ฮัวเหวย วัฒนธรรมหมาป่า

ฮัวเหวย วัฒนธรรมหมาป่า

ฮัวเหวยจะเป็นเรื่องราวยาจกเป็นมหาเศรษฐีคลาสสิคเรื่องหนึ่ง บริษัทได้ถูกก่อตั้งเมื่ิอ ค.ศ 1987 โดยเหริน เจิ้งเฟย บุคคลจากชนบทที่ใช้เวลาประมาณ 20 ปี
ภายในกองทัพปลดปล่อยประชาชนของจีน ด้วยการรับใช้ภายในหน่วยงานเทคโนโลยี
เหริน เจิ้งเฟย ได้สนับสนุนวัฒนธรรมทหารนับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัท ตามมุมมองของเขา วัฒนธรรมบริษัทจะมีความหมายอย่างเดียวกับ วัฒณธรรมหมาป่า
มันจะอาศัยจิตวิญญานของหมาป่า เขาต้องการให้บุคคลของเขาไร้ยางอาย
กระหายเหมือนหมาป่า ด้วยลักษณะการกระหายเลือด และไร้ความกลัว
เมื่อกล่าวถึงหัวเหวย บุคคลส่วนใหญ่จะเชื่อมโยงตราสินค้าทันทีกับผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีคุณภาพสูงล่าสุด ที่จริงแล้วตราสินค้าฮัวเหวยได้เดินทางมายาวนานนับตั้งแต่มันได้ถูกก่อตั้งเมื่อ ค.ศ 1987 ภายในประวัติ 30 ปีที่สั้น ปัจจุบันฮัวเหวยจะเป็นยักษ์ใหญ่ของโลกแข่งขันกับแอปเปิ้ลและซัมซุง ฮัวเหวย เทคโนโลยี ได้ถูกก่อตั้งเมื่อ ค.ศ 1987 ภายในเซินจิ้น จีน เป็นตัวแทนขายชนบทแก่ธุรกิจโทรศัพท์และเครือข่ายเคเบิ้ลของฮ่องกง
ปัจจุบันนี้ผลิตภัณฑ์ของฮัวเหวยจะถูกใช้ภายในมากกว่า 170 ประเทศ และบริการมากกว่าหนึ่งในสามของพลเมืองโลก ฮัวเหวยจะเป็นผู้ผลิตใหญ่ที่สุดลำดับสามของโลกของเราเตอร์ สวิตช์ และอุปกรณ์โทรคมนาคมอื่น ด้วยส่วนแบ่งตลาดตามหลังอัลคาเทล-ลูเซ้นท์และซิสโก และไม่นานมานี้ได้เข้าร่วมภายในตลาดสมาร์ทโฟนที่แข่งขันอย่างรุนแรง
เมื่อผู้ก่อตั้งและซีอีโอของฮัวเหวย เหริน เจิ้งเฟย ได้เริ่มต้นบริษัทของเขาย้อนหลังไปเมื่อ ค.ศ 1987 ด้วยเงินเพียง 21,000 หยวนเทียบประมาณเท่ากับ 6,600 เหรียญปัจจุบันนี้ เขาไม่รู้เลยว่าการสร้างของเขาได้เจริญเติบโตกลายเป็นยักษ์ใหญ่โทรคมนาคม และทำให้เขาเป็นบุคคลร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งภายในโลก ด้วยโชคลาภส่วนบุคคลของเขาได้ถูกประมาณไว้ ณ 1.7 พันล้านเหรียญ ในขณะนี้บริษัทของเขาจะว่าจ้างบุคคล 180,000 คนทั่วโลก และรายได้ของ ค.ศ 2019 ได้ถูกพยากรณ์ไว้ 125 พันล้านเหรียญ เมื่อ ค.ศ 2015 ฮัวเหวยจะเป็นบริษัทจีนบริษัทเดียวเท่านั้นติดลำดับฟอร์จูน โกเบิ้ล 500
บริษัทวิจัยตลาดได้ลำดับหัวเหวยเป็นที่สองเท่านั้นต่อเลอโนโวเป็นตราสินค้าจีนที่รับรู้ระหว่างประเทศมากที่สุด แต่กระนั้นสองบริษัทจะแสดงบทบาทแตกต่างกันภายในจินตนาการทางวัฒนธรรมจีน ในขณะที่เลอโนโวได้ขยายตัวด้วยการซื้อธุรกิจพีซีของไอบีเอ็มและโมโตโรล่า โมบิลิตี้ และธุรกิจเซอร์เวอร์ของไอบีเอ็ม ฮัวเหวยจะถูกมองเป็นการเจริญเติบโตจากเริ่มต้น ในขณะที่เลอโนโวบริหารตราสินค้าที่ถูกสร้างโดยชาวต่างประเทศ ฮัวเหวยได้ถูกมองว่าเป็นจีนอย่างแท้จริง ดำเนินงานจากภายในสู่ภายนอก ผู้ก่อตั้งฮัวเหวยและซีอีโอ
เหริน เจิ้นเฟย ครั้งหนึ่งจะเป็นนายทหารจีน ในขณะที่ข้อเท็จจริงนี้มักจะขับเคลื่อนการพิจารณาเกี่ยวกับการผูกพันของบริษัทกับกองทัพปลดปล่อยประชาชน
ภายในนิยายสามอาณาจักร กลอุบายการตีขิมบนกำแพงเมืองร้างของขงเบ้งได้บรรลุความสำเร็จ และมีชื่อเสียงตราบเท่าทุกวันนี้ เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ ได้
