ซัมโปะ โยชิ : แอนนิต้า รอดดิค บอดี้ ช้อป
ซัมโปะ โยชิ : แอนนิต้า รอดดิค บอดี้ ช้อป
ณ ร้านซื้อสะดวกแฟมมิลี่มารท ภายในโตเกียว ลูกค้าหยิบกล้วยสด และ
จ่ายเงินด้วยสมารทโฟนของพวกเขา ภาพที่เราคุ้นเคย แต่ไม่กี่คนจะรู้ว่าบริษัทหนึ่งที่วางแผนและสั่งการธุรกรรมเกือบทั้งหมด ตั้งแต่การปลูกกล้วย ไปจนถึงเจ้าของร้าน และเเม้แต่ชำระเงินด้วยสมารทโฟน อิโตซู ร่วมกับบริษัทของกลุ่มเป็นเจ้าของแฟมมิลี่มาร์ท เมื่อ ค.ศ 2020 แฟมมิลี่มาร์ทมีร้าน 16,613 แห่งภายในญี่ปุ่น
อิโตชู เริ่มต้นเมื่อ ค.ศ 1858 ภายหลังไม่นานการเปิดของญี่ปุ่นต่อการค้าต่าง
ประเทศ เมื่อชูเบะ อิโตะ ได้เริ่มการขายส่งผ้าลินินถึงบ้าน เขาได้เปิดร้านผ้าม่าน เบนชู ภายในโอซากา และได้เริ่มต้นส่งออกสินค้าทั่วไปไปอเมริกา
เมื่อ ค.ศ 1890 นับแต่นั้นมาอิโตชูได้วิวัฒนาการและเจริญเติบโตตลอด 150 ปี ด้วยฐานประมาณ 100 แห่งภายใน 62 ประเทศ
ธุรกิจของชูเบะ อิโตะ อยู่บนรากฐานจิตวิญญานของซัมโปะ โยชิ ปรัชญาธุรกิจของพ่อค้าภายในโอมิ จังหวัดตรงที่เขาได้กำเนิด ซัมโปะ โยชิ ต้น
กำเนิดย้อนหลังไปยังยุคโชกุน เมื่อพ่อค้าภายในโอมิ ถูกยอมให้ส่งเสริม
ธุรกิจภายในท้องถิ่น เนื่องจากการมีส่วนช่วยของพวกเขาต่อสังคม ตั้งแต่นั้นมา ไม่ดีต่อผู้ขายและผู้ซื้อเท่านั้น แต่ดีต่อสังคมด้วย ได้กลายเป็นปรัชญาการบริหาร
ซัมโปะ โยชะ แสดงปรัชญาธุรกิจรับเอาไว้โดยพ่อค้าโอมิ และหมายถึง
ดีต่อผู้ขาบ ดีต่อผู้ซื้อ และดีต่อสังคม มันเป็นจิตวิญญานที่ส่งต่อจากชูเบะ
อิโต ไปยังอิโตชู กรุ้ป ปัจจุบัน พวกเขาได้ประกาศ จิตวิญญานของ ซัมโปะ
โยชะ เป็นภารกิจของบริษัท
เราปราถนาอย่างจริงใจที่จะมีส่วนช่วยแก้ปัญหาสังคม โดยไม่แสวงหา
ทำกำไรสูงสุดของเราเท่านั้น แต่พิจารณาและตอบสนองต่อความคาดหวัง
และความไว้วางใจของผู้มีส่วนได้เสียทุกคนของเรามีทั้งลูกค้าของเรา ผู้ถือหุ้นของเรา และบุคคลของเรา ซันโปะ โยชิ เป็นจิตสิญญานธุรกิจที่อิโตชู
มุ่งหมาบนำผลกระทบทางบวกไปสู่โลก และมีส่วนช่วยทำให้สังคมยั่งยืน
ต่อทุกคน
ถ้อยคำซัมโปะ โยชิ หรือประโยชน์สามทางเชื่อมโยงกับพ่อค้าโอมิ มันหมายถึงการรักษาผู้มีส่วนได้เสียสามคนให้มีความสุข ณ เวลาเดียวกัน
ผู้ขาย ผู้ซื้อ และสังตม
อิโตชู เป็น โซกะ โชชะ แนวหน้ารายหนึ่งของญี่ปุ่น พวกเขาดำเนินการค้า
ภายในประเทศ การนำเขาและการส่งออก และการค้าระหว่างประเทศของ
ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น สิ่งทอ เครื่องจักร โละหะ แร่ พลังงาน เคมี
อาหาร และการเงิน
ภายในญี่ปุ่น โยชิ หมายความว่า ดี และซัมโปะ หมายความว่า สามด้าน
และสามด้านเหล่านี้ประกอบด้วย ผู้ขาย ผู้ซื้อ และสังคม ดังนั้นซัมโปะ
โยชิ คือ ดีต่อผู้ขาย ดีต่อผู้ซื้อ ดีต่อสังคม
อิโตชิ คอรปอเรชั่น
เป็นบริษัทการค้าใหญ่ที่สุดลำดับสามของญี่ปุ่น รู้จักกันเป็นโซโกะ โชชะ หรือบ้านการค้าที่น่าเคารพ ตามหลังมิตซุย โค และมิตซูบิชิ คอรปอเรชั่น
้เท่านั้น
โซโกะ โชชะ บริษัทการค้าทั่วไป มีบทบาทที่สำคัญภายในการพัฒนาทางประวัติศาสตร์ของเศรษฐกิจญี่ปุ่นทั้งภายในประเทศ และระหว่างประเทศ ตั้งแต่การเริ่มต้นเริ่มแรกของมันเป็นบ้านการค้าเฉพาะด้านรายเล็ก
มันได้กลายเป็นครอบงำชีวิตการค้าของญี่ปุ่น โดยเฉพาะเป็นหัวหอกการ
บูรณาการของญี่ปุ่น ไปสู่เศรษฐกิจโลก ภายในศตวรรษภายหลังการฟื้นฟู
เมจิ จากเส้นก้วยเตี๋ยวไปสู่ดาวเทียม ภูมืศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงของญี่ปุ่น
เรามีบริษัทการค้าประมาณ 9,000 รายภายในญี่ปุน แต่มันสำคัญที่จะระบุ
ความแตกต่างระหว่างบริษัทการค้าเฉพาะด้าน – เซ็นมอน โซชะ และบริษัท
การทั่วไป – โซโกะ โชชะ บริษัทการค้าเฉพาะด้านยุ่งเกี่ยวกับการนำเข้าและ
การส่งออกผลิตภัณฑ์เฉพาะ และเกี่ยวพันกับประเทศเฉพาะ โซโกะ
โชซะ เป็นบริษัทการค้าครอบคลุมที่มีบทบาทสำคัญภายในประวัติศาสตร์
ของญี่ปุ่น
ภายหลังการเปิดญี่ปุ่นภายในกลาง ค.ศ 1800 การค้าระหว่างญี่ปุ่นและโลกภายนอกถูกครอบงำเริ่มแรกโดยพ่่อค้าต่างประเทศ หรือพ่อค้าจากประเทศ
ตะวันตก เมื่อญี่ปุ่นได้กลายเป็นทันสมัย บริษัทการค้าญี่ปุ่นค่อยพัฒนาและ
แทนที่พวกเขา บางบริษัทการค้าเป็นส่วนหนึ่งของ คอนกอมเรตของครอบครัวเรียกว่าไซบัตสุ แสดงการพัฒนาเหมือนโชโกะ โชชะ – โดยเฉพาะ
มิตซูบิชิและมิตซุย ได้พัฒนาบริษัืทการค้าประสานการผลิต การขนส่ง และการเงิน ระหว่างธุรกิจที่หลากหลายภายในกลุ่ม
รากเหง้าของบริษัทโซโกะ โชชะ สามารถย้อนหลังไปยังตอนสิ้นสุดของ
ช่วงเวลาอีโดะ มันได้กล่าวว่าต้นกำเนิดของบริษัทการค้าสามารถย้อนหลัง
ไปยัง ค.ศ 1865 เมื่อ ซากาโมโตะ เรียวมะ
ได้ก่อตั้งคาเมะยามะ ชะจู บริษัทการค้่าเอกชนแห่งแรกภายในนางาซากิ
ซากาโมโตะ เรียวมะ เป็นนักเคลื่อนไหวศูนย์กลางภายในความพยายาม
ที่จะล้มโชกุน 150 ปีที่แล้ว แต่กระนั้นเขาได้ถูกฆ่าตอนอายุ 33 ปี และไม่
ได้มีชีวิตอยู่ มองเห็นความพยายามของเขาทำให้ประเทศทันสมัยบังเกิด
ผล
ในขณะที่เขาเป็นนักดาบที่มีชื่อเสียง ด้วยความสามารถของเขาเชื่อมโยง
กับบุคคลอื่น และทักษะการต่อรอง ไม่ใช่กำลังอย่างโหดร้าย เขาได้ช่วย
นำญี่ปุ่นไปสู่ยุคใหม่ ซากาโมโตะ เรียวมะ ได้มุ่งการนำหน้าเวลาของเขา การมีมุมมองโลกและอุดมการณ์ ภายในเวลาของความขัดเเย้งภายในญี่ปุ่น
ยาทาโร อิวาซากิ ผู้ก่อตั้งมิตซูบิชิ สนับสนุน บริษัทการค้าก่อตั้งโดยซากาโมโตะ เรียวมะ และนั่นพวกเขาได้พบกันครั้งแรกอย่างไร ในขณะที่พวกเขาได้ใช้เส้นทางที่แตกต่างกัน ยาทาโร และเรียวมะ ได้ร่วมความตระหนักอย่างเดียวกันของโลกที่กว้างขึ้น และมุ่งที่ญี่ปุ่นของวันพรุ่งนี้ภายหลังการพบกับเรียวมะ ยาทาโร ได้เขียนว่า เราดื่มสาเกและสนทนากัน ผมร่วมความคิดกับเขา และเรียวมะเห็นด้วยอย่างมาก พวกเขามีบางสิ่งบางอย่างร่วมกัน พวกเขาได้พูดเกี่ยวกับความฝันของการกล้าออกไปสู่โลก
ถ้าเราย้อนกลับ ณ ประวัติศาสตร์ของบริษัทการค้า ญี่ปุ่นเริ่มต้นด้วยการค้าไหมเพื่อน้ำตาลและผลิตภัณฑ์อื่น เมื่อประเทศเปิดพรมแดนระหว่างยุค
เมจิ ในไม่ช้ารัฐบาลเมจิรับรู้ว่า มันสำคัญต่อญี่ปุ่นที่จะมีเทคโนโลยีเพื่อการ
ผลิตของพวกเขาเอง บริษัทการค้าทั่วไปแสดงบทบาทที่สำคัญของการนำเข้าของการผลิตโลหะ และเทคโนโลยีการผลิตเหล็ก และบริษัทก่อนหน้านี้ของโซจิทสึ ได้มีส่วนช่วยต่อการสร้างโกเบ สตีล
โซโกะ โชชะ เป็นผู้บุกเบิกการลงทุนต่างประเทศของญี่ปุ่น และเป็นบริษัท
ญี่ปุ่นแรก สร้างเครือข่ายอย่างกว้างขวางทางภูมิศาสตร์ของการดำเนิน
งานระหว่างประเทศมายาวนาน ก่อนบริษัทการผลิตญี่ปุ่นลงทุนต่างประเทศ
พวกเขาได้ถูกมองเป็นองค์ประกอยที่สำคัญของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของประเทศภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และ
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ภายในการค้าระหว่างประเทศ ภายใน ค.ศ 1975
โซโกะ โชซะใหญ่ที่สุดสิบราย มียอดขายรวม 155 พันล้านเหรียญ ประมาณ 56% ของการส่งออกและการนำเข้าของญี่ปุ่น และ 31% ของจีเอ็นพีของประเทศ มิตซุย แอนด์ โค. เป็นบริษัทการค้าทั่วไปใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น พวกเขาเป็นโมเดลต่อโซโกะ โชซะ อื่นที่ก่อตั้งต่อมา
โซโกะ โชชะ บริษัทการค้าทั่วไป เป็นถ้อยคำที่ปรากฏภายในช่วงเวลาหลัง
สงครามของญี่ปุ่น และชาวญี่ปุ่นเริ่มต้นใช้มันตั้งแต่ประมาณ ค.ศ 1955 การแปลเป็นภาษาอังกฤษของโซโกะ โชซะ มักจะเป็นบริษัทหรือบ้านการค้าทั่วไปของญี่ปุ่น
ถ้าเราทำธุรกิจบางอย่างภายในญี่ปุ่น โดยเฉพาะบีทูบี เราอาจจะเคยได้ยินมาแล้วเกี่ยวกับ โซโกะ โชซะหรือ บริษัทการค้าทั่วไป บริษัทเหมือนเช่น มิตซูบิชิ มิตซุย ซูมิโตโม มารูเบนี่ เป็นต้น
โซโกะ โชซะ เป็นบริษัทการค้าทั่วไปภายในญี่ปุ่นที่มีอยู่ก่อนสงคราม
โลกครั้งที่สอง มันนำทางเศรษฐกิจญี่ปุ่นระหว่างช่วงเวลาสร้างใหม่หลัง
สงคราม และช่วงเวลาตามมาของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
นอกเหนือจากญี่ปุ่นแล้ว เราไม่มีโมเดลธุรกิจใดเลยเหมือนโซโกะ โชซะ
ของญี่ปุ่น แม่ว่าเรามีบริษัทการค้า มันไม่มีอะไรเหมือนบริษัทการค้าญี่ปุ่นเลยและภาพพจน์ของมันแตกต่างอย่างมาก มันถูกรู้จักกันเป็นโซโกะ โชซะ
ด้วยการใช้ถ้อยคำญี่ปุ่นอย่างเเท้จริง
ซากาโมโตะ เรียวมะ ได้ถูกมองเป็นวีรบุรุษญี่ปุ่น และบิดาก่อตั้งของยุคสมัยใหม่ เขามีวิสัยทัศน์และบุคคลิกภาพที่เข้มแข็ง เดินหน้าวิสัยทัศน์ของยุคสมัยใหม่หนึ่งเดียวของเขา เขาเข้าใจว่าเพื่อที่จะเเข่งขันกับอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีของโลกภายนอก ญี่ปุ่นต้องทันสมัยตัวมันเอง เเละความสามารถของชาวญี่ปุ่นต้องนำมาใช้ เขาถูกบันดาลใจโดยตัวอย่างของอเมริกา ตรงที่ไม่มีการแบ่งแยกทางกฏหมายท่ามกลางชนชั้นทางสังคม
ด้วยเหตุนี้ เขาเริ่มต้นที่จะคิดว่าโชกุนค่อยกลายเป็นไม่จำเป็นภายในญี่ปุ่น
เขาเกิดเมื่อ ค.ศ 1836 ภายในโทซะ ชิโคกุ ภายในครอบครัวซากาโมโตะ
เขาได้เข้าร่วมกับคัทสึ ไคชู เรียนรู้การเดินเรือและการขนส่งทางทะเลภายในโกบี เมื่อ ค.ศ 1865 เขาได้สร้างบริษัทของเขาเอง คาเมะยามะ ชะจู ภายใน
นางาซากิ ต่อมาชื่อได้เปลี่ยนเป็นไคเอนไท ผ่านบริษัทนี้และเพื่อนที่ไว้วาง
ใจได้ของเขา ได้สร้างสัญลักษณ์บนประวัติศาสตร์ของการฟื้นฟูเมจิ
คาเมะยามะ ซะจู เป็นบริษัทการค้าเเรกของญี่ปุ่น ก่อตั้งด้วยความช่วย
เหลือของครอบครัวซัตสึมะของคาโกะชิมะ บรรดาสมาชิกของเขาเป็นเพื่อน
หลายคนของเรียวมะจากโรงเรียนฝึกอบรมนาวีที่เขาเข้าเรียนภายในโกบี
บริษัทได้ขอความช่วยเหลือจากโทมัส โกลเวอร์ ชาวสก็อตด้วยธุรกิจการค้า
ของเขาภายในนางาซากิ ซื้อเรือค้าขายและอาวุธ ชื่อคาเมะยามะ มาจาก
ชื่อของภูเขาที่สำนักงานตั้งอยู่ และชะจู มาจากอักษรจีนแปลว่าเพื่อน
ซากาโมโตะ เรียวมะถูกลอบสังหารตอนอายุ 33 ปีภายในเกียวโต ไม่นานก่อนการฟื้นฟูเมจิเกิดขึ้น และผู้ลอบสังหาแท้จริง ไม่เคยพิสูจน์ภายในศาล เขากลายเป็นมีชื่อเสียงมากขึ้นแม้แต่ภายหลังเสียชีวิต และเป็นที่รักจนถึงวันนี้โดยชาวญี่ปุ่น เขาเป็นผู้นำและนักธุรกิจที่ลุ่มหลงด้วยชีวิตที่ขึ้นลง ซากาโมโตะ เรียวมะ เป็นซามูไรน่าเคารพมากที่สุดคนหนึ่งภายในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และชีวิตที่น่าทึ่งของเขามักจะถูกปรับเป็นนิยาย ดนตรีืื การแสดง และภาพยนตร์
เรารู้หรือไม่ว่าซากาโมโตะ เรียวมะเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทสมัยใหม่ภายในญี่ปุ่น เขานำหน้าเวลาของเขาในแง่ของความรู้สึกทางธุรกิจ ทักษะการทำเงินของเขาดีเด่น เรียวมะ
ใช้ความเก่งของเขาเพื่อสิ่งที่ดีของประเทศไม่ใช่เพื่อตัวเขาเอง นั่นทำไมเขาได้ถูกเคารพ คุณไม่สามารถช่วยเหลือได้ แต่ประหลาดใจอะไรควรจะเป็น ถ้าเขาไม่ตายตอนวัยหนุ่ม
ไคเอ็นไท ชื่อต้นกำเนิดคือ คาเมะยามะ ชะจู ก่อตั้งโดยซากาโมโตะ เรียวนะ ภายในนางาซากิเมื่อ ค.ศ 1865
เมื่อ ค.ศ 1867 ซากาโมโตะ เรียวมะ ได้ถูกลอบสังหารภายในเกียวโตโดยสมาขิกของกลุ่มสนับสนุนโชกุน ภายหลังแผนเพื่อญี่ปุ่นยุคใหม่ได้เสร็จลง ซากาโมโตะ เรียวมะ ได้ฝันถึงการเเล่นเรือไปมหาสมุทรทั้งเจ็ด เขาไม่สามารถบรรลุความฝันของเขาที่จะสร้าง ไคเอ็นไทเพื่อโลกไคเอนไท เป็นบริษัทการค้าและการขนส่งสินค้า ได้ถูกพิจารณาเป็นบริษัทแรกภายในญี่ปุ่นสมัยใหม่
ในขณะที่เขาไม่สามารถเดินตามความฝันเหล่านี้ ความลุ่มหลงของเรียวมะ
เพื่อการสร้างญี่ปุ่นใหม่ได้ถูกดำเนินการโดยบุคคลอื่น ระหว่างนั้นยาทาโร
อืวาซากิ ผู้ก่อตั้งมิตซูบิชิ ได้ดำเนินการความทะเยอทะยานของเรียวมะ เมื่อเขาได้พัฒนาธุรกิจโลก ในขณะที่มีส่วนช่วยต่อการพัฒนาของอุตสาหกรรมสมัยใหม่ภายในญี่ปุ่น
หลายศตวรรษก่อนการเกิดขึ้นของคำศัพท์ธุรกิจเหมือนเช่น ความรับผิดชอบทางสังคมของบริษท – ซีเอสอาร์ สามบรรทัสุดท้าย – ทีพีแอล บี – คอรปส์ และการสร้างคุณค่าร่วม – ซีเอสวี พ่อค้า โอมิ กำลังกระทำเหมือนเป็นประชาชนบริษัทที่รับผิดชอบ และพวกเขาทำได้อย่างดี พ่อค้าเหล่านี้เป็นข้อพิสูจน์ที่มีชีวิตของเวทย์มนต์คิดโดยแอนนิต้า รอดดิค ผู้ก่อตั้ง บอดี้ื ช้อป
เมื่อโลกได้เริ่มต้นต้องการความรับผิดชอบทางสังคมของบริษัทมากขึ้น
ธุรกิจสมัยใหม่หลายอย่าง ได้พบแรงบันดาลใจของความคิดซัมโปะ โยชิ
ที่พ่อค้าโอมิรักและชื่อนชอบ บริษัทมากขึ้นทุกทีกำลังรวมแนวคิดซัมโปะ โยชิ ภายในหลักการบริหารของพวกเขา เพื่อที่จะเริ่มต้นการปฏิบัติ
ซีเอสอาร์ของบริษัท
ซัมโปะ โยชิ เป็นหลักการธุรกิจญี่ปุ่นของความสำเร็จผ่านความรับผิดชอบ ภายในช่วงเวลาเอโดะและเมจิ ญี่ปุ่นมีชนชั้นของพ่อค้าลำดับสูงสุดรู้จักกันว่า โอมิ โชนิน หมายถึงพ่อค้าโอมิ
กลุ่มของพ่อค้าโอมิประมาณ 100 คน โอมิ เดินทางทั่วญี่ปุ่นขายมุ้งกันยุง ยา สิ่งทอ และสินค้าอื่นจากท้องถิ่นโอมิพื้นเมืองของพวกเขา – พื้นที่จังหวัดชิกะวันนี้ กลายเป็นที่รู้จักกันเป็น พ่อค้าโอมิ ระหว่างศตวรรษ 17 และ 19 โอมิ โชนิน ได้ค่อยขยายตัว
การดำเนินงานของพวกเขา และเจริญเติบโตเป็นเครือข่ายของร้านของ
ประเทศ เมื่อสิ้นสุดช่วงเวลาเอโดะ พวกเขาได้กลายเป็นกลุ่มพ่อค้าบรรลุความสำเร็จและมีอิทธิพลมากที่สุดของญี่ปุ่น
อะไรทำให้โอชิ โชนินแตกต่าง ข้อได้เปรียบทางการเเข่งขันของพวกเขา
คืออะไร การสร้างความแตกต่างอย่างหนึ่งเกี่ยวกับพ่อค้าคือ พวกเขาเดินทางไกลและกว้างที่จะทำธุรกิจ มันหมายความว่าการยอมรับโดยชุมชนเป็นส่วนที่สำคัญของความสำเร็จของพวกเขา พ่อค้าโอมิ ต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจระยะยาว และมั่นใจชุมชนที่เขาทำธุรกิจชอบและเคารพ
พวกเขา
มันได้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญเบื้องหลังการเกิดขึ้นของปรัชญา
ธุรกิจเฉพาะของพวกเขา “ซัมโปะ โยชิ” หลักการของซัมโปะ โยชิ ของพ่อค้าโอมิ คือ “ความพอใจสามทาง” พ่อค้าโอชิรับรองว่าธุรกรรมการค้าของพวกเขาให้ประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกคน ไม่ใช่ตัวพวกเขาเองเท่านั้น ประโยชน์ ได้ถูกแบ่งเป็นสามทาง : ดีต่อต่อผู้ขาย ดีต่อผู้ซื้อ ดีต่อสังคม
พ่อค้าโอมิเข้าใจว่าความสำเร็จของพวกเขาเป็นหนี้บุญคุณต่อลูกค้าของ
พวกเขาและชุมชนของพวกเขา และดังนั้นพวกเขายืนยันที่จะให้กลับคืน
ทำอย่างไร พวกเขาจะสร้างโรงเรียน สะพาน ศาลเจ้าท้องที่ และเเม้แต่
เสียภาษีเพื่อครอบครัวยากจน
เราสามารถกล่าวได้ว่า ซัมโปะ โยชิ เป็นต้นกำเนิดของความยั่งยืนสมัยใหม่ ต้องการให้บริษัทสมดุลระหว่างผลประโยชน์ของผู้มีส่่่วนได้เสียทั้งหมด
ก่อนหลายศตวรรษ พ่อค้าโอมิ สร้างตัวอย่างของพลเมืองบริษัทบนหลักการซัมโปะ โอชิ พ่อค้าโอมิ เป็นข้อพิสูจน์ที่แท้จริงของถ้อยคำ “ทำดีเพื่อธุรกิจที่ดี” สนับสนุนโดยเเอนนิตา รอดดิค ผู้ก่อตั้ง บอดี ช้อป
แอนนิต้า รอดดิค เป็นนักธุรกิจหญิงชาวอังกฤษ นักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน และนักรณรงค์ทางสิ่งแวดล้อม เธอได้สร้างบริโภคนิยมอย่างมีจริยธรรม
และพิสูจน์ว่าเราสามารถดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม เจริญรุ่งเรือง และทำกำไร เธอเป็นผู้บุกเบิกอย่างเเท้จริงของโลก
ผู้ก่อตั้งแอนนิต้า รอดดิค ผู้บุกเบิกความสวยงามอย่างมีจริยธรรมภายใน ค.ศ 1976 เปิดร้านแห่งแรกของบอดี ช้อป ภายในไบรตัน อังกฤษ เธอเชี่อว่าธุรกิจ
สามารถเป็นพลังเพื่อสิ่งที่ดี เมื่อบอดี ช้อป ได้เปิดประตูของพวกเขาครั้งแรก
มันเป็นร้านเล็กทาสีเขียวบนถนนไบรตัน วิถีทางของพวกเขาต่อความสวยงาม
แตกต่างอย่างมากจากบริษัทใหญ่ภายในอุตสาหกรรมความสวยงาม บอดี้
ช้อป เรียบง่ายมาก เสาะหาอย่างมีจริยธรรม และส่วนผสมตามธรรมชาติทั่วโลก การบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ไร้สาระ เราสามารถนำขวดเก่ามาเติมใหม่ได้ง่าย
เมื่อ ค.ศ 1984 เเอนนิต้า รอดดิค เอาผลิตภัณฑ์ออกจากหน้าต่างค้าปลีก เพื่อที่จะวางโปสเตอร์ ชวยชีวิตปลาวาฬกับกรีนพึช การรณรงค์ยิ่งใหญ่อย่างแรกที่แอนน้ต้า รอดดิค และบอดีิ ช้อป ได้เปิดตัว มันเป็นความสนใจต่อการคุกคามอย่างต่อเนื่องต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมน่าเกรงขามเหล่านี้
มันไม่ได้เป็นการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่มันช่วยธุรกิจ มันสร้างยอดขายหรือไม่ ไม่ แต่มันสร้างพันธะอย่างน่าทึ่งกับลูกค้า
แอนนิต้า รอดดิค กล่าว ฉันคิดว่าทำดี ดีต่อธุรกิจ เธอเป็นแนวหน้าของการเคลื่อนไหวกระตุ้นบริษัทสร้างการเปลี่ยนแปลงสังคมทางบวกและกำไรด้วย
ธุรกิจสามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางบวกภายในโลก เมื่อ
แอนนิต้า รอดดิค เปิดประตูของบอดี ช้อป นี่เป็นความเชื่อของเธอผลิตภัณฑ์ที่เราสร้าง
การรณรงค์ที่เราทำ และชุมชนที่เราสนับสนุน ขับเคลื่อนความมุ่งหมายและ
กำไรด้วย เราเป็นผู้พลิกเกม และเราเป็นอยู่เสมอ ธุรกิจมากขึ้นทุกทีกำลังตื่นต่อความคิดของธุรกิจเป็นพลังเพื่อสิ่งที่ดี
บอดี ช้อป มุ่งมั่นเป็นพลังเพื่อสิ่งที่ดีื บริษัทส่วนใหญ่พูดเกี่ยวกับ ลูกโซ่คุณค่าดำเนินการผ่านธุรกิจของพวกเขา จากวัตถุดิบไปสู่ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป เรามีลูกโซ่คุณค่าด้วย แต่ของเราไม่เป็นเพียงแค่ลูกโซ่คุณค่า มันเป็นลูกโซ่คุณค่าที่วางคุณค่าเหล่านี้ลงสู่การปฏิบัติที่เราพยายามสร้างพลังเพื่อสิ่งที่ดี
บอดี้ิชอป ไม่ได้เป็นตราสินค้าความสวยงามสมัยเดิม แต่เป็นตราสินค้าความสวยงามด้วยหัวใจ เลยพ้นไปจากความรับผิดชอบทางสังคมของบริษัทสมัยเดิม
เรามุ่งที่การรณรงค์นวัตกรรมขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงระยะยาว เช่น
การรณรงค์หยุดการค้ามนุษย์ทางเพศ การเสาะหาซัพพลายเออร์อย่างมีจริยธรรม เราได้คิดค้นการค้าเสรีที่ยุติธรรมของชุมชน การทำงานโดยตรง
กับเกษตรกรและซัพพลายเออร์อย่างยุติธรรม ผลิตภัณฑ์ของเราไม่เคยทดสอบกับสัตว์ เรามีความผูกพันต่อสวัสดิการของสัตว์ การสร้างความยั่งยืนระยะยาว และการลดผลกระทบของเราต่อสิ่งแวดล้อม
วิสัยทัศน์ระยะยาวของเราคือ ผลิตภัณฑ์ของเราไม่ทำอันตรายต่อบุคคล
และสิ่งแวดล้อม เราใช้วิถีทางเศรษฐกิจหมุนเวียนต่อวัตถุดิบทุกอย่าง ไม่
เพียงแค่พลาสติค บอดี ช้อป รับรู้ความรับผิดชอบของการลดของเสีย
การกระตุ้นนำกลับมาใช้ใหม่ และการแก้ปัญหามลพิษพลาสติค บอดี ชอป มุ่งหมายเป็น
ธุรกิจที่มีจริยธรรมและยั่งยืนมากที่สุดของโลก เราสามารถเป็นทั้งพลังเพื่อ
สิ่งที่ดีและธุรกิจที่ทำกำไร
เราดำรงอยู่ที่จะต่อสู้เพื่อโลกที่ยุติธรรมขึ้น สวยงามขึ้น นี่เป็นความมุ่งหมายของเรา เราเชื่อภายในความสวยงามของโลก และสิ่งที่ดีภายในบุคคล แต่โลกของเราต้องการงาน ธรรมชาติเสียหาย ณ มือของเรา สายพันธ์ุทั้งหมด กลายเป็นสูญพันธุ์ภายในช่วงชีวิตของเรา และสังคมของเรายังคงสิ้นหวังไม่ยุติธรรมและไม่เสมอภาคลึกลงไป แอนนิต้า รอดดิค สร้างบอดี ช้อป ต่อสู้เพื่ออะไรที่ดี และยุติธรรม และสวยงาม การต่อสู้นี้ยังคงอยู่ ณ หัวใจของทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำ
แอนนิต้า รอดดิค ครั้งหนึ่งได้กล่าวว่า “ทำดีเป็นธุรกิจที่ดี” เมื่อ ค.ศ 2016
สี่สิบปีภายหลังการเริ่มต้นของบอดี้ช้อป บุคคลรู้สึกที่ดีเกี่ยวกับการซื้อผลิตภัณฑ์บอดีิ ช้อป เพราะว่าพวกเขารู้สึกที่ดีเกี่ยวกับความพยายามของแอนนิต้า รอดดิค
Cr : รศ สมยศ นาวีการ