jos55 instaslot88 Pusat Togel Online ซอร์ เจมส์ ไดสัน จากรถเข็นไปสู่พันล้าน - INEWHORIZON

INEWHORIZON

ขอบฟ้าใหม่

ซอร์ เจมส์ ไดสัน จากรถเข็นไปสู่พันล้าน

ซอร์ เจมส์ ไดสัน จากรถเข็นไปสู่พันล้าน

วิถีทางง่ายที่สุดและตรงไปตรงมามากที่สุดสร้างผลิตภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ คือ การเกาที่คันของตัวคุณเอง เมื่อคุณแก้ปัญหาของคุณเอง ไฟเริ่มสว่างขึ้น คุณรู้อย่างแน่นอนว่าคำตอบที่ถูกต้องคืออะไร เจสัน ฟรีด ผู้เขียนร่วม “Rework” ได้กระตุ้นเราที่จะเการอยคันของเราเอง ตามพวกเขาเเล้ววิถีทางที่เข้าหาได้ง่ายสร้างผลิตภัณฑ์คือ สร้างบางสิ่งบางอย่างที่ผู้สร้างตัวเขาเองต้องการใช้เจสัน ฟรีดและเดสิด แฮนส์สันมีรอยคันและเกามันเพื่อตัวเขาเอง พวกเขาไม่ต้องคิดมันมาก เเต่ในที่สุดเบสแคมป์ได้ทะยานขึ้นลูกค้าชอบซอฟท์แวร์ของพวกเขา และในขณะนี้มันได้กลายเป็นธุรกิจหลายร้อยล้่านเหรียญการพัฒนาธุรกิจที่ทำกำไรใช้หลายปี การเริ่มต้นทำบางสิ่งบางอย่าง ความคิดไร้คุณค่า การกระทำเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง วิถีทางเเก้ปัญหาของคุณเอง เป็นวิถีทางเรียบง่ายที่สุด ตรงไปตรงมาที่สุดสร้างผลิตภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ ความคิดราคาถูกและมากมาย คำถามที่แท้จริงคือคุณได้ดำเนินการดีแค่ไหนนักคิดค้น เจมส์ ไดสัน ได้เกาที่คันของเขาเอง ในขณะที่ดูดฝุ่นบ้านของเขาเอง เขาได้รับรู้ว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบถุงของเขาสูญเสียแรงดูดอยู่เสมอฝุ่นอุดตันรูเล็กของถุง และปิดกั้นการไหลเวียนของอากาศ มันเป็นปัญหาแท้จริงที่เขาได้เผชิญโดยตรง ด้วยความผิดหวังกับเครื่องดูดฝุ่นของครอบครัวของเขา ดังนั้นเขาได้ตัดสินใจแก้ปัญหา และได้คิดค้นเครื่องดูดฝุ่นไซโคลนเครื่องเเรกของโลก การเริ่มต้นคิดค้นเครื่องดูดฝุุ่่นที่ดีขึ้นเมื่อ ค.ศ 1978 ด้วยการใช้ไซโคลนที่จะยกสิ่งสกปรก ภายหลังห้าปีของการทดสอบ 5,127 ต้นแบบ เจมส์ ไดสัน ได้ค้นพบความลับที่จะสร้างเครื่องดูดฝุ่นไร้ถุงไซโคลนเครื่องแรกของโลก เจมส์ ไดสัน ทำนองเดียวกับผู้ประกอบการที่ยิ่งใหญ่คนอื่น พบความสนุกสนานภายในความล้มเหลว เพราะว่าการทดลองแต่ละครั้งสอนเขาบางสิ่งบางอย่างที่เขาสามารถใช้คิดค้นใหม่ผลิตภัณฑ์ ที่จริงแล้วถ้อยคำความล้มเหลว ปรากฏมากกว่าห้าสิบครั้งตลอดหนังสือของเจมส์ ไดสัน ความล้มเหลว 5,126 ครั้งที่มีชื่อเสียงของเขาได้ให้บทเรียนที่มีคุณค่าต่อการเล่าเรื่องแก่ผู้ประกอบการทุกคนทุกเรื่องราวของความสำเร็จยึดเรื่องเล่าของความกล้าหาญ เจมส์ ไดสัน ได้ผ่านต้นแบบความล้มเหลว 5,216ครั้ง การใช้เงินออมของเขาจนหมดสิ้น การลงไปสู่หนี้สินจำนวนมาก และใช้บ้านของเขาจำนองต่อเงินกู้ธนาคาร ทำนองเดียวกับโทมัส เอดิสัน มีการทดลองที่ล้มเหลวมากกว่า 10,000 ครั้ง ก่อนที่เขาค้นพบทำให้หลอดไฟติดไฟอย่างไร เจมส์ ไดสันไม่เคยแปลความหมายการทดลองที่ล้มเหลวของเขาเป็นความล้มเหลว

วันนี้เขาเป็นบุคคลร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งของอังกฤษ และผู้สนับสนุนที่มีชื่อเสียงของเบรกซิต แต่เจมส์ ไดสัน สร้างความร่ำรวยของเขาได้อย่างไรความคิดทำกำไรม่ากที่สุดของเขาเริ่มต้นด้วยกระดาษเเข็งและเทปเหนียววันหนึ่งเมื่อปลาย ค.ศ 1970 เขาคิดว่าเครื่องดูดฝ่นอุตสาหกรรมภายในโรงงานของเขาบางทีสามารถลดขนาดลงเพื่อใช้ภายในบ้านเครื่องจักรภายในโรงงานของเขามีคุณลักษณะที่ไม่เคยถูกใช้กับเครื่องใช้ครัวเรือนมาก่อน มันไม่ต้องการถุงที่จะรวบรวมฝุ่น แต่มันระบายอากาศได้อย่างรวดเร็ว การสร้างไซโคลนที่ฝุ่นออกไปข้างนอกตรงที่มันสามารถถูกรวบรวมได้เจมส์ ไดสันได้รับรู้โอกาสอยู่ที่นี่ต่อเครื่องดูดฝุ่นไร้ถุงและประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นเจมส์ เมสัน ได้รีบกลับบ้านของเขา รื้อเครื่องดูดฝุ่นของเขาและติดอุปกรณ์ไซโคลน ทำอย่างเร่งรีบจากกระดาษแข็งและเทปเหนียว ผมเริ่มต้นดันมันไปรอบห้องและมันใช้การได้ ยาวนานสี่ปี และต้นแบบมากกว่า 5,000 ครั้ง ต่อมาเครื่องดูดฝุนไร้ถุงได้บรรลุความสำเร็จเมื่อคุณมองย้อนหลังภายในประวัติศาสตร์ของความสำเร็จยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษย์ สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นภายในเกือบทุกกรณีคือ ความสำเร็จมากับเลือด เหวื่อ และน้ำตา และความอุตสาหะอย่างไม่น่าเชื่อ บ่อยครั้งอะไรที่ปรากฏผิวเผินเป็นความสำเร็จข้ามคืนที่จริงแล้วพวกเขาใช้หลายปีที่จะบรรลุความสำเร็จ เฮนรี ฟอร์ด และต้นแบบรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองของเขา วอลท์ ดีสนีย์ และภาพยนตร์แอนนิเมชั่นของเขา อเล็กซานเดอร์เบลล์ และโทรศัพท์ของเขา และเเม้แต่พี่น้องตระกูลไรท์และเครื่องบินของเขา ทั้งหมดเป็นตัวอย่างของบุคคลที่ได้ล้มเหลวหลายครั้ง ก่อนที่พวกเขาจะบรรลุความสำเร็จในที่สุด พวกเขามักจะเผชิญกับความลำบากทางการเงินทุกข์ยากตลอดเส้นทางนักคิดค้นที่รักยิ่งคนหนึ่งของอังกฤษ เจมส์ ไดสัน ได้ทำการปฏิรูปอุตสาหกรรมการทำความสะอาดครัวเรือนด้วยเครื่องดูดฝุ่นไร้ถุง – รวมทั้งสโลแกน “กล่าวอำลาต่อถุง” ภายหลังต้นแบบล้มเหลว 5,126 ครั้ง เขาได้พิสูจน์พลังของความมุ่งมั่น ด้วยการสร้างบริษัืทเครื่องใช้ครัวเรือนแนวหน้าของโลก ต่อมาได้วิวัฒนาการไปสู่การผลิตเครื่องหนีบผม เครื่องเป่ามือ และเครื่องทำความเย็น ในฐานะของบริษัท ไดสัน ได้ยึดครองภายในหลายอุตสาหกรรมก่อนที่เจมส์ ไดสัน กลายเป็นบุคคลที่มั่งคั่ง บุคคลิกภาพที่สร้างสรรค์และทะเยอทะยานของเขาชัดเจนที่จะมองเห็นตั้งแต่อายุน้อย เขาได้ศึกษาวิศวกรรม ณ มหาวิทยาลัย ระหว่างนั้นเขาได้คิดค้นบอลล์แบร์โรว์รถเข็นล้อเดียวที่ใช้ลูกบอลไม่ใช่ล้อ เทคนิคที่เขาได้รับเอาไว้ต่อมาเพื่อผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของเขา ไดสัน คอมพานี ถูกก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อค.ศ 1987 บริษัทได้ขายผลิตภัณฑ์หลายร้อยอย่างภายในประเทศทั่วโลก จุดสำคัญต่อชื่อเสียงของเจมส์ไดสันคือ นวัตกรรมของเขา นำไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีข้อได้เปรียบที่ลูกค้าชอบทั่วโลก ภายในการปรากฏตัวบ่อยครั้งภายในการโฆษณาโทรทัศน์ของเขาเอง เจมส์ ไดสัน ได้สร้างตัวเขาเองเป็นชื่อครัวเรือน ตามเจมส์ เมสันเเล้ว บางครั้งคุณต้องเผชิญทางลบที่จะบรรลุเป้าหมายของคุณ ด้วยคำพูดอ้างอิงที่มีชื่อเสียงของเขา “จุดสำคัญต่อความสำเร็จคือ ความล้มเหลว….. ความสำเร็จสร้างจากความล้มเหลว 99 เปอร์เซ็นต์”การเรียนรู้ด้วยการกระทำ การเรียนรู้ด้วยการลองผิดลองถูก การเรียนรู้ด้วยความล้มเหลว สิ่งเหล่านี้ทุกอย่างเป็นรูปแบบที่มีประสิทธิภาพของการศึกษาคุณไม่สามารถได้ถ้อยคำเครื่องดูดฝุ่นจากกูเกิลโดยไม่มองเห็นชื่อเจมส์ ไดสัน นับตั้งแต่การแนะนำของพวกเขาต่อตลาด เครื่องดูดฝุ่นของบริษัทได้กลายเป็นรู้จักกันเป็นผลิตภัณฑ์มีคุณภาพดีที่สุดที่จะดูดฝุ่นจากพรม ของคุณเครื่องดูดฝุ่นที่เรียบง่ายได้ถูกคิดค้นภายในอังกฤษโดยฮูเบิรต ซีซิล บูธ เมื่อ ค.ศ 1901 ตามเคยชาวอเมริกันได้ยื่นมือมาที่มัน และฮูเวอร์ คอมพานี ได้เปิดตัว ขายเครื่องดูดฝุ่นจากประตูถึงประตู การกำจัดภาระการทำความสะอาดบ้านของแม่บ้าน โดยปรกติการออกแบบนี้ได้เริ่มต้นภายในอังกฤษ และถูกดูดโดยชาวอเมริกัน เราได้ยืดคืนกลับการออกแบบนี้ผ่านทางความสามารถออกแบบอุตสาหกรรมของชายคนหนึ่งจากโครเมอร์ภายในนอร์โฟลค ชายคนนี้ เจมส์ ไดสัน จากนอร์โฟล์คในขณะนี้ร่ำรวยประมาณมากกว่า 3 พันล้านยูโรเจมส์ ไดสัน เกิดเมื่อ ค.ศ 1947 ภายในโครเมอร์ นอร์โฟลค เขาได้ศึกษาที่เกรส์แฮมส์ สกูล และต่อมาที่รอแยล คอลเลค ออฟ อาร์ท ตรงที่เขาได้เริ่มต้นการคิดค้นและการทดลอง การคิดค้นต้นกำเนิดอย่างเเรกของเขา คือ รถเข็นพลาสติคใช้ล้อพลาตติค รถเข็นล้อเดียวด้วยลูกบอลไม่ใช่ล้อแนวคิดที่เขาได้ใช้ภายในการสร้างต่อมา เช่น เครื่องดูดฝุ่นไร้ถุงเมื่อปลาย ค.