jos55 instaslot88 Pusat Togel Online อิทธิพลทางความคิดของมุสลิมที่มีต่อตะวันตกระยะแรก - INEWHORIZON

INEWHORIZON

ขอบฟ้าใหม่

อิทธิพลทางความคิดของมุสลิมที่มีต่อตะวันตกระยะแรก

อิทธิพลทางความคิดของมุสลิมที่มีต่อตะวันตกระยะแรก

จรัญ มะลูลีม

โดยทั่วไปนักคิดตะวันตกมีความรู้สึกอย่างไรต่ออิสลาม

ปรัชญาของมุสลิมมีอิทธิพลต่อความคิดของตะวันตกในหลายทางด้วยกันเช่น เริ่มก่อรูปขบวนการมนุษย์นิยมขึ้นในตะวันตก  นำเอาประวัติศาสตร์เข้าไปช่วยนักวิชาการตะวันตกให้รวมปรัชญาเข้ากับความศรัทธาได้อย่างกลมกลืน  กระตุ้นลัทธินิยมความลี้ลับของตะวันตก  วางรากฐานสมัยปุณภพของอิตาลีและเป็นแม่พิมพ์ของนักคิดสมัยใหม่ของตะวันตกจนถึงสมัยของเอ็มมานูเอล คานท์ (Emmanuel Kant) ในบางทิศทาง  แม้แต่ในสมัยหลังจากนั้น

ชาวมุสลิมเป็นนักมนุษยนิยมรุ่นแรก จึงให้แนวโน้มทางมนุษยนิยมแก่ความคิดของตะวันตก  เป็นพวกแรกที่เปิดเผยแก่ตะวันตกว่าข้างนอกโบสถ์คาทอลิก มันมิได้มืดมนและป่าเถื่อนไปหมดดอก  แต่เต็มไปด้วยความรู้มากมาย

พวกเขาจับเอาความสำเร็จทางปัญญาของกรีกมาพัฒนาและถ่ายทอดให้ตะวันตกก่อนใครเพื่อน  เพราะอิทธิพลของพวกเขาคนโบราณและคนร่วมสมัยที่อยู่นอกดินแดนตะวันตกของคริสเตียนก็ได้เริ่มมองดูมนุษย์ว่ามีอารยธรรมที่สูงกว่าที่คิด

ภายใน 8 ปีจากการสร้างกรุงบัฆดาดหรือแบกแดด มุสลิมได้ถ่ายทอดงานของอริสโตเติล เพลโต กลุ่มเพลโตใหม่  ฮิปโปเครติส กาเลน ยูคลิด ปโตเลมีและนักเขียนนักวิจารณ์คนอื่นๆ รวมทั้งงานเขียนด้านคณิตศาสตร์  ดาราศาสตร์และจริยธรรมของนักวิชาการเปอร์เซียและอินเดียอีกหลายคนตั้งแต่สมัยที่ตะวันตกยังไม่รู้จักความคิดของกรีก

ลัทธิมนุษย์นิยมเผยแผ่ไปในยุโรปตะวันตกโดยการติดต่อระหว่างชาวมุสลิมกับผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมในสเปน  ไปยังอิตาลีและทั่วยุโรป  โดยความประทับใจในวัฒนธรรมที่สูงกว่าซึ่งได้รับมาจากพวกครูเสดในซีเรียและเอเชียไมเนอร์

อัล-กุรอานยอมรับคริสต์ศาสนาและศาสนาจูดาห์ว่าเป็นศาสนาของพระเจ้า ดังนั้นจึงไม่ส่งเสริมให้มีการต่อสู้กับสองศาสนานี้   อย่างไรก็ตาม ตอนแรกคริสต์ศาสนากลับถือว่าอิสลามเป็นคู่แข่งของตนจึงโจมตีอิสลามโดยตรง

นิกายเนสตอเรีย (Nestorian) และแอเรีย (Arian) มีความคิดที่ดีต่ออิสลาม (เพราะนับถือพระเจ้าองค์เดียวเหมือนกัน)  ในเวลาต่อมาแนวความคิดเรื่องพระเจ้าสามองค์ของคริสเตียนนั้นทำให้เกิดการสักการะบูชา  ตำแหน่งของเทพโบราณเช่นจูปิเตอร์ อปอลโลถูกโอนมาให้แก่พระเจ้าพระคริสต์และพระนางแมรี

ปฏิกิริยาที่ชาวคริสเตียนมีต่ออิสลามในตะวันตกกับตะวันออก  มีรูปแบบแตกต่างกัน    ทัพแรกคือพวกที่วิพากษ์วิจารณ์อิสลามอย่างรุนแรงไม่ยอมรับว่าอิสลามเป็นศาสนา   จอห์นแห่งดามัสกัสถือว่าอิสลามเป็นเรื่องนอกรีต

นักเขียนไบแซนไตน์คนแรกที่เขียนถึงท่านศาสดามุฮัมมัดคือธีโอฟาเนส (Theophanes) ก็โจมตีอิสลามอย่างรุนแรงเช่นกัน    มีข้อแยกเว้นคือ Hisdubert de Lemans กล่าวว่าศาสดามุฮัมมัดเป็นศาสดาที่แท้จริงไม่ใช้ปาฏิหาริย์    ส่วนหนังสือของ Guilaume ที่เขียนถึงอิสลามก็เต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างสุดโต่งและก้าวร้าวอย่างยิ่ง มีแต่เรื่องไม่จริง

Peter de Cluny  (สิ้นชีวิต ฮ.ศ.551/ ค.ศ.1156) แปลอัล-กุรอานเป็นภาษาละตินเป็นครั้งแรก  นับเป็นรากฐานของการโจมตีอิสลามของนักบุญ Thomas เขาเป็นคนแรกที่วิจารณ์อิสลามในทิศทางปรัชญา

Raymond Lull (มีชีวิตอยู่ระหว่าง ฮ.ศ. 633-716/ค.ศ.1235-1316) ได้ศึกษาภาษาอาหรับและปรัชญาอิสลามมา     เขาได้แนะนำให้ผู้เป็นโป๊ปในตอนนั้นเริ่มสงครามครูเสดทางศีลธรรมกับอิสลาม  ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นฐานของขบวนการมิชชั่นนารี

ในเวลาเดียวกัน Constantine Porphyrogenitus กลับเขียนถึงท่านศาสดาด้วยความเคารพนับถือ   แต่กระนั้นความตึงเครียดด้านศีลธรรมของสองศาสนานี้ก็ยังดำเนินต่อไป

Dante ได้บรรยายถึงท่านศาสดาไว้ในเรื่อง Divine Comedy ตอน Inferno (นรก) ของเขาในลักษณะที่ร้ายกาจมาก

ในตอนแรกเป็นการยากลำบากสำหรับนักปรัชญาตะวันตกที่จะปลอดจากอคติทางศาสนาทางการเมืองและทางเชื้อชาติและมองดูอิสลามด้วยความเข้าใจ

ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เป็นต้นไป  ทัศนคติของนักคิดอิสระตะวันตกกลับมีลักษณะมนุษย์นิยมอย่างแท้จริง   ในคำนำหนังสือคำแปลอัล-กุรอานของ Edward Sale ในปี 1734 ได้ชมเชยปรัชญา   ทรรศนะด้านการเมืองและแนวคิดที่เป็นไปในทางสัจนิยมของท่านศาสดา

ส่วน Boulainvilliers ก็เขียนไว้ในหนังสือของเขาชื่อ The Life of the Prophet โดยพยายามจะพิสูจน์ว่าศาสนาอิสลามเป็นเรื่องของเหตุผล  ความเป็นจริงและความสอดคล้องกับธรรมชาติของมนุษย์   Savory ก็เขียนในคำนำบทแปลกุรอานของเขาที่เขียนจบไปในปี 1783 โดยบรรยายถึงท่านศาสดาว่าเป็นบุคคลมหัศจรรย์ซึ่งจะปรากฏขึ้นในโลกเป็นระยะๆ

แต่ทัศนคติที่เห็นอกเห็นใจอิสลามนี้กลับก่อให้เกิดปฏิกิริยาอย่างแรงขึ้น   โดยวอลแตร์ได้กล่าวถึงอิสลามและท่านศาสดามุฮัมมัดอย่างก้าวร้าวที่สุด   ส่วน Kant กลับยกย่องท่านศาสดามุฮัมมัดไว้ในหนังสือ La Religion dans les limites de la simple reason ไว้ดังนี้

อิสลามแยกตนเองด้วยความภาคภูมิใจและความกล้าหาญ   เพราะอิสลามกล่าวถึงความศรัทธามิใช่โดยปาฏิหาริย์แต่โดยการพิชิต   อิสลามวางอยู่บนลัทธินิยมความลี้ลับที่กล้าหาญ

ปรากฏการณ์อันสำคัญนี้เกิดจากคำสอนของพระเจ้าเรื่องเอกภาพของพระเจ้า    สปิริตของอิสลามถูกชี้ให้เห็นมิใช่ในความสอดคล้องโดยไม่มีเจตนา  แต่ด้วยการยึดโยงกับเจตนารมณ์ของพระเจ้าและเหนือสิ่งอื่นใดก็คือคุณสมบัติอันดีงามที่มีมาตรฐานสูง

ในหนังสือเรื่อง Mahonut Goethe ได้บรรยายถึงพลังอำนาจของศาสนาอิสลามอย่างกระตือรือร้นและเห็นอกเห็นใจ    งานของเกอเต้ชิ้นนี้เป็นคำตอบแก่งานของวอลแตร์ซึ่งมีชื่อเดียวกัน

เกอเต้อ่านอัล-กุรอานในปี 1770 และได้อธิบายถึงบางโองการ  ในตอนนี้ท่านศาสดาของอิสลามเป็นที่รู้จักกันในเยอรมนีว่าเป็นผู้สร้าง “ศาสนาธรรมชาติ”

คำแปลอัล-กุรอานของ Mergalin (ปี 1772) และ Boysen (ปี 1773) รวมทั้งหนังสือเรื่อง The Life of Mohammad ของ Turpin ซึ่งท่านศาสดามุฮัมมัดถูกบรรยายว่าเป็นศาสดาผู้ยิ่งใหญ่   คนที่มีจิตใจเต็มไปด้วยพลังอำนาจ  เป็นผู้ศรัทธาที่แท้จริง Auguste Comte ถือว่าอิสลามเป็นขั้นตอนที่ก้าวหน้าที่สุดในขั้นตอนศาสนวิทยาของเขาและ ถือว่าเป็นขั้นเตรียมที่จะก้าวไปยังขั้นตอนอภิปรัชญา

ถึงแม้ว่า Neitzche จะโจมตีคริสต์ศาสนาอย่างรุนแรงในงานทุกชิ้นของเขาก็ตามแต่ไม่ได้รวมอิสลามไว้ในการโจมตีด้วยเลย  แต่กลับยกย่องชมเชย  Eduard von Hartmaun ได้เขียนไว้ในหนังสือ The Religion of the Future ของเขาว่าถึงแม้ว่าศาสนาจูดาห์จะก้าวหน้าไปกว่าลัทธิป่าเถื่อน (Paganism)  เขาสรุปว่าลัทธิพระเจ้าองค์เดียวพบวิธีแสดงออกที่มีพลังที่สุดในศาสนาอิสลาม

หลังจากศตวรรษที่ 18 ผู้ที่มีความรู้มากในภาษาอาหรับเริ่มศึกษาศาสตร์ต่างๆ ของอิสลาม  หลักการของอิสลาม และประวัติศาสตร์ชนชาติอิสลาม   นี้แสดงว่าตะวันตกค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาในเส้นทางมนุษยนิยมสู่วัฒนธรรมอิสลาม แต่ทัศนคตินี้มิได้นำมาสู่อิสลามเท่านั้นแต่มาสู่ศาสนาตะวันออกอื่นๆ ด้วย

เอ็มมานูเอล คานท์ (Emmanuel Kant)   (1724 – 1804)

Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *