คะแนนนิยม”แฮร์ริส”นำ”ทรัมพ์”แล้ว

สบาย สบาย สไตล์เกษม

คะแนนนิยม”แฮร์ริส”นำ”ทรัมพ์”แล้ว

ความสนุกสุดเหวี่ยงของ”คอการเมืองสหรัฐ”ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี(วันที่ ๕ พย.๖๗)จริง ก็คือการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตเพื่อรับรอง”กมลา แฮร์ริส”ขึ้นเป็นตัวแทนพรรคอย่างเป็นทางการส่งลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครับ

การประชุมมีสี่วันในทุกค่ำคืนระหว่างวันที่ ๑๙-๒๒ สค.๖๗ ที่นครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์

ในแต่ละคืนก็มีแขกรับเชิญคนสำคัญๆของพรรคขึ้นปราศรัยเชียร์”กมลา แฮร์ริส”กับ”ทิม วอลซ์”คู่ขาที่เธอเลือกมาดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี เพราะนี่คือกิจกรรมที่สำคัญยิ่งในการรณรงค์หาเสียงระดับชาติ

เป็นการหาเสียงผ่านสื่อทีวีทั่วโลก เพื่อโน้มน้าวให้คนอเมริกันที่มีสิทธิมีเสียงไปลงคะแนนสนับสนุนครับ

ใครสนใจเปิดชมได้จาก“ซีเอ็นเอ็น”ได้เลย

ครั้งหนึ่งในชีวิต ผมเคยได้รับเชิญจากพรรคเดโมแครต(ในฐานะนักข่าว)เข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุมแบบนี้มาแล้ว

ยังจดจำได้ถึงความสนุกสนานที่ได้ชมจากการปราศรัยและการหาเสียงระหว่างผู้เสนอตัวลงชิงตำแหน่ง”ตัวแทน”พรรคแล้วก็ลุ้นคนที่ชอบ

การปราศรัยที่ว่าล้วนมาจากนักพูดชั้นยอด ที่สะท้อนความสามารถในการโน้มน้าว เป็นที่น่าประทับใจ ซึ่งไม่อาจหาชมที่ไหนได้แล้วละครับ

แต่ละคนออกมาพูดด้วยภาษาและโวหารที่สละสลวย สมควรจะเอามาศึกษาและฝึกหัด

สรุปแล้วนับเป็นประสบการณ์ประชาธิปไตยที่มีเสน่ห์ดึงดูดให้สนใจในระบบการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐที่มีการกลั่นกรองแล้วกลั่นกรองอีก เพื่อให้ได้ผู้นำที่มีคุณภาพและมีคุณธรรม(แต่ก็ยังอุตส่าห์มีคนไร้คุณธรรมหลุดเข้าไปเช่น”ทรัมพ์”)

ไม่ได้ทำชุ่ยๆ ไร้มารยาทขาดจริยธรรม(แม้จะไม่ละเมิดกฎหมาย)แบบบ้านเรา เช่นที่ได้ประจักษ์กันแล้ว เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ถึงแม้จะเป็นระบอบประชาธิปไตยที่ต่างกันก็เถอะ

ผมประทับใจมากที่ประธานาธิบดี”โจ ไบเดน”ออกปราศรัยเมื่อค่ำวันอังคาร(เวลาในสหรัฐ)ที่ผ่านมาว่า(บางตอนแสดงอาการตื้นตันเป็นที่ปรากฏ) ลำบากใจแต่ตัดสินใจถูกแล้วที่ถอนตัวให้”แฮร์ริส”รณรงค์ได้ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐกับตัวแทนพรรครีพับลิกันคือ “โดนัลด์ ทรัมพ์” โดยยืนยันว่าต้องช่วยกัน ปกป้องระบอบประชาธิปไตยเอาไว้

“We saved democracy in 2020, and now we must save it again in 2024,” he added, urging people to vote for Harris in order to prevent a second term under Trump.”

“เราทำให้ประชาธิปไตยปลอดภัยในการเลือกตั้งปี๒๐๒๐ และเราต้องทำให้ปลอดภัยอีกในปี ๒๐๒๔ โดยจะต้องโหวตเลือก”แฮร์ริส”เพื่อป้องกันมิให้”ทรัมพ์”เข้ามาเป็นประธานาธิบดีเป็นครั้งที่ ๒”

“ไบเดน”โจมตี”ทรัมพ์”อ้อมๆ กรณีที่ยุยงฝ่ายขวาตกขอบก่อจลาจลขัดขวางการลงมติของวุฒิสภาในรับรอง”ไบเดน”ขึ้นเป็นประธานาธิบดี ซึ่ง”ไบเดน”ถือว่านั่นคือการบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตยและสร้างความแตกแยกขึ้นภายในชาติอย่างจงใจ

และนั่นถือเป็นจุดสุดยอดสาระของคำปราศรัยครับ

เมื่อเช้า(๒๑ สค.๖๗เวลาในไทย)นี้ตรงกับค่ำวันอังคารตามเวลาสหรัฐ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ”บารัก โอบามา”และภริยาคือ”มีเชล โอบามา”ก็ขึ้นปราศรัยสนับสนุน”แฮร์ริส”

สองสามีภริยา ซึ่งยังคงมีบารมีเหนือคนผิวสีได้ให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าต่อในช่วง ๑๑ สัปดาห์ที่เหลือเพื่อช่วยรณรงค์ให้รองประธานาธิบดี”แฮร์ริส”ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

ที่น่าสนใจและที่ผมตั้งข้อสังเกตก็คือ”โอบามาผู้สามี”ได้ปราศรัยถึงสหรัฐในสายตาโลกว่า“เมื่อรักษา”คุณค่า”ความเป็นอเมริกาเอาไว้ได้ โลกก็จะสดใสขึ้น”

ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดการที่”โอบามา”เอ่ยถึง”คุณค่า”นั้น น่าจะหมายถึง ความเป็นความเป็นปัจเจกนิยม(เป็นตัวของตัวเอง) ความเสมอภาค ความหลากหลาย ความสามัคคี เสรีภาพและความเป็นประชาธิปไตยนั่นเอง

นี่ผมว่าตามที่เคยร่ำเรียนมาครับ

ในวันพรุ่งนี้เช้า(๒๒ สค.๖๗)เวลาในไทยตรงกับค่ำวันพฤหัสบดีเวลาในสหรัฐ“กมลา แฮร์ริส”ก็จะขึ้นปราศรัยรับตำแหน่งตัวแทนพรรค ซึ่งไร้คู่แข่ง ในที่ประชุมใหญ่พรรคเดโมแครต

และจะได้รับรู้แนวนโยบายพื้นฐานหรือ policy platform จากการแสดงวิสัยทัศน์ของเธอ ในกรณีที่เธอได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้นำสหรัฐ

ซึ่งแน่นอนว่าจะช่วยดึงดูดใจให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง ลงคะแนนเสียงได้ ด้วยความเชื่อมันว่าจะทำตามแนวนโยบายนั้น

ไม่ใช่เช่น นโยบายเพ้อฟันอันเลื่อนลอยอย่างเช่น”ดิจิตอล วอลเลต”ครับที่ไม่มีทางเป็นไปได้ครบถ้วน

ท่านใดสนใจสามารถเข้าชมได้จากการถ่ายทอดสดของ”ซีเอ็นเอ็น”ครับ

ที่นี้ลองไปดูการหาเสียงของ”ทรัมพ์”บ้างว่า เป็นอย่างไร

หลังถูกวิจารณ์หนักในกรณีที่”ทรัมพ์”เอาเรื่องส่วนตัวของ”แฮร์ริส”มาหาหาเสียงโจมตีเธอบ่อยๆ เพื่อสร้างความเกลียดชังแล้ว“ทรัมพ์”ก็ตอบโต้พร้อมยืนยันว่า จะยังทำต่อไป เพราะนั่นเป็นแนวทางการหาเสียงของเขา ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง อะไรทำนองนั้น

เห็นไหมครับ”เจ้าหมอนี่”ไร้ความเป็นสุภาพบุรุษเพียงไร จะเรียกว่า”ถ่อยสถุล”ก็จะแรงไป

หลังสุดออกมาแถลงว่าถ้า”โรเบอร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์”(ลูกชายของ”โรเบอร์ต เอฟ.เคนเนดี”หรือหลานของอดีตประธานาธิบดี”จอห็น เอฟ.เคนเนดี”)เลิกรณรงค์หาเสียงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี(ไม่สังกัดพรรคใด)เที่ยวนี้แล้ว

ถ้าเขา”ทรัมพ์”ขึ้นเป็นประธานาธิบดี ก็จะให้เป็นรัฐมนตรีช่วยบริหารประเทศ….ว่าเข้านั่น

ซึ่งผมเชื่อว่าคนอย่าง”เคนเนดี จูเนียร์”ไม่เอาด้วยแน่