ตำนานแห่งเข็มฉีดยา
ตำนานแห่งเข็มฉีดยา
อดอล์ฟ ไอชมันเป็นทั้งเทพแห่งความตายและปริศนา สถาปนิกสูงสุดของโฮโลคอสท์ และบุคคลดูเหมือนธรรมดา ณ การสอบสวนเมื่อ ค.ศ1961 ได้ป้องกันตัวเขาเองด้วยการพูดว่าเขาทำตามคำสั่งของอิตเลอร์เท่านั้นภายในการจัดการไฟนอล โซลูชั่น เขาเป็นบุคคลที่สำคัญคนหนึ่งภายในการดำเนินการไฟนอล โซลูชั่น รับผิดชอบการจัดการ และการสนับสนุนการขับไล่มวลชนของยิว ไปสู่สลัม และศูนย์กลางฆ่าภายในตะวันออกที่เยอรมันยึดครองอยู่ เขาจะเป็นบรรดาผู้จัดตั้งที่สำคัญของโฮโลคอสท์ภายในการสอบสวน อดอล์ฟ ไอชมันยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ต่อต้านชาวยิว เขาได้ระบุว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการต่อต้านยิวอย่างหยาบคายของยูลีอูส สไตร์เชอร์ และบุคคลอื่น ที่มีส่วนช่วยต่อหนังสือพิมพ์นาซี การอธิบายถึงการเดินทางก่อนหน้านี้ไปไฮฟา เขากล่าวว่าเขาได้สนใจมากขึ้นต่อยิวมากกว่าอาหรับ เขากล่าวว่าเขาได้สมัครสมาชิกวารสารยิว และซื้อพจนานุกรมจูเดียคา ยิ่งกว่านั้นเขาอ้างว่าเขาได้อ่าน The Jewish State ของธีโอดอร์ เฮเซิล แต่กล่าวว่าเขาไม่เคยได้อ่าน Mein Kamph ของอดอลฟ ฮิตเลอร์ อย่างใกล้ชิดหรือละเอียดเลยอดอล์ฟ ไอชมัน แสดงตัวเขาเองเป็นข้าราชการที่เชื่อฟังทำตามหน้าที่ที่ที่มอบหมายของเขาเท่านั้น เขายืนยันว่าเขาไม่ได้ละเมิดกฏหมายใดก็ตามและนั่นคือเขาเป็นบุคคลที่ไม่สามารถโกหกได้เลย การไม่ยอมรับความรับผิดชอบต่อการฆ่าหมู่ ผมไม่สามารถช่วยเหลือตัวผมเองได้ ผมได้รับคำสั่งแต่ผมไม่มีอะไรเลยที่ทำกับเรื่องนั้น อดอล์ฟ ไอชมันได้หลีกเลี่ยงต่อการอธิบายบทบาทของเขาภายในหน่วยทำลายล้าง และยืนยันว่าเขารับผิดชอบการขนส่งเท่านั้น ผมไม่เคยอ้างไม่รู้เกี่ยวกับการทำลายล้าง ผมเพียงกล่าวว่าสำนักงานของผมไม่มีอะไรต้องทำกับมัน แม้แต่อดอล์ฟ ไอชมานได้สารภาพความไม่สบายใจส่วนบุคคลที่ได้ยินเกี่ยวกับการทำงานของการติดตั้งการปล่อยแก้ส ผมรู้สึกตกใจอย่างมาก ประสาทของผมไม่แข็งแรงเพียงพอด้วยการสังเกตุรถแวนปล่อยแก้สภายในการปฏิบัติการ ณ เคล์มนอ ผมไม่ได้มองข้างใน ผมไม่อาจจะมอง อะไรที่ผมเห็นและได้ยินพอแล้ว เสียงกรีดร้องและ….ผมสั่นเหลือเกินและอย่างอื่น เขาได้ยืนยันว่าเขาจะต้องควบคุมต่อไปของการขับไล่ชาวยิว แต่เขาได้พยายามรักษาระยะทางของเขาจากการฆ่าจริง อดอล์ฟ ไอชมาน ไม่ได้เป็นจำเลยนาซีคนแรกที่ยืนยันความเชื่อฟัง และการยึดกฏหมายในขณะที่ปฏิเสธความรับผิดชอบในที่สุดของเขา เขาดูเหมือนภูมิใจประสิทธิภาพของเขาต่อการสร้างวิธีการปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพขับไล่ชาวยิวหลายล้านคนอดอล์ฟ ไอชมาน ได้ถูกประหารชีวิตเมื่อ ค.ศ 1962 ต่อบทบาทของเขาภายในการทำลายล้างชาวยิว 6 ล้านคน ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองของนาซี ในขณะนี้บันทึกความทรงจำลับของเขาได้ถูกปล่อยออกมาที่อดอล์ฟ ไอชมานพยายามแสดงเป็นบุคคลบางคนที่ทำตามคำสั่งเท่านั้นอดอล์ฟ ไอช์มานเป็นนายทหารนาซี เยอรมัน และอาชกรรมสงครามระหว่างโฮโลคอสท์ อดอล์ฟ ไอชมาน จะเป็นช่างเทคนิคแห่งความตายของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และฟันเฟืองที่สำคัญภายในเครื่องจักรฆ่าของนาซี ยืนยันภายในบันทึกเรือนจำของเขา เขาไม่มีอะไรที่ต่อสู้กับยิว ที่จริงแล้วแม่เลี้ยงของเขามีเครือญาติชาวยิวด้วย เกือบ 40 ปีภายหลังเก็บลั่นกุญเเจไว้ บันทึกความจำลายมือของอดอล์ฟ ไอชมาน อิสราเอลได้ประกาศการปล่อยต้นฉบับของอดอล์ฟ ไอชมาเขียนภายในเรือนจำ ภายหลังที่เขาได้ถูกจับ และนำมาสู่การสอบสวนภายในอิสราเอล เอกสารเกือบ 1300 หน้าเขียนภายในต้นฉบับของอดอล์ฟ ไอชมานจะมีทั้งร่างจดหมาย แผนผัง และเชิงอรรถ มันได้บอกเล่าการป้องกันของอดอล์ฟไอชมานภายในการสอบสวนของเขา เขาจะเป็นเพียงแค่ฟันเฟืองตัวหนึ่งภายในเครื่องจักรนาซี การยืนยันว่าเขาไม่ได้ต่อต้านชาวยิว แต่เขาได้ถูกดึงเข้าไปอย่างเข้าใจผิดต่อความเชื่อชาตินิยมของนาซีเขาแสดงตัวเขาเองเป็นข้าราชการด้วยอำนาจหน้าที่ที่จำกัด เพียงแค่ทำตามคำสั่ง แผนผังได้แสดงเขา ณ ระดับล่างของพีรามิดของลำดับชั้นนาซี อดอล์ฟ ไอชมานได้เขียนว่า มันเป็นธรรมดาที่ผมไม่รับผิดชอบ ไม่ได้เป็นนักวางแผนหัวหน้า นักริเริ่มกระทำ หรือบุคคลออกคำสั่ง ผมควรจะป้องกันตัวผมเองต่อข้อกล่าวหาเหล่านี้ อดอล์ฟ ไอชมานกล่าวว่า ต่อผมแล้ว คำสั่งเป็นสิ่งสูงสุดภายในชีวิตของผม และผมต้องเชื่อฟังมันโดยไม่สงสัยตำแหน่งของผมเป็นอย่างเดียวกับบุคคลอื่นหลายล้านคนที่จะต้องเชื่อฟัง ความแตกต่างเป็นเพียงแค่ผมมีงานที่ยากกว่ามากภายในดำเนินการคำสั่งของผม ผมเชื่อฟังต่อความเป็นผู้นำของเยอรมัน เพราะว่าเราถูกบอกและเชื่อว่าเยอรมันมีศัตรูที่มุ่งหมายของต่อการทำลายเยอรมัน ทั้งที่เป็นความบ้าของความเป็นผู้นำของเราเอง ณ เวลานั้น มันจะมีอิทธพลต่อมโนธรรมผม นาซีได้นำระบำมรณะยิ่งใหญ่ที่สุด และรุนแรงที่สุดตลอดกาล บริหารเยอรมันนักประวัติศาสตร์โฮโลคอสท์ได้โต้แย้งต่ออิสราเอลที่ไม่ยอมจะเปิดเผยบันทึกสำคัญของโฮโลคอสท์ ควรจะปล่อยต้นฉบับออกมานานแล้ว มันจะเป็นความสำคัญอย่างยิ่งที่จะเข้าใจชายคนนี้ นักประวัติศาสตร์ที่ได้เขียนเกี่ยวกับโฮโลคอสท์อย่างกว้างขวาง กล่าว อดอล์ฟ ไอชมานได้ขียนบันทึกของเขาภายในเรือนจำอิสราเอลเมื่อ ค.ศ 1961 หลายชั่วโมงต่อวันตลอดช่วงเวลาสี่เดือน อดอล์ฟ ไอชมาน นั่งที่โต๊ะเล็กภายในห้องเรือนจำของเขา และได้เขียนอย่างลำบากเรื่องราวชีวะประวัติและการครุ่นคริดทางปรัญชาที่เขาได้มุ่งหมายจะให้ศาลและได้พิมพ์เป็นหนังสือในที่สุดภายในบันทึกความจำของเขา อดอล์ฟ ไอชมาน ได้พูดเกี่ยวกับการฆ่าหมู่ของชาวยิว เขาเพียงแค่พูดว่าเขาไม่รับผิดชอบ ต้นฉบับได้รวมไว้ไม่เพียงแต่การปฏิเสธการเกลียดชังยิวของไอชมาน แต่ได้ขยายข้อความแสดงตัวเขาเองเป็นบุคคลครอบครัวรักธรรมชาติเเละเด็กเขาได้ร้องขอว่าปกหนังสือเป็นสีไข่มุก บรรณาธิการของเขาควรจะจดจำสำนวนวาบาเรียของเยอรมันของเขา และเขาได้ละทิ้งคำแนะนำว่าภรรยาของเขาได้สิบเล่มที่เธอได้แจกจ่ายแก่เพื่อนและญาติภายในชื่อของสามีของฉัน อดอล์ฟ ไอชมานได้เรือกชื่อต้นฉบับว่า “False Gods” การอ้างถึงความผิดหวังที่คิดเกี่ยวกับนาซีของเขา ณ เวลาของการเเขวนคออดอล์ฟ
ไอชมาน บันทึกความทรงจำได้ถูกสั่งให้ปิดผนึกไว้ภายในหอจดหมายเหตุของอิสราเอลโดยนายกรัฐมนตรีเดวิด เบน กูเรียน กลัวว่าการพิมพ์อาจจะทำให้จุดมุ่งพร่ามัวเกี่ยวกับการตัดสินอดอล์ฟ ไอชมานอดอล์ฟ ไอชมาน ได้เขียนว่าโฮโลคอสท์ จะเป็นอาชญกรรมยิ่งใหญ่ที่สุดภายในประวัติของมนุษยชาติ เขาได้แสดงการขนส่งของไฟนอล โซลูชั่นของนาซีเป็นการทำงานน่าสยดสยองของเครื่องจักรแห่งความตาย เฟืองต่อกับเฟืองเหมือนเครื่องจักร เขาได้รู้สึกถูกผลักดันที่จะเล่าเรื่องราวของเขา เพราะว่าเขาผมได้เห็นนรกความตาย และปีศาจ เพราะว่าผมต้องมองความบ้าของการทำลายเพราะว่าผมเป็นหนึ่งตัวของม้าหลายตัวลากเกวียน และไม่สามารถหลบหนีไปซ้ายหรือขวาได้ เนื่องจากความมุ่งมั่นของผู้ขับอดอล์ฟ ไอชมานแสดงบทบาทที่สำคัญภายในการดำเนินการของไฟนอล โซลูชั่น เขาได้จัดการการขับไล่ของชาวยิว มากกว่า 1.5 ล้านคนทั่วยุโรปไปสู่ค่ายกักกัน ตามมาจากการประชุมวันเซเมื่อ ค.ศ 1942 เขาจะต้องถ่ายทอดแผนเพื่อ ไฟเเนล โซลูชั่น ไปสู่เครือข่ายนายทหารของเขาช่วยเหลือเขาดำเนินการความพยายามการขับไล่ชาวยิว บทบาทที่สำคัญของเขาคือ การขนส่งของการขับไล่ชาวยิวเมื่อ ค.ศ 1942 อดอล์ฟ ไอช์มันได้พบกับนายทหารนาซีระดับสูง ณ การประชุมวันเซ ใกล้เบอร์ลิน เพื่อความมุ่งหมายการวางแผนไฟเเนล โซลูชัน ของปัญหาชาวยิว ตามที่ผู้นำนาซี แฮร์มัน กอริ่ง ได้กล่าวไว้ โดยที่อดอล์ฟ ไอชมาน ได้ถูกแต่งตั้งที่จะประสานงานการขนส่งชาวยิวหลายล้านคนจากยุโรปที่นาซียึดครองไปค่ายกักกัน ตรงที่ชวายิวได้ถูกใช้แก้ส และทำงานจนตาย เขาได้ทำหน้าที่อย่่างมีประสิทธิภาพที่น่ากลัว และชาวยิวระหว่างสามถึงสี่ล้านคนตายในค่ายกักกัน ก่อนการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่สอง ภายหลังจากสงคราม อดอล์ฟ ไอช์มาน ได้ถูกจับโดยกองทหารอเมริกันเเต่เขาได้หลยหนีจากค่ายทหารไปเมื่อ ค.ศ 1946 แต่นายกรัฐมนตรีคนแรกของอิสราเอลเดวิด เบน กูเรียน ได้สาบานว่าเขาจะต้องรับผิดชอบต่ออาชญกรรมของเขา เหมือนเช่นนาซีคนอื่น ณ การพิจารณาคดีนูเรมเบิรกเมื่อ ค.ศ1950 เขาได้หลบหนีมาที่อาร์เจนตินา ณ เวลานั้น อาร์เจนตินา ได้กลายเป็นสวรรค์ที่หลบภัยต่ออาชญกรนาซีจำนวนมากโดยสิ่งที่รู้จักกันเป็นเส้นทางหนู การหลบหนีภายใต้ชื่อปลอมของเขา อดอล์ฟ ไอชมานได้ถูกว่าจ้างทำงาน ณ โรงงานเมอร์ซีเดส เบนซ์ เมื่อ ค.ศ 1952 ภรรยาและลูกของเขาได้เดินทางมาร่วมกับเขา
ภายในภาพยนตร์ “Operation Finale” : ปฏิบัติการปิดฉากนาซี ผลงานของเนตฟลิกซ์ มันเป็นปลายฤดูใบไม้ร่วงภายในบัวนอส ไอเรส ริคาร์โดคลีเม้นท์ – อดอล์ฟ ไอชมาน – เป็นบุคคลธรรมดามีชีวิตอยู่อย่างธรรมดา ทุกตอนเช้าเขาได้ขึ้นรถโดยสารไปทำงานของเขาเป็นหัวหน้าคนงาน ณ โรงงานเมอรซีเดส เบนซ์ และทุกตอนเย็นเขากลับมาสู่ภรรยาและลูกสองคนของเขาภายในบ้านชานเมืองของพวกเขา ภาพลวงตาที่เป็นการดำรงชีวิตของเขาได้ถูกแตกสลายเมื่อ 11 พฤษภาคม 1960″Un Momentito Senor” : กรุณารอสักครู่ มันเป็นถ้อยคำสามคำเท่านั้นที่สายลับอิสราเอลปีเตอร์ มาลคิล รู้เป็นภาษาสเปน เเต่มันจะเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเส้นทางของประวัติศาสตร์ เขาได้พูดกับหัวหน้าคนงานของโรงงานเมอร์ซีเดส เบนซ์ ชายหัวล้าน กำลังกลับบ้านจากการทำงานเมื่อ 11 พฤษภาคม 1960 และเมื่อชายคนนี้ลังเลที่จะรู้จักเขา ปีเตอร์ มาลคิน ได้กระโดดไปสู่การจับกุมตัว ด้วยความช่วยเหลือของสายลับคนอื่นสามคน เขาได้ปล้ำชายคนนี้ลงไปที่พื้น และดันเขาเข้าไปสู่รถยนต์ และผูกมัดเขาและขับไปที่หลบภัย เพื่อการสอบปากคำผู้จับกุมของเขาทำภารกิจภายในสิบนาที แต่มันได้ถูกวางแผนอย่างรอบคอบหลายเดือนเมื่อตัวตนแท้จริงของริคาร์โด คลีเมนท์กลายเป็นอาชญกรสงครามนาซี อดอล์ฟ ไอชมาน ได้ถูกยืนยัน การปฏิบัติการอย่างกล้าหาญได้ถูกกระทำโดยสายลับของอิสราเอลภายในนามของรัฐบาลอิสราเอลแต่พวกเขาไม่เคยบอกผู้มีอำนาจอาร์เจนตินาเกี่ยวกับภารกิจของพวกเขา การสิ้นสุดของอดอลฟ ฮิตเลอร์ ไม่ได้หมายความเป็นการสิ้นสุดของนาซีดังนั้น Operation Finale ได้เล่าถึงภารกิจที่กล้าหาญการลักลอบอดอล์ฟไอชมานออกจากอาร์เจนตินา Opertion Finale เป็นภาพยนตร์ใหม่กำกับโดยคริส ไวทซ์ นำแสดงโดยออสการ์ ไอเเซค แสดงเป็นปีเตอร์ มาลคินและเบน คิงลี่ย์ เป็นริคาร์โด คลีเมนท์ – อดอล์ฟ ไอชมาน มาเยือนอีกครั้งภารกิจลับที่มีชื่อเสียงมากที่สุดภายในประวัติศาสตร์ เมื่อ ค.ศ 1960 กลุ่มของสายลับมอสสาดอิสราเอล ได้ทำการเดินทางไปอาร์เจนตินา และได้จับตัวนายทหารนาซี อดอล์ฟ ไอช์มัน ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เขารับผิดชอบของการคิดและการดำเนินการแผนเพื่อค่ายกักกัน ไฟแนน โซลูชันที่มีชื่อเสียงของเขา นโยบายนาซีของการกวาดล้างชาวยิว และการฆ่าหมู่ชาวยิว Operation Finale อ้างถึงชื่อรหัสของความพยายามของสายลับมอสสาดของอิสราเอลที่จะจับตัวและลักพาตัวอดอล์ฟ ไอชมาน จากอาร์เจนตินากลับไปที่อิสราเอล ภาพยนตร์ Operation Finale ได้ครอบคลุมการปฏิบัติการทั้งหมด ตั้งแต่การค้นหาที่อยู่อาศัยของริคาร์โด คลีเมนต์ และการยืนยันตัวตนแท้จริงของเขา ผ่านการจับกุมของเขา การสอบปากคำสิบเอ็ดวัน การนำเขาขึ้นเครื่องบินไปอิสราเอล และการเปิดการสอบสวนภายในศาล
โดยส่วนรวม Operation Finale จะเป็นการกระโดดโลดเต้นของนักสืบแฟชั่นเก่าตรงไปตรงมา ทุ่มเทภายในเรื่องของการนำชายคนหนึ่งกลับบ้านอย่างมีชีวิต ตอบคำถามต่่ออาชญกรรมของไรช์ที่สาม แต่การจับกุมเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นของความสำคัญทางประว้ติศาสตร์ของเรื่องราวนั้น อะไรได้เกิดขึ้นต่อไปแม้ว่าส่วนใหญ่อยู่ภายนอกขอบเขตของภาพยนตร์ มันได้ยกปัญหาใหม่เกี่ยวกับความหมายแท้จริงของเเนวคิดเหมือนเช่น ความยุติธรรม ความชั่วร้าย และความผิด
โยนาห์ อีเลียน แพทย์ที่ช่วยเหลือสายลับอิสราเอลจับตัวอดอล์ฟ ไอชมาน ไม่ยอบรับการยกย่องต่อมัน ป้ายทะเบียนปลอม พาสปอร์ตปลอมและกล้องวงจรปิด ได้ถูกเก็บใส่กุญแจภายในหอจดหมายเหตุเหม็นอับของหน่วยสืบราชการลับมอสสาดของอิสราเอลนานห้าสิบปี ในขณะนีมันได้เดินทางไปอเมริกา เพื่อการเเสดงเกี่ยวกับการจับตัวตำนานของนายทหารนาซี อดอล์ฟ ไอชมัน ของมอสสาด แต่วัตถุที่สำคัญอย่างหนึ่งต่อความสำเร็จของภารกิจไม่ได้ถูกนำแสดง เข็มฉีดยาที่ได้ถูกใช้ฉีดยาระงับประสาทที่แขนของอดอล์ฟ ไอชมัน ก่อนที่เขาจะถูกลักพาตัวขึ้นเครื่องบินกลับไปสู่อิสราเอลเพื่อการสอบสวนโยนาห์ อีเลียน เป็นวิสัญญีแพทย์ชาวอิสราเอล และเป็นผู้รอดชีวิตของโฮโลคอสท์ เขาถูกรู้จักกันดีทื่สุดต่อการให้ยาระงับความรู้สึกแก่อดอล์ฟระหว่างการปฏิบัติการมอดสาดจับตัวอดอล์ฟไอชมาน ภายใน Operation Finale บทบาทของโยนาห์ อีเลียน ถูกรวมอยู่ภายใต้ใต้นักแสดงสวม ฮานนา อีเลียน แสดงโดยเมลานี ลอเรนท์ โยนา อีเลียน ได้ถูกรู้จักกันท่ามกลางเพื่อนร่วมงานของเขาเป็นบางสิ่งบางอย่างของนักยามากลเเพทย์ ต่อความเชี่ยวชาวของเขาภายในการระงับประสาทเด็กทารกอย่างปลอดภัย การฉีดยาระงับประสาทขนาดที่ถูกต้อง นำอดอล์ฟ ไอชมาน ผ่านผู้มีอำนาจสนามบินบัวโนสไอเรสเป็นลูกเรือเครื่องบินที่เจ็บป่วยได้สำเร็จ นั่นคือทำไมหมอต้องอยู่กับเขา เขาต้องทำให้เขาเหมือนหุ่นเชิด สายลับมอสสาด พูดเรื่องราวของเข็มฉีดยาเป็นเรื่องราวของดร.โยนาห์ อีเลียนด้วย เขาได้ถูกสรรหาเพื่อภารกิจของอดอล์ฟไอชมันของการฉีดยาระงับประสาท เขาได้ซ่อนเข็มฉีดยาภายในลิ้นชักเกือบตลอดชีวิตของเขา และไม่ยอมออกมาจากเงา แม้ว่าชาวอิสราเอลคนอื่นบนภารกิจได้กลายเป็นวีรบุรุษของชาติ เขาไม่เคยต้องการพูดเกี่ยวกับการปฏิบัติการไอช์มัน แม้แต่เขาไม่ยอมไปสภาอิสราเอล เมื่อ 2007 รับรางวัลต่อบทบาทของเขาภายในการจับกุมหลายครั้งผมได้ถามเขา พ่อ ทำไมพ่อไม่ยอมพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันเป็นความลับเหลือเกิน ลูกชายของหมอพูด ใช้เวลาหลายปีแสวงหาคำตอบ เรื่องราวของหมอ และความลับที่เขาเก็บไว้ออกมาสู่แสงสว่างไม่นานมานี้เท่านั้น แต่เรื่องราวของอดอล์ฟ ไอชมันได้ถูกรู้จักกันอย่างดี
เข็มฉีดยาที่ ดร.โยนาห์ อีเลียนใช้ที่จะระงับประสาทอดอล์ฟ ไอชมันได้ถูกนำแสดง ณ พิพิทธภัณฑ์ของชาวยิวภายในอิสราเอลเมื่อ ค.ศ 2012วันหนึ่งในขณะที่แดนนี่ไปเยี่ยมพ่อของเขา โยนา อีเลียนลุกขึ้นจากเก้าอี้ของเขา ไปที่ห้องนอนของเขา และออกมาถือถุงพลาสติกใบเล็กติดป้ายว่า”เข็มฉีดยาของไอช์มัน” แดนนี ไม่มีรู้เลยว่าที่พ่อของเขารักษามันไว้ตลอดหลายปี เก็บมันไว้ เอเลียน พูด ยื่นมันให้กับลูกชายของเขาสองเดือนต่อมา ตอนอายุ 88 ปี โยนา เอเลียน ได้ฆ่าตัวตาย เขาไม่ได้บันทึกอะไรไว้เลยมันเป็นเข็มฉีดยาที่สำคัญต่อเขา มันหมายถึงบางสิ่งบางอย่างต่อเขาต่อมา ครอบครัวของเอเลียนได้รับโทรศัพท์ความเสียใจหัวหน้าสาบลับที่ได้สรรหาหมอเพื่อการจับตัวไอชมัน เขาต้องการเชิญแดนนี มาเล่าเเขามากขึ้นเกี่ยวกับอะไรพ่อของเขาได้ทำเพื่อมอสสาดเรื่องราวที่พ่อของเเดนนี่ไม่เคยเห็นด้วยที่จะเล่า แต่หัวหน้าสายลับไม่เคยได้รับการติดต่อ และเเดนนี่สงสัยข้อเสนแของหัวหน้าสานลับจริงใจหรือไม่ การประชุมนั้นไม่ได้เกิดขึ้น โยนาห์ อีเลียน เสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย ตอนอายุ 88 ปี เมื่อ 2011มันเป็นภายหลังการเสียชีวิตของเขาที่ลูกชายของเขา แดนนี อีเลียนได้พูดเกี่ยวกับบทบาทของพ่อของเขาภายในการปฏิบัติการมอสสาดแดนนีเป็นหมอด้วย ได้เปิดเผยว่าพ่อของเขาได้ให้เข็มฉีดยาแก่เขาที่ถูกใช้ระงับประสาทไอชมัน ในที่สุด อีเลียน ได้ให้คำอธิบาย เขาได้กระทำขัดเเย้งกับคำสาบานของฮิปโปเครติค ปฏิญานที่หมอไม่ทำอันตรายต่อผู้ป่วยของพวกเขา ผมบอกเขาผมเข้าใจข้อโต้แย้ง แต่คำสาบานของ ไม่บังควรต่อสถานการณ์ มันคือไอชมันที่เรากำลังพูดถึง ฆาตกรหมู่ ตอนเเรก แดนนี ได้แสวงหาการยกย่องต่อพ่อของเขา เขามีเข็มฉีดยาถูกถ่ายภาพไว้ และพิมพ์ภายในหนังสือพิมพ์อิสราเอล และได้พยายามติดต่อพิพิทธภัณฑ์หาบ้านให้แก่มัน ในที่สุดให้ยืมมันเพื่อการแสดงของมอสสาดภายในเทลอาวีฟ แต่ก่อนที่การแสดงเดินทางไปอเมริกา แดนนีได้ดึงมันกลับมาที่เขา ป้ายติดที่พ่อของเขาได้เขียนไว้เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ “Eichmann Needle” เป็นชิ้นเดียวเท่านั้นของลายมือของพ่อของเขาที่เขาได้ทิ้งไว้เข็มฉีดยาเชื่อมโยงสองช่วงเวลาภายในชีวิตของพ่อของเขาเมื่อเขารับใช้ประเทศของเขา ภายในช่วงเวลาหนึ่งเขาสมควรจะเป็นวีรบุรุษ ภายในช่วงเวลาที่สอง วิญญาน เข็มฉีดยาเป็นเพียงแค่เข็มฉีดยา แดนนีื พูดจากโต๊ะของเขา ณ ศูนย์กลางแพทย์เทลอาวีฟ มันไม่สามารถจะทดแทนเรื่องราว การค้นพบ และคำสารภาพได้ แดนนีได้เก็บขีมฉีดยาภายในลิ้นชักที่บ้าน วันหนึ่งเขาจะให้มันแก่ลูกของเขาเอง และพวกเขาต้องตัดสินใจจะทำอะไรกับมรดกนี้อดอล์ฟ ไอชมาน ได้พยายามสร้างกรณีที่เขาไม่เคยฆ่าใครก็ตาม หรือออกคำสั่งเพื่อการฆ่า และเขาได้กล่าวว่า จงรักภักดี การเชื่อฟัง และการรับใช้บ้านเกิดเมืองนอนอย่างมีความสุข เขาไม่ได้ปฏิเสธอะไรที่เขาได้ทำลงไป เขายอมรับว่าเขารับผิดขอบต่อการส่งชาวยิวไปค่ายกักกันแต่ในที่สุดเขาไม่เคยยอมรับว่ามันเป็นความผิดเมื่อ ค.ศ 1957 อัยการเยอรมันได้บอกเล่าเรื่องเป็นความลับแก่อิสราเอลว่าอดอล์ฟ ไอชมา ยังมีชีวิตอยู่ภายในอาร์เจนตินา เมื่อ ค.ศ 1960 สายลับจากหน่วยสืบราชการลับมอสสาดของอิสราเอลได้ติดตามเขาไปที่อาร์เจนตินา ทีมของมอสสาดได้จับกุมตัวเขาได้สำเร็จ และได้กักตัวเชาไว้ภายในที่หลบภัย และลักลอบพาเขาผ่านด่านสนามบินอาร์เจนตินา ขึ้นเครื่องบินมุ่งหน้าไปอิสราเอลนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้ประกาศการจับตัวอดอล์ฟ ไอชมานแก่โลกว่าเขาจะต้องถูกพิจารณาคดีภายในอิสราเอล การสอบสวนอดอล์ฟ ไอชมานต่อหน้าผู้พากษาสามคนภายในเยซูซาเรมเริ่มต้นเมื่อ ค.ศ 1961 และสร้างความรู้สึกไปทั่วโลก ใจเย็น และเรียบร้อย และจัดเเละจัดใหม่เอกสารของเขา เขาได้นั่งอยู่ข้างในกรงกระจกกันกระสุน ในขณะที่คำให้การต่อสู้เขามาจากพยานที่รอดชีวิตจากโฮโลคอสท์การป้องกันของเขาคือเขาทำตามคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาของเขาอยู่เสมอเท่านั้นคำสาบานฮิปโปเครติคเป็นจรรยาบรรณเก่าแก่ที่สุดและได้รู้จักกันกว้างขวางที่สุด ถ้อยคำต้นกำเนิดมาจากฮิปโปเครติค แพทย์ชาวกรีกที่ยกย่องกันโดยทั่วไป ด้วยการเริ่มต้นการปฏิบัติทางแพทย์เป็นวิทยาศาสตร์ คำสาบานเป็นการแสดงเริ่มแรกที่สุดของจริธรรมทางแพทย์ภายในโลกตะวันตก การสร้างหลักการหลายอย่างของจริยธรรมทางแพทย์ที่ยังคงสำคัญสูงสุดจนวันนี้ สิ่งเหล่านี้มีทั้งหลักการของความลับ และการไม่ทำอันตรายทางแพทย์คำสาบานฮิบโปเครติค จะกลายเป็นเอกสารผูกพันเก่าแก่ที่สุดภายในประวัติศาสตร์ เขียนภายในยุคโบราณ หลักการของมันถูกยึดถืออย่างศักดิ์สิทธิ์โดยแพทย์ของวันนี้ รักษาความเจ็บป่วยด้วยความสามารถอย่างดีที่สุด รักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วยสอนความลับของยาแก่รุ่นต่อไป และอย่างอื่น
Cr : รศ สมยศ นาวีการ