บริษัทที่ยิ่งใหญ่กำเนิดจากโรงรถ ห้องใต้ถุน หรือบ้าน
บริษัทที่ยิ่งใหญ่กำเนิดจากโรงรถ ห้องใต้ถุน หรือบ้าน
ถ้าคุณคิดคุณต้องการเงินจำนวนมากที่จะเริ่มต้นธุรกิจของคุณ คิดอีกครั้งหนึ่ง การขาดเงินทุนไม่ได้หยุดวัยรุ่น ริชาร์ด แบรนสัน จากธุรกิจอย่างเเรกของเขา และเขากล่าวว่ามันไม่ควรจะขัดขวางคุณด้วย ริชาร์ด แบรนสันใช้เงินทุนกับธุรกิจอย่างแรกของเขาตอนอายุ 16 ปี ไม่ถึง 2,000 เหรียญการเดินทางของริชาร์ด แบรนสันจากโรงรถไปสู่โลก ไม่ได้เป็นเพียงแค่เกี่ยวกับการสร้างธุรกิจที่เจริญเติบโต แต่เกี่ยวกับการตราสินค้าที่บุคคลไว้วางใจและชื่นชมด้วย ตลอดอาชีพของเขา ริชาร์ด เเบรนสันได้ถูกรู้จักกันเป็นต่อบารมีของเขา และความเต็มใจยึดโอกาสที่บุคคลอื่นหลบเลี่ยงมัน เขาได้ถูกเรียกเป็นมาเวอร์ริค กบฏ และเเม้แต่บ้าบิ่น แต่อะไรทำให้ริชาร์ดแบรนสันแตกต่างจากบุคคลอื่นคือ ความสามารถของเขาที่จะเชื่อมโยงกับบุคคลและสร้างความสัมพันธ์ความสำเร็จของเวอร์จิ้น กรุ้ป ไม่ได้เป็นเพียงเเค่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของมัน แต่เกี่ยวกับบุคลิกภาพและค่านิยมของตราสินค้าด้วย จากวันเริ่มแรกของมัน เวอร์จิ้น เรคคอร์ด ได้ลงนามกับศิลปินภายนอกกระแสหลัก และต่อการกบฏและการต่อต้านความเชื่อสมัยเดิม ปรัชญานี้ได้ถูกดำเนินการกับธุรกิจทุกอย่างภายในเวอร์จิ้น กรุ้ป ตัวอย่างเช่น เวอร์จิ้นแอตแลนติค แอร์เวย์ ได้เปิดตัว ด้วยเป้าหมายของการเขย่าอุตสาหกรรมสายการบิน และให้ประสบการณ์ที่ดีกว่าแก่ลูกค้าความเป็นผู้นำของริชาร์ดแบรนสันเฉพาะด้วย เขาสามารถเข้าถึงได้และติดดิน เขามักจะใช้บทบาทที่กระตือรือร้นกับบริการลูกค้า และเกี่ยวพันกับบุคคล ณ ทุกระดับขององค์การ วิถีทางนี้ได้ช่วยสนับสนุนวัฒนธรรมของนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ภายในเวอร์จิ้น กรุ้ป และมันทำให้บริษัทนำหน้าเส้นโค้งภายในสภาพเเวดล้อมธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาริชาร์ด เเบรนสัน เริ่มต้นตอนอายุเพียงแค่อายุ 16 ปี ด้วยวารสารของเขา เรียกว่า “สติวเด้นท์” เขาทำวารสารนักศึกษาจากห้องใต้ถุนของผู้ก่อตั้งร่วมของเขา วารสารของเขาสัมภาษณ์บุคคลที่มีชื่อเสียง และขายโฆษณาได้เกือบ 8,000 เหรียญต่อเล่มแรก และวารสาร 50,000 เล่มได้ถูกแจกฟรี มันเป็นการเริ่มต้นการเดินทางของการเป็นผู้ประกอบการ ในที่สุดวารสารได้เริ่มต้นขาดเงิน และมันได้ล้มเหลว แต่กระนั้นมันได้นำริชาร์ด แบรนสันไปสู่ความพยายามต่อไป เมื่อ ค.ศ 1970 ตอนอายุ 20 ปี ริชาร์ด แบบรนสันได้ก่อตั้งเวอรจิ้น เรคคอร์ด การเปิดครั้งแรกของบริษัทคือ “Tubular Bells” โดยไมค์ โอลด์ฟิลด์ เพลงนี้ได้ติดลำดับสูงสุดภายในอังกฤษ และเป็นการเริ่มต้นของเวอร์จิ้น เรคคอร์ด ได้กลายเป็นตราสินค้าแผ่นเสียงที่บรรลุความสำเร็จเมื่อ ค.ศ 1984 ณ จุดสูงสุดของสงครามเย็น ริชาร์ด แบรนสันได้ตัดสินใจที่จะเปิดตัวเวอร์จิน แอตเเลนติต แอร์เวย์ มันเป็นธุรกิจที่เสี่ยงภัยสูงมาก เมื่อไม่มีใครเลยเคยตัดสินใจด้วยตัวเองที่จะเริ่มต้นสายการบิน โดยเฉพาะถ้าต้องแข่งขันกับบริติช แอร์เวย์ แต่กระนั้นสายการบินบรรลุความสำเร็จอย่างมาก เวอร์จิน แอตเเลนติค แอร์เวย์ได้กลายเป็นสายการบินใหญ่ที่สุดและเคารพมากที่สุดภายในโลก เขาลาออกจากโรงเรียนที่จะส่งเสริมวารสารของเขา เมื่อ ค.ศ 1969 เขาได้เริ่มต้นธุรกิจแผ่นเสียงสั่งซื้อทางไปรษณีย์ใช้สำนักงานวารสารเป็นฐานการดำเนินงาน ริชาร์ด แบรนสัน และทีมบุคคล 20 คนของเขา เรียกธุรกิจใหม่ว่า เวอร์จิ้น ริชาร์ด แบรนสัน ได้กล่าวว่า เมื่อผมได้เริ่มต้นเวอร์จิน จากห้องใต้ถุนภายในลอนดอนตะวันตก ไม่มีแผนหรือกลยุทธ์ยิ่งใหญ่ใดเลย ผมไม่ได้เริ่มต้นที่จะสร้างอาณาจักรธุรกิจ…. ต่อผมเเล้ว การสร้างธุรกิจเกี่ยวกับการทำบางสิ่งบางอย่างที่จะภูมิใจ นำบุคคลที่มีความสามารถมารวมกันและสร้างบางสิ่งบางอย่าง ไปสู่การสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงต่อชีวิตของบุคคลอื่นบางทีบทเรียนสำคัญที่สุดของผู้ประกอบการสามารถเรียนรู้จากริชาร์ด แบรนสันคือ การทำให้อะไรที่คุณตื่นเต้นภายในชีวิตไปสู่ทุน ดังนั้นคุณสามารถทำมากขึ้นกับมัน และก้าวไปข้างหน้ากับมัน และนั่นคืออะไรที่เขาได้ทำมัน ตั้งแต่วันเริ่มเเรกของเขาภายในอุตสาหกรรมดนตรี ไปสู่ธุรกิจในขณะนี้ ของเขาภายในการเดินทางอวกาศ ริชาร์ด แบรนสันเดินตามความลุ่มหลงของเขาอยู่เสมอ และแสวงหาความฝันของเขา เขาได้บันดาลใจบุคคลอื่นนับไม่ถ้วนทำอย่างเดียวกันตราสินค้าเวอร์จิ้นบรรลุความสำเร็จส่วนหนึ่งต่อข้อเท็จจริงที่ริชาร์ดแบรนสัน ไม่กลัวความล้มเหลว เขารู้ว่าความล้มเหลว และการปรับตัวเป็นส่วนหนึ่งตามธรรมชาติของกระบวนการ และเขาใช้ประสบการณ์เหล่านี้เป็นบทเรียนเพื่อความพยายามในอนาคต ริชาร์ด แบรนสันได้เรียนรู้ว่าเพื่อที่จะบรรลุความสำเร็จ คุณต้องไว้วางใจความกล้าของคุณ เสี่ยงภัย และเรียนรู้จากความผิดพลาดของคุณ ต่อริชาร์ดเเบรนสัน บทเรียนที่สำคัญอย่างหนึ่งต้องเป็นจริงต่อคุณเองอยู่เสมอ เขาเชื่อต่อการว่าจ้างบุคคลที่ฉลาดกว่า ตัวเขาเองด้วย และการให้อำนาจพวกเขาตัดสินใจ เมื่อ ค.ศ 1990 เป็นเวลาของการขยายตัวอย่างยิ่งใหญ่ต่อริชาร์ด แบรน สัน เขาได้ขยายตัวไปสู่ธุรกิจอื่นหลายอย่าง เช่น เวอร์จิน โมบาย เวอร์จิ้นเทรนส์ และเวอร์จิ้น แกเเลคทิค
เมื่อเจ็ดสิบปีที่แล้ว ไอคอนรถแข่งของโลก โคลิน แชปแมน ได้ก่อตั้งโลตัสคาร์ ความสำเร็จของเขายังคงเป็นตำนาน เขาได้เปลี่ยนแปลงโลกด้วยโลตัสอย่างไร ครั่งหนึ่งเขาได้กล่าวอย่างมีชื่อเสียงของรถแข่งของโลต้สว่า “ลดความซับซ้อน แล้วเพิ่มความเบา” มันเป็นความคิดที่บริษัทของเขาได้ถูกก่อตั้ง การใช้ชิ้นส่วนจำนวนน้อยที่สุด บรรลุสมรรถนะดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ตลอดประวัติของบริษัทที่ยาวนาน นวัตกรรมบนถนนและลู่เป็นจุดศูนย์กลางต่อความสำเร็จของโลตัส ณ รากเหง้าของดีเอ็นเอของมันคือความลุ่มหลงของโคลิน เเชปแมนด้วยน้ำหนักเบา ดังนั้นมันได้ดำเนินต่อไปด้วย “ลดความซับซ้อน และเพิ่มความเบา” เป็นปรัชญาของเขาวิถีทางก่อนที่มินิมอลลิซึม กลายเป็นถ้อยคำที่นิยมแพร่หลาย เพิ่มพลังทำให้คุณเร็วขึ้น ข้อแก้ปัญหาโลตัสสมัยเดิมที่สุด คือ การใช้ชิ้นส่วนน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ภายในรถยนต์ของเขาโคลิน เเชปแมน เป็นผู้นำคนหนึ่งของการเคลื่อนไหวมินิมอลลิสต์ เขาได้กระตุ้นนักออกแบบของเขา เพื่อที่จะลดความซับซ้อนและเพิ่มความเบานักออกแบบของรถแข่งโมโนโคเคอรายแรกของโลก โลตัสเป็นผู้นำของการออกแบบรถยนต์เบาล้ำหน้า ผู้เชี่ยวชาญของสถาปัตยกรรมน้ำหนักเบา พวกเขาเป็นผู้กำหนดแนวโน้มของประสิทธิภาพและความเรียบง่ายของรถยนต์ บุคคลบางคนอ้างถึงโลตัสเป็นผู้บุกเบิกของการออกแบบรถยนต์มินิมอลลิสต์โลตัส ก่อตั้งและเป็นเจ้าของนานหลายปีโดยโคลิน แชปแมน ภายหลังการเสียชีวิตของเขา และช่วงเวลของความไม่มั่นคงทางการเงินมันได้ถูกซื้อโดยเจ็นเนอรัล มอเตอร์ ในขณะนี้โลตัสเป็นเจ้าของส่วนใหญ่โดยกรีลี บริษัทข้ามชาติจีนโลตัส ก่อนหน้านี้ได้เกี่ยวพันภายในการแข่งรถฟอรมูลาวัน ผ่านทางทีม โลตัส พวกเขาชนะฟอร์มูลา วัน เวิรลด เเชมเปี้ยนชิปหลายครั้ง รถโลตัสที่มีชื่อเสียงคือ โลตัส เซเวน อีลาน เอสปริท และอีลีสมันเป็นไปไม่ได้ที่จะพิจารณาประวัติของโลตัส โดยไม่มองชีวิตของโคลิน แชปแมน สร้างรถเเข่งคันเเรกของเขาเมื่อ ค.ศ 1948 ผลกระทบและอิทธิพลของเขาต่อวิศวกรรมรถยนต์และการแข่งรถยาวนานมา จนถึงวันนี้ เขาเป็นนักออกแบบ นักคิดค้น นักธุรกิจ และนักบุกเบิกที่เปลี่ยนแปลงโลก เขาเป็นนักออกแบบปฏิรูปภายในโลกของนวัตกรรม ฟอร์มูลาวัน และได้ทิ้งสัญลักษณ์ของเขาบนการแข่งรถฟอร์มูลาวัน โคลิน แชปแมน ศึกษาวิศวกรรม ณ ยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจ ลอนดอน ต่อมาเขาได้เข้ายูนิเวอรซิตี้ ออฟ ลอนดอน เเอร์ สเเควดอร์น ก่อนเข้าร่วมรอเเยล เเอร์ ฟอร์ซ เวลาบนอากาศและเครื่องบินได้พิสูจน์เป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าหามาได้แก่เขา การออกแบบรถยนต์ในอนาคตของเขาได้ยืมมาจากวิศวกรรมการบินอย่างมากภายหลังออกจากอาร์เอเอฟ เขาได้ไปทำงานสร้างรถเเข่งคันเเรกของเขา เอ็มเค 1 ของโคลิน เเชปแมน ออสติน เซเวน ปรับปรุง ได้เปิดตัวครั้งเเรกต่อมาปีนั้น ชื่อเล่นโลตัส ภายหลังชนะรางวัลเงินสดภายในรางวัลท้องที่หลายครั้ง เขาได้เริ่มต้นทำงานกับเอ็มเค 2 ความสำเร็จต่อไปกับรถยนต์นี้ ได้ปูเส้นทางต่ออาชีพของการออกแบบและการแข่งรถของเขา โลตัส คารส์ เป็นบริษัทรถยนต์อังกฤษเชี่ยวชาญรถสปอร์ตและรถแข่ง บริษัทมีประวัติยาวนานของความสำเร็จภายในทั้งการแข่งรถมืออาชีพและสมัครเล่น และรถยนต์ของพวกเขาได้ถูกขับโดยนักขับรถยนต์ที่มีชื่อเสียงบางคนของโลก การรู้จักกันต่อการผลิตรถยนต์น้ำหนักเบาที่สุดของโลก โลตัส คารส์ ได้จุดแข็งและชื่อเสียงชื่อของมันจากการบรรลุประสิทธิภาพด้วยน้ำหนักเบา โคลิน แชปแมน ผู้ก่อตั้งโลตัส คารส์ เป็นวิศวกรหนุ่มที่คล่องแคล่ว สร้างรถยนต์ด้วยความลุ่มหลงเพื่อการเเข่งขัน ชื่อเสียงของเขาต่อการสร้างรถยนต์คุณภาพน้ำหนักเบาอยู่บนพื้นฐานประสบการณ์ของเขา และหลักการนำทางที่เขาเชื่อว่า การเพิ่มกำลังทำให้คุณเร็วขึ้นบนทางตรง ในขณะที่การเอาน้ำหนักออกทำให้คุณเร็วขึ้นทุกที่ในขณะที่เขาเป็นนักศึกษาวิศวกรรมของยูนิเวอร์ซิตี คอลเลจ ภายในลอนดอน ย้อนหลังไปเมื่อ ค.ศ 1948 โคลิน เเชปแมนได้สร้างรถแข่งคันแรกของเขาแล้วภายในโรงรถของเขา เขาได้ยกเครื่องใหม่ออสตินเซเวนที่ต่อมารู้จักกันเป็นมาร์ควัน แม้ว่ามันเป็นเพียงแค่โมเดลปรับปรุงเขาได้เงินเพียงพอจากมันที่จะสร้างรถแข่งคันที่สองต่อไป มาร์คทู บริษัทได้ถูกก่อตั้งเมื่อ ค.ศ 1952 เป็นโลตัส เอ็นจิเนียริ่ง คอมพานี โดยโคลิน แชปแมน และคอลลิน เเดร์ ทั้งสองจบจากยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจ ลอนดอน แต่บริษัทมีต้นกำเนิดก่อนหน้านี้ภายใน ค.ศ 1948 เมื่อโคลิน แชปแมน ได้ออกแบบและสร้างรถแข่งคันแรกของเขา บนพื้นฐานของออสติน เซเวน เขาใช้โรงรถภายในวูด กรีน เช่าจากพ่อของเพื่อนหญิงของเขา ด้วยการเริ่มต้นอย่างถ่อมตัวพวกเขาได้สร้าง โรงงานแห่งเเรกภายในคอกม้าเก่าข้างหลังเรลเวย์โฮเต็ล ภายในฮอร์นซี่ย์ นอร์ธ ลอนดอน เมื่อ ค.ศ 1954 บริษัทได้สร้างทีมแข่งรถของพวกเขาเองเรียกว่า “ทีมโลตัส” มันได้ช่วยอย่างมากต่อวิวัฒนาการของโลตัส อักษรสี่ตัวตรงกลางของโลโก้หมายถึงอักษรย่อของผู้ก่อตั้งบริษัท แอนโทนี โคลิน บรูซ แชปแมนโคลิน เเชปเเมน ได้สร้างธุรกิจที่เริ่มต้นภายในโรงรถ เขาได้เริ่มต้นโลตัส คาร์ ด้วยการสร้างรถแข่งโลตัสคันแรกภายในคอกม้า เขาได้ใช้ 1930 ออสติน เซเวน และสว่านไฟฟ้า สร้างโลตัส มาร์ควัน เขาได้ช่วยวางโลตัสบนแผนที่จนทุกวันนี้ วันนี้โลตัส คาร์ เป็นผู้ผลิตรถแข่งพรีเมี่ยมภายในโลก
นักออกแบบแฟชั่นฮิป ฮอป เดย์มอนด์ จอห์น ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ ฟูบุ เกิดภายในบรุคลิน นิวอยอร์ค การเป็นผู้ประกอบการของจอห์นได้ถูกแสดงตั้งแต่อายุน้อย เขาขายทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ดินสอไปจนถึงรถยนต์ปรับสภาพ ภายหลังจบจากโรงเรียนมัธยมปลาย เดย์มอนด์ จอห์นทำงานเป็นพนักงานบริการ ณ เรด รอบสเตอร์ ก่อนการเริ่มต้นของเขาภายในอุตสาหกรรมเสื้อผ้า เมื่อ ค.ศ 1992 จากห้องใต้ถุนของแม่ของเขาภายในควีนส์ เดย์มอนด์ จอห์น ได้เริ่มต้นผลิตหมวกขายณ งานคอนเสิรตและงานเทศกาลเพื่อนบ้าน ด้วยแรงกระตุ้นจากความสำเร็จเริ่มแรกของเขาเดย์มอนด์ จอห์นได้สรรหาเพื่อนเด็กของเขาทำงานกับเขา พวกเขาได้เริ่มต้นเย็บหมวกทรงสูงราคาถูก เดย์มอนด์ จอห์น ได้สร้างโรงงาน ณ บ้านของแม่ ด้วยเงินจำนอง 100,000 เหรียญ มันเป็นการเริ่มต้นของฟูบุ เป็นคำย่อของ “ฟอร์ อัส บายอัส”
ฟูบุ เป็นบริษัทเครื่องแต่งกายฮิป ฮอปอเมริกัน ก่อตั้งภายใน ค.ศ 1992 เมื่อจอห์น เดย์มอนด์ ได้จำนองบ้านของเขา 100,000 เหรียญ ด้วยเงินเริ่มต้นนี้ ผู้ก่อตั้งได้ปรับปรุงครึ่งหนึ่งบ้านของเขาเป็นโรงงาน ในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งยังคงเป็นพื้นที่อาศัยอยู่ การนำสายผลิตภัณฑ์ของพวกเขาไปสู่ผู้ชายวัยหนุ่ม และการออกแบบของตราสินค้าได้สะท้อนสไตล์ของดนตรีและปรากฏการณ์แฟชั่นรู้จักกันเป็นฮิป ฮอป เดย์มอนด์ จอห์น ได้เปิดตัวสตรีทแวร์ ฟูบุ จากห้องใต้ถุน ย้อนหลังไปเมื่อ ค.ศ 1992 เขาได้เริ่มต้นบริษัทด้วยทุนเพียงแค่ 40 เหรียญเขาทำงานจากห้องใต้ถุนของแม่ของเขาภายในควีนส์ นิวยอร์ค เมื่อเขาอายุ 20 ปี เดย์มอนด์ จอห์น ได้เรียนรู้เย็บผ้าภายในห้องใต้ถุน เพราะว่าเขาต้องการผลิตเสื้อผ้า เขาได้เข้าไปสู่ธุรกิจเสื้อผ้า ภายหลังกลายเป็นคับข้องใจกับอะไรที่เขารับรู้เป็นความขัดสนของเสื้อผ้าสตรีทสมาร์ท แฟชั่น ภายในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าผู้ชาย ภายหลังจากแม่ของเขาได้สอนเขาที่จะเย็บเดย์มอนด์ จอห์น อายุ 24 ปี ได้เริ่มต้นขายหมวกและเครื่องประดับขนาดเล็กอื่น บนถนนของนิวยอร์ค ธุรกิจได้สร้างชีวิตอย่างรวดเร็วด้วยตัวมันเอง ด้วยแม่ของเดย์มอนด์ จอห์นสันนำบ้านของเธอไปจำนอง 100,000 เหรียญ ช่วยจัดหาเงินทุนแก่ธุรกิจ บ้านของครอบครัวได้เปลี่ยนแปลงเป็นโรงงานเล็กทุ่มเทกับการผลิตหมวกและเสื้อเชิรตสไตล์รักบี้
ตราสินค้าได้ถูกสร้่างจากเสื้อยืดและหมวกพิมพ์ภาพที่เดย์มอนด์ จอห์นได้ขายตามหัวมุมถนนภายในควีนส์ นิวยอร์คเมื่อ ค.ศ 1989 อายุ 20 ปี ตอนนั้นเดย์มอนด์ จอห์นไม่ได้มีความหวังสูง แต่ต้องการจัดหาแก่ช่องว่างภายในตลาด เสื้อยืดตัวแรกของเขาทำให้เด่นด้วยสโลแกน เช่น ปลดปล่อยไมค์ ไทสัน อะไรเกิดขึ้นต่อรอดนี่ย์ คิงก์ ที่น่าสงสาร เดย์มอนด์ จอห์นได้กล่าวว่า ช่วงเวลานี้ได้แสดงต่อเขา บางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับเหตุผลบุคคลซื้อเสื้อผ้า นั่นเป็นเมื่อเรามีสโลแกนความรู้สึก หรือการเชื่อมโยงความรู้สึก เสื้อผ้าขายได้รวดเร็วขึ้น นั่นเป็นเมื่อผมได้เริ่มต้นการคิดเกี่ยวกับเเนวคืดของเพื่อเรา โดยเรา มันได้ถูกสนับสนุนโดยเรื่องราวของนักออกแบบไม่ยอมตัดหรือให้ยืมเสื้อผ้าแก่เเรพเพอร์้เวลานั้นด้วยมันได้ทำให้ผมคับข้องใจ การเป็นส่วนหนึ่งของนิวยอร์คและส่วนหนึ่งของชุมชนนั้น ความคิดของผมคือ ใครจะไปภูมิใจกับส่วนของตลาดนี้ ในที่สุดฟูบุก้าวต่อไปจากการสร้างผลิตภัณฑ์บนพื้นฐานจุดสัมผัสทางวัฒนธรรม และเริ่มต้นใช้ตราสินค้าของมันเอง ต่อเหตุการณ์ฮิป ฮอบ แตกหน่อ ใที่สุดความอุตสาหะของเขานำไปสู่ การก่อตั้งบริษัทเครื่องแต่งกายระหว่างประเทศ ฟูบุ และที่นั่งบนชาร์ค แทงค์ ของเอบีซี ตรงที่เขาได้ช่วยเหลือสตาร์ทอัพจำนวนมากค้นพบความสำเร็จของพวกเขาเอง
Cr : รศ สมยศ นาวีการ