jos55 instaslot88 Pusat Togel Online วิสัยทัศน์ : สัญลักษณ์ของหยิน-หยาง - INEWHORIZON

INEWHORIZON

ขอบฟ้าใหม่

วิสัยทัศน์ : สัญลักษณ์ของหยิน-หยาง

บริษัทที่บรรลุความสำเร็จอย่างยั่งยืนจะมีค่านิยมแกนและความมุ่งหมายแกนที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่ากลยุทธ์ทางธุรกิจและการปฏิบัติได้ปรับตัวอย่างไม่สิ้นสุดต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก การรักษาแกนและการกระตุ้นความก้าวหน้าจะเป็นเหตุผลที่บริษัทเหมือนเช่นฮิวเลตต์-แพคการ์ด 3 เอ็ม จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิ้ล เมอร์ค โซนี่ และโมโต
โรล่า ได้กลายเป็นสถาบันที่ยอดเยี่ยม พวกเขาสามารถต่ออายุตัวพวกเขาเองและบรรลุผลการดำเนินงานระยะยาวที่เหนือกว่า บุคคล ณ ฮิวเลตต์-แพคการ์ด ได้รู้มานานแล้วว่า การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ วัฒนธรรม และการปฏิบัติ ไม่ได้หมายถึงการสูญเสียจิตวิญญานของเอชพี เวย์ หลักการแกนของบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ได้เปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ โครงสร้าง และกระบวนการ อย่างต่อเนื่อง ด้วยการรักษา ” ปรัชญาของเรา” ไว้ เมื่อ ค.ศ 1996 3 เอ็ม ได้ขายธุรกิจหลายอย่างของบริษัท การก้าวไปอย่างสำคัญที่สร้างความประหลาดใจแก่หนังสือพิมพ์ทางธุรกิจ เพื่อที่จะปรับปรุงจุดมุ่ง บนความมุ่งหมายแกนที่ยั่งยืนของการแก้ปํญหาที่ไม่ได้ถูกแก้ด้วยนวัตกรรม
บริษัทที่ยั่งยืนและเจริญเติบโตไม่ได้กำหนดค่านิยมและความมุ่งหมายใหม่อยู่เสมอ พวกเขาจะค้นพบเอกลักษณ์แกนและมีชีวิตอยู่จากแกนนั้น ภายในโลกของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การตอบสนองอย่างแรกต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงจะไม่ถามว่า เราควรจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร แต่จะถามว่า เรายืนหยัดเพื่ออะไรและทำไมเรา
ดำรงอยู่ ต้นกำเนิดที่เชื่อถือได้อย่างแท้จริงเท่านั้นของเสถียรภาพคือ แกนภายในและความเต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงและปรับตัวทุกสิ่งทุกอย่างยกเว้นแกน มันดีกว่าที่จะเข้าใจว่าเราคือใคร ไม่ใช่เรากำลังไปที่ไหน เรากำลังไปที่ไหนแน่นอนจะเป็นการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเราคือใคร
ใครก็ตามแทบทุกคนสามารถเป็นผู้นำที่สำคัญได้ภายในการสร้างองค์การที่ยิ่งใหญ่ แต่ใครสามารถสร้างองค์การที่จะยั่งยืนและเจริญเติบโตมากกว่า 100 ปี เราจะมีหลักการทั้งมวลสองข้อนำเสนอภายในหนังสือ Built to Last คือ ผู้สร้างนาฬิกาไม่ใช่ผู้บอกเวลา การรักษาอุดมการณ์แกน/การกระตุ้นความก้าวหน้า
วิสัยทัศน์ได้กลายเป็นถ้อยคำหนึ่งที่ถูกใช้กันมากเกินไปและเข้าใจกันน้อยที่สุดของภาษา ถ้อยคำวิสัยทัศน์ได้ก่อให้เกิดมโนภาพหลายอย่าง เราจะคิดถึงความสำเร็จที่โดดเด่น เราจะคิดถึงบางสิ่งบางอย่างที่นิรันดร เราจะคิดถึงเป้าหมายที่กล้าหาญที่กระตุ้นบุคคล เราคิดถึงความฝันของสิ่งที่เราต้องการจะเป็น
เราทุกคนรู้ว่าวิสัยทัศน์จะสำคัญ แต่วิสัยทัศน์ที่ถูกต้องคืออะไร
ดังนั้นจิม คอลลินส์ และเจอร์รี่ โพรร่า ได้นำเสนอกรอบข่ายทางแนวคิดที่ได้ระบุวิสัยทัศน์ที่มีรากเหง้ามากจากการวิจัยหกปีของบริษัทที่มีวิสัยทัศน์ภายในหนังสือ Built to Last ของพวกเขา
จิม คอลลินส์ ได้กล่าวว่าการสร้างวิสัยทัศน์ที่ดีจะต้องมีส่วนประกอบที่สำคัญสองอย่างคือ อุดมการณ์แกน และจินตนาการในอนาคต เราจะสังเกตุการคู่ขนานโดยตรงของการรักษาแกน/ การกระตุ้นความก้าวหน้า วิสคยทัศน์ที่ดีจะถูกสร้างจากการเกี่ยวพันระหว่างกันระหว่างพลังหยิง-หยางที่ประกอบกัน วิสัยทัศน์จะระบุ “เราจะยืนหยัดเพื่ออะไรและทำไมเราได้ยืนหยัดอยู่” ที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอุดมการณ์แกน และออกเดินทาง ” เราอยากจะกลายเป็น บรรลุและสร้าง อะไร” ที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าอย่างสำคัญ
ที่จะบรรลุจินตนาการในอนาคต
การดำเนินตามวิสัยทัศน์จะหมายถึงการวางแนวทางองค์การและกลยุทธ์
ที่จะรักษาอุดมการณ์แกนและกระตุ้นความก้าวหน้าไปสู่จินตนนาการใน
อนาคต การสร้างชีวิตแก่วิสัยทัศน์ การถ่ายทอดวิสัยทัศน์ให้เป็นความจริง
ที่มีตัวตน
ภายในหนังสือ Built to Last จิม คอลลินส์ ได้ใช้ตัวอย่างถ้อยแถลงวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ยิ่งใหญ่บางบริษัทของโลก เช่น โซนี่ วอลท์ ดีสนี่ย์ เมอร์ค
ฮิวเลตต์-แพคการ์ด ฟอร์ด มอเตอร์ และวอล-มาร์ท เขาได้แตกวิสัยทัศน์เป็นสูตรที่เรียบง่ายคือ

วิสัยทัศน์ = อุดมการณ์แกน + จินตนาการในอนาคต

อุดมการณ์แกนจะเป็นส่วนประกอบอย่างแรกของวิสัยทัศน์ อุดมการณ์แกนจะประกอบด้วยสองส่วนคือ ค่านิยมแกน และความมุ่งหมายแกน อุดมการณ์แกนจะระบุคุณลักษณะที่ยั่งยืนของององค์การ อุดมการณ์แกนจะเป็นกาวที่ยึดองค์การเข้าด้วยกันเมื่อเจริญเติบโต
จินตนาการในอนาคตจะเป็นส่วนประกอบอย่างที่สองของวิสัยทัศน์ จินตนาการในอนาคตจะประกอบด้วยสองส่วน : เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ เสี่ยงภัย กล้าหาญ สิบถึงสามสิบปีิ เรียกว่าบีแฮก และคำบรรยายที่ช้ดเจนว่า เราจะคล้ายกับอะไรเมื่อองค์การได้บรรลุบีแฮก จินตนาการในอนาคตจะถ่ายทอดความรู้สึกทางความเป็นตัวตน บางสิ่งบางอย่างที่ชัดเจนและจริง เราสามารถมองเห็นมัน สัมผัสมัน รู้สึกมัน ตรงกันข้ามจินตนาการจะแสดงระยะเวลาที่ยังไม่ได้เป็นจริง – ความฝัน ความหวัง หรือความทะเยอทะยาน
เมื่อ ค.ศ 1950ิ บีแฮกของโซนี่ื คือ การกลายเป็นบริษัทที่รู้จักมากที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลงภาพพจน์คุณภาพต่ำทั่วโลกของผลิตภัณฑ์ญี่ปุ่น
บีแฮกด้วยตัวของมันเองจะคลุมเครือ ดังนั้นทำไมโซนี่ได้รวมคำบรรยายอย่างชัดเจนเข้ากับเป้าหมายของพวกเขาด้วย
ห้าสิบปีนับจากนี้ไปชื่อตราสินค้าของเราจะมีชื่อเสียงภายในโลก และจะแสดงออกถึงนวัตกรรมและคุณภาพ “ผลิตจากญี่ปุ่น” จะหมายถึงบางสิ่งบางอย่างที่ยอดเยี่ยม ไม่ใช่บางสิ่งบางอย่างที่ลอกเลียนแบบ
ความพยายามเริ่มแรกของจิม คอลลินส์ และเจอร์รี่ โพรร่า ที่จะสร้างกรอบข่ายวิสัยทัศน์ขององค์การจะเป็นบทความวิจัยเมื่อ ค.ศ 1991 ของพวกเขา กรอบข่ายนี้จะได้รับอิทธิพลจากหนังสือ Built to Last ของพวกเขาที่ถูกตีพิมพ์ต่อมา ภายในการสร้างกรอบข่ายวิสัยทัศน์ จิม คอลลินส์ และเจอร์รี่ โพรร่า ได้มุ่งหมายกำจัดความคลุมเครือบางอย่างของวิสัยทัศน์ ในที่สุดแนวคิดได้ถูกวิวัฒนาการเป็นกรอบข่ายวิสัยทัศน์ที่คุ้นเคยภายในหนังสือ Built to Last และภายในบทความของฮาร์วาร์ด บิสซิเนส รีวิว Building Your Company’s Vision ด้วย
รูปจะแสดงสัญลักษณ์หยิง-หยางที่ปรับปรุง ภายในองค์ประกอบหยิงของวงกลมจะเป็นถ้อยคำว่า อุดมการณ์แกน : ค่านิยมแกน และความมุ่งหมายแกน และองค์ประกอบหยางของวงกลมจะเป็นถ้อยคำว่า จินตนาการในอนาคต : บีแฮก 10 ถึง 30 ปี และคำบรรยายที่ชัดเจน
อุดมการณ์แกนจะเป็นส่วนสำคัญอย่างแน่นอนของการกำหนดวิสัยทัศน์ การใช้สัญลักษณ์หยินหยางของพวกเขาได้ถูกจงใจว่า อุดมการณ์แกนจะไร้ความหมายถ้าไม่มีความก้าวหน้าหรือการก้าวไป
สู่อนาคต ในขนะที่วิสัยทัศน์ที่สอดคล้องจะไม่สามารถสร้างได้โดยไม่มีรากฐานที่มั่นคง
ค่านิยมแกนจะเป็นความเชื่่อ หรือหลักการนำทางที่ต่อรองไม่ได้แน่นอนภายในองค์การ ภายในการวิจัยของพวกเขา จิม คอลลินส์ ได้ค้นพบอยู่เสมอว่าบริษัทมักจะมีค่านิยมไม่กี่อย่าง โดยปรติระหว่างสามถึงห้าอย่าง
ค่านิยมส่วนบุคคลของเราอาจะเป็นความซื่อสัตย์ ความมีน้ำใจ ความสัมพันธ์ และความยุติธรรม เมื่อเราครุ่นคิดถึงค่านิยมส่วนบุคคลของเรา โดยปรกติเราจะมีความรู้สึกถึงสิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริงต่อเรา คุณลักษณะที่เราไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ถ้าไม่มี จิม คอลลินส์ ยืนยันว่าค่านิยมแกนขององค์การจะเหมือนกัน ค่านิยมแกนจะเป็นธรรมชาติเหมือนกับการหายใจ
ความมุ่งหมายแกน จะเป็นเหตุผลรากฐานที่สุดของการดำรงอยู่ขององค์การ
ความมุ่งหมายจะสะท้อนแรงจูงใจทางอุดมการณ์ของบุคคล ความมุงหมายไม่ได้เพียงแต่
บรรยายผลิตภัณฑ์หรือลูกค้าขององค์การ ความมุ่งหมายจะยึดจิตวิญญาน
ขององค์การ
ความมุ่งหมายจะระบุด้วย “ทำไมห้าครั้ง” ว่าเราทำอะไรด้วยภาษาที่ชัดเจนและเรียบง่าย จากนั้นถามตัวเราเองว่า ทำไมสิ่งนี้ความสำคัญ คำตอบของเราจะถูกใช้ลดสิ่งที่เราทำ และจากนั้นถามว่า ทำไมสิ่งนี้มีความสำคัญ อีกคร้้งหนึ่ง และทำซ้ำจนครบคำถาม “ทำไม” ห้าครั้ง
ความมุ่งหมายจะถูกแสดงให้เห็นจากคำปราศัยของเดวิด แพคการ์ด แก่บุคคลของเอชพี เมื่อ ค.ศ 1960 ด้วยเหตุผลที่ลึกลงไปของการดำรงอยู่ขององค์การเลยพ้นไปจากการทำเงิน เขาได้กล่าวว่า
ผมต้องการจะอภิปรายว่าทำไมบริษัทดำรงอยู่ภายในตอนเริ่มแรก ด้วยคำพูดอีกอย่างหนึ่ง ทำไมเราได้อยู่ที่นี่ ผมคิดว่าบุคคลหลายคนจะมองผิดว่า บริษัทดำรงอยู่เพียงทำเงินเท่านั้น แม้ว่านี่จะเป็นผลลัพธ์ที่สำคัญของการดำรงอยู่
ของบริษัท เราจะต้องก้าวลึกลงไปและค้นพบเหตุผลที่แท้จริงของการดำรง
อยู่ของเรา เมื่อเราได้ตรวจสอบ เราจะมีข้อสรุปว่ากลุ่มของบุคคลรวมเข้าด้วยกัน และดำรงอยู่เป็นสถาบันที่เราเรียกว่าบริษัท ดังนั้นเราจะสามารถบรรลุบางสิ่งบางอย่างร่วมกันที่เราไม่สามารถบรรลุแยกจากกันได้ เราได้สร้างการมีส่วนช่วยต่อสังคม ถ้อยคำที่ดูแล้วซ้ำซากแต่จะเป็นรากฐาน เราสามารถมองไปทั่ว ภายในโลกทางธุรกิจโดยทั่วไป การมองบุคคลที่กำลังสนใจเงินและไม่มีอย่างอื่นเลย แต่แรงขับเคลื่อนรากฐานส่วนใหญ่จะมาจากความต้องการทำสิ่งอืน : การสร้างผลิตภัณฑ์ การให้บริการ โดยทั่วไปการกระทำบางสิ่งบางอย่างที่มีคุณค่า
ความมุ่งหมายของวอลท์ ดีสนี่ย์ คือ การสร้างความสุข กลยุทธ์ของบริษัทเริ่มต้นด้วยการ์ตูน แต่ปัจจุเราจะมองเห็นวิถีทางหลายอย่างของบริษัทยังคงถูกกระทำตามความมุ่งหมาย ตั้งแต่สวนสนุกไปจนถึงสตาร์ วอร์ พวกเขาจะอยู่ภายในธุรกิจแห่งความสุข
จิม คอลลินส์ ได้กล่าวว่า เราไม่ได้สร้างอุดมการณ์แกน เราได้ค้นพบอุดมการณ์แกน เราไม่ได้คาดคะเนด้วยการมองดูที่สภาพแวดล้อมภาย
นอก เราจะเข้าใจอุดมการณ์แกนด้วยการมองที่ข้างใน นอกจากการ
บันดาลใจแล้ว อุดมการณ์แกนจะช่วยให้บุคคลของเราตัดสินใจได้ดีขึ้น
บุคคล ณ วอลท์ ดิสนี่ย์ จะเพียงแต่ถามว่า นี่ทำให้บุคคลมีความสุขหรือไม่ เท่านั้น พวกเขาจะตัดสินใจได้อย่างถูกต้องอยู่เสมอ
เราได้ค้นพบภายในการวิจัยของเราว่าบริษัทที่มีวิสัยทัศน์มักจะใช้ภารกิจ
ที่กล้าหาญ หรือเราจะชอบเรียกว่าบีแฮก เป็นวิถีทางที่มีพลังกระตุ้นความก้าวหน้า บริษัททุกบริษัทจะต้องมีเป้าหมาย แต่เราจะมีความแตกต่างระหว่างการมีเป้าหมาย และการกลายเป็นผูกพันต่อความท้าทายที่ยิ่งใหญ่และน่ากลัว เช่น การปีนเม้าท์ เอเวอร์เรสท์ บีแฮกที่แท้จริงจะชัดเจนและดึงดูดใจ จุดรวมที่เป็นหนึ่งเดียวของความพยายาม และตัวเร่งแห่งจิตวิญญานของทีม บีแฮกจะมีเส้นชัยที่ชัดเจน ดังนั้นองค์การสามารถรู้ว่าพวกเขาจะบรรลุเป้าหมายเมื่อไร บุุคคลอยากจะพุ่งไปสู่เส้นชัย เราไม่ต้องการคำชี้แจงภารกิจนาซา 1960 การส่งมนุษย์ลงบนดวงจันทร์ ไม่ต้องการคณะกรรมการของนักเขียนใช้เวลายาวนานทำให้เป้าหมายกลายเป็นถ้อยแถลงภารกิจที่มีถ้อยคำฟุ่มเฟือยและเป็นไปไม่ได้ที่จะจำ
วิสัยทัศน์ระดับบีแฮกจะถูกใช้กับองค์การโดยส่วนรวม และเราจะต้องใช้ความพยายาม 10 ถึง 30 ปี เพื่อที่จะบรรลุ การกำหนดบีแฮกที่ไปไกลในอนาคตจะต้องมีการคิดที่เลยพ้นไปจากความสามารถปัจจุบันขององค์การและสภาพแวดล้อมปัจจุบัน บีแฮกจะไม่เป็นเดิมพันที่แน่นอน บางทีบีแฮกจะมีความเป็นได้ของความสำเร็จ 50% ถึง 70% เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามองค์การจะต้องเชื่อว่าพวกเขาสามารถบรรลุบีแฮกได้ เราจะมีบีแฮกอยู่สี่ประเภท

จิม คอลลินส์ และเจอร์รี่ โพรร่า ได้แบ่งบีแฮกระดับวิสัยทัศน์เป็นสี่ประเภทคือ
การกำหนดเป้าหมาย : บีแฮกทางเป้าหมายจะเกี่ยวพันการกำหนดเป้าหมายที่ระบุได้และชัดเจนและการเล็งไปยังเป้าหมาย ด้วยวิถีทางเดียวกับนักยิงธนูจะเล็งยิงไปยังเป้าหมายที่เลือกไว้ เป้าหมายอาจจะเป็นเชิงคุณภาพ เช่น วิสัยทัศน์ของฟอร์ด มอเตอร์ที่จะทำให้รถยนต์เป็นประชาธิปไตยภายในต้น ค.ศ 1900 หรือภารกิจส่งมนุษย์ลงบนดวงจันทร์ ค.ศ 1960 ของประธานาธิบดี
จอห์น เคนเนดี้ หรือเป้าหมายอาจจะเป็นเชิงปริมาณ เช่น แซม วอลตัน ได้ระบุวิสัยทัศน์ว่า วอลมารทจะต้องกลายเป็นบริษัท 125 พันล้านเหรียญภายใน ค.ศ 2000
ศัตรูร่วม : บีแฮกทางศัตรูร่วมจะเกี่ยวพันกับการทำให้ศัตรูร่วมพ่ายแพ้ แรงจูงใจทางเดวิดต่อสู้โกไลแอธ บริษัทพยายายามจะตามทันคู่แข่งขันและกลายเป็นหมายเลขหนึ่ง พวกเขาจะมีแรงจูงใจต่อสู้และชนะ จิม คอลลินส์ ได้อ้างตัวอย่างภารกิจ 1960 ของไนกี้ที่จะบดขยี้อดีแดส และภารกิจ 1970 ของฮอนด้าที่จะทำลายยามาฮ่า บีแฮกทางศัตรูร่วมจะมีประโยชน์ถ้าบริษัทของเรากำลังต่อสู้กับพลังของคู่แข่งขัน มันสามารถปฏิรูปบริษัทที่หลังชนกำแพงและมุ่งความอยู่รอดอย่างมาก และไม่เพียงแต่จะชอบอยู่รอด พวกเขา
จะชอบชนะ บีแฮกทางศัตรูร่วมสามารถทำให้
บริษัทของเราเลยพ้นไปจากการอยู่รอดไปสู่การได้ชัยชนะ
โมเดลบทบาท : บีแฮกทางโมเดลบทบาทจะเกี่ยวพันกับการคัดเลือกโมเดลบทบาท การลอกเลียนแบบความสำเร็จของบริษัทที่มีชื่อเสียง จิม คอลลินส์ เชื่อว่าบีแฮกทางโมเดลบทบาทจะเหมาะสมต่อบริษัทที่กำลังไปด้วยดี บริษัทขนาดเล็กถึงกลางที่มีอนาคตสดใสภายในอุตสาหกรรม ตัวอย่างของ
บีแฮกทางโมเดลบทบาทจะมีทั้งจิโร สปอร์ต ดีไซน์ บริษัทวัยหนุ่มสาวภายในต้น ค.ศ 1990 ได้พยายามจะเป็นรถจักรยานเหมือนกับสิ่งที่ไนกี้เป็นรองเท้ากีฬา และแอปเปิ้ลเป็นคอมพิวเตอร์ เมื่อ ค.ศ 1940 มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ต้องการจะกลายเป็นฮาร์วาร์ดแห่งตะวันตก
การปฏิรูปภายใน : บีแฮกทางการปฏิรูปภายในจะเกี่ยวพันกับเป้าหมายของการปฏิรูปภายในของเราเอง การปฏิรูปจะมุ่งภายในแทนที่จะเป็นภายนอก บีแฮกทางการปฏิรูปภายในจะแสวงหาการปฏิรูปบริษัทของเราจากภายใน จิม คอลลินส์ เสนอแนะว่าบีแฮกทางการปฏิรูปภายในจะเหมาะสมต่อบริษัทใหญ่หรือบริษัทเก่าที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงตัวพวกเขาเอง เพื่อที่จะยังคงแข่งขันได้และเข้มแข็งอยู่ เขาได้อ้างตัวอย่างการปฏิรูปเจ็นเนอรัล อีเล็คทริค ของแจ็ค เวลซ์ ซีิอีโอ เมื่อ ค.ศ 1980 เพื่อที่จะจัดการต่อความไม่มีประสิทธิภาพทางขนาดของบริษัท นอกเหนือจากความเข้มแข็ง และทรัพยากรของบริษัทใหญ่ที่เราได้สร้างขึ้นแล้ว เราจะผูกพันต่อการพัฒนาความไว ความคล่องตัว และความเรียบง่ายของบริษัท เราต้องการดีที่สุดของทั้งสองอย่าง การผสมกันของบริษัทใหญ่และบริษัทเล็ก

จิม คอลลินส์ และเจอร์รี่ โพรร่า ได้แบ่งบีแฮกระดับวิสัยทัศน์เป็นสี่ประเภทคือ
การกำหนดเป้าหมาย : บีแฮกทางเป้าหมายจะเกี่ยวพันการกำหนดเป้าหมายที่ระบุได้และชัดเจนและการเล็งไปยังเป้าหมาย ด้วยวิถีทางเดียวกับนักยิงธนูจะเล็งยิงไปยังเป้าหมายที่เลือกไว้ เป้าหมายอาจจะเป็นเชิงคุณภาพ เช่น วิสัยทัศน์ของฟอร์ด มอเตอร์ที่จะทำให้รถยนต์เป็นประชาธิปไตยภายในต้น ค.ศ 1900 หรือภารกิจส่งมนุษย์ลงบนดวงจันทร์ ค.ศ 1960 ของประธานาธิบดี
จอห์น เคนเนดี้ หรือเป้าหมายอาจจะเป็นเชิงปริมาณ เช่น แซม วอลตัน ได้ระบุวิสัยทัศน์ว่า วอลมารทจะต้องกลายเป็นบริษัท 125 พันล้านเหรียญภายใน ค.ศ 2000
ศัตรูร่วม : บีแฮกทางศัตรูร่วมจะเกี่ยวพันกับการทำให้ศัตรูร่วมพ่ายแพ้ แรงจูงใจทางเดวิดต่อสู้โกไลแอธ บริษัทพยายายามจะตามทันคู่แข่งขันและกลายเป็นหมายเลขหนึ่ง พวกเขาจะมีแรงจูงใจต่อสู้และชนะ จิม คอลลินส์ ได้อ้างตัวอย่างภารกิจ 1960 ของไนกี้ที่จะบดขยี้อดีแดส และภารกิจ 1970 ของฮอนด้าที่จะทำลายยามาฮ่า บีแฮกทางศัตรูร่วมจะมีประโยชน์ถ้าบริษัทของเรากำลังต่อสู้กับพลังของคู่แข่งขัน มันสามารถปฏิรูปบริษัทที่หลังชนกำแพงและมุ่งความอยู่รอดอย่างมาก และไม่เพียงแต่จะชอบอยู่รอด พวกเขา
จะชอบชนะ บีแฮกทางศัตรูร่วมสามารถทำให้บริษัทของเราเลยพ้นไปจากการอยู่รอดไปสู่การได้ชัยชนะ
โมเดลบทบาท : บีแฮกทางโมเดลบทบาทจะเกี่ยวพันกับการคัดเลือกโมเดลบทบาท การลอกเลียนแบบความสำเร็จของบริษัทที่มีชื่อเสียง จิม คอลลินส์ เชื่อว่าบีแฮกทางโมเดลบทบาทจะเหมาะสมต่อบริษัทที่กำลังไปด้วยดี บริษัทขนาดเล็กถึงกลางที่มีอนาคตสดใสภายในอุตสาหกรรม ตัวอย่างของบีแฮกทางโมเดลบทบาทจะมีทั้งจิโร สปอร์ต ดีไซน์ บริษัทวัยหนุ่มสาวภายในต้น ค.ศ 1990 ได้พยายามจะเป็นรถจักรยานเหมือนกับสิ่งที่ไนกี้เป็นรองเท้ากีฬา และแอปเปิ้ลเป็นคอมพิวเตอร์ เมื่อ ค.ศ 1940 มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ต้องการจะกลายเป็นฮาร์วาร์ดแห่งตะวันตก
การปฏิรูปภายใน : บีแฮกทางการปฏิรูปภายในจะเกี่ยวพันกับเป้าหมายของการปฏิรูปภายในของเราเอง การปฏิรูปจะมุ่งภายในแทนที่จะเป็นภายนอก บีแฮกทางการปฏิรูปภายในจะแสวงหาการปฏิรูปบริษัทของเราจากภายใน จิม คอลลินส์ เสนอแนะว่าบีแฮกทางการปฏิรูปภายในจะเหมาะสมต่อบริษัทใหญ่หรือบริษัทเก่าที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงตัวพวกเขาเอง เพื่อที่จะยังคงแข่งขันได้และเข้มแข็งอยู่ เขาได้อ้างตัวอย่างการปฏิรูปเจ็นเนอรัล อีเล็คทริค ของแจ็ค เวลซ์ ซีิอีโอ เมื่อ ค.ศ 1980 เพื่อที่จะจัดการต่อความไม่มีประสิทธิภาพทางขนาดของบริษัท นอกเหนือจากความเข้มแข็ง และทรัพยากรของบริษัทใหญ่ที่เราได้สร้างขึ้นแล้ว เราจะผูกพันต่อการพัฒนาความไว ความคล่องตัว และความเรียบง่ายของบริษัท เราต้องการดีที่สุดของทั้งสองอย่าง การผสมกันของบริษัทใหญ่และบริษัทเล็ก

เมื่อ ค.ศ 1930 เมอร์ค จะมีบีแฮกของการปฏิรูปตัวเองจาบริษัทเคมี ไปเป็นบริษัทยาที่ยิ่งใหญ่ภายในโลกด้วยความสามารถทางการวิจัยแข่งขันกับมหาวิทยาลัยที่สำคัญได้ ภายใต้คำบรรยายจินตนาการในอนาคต ณ การเปิดห้องทดลองวิจัยของเมอร์คเมื่อ ค.ศ 1933 ยอร์จ เมอร์ค ได้กล่าว่า เราเชื่อว่างานวิจัยที่ได้กระทำอย่างไม่ย่อท้อจะนำชีวิตใหม่มาสู่อุตสาหกรรมและการค้า และเรามีความเชื่อว่าภายในห้องทดลองวิจัยใหม่นี้ื วิทยาศาสตร์จะก้าวหน้ามากขึ้น ความรู้จะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเราได้ดูสิ่งตีพิมพ์ทางองค์การและกลยุทธ์ เราจะพบคำศัพท์ของวิสัยทัศน์หลายคำที่บางครั้งได้ถูกใช้แทนกัน บางครั้งจะมีความหมายที่ทับซ้อนกันและบางครั้งต้องการจะให้แตกต่างกัน ดังที่ซีอีโอคนหนึ่งได้กล่าวว่า ผมเชื่อว่าเราต้องการวิสัยทัศน์นำทางเรา ผมไม่สามารถลงมือทำจริงกับวิสัยทัศน์ ไม่มีใครได้ให้วิถีทางที่น่าพอใจที่จะอธิบายความสับสนของถ้อยคำและกำหนดวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกับบริษัทของผมได้ ความมุงหมายแกนจะเป็นเหตุผลรากฐานของการดำรงอยู่ขององค์การ ความมุงหมายไม่ควรจะสับสนกับผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของบริษัท แต่ความมุ่งหมายจะสะท้อนแรงจูงใจทางอุดมการณ์ของบุคคลเพื่อการทำงานของบริษัท ความมุ่งหมายแกนของวอลท์ ดิสนี่ย์คือการทำให้บุคคลมีความสุข ไม่ใช่การสร้างสวนสนุกหรือการ์ตูนความมุ่งหมายแกนควรจะยาวนานอย่างน้อยที่สุด 100 ปี และไม่ควรจะสับสนกับเป้าหมายหรือกลยุทธ์ทางธุรกิจที่อาจจะเปลี่ยนแปลงหลายครั้งภายใน100 ปี แม้ว่าเราอาจจะบรรลุเป้าหมายหรือดำเนินกลยุทธ์ได้สำเร็จ เราไม่สามารถบรรรลุความมุ่งหมายได้ ความมุ่งหมายจะคล้ายกับดาวนำทางบนขอบฟ้า เดินตามไปตลอดแต่ไม่เคยไปถึงได้ แม้ว่าความมุ่งหมายด้วยตัวมันเองจะไม่เปลี่ยนแปลง ความมุ่งหมายจะบันดาลใจการเปลี่ยนแปลง ข้อเท็จจริงที่ว่าความมุ่งหมายไม่สามารถบรรลุความสำเร็จไ้ด้หมายความว่าองค์การจะไม่สามารถเคยหยุดกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงได้

นอกเหนือจากบีแฮกระดับวิสัยทัศน์แล้ว จินตนาการในอนาคตต้องการคำอธิบรรยายที่ชัดเจน คำบรรยายที่ชัดเจนจะเป็นคำบรรยายที่มีชีวิตชีวา ผูกพันและเจาะจงว่าเราจะคล้ายกับอะไรที่จะบรรลุบีแฮก การคิดถึงบีแฮกเหมืนกับการถ่ายทอดวิสัยทัศน์จากคำพูดให้เป็นภาพเราจะต้องไม่คิดว่าเป็นคำศัพท์ทางภาษาเท่านั้นแต่จะต้องเป็นภาพด้วย ถ้ามันเป็นภาพเราสามารถนำติดตัวไปกับเราได้ การเริ่มต้นจากคำบรรยายที่ชัดเจนว่าความสำเร็จจะรู้สึกคล้ายกับอะไร เราจะถามตัวเราเองว่า เราจะมองเห็นตัวเราเองอยู่ที่ไหนภายในสิบปีหรือแม้แต่ยี่สิบห้าปี ถ้านักหนังสือพิมพ์ในอนาคตจะเขียนบทความเกี่ยวกับเราและความสำเร็จของเรา บทความจะถูกเขียนเกี่ยวกับอะไร เฮนรี่ิ ฟอรด ได้ทำให้เป้าหมายของกลายเป็นประชาธิปไตยของรถยนต์น่าสนใจด้วยคำ
บรรยายที่ชัดเจนนี้ ผมจะสร้างรถยนต์เพื่อมหาชน……. รถยนต์จะมีราคาต่ำจนไม่มีบุคคลที่มีเงินเดือนดีจะไม่สามารถเป็นเจ้าของและสนุกสนานกับครอบครัวของเขา บุคคลทุกคนจะสามารถซื้อรถยนต์ได้ และบุคคลทุกคน
จะมีรถยนต์หนึ่งคัน ม้าจะสูญหายไปจากทางหลวงของเรา เราจะมีการจ้างงานบุคคลจำนวนมาก ณ ค่าจ้างที่ดี
3 เอ็ม ได้ระบุความมุ่งหมายของพวกเขาไม่ใช่ในแง่ของกาวและสารขัดถู แต่จะเป็นการค้นหาที่ไม่สิ้นสุดของการแก้ปัญหาที่ยังไม่แก้ด้วยนวัตกรรม ความมุ่งหมายที่นำ 3 เอ็มไปสู่สาขาวิชาใหม่อยู่เสมอ ความลุ่มหลง อารมณ์ และความเชื่อ จะเป็นที่สำคัญของคำบรรยายที่ชัดเจน ผู้บริหารบางคนจะอึดอัดต่อการแสดงอารมณ์เกี่ยวกับความฝันของพวกเขา แต่นั่นคือสิ่งจูงใจบุคคลอื่นการสร้างจินตนาการในอนาคตจะต้องมีระดับของความเชื่อมั่นและความผูกพัน ที่ไม่มีเหตุผล บีแฮกจะไม่ใช่เป็นเพียงเป้าหมายหนึ่ง บีแฮกจะเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ เสี่ยงภัย กล้าหาญ บีแฮกจะไม่มีเหตุผลต่อธนาคารขนาดเล็กจะกำหนดเป้าหมายของการกลายเป็นสถาบันการเงินที่มีพลังมากที่สุด ให้บริการได้มากที่สุด และขยายตัวไปทั่วโลกที่เคยมีมาแล้วเหมือนที่ซิตี้ แบงค์ ได้กระทำมาแล้วเมื่อ ค.ศ 1915 มันน่าหัวเราะแก่ฟิลิป มอร์รีส บริษัทบุหรี่ลำดับหกด้วยส่วนแบ่งตลาด 9% เมื่อ ค.ศ 1950 กำหนดเป้าหมายชนะบริษัทบุหรี่โกไลแฮธ อาร์เจ เรย์โนลด์ และกลายเป็นลำดับหนึ่งของอุตสาหกรรมได้ นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ วินสตัน เชอร์ชิลล์ เข้าใจว่าเมื่อเขาได้บรรยายบีแฮกเผชิญหน้าอังกฤษอยู่เมื่อ ค.ศ 1940 เขาไม่เพียงแต่พูดว่า “ชนะฮิตเล่อร์ ” วินสตัน เชอร์ชิลล์ ได้กล่าวว่า เขาจะต้องทำลายเราบนเกาะนี้หรือแพ้สงคราม ถ้าเราสามารถยืนหยัดต่อเขาได้ ทั้งยุโรป จะเป็นอิสรภาพ และชีวิตของโลกจะก้าวไปข้าง
หน้าไปยังบริเวณที่สูงด้วยแสงอาทิตย์ แต่ถ้าเราแพ้สงคราม ทั้งโลกรวมทั้งอเมริกาจะจมลงไปยังหุบเหวของยุคมืด

การรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน : โซนี่ เมื่อ ค.ศ 1950

อุดมการณ์แกน
ค่านิยมแกน :
– การยกวัฒนธรรมญี่ปุ่นและสถานภาพของประเทศ
ให้สูงขึ้น
– การเป็นผู้บุกเบิก ไม่ได้ตามบุคคลอื่น กระทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
– การกระตุ้นความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของบุคคล
ความมุ่งหมายแกน :
– การมีประสบการณ์กับความสนุกสนานอย่างแท้จริง
ของนวัตกรรมและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อประโยชน์และความเพลิดเพลินของประชาชนจินตนาการในอนาคต
บีแฮก :
การกลายเป็นบริษัทที่รู้จักมากที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลงภาพพจน์คุณภาพต่ำทั่วโลกของผลิตภัณฑ์ญี่ปุ่น
คำบรรยายที่ชัดเจน :
เราจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ได้กลายเป็นแพร่หลายไปทั่วโลก เราจะเป็นบริษัทญี่ปุ่นรายแรกเข้าไปสู่ตลาดอเมริกาและจัดจำหน่ายโดยตรง เราจะบรรลุความสำเร็จด้วยนวัตกรรมที่บริษัทอเมริกันได้ล้มเหลว เช่น วิทยุทรานซิสเตอร์ ห้าสิบปีต่อจากนี้ชื่อตราสินค้าของเราจะมีชื่อเสียงภายในโลก และจะแสดง ออกถีงนวัตกรรมและคุณภาพที่แข่งขันกับบริษัทที่สร้างสรรค์มากที่สุดไม่ว่าที่ใด “ผลิตจากญี่ปุ่น” จะหมายถึงบางอย่างที่ดีเยี่ยม ไม่ใช่บางสิ่งบางอย่างที่ลอกเลียนแบบ

พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิ้ล ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ 1837 ณ ซินซินแนติ โอไฮโอ โดยวิลเลียม พรอคเตอร์ ชาวอังกฤษ ช่างทำเทียนไข และเจมส์ แกมเบิล ชาวไอร์แลนด์ ช่างทำสบู่ ปัจจุบันพี แอนด์ จี ยูนิลีเวอร์ และคอลเกต ปาล์ม โอลีฟ คือ ยักษ์ใหญ่สามรายของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภคของโลก และได้สร้างความจงรักภักดีต่อตราสินค้าแก่ลูกค้าอย่างเข้มแข็ง จนกลายเป็นอุปสรรคการเข้ามาภายในอุตสาหกรรมต่อคู่แข่งขันรายใหม่อย่างมาก บริษัทสบู่และเทียนไขได้กลายเป็นมรดกของ
พี แอนด์ จี นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทขึ้นมา พี แอนด์ จี ผลิตและขายผลิตภัณฑ์ครัวเรือนเป็นรากฐาน เช่น ยาสีฟันเครสท์ ผ้าอ้อมแพมเพอร์ ยาสระผมเฮด แอนด์ โชเดอร์ หรือสบู่ไอวอรี่ พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล จะมีวัฒนธรรมองค์การที่เข้มแข็งมากบนรากฐานของลัทธิผู้บริโภค การตอบสนองต่อสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ ภายหลังจากการวิจัยตลาดอย่างกว้างขวางแล้ว ไปจนถึงการทดลองใช้สบู่คาเมย์ตามบ้านอย่างแพร่หลายเมื่อ ค.ศ 1920 พี แอนด์ จี ได้เคยใช้โทรศัพท์สัมภาษณ์มากกว่า 1.5 ล้านครั้งต่อปี และเป็นนักโฆษณายิ่งใหญ่ที่สุดบริษัทหนึ่ง พี แอนด์ จี เป็นบริษัทดีเด่นท่ามกลางบริษัทดีเด่น 43 บริษัทของอเมริกา จากหนังสือธุรกิจคลาสสิคของโลกชื่อ In Search of Excellence ผู้เขียนคือโทมัส ปีเตอร์ และโรเบิรต วอเตอร์แมน บริษัทได้เริ่มต้นบรรจุภัณฑ์เทียนไขโดยใช้ชื่อตราสินค้าว่าสตาร์ นายวิลเลียม พรอคเตอร์ ได้สังเกตเห็นว่า คนงานท่าเรือคนหนึ่ง ณ แม่น้ำโอไฮโอ ได้กากบาทสีดำบนกล่องเทียนไขของพี แอนด์ จี กากบาททำให้คนงานที่ไม่รู้หนังสือแยกกล่องเทียนไขออกจากกล่องสบู่ได้ ในไม่ช้าคนงานท่าเรือคนหนึ่งที่เป็นช่างศิลปได้เปลี่ยนกากบาทสีดำเป็นกลุ่มดาว ต่อมาเป็นพระจันทร์หยักหน้าผู้ชาย และได้กลายเป็นโลโก้พระจันทร์และดาวของพี แอนด์ จี นับตั้งแต่นั้นมา ผู้ชายบนพระจันทร์กำลังดูดาวสิบสามดวง ดาวสิบสามดวงหมายถึงอาณานิคมดั้งเดิม 13 แห่งของอเมริกา
เมื่อปลายปี 2513 พี แอนด์ จี ได้ถูกโจมตีจากข่าวลือว่าเครื่องหมายการค้าของบริษัทเป็นสัญลักษณ์ของซาตานและการบูชาภูตผีปีศาจ และกำไรของบริษัทได้ถูกใช้สนับสนุนการบูชาซาตาน พวกซาตานคือเจ้าของบริษัท พระจันทร์ครึ่งเสี้ยวหน้าผู้ชายคือปีศาจร้าย หนวดเคราคือเขาสองเขา หยักผมสามหยักคือ 666 กลับหัว เลขของซาตาน ใบปลิวข่าวลือได้แพร่กระจายว่า จอห์น สเมล ซีอีโอ ได้ปรากฏตัวที่รายการโทรทัศน์ฟิลโดนาฮู โชว์ และพูดว่าเขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งและได้บริจาคเงินแก่ศาสนจักรซาตาน ไม่มีชาวคริสเตียนภายในโลกเพียงพอจะหยุดยั้งซาตานได้ ที่จริงแล้วเขาไม่เคยปรากฎตัวภายในรายการนี้เลย แต่ข่าวลือได้กระตุ้นการคว่ำบาตรสินค้าของพี แอนด์ จี อย่างรุนแรง โทรฟรีจากผู้ค้าปลีกได้หลั่งไหลเข้ามาถามข้อเท็จจริงกับพี แอนด์ จี ผู้ค้าปลีกได้รายงานแก่บริษัทว่าลูกค้าบางคนได้คืนสินค้า หรือถามว่าทำไมไม่นำสินค้าของพี แอนด์ จี ออกจากชั้นวาง พนักงานของบริษัทได้ถูกคุกคาม และต้องรับโทรศัพท์มากกว่า 15,000 ครั้งต่อเดือน  พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ได้ต่อสู้กับข่าวลือด้วยการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ การส่งเอกสารข้อเท็จจริงไปยังโบสถ์ทางตอนใต้ 48,000 แห่ง ข่าวลือได้เกิดขึ้นจากกลุ่มศาสนาเหล่านี้ บริษัทได้ส่งทีมงานไปค้นหาต้นตอและเครือข่ายของข่าวลือ และบริษัทจะฟ้องร้องบุคคลทุกคนที่ได้แพร่กระจายข่าวลือ ในที่สุด พี แอนด์ จี ได้ถูกกดดันให้เปลี่ยนแปลงเครื่องหมายการค้าที่มีอายุยาวนานถึง 103 ปี บริษัทต้องสูญเสียสัญลักษณ์ที่เลื่องลือไป สัญลักษณ์ของสินค้าที่ซื่อสัตย์และไว้วางใจได้แก่ลูกค้า เมื่อ ค.ศ 1879 คนงานภายในโรงงานสบู่ของฮาร์เลย์ พรอคเตอร์ ได้ลืมปิดเครื่องผสมสบู่ตอนออกไปทานอาหารเที่ยง ปล่อยให้ส่วนผสมอยู่ภายในเครื่องผสมสบู่นานเกินไป จนกลายเป็นส่วนผสมที่พิเศษกว่าเดิมและลอยน้ำได้ นายฮาร์เลย์ พรอคเตอร์ ได้หารือกับเจมส์ แกมเบิล นักเคมี ญาติพี่น้อง ผลิตสบู่ที่อ่อนนุ่ม เบา และลอยน้ำได้ และใช้ชื่อว่าสบู่ไอวอรี่ ชื่อนี้เป็นความคิดของนายฮาร์เลย์ พรอคเตอร์ ที่เกิดขึ้นภายในโบสถ์ จุดเริ่มต้นของสบู่ไอวอรี่ของพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิ้ล ที่นิยมแพร่หลายมากที่สุดภายในโลก จุดขายที่สำคัญของสบู่ไอวอรี่คือ บริสุทธ์ 99.44% และลอยน้ำได้ ทำให้สบู่ไอวอรี่เหนือกว่าทุกสบู่ เนื่องจากเราไม่ต้องควานหาจากท้องอ่างอาบน้ำเลย

Cr : รศ สมยศ นาวีการ

Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *