jos55 instaslot88 Pusat Togel Online วรรณคดีจีน - INEWHORIZON

INEWHORIZON

ขอบฟ้าใหม่

วรรณคดีจีน

วรรณคดีจีน

รศ.ดร.สมศักดิ์ แต้มบุญเลิศชัย

ตั้งแต่สมัยโบราณ ประเทศจีน มีผลงานทางวรรณคดีเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่เริ่มมีหลักฐานที่บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรในประวัติศาสตร์ ประเทศจีนมีวรรณกรรมที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในแต่ละสมัย เมื่อประมาณ 2500 ปีก่อน ในราชวงศ์โจว(周)ปลายช่วงชุนชิว(春秋) บทกวีเรื่องซือจิง(诗经)ซึ่งเป็นหนังสือรวมบทกวีที่รวบรวมโดยขงจื๊อได้ถือกำเนิดขึ้น ต่อมาก็มีบทกวีที่เขียนโดยชวีเหวียน(屈原)ซึ่งเป็นขุนนางตงฉินที่มีความจงรักภักดีต่อประเทศชาติ(รัฐฉู่) แต่ต้องถูกปลดออกจากตำแหน่ง ได้ผลิตบทกวีซึ่งถือกันว่าเป็นวรรณกรรมชิ้นเอกชิ้นหนึ่งในประวัติศาสจีน ในสมัยราชวงศ์ฮั่น(汉)ถัง(唐)ซ่ง(宋)เหวียน(元)หมิง(明)และชิง(清)ก็มีวรรณกรรมที่มีรูปแบบและลักษณะที่แตกต่างกัน บทกวีที่โดดเด่นในสมัยราชวงศ์ฮั่นที่เป็นที่นิยมกันมากในสมัยนั้นเรียกว่าฟู่(赋)ซึ่งมีลักษณะที่ผสมผสานกันระหว่างบทกลอนและความเรียง โดยมีการเน้นการใช้ภาษาที่สละสลวย เล่าถึงเรื่องราวในสมัยนั้นและตำนานในสมัยโบราณ
ในสมัยราชวงศ์ถัง วรรณกรรมประเภทบทกลอนมีความเฟื่องฟูมาก ในสมัยนั้นมีนักกวีที่มีชื่อเสียงโดดเด่นที่สร้างผลงานอมตะที่นักศึกษาทั้งในอดีตและปัจจุบันสามารถท่องจำได้ขึ้นใจเป็นจำนวนมาก กลอนเหล่านี้ นอกจากมีความไพเราะแล้วยังมีเนื้อหาที่แสดงออกซึ่งอารมณ์สุนทรีและแฝงด้วยความคิดที่น่าสนใจ
ในสมัยราชวงศ์ซ่ง วรรณกรรมที่โดดเด่นคือฉือ(词) ซึ่งเขียนออกมาเป็นรูปกลอนที่สามารถใช้ในการขับร้องประกอบดนตรี มีรูปแบบที่ประกอบด้วยประโยคที่สั้นและยาวสลับกัน
ในสมัยราชวงศ์เหวียน วรรณกรรมที่โดดเด่นและเป็นที่นิยมกันมากคือบทเพลงและบทละคร ซึ่งนิยมนำมาขับร้องและแสดงเป็นละครกันจนถึงปัจจุบัน
ในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง วรรณกรรมที่โดดเด่นเป็นประเภทพงษาวดารหรือนวนิยาย ในช่วงเวลานั้น มีนวนิยายที่คนจีนถือกันว่าเป็นเรื่องที่มีเนื้อหาสนุกสนาน แฝงไปด้วยปรัชญาชีวิต กลอุบาย รวมทั้งเกล็ดประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมในมิติต่างๆ ที่ถือกันว่าเป็นนวนิยายที่ดีเลิศคือ พงษาวดารเรื่องสามก๊ก(三国演义)นวนิยายเรื่องสุยหู่จ้วน(水浒传)หรือวีรบุรุษและแห่งเขาเหลียงซาน ไซอิ๋ว(西遊记)และความรักในหอแดง(红楼梦)ซึ่งทั้งสี่เรื่องนี้ล้วนเขียนขึ้นในสมัยนี้
นอกจากวรรณคดีในรูปแบบต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น ยังมีงานเขียนแบบอื่นๆอีกมาก นักวิชาการจีนในสมัยโบราณต้องศึกษาคัมภีร์ของนักปราชญ์โดยเฉพาะคำสอนของขงจื๊อ ตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจวเป็นต้นมา ประเทศจีนมีการบันทึกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญในทุกยุคทุกสมัย ทั้งประวัติศาสตร์ที่เป็นทางการและเรื่องราวตั้งประวัติศาสตร์ที่เขียนออกมาเป็นพงษาวดาร และเกล็ดประวัติของบุคคลสำคัญที่มีการเผยแพร่กันในหมู่ประชาชน นอกจากนั้น ยังมีบทความหรือความเรียง เรื่องสั้นและวรรณคดีในรูปแบบอื่นอีกจำนวนมาก
ในสมัยราชวงศ์ชิง ช่วงที่กษัตริย์เฉียนหลงครองราชย์อยู่ มีการสังคายนา วรรณคดีที่มีอยู่ในประเทศครั้งใหญ่ โดยการรวบรวมวรรณคดีที่มีอยู่ในที่ต่างๆเข้าเป็นรูปเล่ม กล่าวกันว่า กษัตรเฉียนหลงมอบหมายให้นักวิชาการหลายร้อยคนใช้เวลารวม 13 ปีกว่าจะรวบรวมได้ครบถ้วนสมบูรณ์ ชุดวรรณกรรมนี้เรียกว่าซื่อคู่เฉวียนซู(四库全书)ซึ่งมีความหมายว่าคลังหนังสือสี่ประเภท วรรณกรรมที่มีการรวบรวมไว้ได้รวมเอาหนังสือและบทความจำนวนมากเข้าด้วยกัน ยกเว้นสิ่งที่มีเนื้อหาเป็นปรปักษ์ต่อราชวงศ์ชิงซึ่งถูกทำลายไป โดยมีการพิมพ์เป็นหนังสือ 36,000 เล่ม แบ่งออกเป็นสี่ประเภทคือ1. คัมภีร์และบทกวีที่นักวิชาการและขุนนางสมัยต่างๆใช้เป็นตำราในการศึกษาเล่าเรียนและใช้ในการสอบคัดเลือกเข้ารับราชการ 2. บันทึกทางประวัติศาสตร์ 3. คำสอนของนักปราชญ์สมัยโบราณ เช่น ปรัชญาของขงจื๊อและนักปราชญ์ที่สำคัญคนอื่นๆ ตำราพิชัยสงคราม ตำราการแพทย์ คณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ตลอดจนคัมภีร์ทางด้านศาสนา เช่น ลัทธิเต๋าและศาสนาพุธ และ 4. หนังสือที่รวบรวมบทความ บทละคร บทเพลง นิยาย เรื่องสั้น สารคดี และวรรณกรรมอื่นๆที่ไม่ได้จัดอยู่ในสามประเภทแรก
นักวิชาการจีนในสมัยต่างๆได้ผลิตงานเขียนออกมาจำนวนมาก งานเขียนบางชิ้นถือกันว่าเป็นวรรณกรรมชั้นเลิศที่ควรแก่การศึกษาและท่องจำ ในสมัยราชวงศ์ชิง มีผู้ทำการรวบรวมบทความที่ดีเด่นตั้งแต่สมัยเลียดก๊กในเวลากว่า2500 ปีก่อนจนถึงสมัยราชวงศ์ชิงและตั้งชื่อหนังสือว่า”กู่เหวินกวนจื่อ”(古文观止)หรือรวมบทความชั้นยอดในสมัยโบราณ หนังสือรวมบทความเล่มนี้ถือได้ว่าเป็นหนังสือที่มีคุณค่าทางวรรณคดีเล่มหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อนักศึกษาในปัจจุบัน เพราะนอกจากมีการรวบรวมบทความที่โดดเด่นในยุคต่างๆแล้ว ยังมีการอธิบายถึงความหมายของคำศัพท์ต่างๆ ทั้งยังมีการแปลเป็นภาษาปัจจุบันด้วย
ในปัจจุบัน ภาษาจีนมีวิวัฒนาการ ไปในทางที่อ่านง่าย เขียนง่าย และเข้าใจได้ง่าย ในช่วงทศวรรษ 1920 ถึง 1940 มีนักเขียนจีนที่มีชื่อโด่งดังหลายคน เช่น หลู่ซิ่น(魯迅)ปาจิน(巴金)และ เสิ่นฉงเหวิน(沈从文)ซึ่งได้เขียนวรรณกรรมประเภทนิยาย เรื่องสั้นและบทความที่มีเนื้อหาสาระที่น่าประทับใจทั้งในแง่การเล่าเรื่องและการแสดงความคิดเห็น แต่ตั้งแต่มีการยึดครองอำนาจโดยพรรคคอมพรรคคอมมิวนิสต์ในปีค.ศ.1949 จนถึงการสิ้นสุดการปฏิวัติวัฒนธรรมในปี 1976 ในจีนแผ่นดินใหญ่ก็มีงานวรรณกรรมที่โดดเด่นจำนวนน้อยมาก เนื่องจากมีการครอบงำในการแสดงความคิดโดยชนชั้นปกครอง โดยเฉพาะในช่วงที่มีการลงโทษและกวาดล้างนักวิชาการที่เป็นปรปักษ์หรือที่มีความเห็นที่แตกต่างกับผู้มีอำนาจในสมัยปฏิวัติวัฒนธรรม(ค.ศ.1966-1976) ผลงานทางด้านวรรณคดีได้ถูกทำลายไปมาก
จนกระทั่งประเทศจีนมีการปฏิรูปทางเศรษฐกิจในปี 1978 วรรณคดีประเภทต่างๆโดยเฉพาะประเภทนวนิยายทั้งเรื่องยาวและเรื่องสั้น บทภาพยนต์และบทละครจึงกลับเข้ามาเฟื่องฟูอีกครั้ง ในปีค.ศ. 2000 นับเขียนจีนชื่อเกาสิงเจี้ยน(高行健) เป็นคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบลทางด้านวรรณกรรม และนักเขียนจีนชื่อโม่เอี๋ยน(莫言) เป็นคนที่สองที่ได้รับรางวัลโนเบลวรรณกรรมในปี2012 ซึ่งทั้งสองคนนี้มีผลงานส่วนใหญ่เป็นประเภทนวนิยาย
เหตุที่นักเขียนจีนเพิ่งได้รับรางวัลโนเบลทางด้านวรรณกรรมในไม่นานมานี้ สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะว่า ก่อนหน้านี้ ผลงานของนักเขียนจีนมีการแปลออกมาเป็นภาษาต่างประเทศในจำนวนน้อย ผลงานวรรณกรรมของจีนจึงไม่เป็นที่รู้จักกันมากในระดับนานาชาติ ยกเว้นงานเขียนที่มีการตีพิมพ์และมีการเผยแพร่มาเป็นเวลานานแล้ว

Facebook Comments

One thought on “วรรณคดีจีน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *