INEWHORIZON

ขอบฟ้าใหม่

สถานการณ์ในซูดานและยูเครน

สบาย สบาย สไตล์เกษม

เกษม อัชฌาสัย

สถานการณ์ในซูดานและยูเครน

ช่วงนี้ นักวิเคราะห์การเมืองไทย สื่อสารมวลชนและนักสร้างกระแสในสื่อสังคม ยังคงแสดงความเห็นกันอย่างครึกครื้นสนุกสนาน ในชัยชนะของพรรคการเมืองฝ่าย”ประชาธิปไตย”ครับ

ฝ่าย”อนุรักษ์”นิยมของเก่า ก็ได้แต่ออกมาเตือนว่า”อย่ากระดี๊กระด๊าจนเลยธง บางคนเลยเถิดเฉ่งเด็กๆ และผู้ใหญ่ที่สนับสนุน

ขอเตือนว่า นั่นจะนำไปสู่ความแตกแยกครั้งใหม่ ภายในชาติที่มหาอำนาจอยากเห็น

ไม่เว้นแม้แต่สื่อบีบีซี ทั้งภาคภาษาไทยและอังกฤษ รวมทั้งวีโอเอ ที่ล้วนสนับสนุนระบอบประชาธิปไตย “ระบอบ”ที่เอื้ออำนวยต่อผลประโยชน์ได้-เสีย ของชาติตะวันตก

จนน่าหวาดเสียวว่า อาจจะนำไปสู่ความรุนแรงครั้งใหม่ หากพรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ (ซึ่ง”พิธา”แถลงหลายหนเป็นนัยว่าคนที่เลือกเขามาคงไม่ยอม)ตามรัฐธรรมนูญฉบับปี ๒๕๖๐ ซึ่งไม่ให้อำนาจสภาผู้แทนราษฎรเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีฝ่ายเดียว แต่ต้องให้วุฒิสภาร่วมลงมติเห็นชอบด้วยเท่านั้น

แหม…ช่างเป็นรัฐธรรมนูญที่น่ารังเกียจซะจริงๆ

สู้ไปดูสถานการณ์โลกกันดีกว่า ว่าสงครามซูดานและสงครามยูเครน ไปถึงไหนแล้ว

โดยเฉพาะสงครามยูเครนนี่ ถ้าหากยุติเสียได้ เศรษฐกิจโลกดีขึ้นแน่นอน

รวมทั้งในเศรษฐกิจในไทย โดยไม่ต้องรอให้”ทักษิณ”กลับมาช่วยเป็นที่ปรึกษาในคณะรัฐบาลฝ่าย”ประชาธิปไตย”(หากจัดตั้งสำเร็จ) กรณีที่ยอมกลับมาติดคุกและให้คำปรึกษาจากที่นั่น

ที่ซูดาน การสู้รบระหว่างกองกำลังฝ่ายสองฝ่าย ยังคงเกิดต่อเนื่องในเมืองหลวงคาร์ทูมและเมืองให้เคียงและที่แคว้นดาร์ฟู ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า ๑,๐๐๐ แล้วในขณะนี้ รวมทั้งพลเรือน ทั้งนี้ในรอบหนึ่งเดือนกว่า นับแต่เกิดการสู้รบกันระหว่างกองกำลังฝ่าย คือฝ่ายผู้บัญชาการกองทัพบก”อับเดล ฟัตตะห์ อัล-บูรฺฮาน”กับฝ่ายผู้บัญการกองทัพเคลื่อนที่เร็ว”โมฮาเหม็ด หัมดาน “ฮาเมดติ”ดากาโล”

ความพยายามที่จะหยุดยิงครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ได้ผล ไม่ว่าใครจะพยายามไกลเกลี่ย รวมทั้งซาอุดีอาระเบียที่พยายามทำหน้าที่”โซ่ข้อกลาง”หรือจากฝ่ายตะวันตก

ที่เห็นชัดๆ ก็คือ ความทุกข์ยากของชาวเมือง”คาร์ทูม”(ประชากรปกติมีอยู่ห้าล้าน) จากภาวะขาดแคลนอาหาร น้ำกินน้ำใช้และยารักษาโรค แต่การเข้าถึงของการบรรเทาทุกข์จากต่างประเทศกระทำได้โดยยาก

การตีชิง ปล้นสดมภ์เลยแพร่ระบาดไปทั่ว ไม่เว้นแม้แต่กับสถานทูตที่ปิดตาย โรงพยาบาล ธนาคาร ร้านค้าและโกดังเก็บข้าว

ชาวบ้านในเมืองหลวงยังต้องหลบการสู้รบอยู่ในบ้าน แต่พอมีช่องทางก็อพยพออกไปอยู่ที่อื่น

มีรายงานว่าชาวบ้านที่พลัดที่น่าคาที่อยู่เพิ่มเป็นเกือบจะหนึ่งล้านแล้วและอีกราว ๒๐๐,๐๐๐ คนหลบหนีเข้าไปพำนักในชาติเพื่อนบ้าน ที่หลบการสู้รบไปรวมกันที่”พอร์ต ซูดาน”ก็มีเป็นจำนวนหลายพัน

ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ ๑๔ พฤษภาคมที่ผ่านมานี้ ขณะที่เราเลือกตั้งกันในประเทศไทย เกิดการสู้รบรุนแรงในคาร์ทูม เสียงปืนกลอากาศดังกึกก้องยิงตอบโต้เครื่องบินรบที่บินเข้ามโจมตี

นี่ครับสภาพของ”ชาติล้มเหลว”ในซูดาน ที่ไม่อยากให้เกิดในไทยเพราะความแตกแยก

สำหรับสถานการณ์ในยูเครน ล่าสุด ก็มีข่าวยืนยันว่า ด้วยสภาพที่เป็นจริงแล้วว่า ยูเครนมีระบบยิงขีปนาวุธ”แพทริออต”ที่มีสมรรถนะ”สอย”ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงอยู่จริง เมื่อรัสเซียแถลงว่าสามารถทำลายระบบนี้ได้ในการโจมตีกรุง”เคียฟ”ครั้งล่าสุด

“แพทริออต”ที่ว่านี้ ยูเครนได้มาจากไหนไม่ปรากฏ แต่ที่รู้แน่ๆ คือผลิตในสหรัฐอเมริกา สามารถใช้ยิงสกัดป้องกันการโจมตีจากขีปนาวุธระยะไกลและยิงเครื่องบินรบได้แม่นยำนัก

ในขณะที่เครื่องบินรบรัสเซีย ปล่อยขีปนาวุธโจมตีจากเครื่องบิน นอกเขตยูเครน ทั้งจากตะวันออกเหนือและใต้

เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคมที่ผ่านมา ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ระบบป้องกันทางอากาศของยูเครน ยิงทำลายขีปนาวุธโจมตีเหนือเมืองหลวงได้หลายเครื่อง ก่อนจะตกกระทบระเบิดและเกิดการทำลายล้างบนภาคพื้นดิน

เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็แสดงว่ารัสเซียพยายามทำลายขวัญยูเครนด้วยการโจมตีเมืองหลวง ไปพร้อมกับความพยายามยึดเมือง”บักห์มุต”ที่ใช้กองกำลังทหารรับจ้าง”วากเนอร์”รุกเข้าหมายยึดไว้ เพื่อเปิดทางรุกต่อโดยกองกำลังภาคพื้นดินหมายเข้ายึดเมืองหลวงให้ได้

ในขณะที่มีข่าวว่า ยูเครนเองก็มีแผนตีโต้อย่างรุนแรงเช่นกันหากได้อาวุธช่วยอย่างพร้อมพรัก จากชาติตะวันตกซึ่งใช้ยูเครนทำสงครามตัวแทน

ในขณะที่มีข่าวว่า บรรดาผู้นำอาฟริกานำโดยประธานาธิบดีอาฟริกาใต้”ซีรีล รามาโฟซา”พยามที่จะหาทางไกล่เกลี่ยยุติสงคราม โดยเบื้องแรก”รามาโฟซา”ได้พบกับประธานาธิบดีรัสเซีย”วลาดีมีร์ ปูติน”

จากนั้นผู้นำอาฟริกาใต้ก็แถลงว่าทั้ง”ปูติน”และประธานาธิบดียูเครน”โวโลโดมีร์ เซเลนสกี”ยินดีต้อนรับคณะกลุ่มผู้นำอาฟริกัน เพื่อหารือลู่ทางการเจรจาสันติภาพแล้ว

ครับ แต่ยังไม่มีกำหนดเวลาแน่ชัดว่า จะเริ่มขึ้นเมื่อไร หลังจากที่ประธานาธิบดีตุรกี”เรเซบ ตอยยิบ เออร์โดกัน”พยายามมาครั้งหนึ่งแล้ว ในการพบปะกับ”ปูติน”ในคาซักสถาน เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่ไม่มีผลอะไรคืบหน้า

ถามว่า สงครามยูเครนมีผลต่อเศรษฐกิจโลกเป็นมูลค่าเท่าไร

ผมไปค้นมา พบว่าเฉพาะภายในปีที่แล้ว กระทบต่อเศรษฐกิจโลก ๑.๖ ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้จากการศึกษาของสถาบันเศรษฐกิจเยอรมนี ซึ่งเปิดเผยเมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๖

ในการนี้ตลาดโลกได้รับผลกระทบอย่างแรง โดยเฉพาะราคาค่างวดในการผลิตพลังงาน โดยเฉพาะชาติที่รับซื้อน้ำมันจากรัสเซีย แม้ไทยไม่ได้ซื้อน้ำมันจากรัสเซียโดยตรง ก็ยังได้รับผลกระทบเลย

 

ไม่เช่นนั้น ค่าไฟฟ้าคงไม่แพงมหาโหดเช่น ณ วันนี้

ผมสอนตัวเองไว้อย่างหนึ่งจากประสบการณ์ว่า มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคมจริง ตามที่วิชาสังคมวิทยาว่าไว้ คือต้องอยู่ร่วมกันพึ่งพาอาศัยกัน

จะแยกโดเดี่ยว หรือแยกพรรคแยกพวก ไม่มีทางอยู่รอดได้แน่ๆ

ผมจึงเป็นห่วงพรรคผู้นำฝ่ายประชาธิปไตย หากยังยืนยันนโยบายแข็งกร้าวหลายประการ จนอาจนำไปสู่ความแตกแยกใน”สังคมชาติ” หากดันทุรังจะทำให้ได้ เช่น การปฏิรูปกระทรวงกลาโหมและจัดการกับ ม.๑๑๒ เป็นต้น

คิดหรือว่า”แกนนำทหารเขา”จะยอมง่ายๆ ต่อเป้าหมายในการทำลายล้างสถาบันกษัตริย์

ผมขอเขียนทิ้งไว้ห้วนๆ อย่างนี้แหละ ด้วยต้องการเห็นสามัคคีธรรมยังดำรงอยู่ในชาติ

ไม่อยากเห็นความแตกแยกระหว่างรุ่นและระหว่างกลุ่มต่างๆในสังคมส่วนรวม

เพราะฉะนั้นจึงเตือนมาอีกครั้งด้วยความหวังดีว่า อย่าได้ผลีลาม ทำอะไร ในลักษณะที่ทำให้สังคมไทยเกิดอาการ”ช็อกทางวัฒนธรรม”เกิดความเกลียดชังกันเองอย่างลึกซึ้ง กลายเป็นความอาฆาตแค้น

กลัวครับ กลัวว่าสักวันหนึ่ง เราอาจต้องรบกันเองแบบในซูดาน

Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *