มองโลกทั้งใบ ยังไม่แจ่มใสทั้งหมด
สบาย สบาย สไตล์เกษม
เกษม อัชฌาสัย
มองโลกทั้งใบ ยังไม่แจ่มใสทั้งหมด
ครบไตรมาส(ขออนุญาตใช้ศัพท์แสงเท่ๆ ทางเศรษฐศาสตร์สักหน่อย)แรก ของปีนี้และย่างเข้าไตรมาสที่ ๒ แล้วละครับ ที่ดูเหมือนว่า โลกใบนี้ (ในทางการทหารและการทูต) จะไม่ย่ำแย่ไปเสียทั้งหมด
หากไม่นับเอาความคืบหน้าของสงครามยูเครนที่ทำท่าจะลากยาวยืดเยื้อจนน่าวิตก ที่หลังสุดคาดว่าจะเกิดสงครามใหญ่ขึ้นอีกรอบหนึ่ง ในความพยายามเข้าครองประเทศ โดยทัพรัสเซียมุ่งยึดเอากรุงเคียฟ หัวใจของรัฐบาลยูเครนเอาไว้ให้ได้ สะท้อนให้เห็นจากความพยายามโจมตีเมือง”บักห์มุต” จุดยุทธศาสตร์สำคัญ เพื่อเปิดทางไปสู่การโจมตีฐานที่มั่นทางทหารขนาดใหญ่ของยูเครน และเพื่อตัดเส้นทางลำเลียง ซึ่งในการนี้ รัสเซียต้องสูญเสียทหารเป็นจำนวนมาก ถึงกับต้องใช้”ทหารรับจ้าง”เป็นแกนในการนำทหารเกณฑ์รัสเซีย ที่ไร้ประสบการณ์ ไปสู้รบ จึงยากจะชนะเอาชัยง่ายๆ
ในขณะะที่ทางยูเครน ก็พยายามเคลื่อนไหวที่จะตีโต้ เกือบจะในทุกๆ แนว โดยเฉพาะแนวที่สำคัญที่สุด คือแนวป้องกันแหลมไครเมียซึ่งยูเครนก็อยากได้คืนจากรัสเซีย ที่ผนวกเอาไว้ก่อนหน้านี้
คาดว่ารัสเซียคงจะหนักใจมาก ด้วยตระหนักดีว่า นอกจากยูเครนจะได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก ด้วยการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยให้ เป็การส่งเสริมประสิทธิภาพในการสู้รบ เพิ่มขึ้นแล้ว
ก็ยังแอบส่งหน่วยรบพิเศษเข้าสนับสนุนด้วยลับๆ ซึ่งก็ตกเพิ่งเป็นข่าวสดๆ ร้อนๆ เมื่อไม่กี่วันมานี้เองครับ หลังจากระแคะระคายมานาน
ไม่เช่นนั้น กองทัพยูเครน คงไม่แข็งแกร่ง จนยากต่อการทำลายล้าง
ความเสี่ยงที่สงครามจะขยายตัวก็มีมากขึ้น สะท้อนจากถ้อยแถลงของ”วลาดิมีร์ ปูติน”ที่จะเอาสถานีปรมาณูตั้งใน”เบลารุส”ติดยูเครน แม้จะเป็นอาวุธปรมาณูทางยุทธวิธี(คือปรมาณูที่จำกัดขอบเขตการโจมตี)ก็เถอะ
สำหรับการที่จีนทำตัวเป็นโซ่ข้อกลางในการเจรจาหยุดยิงอันจะนำสู่การตกลงสันติภาพนั้น ดูจะไม่”เนียน”พอ
ถ้าหากเอาจริงเอาจังผู้นำ”สี จิ้นผิง”คงบินไปไปทาบทาม”เซเลนสกี”โดยตรงแล้ว
ฉะนั้น สิ่งที่จีนพูด จึงเป็นเพียง”คำหวาน”ที่ทำให้ดูดี ในขณะที่รัสเซียมุ่งมั่นรบต่อ หมายยึดยูเครนเอาไว้ทั้งชาติ คือต้องล้มรัฐบาลเซเลนสกี ให้ได้เท่านั้น
โลกทั้งใบจึงต้องทุกข์ยากต่อไป เพราะผลกระทบที่เกิดจากการ
การตัดสินใจผิดพลาดทำสงครามของ”ปูติน” ซึ่งส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจโลก ในขณะเดียวกันก็ผลาญชีวิตของผู้คนคนเป็นจำนวนมาก ทั้งพลเรือนยูเครน รวมทั้งทหารรัสเซีย ทหารยูเครน ที่ครอบครัวของพวกเขาต้องได้รับความเดือดร้อนกันไปทั่ว
นั้นเป็นภาพใหญ่ของสถานการณ์สงครามยูเครน ในปัจจุบันครับ
อีกมุมหนึ่งของโลก ความเคลื่อนไหวของจีน โดยส่งกองกำลังทางเรือและทางอากาศไปซ้อมรบ”เสมือนจริง” ครั้งล่าสุด โดยล้อมไต้หวันเอาไว้ในขณะนี้ ยังคงเป็นการ”ขู่คุกคาม”เท่านั้นครับ โปรดอย่ากลัว
ยังไม่น่าจะเป็น การเปิดฉากสงครามกับไต้หวันโดยตรง เพราะยิ่งจะเสี่ยงต่อการเผชิญหน้ากับสหรัฐและพันธมิตร
แต่เป็นเพียงการตอบโต้ กรณีที่ประธานาธิบดีไต้หวัน”ไฉ อิงเหวิน”ไปเยือนสหรัฐเท่านั้นเอง
ที่น่าสนใจมากในตอนนี้ ก็คือ ความผ่อนคลายทางการทูตในตะวันออกกลาง ท่ามกลางการโจมตีเลบานอนและปาเลสไตน์และซีเรีย ด้วยขีปนาวุธและการโจมตีทางอากาศ ของกองทัพอิสราเอล เพื่อตอบโต้การยั่วยุของกลุ่มรักชาติฮามาส ที่ยังไม่ยอม”ก้มหัว”ให้
ซึ่งถือว่าเป็นการทำ”สงครามจริง”ชนิดที่ซ้ำซากอีกครั้งหนึ่ง ในหลายๆ ครั้งในอดีต ซึ่งล้วนแต่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ แต่ไม่มีใครกล้าหือ
จุดที่มีการผ่อนคลายคือ การเปิดมีการเจรจาเพื่อรื้อฟื้นความสัมพันธ์ให้เป็นปกติ ระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่าน ขณะเดียวกันก็จะมีการเจรจาหยุดยิงระหว่างซาอุดีอาระเบียกับกลุ่มกบฏ”ฮูธี”ในเยเมนด้วย
การสู้รบอันยาวนานในเยเมน จึงจะน่าได้ยุติลงเสียที
ทั้งนี้ นับเป็นความพยายามของมกุฎราชกุมาร”มุหัมมัด บิน ซัลมาน”แห่งซาอุดีอาระเบีย อีกก้าวหนึ่ง ที่จะสร้างศักราชใหม่ด้านความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชาติมหาอำนาจมุสลิมด้วยกัน(หมายถึงซาอุดิอาระเบียกับอิหร่าน) และสร้างสรรค์สันติภาพในภูมิภาค
เพื่อว่าซาอุดีอาระเบีย จะได้มุ่งหน้าพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าไปโดยไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง จะได้เกิดความทันสมัยในทุกๆ ด้านในอนาคต ไม่ถูกดูแคลนว่า เป็นชาติที่ล้าหลังอีกต่อไปทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม
ขณะเดียวกันจะเป็นผลดีกับอิหร่านด้วย ที่ไม่ต้องสนับสนุนกลุ่มกบฏ”ฮูธี”ให้สิ้นเปลืองอีกต่อไป
พ้ร้อมกันนี้ ก็น่าจะเป็นลู่ทางในการสร้างความสมานฉันท์ ในแง่ความแตกต่าง ในนิกายศาสนา(ซาอุฯ นิกายสุนี่-อิหร่านนิกาย”ชีอะห์”)ด้วย
แม้ทั้งหมดนี้ ซาอุดาระเบีย ยังจะไม่สามารถก้าวล่วงพ้น จากอิทธิพลของอภิมหาอำนาจ(สหรัฐ)อย่างเด็ดขาดก็ตามที
ย้อนกลับไปดูสงครามยูเครนอีกครั้ง จะพบว่าสงครามรุกรานยูเครนของกองทัพรัสเซียคราวนี้ นอกจากเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินอย่างมหาศาลแล้ว
ก็ทำให้ผู้คนเดือดร้อนไปทั่ว ต้องพลัดท่าคาที่อยู่ สูญเสียญาติพี่น้อง ขณะนี้เฉพาะในโปแลนด์ชาติเพื่อนบ้าน รับเอาผู้ลี้ภัยยูเครนไว้ถึง ๑.๓ ล้านคนแล้ว นับว่ามากที่สุดและก็ยังไม่รู้ว่าจะไปอยู่ในชาติอื่นๆ อีกเท่าไร
ความเดือดร้อนที่ว่านี้ แม้แต่ในรัสเซียเอง ครอบครัวที่ผู้ชายถูกเกณฑ์ไปรบแล้วตาย ก็จะต้องมีเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะที่ไม่ได้ไปตายอย่างยินยอมพร้อมใจ หรือด้วยความรักชาติ เช่นที่พรรณาไว้อย่างไพเราะเพราะพริ้ง ในบทเพลงดัง “ซูรัฟลี” หรือ”ฝูงนกกระเรียนขาว” ชี้ชวนให้ทุกคนยอมตายในสงคราม
แต่กลับไปตาย เพราะความหลงผิดของ”วลาดิมีร์ ปูติน” ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ความเป็น”วีรบุรุษ”ของเขา
โดยมิได้คำนึงไพร่ฟ้า ว่าจะสูญเสียชีวิตไปสักเท่าไรและผลาญงบประมาณ(จากภาษีของประชาชน)เท่าไร
คนอย่างนี้สมควรแล้วใช่ไหม ที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ จะดำเนินเริ่มดำเนินคดีเขา ฐานอาชญากรสงคราม ถึงขั้นออกหมายจับแล้ว
ใครก็ได้ ช่วยจับ”ปูติน”ส่งตัว ไปให้ศาลดำเนินคดีหน่อยเถิดครับ
เผื่อว่าโลก จะได้แจ่มใสขึ้นมากกว่านี้