”ริชชี ซูนัค”เจอศึกหนักในการแก้ไขเศรษฐกิจ
สบาย สบาย สไตล์เกษม
เกษม อัชฌาสัย
”ริชชี ซูนัค”เจอศึกหนักในการแก้ไขเศรษฐกิจ
ผมไปเที่ยวมา จึงหายไปจาก”เฟซบุ๊ค”ทั้งวัน เมื่อวันหยุดที่ ๒๔ ตุลาคมที่ผ่านมา
ทั้งๆ ที่ห่วงติดตามข่าว การช่วงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมหรือ Tory ของอังกฤษระหว่าง “ริชชี ซูนัค”และ”เพนนี มอร์ดอนท์”
กลับมาเขียนหนึ่งบทความ ในตอนค่ำ เพื่อทบทวนสถานการณ์ล่าสุด
พอเขียนเสร็จ ก็รู้ข่าวสดๆ ร้อนๆ ตอนนั้นเลยว่า “เพนนี มอร์ดอนท์”ถอนตัว จากการแข่งขัน เพราะรู้ตัวว่าไปไม่รอด เนื่องจากเสียงสนับสนุน มีไม่ถึง ๑๐๐ เสียง
“ไชโย”ผมตะโกนร้องในใจ
(บทความผมชิ้นนั้นเลย“เน่า”ในทันทีทันใด แต่ยังพอจะมีคุณค่าในเชิงวิเคราะห์ข่าวได้ จึงตัดสินใจโพสต์ลงใน”เฟซบุ๊ค”)
ทั้นี้ หมายความว่า “ริชชี ซูนัค”ได้ขึ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษแน่แล้ว
กระแสสื่อสังคมออนไลน์ในเมืองไทย ระรัวไปด้วยความเห็นต่างๆ เช่น สะใจที่อินเดีย ถูก”เอาคืน” ต่อกรณีที่ถูกอังกฤษยึดครองนับร้อยปี
หรือไม่ก็ว่า เป็นความดีของระบอบประชาธิไตยอังกฤษที่เปิดกว้าง แม้ในใจลึกๆ ของคนผิวขาวไม่น้อย ยังคงรู้สึกเหยียดคนสีผิวกลายๆ
เอ้า…หยุดความชื่นชมยินดีกันได้แล้ว
ในการปราศรัยหน้าบ้านหมายเลข ๑๐ ถนนดาวนิง(หลังจากเข้าเฝ้ากษัตริย์ชารลส์ เพื่อน้อมรับพระราชโองการขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่วังบักกิงแฮม
นายกรัฐมนตรี”ริชชี”ปราศรัยต่อชาวอังฤษอย่างย่นย่อว่า”สหราชอาณาจักรกำลังเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง”
พร้อมให้คำมั่นสัญญาว่าเขา”จะแก้ไขความผิดพลาดที่”ลิซ ทรัสส์”ทำไว้”
รายงาน แจ้งว่าในวันแรกที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เขาโทรศัพท์ไปคุยกับประธานาธิบดีสหรัฐ”โจ ไบเดน”และประธานาธิบดี”โวโลดีมีร์ เซเลนสกี”แห่งยูเครน
แต่ไม่มีใครรู้ว่าพูดคุยอะไรกัน แต่ผมก็เข้าใจเอาเองว่าคงจะให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ทอดทิ้งกัน
ถามว่า อดีตนายกรัฐมนตรี”ลิซ ทรัสส์”ผิดพลาดตรงไหน ตามที่”ซูนัค”กล่าวหา
ตอบว่า เธอเองยอมรับว่าได้ทำผิดพลาดในการเดินแผนปฏิรูปเศรษฐกิจ
โดยทำในลักณะ”ไกลเกิน”และ”เร็วเกิน” โดยเริ่มจากการลดภาษี ในผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลายอย่าง หมายมีการจับจ่ายใช้สอย คล่องมือขึ้น
แต่กลับกลายเป็นว่า ไปเขย่าให้ตลาดการเงินสั่นคลอน ไม่เป็นที่ยอมรับได้
เสียงปฏิเสธไม่ยอมรับ มาจากทุกมุมเมืองก็ว่าได้ ทั้งจากพรรคแรงงานฝ่ายค้านและจาก ส.ส.ภายในพรรคอนุรักษ์นิยม ที่ปฏิเสธไม่ยอมรับ
ค่าเงินสกุลปอนด์สเตอร์ลิงตก เมื่อเทียบค่ากับค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ
ส่งผลให้ “มอร์ดอนท์”ต้องขอให้รัฐมนตรีคลัง”ควาซี ควาร์เต็ง”พ้นจากตำแหน่งไป ฐานที่เป็น”ต้นคิด”ในการนำเสนอ
ต่อมา“ชูเอลลา เบรเวอร์แมน”รัฐมนตรีมหาดไทย ก็ลาออกไปอีกคนในความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ คือใช้”ออนไลน์”ส่วนตัวส่งงานราชการ
ถือเป็นผิดกฎระเบียบ ตามที่ตราเอาไว้
แม้เป็นการแสดงความรับผิดชอบ แต่ก็เป็นการส่งสัญญานที่ไม่ดีเลย สำหรับการบริหารประเทศในยามวิกฤติ เช่นนั้น
ยิ่งส่งผลทางจิตวิทยาต่อ ครม.ร่วมรัฐบาลไปกันใหญ่
อันนำไปสู่การลาออกจากตำแหน่งของเธอ ในที่สุด
ถามว่าสภาพการณ์อย่างนี้ นายกรัฐมนตรี”ริชชี ซูนัค”จะทำอย่างไรต่อไป
เขาแถลงสั้น ๆ ในวาระรับตำแหน่งว่า จะลดค่าใช้จ่ายด้านต่างประเทศลงและขึ้นภาษี
แต่รายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น ก็ต้องติดตามดูกันครับ
ผมเอง ไร้สติปัญญาที่จะไปตีความต่อ
ไม่ว่าจะหนทางใด ทั้งนั้น