บ็อบไอเกอร์ ลูกศิษย์ของจิโร่ โอโนะ
บ็อบไอเกอร์ ลูกศิษย์ของจิโร่ โอโนะ
“The Ride of a Lifetime” หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวชีวิตของดิสนี่ย์
ซีอีโอ บ็อบ ไอเกอร์ เขาได้เดินตามอาชีพที่น่่าทึ่งของเขาสูงขึ้นจากระดับล่างขององค์การ ไปเป็นผู้นำของบริษัทใหญ่และเคารพมากที่สุดของโลก มันได้เเสดงการเดินทางของบ็อบ ไอเกอร์กลายเป็นซีอีโอของดิสนีย์ และวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ และเเนวทางของเขา นำบริษัทได้บรรลุความสำเร็จผ่านเวลาที่อนาคตของมันไม่แน่นอนสูงได้อย่างไร
บ็อบ ไอเกอร์ ได้ระบุกระบวนการของการเรียนรู้และการนำภายใน
อุตสาหกรรมสื่อ บ็อบ ไอเกอร์ เริ่มต้นอาชีพของเขา ณ เอบีซี เมื่อ ค.ศ 1974 ความเฉียบแหลมทางธุรกิจของบ็อบ ไอเกอร์ ได้ถูกยกย่องโดย
นักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ของโลกบางคน เขาได้รับการยกย่องจากบิลล์ เกตส์ กล่าวถึงหนังสือของบ็อบไอเกอร์ “The Ride of a Lifetime” เป็นหนังสือ
ธุรกิจที่ผมแนะนำอย่างแท้จริง ไม่เหมือนหนังสือความเป็นผู้นำส่วนใหญ่
มันเป็นหนังสือคุ้มค่าอย่างแท้จริงต่อเวลาของคุณ
จุดที่สำคัญตลอด “The Ride of a Lifetime” คือ การมองการพัฒนาใหม่ไม่ได้เป็นการคุกคาม แต่เป็นโอกาส เพื่อที่จะอยู่รอดภายในธุรกิจ เราต้องรับเอาการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเฉพาะถ้าเราทำงานภายในอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เหมือนเช่นความบันเทิง บ็อบ
ไอเกอร์ แสดงจุดนี้อย่างชัดเจนเมื่อเขาเขียน “ไม่สร้างนวัตกรรมก็ตาย”
ภายใน “The Ride of a Lifetime” หนังสือขายดีที่สุดของนิวยอร์คไทม์ บ็อบ ไอเกอร์ ได้เล่าเรื่องราวชีวิตและอาชีพของเขา เขาจบมหาวิทยาลัย และทำงานหนึ่งปีเป็นผู้พยากรณ์อากาศ ณ สถานีโทรทัศน์ท้องที่ เขาได้ตัดสินใจอย่างรวดเร็วเขาไม่เหมาะสมกับงานนั้น เมื่อ ค.ศ 1974 เขาได้ถูกว่าจ้าง ณ เอบีซี เป็นหัวหน้างานสตูดิโอ ในไม่ช้าเขาได้ย้ายไปสู่ เอบีซีสปอร์ต ตรงที่เขาได้พบรูน อาร์เลดจ์ ที่ปรึกษาอาชีพยิ่งใหญคนแรกของเขา
ณ เอบีซี ไปจนถึงเป็นซีอีโอ ณ ดิสนีย์ มาถึงจนวันนี้ เขาได้ร่วมบทเรียน
ที่มีคุณค่าต่อการนำจากความถ่อมตัว การให้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อ
ความยุ่งยาก และกลยุทธ์ เเละความสำคัญของการรับความเสี่ยงภัยที่
ยิ่งใหญ่
บ็อบ ไอเกอร์ ได้พูดเกี่ยวกับวันเริ่มแรกของอาชีพของเขา และอะไรที่เขาได้เรียนรู้จากที่ปรึกษายิ่งใหญ่คนเเรกของเขา รูน อาร์เลดจ์ ได้สอนเขาพยายามสิ่งใหม่อยู่เสมอ เเละเเสวงหาความสมบูรณ์แบบย่างไม่ลดละ รูน อาร์เลดจ์ เป็นตำนานภายในอุตสาหกรรมกีฬาโทรทัศน์ เขาสามารถแข่งขันได้อย่างผิดธรรมดา และช่วยเหลือบุคคลของเขาต่อมาตรฐานการปฏิบัติงานที่สูง รูน อาร์เลดจ์ได้บุกเบิกนวัตกรรมหลายอย่าง เขาทดสอบมุมกล้องถ่ายรูปใหม่อยู่เสมอ สไตล์การตรวจแก้ไขใหม่ วิถีทางใหม่ของการเล่าเรื่องของนักกีฬา
เวทมนต์ของเขา รูน อาร์เลดจ์ ธรรมดา ทำอะไรที่คุณต้องทำ ทำมันให้ดีขึ้น ทุกสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากเขา มันเป็นอะไรที่สร้างผมส่วนใหญ่ แสวงหาความสมบูรณ์แบบ และไม่อัมพาตกับมัน รูน อาร์เลดจ์ เป็นผู้สมบูรณ์แบบที่ยืนยันต่อการทำใหมโชว์ทั้งหมดภายหลังที่มันได้ถ่ายภาพยนตร์ไปเเล้ว เขามองหาอยู่เสมอวิถีทางใหม่เชื่อมโยงผู้ชมและดึงความสนใจชองพวกเขา การแสวงหาความสมบูรณ์แบบอย่างไม่ลดละหมายความว่าคุณไม่หยุดพยายามปรับปรุงงานของคุณ จนกระทั่งคุณไม่สามารถวิถีทางอื่น
ใดมากขึ้นทำให้มันดีขึ้น
บ็อบ ไอเกอร์ เชื่อว่าความเป็นผู้นำที่ดีไม่ได้เกี่ยวกับการขาดเสียไม่ได้
มันเกี่ยวกับการช่วยเหลือบุคคลอื่นตระเตรียมก้าวไปใส่รองเท้าของคุณ
การให้พวกเขาเข้าไปสู่การตัดสินใจของคุณเอง การระบุทักษะที่พวกเขา
ต้องพัฒนาและช่วยพวกเขาปรับปรุง และผมต้องทำบางครั้งซื่อสัตย์กับ
พวกเขา ทำไมพวกเขายังไม่พร้อมที่จะก้าวขึ้นต่อไป
องค์การไม่ได้บรรลุความสำเร็จเพราะว่าบุคคลเดียว มันเป็นควาพยายามของทีมของเรา ในฐานะของผู้นำคนหนึ่ง มันเป็นความรับผิดชอบของคุณที่จะให้อำนาจบุคคลทำงานเพื่อคุณ ปรับปรุงและทำงานของพวกเขาให้ดีขึ้น ไม่ใช่เล่นงานพวกเขาเมื่อกระทำไม่ถูกต้อง การช่วยเหลือพวกเขา
กำจัดอุปสรรคที่ขัดขวางความสำเร็จของพวกเขา ถ้าคุณทำสิ่งเหล่านี้
บุคคลทุกคนจะเป็นสุขมากขึ้นและบรรลุความสำเร็จมากขึ้น
บ็อบ ไอเกอร์ ได้เล่าเรื่องราวช่วงเวลาการบริหารดิสนีย์ของเขา ตามมุมมองของบ็อบ ไอเกอร์ ไอเกอร์ เรามีหลักการความเป็นผู้นำสิบข้อที่เขา
มองเป็นความจำเป็นต่ออะไรที่เขาอธิบายเป็น “ความเป็นผู้นำที่แท้จริง” หลักการความเป็นผู้นำสิบข้อเหล่านี้ระบุสไตล์ความเป็นผู้นำของเขา
การ ช่วยให้เขาดำเนินการกลยุทธ์ดิสนีย์ได้บรรลุความสำเร็จอย่างไร
1 การมองโลกในเเง่ดี
ผู้นำที่มองโลกในแง่ดีบันดาลใจบุคคลด้วยความกระตือรือร้นของพวกเขาภายในเวลาที่ยุ่งยาก การมองโลกในแง่ไม่ดีไม่จูงใจบุคคล และทำลายขวัญของพวกเขา บุคคลต้องการทำงานเพื่อบุคคลบางคนที่เชื่อความคิดของพวกเขา และมองสถานการณ์ทางบวก ไม่ใช่การทำให้หวาดกลัว ผู้นำที่ดีต้องวางแผนการก้าวไปต่อไปของพวกเขา ระหว่างเวลาความเครียด เพื่อที่บุคคลมีบางสิ่งบางอยางที่จะมองไปข้างหน้า
การมองในแง่ดีภายในเวลาที่ท้าทายสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะภายในช่วงเวลาที่ลำบาก บุคคลที่คุณนำต้องรู้สึกเชื่อมั่นภายในความสามารถของคุณมุ่งอะไรที่สำคัญและไม่ดำเนินจากสภาพของการตั้งรับและการรักษาตัวเอง อารมณ์ที่คุณสร้างในฐานะของผู้นำมีผลกระทบอย่างมากต่อบุคคลรอบคุณ ไม่มีใครต้องการเดินตามบุคคลที่มองในแง่ไม่ดี ผู้นำต้องมีการมองโลกในเเง่ดี เพื่ออะไรที่สามารถทำและบรรลุความสำเร็จได้ และควรจะสามารถยึด การมองโลกในแง่ดีของพวกเขาภายในการเผชิญกับความท้าทายและความยุ่งยาก
การมองโลกในแง่ดีโดยธรรมชาติ บ็อบ ไอเกอร์มักจะสามารถมองด้าน
สว่างของสถานการณ์ แทนที่จะคิดถึงการขาดทุนทุกครั้งที่เขาเผชิญ
ความล้มเหลวหรือความผิดหวัง เขาสามารถกลับสู่สภาพปรกติอย่างรวด
เร็ว และมองหาความคิดใหม่ต่อไป มันได้ประหยัดเวลาของดิสนีย์ และ
ในที่สุดนำไปสู่การลงทุนของพวกเขาภายในบริษัทและความคิดที่ยิ่ง
ใหญ่จำนวนมาก บ็อบ ไอเกอร์ รู้จักกันดีที่สุดต่อการมองโลกในแง่ดีของเขา
อะไรที่ขับเคลื่อนความคิดสร้างสรรค์ของเขา แม้ว่าคุณกังวลเกี่ยวกับอนาคตของธุรกิจของคุณ การมองโลกในแง่ดีสามารถทำให้คุณทำต่อไป และให้คุณบางสิ่งบางอย่างมองไปข้างหน้า การมองโลกในแง่ดีไม่ได้หมายถึงการคิด หรือการเชื่อสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่เป็นความกระตือรือร้น
ที่ปฏิบัติได้ต่ออะไรที่สามารถบรรลุได้ การมุ่งอะไรที่บุคคลของเราต้องบรรลุ ไม่ใช่การกลายเป็นไขว้เขวและท่วมท้นด้วยอะไรที่คุณไม่ได้
ควบคุม บุคคลไม่ถูกจูงใจหรือกระตุ้นโดยบุคคลที่มองโลกในแง่ไม่ดี
2. ความกล้าหาญ
ความกล้าหาญจำเป็นต่อการรับความเสี่ยงภัย และการรับความเสี่ยงภัย
จำเป็นต่อนวัตกรรม นวัตกรรมแท้จริงเกิดขึ้นเมื่อบุุคคลกล้าหาญเท่านั้น ผู้นำที่ยิ่งใหญ่รับความเสี่ยงภัย และไม่กลัวความล้มเหลว พวกเขาไม่เล่นอย่างปลอดภัย พวกเขาออกไปจากบริเวณที่สบายของพวกเขา ความพยายามวิธีการใหม่ ความกล้าหาญไม่ใช่ ไม่มีความกลัวแต่ควบคุมความ
กลัว แน่นอน ผู้นำทุกคนมีความกล้าหาญผิดธรรมดา
ความกล้าหาญเป็นความสามารถที่จะเสี่ยงภัย ตัดสินใจ และยึดติดกับมัน ความกล้าหาญทำให้เรายึดโอกาส แม้ว่าเราไม่มีการรับประกันความสำเร็จ การพัฒนาความกล้าหาญด้วยการลดความกลัวของคุณ และเพิ่มการกระทำ
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของบ็อบ ไอเกอร์ ณ ดิสนีย์ ไม่เป็นไปได้โดย
ไม่มีความกล้าหาญ บ็อบ ไอเกอร์ กล่าวว่า ผมไม่ต้องการอยู่ภายในธุรกิจ
ที่เล่นอย่างปลอดภัย ผมต้องการอยู่ภายในธุรกิจของการสร้างความเป็น
ไปได้เพื่อความยิ่งใหญ่ นวัตกรรมแท้จริงเกิดขึ้นเมื่อบุคคลมีความกล้าหาญเท่านั้น บ็อบ ไอเกอร์ ทำให้มันชัดเจนว่าความกลัวความล้มเหลวทำลายความคิดสร้่างสรรค์
เขามองความกล้าหาญเป็นรากฐานของการรับความเสี่ยงภัย และยืนยันว่าภายในธุรกิจที่ลบล้างเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การรับความเสี่ยงภัยและนวัตกรรมจะสำคัญ บ็อบ ไอเกอร์ได้เดินตามการซื้อพิกซ่าร์ของเขา เมื่อคณะกรรมการบริษัทคิดว่ามันเป็นความคิดที่บ้าบิ่น เขารู้ว่าดิสนีย์เสี่ยงภัยกลายเป็นล้าสมัย ถ้ามันไม่ก้าวไปอย่างกล้าหาญ บ็อบ ไอเกอร์ กล่าวว่า สร้างนวัตกรรมหรือตาย
มันอ้างต่อการปฏิบัติของนวัตกรรมอย่างสม่ำเสมอ และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงภายในโลก รักษาธุรกิจชองคุณให้ตรงจุดและบรรบุความสำเร็จ มันได้ช่วยเหลือผมตัดสินใจที่สำคัญหลายอย่างเป็นซีอีโอของดิสนีย์ เขาเชื่อว่าถ้าคุณเล่นอย่างปลอดภัย คุณจะไม่เคยทำอะไรก็ตามยิ่งใหญ่เลย เเละเพราะว่าโลกเปลี่ยนแปลงรวดเร็วอย่างสม่ำเสมอ คุณต้องวิวัฒนาการอยู่เสมอ เพื่อที่จะนำหน้าของเส้นโค้ง เขายึดความจริงต่อถ้อยคำของเขา – รับความเสี่ยงภัยที่ยิ่งใหญ่ซื้อพิกซาร์ มาร์เวล ลูคาสฟิลม และทเวนตีเซนจูรี่ ฟอกซ์ และการเปิดตัวบริการสตรีมมิ่งแข่งขันกับเนต
ฟลิกซ์ ในขณะที่เราอาจจะอยู่ภายในการตกต่ำทางเศรษฐกิจ
การมองโลกในแง่ดีสมารถช่วยเราเชื่อมั่น
ต่อค่านิยมของธุรก้จของคุณ ผู้นำที่ดีหมายถึงไม่ยอมแพ้ต่อการมองโลก
ในแง่ไม่ดีที่ทำลายขวัญ ความกลัวต่อหายนะไม่ได้เป็นวิถีทางที่ดีต่อการ
จูงใจบุคคล มันดีกว่ามากที่จะรับเอาการมองโลกในเเง่ดี ไม่ได้กล่าวว่า
ทุกอย่างดีเมื่อมันไม่ แต่ทำให้ชัดเจนที่คุณเชื่อมั่นบุคคลของคุณสามารถ
นำทางไปสู่ผลลัพธ์อย่างดีที่สุด การมองโลกในแง่ดีเป็นความกระตือรือร้น
ทางปฏิบัติต่ออะไรที่บุคคลสามารถบรรลุได้
เราไม่อยู่ภายในธุรกิจของการเล่นอย่างปลอดภัย เราอยู่ภายในธุรกิจของการสร้างความเป็นไปได้เพื่อความยิ่งใหญ่ ความเป็นผู้นำ นวัตกรรม
และการเจริญเติบโต ภายในตลาดที่แข่งขัน ต้้องการให้คุณเสี่ยงภัย คุณ
ต้องเสี่ยงภัยอย่างฉลาด แต่อย่าเล่นอย่างปลอดภัย คู่เเข่งขันจะเข้ามาและรื้อองค์การของคุณ ผู้นำเข้าใจสิ่งเหล่านี้ และพวกเขาเดิมพันอย่าง
ฉลาดภายในโลกที่ไม่แน่นอนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
3. การมุ่ง
ผู้นำต้องจัดสรรเวลาและทรัพยากรของพวกเขาอย่างมีประสิทธิภาพ
และสื่อสารลำดับความสำคัญของมันกับบุคคลของพวกเขา การจัดสรร
ทรัพยากรและเวลาแก่กลยุทธ์ ปัญหา และโครงการที่มีคุณค่าและสำคัญที่สุดจะสำคัญอย่างยิ่ง บ็อบ ไอเกอร์ กล่าวว่า การสื่อสารลำดับความสำคัญของคุณ ชัดเจนและบ่อยครั้ง เป็นข้อบังคับ เรามีลำดับความสำคัญสามอย่างเท่านั้นเมื่อเขามาสู่ดิสนี่ย์ คือ การสร้างเนื้อหาคุณภาพสูง การขยายตัวทั่วโลก และการมุ่งที่เทคโนโลยี ผู้นำที่ยิ่งใหญ่รู้ว่าเมื่อไรพวกเขาต้องพูดว่าไม่ และพวกเขาไม่เคยมีมากกว่าสามถึงสี่ลำดับความสำคัญ บ็อบ ไอเกอร์ เชื่อว่าคุณต้องทำให้จุดมุ่งของคุณแคบลงเพื่อที่จะพัฒนากลยุทธ์
บ็อบ ไอเกอร์ได้แสดงจุดนี้โดยการอธิบาย ในที่สุดเขาสามารถชักจูงคณะกรรมการบริษัทของดิสนีย์ว่าเขาควรจะกลายเป็นซีอีโอคนต่อไป
อย่างไร บุคคลต้องการมีความรู้สึกของลำดับความสำคัญอะไรของ
องค์การที่พวกเขาทำงานอยู่ และลำดับความสำคัญของพวกเขาเป็นอะไร
หมายความไม่เพียงแต่ค่านิยม และพวกเขาประพฤติอย่างไร แต่พวกเขา
ใช้เวลาอย่างไรด้วย มันผูกโดยตรงต่อจุดมุ่งของบริษัทอย่างชัดเจน
บ็อบ ไอเกอร์ ได้อธิบายบทเรียนอย่างหนึ่งที่เขาได้เรียนรู้จากนายนานมาแล้ว แดน เบิรค เขาได้ยื่นบันทึกแก่ผมอ่านว่า หลีกเลี่ยงการเข้าไปสู่ธุรกิจของการผลิตน้ำมันทรอมโบน คุณอาจจะกลายเป็นผู้ผลิตน้ำมันทรอมโบนยิ่งใหญ่ที่สุด แต่่ในที่สุดโลกต้องการบริโภคน้ำมันทรอมโบนไม่กี่คอวร์ตต่อปี เขากำลังบอกผมอย่าลงทุนภายในโครงการที่ดูดทรัพยากรของบริษัทของผม และไม่ได้ให้คืนกลับมาก ด้วยคำพูดอีกอย่างหนึ่ง อย่ามุ่งที่โครงการเล็กที่ให้ผลตอบแทนน้อย แต่มุ่งที่โครงการใหญ่สามารถสร้างผลตอบแทนมาก
ผมยังเก็บชิ้นกระดาษนั้นไส่ภายในโต๊ะของผม ดึงมันออกมาบางโอกาสเมื่อผมคุยกับผู้บริหารดิสนี่ย์เกี่ยวกับโครงการอะไรที่จะแสวงหา และตรงไหนที่จะวางพลังของพวกเขา บ็อบ ไอเกอร์ เชื่อว่าคุณลักษณะที่สำคัญของความเป็นผู้นำคือ ความเด็ดขาด การตัดสินใจทุกอย่าง ไม่ว่ายุ่งยากมากน้อยแค่ไหน ต้องถูกทำให้ทันเวลา และไม่เชื่อการลังเลสงสัยการตัดสินใจของตัวเอง ความไม่เด็ดขาดเป็นทั้งความสูญเสียและทำลายขวัญ
4. ความเด็ดขาด
การตัดสินใจต้องทันเวลาและรวมความคิดที่หลากหลาย การตัดสินใจ
ทุกอย่าง ไม่ว่ายุ่งยากแค่ไหน สามารถและควรจะทำภายในวิถีทางที่ทัน
้เวลา การไม่ตัดสินใจที่เรื้อรังไม่เพียงแค่ขาดประสิทธิภาพและถ่วงความ
ก้าวหน้าเท่านั้น แต่ทำลายขวัญของบุคคลด้วย การตัดสินใจอย่างรวด
เร็วและรอบคอบ อย่าสับสน บุคคลของเราจะสูญเสียความรู้สึกของทิศ
ทาง และกระวนกระวาย
คุณจะไม่เคยมีข้อมูลเพียงพอที่จะบรรลุความแน่นอน 100% ดังนั้นการรับรู้ว่าการตัดสินใจเสี่ยงภัย และนำทางด้วยสัญชาติญานของคุณ บ็อบ ไอเกอร์ ไว้วางใจสัญชาติญานของเขาต่อการตัดสินใจที่สำคัญเหมือนเช่นการซื้อบริษัทพันล้านเหรียญ ผู้นำต้องตัดสินใจทันเวลาในขณะที่พิจารณาความหลากหลายของความคิดเห็นด้วย แต่การตัดสินใจอย่างร่วมมือร่วมใจต้องไม่เคยทำให้การดำเนินการการตัดสินใจช้าลง
เรามีความแตกต่างระหว่างการตัดสินใจอย่างหุนหันและการตัดสินใจอย่างฉลาด ผู้นำที่ดีต้องการการตัดสินใจอย่างฉลาด แน่นอนคุณต้องใช้เวลากับกระบวนการตัดสินใจ เพียงเเค่ไม่ยืดเวลาออกไปอย่างไม่จำเป็นเพื่อเวลาที่ยาวนาน บ็อบ ไอเกอร์ เชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมเป็นหัวใจและวิญญานของบริษัท เราไม่มีศาสตร์ของความคิดสร้างสรรค์
ถ้าคุณไม่ให้โอกาสที่จะล้มเหลวของคุณ คุณจะไม่สร้างนวัตกรรม
ความสำเร็จตัวมันเองสามารถเป็นกับดัก และ
มันสามารถทำให้เกิดพฤติกรรมทุกอย่าง และทำให้บริษัทกระทำภายใน
วิถีทางบางอย่างที่ไม่นำไปสู่การบรรลุความสำเร็จมากขึ้น ด้วยความ
สำเร็จกลายเป็นความหยิ่งยะโส และโดยทั่วไปนั่นคือความตายของ
ความสำเร็จ บ็อบ ไอเกอร์ เชื่อว่าทักษะความเป็นผู้นำที่สำคัญอย่างหนึ่ง
คือการใช้เวลาของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ ผมตื่นตีสี่ครึ่งตอนเช้า เจ็ด
วันต่อสัปดาห์ ไม่ว่าผมอยู่ที่ไหนภายในโลก
5 ความอยากรู้
ผู้นำแท้จริงทุกคนต้องยากรู้ ความอยากรู้หมายถึงเรามีกรอบความคิด
ของผู้เริ่มต้นอยู่เสมอ คุณไม่เคยคิดว่าคุณรู้ทุกอย่าง การอ่านและการเรียนรู้อยู่เสมอ การรักษาการขยายขอบฟ้าของคุณ ด้วยการทำให้ข้อมูลของคุณกว้างขึ้น การรู้จักผู้เขี่ยวชาญภายในสาขาของคุณ เชื่อมโยงกับ
ต์พวกเขา อ่านหนังสือของพวกเขา อ่านบลอกส์ของพวกเขา รับฟังพอด
แคสต์ของพวเขา และทำเอกสารอะไรที่คุณเรียนรู้ การมีความอยากรู้ลึกและยึดถือทำให้สามารถค้นพบบุคคล สถานที่ และความคิดใหม่ เช่น การทำธุรกิจ ความอยากรู้ช่วยให้ผู้นำได้การรับรู้และความเข้าใจตลาดและการเปลี่ยนแปลงของมัน เส้นทางไปสู่นวัตกรรมเริ่มต้นด้วยความอยากรู้
บ็อบไอเกอร์ เปิดกว้างต่อความอยากรู้ มันนำไปสู่จินตนาการ จุดสำคัญต่อความสำเร็จของบริษัท วอลท์ ดิสนี่ย์ เวิรลด เปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอ ครั้งหนึ่ง วอลท์ ดิสนี่ย์ ได้กล่าวว่า ดิสนี่ย์แลนด์จะไม่เคยเสร็จสมบูรณ์ มันจะเจริญเติบโตอยู่ต่อไป ตราบเท่าที่เรามีจินตนาเหลืออยู่ภายในโลก บ็อบ ไอเกอร์ ได้ผูกพันต่อวิสัยทัศน์นี้ ณ วอลท์ ดิสนี่ย์ เวิรลด
สัญชาติญานไม่ได้เจริญเติบโตภายในสูญญากาศ คุณต้องลงทุนภายในการเรียนรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรม ผมเชื่อว่าความอยากรู้สำคัญต่อการบรรลุความสำเร็จ และเมื่อผมพูดเกี่ยวกับความอยากรู้ ผมพูดเกี่ยวกับความต้องการเรียนรู้สิ่งใหม่ มีประสบการณ์ใหม่ ไปเยี่ยมสถานที่ใหม่ไปพบบุคคลใหม่เมื่อคุณไม่อยากรู้ คุณไม่เคยสร้างนวัตกรรม และเนื่องจากนวัตกรรมสำคัญอย่างไม่น่าเชื่อต่อธุรกิจ ภายในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพื่อการสร้างนวัตกรรม คุณต้องมีความยากรู้ มันเป็นเส้นทางของนวัตกรรม
6. ความยุติธรรม
ความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งแสดงความยุติธรรม และการปฏิบัติต่อบุคคลอย่างดี การแสดงความเข้าใจผู้อื่น การเข้าหาได้ การให้โอกาสที่สองแก่บุคคล เมื่อพวกเขาทำผิดอย่างซื่อสัตย์ การไม่พิจารณาบุคคลอย่างรุนเเรงเกินไป ป้องกันความกลัวและความวิตกกังวล และการไม่ขัดขวางนวัตกรรม หรือสร้างวัฒนธรรมของความกลัว ผู้นำที่ดีควรจะปฏิบัติต่อ
บุคคลของพวกเขาเหมือนที่พวกเขาต้องการให้ถูกปฏิบัติอย่างไร มันไม่ได้หมายความว่าคุณลดความคาดหวังของคุณลง มันหมายความว่าคุณสร้างสภาพแวดล้อมตรงที่บุคคลรู้คุณจะได้ยินพวกเขา วิถีทางเดียวเท่านั้นที่คุณสามารถได้ความ
เคารพจากบุคคลของคุณคือ ถ้าคุณยุติธรรมต่อบุคคลทุกคน และอย่า
เล่นการเมือง
บ็อบ ไอเกอร์ ได้บังคับมาตรฐานความเป็นผู้นำที่สูงร่วมกับ
ความเข้าใจผู้อื่น การเข้าหาได้ และการให้โอกาสที่สอง บ็อบ ไอเกอร์
กล่าวว่า ผมคิดถึงมันเป็นความสำคัญอย่างไม่น่าเชื่อที่จะเปิดกว้างและ
เข้าถึงได้ และปฏิบัติต่อบุคคลอย่างยุติธรรม และมองพวกเขาภายใน
สายตา และบอกพวกเขาอะไรอยู่ภายในจิตใจของคุณ ความผิดพลาด
หลักเลี่ยงไม่ได้ภายในทุกองค์การ ผู้นำที่ดียอมรับผิดต่อความผิดพลาด
และเรียนรู้จากมัน เพื่อที่จะดีขึ้นในอนาคต เขาได้กระตุ้นผู้นำต้องสุภาพและยุติธรรมต่อบุคคลด้วยการให้โอกาสที่สองต่อความผิดพลาดที่ซื่อสัตย์ เมื่อบุคคลบางคนสมควรได้รับอย่างแท้จริง
การเคารพบุคคลสร้างองค์การบนพื้นฐานความซื่อสัตย์ ความสุภาพ และความจงรักภักดี และผลิตภัณฑ์ขององค์การจะเริ่มต้นสะท้อนความคิดนี้ บ็อบ ไอเกอร์ รู้จักกันต่อความยุติธรรมและความใจดี ผู้บริหารคนหนึ่ง ได้กล่าวว่า ผมไม่เคยได้ยินใครเลยพูดสิ่งที่ไม่ดีเกี่ยวกับเขา และผมไม่เคยมองเห็นเขาไม่ดี บ็อบ ไอเกอร์ ได้ถูกเรียกเป็นซีอีโอใจดีที่สุดของฮอลลีวูด
เมื่อคณะกรรมการบริษัทกำลังพิจารณาบ็อบ ไอเกอร์ เป็นซีิอีโอคนใหม่
พวกเขาสงสัยว่าเขาถูกสามารถไว้วางใจอย่างไร เมื่อเขาอยู่ลำดับสองของไมเคิล ไอซเนอร์ รวมทั้งการตัดสินใจธุรกิจไม่ดีหลายอย่าง บ็อบ ไอเกอร์ ได้ปฏิเสธที่จะปรับปรุงใหม่อดีต และมุ่งหมายที่จะมุ่งอนาคต คุณต้องการรู้ว่า ผมกำลังนำบริษัทนี้ไปที่ตรงไหน ไม่ใช่ตรงที่มันเป็นอยู่ ตรงนี้คือแผนของผม
7. การคิดอย่างรอบคอบ
การคิดอย่างรอบคอบเป็นองค์ประกอบอย่างหนึ่งที่ถูก
ประเมินค่าต่ำมากที่สุดของความเป็นผู้นำที่ดี มันเป็นกระบวนการของการได้ความรู้ ดังนั้นเมื่อคุณให้ความคิดเห็น หรือตัดสินใจ คุณมีความรู้เพียงพอที่จะหนุนหลังมัน คุณต้องทำการบ้าน คุณต้องตระเตรียม ความคิดเห็นที่กระทำ หรือการตัดสินใจน่าเชื่อถือมากขึ้น และน่าจะถูกต้องมากขึ้น เมื่อพลิกด้าน คุณต้องรับรู้ว่าเราไม่เคยมีความแน่นอน 100% และไม่ว่าคุณได้ข้อมูลมากน้อยเเค่ไหน การติดสินใจใดก็ตามยังคงในที่สุดเสี่ยงภัยอยู่
ผู้นำใช้เวลาก่อนที่พวกเขาโพร่งความคิดเห็นของพวกเขา ไม่ยอมเข้าข้างเรื่องที่ดี แต่ไม่ได้มีความหมายอย่างแท้จริงต่อองค์การ มันเป็นเพียงแค่เกี่ยวกับการใช้เวลาที่จะพัฒนาความคิดเห็นบนพื้นฐานข้อมูล ผู้นำที่ยิ่งใหญ่คิดอย่างรอบคอบและคิดถึงบุคคลอื่น การรับรู้ความคิดเห็นของ
พวกเขา
บุคคลรู้สึกภูมิใจ เมื่อเราใช้เวลาฟังอะไรอยู่ภายในใจของพวกเขา
บ็อบ ไอเกอร์ ได้กล่าวว่า ทำการบ้านของคุณเมื่อทำการตัดสินใจที่สำคัญ
แต่เดินตามสัญชาติญานของคุณด้วย ถ้าบางสิ่งบางอย่างไม่รู้สึกถูกต้อง
ต่อคุณ มันน่าจะไม่ถูกต้องต่อคุณ
มันเกี่ยวกับการใช้เวลาพัฒนาความคิดเห็นบนพื้นฐานข้อมูล เขาเชื่อว่ามันสำคัญที่จะจัดสรรเวลา กำลัง และทรัพยากรแก่กลยุทธ์ ปัญหา และโครงการที่มีความสำคัญ
สูงสุด เราไม่กลัวที่จะถามคำถาม และยอมรับตรงไหนที่ความรู้ของเขา
จำกัด ถ้าคุณไม่รู้บางสิ่งบางอย่าง อย่าแสร้งทำว่าคุณรู้ ขอให้ถาม คุณ
ต้องใช้เวลาศึกษา คุณต้องรู้ปัญหา ข้อเท็จจริง การตัดสินใจจะถูกต้อง
ถูกรับฟัง และถูกเคารพมากขึ้น คุณจะไม่พูดโดยไม่คิดย่างรอบคอบ
บ็อบ ไอเกอร์ เด็ดเดี่ยวและรวดเร็วกับการก้าวไปข้างหน้า และกล้าหาญ
เพียงพอไว้วางใจสัญชาติญานของเขา เเต่ไม่ได้หมายความว่าเขาเร่งรีบต่อการกระทำ เขาคิดอย่่างรอบคอบต่อการกระทำ การตัดสินใจของเขา
และการเลือกของเขา บ็อบ ไอเกอร์ ไม่ได้กลายเป็นซีอีโอของดิสนีย์
ด้วยการเล่นอย่างปลอดภัย คุณไม่สามารถมีชับชนะที่ยิ่งใหญ่โดยไม่มี
ความเสี่ยงภัยที่ยิ่งใหญ่ แม้ว่าเมื่อบุคคลเรียกเขาบ้าต่อการพิจารณาการ
ซื้อพิกซ่าร์ เพราะว่ามันไม่มีเหตุผลใดเลยบนกระดาษ เขารู้สึกเชื่อมั่นว่า
มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่จะทำ รับผิดชอบเมื่อคุณทำผิดพลาด ภายในงาน
และภายในชีวิต คุณจะถูกเคารพมากขึ้น และไว้วางใจมากขึ้นจากบุคคลรอบคุณ ถ้าคุณยอมรับผิดต่อความผิดพลาดของคุณ มันเป็นไม่ได้ที่จะหลีกเลี่ยงความผิดพลาด แต่มันเป็นไปได้ที่จะยอมรัยมัน เรียนรู้จากมัน และสร้างตัวอย่างที่มันยอมรับได้อะไรถูกทำผิดพลาดบางครั้ง
8 ความเเท้จริง
ผู้นำแบบแท้จริงได้ความเคารพและความไว้วางใจจากบุคคลของพวก
เขาผ่านทางความจริง พวกเขาจริงใจและซื่อสัตย์ อย่าปลอมด้วยการเป็นบุคคลที่คุณไม่เป็น เพราะว่าความจริงและความเเท้จริงทำให้เกิดความเคารพและความไว้วางใจ คุณไม่ควรจะปลอมอะไรก็ตาม และมันสำคัญ
ที่จะจริงใจและซื่อสัตย์ตลอดเวลา ผู้นำต้องรับผิดชอบเมื่อพวกเขาทำพลาด และเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น
เราต้องเป็นตัวเราเอง และไม่เคยแสดงตัวเองปลอม อย่ากลัวที่จะเเสดงตัวเองแท้จริงของคุณ และบุคคลจะชอบคุณมากขึ้น การค้นหาทิศเหนือแท้จริงของคุณ และเป็นจริงต่ออุดมคติของคุณ บ้อบ ไอเกอร์ กล่าวว่า
ผมเชื่อโดยส่วนบุคคลความแท้จริงเป็นคุณลักษณะความเป็นผู้นำที่สำคัญอย่างหนึ่ง
จงเป็นตัวอย่าง
ที่คุณต้องการให้บุคคลอื่นดำเนินชีวิตตาม การเป็นผู้นำอย่ากลัวแสดง
ความแท้จริงและความเสี่ยงของคุณ และรับความรับผิดชอบเมื่อคุณทำ
ผิดจะดึงดูดความเคารพและแรงบันดาลใจของบุคคลรอบคุณ เมื่อเจรจา
ต่อรองข้อตกลงพิกซ่าร์ครั้งแรกกับสตีฟ จ้อป
บ็อบ ไอเกอร์ สามารถอดกลั้น และไม่เเสร้งทำดิสนี่ย์ ไม่ต้องการพิกซ่าร์อย่างเเท้จริง แต่เขาได้แสดงความชื่นชมของเขาต่ออะไรที่พิกซ่าร์ทำ และดิสนี่ย์ต้องการมันมากน้อยแค่ไหน สตีฟ จ้อปได้ชื่นชมบ็อบไอเกอร์กระตือรือร้นเกี่ยวกับข้อตกลงอย่างไร
และสร้่างความไว้วางใจที่ดิสนี่ย์จะไม่ทำลายพิกซ่าร์
บ็อบ ไอเกอร์ เคยเป็นผู้นำของเอบีซี ตอนนั้นเขายอมรับว่าเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับ
ธุรกิจ ภายในสถานการณ์นั้น กฏข้อเเรกของเขาคือ อย่าปลอมอะไรก็ตาม
เขากระตุ้นบุคคลทุกคนทำอย่างเดียวกัน อำนาจที่แท้จริงและความเป็น
ผู้นำที่แท้จริงมาจากการรู้ว่าคุณคือใคร และอย่าแสร้งทำที่จะเป็นอะไร
ก็ตาม
ภายหลังถูกเสนอชื่อเป็นผู้นำของเอบีซี บ็อบ ไอเกอร์กลัวประสบการณ์
ของเขาเอง แต่เขาได้เรียนรู้ที่จะใช้ความถ่อมตัวและความแท้จริงชนะ
ความไม่แน่นอน เขาไม่ยอมที่จะยอมรับความล้มเหลว และยังคงเป็น
ผู้นำแบบเเท้จริง คำแนะนำของไอเกอร์เพื่อการนำทั้งที่มีความกลัวของ
การไม่มีประสบการณ์คือ คุณเป็นแท้จริงอยู่เสมอ ไม่เคยไม่แท้จริงต่อ
ตัวคุณเอง หลอกลวงความรู้ หรือเเสร้งทำเป็นบุคคลบางคนไม่ใช่ตัวคุณ
ในขณะที่มันสำคัญที่จะถ่อมตัว ผู้นำไม่สามารถยอมให้ความถ่อมตัวขัด
ขวางความสามารภของพวกเขาที่จะนำและบันดาลใจบุคคล มันยอมรับได้ที่คุณไม่รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง อย่าขอโทษต่อการไม่รู้บางสิ่งบางอย่าง และถามคำถามแทน และใช้ความพยายามเรียนรู้อย่างรวดเร็ว
9 ความสมบูรณ์แบบ
ความสมบูรณ์แบบไม่ได้หมายความสมบูรณ์แบบนิยมไม่ว่าจะต้องทำอะไร มันหมายความถึง การไม่ยอมรับความธรรมดา หรือแก้ตัวต่อบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ดีพอ ถ้าคุณคิดบางสิ่งบางอย่างสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้น เราต้องใช้ความพยายามทำมัน และนั่นเป็นการบริหารแบบไมโครถูกประเมินค่าต่ำไป เหงื่อออกกับรายละเอียดสามารถแสดงบุคคลว่าเราเอาใจใส่มากแค่ไหน แต่กลับกันมันสามารถทำให้เสื่อมเสีย และดูเหมือนเป็นการขาดความไว้วางใจบุคคลทำงานเพื่อคุณ
ความสมบูรณ์แบบเกี่ยวกับความพยายามทสร้างงานคุณภาพสูงอย่างสม่ำเสมอ เราควรจะอยู่ภายในธุรกิจของการสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่อยู่เสมอ ความสำเร็จที่สำคัญของบ็อบ ไอเกอร์ ณ ดิสนีย์ เกิดขึ้นเพราะว่าความต้องการของเขาที่จะไม่ยุติกับความธรรมดา หรือบางสิ่งบางอย่างที่ดีพอ
แล้ว ดิสนีย์ เวิรลดดีพอ ก่อนที่แพนดอราและทอย สตอรี แลนด์ เข้ามาภายในภาพ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่สองพื้นที่ดื่มด่ำภายในดิสนี่ย์ พาร์ค
ที่บริษัทสร้างภายใต้บ็อบ ไอเกอร์
บ็อบ ไอเกอร์ มีบทสวดมนต์ห้าคำที่เขายึดมั่นอย่างเข้มแข็ง การแสวงหาอย่างไม่ย่อท้อของความสมบูรณ์แบบ บ็อบ ไอเกอร์ ได้กล่าวอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขาทำงานภายใต้ รูน อาร์เลดจ์ ผู้นำก่อนหน้านี้ของเอบีซี สปอร์ต เขาชื่นชมความต้องการอย่างสม่ำเสมอของผู้นำคนนี้ต่อความสมบูรณ์แบบ และบทสวดมนต์ส่วนบุคคลของเขา ทำอะไรที่คุณต้องการทำทำให้มันดีขึ้น
บ็อบ ไอเกอร์ ชื่นชม รูน อารเลดจ์ มีสายตาที่เข้มงวดต่อรายละเอียด
การแสวงหาอย่างไม่ย่อท้อของความสมบูรณ์แบบเป็นกรอบความคิด
ระบุโดยบ็อบ ไอเกอร์ เป็นสภาพแวดล้อมที่เราไม่ยอมรับความธรรมดา ภาษาอังกฤษไม่มีถ้อยคำเพื่อการเเสวงความสมบูรณ์อย่างไม่สิ้นสุด แต่ภาษาญี่ปุ่นมีถ้อยคำนี้คือ โชคูนีน ถ้อยคำที่ควรจะธรรมดาเป็นคำศัพท์
ของผู้นำทุกคน ในขณะที่เราไม่มีการแปลโดยตรงของโชคูนีน โชคูนีน
ได้ถูกนิยามเป็น การแสวงหาอย่างไม่สิ้นสุดของความสมบูรณ์แบบเพื่อประโยชน์โดยส่วนรวม และใช้ทุกวันพยายามทำให้ดีขึ้น
โชคูนีน มักจะถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “ช่างฝีมือ” แม้ว่ามันไม่ถูกต้องโดยคำนิยาม การเเปลดูเหมิอนสูญเสียจิตวิญญานของอะไรที่ช่างฝีมือทำ
โชคูนีนตามภาษาพูดมองว่าชาวญี่ปุ่นมีคำนิยามที่กว้าง แต่ใครเหมาะสม
อย่างแท้จริงเป็นโชคูนีนมักจะโต้เถียงกัน แม้แต่ท่ามกลางโชกูนีนพวกเขาเอง
10. ความซื่อสัตย์
การกำหนดมาตรฐานจริยธรรมที่สูงเพื่อทุกสิ่ง – ใหญ่และเล็ก – ความสำเร็จขึ้นอยู่กับความซื่อสัตย์ บ็อบ ไอเกอร์ ได้สรุปมันด้วยการกล่าวว่่า วิถีทางที่คุณทำอะไรก็ตามคือ วิถีทางที่คุณทำทุกสิ่งทุกอย่าง บ็อบ ไอเกอร์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรสำคัญกว่าคุณภาพและความซื่อสัตย์ของบุคคลขององค์การและผลิตภัณฑ์ของพวกเขา โดยพื้นฐานความซื่อสัตย์คือ
การทำสิ่งที่ถูกต้อง เเม้ว่ามันลำบากที่จะทำ บอกความจริงอยู่เสมอ และอย่าใช้ทางลัดเพื่อกำไรระยะสั้นใดก็ตาม
จงเชื่อมั่นว่าคุณคือใคร และคุณยืนหยัดอะไร การกำหนดพรมแดนที่ชัดเจนต่ออะไรที่ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง
และการดำเนินการด้วยวิถึทางจริยธรรมที่เข้มแข็งจะกำหนดคุณภาพ
และความซื่อสัตย์ขององค์การโดยส่วนรวม ผลิตภัณฑ์และบุคคลของบริษัทต้องซื่อสัตย์ และสร้างบนความซื่อสัตย์ขององค์การและบุคคล
กรอบความคิดของความซื่อสัตย์เริ่มต้นภายในความเป็นผู้นำขององค์การ
การรู้อะไรถูกต้องและไม่ถูกต้องมีความหมายต่อคุณ – ค่านิยมของคุณจะ
ระบุค่านิยมของบริษัท แล้วกำหนดมาตรฐานจริยธรรมที่สูงต่อทุกสิ่งทุก
อย่่างที่บริษัทของคุณทำ บริษัทของคุณจะถูกระบุโดยบุคคลของคุณ
ประพฤติอย่างไร การว่าจ้างบุคคลที่ดีไม่เพียงแค่บุคคลดีกับอะไรที่
พวกเขาทำ ความซื่อสัตย์เป็นอาวุธลับของผู้นำที่มีพลัง มันให้จุดเเข็ง
แก่พวกเขา และได้รับความเคารพท่ามกลางบุคคล ความซื่อสัตย์แท้จริง – นำทางด้วยความรู้สึกที่ชัดเจนของคุณของความถูกต้องและความไม่ถูก
ต้อง – สามารถเป็นอาวุธลับภายในธุรกิจการแข่งขัน ด้วยถ้อยคำของบ็อบไอเกอร์ วิถีทางที่คุณทำอะไรก็ตาม เป็นวิถีทางที่คุณทำทุกสิ่งทุกอย่าง
ตลอดอาชีพที่ยาวนานและมักจะอลเวงของเขา บ็อบ ไอเกอร์ ได้พัฒนา
หลักการนำทางของความเป็นผู้นำ สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือ การเเสวง
หาอย่างไม่ลดละของความสมบูรณ์แบบ แต่มันต้องถูกสมดุลด้วยความ
ยุติธรรม เพื่อที่บุคคลไม่กลัวต่อการทำผิดพลาด เคียงข้างมันคือจุดมุ่ง
ต่อความซื่อสัตย์ของเขา อาวุธลับภายในธุรกิจการแข่งขัน ด้วยการซื้อ
พิกซาร์ และมาร์เวิล บ็อบ ไอเกอร์ ได้เรียนรู้ความเสี่ยงภัยไม่นานถ้าคุณทำการบ้านของคุณ และการซื้อบริษัทนั้นแท้จริงเกี่ยวกับบุคคลไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ ้เมื่อเวลายากลำบาก คุณต้องมุ่งที่อนาคต และความสามารถของบุคคลของคุณ
ในฐานะซีอีโอของวอลท์ ดิสนีย์ บ็อบ ไอเกอร์ สมควรได้รับชื่อไม่เพียงแต่โชว์เเมนแห่งปีเท่านั้น แต่บางทีโชว์แมนของโลกด้วย วารไรตี้ ได้เรียกชื่อ
บ็อบ ไอเกอร์ “Showman of the Year” ด้วยการรวบรวมเรื่องราวและวีดีโอ วาไรตี้ ได้แสดงอาชีพของบ็อบ ไอเกอร์ และความสำเร็จหลาย
อย่างของเขา เป็นซีอีโอของดิสนี่ย์ต่อสิบเอ็ดปีที่ผ่านมา
เขาได้สร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะการนำพิกซาร์และลูคัสฟิล์มสู่ต่างประเทศ เขาได้เปิดดิสนีย์ รีสอรต ภายในจีน ความยิ่งใหญ่นี้เริ่มต้นด้วยการก้มหน้าต่อความหลงใหลของเขากับผลงานของจิโร โอโนะ อายุ 91 ปี พ่อครัวซูชิ ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก
บ็อบ ไอเกอร์กล่าวว่าผมได้ชมภาพยนตร์สารคดี “Jiro Dreams of
Suchi” เกี่ยวกับพ่อครัวซูชิจากโตเกียวชื่อ จิโร โอโนะ ร้านอาหารของเขา
มีดาวมิชิลินสามดวง และการจองเป็นที่ต้องการมากที่สุดภายในโลก ภายในภาพยนตร์ เขามีอายุปลายแปดสิบปี และยังคงพยายามทำให้ศิลปของเขาสมบูรณ์แบบ เขาได้ถูกอธิบายเป็นตัวอย่างที่มีชีวิตของถ้อยคำญี่ปุ่นโชกูนีน หมายความว่าการแสวงหาอย่างไม่สิ้นสุดของความสมบูรณ์แบบ
ผมตกหลุมรักกับจิโร โอโนะ เมื่อผมได้ชมมัน และกลายเป็นลุ่มหลงกับ
แนวคิดของโชกุนนีน เมื่อ ค.ศ 2013 ผมเดินทางไปโตเกียวเพื่องาน และได้ไปร้านอาหารของเขากับเพื่อน เราได้พบจิโร โอโนะ ทำอาหารเย็นของเรา
แต่กระนั้นฉบัับใหม่สุดของโตเกียว มิชิลิน ไกด์ จะไม่แนะนำร้านอาหารของจิโร่ โอโนะ ต่อไปอีกเเล้ว ไม่ใช่เพราะว่า คุณภาพได้ลดลง เเต่เพราะว่ามันเกือบเป็นไม่ได้ต่อบุคคลธรรมดาที่จะกินที่นี่ เราได้รับรู้ว่าซูกิยาบาชิ จิโร ไม่รับการจองจากประชาชนทั่วไป ทำให้มันออกไปจากขอบเขตของเรา ผู้แทนมิชิลิน กล่าว นโยบายของมิชิลินคือ แนะนำร้านอาหารตรงที่บุคคลทุกคนสามารถไปกินได้
ร้านอาหารซูชิสิบที่นั่งของจิโร่ โอโนะ ได้รับดาวมิชิลินสามดวงแห่งแรกภายในโลก ลูกค้าได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่ิอง เมื่อผู้มีชื่อเสียงและประมุขแห่งรัฐได้ไป และถ่ายรูป ณ ร้านอาหารของเขา เมื่อ ค.ศ 2014 ประธานาธิบดีอเมริกา บารัค โอบามา ได้มากินซูชิ ที่นี่กับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโสะ อาเบะ โอบามา ได้กล่าวว่า ซูชิที่นี่ ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยกิน ประธานาธิบดี
บารัค โอบามาบอกผมว่า ผมเกิดภายในฮาวาย และกินซูชิจำนวนมาก แต่
นี่เป็นซูชิที่ดีที่สุดผมเคยกินภายในชีวิตของผม ชินโสะ อาเบะได้กล่าวต่อ เครือข่ายเอ็นเอชเคของญี่ปุ่นภายหลังอาหาร
ร้านอาหารอัศจจรย์แห่งนี้ตั้งอยู่ภายในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินโตเกียว และที่นั่งเพียงเเค่บุคคลสิบคน ณ เวลานั้น เป็นบาร์ยาว จิโร โอโนะได้เรียนรู้ศิลปของซูชิ ตั้งแต่อายุเก้าปี เขาเริ่มต้นทำงานภายในร้านอาหารตอนอายุ 7 ปี เขากลายเป็นพ่อครัวซูชิที่มีคุณสมบัติตอนอายุ 26 ปี ประมาณ 14 ต่อมาเมื่อ ค.ศ 1965 จิโร โอโนะ ได้เปิดร้านอาหารซูชิของเขาเองชื่ิอ ซูกิบายาชิ จิโร ภายในกินซา โตเกียว เขาเกิดเมื่อ ค.ศ 1925 และตอนอายุ 96 ปี แม้แต่ภายในท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด 19 เขายังคงยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์ทุกวัน ทำซูชิอย่างสงบ และการปรากฏตัวเองของเขาเป็นความอัศจรรย์อย่างเเท้จริงภายในโลก
ตอนอายุ 89 ปี จิโร โอโนะ ตื่นเช้า และไปร้านอาหารของเขาทุกวัน
ซูกิยาบาชิ จิโร มันไม่ใช่เพราะว่าเขาต้องไป แต่เพราะว่างานของเขา
กำหนดชีวิตของเขา ทุกวันเขาเดินไปร้านอาหารของเขาด้วยความ
แน่วแน่ที่มุ่งมั่นทำงานหนักขึ้น และทำให้ดีกว่าวันก่อน เขาดีที่สุดอยู่แล้ว
ภายในโลก และได้ถูกรับรู้ทั่วโลก แต่มันไม่ได้ทำให้เขาอยู่นิ่ง จากการ
ใช้ชั่วโมงยาวนาน ไปสู่การยกมาตรฐานของงานฝีมือของเขาเอง ด้วย
ถ้อยคำของเขาเอง ทั้งหมดที่ผมต้องการทำให้ซูชิดีขึ้น และเขาทำด้วย
จิตวิญญานของโชคูนีน
เขามองตัวเขาเองยังคงต้องพยายามเพื่อความสมบูรณ์แบบ ทำงานตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนพระอาทิตย์ตก ชิมทุกชิ้นของปลา ฝึกอบรมบุคคลของเขาอย่างเข้มงวด เขาได้ถูกรับรู่ต่อวิธีการที่สร้างสรรค์ภายในการตระเตรียมซูชิสมัยใหม่ ตั้งแต่รสชาติของส่วนผสม ไปถึงอุณหภูมิของข้าว เขาตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่าง เขาเป็นไอคอนโลกของซูชิ ชูโคนีน อย่างเเท้จริง
จิโร โอโนะ เต็มไปด้วยพลัง และยังคงเชื่อเขาสามารถทำให้งานฝีมือ
ของสมบูรณ์แบบ เขาทำซ้ำกิจวรรตประจำวันอย่างเดียวกันทุกวัน เขาทำสิ่งเดียวกันเมื่อเขาทำเมื่อวานและวานซือ
“ทุกอย่างผมต้องการทำคือ ทำให้ชูชิดีขึ้น ผมทำสิ่งเดียวกันครั้งแล้ว
ครั้งเล่า ปรับปรุงมันทีละน้อย เราโหยหาอยู่เสมอที่จะบรรลุผลมากขึ้น
ผมจะปีนอยู่เสมอ พยายามไปสู่จุดสูงสุด แต่ไม่มีใครรู้จุดสูงสุดอยู่ตรงไหน”
ปรัชญาของจิโร โอโนะ เป็นตัวอย่างของโชคูนีน มันหมายความถึง
การเเสวงหาอย่างไม่สิ้นสุดของความสมบูรณ์แบบ เขามีระเบียบวินัย
ตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ เขาไม่เคยพอใจกับงานของเขา เขาต้องการทำ
ซูชิให้ดีขึ้นกว่าเมื่อวานด้วยการปรับปรุงทักษะของเขา จิโร รู้สึกได้
ชัยชนะภายหลังบริการอาหาร ณ ร้านอาหารของเขา การเฝ้ามองแขกแต่ละคนอย่างระมัดระวัง ตอบสนองความต้องการทุกอย่างของพวกเขา
ณ ที่นี่ จิโร โอโนะ มีบาร์ซูชิสิบที่นั่งอย่างถ่อมตัว ภายในสถานีรถไฟ
ใต้ดินโตเกียว ที่ซีอีโอของวอลท์ ดิสนีย์ พบแรงบันดาลใจ เขาได้ร่วม
แหล่งที่มาของแรงบันดาลใจของเขา ได้ถูกแสดงภายในภาพยนตร์
สารคดี “Jiro Dreams of Sushi” เดินตามอาชีพของจิโร่ โอโนะ พ่อครัว
ซูชิ จากโตเกียว ญี่ปุ่น ร้านอาหาร ซูกิบายาชิ เขาทุ่มเทต่อการปรับปรุง
งานของเขาอย่างต่อเนื่อง จิโร โอโนะมีชีวิตอยู่ด้วยหลักการของโชคูนีน
ชื่อโชคูนิน ไม่สามารถได้มาเพียงข้ามคืน มันใช้ตลอดชีวิต มันเป็นกรอบ
ความคิด วิถีทางของชีวิต คุณลักษณะส่วนบุคคล มีอิทธิพลและระบุ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณพูด ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำ เเละทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่คุณคิด
จิโร โอโนะ พ่อครัวซูชิที่มีชื่อเสียงของโลก เป็นตัวอย่างที่ดีที่มีชีวิตของ
โชคูนีน จิโร ตอนอายุ 93 ปี ยังคงพยายามเพื่อความสมบูรณ์แบบ แม้ว่า
บุคคลได้ยืนยันว่สเขาได้ผ่านจุดของการบรรลุมันไปนานแล้า เขาดำเนิน
ร้านอาหารซูชิอย่างถ่อมตัวภายในโตเกียว และเป็นการจองที่ต้องการ
มากที่สุดของโลก จิโรเป็นดาราของภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Jiro
ด้วย ภาพยนตร์สารคดีที่บ็อบ ไอเกอร์ ชอบมาก เขาได้แสดงมันต่อ
ผู้บริหาร 250 คน ณ ดิสนีย์ มันเเป็นตัวอย่างที่ไม่น่าเชื่อของการแสวง
หาความสมบูรณ์อย่่างไม่ลดละคืออะไร บ็อบ ไอเกอร์ ได้สรุปว่า มันดูเหมือนที่จะรับเอาความภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ส่วนบุคคลภายในงานที่คุณ
สร้าง และมีทั้งสัญชาติญานไปสู่ความสมบูรณ์แบบ และจริยธรรม
การทำงานเดินตามผ่านทางสัญชาติญานนั้น
จิโร่ โอโนะ ได้ทุ่มเทเวลาของเขาเรียนรู้เกี่ยวกับซูชิ และการบริหารร้าน
อาหารผ่านทางการฝึกงาน และการทดลองนับไม่ถ้วน สร้างมาตรฐาน
ดาวมิชิลินสามดวง บ็อบ ไอเกอร์ กล่าวว่า ผมได้ชมภาพยนตร์สารคดี
เรื่องนี้ เกี่ยวกับพ่อครัวซูชิ เขาอายุปลายแปดสิบปี และยังคงพยายาม
ทำให้ศิลปของเขาสมบูรณ์
บทเรียนอย่างหนึ่งจากจิโร โอโนะ คือ โชคูนืนเป็นไปไม่ได้ถ้าเป้าหมาย
ของคุณเป็น ผู้เชี่ยวชาญทุกอย่าง โชคูนีนกำหนดให้คุณเป็นผู้เชี่ยวชาว
อย่างหนึ่ง ไม่ใช่ไม่เชี่ยวชาญอะไรเลย ด้วยการเสาะหาส่วนผสมของซูชิ
จิโร กล่าวว่า ผู้ขายทูนาขายทูนาเท่านั้น และผู้ขายกุ้งขายกุ้งเท่านั้น
ผู้ขายแต่ละคนเชี่ยวชาญเฉพาด้านภายในด้านของพวกเขา จงหางาน
ฝีมือของเราและเชี่ยวชาญมัน
Cr : รศ สมยศ นาวีการ