ศ1970 ผมได้ซื่อเครื่องดูดฝุ่นมีเเรงมากที่สุดภายในตลาด ฮูเวอร์ จูเนียร์ ผมรู้สึกหงุดหงิดเมื่อมันเริ่มต้นเสียแรง และได้เปิดถุงที่อุดตันด้วยฝุ่น แต่มันมีคุณค่าต่ออุตสหกรรม เพราะว่ามันหมายถึงลูกค้าต้องซื้อถุงใหม่อยู่้เสมอวันหนึ่งระหว่างเจมส์ ไดสัน ได้ไปเยี่ยม โรงเลื่อยท้องที่ เขาได้พบเเรงบันดาลใจจากการมองเห็นขี้เลื่อยได้ถูกกำจัดจากอากาศโดยไซโคลนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่างไร เครื่องแยกแบบเเรงเหวี่ยงเป็นวิธีการของการรวบรวมฝุ่น ขยะ สิ่งสกปรกภายในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรม โดยปรกติวิธีการนี้ไม่ได้ถูกประยุกต์ใช้กับขนาดเล็กเนื่องจากต้นทุนที่สูงมันสามารถใช้ได้กับเครื่องดูดฝุนหรือไม่ เขาไดัถูกชักจูงการใช้วิถีทางเดียวกันที่เขาสามารถลบล้างตลาดเครื่องดูดฝุ่นได้ เขาเชื่อว่าหลักการนี้อาจจะใช้กับขนาดเล็กภายในเครื่องดูดฝุ่น แน่นอนพูดง่ายกว่าทำ เจมส์ไดสัน ใช้ 15 ปีต่อมา ทำให้การออกแบบของเขาสมบูรณ์ กระบวนที่ทำให้เกิดต้นแบบแตกต่างกัน 5,127 ครั้ง ปีเหล่านี้ยากลำบากต่อนักคิดค้นและครอบครัวแต่บุคคลอื่นส่วนใหญ่คิดว่าผมบ้า แต่เจมส์ ไดสันรู้เขามีบางสิ่งบางอย่างโอกาสที่จะยิ่งใหญ่ภายในมือของเขาและผลักดัน มันไม่ได้เกิดขึ้นภายในข้ามคืน แต่ภายหลังหลายปีของการทดสอบ และต้นแบบมากกว่า 5,000 ครั้ง มันอยู่ตรงนี้เอง หรือเกือบอยู่ตรงนี้ ผมยังคงต้องการผลิตมันและขายมัน

เมื่อมันมาสู่ความยั่งยืน ไดสันได้ถูกสร้างบนหลักการของวิศวกรรมแบบลีน – ทำให้ได้มากด้วยการใช้น้อย และมุ่งที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่ยาวนานและสมรรถนะสูงใช้ทรัพยากรน้อย ตัวอย่างเช่น มันเริ่มต้นด้วยเครื่องดูดฝุ่นเครื่องเเรกของเรา โดยการทดแทนถุงด้วยไซโคลนความเร็วสูง เราไม่เพียงแต่ชนะปัญหาของการสูญเสียแรงดูด แต่ได้กำจัดการใช้ถุง มุ่งไปสู่หลุมฝังกลบ เครื่องดูดฝุ่นของไดสันไม่มีการใช้หมดไปฝุ่นได้ถูกรวบรวมภายในคอนเทนเนอร์เราไม่ชอบการฟอกเขียวและท้าทายบุคคลที่ทำ ผมรังเกียจอยู่เสมอบริษัทที่ใช้การฟอกเขียวเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดของพวกเขา ผมได้ลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมของเราค่อนข้างเงียบและด้วยการกระทำวิศวกรต้องการโดยสัญชาติญาน ด้วยการปรับปรุงอะไรทำให้มันมันมีประสิทธิภาพมากขึ้น และใช้ทรัพยากรน้อยลงความมุ่งหมายคือใช้วัตถุให้น้อย และลดการใช้พลังงาน เขาไม่ชอบเมื่อผู้ผลิตวางตลาดผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเป็นมิตรต่อสิ่งเเวดล้อมโดยไม่ทำการปรับปรุงวิศวกรรมอย่างเเท้จริง การฟอกเขียวเป็นถ้อยคำใช้อธิบายการกระทำที่เข้าใจผิดหรืิอไม่จริงเกี่ยวกับผลกระทบทางบวกที่บริษัทหรือผลิตภัณฑ์มีต่อสิ่งแวดล้อม การทำให้บุคคลเชื่อว่าบริษัทของคุณกระทำที่จะป้องกันสิ่งเเวดล้อมมากกว่ามันเป็นจริง ด้วยคำพูดอีกอย่างหนึ่ง ธุรกิจสร้างข้อความที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับการปฏิบัติที่ยั่งยืนของพวกเขา การกระตุ้นให้ลูกค้าใช้เงินมากขึ้นกับผลิตภัณฑ์ของพวกเขา การฟอกเขียวเป็นถ้อยคำสร้างครั้งแรกโดยนักศึกษาคนหนึ่งมองย้อนหลังไป ค.ศ 1980 ณ โรงแรมภายในฟิจิ เขาได้มองเห็นข้อความขอให้แขกของโรงแรมหยิบผ้าขนหนูของพวกเขา เพราะว่าการใช้ซ้ำมันจะช่วยรักษาสิ่งเเวดล้อม นักศึกษาคนนี้คือ นักสิ่งเเวดล้อม เจย์ เวสเตอร์เวลด์ ในขณะที่รีสอร์ท ได้อ้างที่จะคุ้มครองแนวปะการังใต้ทะเลและระบบนิเวศของเกาะบนข้อความ แต่เจย์ เวสเตอร์เวลด์รู้ว่ารีสอร์ท กำลังขยายตัวอย่างรวด สร้างบังกาโลใหม่ด้วยการคิดถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมเล็กน้อย นั่นเป็นความย้อนเเย้งในขณะที่รีสอร์ทยอมรับที่จะดูแลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม การกระทำของพวกเขาเป็นอีกอย่างอย่าง พวกเขาพอใจต่อต้นทุนซักผ้าที่ต่ำลง ภายหลังจากั้น เจย์ เวสเตอร์เวลด์ได้เขียนบทความยกตัวอย่างข้อความของโรงเเรมเป็นการฟอกเขียวเเก่วารสารฉบับหนึ่ง และถ้อยคำของเขาได้ถูกหยิบขึ้นมาภายในสื่อกระเเสหลัก

ผมชื่นชมโซอิชิโร ฮอนดาอย่างมาก ต่อการทุ่มเทการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ อย่างต่อเนื่องของเขา อัฉริยะของเขาคือ การคิดผิดธรรมดาในขณะที่มุ่งการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ฮอนดาได้ลงทุนรายได้ของพวกเขาไปสูอาร์ แอนด์ ดี เพื่อการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โซอิชิโร ฮอนดา เป็นผู้เชี่ยวชาญการปรับปรุงทำซ้ำ เขาไม่เคยพอใจสภาวะเดิม เขาเปลี่ยนแปลงอาจจะเล็กน้อยอยู่เสมอแต่ละครั้ง แต่ในที่สุดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเหล่านี้ทุกอย่างรวมกันเป็นการปรับปรุงแบบก้าวกระโดดดังนั้นอะไรเป็นความลับต่อความสำเร็จของฮอนดา เหนือสิ่งอื่นใด มันเป็นความผูกพันที่ไม่เปลี่ยนแปลงต่อนวัตกรรมและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ฮอนด้า ไม่เคยพอใจกับสภาพเดิม เขาเชื่อว่าเรามีวิถีทางทำอะไรให้ดีขึ้นอยู่เสมอ และเขากระตุ้นบุคคลของเขาคิดด้วยวิถีทางเดียวกันเขาเชื่อต่อการรับความเสี่ยงภัยและเดินตามความลุ่มหลงของเขา ครั้งหนึ่งเขาได้กล่าวว่า “ความสำเร็จแสดง 1% ของงานของคุณที่เกิดขึ้นจาก 99% ของความล้มเหลว” โซอิชิโร ฮอนดา เชื่อว่าความสำเร็จสามารถบรรลุได้ผ่านทางการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การปรับตัว และการปรับปรุงเท่านั้น เขากระตุ้นบุคคลรับเอาความท้าทาย เรียนรู้จากความล้มเหลว และมุ่งความเป็นเลิศกับทุกด้านของงานของพวกเขา โซอิชิโร ฮอนดามีความผูกพันอย่างเข้มแข็งต่อความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม เขาเชื่อต่อการพัฒนาเทคโนโลยีและการปฏิบัติทำให้ผลกระทบต่อสิ่งเเวดล้อมน้อยที่สุด ฮอนอยู่แถวหน้าของการพัฒนายานพาหนะเป็นมิตรต่อสิ่งเเวดล้อม ส่งเสริมประสิทธิภาพของเชื้อเพลิง ลดการปล่อยมลพิษ และสำรวจแหล่งพลังงานทางเลือก โซอิชิโร ฮอนดาเชื่อว่าความสำเร็ของบริษัทควรจะเลยพ้นไปจากรายได้ทางการเงิน และควรจะมีส่วนช่วยทางบวกต่่อสังคม ปรัชญาบริษัทของ โซอิชิโร ฮอนดา มุ่งที่การเดินตามความฝัน เคารพต่อบุคคล การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ความรับผิดชอบทางสิ่งเเวดล้อม และการมีส่วนช่วยสังคมทางบวกภายในแนวคิดของการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและคุณภาพของพวกเขา ฮอนดา อ้างถึงโมโนซูคูริ การเป็นช่างฝีมือ ศิลปของการทำสิ่งของ การผลักดันโมโนซูคูริไปสู่พื้นที่ของการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องของกระบวนการผลิต ฮิโตซูคูริ อ้างถึงการสร้างบุคคล ความลุ่มหลงเเละศิลปของการพัฒนาบุคคลผ่านทางการศึกษา บุคคลที่สามารถสร้างกระบวนการผลิตใหม่ และเสนอแนะการผลิตใหม่ เจมส์ ไดสัน ชื่นชมเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้ความคิดของญี่ปุ่น ผมชอบเรื่องราวเกี่ยวกับอกิโอะ โมริตะ คิดค้นโซนี วอลคแมน โดยไม่รับฟังแผนกการตลาดของเขา พวกเขากล่าวว่า มันต้องบันทึกได้ คุณไม่สามารถขายบางสิ่งบางอย่างเพียวแค่ถ่ายทอดเสียง แต่อกิโอะ โมริตะกล้าหาญที่จะพูดว่า ไม่ใช่ ผมเพียงแค่ต้องการบางสิ่งบางอย่างที่เล่นดนตรี ดังนั้นผมสามารถฟังดนตรีที่ชอบเมื่อผมอยู่บนเครื่องบิน ผมชอบอย่างนั้นการออกแบบต้องถูกพิจารณานำหน้าเวลาของมัน และบางครั้งเนื่องจากเหตุนี้ แม้ว่าน่าหัวเราะ เมื่อโซนี วอลคแมน ออกมา ผมชี่นชมอย่างแท้จริง เพราะว่าการสร้างเครื่องบันทึกเทปที่ไม่บันทึกใช้ความกล้าอย่างมาก แต่เขามีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับสิ่งนี้ การผลิตวอลคแมนได้ถกเถียงกันมากภายในโซนี ณ ตอนเริ่มต้น มันได้ถูกยกเลิกเมืื่อเปิดตัวครั้งแรก เพราะว่าบุคคลทุกคนคิดว่าไม่มีใครต้องการเครื่องบันทึกเทปที่ไม่สามารถบันทึก แต่กระนั้น มาซูระ อิบูกะ ผู้ก่อตั้งร่วมโซนี ได้ตัดสินใจเดินหน้ากับการผลิตโดยไม่คำนึงถึง มันเป็นความกล้าหาญอย่างแท้จริง พวกเขาได้ไปเเละถามบุคคล คุณต้องการซื้อเครื่องบันทึกเทปที่ไม่บันทึกนี้หรือไม่ มันเป็นเพียงแค่เล่นเทปที่อัดไว้ และบุคคลทุกคนพูด ไม่ และไร้สาระแน่นอนบุคคลต้องการต้องการเครื่องบันทึกเทปที่สามารถบันทึกได้ แต่อกิโอะ โมริตะ ณ โซนี่ มีความกล้าหาญที่จะมองว่าเเม้ว่าไม่มีใครพูดว่าพวกเขาต้องการมัน เขาเชื่อว่าพวกเขาต้องการมัน เพราะว่าพวกเขาสามารถใส่มันภายในกระเป๋าของพวกเขา และฟังดนตรีด้วยหูฟัง ไม่มีใครเคยสามารถทำมาก่อน เขาได้คาดคะเนการขายวอลคเเมน 5,000 เครื่องต่อเดือน แต่เมื่อมันได้เปิดตัว มันได้กลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรม และภายในสองเดือนเเรก อิบูกะ ขายวอลคแมนได้ 50,000 เครื่อง เมื่อเวลาการผลิตได้สิ้นสุดลงภายในญึ่ป่นเมื่อ ค.ศ 2010 วอลคเเมนมากกว่า 400 ล้านเครื่องได้ถูกขายทั่วโลก ราคา ณ 150 เหรียญ วอลคแมนกระทัดรัดสีเงินและน้ำเงิน ราคาไม่ถูก ด้วยหูฟังโฟมน้ำหนักเบา และไม่มีการใช้งานใดนอกจากเล่นเทปที่อัดไว้ สื่อได้เหน็บแนมมัน แม้แต่ชื่อยังน่าขัน บุคคลมากขึ้นและมากขึ้นค่อยลองดูกับมัน พวกเขาได้ตกหลุมรักกับมันระหว่างการเดินทาง และในที่สุด
ถ้อยคำ วอลคแมน ได้เข้าไปสู่พจนานุกรมอังกฤษออกฟอร์ดโซนี่มุ่งที่นวัตกรรมและคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่สูง ผลิตภัณฑ์ของโซนี่ต้องเป็นนวัตกรรมอยู่เสมอ เนื่องจากบริษัทเชื่อว่า นวัตกรรมมีอุปสงค์มากมาย และไม่ต้องโยงกับการวิจัยตลาดมาก ดังที่ อกิโอะ โมริตะ ได้กล่าวว่า “แผนของเราคือนำประชาชนด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ใช่ไปถามพวกเขาว่าต้องการผลิตภัณฑ์อะไร ประชาชนไม่รู้ว่าอะไรเป็นไปได้ แต่เรารู้” สตีฟ จ็อป ผู้ก่อตั้งแอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์ ได้อ้างอิงคำพูดนี้อยู่เสมอ
อกิโอะ โมริตะ เป็นบุคคลที่ทำให้ญี่ปุ่นผงาดขึ้นมาจากเศษหินและอิฐภายหลังสงครามโลกครั้ง อกิโอะ โมริตะ ภูมิใจตัวเองกับโซนี่วอล์คแมน เครื่องเล่นเทปที่มีหูฟังพกพาได้ ที่จริงแล้วตามประวัติของบริษัท วอล์คแมนเป็นความคิดของมาซารุ อิบูกะ แต่โมริตะได้กดดันโครงการอย่างหนัก การเอาชนะการต่อต้านเครื่องเล่นเทปที่บันทึกเสียงไม่ได้ภายในโซนี่ แม้ว่าเริ่มแรกโมริตะได้สงวนชื่อของผลิตภัณฑ์ไว้ ในที่สุดเขาได้สั่งให้บริษัทเรียกชื่อว่าวอล์คแมน การกลายเป็นระดับโลกของโซนี่ ได้เริ่มต้นขึ้นมาเมื่ออกิโอะ โมริตะ ได้ย้ายครอบครัวของเขาไปอยู่อเมริกา เพื่อที่จะเรียนรู้และเข้าใจชาวอเมริกา ตลาด และข้อบังคับของอเมริกา เขาได้สังเกตุเห็นว่าเด็กและเพื่อนของเขา เล่นดนตรีตั้งแต่เช้าจนค่ำ บุคคลฟังเพลงจากวิทยุรถยนต์ และต้องนำวิทยุขนาดใหญ่ไปชายหาดและสวนสาธารณะ ต้นกำเนิดความคิดของวอล์คแมน

Cr : รศ สมยศ นาวีการ

Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *