สถาบันการศึกษาของชาวมุสลิมและมหาวิทยาลัยในอินเดีย (1)
สถาบันการศึกษาของชาวมุสลิมและมหาวิทยาลัยในอินเดีย (1)
จรัญ มะลูลีม
รายงานของ UNESCO และ Guinness World Records ยืนยันว่ามหาวิทยาลัย Al-Qarawiyyin (บางครั้งเขียนว่า Al-Karaouine) เป็น ‘สถาบันการศึกษาที่เก่าแก่ที่สุดที่มีอยู่และดำเนินการอย่างต่อเนื่องในโลก’ ก่อตั้งขึ้นในปี 859 โดยฟาฏิมะฮ์ อัลฟิห์ริ (Fatima Al-Fihri) ในโมร็อกโก
มหาวิทยาลัยแห่งนี้ไม่เพียง แต่เป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นสถาบันแรกที่ก่อตั้งโดยผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้หญิงมุสลิมด้วยในขณะที่ University of Bologna ก่อตั้งในปี 1088 University of Oxford ก่อตั้งในปี 1096 University of Salamanca ก่อตั้งในปี 1134 และ University of Cambridge ก่อตั้งในปี 1209 มหาวิทยาลัยเหล่านี้เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่จัดตั้งขึ้นมาตามลำดับ หลังมหาวิทยาลัยกอรอวียีน เป็นที่น่าสนใจที่จะสังเกตว่าในอีก 500 ปีต่อมา ประวัติศาสตร์อินเดียส่วนใหญ่จะถูกครอบงำด้วยสงครามและสถาปัตยกรรม ผู้ปกครองมุสลิมทั้งในเดลีสุลต่านและจักรวรรดิโมกุล (มุคัล) ไม่ค่อยมีแนวโน้มที่จะเปิดระบบการศึกษาอย่างเป็นทางการ เราสามารถพบพระราชวัง ป้อมปราการ มัสญิด และวัดมากมายในเกือบทุกเมืองในยุคกลางของอินเดีย แต่เป็นการยากที่จะเห็นวิทยาลัย/มหาวิทยาลัย การเรียนรู้ทางศาสนาเป็นสิ่งที่ดีและควรเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร แต่ต้องให้ความสำคัญกับระบบการศึกษาสมัยใหม่ด้วย หากสำรวจรายชื่อสถาบันทางศาสนาที่สำคัญของชาวมุสลิมที่พัฒนาขึ้นในอินเดียตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ถึงศตวรรษที่ 20 ก็จะมีดังนี้
1671 : อรูซีย์ยะฮ์ มัดเราะซะฮ์ (Arusiyyah Madarsa) , Kilakaria, Tamil Nadu ก่อตั้งโดยชัยค์ เศาะดะกะตุลลอฮ์ (Shaikh Sadaqatullah)
ปลายศตวรรษที่ 17 : ฟารางญี มะฮัล (Farangi Mahal) , Lucknow, UP
ก่อตั้งโดยกลุ่มนักปราชญ์ซึ่งต่อมาได้ก่อตั้งมัดเราะซะฮ์ (โรงเรียนสอนศาสนา) ด้วย
ศตวรรษที่ 18 : มัดเราะซะอี รอฮิมียะฮ์ (Madarsa-e Rahimiyah) , Delhi
ก่อตั้งโดยชาฮ์ อับดุรเราะห์ฮีม (Shah Abdur Rahim) บิดาของชาฮ์ วะลีญุลลอฮ์ เดห์ลาวี (Shah Waliullah Dehlawi)
1810 : อัลญามิอ์ ตุซซัยฟียะฮ์ (Aljamea-Tus-Saifiyah) , Surat , คุชราต
ก่อตั้งโดยชาฮ์ อับดุรเราะห์ฮีม (Abdeali Saifuddin)
1857 : วิทยาลัยภาษาอาหรับ บากิยาต ศอลิฮาต (Baqiyat Salihat Arabic College, เวลลอร์ (Vellore) รัฐทมิฬนาฑู
ก่อตั้งโดย ชาฮ์ อับดุล วาฮ้าบ
2409 : ดารุลอุลูม เดียวบัน , เดียวบัน UP (Dural Uloom Deoband, Deoband, UP)
ก่อตั้งโดยเมาลานา กาซิม นาโนตวี (Maulana Qasim Nanotwe)
1890 ญามิอ์ นิซอเมีย ไฮเดอราบัด เตลังคานา
ก่อตั้งโดยอิมามมุฮัมมัดอันวารุล ข่านฟารูกี
1890 : ญามิ นาซิเมีย (Jamia Nazmia) ลัคเนา, UP
สถาบันศาสนาชีอะฮ์ที่เก่าแก่ที่สุดของอินเดีย
ก่อตั้งโดย อยาตุลลอฮ์ ซัยยิด นัจญ์มุล หะซัน
1892 : สุลฏอนุล มาดาริส (Sultan-ul Madaris) Lucknow , UP
ก่อตั้งโดย อยาตุลลอฮ์ ซัยยิด มุฮัมมัด อะบุล ฮาซัน
1894 นัดวะตุล อุละมา ลัคเนา UP
ก่อตั้งโดยซัยยิด มุฮัมมัด อาลี มันเกรี (Syed Muhammad Ali Mungeri)
1898 : มิซบะฮ์ อัลอุลุม มูบารักปูร์ อาซัมกัร UP
ได้รับการตั้งชื่อว่า อัล-ญะมีอะตุล อัชรอฟียะฮ์ (Al-Jamiatul Ashrafia) ตามชื่อซัยยิด ชาฮ์ อะลี ฮุสเซน อัชร็อฟ (Syed Shah Ali Hussain Ashraf) แห่ง Kichauchha
1904 : มันซัร – อีอิสลาม, บาเรลี, UP
ก่อตั้งโดยอะห์มัด เรซา ข่าน บาเรลลี (Ahmad Raza Khan Bareilvi)
1924 ญะมีอะฮ์ ดารุสสลาม เมืองอูเมราบัด รัฐทมิฬนาฑู
ก่อตั้งโดยกากา มุฮัมมัด อูเมอร์ (Kaka Muhammad Oomer)
ในช่วงที่อังกฤษปกครองอินเดียพบว่าชาวอังกฤษมองระบบการศึกษาไปในแง่ดีและส่งเสริมระบบการศึกษาแบบเดียวกันในหลายๆ แห่ง โรงเรียน/วิทยาลัย/สถาบันหลายแห่งได้รับความเชื่อถือมาจากพวกเขาที่ต้องกล่าวถึงคือสามสถาบันที่สำคัญมากในที่นี่ สถาบันแรกคือวิทยาลัยโมฮัมมีดันแห่งกัลกัตตา (Mohammedan College of Calcutta) ก่อตั้งโดย Warren Hastings ในปี 1780 ซึ่งได้รับการยกระดับเป็นมหาวิทยาลัยอลิอะฮ์ (Aliah University, Kolkata) ในปี 1780
ในขั้นต้นมีการสอนปรัชญาธรรมชาติ ภาษาอาหรับ ภาษาเปอร์เซีย เทววิทยา กฎหมายอิสลาม ดาราศาสตร์ ไวยากรณ์ ตรรกะ คณิตศาสตร์ เรขาคณิต วาทศิลป์ และคำปราศรัย ชั้นเรียนแพทย์แห่งแรกของอินเดียก่อตั้งขึ้นในปี 1826 ภายใต้การดูแลของ Peter Breton ศาสตราจารย์ด้านการแพทย์ หลังจากเรียนแพทย์มา 10 ปี ฝ่ายบริหารได้ตัดสินใจจัดตั้งวิทยาลัยการแพทย์กัลกัตตา (โกลกัตตา) แยกต่างหากในปี 1836
Asiatic Society ก่อตั้งโดยข้าราชการพลเรือนชื่อ Sir William Jones เมื่อวันที่ 15 มกราคม 1784 ในการประชุมที่มี Robert Chambers ผู้พิพากษาศาลฎีกาที่ Fort William ในกัลกัตตาเป็นประธาน หนึ่งในกิจกรรมหลักของ Asiatic Society คือการรวบรวมต้นฉบับเก่าของอินเดีย มีการรวบรวมต้นฉบับภาษาสันสกฤตจำนวนมหาศาลร่วมกับสมาคมเอเชีย
ปัจจุบัน ห้องสมุดของ Asiatic Society มีหนังสือประมาณ 117,000 เล่มและวารสาร 79,000 ฉบับที่พิมพ์ในภาษาหลักเกือบทั้งหมดของโลก นอกจากนี้ยังมีการรวบรวมแผนที่ 293 แผ่น ผลงานแผ่นไมโครฟิล์มขนาดเล็กใช้เก็บภาพถ่ายของเอกสารโดยย่อไว้ในขนาดที่เล็กมาก 48,000 ชิ้น ไมโครฟิล์ม 387,003 หน้า ภาพวาด 182 ภาพ แผ่นพับ 2500 แผ่น และภาพถ่าย 2150 ภาพ
หนังสือที่พิมพ์ครั้งแรกที่เก็บรักษาไว้ในห้องสมุดนี้คือ Astronomicorum Libri ของ Juli Firmici ซึ่งตีพิมพ์ในปี 1499 พิพิธภัณฑ์ของ Society ก่อตั้งขึ้นในปี 1814 ภายใต้การดูแลของ Nathaniel Wallich การเติบโตอย่างรวดเร็วของการเก็บรวบรวมนี้เห็นได้ชัดจากแคตตาล็อกแรกซึ่งตีพิมพ์เมื่อปี 1849
สถาบันแห่งที่สามคือวิทยาลัย Fort William ที่กัลกัตตาซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาตะวันออกและศูนย์กลางการเรียนรู้ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ปี 1800 โดย Lord Wellesley ผู้ว่าการบริติชอินเดีย
หนังสือหลายพันเล่มได้รับการแปลจากภาษาสันสกฤต อาหรับ เปอร์เซีย เบงกาลี ฮินดี และอูรดูเป็นภาษาอังกฤษที่สถาบันแห่งนี้
วิทยาลัยแห่งนี้ยังส่งเสริมการพิมพ์และการจัดพิมพ์หนังสือภาษาอูรดู วิทยาลัย Fort William มุ่งเป้าไปที่การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่อังกฤษในการใช้ภาษาที่มีอยู่ในอินเดีย และในกระบวนการนี้ ได้ส่งเสริมการพัฒนาภาษาต่างๆ เช่น เบงกาลีและอูรดู เมื่อวิทยาลัยถูกยุบในปี 1854 หนังสือการเก็บรวบรวมที่ระบุไว้เพื่อการอนุรักษ์ถูกย้ายไปที่หอสมุดสาธารณะกัลกัตตาที่ตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งปัจจุบันคือหอสมุดแห่งชาติ
การสิ้นพระชนม์ของจักรพรรดิโมกุลอย่างออรังเซ็บในปี 1707 เป็นจุดเริ่มต้นของอินเดียสมัยใหม่ เป็นช่วงเวลาที่เสื่อมโทรมของจักรวรรดิโมกุล การเกิดขึ้นของรัฐในภูมิภาค และการเติบโตของบริษัทอินเดียตะวันออก โดยเฉพาะชาวมุสลิมยังขาดการศึกษาในระบบ
ปี 1857 เป็นจุดเปลี่ยนและเซอร์ ซัยยิด อะห์มัดข่านก็มาถึง เขาตระหนักถึงความต้องการและมุ่งเน้นเฉพาะการศึกษาเท่านั้น
โรงเรียนในโมราดาบัด กาซิปูร์ และในที่สุดอลิการ์ก็ถึงจุดสุดยอดในขบวนการอลิการ์ ปี 1875 ถึงปี 1920 ได้เห็นการเติบโตของ MAO College และการตื่นขึ้นของสิ่งที่เรียกว่าปัญญาชนมุสลิม (Muslim Intelligentsia)