อื่น ถ้ามนุษย์เรารู้จักพอบ้างเหมือนช้างตัวนี้ โลกนี้ก็จะมีสันติสุขขึ้นเยอะ แม้จะเบียดเบียนก็เบียดเบียนนิดหน่อย เรียกว่าขอกันกินขอกันใช้แล้วก็ไป อันนี้ถ้าเรารู้จักเรียนรู้จากช้างบ้าง หรือจากสัตว์บ้างว่ารู้จักพอๆ เราก็จะมีความสุขได้ง่ายแล้วก็โลกนี้ก็จะมีสันติสุขได้ง่ายกว่าที่เป็นอยู่”
Facebook Comments