ไอโฟน โมเม้นท์
ไอโฟน โมเม้นท์
เจนเซน หวง ก่อตั้งบริษัทชองเขาเองด้วยเงินทุนเริ่มต้น 40,000 เหรียญ
กับเพื่อนสองคน ทำงานเป็นวิศวกร ณ ซัน ไมโครซีสเต็ม ณ เวลานั้น เจนเซน หวง ทำงานอยู่ ณ เอดีเอ็ม และแอลเอสไอ โลจิส ผลิตภัณฑ์อย่างเเรกของบริษัทกลายเป็นล้มเหลวแต่ทีมของเขาไม่ยอมหยุด เมื่อ ค.ศ 1999 พวกเขาได้แนะนำประมวลผลกราฟฟิค จีอีฟอรซ 256 ที่บรรลุความสำเร็จ กลายเป็นรากฐานต่อจีพียู ทั้งหมด
ความเป็นผู้นำของเจนเซน หวง ได้ถูกสร้าง บนความล้มเหลวเริ่มแรก
ของเอ็นวิเดีย แต่เขาไม่ยอมย่อท้อ และมองมันเป็นเวลาที่ยากลำบาก ไม่ใช่เวลาของความสำเร็จ ผมได้เรียนรู้อย่างมากเกี่ยวกับความเป็นผู้นำ
ระหว่างเวลานั้น
ผมได้เรียนรู้ว่ามันโอเคต่อซีอีโอที่จะกล่าวว่ากลยุทธ์ใช้ไม่ได้ เทคโนโลยี
ใช้ไม่ได้ ผลิตภัณฑ์ใช้ไม่ได้ แต่เรายังคงไปสู่ความยิ่งใหญ่ และขอให้
ผมบอกคุณว่าทำไม ผมคิดว่านั่นเป็นความตื่นเต้นเกี่ยวกับความเป็นผู้นำ
คืออะไร และคุณรู้ว่าคุณยังคงที่จะชนะ เรายังคงชนะได้อย่างไร เพราะ
ว่านั่นเป็นเมื่อคุณลักษณะของบริษัทได้ออกมาอย่างเเท้จริง
มันเป็นระหว่างเวลาที่เราได้ปลูกฝังและพัฒนา อะไรที่ผมมองเป็น
ค่านิยมแกนของเราวันนี้ ผมไม่คิดว่าคุณสามารถสร้างวัฒนธรรม และพัฒนาค่านิยมแกนระหว่างเวลาที่ยิ่งใหญ่ ผมคิดว่ามันเป็นเมื่อบริษัทเผชิญความยากลำบาก เมื่อเราไม่มีเหตุผลต่อบริษัทจะอยู่รอด เมื่อเรามองดูโอกาสเป็นไปได้ที่เหลือเชื่อ นั่นคือเมื่อวัฒนธรรมได้ถูกพัฒนา คุณลักษณะได้ถูกพัฒนา
ผมคิดว่าวัฒนธรรมเป็นถ้อยคำที่ยิ่งใหญ่เพื่อคุณลักษณะของบริษัท
มันเป็นบุคลิกภาพของบริษัท และในขณะนี้บุคลิกภาพของบริษัทของ
เราเพียงแค่กล่าวว่า ถ้าเราคิดบางสิ่งบางอย่างคุ้มค่าอย่างแท้จริง และ
เรามีความคิดที่ยิ่งใหญ่ และมันไม่เคยทำมาก่อน เเต่เราเชื่อภายในมัน
มันโอเคที่จะลองเสี่ยงดู มันโอเคที่จะพยายาม และถ้ามันไม่บรรลุความ
สำเร็จ เรียนรู้จากมัน ปรับตัว และเดินไปข้างหน้าที่ล้มเหลวได้ และถ้า
คุณเพียงแค่ล้มเหลวไปข้างหน้า เรียนรู้ ล้มเหลว เรียนรู้ ล้มเหลว เรียน
รู้ ล้มเหลว แต่ทุกครั้งคุณกำลังทำให้มันดีขึ้นและดีขึ้น ก่อนที่คุณจะรู้มัน
คุณเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่
เจนเซน หวง ได้กล่าวถึงความสำคัญของการมีวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหม่ เมื่อ
เริ่มต้นธุรกิจใหม่ เขากล่าวว่า คุณไม่ควรจะกลัวเมื่อบุคคลอื่นรวมทั้ง
ลูกค้าเริ่มแรก ไม่ได้ร่วมวิสัยทัศน์ของคุณ เพราะว่าพวกเขาไม่ได้ร่วม
มุมมองโลกของคุณ วิสัยทัศน์ของเจนเซน หวงต่อเอ็นวิเดียเกี่ยวพันการสร้างวัฒนธรรมของนวัตกรรม ด้วยความเชื่อว่า ถ้าคุณไม่คิดค้นใหม่ตัวคุณเอง คุณจะค่อยตายลง วัฒนธรรมนี้ปลูกฝังความเสี่ยงภัย ดังนั้นมัน
สนับสนุนความอดทนต่อความล้มเหลว
เขาเชื่อมั่นวัฒนธรรมที่แท้จริงและค่านิยมแกนของบริษัท เพราะว่าถ้่าบริษัทของคุณมีความคิดที่ยิ่งใหญ่ คุณอย่ายอมแพ้ความคิดนั้น คุณต้องรักษามัน คุณปรับตัว และคุณรักษาการเดินหน้าที่ล้มเหลวได้ มันต้องการความซื่อสัตย์ทางปัญญา ยอมรับว่ากลยุทธ์ได้ล้มเหลว ยอมรับว่าไม่มีจำนวนเงินลงทุนต่อไปต่อทิศทางนั้นจะบรรลุความสำเร็จ
เจนเซน หวง กล่าวว่า “ผมคิดว่านั่นเป็นความตื่นเต้นเกี่ยวกับความเป็นผู้นำคืออะไร เมื่อคุณยึดอย่างตามจริงความเลวร้ายที่เป็นไปได้ยื่นให้แก่่โลก และคุณรู้คุณยังคงที่จะชนะ” เรามีเวลาในฐานะของผู้นำที่คุณรู้สึก
ราวกับพ่ายแพ้ ไม่ได้เป็นมือที่ชนะ อย่ากลัวที่จะอดทนความล้มเหลว และ
ได้ความรู้จากสถานการณ์ที่สามารถถูกใช้เพื่อความสำเร็จในอนาคต
สำนักงานใหญ่ของเอ็นวิเดีย เป็นคอมเพล็กซ์ของสำนักงานเปิดโล่ง
สามเหลี่ยม 46,000 ตารางฟุต ความสามารถของเจนเซน หวง ได้ถูก
แสดงออกส่วนใหญ่ ไม่เพียงแต่ความสำเร็จของธุรกิจในขณะนี้เท่านั้น
แต่ภายในการสร้างโครงสร้างการบริหารที่แบนด้วย ตรงที่บุคคลใด
ก็ตามเข้าหาโดยตรงต่อเขาส่วนบุคคลได้ โดยปรกติเจนเซน หวง
จัดกิจกรรมเปิดกว้างแก่บุคคลของเขาอยู่้สมอ ตรงที่เขาสามารถพูด
เกี่ยวกับกลยุทธ์ชองบริษัืท และให้โอกาสบุคคลที่จะถามคำถามใดก็ได้
ความลับความสำเร็จของบริษัทคืออะไร วัฒนธรรมของพวกเขา ต่อ
บริษัทเทคโนโลยีมหาชนด้วยบุคคลมากกว่า 11,000 คน เอ็นวิเดีย
ผูกกันแน่นอย่างไม่น่าเชื่อ มันเป็นการยกย่องต่อบุคคลทำงานมายาว
นานที่ยังคงอยู่ จำนวนมาก ณ บริษัท ตัวเลขป้ายจะถูกออกให้ตามลำดับ
ตัวเลขยิ่งต่ำลงเท่าไร บุคคลยิ่งอยู่มานานขึ้นเท่านั้น และการสู้รบทางธุรกิจพวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างยาวนาน
เจนเซน หวง เป็นผู้เชื่อมั่นภายในความเป็นผู้นำแบบแท้จริง และเขาชื่นชมบุคคลที่แท้จริง คุณต้องเป็นคุณคือใคร และซื่อสัตย์ในขณะที่ประเมินสถานการณ์ ถ้าคุณปลอมวิถีทางผ่านชีวิตของคุณ คุณไม่สามารถบันดาลใจบุคคลของคุณได้ ตรงกันข้าม ถ้าคุณสนใจอย่างจริงใจภายในงานของคุณ และถ้าคุณซื่อสัตย์ คุณอยู่บนวิถีทางไปสู่ความยิ่งใหญ่ของคุณ คุณไม่สามารถจัดการวิถีทางไปสู่ความยิ่งใหญ่ของคุณ คุณต้องนำวิถีทางไปสู่ความยิ่งใหญ่ของคุณ และดังนั้นคุณต้องนำด้วยหัวใจ เจนเซน หวง กล่าว
เจนเซน หวง เป็นผู้นำที่แท้จริง โปร่งใส ไว้วางใจ และ ซื่อสัตย์ทาง
ปัญญา เขาเชื่อว่าผู้นำที่ดีที่สุดมีความสามารถที่จะเปิดกว้าง และยอม
รับพวกเขาไม่ถูกต้อง เขาได้กล่าวถึงความถูกต้องและความรวดเร็ว
ของการตอบสนองต่อตลาดและการแข่งขัน ด้วยการเปรียบเทียบ
ความวุ่นวายของเดนนี ณ ชั่วโมงเร่งด่วน เขาได้ใช้เเรงกดดันของเวลา
ของเวลาอาหารเย็นอธิบายสำคัญอย่างไรที่จะระบุเมื่อลูกค้าถูกและผิด
มันหมายความว่าผู้นำสามารถยืนยันหรือปฏิเสธคุณค่าความคิดเห็นของ
ลูกค้าได้รวดเร็วเท่าไร ผู้นำสามารถระบุกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพได้รวด
เร็วขึ้นเท่านั้น เขาได้สภาพเเวดล้อมที่กดดันสูงของเดนนี ดึงการอ้างอิง
เปรียบเทียบต่ธุรกิจที่กดดันและรวดเร็วของการออกแบบและการผลิต
ชิปกราฟฟิค การเปรียบเทียบนี้เป็นวิธีการที่จะสื่อสารความเป็นผู้นำคือ
ความเด็ดขาดและการมุ่งลูกค้า
มันเป็น 11 ปี นับตั้งแต่นักวิจัยเอไอสามคนทำให้โลกตกตะลึงด้วย
การคิดค้นภายในวิสัยทัศน์ของคอมพิวเตอร์ การเริ่มต้นความบ้าคลั้ง
การเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง แต่ด้วยการเกิดขึ้นของโมเดลภาษาขนาดใหญ่
เหมือนเช่นเเชตจีพีที เราพบตัวเราเอง ณ จุดผกผันภายในประวัติของ
เอไอ เจนเซน หวง กล่าว เอ็นวิเดีย ได้เพิ่ม 79 พันล้านเหรียญภายใน
มูลค่าตลาด ภายหลังซีอีโอ เจนเซน หวง กล่าว่าเเชตจีพีที แสดงจุด
ผกผันต่อปัญญาประดิษฐ์
เอไอเป็นหัวข้อร้อนแรงภายในวงจรเทค โดยเฉพาะกับบริษัทที่สำคัญ
เหมือนเช่นไมโครซอฟท์และกูเกิ้ล ได้ลงทุนทรัพยากรอย่างมากไปสู่เอไอ เอ็นวิเดียและซีอีโอของพวกเขา เจนเซน หวง เป็นผู้สนับสนุนมายาวนาน
ของปัญญาประดิษฐ์ ดังที่เจนเซน หวง ได้กล่าวว่า เอไอ อยู่ ณ จุดผกผัน
การปูเส้นทางไปสู่การยอมรับอย่างกว้างขวางไปสู่ทุกอุตสาหกรรม
เอไอ อยู่ ณ จุดผกผัน เนื่องจากนวัตกรรมทางเทคโนโลยีหลายอย่าง
ได้รวมกัน ความตื่นเต้นรอบความอเนกประสงค์และความสามารถของ เอไอ ได้กระตุ้นความรู้สึกของความเร่งด่วน ณ ธุรกิจทั่วโลกที่จะพัฒนาและใช้กลยุทธ์เอไอ
หุ้นของเอ็นวิเดียได้เพิ่มสูงขึ้น 9% ภายในการซื้อขายหลายชั่วโมง ภายหลังที่เจนเซนหวง ได้โน้มน้าวศักยภาพของตลาด 600 พันล้านเหรียญเพื่อเอไอ ชิป ท่ามกลางสิ่งที่มันเรียกว่า จุดผกผัน เพื่อเทคโนโลยีพัฒนรวดเร็วที่สุดของโลก เจนเซน หวง ไม่ทิ้งความสงสัยเลยตรงที่เขามองโอกาสยิ่งใหญ่ที่สุดต่อผู้ผลิตชิป กราฟฟิค
เอ็นวิเดีย เป็นระบบปฏิบัติการเพื่อระบบเอไอของวันนี้ ร่างกายของ
ซอฟท์แวร์นี้ได้ถูกเร่งความเร็วอย่างเต็มที่ การรับเอาเอไอไว้ได้แสดง
อะไรที่เป็นไปได้กับเทคโนโลยีกำลังเริ่ม เขาได้ทำนายว่า ภายใน 10 ปี
คุณไม่สามารถบอกความแตกต่างระหว้างโลกจริงและโลกเสมือนจริง
หนังสือ “Only the Paranoid Survive” เป็นหนังสือที่ได้กล่าวถึงวิกฤติภายในธุรกิจ และการจัดการกับวิกฤติ แอนดี้ โกรฟ ได้อธิบายปรัชญาของหนังสือเล่มนี้ว่า เราจะหาปรโยชน์จากจุดวิกฤติที่ท้าทายบริษัทได้อย่างไร ธุรกิจทุกอย่างต้องเผชิญกับวิกฤติ ณ เวลาหนึ่งที่คุกคามการอยู่ต่อเนื่องของธุรกิจ ถ้อยคำที่แอนดี้ โกรฟ ได้ใช้อธิบายวิกฤติทางธุรกิจนี้คือ จุดผกผันทางกลยุทธ์ และทำให้แพร่หลายด้วยการแสดงเป็นถ้อยคำทางธุรกิจ โดยทางคณิตศาสตร์ จุดผกผันทางกลยุทธ์ ได้อธิบายจุดที่เส้นโค้งโค้งออก – ขึ้นข้างบน และโค้งเว้า – ลงข้างล่าง
เพื่อที่จะขีดเส้นใต้ความสำคัญของจุดนี้ต่อผู้นำธุรกิจ ณ จุดผกผันทางกลยุทธ์ การเปลี่ยนแปลงไม่สามารถหลีกเลี่ยงไม่ว่าดีหรือไม่ดี ตามมุมมองของแอนดี้ โกรฟ ถ้าธุรกิจไม่มีกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพที่จะตอบสนองต่อจุดผกผันทางกลยุทธ์แล้วสามารถนำไปความล้มเหลวได้ จุดผกผันทางกลยุทธ์คือ ช่วงเวลาที่องค์การต้องตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่ยุ่งเหยิงภายในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ หรือเผชิญกับการเสื่อมลง
แอนดี้ โกรฟ ได้อธิบายจุดผกผันทางธุรกิจว่า ช่วงเวลาภายในชีวิตของธุรกิจ เมื่อรากฐานทางธุรกิจได้เปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สามารถหมายถึงโอกาสที่จะขึ้นไปสู่จุดสูงสุดใหม่ แต่อาจจะหมายถีงเพียงแต่ส่งสัญญานของการเริ่มต้นของการสิ้นสุดแล้ว แนวคิดของจุดผกผันทางกลยุทธ์ได้กลายเป็นพจนานุกรมทั้งทางวิชาการและการปฏิบัติ
แอนดี้โกรฟ ได้นำทางด้วยจุดผกผันทางกลยุทธ์หลายครั้ง
เจนเซน หวง กล่าวว่าแชตจีพีที แสดงจุดผกผันเพื่อปัญญาประดิษฐ์
การสะสมของการค้นพบทางเทคโนโลยี ได้นำเอไอมาสู่จุดผกผัน
บริษัททั่วโลกกำลังแข่งขันที่จะรวมความสามารถของโมเดลภาษา
กำเนิดไปสู่ธุรกิจของพวกเขา เราต่างตกตะลึงด้วยการเข้ามาของ
ของเเชตจีพีที โมเดลภาษาขนาดใหญ่พัฒนาโดยโอเพนเอไอ เข้าใจ
และตอบสนองต่อข้อมูลภาษาตามธรรมชาติ ความสามารถของมันที่
จะสร้างการตอบสนองเหมือนมนุษย์ต่อขอบเขตที่กว้างของคำถาม
โอเพนเอไอ ห้องทดลองวิจัยเอกชนมุ่งหมายที่จะส่งเสริมและพัฒนา
ปัญญาประดิษฐ์ ภายในวิถีทางที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์โดยส่วนรวม
บริษัทถูกก่อตั้งเมื่อ ค.ศ 2015 ภายในซาน ฟรานซิสโก โดยการริเริ่ม
ร่วมกันของอีรอน มัสค์ เเซม เเอทแทน เเละบุคคลอื่น
ภารกิจจะเรียบง่ายแต่ทะเยอทะยานกว้างขวาง พัฒนาเครื่องมือเอไอที่ปลอดภัยและเปิดกว้างให้พลัง ไม่ใช่กำจัดแก่บุคคล ณ เวลานั้น
อีรอน มัสค์ กล่าวว่า เอไอเป็นการคุกคามการดำรวชีวิตยิ่งใหญ่ที่สุดต่อ
มนุษย์ เขาไม่ได้เป็นบุคคลเดียวเท่านั้นที่เตือนเกี่ยวกับศักยภาพอันตราย
ของเอไอ สตีเฟน ฮอร์คิง ได้เตือนว่าปัญญาประดิษฐ์สามารถสิ้นสุดมวล
มนุษย์ได้
มันยากที่จะเข้าใจเอไอระดับมนุษย์สามารถให้ประโยชน์ต่อสังคมมาก
เเค่ไหน และมันยากเท่าเทียมกันที่จะจินตนาการมันสามารถทำลายสังคม
มากแค่ไหนถ้าสร้างหรือใช้อย่างไม่ถูกต้อง เมื่อ ค.ศ 2018 สามปีภายหลังช่วยก่อตั้งบริษัท อีรอน มัสค์ ได้ลาออกจากคณะกรรมการบริษัทของ
โอเพนเอไอ บริษัทได้กล่าวว่า เทสลา ซีอีโอ ลาออกที่จะกำจัดความขัดเเย้งในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากจุดมุ่งของผู้ผลิตรถยนต์อยู่ที่เอไอ
บริษัทได้กล่าวเพิ่มว่าอีรอน มัสค์ยังคงที่จะบริจาคแก่บริษัทอยู่ต่อไป
เจนเซน หวง ร่ำรวยขึ้น 4 พันล้านเหรียญ ขอบคุณต่อเเชตจีทีพี และเดิมพันเอไอของวอลล สตรีท การพุ่งขึ้นของโอเพนเอไอและแชตจีพีทีของ
พวกเขา นักลงทุน ได้เริ่มต้นเดิมพันที่ยิ่งใหญ่บนผู้ผลิตชิปเอไอ การมอง
การปฏิรูปเอไอเป็นตัวขับเคลื่อนความมั่งคั่งที่ง่่ายระหว่างเศรษฐกิจที่ยุ่ง
ยาก เจนเซน หวง กล่าวว่า ทุกชิปที่เราสร้างมุ่งที่ปัญญาประดิษฐ์ ในฐานะของเครื่องยนต์เบื้องหลังโมเดลภาษาขนาดใหญ่เหมือนเช่นเเชตจีพีที เอ็นวิเดียได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในที่สุดต่อการลงทุนเริ่มแรกภายในเอไอของพวกเขา
การเพิ่มขึ้นของความมั่งคั่งของเจนเซน หวง มาจากราคาหุ้นของเอ็น
วิเดีย เพิ่มสูงขึ้น 35% เพราะว่าบทบาทที่โดดเด่นของเอ็นวิเดียภายใน
ตลาดการผลิตชิปเอไอ ด้วยการเจริญเติบโตของแชตจีทีพีและโอเพน
เอไอ ถูกมองเป็นตัวขับเคลื่อนการเจริญเติบโตเพื่อเอ็นวิเดียก้าวไปข้าง
หน้า บลูมเบิรก ได้ประเมินว่าการเจริญเติบโตของเเชตจีทีพีอย่างเดียว
สามารถเพิ่มยอดขายของเอ็นวิเดียระหว่าง 3 พันล้านเหรียญ และ 11
พันล้านเหรียญต่อปี ด้วย การเพิ่ม 4 พันล้านเหรียญภายในห้องนิรภัย
ของเขา เซนเจน หวง สามารถรับภาระเเจ็ตเก็ตหนังใหม่ได้จำนวนมาก
เเชตจีพีที เป็นจุดพลิกผันภายในการพัฒนาและการรับเอาไว้ของปัญญาประดิษฐ์ เเชตจีพีที แชตบอทอัฉริยะไม่เพียงแต่โต้ตอบได้เหมือนมนุษย์เท่านั้น เเต่ยังสามารถสร้างงานได้หลายอย่างที่อาจจะทดแทนมนุษย์ได้
เจนเซน หวง ผู้ก่อร่วมตั้งเอ็นวิเดีย ผู้ผลิตชิปกราฟฟิกและออกแบบชิปประมวลผลเอไอใหญ่ที่สุดของโลกได้กล่าวว่าปัญญาประดิษฐ์อยู่ ณ จุดผกผัน เราอยู่ ณ ไอโฟน โมเม้นท์ ของเอไอ แชตจีพีทีของโอเพนเอไอ เป็นการสร้างช่วงเวลาไอโฟนเพื่อปัญญาประดิษฐ์ แม้ว่าไอโฟน ไม่ได้เป็น
สมารทโฟนเครื่องเเรก แต่มันโต้แย้งไม่ได้ มันเป็นเครื่องแรกที่ใช้ได้ง่ายแก่บุคคลทุกคน มันเป็นอะไรที่จุดประกายยุคโทรศัพท์มือถือในขณะนี้
แชตจีพีทีสามารถทำอย่างเดียวกันต่อเอไอ เราจะนำเอไอของเราไปสู่
ทุกอุตสาหกรรม แชตจีพีที เป็นเครื่องมือเอไอแห่งยุค การค้นพบทางเทคโนโลยีที่สำคัญ เทียบเคียงได้กับสตีฟ จ้อป เปิดตัวไอโฟนเครื่องแรก
เราอยู่ ณ ไอโฟน โมเม้นท์ เจนเซน หวง ได้ประกาศการเป็นหุ้นส่วนกับ
กูเกิ้ล ไมโครซอฟท์ และออราเคล การนำเอไอใหม่ ความสามารถจำลองและร่วมมือร่วมใจไปสู่ทุกอุตสาหกรรม การคิดค้นภายในเอไอและการประมวลผลภาษา แชตจีพีทีมีศักยภาพที่จะทำให้กระบวนการคล่องตัว
ยกระดับบริการไปทั่วทั้งอุตสาหกรรม และกระทบต่อการประยุกต์ใช้
ทุกอย่าง ในที่สุดเปลี่ยนแปลงวิถีทางที่เราทำงานและดำรงชีวิตของเรา
ผลประโยชน์ของเจนเซน หวง และเอ็นวิเดียภายในปัญญาประดิษฐ์เป็นพะยานหลักฐานอย่างดี พวกเขาได้พู่ดเกี่ยวกับศักยภาพของแขตจีทีพี แชตบอท โปรแกรมที่นิยมแพร่หลายของโอเพนเอไอ ไปไกลจนเรียกมันเป็นไอโฟน โมเม้นท์ ของปัญญาประดิษฐ์ เอ็นดิเวีย ได้ใช้เอไอที่จะให้พลังบริการซอฟท์แวร์ของพวกเขาเองด้วย
เขาได้วางตำแหน่งเอ็นวิเดียเป็นเครื่องยนต์เบื้องหลัง ไอโฟน โมเม้นท์
ของเอไอ ดังที่เขาได้เรียกว่าจุดผกผันภายในคอมพิวเตอร์ เอไอจะถูกคิดค้นใหม่ภายในเกือบทุกอุตสาหกรรม ความคิดคือ สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถทำให้เอไอ แอปส์ รวดเร็วขึ้น เเละเข้าไปสู่ลูกค้าได้มากขึ้น
จีพียูของเอ็นวิเดีย ได้กลายเป็นสมองเบื้องหลังเเชตจีพีที
ปัญญาประดิษฐ์กำลังกลับข้างโลก ถ้าเราไม่อยู่ใต้ก้อนหิน เราน่าจะรู้จัก
แชตจีทีพีกำลังเขย่าอุตสาหกรรมและธุรกิจอย่างไร
เมื่ิอ กุมภาพันธ์ ค.ศ 2023 แขตจีพีที อยู่บนหน้าปกของวารสารไทม์ เราอยู่ ณ ไอโฟน โมเม้นท์ ของเอไอ ทำไม เมื่อสตีฟ จ้อป เปิดตัวไอโฟนเครื่องแรกย้อนหลังไปเมื่อ ค.ศ 2007 ช่วงเวลานี้ภายในประวัติศาสตร์ ได้ปฏิรูปวิถีทางที่เราเกี่ยวพันระหว่างกันกับเทคโนโลยี และเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือตลอดกาล
วันนี้เอไอ กำลังเผชิญจุดผกผันอย่างเดียวกัน เรามักจะอ้างเป็น “ไอโฟน
โมเม้นท์” – ช่วงเวลาไอโฟน โดยฟอร์จูน และวอลล สตรีท เจอร์นัล โดยข้อเท็จจริง ตามสตาทิสตา มันเป็นเพียงห้าวันเท่านั้นที่เเชตจีทีพีได้วิ่งไปสู่ผู้ใช้หนึ่งล้านคน นอกจากนี้เรา 100% ของเครื่องมือเอไอออกมาทุกเดือน การท่วมของการพัฒนาเอไอนี้คล้ายกับการเปิดตัวของไอโฟนของเเอปเปิ้ล ย้อนหลังไป ค.ศ 2007 กระตุ้นคลื่นของนวัตกรรมภายในตลาดโทรศัพท์มือถืออย่างไร
ถ้าเรามีการเทียบเคียงต่อช่วงเวลาที่เราพบตัวเราเองภายในวันนี้กับ
เเชตจีพีที มันเป็นการแนะนำไอโฟนของแอปเปิ้ล มันยากที่จะลืมการ
นำเสนอนี้ ณ แมคเวิรลด์ เอ็กซ์โปเมื่อ 9 มกราคม ค.ศ 2007 เมื่อสตีฟ
จ้อปได้กล่าวคำพูดลงไปภายในประวัติศาสตร์ วันนี้แอปเปิ้ล ได้คิดค้น
ใหม่โทรศัพท์ การเปิดตัวไอโฟน ออกแบบด้วยตัวควบคุมจอสัมผัส ไม่มีแป้นพิมพ์ และระบบปฏิบัติการ ไอโฟนโอเอส
เมื่อ ค.ศ 1984 เราได้แนะนำแมคอินทอช มันไม่ได้เพียงแค่เปลี่ยนแปลง
แอปเปิ้ล มันได้เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ทั้งหมด เมื่อ ค.ศ 2001 เราได้แนะนำไอพอดเครื่องแรก มันไม่ได้เป็นเพียงแค่เปลี่ยนแปลงวิถีทางที่เราทุกคนฟังดนตรี มันเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมดนตรีทั้งหมด
วันนี้ เราได้แนะนำผลิตภัณฑ์ปฏิรูปสามอย่างของระดับนี้ อย่างเเรกเป็น
ไอพอดจอกว้างด้วยการควบคุมสัมผัส อย่างที่สองเป็นโทรศัพท์มือถือ
ปฏิรูป และอย่างที่สามเครื่องมือสื่อสารอินเตอร์เนตก้าวหน้า ดังนั้นสาม
สิ่ง ไอพอดจอสัมผัสนิ้วมือ โทรศัพท์มิอถือปฏิรูป และเครื่องมือสื่อสารอินเตอร์เนตก้าวหน้า……สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเครื่องมือแยกจากกันสามอย่าง มันเป็นเครื่องมือเดียวและเราเรียกมันไอโฟน
เอไอ โมเม้นต์ ปฏิรูปนี้เทียบเคียงกับการเปิดของไอไฟน 16 ปีที่แล้วอย่างไร การเปิดตัวของไอไฟน ได้ท้าทายสภาพเดิมของอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ และยึดบัลลังก์ยักษ์ใหญ่เหมือนโนเกียและเเบลค เบอร์รี ทำนองเดียวกัน เอไอกำลังลบล้างอุตสาหกรรมหลายอย่าง เช่น การดูแลสุขภาพ การตรวจโรคและการค้นพบยาขับเคลื่อนด้วยเอไอย่อมจะเป็นมาตรฐานต่อไป ถ้าเอไอ ได้ถูกรวมเข้าไปกับการวิจัยของนักวิทยาศาตร์อย่างเหมาะสมสามารถปฏิรูปการค้นพบยา ทำให้มันเป็นไปได้ต่อผู้ป่วยมากขึ้นได้การรักษาที่พวกเขาต้องการ
ไอโฟน ได้แนะนำต่อบุคคลหลายล้านคนไปสู่โลกใหม่ทั้งหมด ด้วยการเปิดตัวไอโฟน เเอปเปิล ได้ใส่ประสบการณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหมดลงกระเป๋าของมวลชน ไอโฟนทำให้เทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือก้าวหน้า การเข้าไปสู่บุคคลจำนวนมาก และนำไปสู่การระเบิดภายในการใช้สมาร์ทโฟน การเป็นประชาธิปไตยของเทคโนโลยี
ไอไฟนเครื่องแรกไปสู่การขายเมื่อ 29 มิถุนายน ค.ศ 2007 และมันช่วยให้แอปเปิ้ลเจริญเติบโตเป็นบริษัท 3 ล้านล้านเหรียญตลอด 15 ปีต่อมา
แอปเปิ้ลขายไอโฟนรุ่นแรก 6.1 ล้านเครื่อง ระหวางเวลาเวลามันเปิดตัว
ต่อสาธารณะ เกรก แพคเกอร์ คนงานบำรุงรักษาไฮเวย์ มาจากลองก์
ไอแลนด์ ได้ถูกยกย่องด้วยการเป็นบุคคลแรกซื้อไอโฟนเมื่อ 29 มิถุนายน
ณ แอปเปิ้ล สโตร์ บน ฟิฟท์ อเวนู ภายในแมนฮัตตัน
แอปเปิ้ล เป็นตัวอย่างคลาสสิคของเทคโนโลยีลบล้าง มันได้สิ้นสุดการ
ยึดครองตลาดโทรศัพท์มือถือของโนเกีย และสร้างสมาร์ทโฟนเครื่อง
แรกที่คุ้มค่าชื่อ แต่ความสำเร็จระยะยาวต่อบริษัทไม่ได้เกี่ยวกับการคิด
ค้นลบล้างครั้งเดียวเหมือนไอโฟน บริษัทที่เจริญเติบโตจะต้องปรับปรุง
อะไรที่พวกเขาทำอย่างสม่ำเสมอ
แอปเปิลตัวมันเองเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด มันเป็นบริษัทมีมูลค่ามากที่สุด
ของโลก แต่ความสำเร็จของมันไม่ได้ถูกสร้างบนผลิตภัณฑ์อย่างเดียว
บริษัทได้สร้างไอพอดก่อนไอโฟน คิดค้นใหม่ตลาดเครื่องเสียงส่วนบุคคล
ต่อมาพวกเขาได้คิดค้นใหม่วิถีทางที่บุคคลซื้อดนตรีด้วยไอทูนส์ แอปเปิล
ได้สร้างตลาดเพื่ออะไรที่บุคคลไม่ได้คิดอย่างแท้จริงที่พวกเขาต้องการ
พวกเขาไม่ได้เป็นบริษัทแรกพิจารณาแอปส์ แต่มันอีกครั้งหนึ่งได้คิดค้น
ใหม่ตลาดเมื่อมันได้เปิดตัวแอปส์ สโตร์
เอไอกำลังเดินไปตามเส้นทางเดียวกัน ตามสตาทิสต้า แชตจึพีที ใช้เพียงแค่ห้าวันเท่านั้นที่จะวิ่งไปสู่ผู้ใช้หนึ่งล้านคน วงจรการรับเอาไว้นี้ไม่เหมือนใคร เครื่องมือและเเฟลตฟอร์มพลังเอไอหามาได้มากขึ้นแก่ผู้ใช้โดยไม่ต้องมีความเชื่ยวชาญทางเทคนิคที่ลึกซึ้งหรือทักษะการเข้ารหัส เครื่องมือเหล่านี้ทำให้บุคคลจำนวนมากใช้ประโยชน์ความสามารถของเอไอ เพื่อความมุ่งหมายส่วนบุคคลและวิชาชีพ
การเปิดตัวของไอโฟนจุดประกายวงจรของนวัตกรรมอย่างรวดเร็วภาย
ในอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถิอ ด้วยคู่แข่งขันวิ่งแข่งที่จะเทียบเคียงหรือ
เหนือกว่า เอไอกำลังเผชิญการกระชากอย่างเดียวกันภายในนวัตกรรม
และการรับเอาไว้ เมื่อบริษัทเหมือนเช่นกูเกิลหรือบิง และบุคคลได้รวม
เอไอเทคโนโลยีเข้าไปสู่ชีวิตประจำวันของพวกเขามากขึ้น เช่น การเขียน
อีเมลส์ และคำปราศัย
เจนเซน หวง เป็นเจ้าแห่งภูเขาคนใหม่ภายในโลกเซมิคอนดัคเตอร์ เขา
มักจะถูกเปรียบเทียบเป็น สตีฟ จ้อป ของอุตสาหกรรมชิป บริษัทของเขา
เอ็นวิเดีย เชี่ยวชาญภายในการผลิตจีพียู
เรามีข้อตกลงยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งคือ เอ็นวิเดียยักษ์ใหญ่กราฟฟิก ได้ซื้อ
ผู้ผลิตชิปของอังกฤษเป็นเจ้าของโดยซอฟท์ แบงค์ อาร์ม มูลค่า 40 พันล้านเหรียญ ด้วยความมุ่งหมายที่จะสร้างบริํษัทคอมพิวเตอร์ดีเด่น เพื่อ
ยุคของปัญญาประดิษฐ์ ภายในการแถลงอย่างกล้าหาญ มาซาโยชิ
ซัน ประธานซอฟท์ แบงค์ กรุ้ป ได้เปรียบเทียบเจนเซน หวง เป็นสตีฟ
จ้อปคนต่อไป เพื่อที่จะช่วยให้ปัญญาประดิษฐ์เป็นประชาธิปไตย และ
เร่งการรับเอาไว้ของเอไอ
เจนเซน หวง เป็นพลังขับเคลื่อนภายในยุคของเอไอ เรากำลังพูดเกี่ยวกับความทรงจำสตีฟ จ้อป ของเรา ศิลปอย่างหนึ่งของเขา ไอโฟน ได้เปลี่ยน
แปลงวิถีชีวิตของชุมชน มันเป็น 10 ปีที่ผ่านมา ผมคิดว่า 10 ปีข้างหน้า
คุณเป็นบุคคลหนึ่ง “เจนเซน หวง” มาซาโยชิซัน กล่าว เขาเป็น ผู้บุกเบิกการพัฒนาอุตสาหกรรมพีซี อินเตอร์เน็ต และคอมพิวเตอร์โมบายภายในญี่ปุ่น
Cr : รศ สมยศ นาวีการ