กล่าวว่าเหมา เจ๋อ ตุง ได้แสดงความเชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ของกลอุบายระหว่างสงครามกลางเมืองของจีน การคิดเชิงกลยุทธ์ของเขาได้บันดาลใจแม่ทัพ นักการเมือง นักธุรกิจ และผู้ประกอบการของจีนนับไม่ถ้วน และผู้นาทหารต่างประเทศด้วย เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งฮัวเหวย จะเป็นผู้ตามที่ใกล้ชิดมากของเหมา เจ๋อ ตุง และแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา
จะได้รับอิทธิพลอย่างมากจากสิ่งตีพิมต์ทางประวัติศาสตร์จีน เหริน เจิ้งเฟย ได้กล่าวว่า พี่เลี้ยงของเขาจะเป็นประธานเหมา เจ๋อ ตุง เหมา เจ๋อ ตุง จะเป็นผู้นำประเทศมีอิทธิพลมากที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษที่ยี่สิบ
การบริหารธุรกิจสามารถรู้สึกคล้ายกับการทำสงคราม มันจะเกี่ยวพันกับการใช้บุคคล ทรัพยากร และกลยุทธ์ให้ดีที่สุด ดังนั้นเรามีวิถีทางที่จะเรียนรู้การต่อสู้ของสงครามจากนักกลยุทธ์ที่มีชื่อเสียงอย่างไร
เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของฮัวเหวย เทคโนโลยี่ ได้กล่าวถึงจุดที่น่าสนใจไม่กี่อย่างเกี่ยวกับตำแหน่งของเขาภายในบริษัทต่อการสัมภาษณ์กับเซ้าธฺ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสท์ เขาได้กล่าวว่าเขาไม่ได้เป็นผู้นำจิตวิญญานของ
ฮัวเหวย แต่จะเป็นผู้นำหุ่นเชิด เขาได้หวังว่าเมื่อถึงเวลา เขาจะถูกลืม ผมจะเป็นเพียงชายแก่คนหนึ่ง
จุดสำคัญอะไรของการจดจำผม บุคคลควรจะคิดเกี่ยวกับอนาคตและโลกมากกว่า ชายอายุ 75 ปี ได้กล่าวภายในการสัมภาษณ์ไม่นานมานี้กับเซ้าธ์
ไชน่า มอรนิ่ง โพสท์ ความปราถนายิ่งใหญ่ที่สุดของผมคือการดื่มกาแฟภาย
ในร้านกาแฟที่ไม่มีใครสังเกตุ
ิในขณะที่นานมาแล้วบุคคลของฮัวเหวยจะเรียกเหริน เจิ้งเฟย ว่าผู้นำที่แท้จริง ผู้นำจิตวิญญาน ภายในหัวเหวย เขาจะมองตัวเขาเองจะเป็นเพียงแต่หุ่นเชิดตัวหนึ่งต่อประธานหมุนเวียน ภายในตำแหน่งสูงสุดของฮัวเหวย เราจะมีประธานหมุนเวียนสามคน หมุนเวียนระหว่างกัน
ความคิดที่ซีอีโอจะกระทำเหมือนเป็นผู้นำวีรบุรุษ ภายในตลาดโลกที่แข่งขันและเปลี่ยนแปลงมากขึ้นจะถูกต้องหรือไม่ คำถามนี้ไม่ได้ใหม่เลย และความคิด
ของซีอีโอเป็นผู้นำจะต้องรับผิดชอบต่อทุกสิ่งทุกอย่างดีและไม่ดีได้ท้าทายทางทฤษฎี แต่กระนั้นเท่าที่ผ่านมาไม่มีบริษัทไหนได้กระทำอะไรก็ตามที่จะท้าทายความคิดภายในชีวิตจริง ด้วยคำพูดอีกอย่างหนึ่ง จนถึงบัดนี้เราจะไม่มีความคิดทางการบริหารได้ถูกดำเนินการที่จะท้าทายความคิดของซีอีโอเป็นผู้นำวีรบุรุษ แต่เราจะมีบริษัทข้ามชาติบริษัทหนึ่งได้แนะนำโมเดลความเป็นผู้นำที่สร้างสรรค์ถึงบทบาทของซีอีโอ บริษัทนี้คือยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมของจีน ฮัวเหวย ก่่อตั้งเป็นบริษัทเอกชนโดยผู้ก่อตั้ง เหริน เจิ้งเฟย เมื่อ ค.ศ 1987 ภายในเขตเศรษฐกิจทดสอบของเสิ่นเจิ้น
ฮัวเหวยได้กลายเป็นผู้นำโลกภายในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม เมื่อบริษัทได้นำหน้าอีริคสันทั้งรายได้และกำไร เมื่อ ค.ศ 2014 ฮัวเหวยได้บรรลุรายได้สูงสุด
46 พันล้านเหรียญ ณ เวลานี้ฮัวเหวยจะว่าจ้่างบุคคลประมาณ 170,000 คน
ไม่ใช่ชาวจีนมากกว่า 40,000 คน และลูกค้ามากกว่า 3 พันล้านคนทั่วโลก
บริษัทจะติดลำดับ 285 ของฟอร์จูน โกลเบิ้ล 500 และเป็นบริษัทจีนบริษัทเดียวเท่านั้นที่มีรายได้การขายจากตลาดภายนอกมากกว่าภายในจีน 67%
นวัตกรรมทางการบริหารที่แท้จริงภายในบริษัทนี้ได้เกิดขึ้น ณ ระดับความเป็นผู้นำ เมื่อฮัวเหวยได้ท้าทายแนวคิดของการมีซีอีโอคนเดียว ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของบริษัทจะเกิดขึ้นจากการคิดและวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้ง เหริน เจิ้งเฟ้ย
เขาจะเป็นผู้นำที่บันดาลใจและจูงใจบุคคลที่จะมุ่งนวัตกรรม ณ ทุกระดับ และสร้างทัศนคติของการวิจารณ์ตัวเราเอง ที่จริงแล้วฮัวเหวยจะเชื่ออย่างเข้มแข็งต่ออำนาจของการคิด
ฮัวเหวย จะมีโครงสร้างการบริหารไม่เหมือนใครที่บางครั้งได้สร้างคำถามเกี่ยวกับใครทำการตัดสินใจ ณ บริษัท ณ หัวเหวย ผู้บริหารอาวุโสสามคนจะหมุนเวียนตำแหน่งซีอีโอ ด้วยแต่ละวาระยาวนานหกเดือน
ก่อนหน้านี้ฮัวเหวยได้ดำเนินการระบบซีอีโอหมุนเวียน ซีฮีโอจะเป็นผู้บริหารลำดับสูงสุดรับผิดชอบต่อการบริหารการดำเนินงานของบริษัทและการบริหารวิกฤติ พวกเขาจะรับผิดชอบการจัดและเป็นประธานการประชุมผู้บริหารอาวุโสของบริษัทด้วย ซีอีโอหมุนเวียนจะมาจากรองประธานสามคนด้วยวาระยาวนานหกเดือน
ด้วยการหมุนเวียนซีอีโอทุกหกเดือน บริษัทจะถูกนำโดยบุคลิกภาพแตกต่างกัน
การสร้างสถานที่ทำงานหลากหลายมากขึ้น มุมมองที่แตกต่างกันจะถูกสื่อสารและทดสอบ
เหริน เจิ้งเฟย ได้ยับยั้งอำนาจของคณะกรรมการบริษัทของฮัวเหวย การใช้เวลาอย่างมากชี้นำและฝึกอบรมซีอีโอหมุนเวียนสามคน นับตั้งแต่บริษัทได้แนะนำระบบซีอีโอหมุนเวียนเมื่อค.ศ 2011
ภายใต้ระบบประธานหมุนเวียนใหม่ ซีอีโอหมุนเวียนสามคนในขณะนี้จะเป็นประธานหมุนเวียนอยู่ต่อไป ประธานหมุนเวียนจะเป็นผู้นำลำดับสูงสุดของบริษัท และเขาจะนำคณะกรรมการบริษัท และบริหารคณะกรรมการบริษัทวาระหกเดือน
ความคิดของระบบซีอีโอหมุนเวียนมาจากที่ไหน เหริน เจิ้งเฟย ไม่ต้องการให้หัวเหวย
ไม่รูอะไรเลยเกี่ยวกับทิศทางธุรกิจของพวกเขาเอง – ถ้าเขาเป็นซีอีโอคนเดียวเท่านั้น ได้ตายไป ภายในหัวเหวยความเชื่อคือเราจะเคารพและเรียนรู้จากธรรมชาติ ความเข้าใจเช่นนี้สามารถสอนเราได้มากเกี่ยวกับบริษัทควรจะบริหารอย่างไร ภายในกรณีของระบบซีอีโอหมุนเวียน เรื่องราวสองเรื่อง
จากอาณาจักรสัตว์จะสำคัญ เรื่องราวแรกจะเป็นฝูงควายมีชีวิตและปฏิบัติด้วยกันอย่างไร และได้ถูกบันดาลใจจากหนังสือเกี่ยวกับความเป็นผู้นำใหม่ชื่อ Flight of the Buffalo ของเจมส์ บีลาสโก และราลฟ์ สเตเยอร์ หนังสือเล่มนี้ได้อธิบายว่าฝูงควายจะปฏิบัติตามหัวหน้าฝูงของมัน และถ้าหัวหน้าฝูงถูกฆ่า ฝูงควายจะลงเอยด้วยความสับสนวุ่นวายและตายไป
ตามมุมมองของเจมส์ บีลาสโกและราลฟ์ สเตเยอร์ เรื่องราวนี้จะแสดงสไตล์ความเป็นผู้นำสมัยเดิม ผู้นำคนหนึ่งจะให้ทิศทางและกลายเป็นขาดไม่ได้ การสร้างสถานการณ์ที่ผู้ตามไม่รู้จะทำอะไร ถ้าผู้นำไม่ปรากฏอยู่ต่อไปอีกแล้ว ภายในความรู้สึกอย่างเดียวกัน เหริน เจิ้งเฟย ไม่ต้องการให้หัวเหวยไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับทิศทางธุรกิจของพวกเขาเอง ถ้าเขาเป็นซีอีโอคนเดียวเท่านั้นได้เสียชีวิตไป เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์นี้
เรื่องราวอาณาจักรที่สองจะตรงประเด็น เรื่องราวนี้จะเกี่ยวกับเป็ดบินอย่างไรเมื่อเดินทางเป็นฝูง เป็ดจะบินเป็นขบวนรูปตัววี พฤติกรรมโดยเฉพาะของมันคือ
ผู้นำฝูงจะเปลี่ยนแปลงเป็นประจำ การปล่อยให้เป็ดตัวอื่นได้พักผ่อน เพื่อที่จะให้เป็นไปตามพฤติกรรมการบินของเป็ด ฮัวเหว่ย ได้ตัดสินใจต่อต้านกับผลตามมาที่ไม่ดีของการมีซีอีโอคนเดียวเท่านั้น ด้วยการใช้ระบบหมุนเวียนซีอีโอ
เป็นประจำด้วย
บุคคลหลายคนได้มองว่าเป้าหมายในที่สุดของระบบหมุนเวียนซีอีโอคือ การระบุผู้ดำรงตำแหน่งก่อนของเหริน เจิ้งเฟย โมเดลธุรกิจของฮัวเหวยจะอยูบนพื้นฐาน
ของค่านิยมที่เหริน เจิ้งเฟย ได้ให้ความสำคัญตั้งแต่การก่อตั้งบริษัท การตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยความจริงใจ ความไม่ย่อท้อที่จะทำให้ความฝันของลูกค้าเป็นความจริง แต่กระนั้นความกังวลต่ออนาคตคือ พวกเขาจะสามารถจะยังคงเป็นองค์กการขับเคลื่อนด้วยค่านิยมนี้อย่างเข้มแข็งหรือไม่ โดยไม่มีเหริน เจิ้งเฟย
เป็นส่วนหนึ่งของฮัวเหวยอีกแล้ว ด้วยเหตุผลเหล่านี้ สื่อตะวันตกได้เสนอแนะว่า
ระบบหมุนเวียนซีอีโอนี้ได้ถูกใช้เป็นการสอบเข้ามหาวิทยาลัยประเภทหนึ่ง
พิจารณาว่าใครจะกลายเป็นผู้นำคนต่อไปของฮัวเหวย และสืบทอดต่อจาก
เหริน เจิ้งเฟ่ย แต่กระนั้นด้วยการพูดคุยกับผู้บริหารหลายคนภายในหัวเหวย ความคิดไม่ใช่บริษัทกำลังมองหาเพื่อการทดแทนเหริน เจิ้งเฟยเลย ที่จริงแล้วม้นจะเป็นความเชื่อของพวกเขาว่าฮัวเหวยในอนาคตจะใช้ความคิดของการเป็นผู้นำร่วม ผู้บริหารระดับสูงที่มีส่วนร่วมทุกคนจะป้องกันและพัฒนาค่านิยมของบริษัทต่อไปอีก
การเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง การร้ายโจมตีของผู้ก่อการร้ย และระดับออกซิเจนที่ต่ำของเม้าท์เอเวอร์เรสต์ ไม่สามารถยับยั้งพวกเขาได้ เมื่อยักษ์ใหญ่เทคโนโลจีนจีน ฮัวเหวย ได้ขยายตัวไปทั่วโลก ผู้ก่อตั้งฮัวเหวย วิศวกรก่อนหน้านี้ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนของจีน ได้บริหารยักษใหญโทรคมนาคมด้วยระเบียบวินัยททางทหาร ผู้เข้ามาใหม่ ณ สำนักงานใหญ่ของบริษัทภายในเซินเจิ้น จะต้องผ่านค่ายฝึกสองสัปดาห์ ณ มหาวิทยาลัยฮัวเหวย สถาบันการฝึกอบรมของบริษัท เพื่อการล้างสมอง
พวกเขาจะนอนภายในหอพักและตื่นทุกวันตีห้า เพื่อวิ่งและออกกำลังกายด้วยเครื่องแบบฮัวเหวยฟ้าขาว พวกเขาจะเข้าห้องเรียนเกี่ยวกับประวัติและผลิตภัณฑ์ของบริษัท และวัฒนธรรมบริษัท พวกเขาจะเรียนรู้ “การกระหายเลือด”
คล้ายกับหมาป่า รากเหง้าทางทหารจะบอกกล่าวดีเอ็นเอของวัฒนธรรมบริษัท
คำพูดเปรียบเทียบทางทหารมักจะถูกใช้กับภาษาภายในของฮัวเหวย
และเราจะมีความรุนแรงคล้ายสนามรบต่อวิถีทางการดำเนินงานของบริษัท
ฮัวเหวยได้อธิบายวัฒนธรรมบริษัทของพวกเขาเองเป็นวัฒนธรรมหมาป่า
หมายความว่าทีมได้ถูกคาดหวังให้กระทำด้วยความรุนแรงของฝูงหมาป่า

ดังที่บุคคลของฮัวเหวยก่อนหน้านี้ได้อธิบายว่า ภายในหัวเหวยแล้ว วัฒนธรรมหมาป่า หมายความว่าเราฆ่าหรือถูกฆ่า ผมคิดว่าความคิดคือ ถ้าเรามีบุคคลทุกคนภายในบริษัทแข่งขันระหว่างกันอย่างรุนแรงแล้ว บริษัทจะต่อสู้ได้ดีขึ้น และแข่งขันกับการคุกคามภายนอกได้ ฮัวเหวยต้องการบุคคลที่กระหาย ทำงานหนัก – บุคคลของฮัวเหวยทำงานเฉลี่ยวันละ 12 ชั่วโมง แต่พวกเขาจะได้รับเงินเดือนดี และเลื่อนตำแหน่งรวดเร็ว ถ้าพวกเขาบรรลุความสำเร็จ พวกเขาทำงานเหนื่อยมาก พวกเขาถูกกระตุ้นให้ยอม
ต่อกฎของบริษัท ตราบเท่าที่เพิ่มคุณค่าต่อบริษัท และไม่ใช่ส่วนบุคคล
ฮัวเหวยได้ถูกยกย่องภายในจีนต่อจิตวิญญานบริษัทที่ทะเยอทะยาน บุคคล ของบริษัทและบุคคลที่ได้ศึกษามันจะเรียกชื่อต่อจิตวิญญานบรืษัทที่ทะเยอทะยานว่า “วัฒนธรรมหมาป่า’
ในขณะนี้ วิถีทางที่ดุดันของบริษัทได้ถูกทอดแสงใหม่ อเมริกาได้กล่าวหา
เหมิง หวันโจว ซีเอฟโอของฮัวเหวยและลูกสาวของผู้ก่อตั้ง จากการฉ้อโกงธนาคารที่จะช่วยธุรกิจของบริษัทภายในอิหร่าน มันจะไม่ชัดเจนแน่นอน
วัฒนธรรมของฮัวเหวยได้กำหนดการทำธุรกิจของพวกเขาภายในอิหร่านอย่างไร
การนำความผูกพันที่จริงใจของฮัวเหวยอยู่ข้างหน้าที่จะช่วยเหลือลูกค้า
ในขณะที่โลโก้ของฮัวเหวยได้ถูกยกระดับไม่ต่ำกว่สามครั้ง มันจะมีความสม่ำเสมอภายในการเปรียบที่มองเห็นได้ โลโก้เริ่มแรกจะมีองค์ประกอบบางอย่างที่ได้ถูกใช้กับโลโก้รุ่นต่อมาด้วย เช่น กลีบดอกไม้ และมุมคม

การไร้ความกลัวของความยุ่งยากและความกระตือรือร้นของการสร้างความก้าวหน้าจะถูกยืนหยัดโดยบุคคลทุกคนของฮัวเหวย ไม่ว่าความยากลำบากจะซับซ้อนแค่ไหน ฮัวเหวยจะหยั่งรากค่านิยมแกนของพวกเขาภายในทุกด้านของการดำเนินงาน สิงห์โตและเสือดาวอาจจะรู้สึกถูกคุกคามโดยหมาป่า
แม้ว่ามันจะมีร่างกายเข้มแข็งกว่า เหริน เจิ้งเฟย ได้ชี้ว่า ฝูงหมาป่าจะมีความสามารถที่น่ากลัวเพื่อความอยู่รอด ความต้องการอย่างเข้มแข็งที่จะชนะและไม่ลดละภายในการติดตามเป้าหมาย ด้วยความมุ่งหมายนี้ภายในจิตใจ หมาป่าสามารถเปิดการโจมตีอย่างดุเดือดไม่ว่าอะไรก็ตาม การใช้วิธีการทุกอย่างและความพยายามที่จะต่อสู้ด้วยวิถีทางร่วมกัน จนกระทั่งสิงห์โตและเสือดาวหมดแรง เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ ซีอีโอของฮัวเหวยได้ใช้การแสดงออกของ วัฒนธรรมหมาป่า ที่ได้กลายเป็นมีชื่อเสียงและใช้เป็นแนวทาางเพื่อพฤติกรรมภายในด้านที่หลากหลาย
ด้วยวิถีืทางระเบียบวินัยทางทหารของผู้ก่อตั้ง ภายในห้องทดลอง ณ สำนักงานใหญ่เจินเสิ้นของหัวเหวย จะมีการเขียนตัวอักษรบนกำแพงอ่านว่า
การเสียสละจะเป็นสาเหตุสูงสุดของทหาร ชัยชนะจะเป็นการมีส่วนช่วยยิ่งใหญ่ที่สุดของทหาร
ปัจจุบันนี้ชั่วโมงการทำงานยังคงยาวนานอยู ณ ฮัวเหวย แม้ว่าเตียงนอนพับได้ ณ ที่ทำงาน จะถูกใช้เพื่อการนอนหลับกลางวันมากกว่าการอยู่ค้างคืน
สภาพแวดล้อมของการทำงานหนักไม่ได้ถูกชื่นชมโดยทั่วไปภายในจีน ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตได้มองว่าหัวเหว่ยโหดร้าย ภายหลังจากที่บุคคลอายุ 25 ปีเสียชีวิตจากโรคไข้สมองอักเสบ และบุคคลทำงานจำนวนมากฆ่าตัวตายได้นำไปสู่ความรุนแรงมากขึ้นภายในสื่อของจีน เมื่อมาถึงความประพฤติของบุคคล ณ หัวเหวย พวกเขาจะมีเส้นแดงที่ไม่สามารถข้ามได้ภายในเหตุการณ์อะไรก็ตาม เช่น การเปิดเผยความลับของบริษัทและการทำผิดกฏหมาย แต่ภายในภาษาเฉพาะของบริษัท พวกเขาจะมีเส้นสีเหลืองด้วย พวกเขาจะถูกสนับสนุนให้ละเลยกฏภายในบางอย่าง เช่น การห้ามการใช้ของขวัญที่จะชนะลูกค้า ถ้ามันจะได้ประโยชน์แก่บริษัทที่จะกระทำเช่นนั้น ต่อบุคคลบางคน ณ ฮัวเหวย เส้น
เหล่านี้อจจะกลายเป็นคลุมเครือ เมื่อบริษัทได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก
ภายใต้วัฒนธรรมการทำงานหนัก หัวเหว่ย ได้มาถึงจุดสุดยอดของความสำเร็จภายในเกือบทุกธุรกิจ ตั้งแต่อุปกรณ์โทรคมนาคม สมาร์ทโฟน ไปจนถึง
ชิปส์ เป็นต้น แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาได้เผชิญกับความยุ่งยากด้วย พวกเขาจะถูกกล่าวหาหลายอย่างตั้งแต่การฉ้อโกงธนาคาร ไปจนถึงการส่งเสริมธุรกิจภายในอิหร่าน และด่างพร้อยกับการให้สินบนที่จะชนะธุรกิจภายใน
อัฟริกา
ยิ่งกว่านั้นพวกเขาได้ถูกกล่าวหาจากการลอกเลียนแบบรหัสต้นฉบับของคู่แข่งขันอเมริกัน และแม้แต่การขโมยปลายนิ้วของหุ่นยนต์ภายใน ที-โมบาย แล้ป เป็นต้น
มีนจะเป็นหลักฐานอย่างแท้จริงที่วัฒนธรรมหมาป่าหรือการเจริญเติบโตไม่ว่าอย่งไรก็ตามจะหล่อเลี้ยงบริษัทจนถึงระดับหนึ่ง และเมื่อเลยพ้นจุดนั้นแล้ว มันจะไม่สร้างระดับผลลัพธ์อย่างเดียวกัน ยิ่งกว่านั้นหัวเหวยได้ถูกกล่าวหาจากจารกรรมโดยอเมริกา และได้ถูกต่อต้านการพัฒนาห้าจีอย่างรุนแรง ดังนั้นมันจะชัดเจนมากที่วัฒนธรรมหมาป่าจะต้องมีส่วนช่วยไปสูระดับที่สูงกว่าความยุ่งยากเหล่านี้
อีริต เฟลมโฮลท์ ที่ปรึกษาทางการบริหาร ได้ทำกรณีศึกษาเกี่ยวกับฮัวเหวย เขียนว่า ฮัวเหวยมองตัวเองอยู่ภายในการสู้รบหรือสงครามกับคู่แข่งขันทุกราย
จากมุมมองของเหริน เจิ้งเฟย มันจะเป็นการสู้รบอย่างต่อเนื่องเพื่อความอยู่รอด เหริน เจิ้งเฟย ได้กล่าวว่า ภายในการสู้รบ อาวุธที่แท้จริงคือวัฒนธรรมบริษัท บทความของวารสารฮาร์วาร์ด เกี่ยวกับความสำเร็จของฮัวเหวย ได้กล่าวว่า เราจะมีความรุนแรงคล้ายสนามรบต่อวิถีทางที่ฮัวเหวยดำเนินงาน ภายในตอนเริ่มแรก สโลแกนที่ชอบของเหริน เจิ้นเฟย จะมีลักษณะของการโห่ร้องเข้าสู้รบ ถ้าเราจะแพ้ จงต่อสู้จนสุดกำลังของเรา จนเราตาย
บริษัทเทคโนโลยีจีนอื่น เช่น อาลีบาบา และเสียวหมี่ จะมีวันทำงานที่เหนื่อยมาก แม้แต่การใช้ถ้อยคำ 996 ของแจ็ค หม่า ณ อาลีบาบา บุคคลจะทำงานตั้งแต่ 9.00 พีเอ็ม 9.00 เอเอ็ม หกวันต่อสัปดาห์ แต่หัวเหวยดูเหมือนกับจะใช้ระดับที่สูงขึ้น
เราจะมีเรื่องราวไม่มีหลักฐานภายในบริษัทเกี่ยวกับบุคคคหนึ่งจากญี่ปุน ประเทศที่ขึ้นชื่อกับกับชั่วโมงที่ยาวนานจนเสียชีวิตจากการทำงานมากเกินไป ได้เริ่มต้นทำงาน ณ ฮัวเหวย เขาจะทำงานอยู่สามเดือนเท่านั้น เมื่อเขาได้ลาออกจากงาน เขาได้เรียกการทำงานล่วงเวลาว่า ผิดมนุษย์ แม้แต่ปัจจุบันนี้
บุคคลของฮัวเหวยได้ถูกขอที่จะสมัครใจลงนามข้อตกลงความมุ่งมั่น
การปฏิญานความจงรักภักดีที่พวกเขาจะยกเลิกวันหยุดและค่าล่วงเวลา จริยธรรมการทำงานนี้ได้ทำให้ฮัวเหวยกลายเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมใหญ่ที่สุดของโลก และผู้ผลิตสมาร์ทโฟนใหญ่ที่สุดลำดับสองตามหลังซัมซุง และนำหน้าแอปเปิ้ล
ผู้นำที่เข้มแข็งจะให้ความรู้สึกของความมุ่งหมายแก่บุคคลของพวกเขา และ
เหริน เจิงเฟ่ย จะไม่มีข้อยกเว้น ความสำคัญอย่างแรกและที่สุดของเขาคือลูกค้า
บริษัทหลายบริษัทได้รับเอาทัศนคติที่มุ่งลูกค้า แต่พวกเขามากน้อยแค่ไหนมีชีวิตอยู่กับมัน ฮัวเหวยได้แตกต่างตัวเองจากคู่แข่งขันภายในกรณีนี้ เหริน เจิ้งเฟย ได้กล่าวซ้ำปีเริ่มแรกของฮัวเหวยบุคคลทุกคนภายในบริษัทจะใช้สายตาของพวกเขามองที่ลูกค้า และหันหลังของพวกเขาแก่นายอย่างไร หลายปีมาแล้วนักลงทุนได้มาเยี่ยมสำนักงานใหญ่ของฮัวเหวยภายในเซินเจิ้น เหริน เจิงเฟย ได้ขอให้ผู้บริหารของเขาไปต้อนรับ นักลงทุนได้กล่าวอย่างผิดหวังว่า เขาได้ปฏิเสธนักลงทุนด้วยเงิน 3 ล้านล้านเหรียญอย่างไร คำอธิบายของเหริน เจิ้งเฟยคือ เขาจะพบกับลูกค้าใครก็ตามส่วนบุคคล ไม่ว่าพวกเขาจะเล็กแค่ไหน แต่นักลงทุนไม่ใช่ลูกค้า
ภายในพื้นที่ทะเลทรายและชนบทของจีน หนูมักจะกัดสายโทรคมนาคม
การบริการการเชื่อมโยงลูกค้า บริษัทโทรคมนาคมข้ามชาติที่บริการอยู่ในขณะนั้นไม่ได้มองเป็นปัญหาของพวกเขา แต่เป็นปัญหาของลูกค้า ตรงกันข้ามฮัวเหวยมองปัญหาหนูเป็นความรับผิดชอบที่บริษัทจะต้องแก้ ดังนั้นพวกเขา
ได้สร้างประสบการณ์อย่างกว้างขวางภายในการพัฒนาอุปกรณ์และวัสดุที่
แข็งแรง การช่วยให้ฮัวเหวยได้ธุรกิจใหญ่หลายอย่างภายในตะวันออกกลาง
ที่มีปัญหาอย่างเดียวกันและขัดขวางบริษัทข้ามชาติอื่น
นับแต่นั้นมา เราจะมีโครงการอื่นที่ประสบการณ์ของฮัวเหวยได้ตอบสนองความท้าทายของภูมิกาศ การสร้างสถานีฐานสื่อสารสูงที่สุดภายในโลก
สูง 6,500 เมตรบนเม้าท์ เอเวอร์เรสท์ และการสร้างเครือข่ายจีเอสเอ็มแห่งแรกภายในวงกลมอาร์คติค
แกนความเป็นผู้นำของเหริน เจิ้งเฟ่ย จะเป็นข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขา
จะชัดเจนมากเกี่ยวกับความมุ่งหมายของฮัวเหวยที่ช่วยให้ลูกค้าบรรลุความฝันของพวกเขา มันจะเป็นข้อเท็จจริงที่มีชื่อเสียงที่เหริน เจิ้งเฟยมีชีวิตอยู่กับความมุ่งหมายนี้ และดำเนินตามมันด้วยพลังที่ไม่จำกัด เหริน เจิ้งเฟย จะไม่ลดละภายในการสื่อสารความมุ่งหมายนี้ ด้วยถีทางของเรื่องราวแก่บุคคลของเขา และชักจูงพวกเขาให้ทุ่มเทที่จะดำเนินตามภารกิจของบริษัท “เชื่อมโยงบุคคลผ่านการสื่อสาร”
การเติมเชื้อเพลิงด้วยความลุ่มหลงของ เหริน เจิ้งเฟย ได้ทำงานหนักที่จะเปลี่ยนความมุ่งหมายของบริษัทเป็นวิสัยทัศน์ที่มุ่งให้ฮัวเหวยบรรลุฐานะการนำโลก ในขณะที่ดำเนินตามวิสัยทัศน์นี้ เขาได้พิสูจน์ความสามารถของเขาที่จะออกแบบกลยุทธ์ที่สามารถทำให้เขาปรับวิสัยทัศน์ของเขาต่อความท้าทายที่บริษัทได้เผชิญอยู่ ความสำคัญภายในกระบวนการบริหารทั้งหมดนี้คือ
การใช้วิสัยทัศน์ที่ปรับตัวของเขาจะไม่เคยประนีประนอมความมุ่งหมายและค่านิยมของบริษัท เหริน เจิ้งเฟย จะมุ่งอนาคตอย่างต่อเนื่องและยากที่จะครุ่นคิดเกี่ยวกับอดีต ด้วยข้อเท็จจริงจุดแข็งอย่างหนึ่งที่บุคคลอ้างถึงอยู่เสมอเมื่อพูดเกี่ยวกับผู้ก่อตั้งฮัวเหวยคือ เหริน เจิ้งเฟย จะคิดถึงเกี่ยวกับประเภทของบริษัทที่เขาต้องการให่ฮัวเหวยจะเป็นภายใน 10 ปีหน้า ตัวอย่างเช่น ฮัวเหวยจะวางแผนการพัฒนาบริษัทเป็นทศวรรษ ไม่ใช่เป็นปีเหมือนกับคู่แข่งขันของพวกเขา เช่น โมโตโรล่า และอีริคสัน
การสร้างกำลังงานที่ผูกพันเพื่อที่จะบรรลุความมุ่งหมายต้องการบุคคลที่บันดาลใจ คุณลักษณะที่สม่ำเสมออย่างหนี่งของเหริน เจิงเฟ่ย คือ ความสามารถของเขาที่จะบันดาลใจบุคคลอื่น เหริน เจิ้งเฟย จะชอบมากกับการเล่าเรื่องราว
และใช้มันอย่างกว้างขวางเป็นกลไกถ่ายทอดความคิดของเขาแก่บุคคล
ภายในปีเริ่มแรกของฮัวเหวย เขาจะเล่าเรื่องราวแก่บุคคลเป็นประจำ เขาเชื่อว่า
ภายใน 20 ปี หัวเหว่ยควรจะมีหนึ่งส่วนสามของส่วนแบ่งตลาดภายในโลก แม้ว่าข้อเท็จจริง ณ เวลานั้นฮัวเหวยจะว่าจ้างบุคคล 200 คนเท่านั้น พวกเขาหลายคนคิดว่า ณ เวลานั้น เขาบ้าไปแล้วหรือ แต่กระนั้นเหริน เจิ้งเฟย จะยังคงยืนหยัดภายในการพูดเกี่ยวกับความทะเยอทะยานของเขา ณ ทุกสถานการณ์ เรื่อราวที่มีชื่อเสียงภายในปีที่ห้าของฮัวเหวยคือ เหริน เจิงเฟ่ย ได้วิ่งออกจากครัวในขณะที่กำลังทำอาหารแก่บุคคลของฮัวเหวยต่างประเทศ งานอดิเรกของเขาคือการทำอาหาร ได้ประกาศว่า “ฮัวเหวยจะเป็นผู้เล่นสามลำดับสูงสุดภายในตลาดการสื่อสารโลก 20 ปีจากนี้ไป”
ฮัวเหวยได้ยืนยันว่าวิถีทางเดียวเท่านั้นที่จะบรรลุความมุ่งหมายคือ การทำงานหนัก ตอนปีเริ่มแรกของบริษัท บุคคลของฮัวเหวยจะได้ผ้าห่มและที่นอน พวกเขาหลายคนทำงานถึงกลางคืน และนอนภายในสำนักงานของพวกเขา บางทีการม่อยหลับระหว่างอาหารเที่ยงอีกครั้งหนึ่งของวันต่อมา ดังที่บุคคคลหนึ่งของฮัวเหวยได้กล่าวว่า เบาะของเราจะแสดงการทำงานหนักภายในสมัยก่อน และความคิดนี้ได้ถูกถ่ายทอดเป็นจิตวิญญานของการทุ่มเททำให้ดีที่สุดภายในอะไรก็ตามที่เราทำ
การรู้ว่ากำลังงานที่ทุ่มเทและผูกพันจะทำให้บริษัทแข่งขันได้มากขึ้น ไม่ได้เป็นแนวคิดที่ยากเกินไปจะเข้าใจ วิถีทางที่จะส่งเสริมการทุ่มเทและทำให้มันถูกยอมรับแก่บุคคล – ตามกรณีของฮัวเหวย จะยาก ฮัวเหวยได้ใช้ระบบการปฏิบัติงานสิ่งจูงใจ ฮัวเหวยไม่ได้เป็นบริษัทมหาชน หุ้นของเหริน เจิ้งเฟย จะประมาณ 1.4% เท่านั้น และบุคคล 82,471 ของฮัวเหวยจะถือหุ้นส่วนที่เหลืออยู่ ระบบการถือหุ้นนี้ได้ถูกอ้างภายในฮัวเหวยว่าเป็น “กุญแจมือเงิน” มันจะเแตกต่างจากระบบการถือหุ้นที่มักจะใช้ถ้อยคำว่า กุญแจมือทองคำ ความคิดรากฐานของระบบนี้คือ
เหริน เจิงเฟ่ย ต้องการจะร่วมทั้งความรัยผิดชอบและผลประโยชน์กับเพื่อนร่วมงานของเขา ดังที่เขาได้กล่าวว่า เขาต้องการให้บุคคลทุกคนกระทำเหมือนกับนาย
เราจะมีความเชื่อร่วมภายในบริษัทว่าไอพีโอ – การขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก จะทำให้บุคคลไม่กี่คนร่ำรวยเท่านั้น และบุคคลส่วนใหญ่จะสูญเสียแรงจูงใจของพวกเขา เหริน เจิ้งเฟยจะเน้นย้ำการเหลีกเลี่ยงไอพีโอ จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้บริษัทรักษาจิตวิญญานการต่อสู่ร่วมกันไว้ได้ ระบบการถือหุ้นของฮัวเหวยไม่เพียงแต่จะช่วยให้บริษัทดึงดูดและรักษาบุคคลที่ทุ่มเทไว้เท่านั้น แต่ทำให้บริษัทวางแผนเพื่อระยะยาวด้วย เหริน เจิ้งเฟย ได้ยกย่องมันด้วยการทำให้พวกเขาอยู่ใกล้ชิดกับเป้าหมายและวิสัยทัศน์ระยะยาว ฮัวเหวยจะวางแผนการพัฒนาบริษัทเป็นทศวรรษ
ถ้อยคำ หัวเหวย แปลว่า ความสำเร็จของจีน อักษรตัวแรกของชื่อฮัวเหวย
หมายถึงดอกไม้ แต่ในขณะนี้มักจะหมายถึงจีนหรือชาวจีน อักษรตัวที่สอง หมายถึง ความสำเร็จ หรือการกระทำ เมื่อรวมกันอักษรสองตัวจะหมายถึงตามตัวอักษร ความสำเร็จของจีน ฮัวเหวยได้ใช้โลโก้รูปดอกไม้ นี่จะเป็นการสร้างสัญลักษณ์ของอักษรตัวแรกของฮัวที่สามารถหมายถึงกลีบดอกไม้ ในขณะที่อักษรตัวที่สองของเหวยจะหมายถึงความสำเร็จ ดังนั้นมันสามารถสรุปได้ว่าโลโก้ฮัวเหวยจะเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จที่พรั่งพรูหรือโอ้อวด
โลโก้ของฮัวเหวยจะเป็นโลโก้ที่ปราณีต และแสดงถึงจิตวิญญานของนวัตกรรมของบริษัทนี้ บริษัทจะมีมากกว่า 56,000 สิทธิบัตรที่ใช้การอยู่ของโทรคมนาคม เครือข่าย และการคิดค้นไฮเทคอื่นภายในโลก
โลโก้ฮัวเหวยต้นกำเนิดได้ถูกสร้าง ณ เวลาเดียวกันกับการเริ่มต้นบริษัทเมื่อ ค.ศ 1987 โลโก้ฮัวเหวยจะแสดงหลักการที่บริษัทจะเป็นผู้ผลิตที่มุ่งลูกค้า การค้นหานวัตกรรมอยู่เสมอ การสร้างความสามัคคี และการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน