jos55 instaslot88 Pusat Togel Online ในสงครามเศรษกิจ สหรัฐฯ อาจชนะในการรบด้วยการปิดกั้นเส้นทางการค้าที่สำคัญที่สุดของรัสเซียได้สำเร็จ แต่ยังไม่อาจชนะในสงคราม - INEWHORIZON

INEWHORIZON

ขอบฟ้าใหม่

ในสงครามเศรษกิจ สหรัฐฯ อาจชนะในการรบด้วยการปิดกั้นเส้นทางการค้าที่สำคัญที่สุดของรัสเซียได้สำเร็จ แต่ยังไม่อาจชนะในสงคราม

ในสงครามเศรษกิจ สหรัฐฯ อาจชนะในการรบด้วยการปิดกั้นเส้นทางการค้าที่สำคัญที่สุดของรัสเซียได้สำเร็จ แต่ยังไม่อาจชนะในสงคราม

ด้วยภัยคุกคามจากการคว่ำบาตรทางอ้อมที่ธนาคารจีนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง วอชิงตันอาจจะชนะการต่อสู้เพียงครั้งเดียว แต่ในสงครามเศรษฐกิจอาจกลับพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง

เศรษฐกิจรัสเซียที่ฟื้นตัวได้แม้จะเผชิญกับการคว่ำบาตรที่รุนแรงจากชาติตะวันตก กลับทำให้บรรดาผู้ที่แสดงความยินดีกับการเติบโตของระบบหลายขั้วการเมืองที่จะเข้าสู่เส้นชัย และนั่นจะถือเป็นความอับอายครั้งใหญ่สำหรับชาติตะวันตก แต่ใช่ว่าการสร้างระบบทางเลือกจะราบรื่นไร้ปัญหา  ดังเช่นปัญหาด้านการชำระเงินของรัสเซียกับจีนที่เพิ่มสูงขึ้นแสดงให้เห็นว่าการฟื้นตัวนี้ไม่ได้ปราศจากอุปสรรค

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้กำหนดให้ธนาคารในประเทศของประเทศที่ค้าขายกับรัสเซียเป็นเป้าหมายในการคว่ำบาตรทางอ้อม ด้วยกฎหมายพื้นฐานสำหรับมาตรการต่อต้านบริษัทหรือบุคคลที่ค้าขายกับนิติบุคคลที่ถูกคว่ำบาตรนั้นเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เดือนธันวาคม แต่ในเดือนมิถุนายน วอชิงตันได้ขยายกรอบดังกล่าวและส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่าครั้งนี้เป็นการดำเนินการที่จริงจัง และภัยคุกคามเหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงโดยเฉพาะในจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการค้ารายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย

เกิดอะไรขึ้นและเมื่อใด

มันเริ่มต้นจากธนาคารของรัฐขนาดใหญ่ของจีน ซึ่งเริ่มหลีกหนีจากการทำธุรกรรมกับรัสเซียเมื่อต้นปี แต่ยังมีธนาคารระดับภูมิภาคขนาดเล็กทำธุรกรรมอยู่ ซึ่งถือว่าตนมีความเสี่ยงต่อระบบการเงินตะวันตกน้อยกว่า จึงเข้ามาแทนที่ ในช่วงหนึ่ง จนดูเหมือนว่าธนาคารเหล่านี้จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ ทว่าตอนนี้ แม้แต่สถาบันเหล่านี้ก็ไม่กล้าฝ่าฝืน

ดังนั้นเมื่อถึงฤดูร้อน ธนาคารจีนก็ปฏิเสธการทำธุรกรรมกับรัสเซียและคืนเงินที่ชำระด้วยเงินหยวนของจีนไปประมาณ 80%ตามรายงานของ Kommersant ครั้นปลายเดือนกรกฎาคม บทความใน Izvestia เมื่อกลางเดือนสิงหาคมอ้างว่าสถานการณ์กลับเลวร้ายยิ่งกว่านั้น โดยธนาคารจีน 98% ปฏิเสธที่จะรับเงินหยวนโดยตรงจากรัสเซีย

 

ผลที่ตามมาคือการชำระเงินของผู้นำเข้าจากรัสเซียจำนวนมากล่าช้าและหยุดชะงัก เพราะขาดแคลนเงินสกุลอื่น รายงานของ Reuters เมื่อสัปดาห์ที่แล้วกล่าวถึงการทำธุรกรรมกับรัสเซียที่ถูกปิดลง “เป็นจำนวนมาก” และการชำระเงินมูลค่าหลายพันล้านหยวนถูกระงับไว้ ตามแหล่งข่าวของรัฐบาล

“โดยในขณะนั้น การชำระเงินข้ามพรมแดนทั้งหมดไปยังจีนถูกหยุดลง แต่วิธีแก้ไข ต้องใช้เวลาประมาณสามสัปดาห์ ซึ่งเป็นเวลานานมาก ปริมาณการค้าจึงลดลงอย่างมากในช่วงเวลาดังกล่าว” แหล่งข่าวของรัฐบาลกล่าวกับ Reuters

ธุรกิจของรัสเซียจำนวนมากต้องใช้เครือข่ายคนกลางในประเทศที่สามเพื่อจัดการธุรกรรมของตน ซึ่งทำให้ทั้งต้นทุนและเวลาในการประมวลผลสูงขึ้น ปัญหาเหล่านี้ส่วนใหญ่ส่งผลกระทบต่อบริษัทขนาดเล็กที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภค แต่สำหรับบริษัทขนาดใหญ่มันมีข้อตกลงทวิภาคี เช่น ผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ของรัสเซีย จะยังคงใช้การได้อยู่เป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าจะมีปัญหาบ้างเล็กน้อยก็ตาม

ในขณะเดียวกัน ข้อจำกัดที่เข้มงวดยิ่งขึ้นทำให้สภาพคล่องของเงินหยวนในตลาดรัสเซียแห้งเหือด กล่าวอีกนัยหนึ่ง บริษัทของรัสเซียต้องใช้เงินหยวนเพื่อซื้อสกุลเงินอื่นได้ยากขึ้นและมีราคาแพงขึ้น เมื่อพิจารณาว่าการค้าของรัสเซียส่วนใหญ่ใช้สกุลเงินของจีนอย่างในปัจจุบัน ปัญหานี้จึงเกิดขึ้นอย่างรุนแรง

ต้นทุนในการระดมเงินหยวนสำหรับหนึ่งวัน (อัตราข้ามคืน) บนตลาดแลกเปลี่ยนมอสโกว์พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สถานการณ์เริ่มแย่ลงในช่วงปลายเดือนสิงหาคม คือเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันทำการสุดท้ายของเดือน อัตราข้ามคืนพุ่งสูงขึ้นจาก 8.5%ต่อปีเป็น 42.2% ธนาคารอธิบายว่าเป็นเพราะอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายเดือน แต่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นเดือนใหม่แล้ว อัตรายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยแตะระดับ 212% ในวันพุธ ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก่อนที่จะลดลงเล็กน้อย ทั้งนี้พฤติกรรมของตลาดดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงการขาดสภาพคล่องของเงินหยวนอย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังทำให้เงินรูเบิลลดลงสู่ระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินของจีนตั้งแต่เดือนเมษายน

จากผลของแรงกดดันดังกล่าว ทำให้บริษัทต่างๆ จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องหันไปใช้ช่องทางที่เคยใช้เป็นทางเลือกสุดท้ายเป็นประจำ นั่นคือ สวอปราคาแพงกับธนาคารกลางของรัสเซีย (ซึ่งบริษัทต่างๆ จะโพสต์รูเบิลเป็นหลักประกันเพื่อแลกกับเงินหยวน) ในช่วงต้นเดือนกันยายน ธนาคารของรัสเซียระดมทุนได้เป็นสถิติใหม่ 35,000 ล้านหยวนผ่านช่องทางนี้ เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ย 20,000ล้านหยวนต่อวันในเดือนสิงหาคม และ 10,000 ล้านหยวนต่อวันในเดือนมิถุนายน โดยพื้นฐานแล้ว ธนาคารกลางของรัสเซียถูกบังคับให้เติมเต็มช่องว่างที่ธนาคารเอกชนของจีนที่ดำเนินการในรัสเซียทิ้งไว้

ขณะนี้ ธนาคารกำลังเรียกร้องให้ธนาคารกลางของรัสเซียเพิ่มข้อเสนอเงินหยวนผ่านสวอป “ผมคิดว่าธนาคารกลางสามารถทำอะไรบางอย่างได้ พวกเขาหวังว่าพวกเขาเข้าใจถึงความจำเป็นในการเพิ่มข้อเสนอสภาพคล่องผ่านสวอป” Andrei Kostin ซีอีโอของ VTB ซึ่งเป็นผู้ให้กู้ของรัฐกล่าว โดยเน้นย้ำว่าผู้ส่งออก ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับเงินเป็นหยวน ควรขายเงินสกุลจีนออกสู่ตลาดมากขึ้นเช่นกัน

ปัญหาการชำระเงินในปีนี้ส่งผลกระทบต่อการนำเข้าแล้ว แม้ว่าตัวเลขปัจจุบันจะล่าช้าและไม่สะท้อนต้นทุนเงินหยวนที่พุ่งสูงขึ้นล่าสุดก็ตาม การนำเข้าจากจีนของรัสเซียลดลงมากกว่า 1% เหลือ 62,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงเจ็ดเดือนแรกของปีนี้ ตามข้อมูลทางการของจีน ธนาคารกลางของรัสเซียคาดการณ์ว่าการนำเข้าสินค้าและบริการทั้งหมดของประเทศจะลดลงถึง 3% ในปีนี้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องติดตามว่าตัวเลขการส่งออกของจีนไปยังรัสเซีย ไม่ว่าจะโดยตรงหรือผ่านประเทศอื่น จะเป็นอย่างไรในช่วงที่เหลือของปีเมื่อพิจารณาจากต้นทุนธุรกรรมที่พุ่งสูงขึ้น

ในระยะสั้น แน่นอนว่าจะยังคงมีความขัดแย้งเกิดขึ้นอยู่บ้าง Alex Isakov นักวิเคราะห์ด้านรัสเซียที่ประจำอยู่ในสหรัฐฯ กล่าวกับ Bloomberg ว่า “ตลาดเงินหยวนของรัสเซียยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าธนาคารของรัสเซียคงยังต้องดิ้นรนเพื่อหาทางแก้ปัญหาที่เชื่อถือได้” โดยธนาคารกลางของรัสเซียจะต้องมีบทบาทมากขึ้นอย่างแน่นอน และผู้ส่งออกอาจเข้ามาช่วยจัดหาสภาพคล่องเช่นกัน แต่ยังคงไม่มีการแก้ไขที่รวดเร็วและง่ายดาย

ในการทำความเข้าใจปัญหาเหล่านี้ ก่อนอื่น สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าปัญหานี้เป็นที่เข้าใจกันดีในรัสเซียและมีการพูดคุยกันอย่างเสรี รวมถึงในระดับสูงสุดของรัฐบาลและในสื่อ ไม่มีการสร้างฉากหน้าใดๆ ไม่มีการพยายามปกปิดเรื่องนี้ และเรื่องนี้เคยขึ้นหน้าหนึ่งของสื่อทางการเงินของรัสเซียมาแล้ว

นอกจากนี้ ยังต้องเข้าใจด้วยว่าการค้าระหว่างรัสเซียกับจีนไม่ได้พังทลายลงไปเลย แม้จะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ยอดขายกลับเติบโตขึ้นโดยรวม 1.6% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ที่สำคัญกว่านั้น ประสบการณ์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าอุปสรรคใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นแรงผลักดันที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลง

ในบริบทนี้ ความคิดเห็นของ Maksim Oreshkin นักเศรษฐศาสตร์และผู้ช่วยประธานาธิบดีชาวรัสเซียที่ Eastern Economic Forum ในสัปดาห์นี้มีความสำคัญมาก ในการตอบคำถามของนักข่าวเกี่ยวกับปัญหาการชำระเงิน เขากล่าวว่า “การชำระเงินมีปัญหา แต่จากที่เราเห็นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัญหาใดๆ ก็ตามจะนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ และวิธีการชำระเงินใหม่ๆ”

นี่ไม่ใช่แค่คำพูดที่ไร้ความหมายหรือคำพูดซ้ำซากของเจ้าหน้าที่รัสเซีย แต่มันเกิดขึ้นจริงๆ ตามที่ Business Insider ยอมรับว่าการที่ชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดยิ่งขึ้นที่กำลังกดดันรัสเซีย “แต่มอสโกวก็ยังคงหาหนทางเพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าต่อไป” ขณะนี้รัสเซียกำลังดำเนินโครงการริเริ่มต่างๆ อยู่หลายอย่าง

แนวทางแก้ไขที่อาจจะออกมาในอนาคต

ในเดือนกรกฎาคม จาง ฮั่นฮุย เอกอัครราชทูตจีนประจำรัสเซีย ได้เสนอแนวทางความร่วมมือผ่านระบบการชำระเงิน Mir ของรัสเซีย โดยระบุว่าสถาบันของรัสเซียและจีนกำลังศึกษาแนวทางดังกล่าวอยู่ แม้ว่าจีนจะไม่มองว่าระบบ Mir เป็นแนวทางแก้ปัญหาในระยะยาว แต่ก็อาจเป็นเพียงการแก้ปัญหาชั่วคราวเท่านั้น ทว่าจากถ้อยคำดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความจริงจังที่ฝ่ายจีนจะนำมาใช้ในการหาทางแก้ไขอุปสรรคที่วอชิงตันวางไว้

ในขณะเดียวกัน รัสเซียได้เปลี่ยนนโยบายครั้งสำคัญเมื่อต้นฤดูร้อนนี้ โดยยอมรับการใช้สกุลเงินดิจิทัลสำหรับการชำระเงินระหว่างประเทศ ทั้งนี้ในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับท่าทีผ่อนปรนของหน่วยงานกำกับดูแลต่อสินทรัพย์ดิจิทัล ผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งรัสเซีย เอลวีรา นาบูลลินา ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการนำเทคโนโลยีทางการเงินใหม่ๆ มาใช้ เพื่อรับมือกับความท้าทายในปัจจุบัน

เมื่อมองในระยะลี อักซาคอฟ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการตลาดการเงินของสภาดูมาแห่งรัฐ ได้พูดถึงสิ่งที่แทบจะแน่นอนว่าจะเป็นองค์ประกอบสำคัญของภูมิทัศน์ทางการเงินในอนาคต นั่นคือ สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ซึ่งก็เหมือนกับสกุลเงินดิจิทัล แต่ได้รับการหนุนหลังโดยธนาคารกลาง ทั้งรัสเซียและจีนต่างก็เป็นผู้นำในการบุกเบิกโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม อักซาคอฟ ซึ่งเคยพูดถึง CBDC มาก่อน ได้ระมัดระวังที่จะไม่โอ้อวดโครงการนี้มากเกินไป โดยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า “โดยพื้นฐานแล้ว มีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จอย่างจริงจังในการใช้สกุลเงินดิจิทัลของประเทศ นี่คือสาเหตุที่ในเชิงเทคโนโลยีแล้ว พวกเขายังไม่พร้อมที่จะเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลในการชำระเงินร่วมกันกับประเทศอื่นๆ อย่างไรก็ตาม เขาค่อนข้างมองโลกในแง่ดี โดยคาดการณ์ว่าการชำระเงินผ่าน CBDC “จะกลายเป็นแนวทางปฏิบัติทั่วไปภายใน 5 ปี”

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้คิดแบบนั้นเพียงคนเดียว ธนาคารกลางของโลกมากกว่าครึ่งหนึ่งกำลังศึกษาหรือพัฒนา CBDC อยู่แล้ว ตามข้อมูลของ IMF เมื่อ CBDC เหล่านี้เชื่อมโยงกันมากขึ้น ก็เท่ากับว่าจะสร้างเครือข่ายธนาคารตัวแทนที่สนับสนุนระบบปัจจุบันขึ้นมาใหม่ เครือข่ายที่ใช้ CBDC ดังกล่าว ซึ่งถูกควบคุมโดยสายแลกเปลี่ยนสกุลเงินทวิภาคี จะทำให้ธนาคารกลางสามารถทำหน้าที่เป็นตัวกลางสำหรับการไหลของสกุลเงินระหว่างระบบธนาคารในท้องถิ่นได้

 

Zoltan Pozsar นักวิเคราะห์ในตำนาน ซึ่งมองว่า CBDC มีแนวโน้มที่จะปฏิวัติภูมิทัศน์ทางการเงิน เขาอธิบายว่าแทนที่จะเป็นธนาคารตัวแทน ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของระบบการเงินตะวันตก จะมีสิ่งที่เขาเรียกว่า “ธนาคารกลางตัวแทน” นั่นหมายความว่าธุรกรรมที่เคยทำระหว่างธนาคารพาณิชย์ในสองประเทศที่แตกต่างกัน  จะได้รับการชำระบัญชีที่ระดับธนาคารกลางของประเทศเหล่านั้น

สิ่งนี้มีความสำคัญเนื่องจากธนาคารพาณิชย์เป็นแนวหน้าในการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตร โดยธนาคารเหล่านี้มีทั้งความรับผิดชอบและอำนาจในการปิดกั้นธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลที่ถูกจำกัด แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากธนาคารเหล่านี้ถูกถอดออกจากการค้าข้ามพรมแดนโดยสิ้นเชิง สหรัฐฯ จะหันไปคว่ำบาตรธนาคารกลางของประเทศที่ทำการค้ากับรัสเซียหรือไม่

แน่นอนว่า Aksakov และคนอื่นๆ หลายคนยอมรับว่าระบบ CBDC ขนาดใหญ่จะไม่เปิดตัวในสัปดาห์หน้า โครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวจะต้องอาศัยความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างธนาคารกลางและการใช้แพลตฟอร์มทางเทคนิคเดียวหรือระบบการหักบัญชีแบบรวมบางประเภท ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีระบบดังกล่าว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสร้างขึ้นไม่ได้ ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นสถาบันระหว่างประเทศที่เป็นเจ้าของโดยธนาคารกลางสมาชิก กำลังดูแลการทดสอบแพลตฟอร์ม CBDC สำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนแบบขายส่งอยู่แล้ว

ชัยชนะของวอชิงตันที่ไร้เหตุผล

เราลองกลับมาที่ประเด็นนี้และพยายามทำความเข้าใจว่าทั้งหมดนี้หมายความว่าอย่างไร ฝ่ายตะวันตกรู้สึกผิดหวังอย่างมากที่ไม่สามารถสร้างผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจของรัสเซียได้ หลังจากพยายามลดทอนมาตรการลงสองเท่าและสามเท่า ฝ่ายตะวันตกจึงถือว่าปัญหาด้านการชำระเงินของรัสเซียเป็นการยืนยันว่าการคว่ำบาตรสามารถให้ผลตามที่ตั้งใจไว้ได้ หากใช้มาตรการนี้อย่างเข้มงวดเพียงพอ วอชิงตันรู้สึกว่าการเหยียบย่ำอำนาจอธิปไตยของประเทศอื่น ๆ ถือเป็นการแลกเปลี่ยนที่สมเหตุสมผลเพื่อประโยชน์ในการผลักดันให้ต้นทุนการทำธุรกรรมของธุรกิจของรัสเซียสูงขึ้น และพิสูจน์ว่าเงินหยวนยังไม่สามารถเทียบได้กับเงินดอลลาร์

นอกจากนี้ นักวิจารณ์ตะวันตกบางคนชี้ให้เห็นด้วยความยินดีว่า แม้จะมีการกล่าวขานถึง “มิตรภาพไร้ขีดจำกัด” ระหว่างมอสโกว์และปักกิ่ง แต่เมื่อถูกบังคับให้เลือกระหว่างการทำธุรกิจกับรัสเซียหรือการรักษาสิทธิ์ในการเข้าถึงระบบการเงินของตะวันตก จีนกลับเลือกอย่างหลัง แต่ผู้ที่ชื่นชมจีนที่ยอมจำนนต่อการคว่ำบาตรนั้นไม่ต้องการยอมรับว่าเป็นการเลือกที่ทำไปภายใต้การกดดัน จีนต้องการทำการค้าอย่างเสรีกับทั้งตะวันตกและรัสเซีย และรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งที่ถูกขัดขวางไม่ให้ทำเช่นนั้น เจ้าหน้าที่จีนได้กล่าวเช่นนี้หลายครั้งแล้ว สหรัฐฯ ทำตัวเหมือนคนรักที่หึงหวงซึ่งขังคนรักไว้ในห้องใต้ดิน จากนั้นก็อ้างว่าการที่เธอไม่หนีไปนั้นเป็นสัญญาณของการอุทิศตน

การที่นักวิจารณ์และเจ้าหน้าที่ตะวันตกมองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและจีนผ่านเลนส์ของพลวัตทางอำนาจเท่านั้น – การมองหาสัญญาณว่าจีนอาจใช้อำนาจในทางที่ผิดกับพันธมิตรของตน – บ่งบอกได้มากกว่าว่าตะวันตกยึดติดกับความสัมพันธ์ฝ่ายเดียวแบบลัทธิความเป็นเจ้ามากกว่าสถานะที่แท้จริงของสิ่งต่างๆ แต่จีนเป็นประเทศที่มีอำนาจอธิปไตยซึ่งคอยดูแลผลประโยชน์ของตนเอง และรัสเซียก็คาดหวังจากสิ่งนี้ไม่น้อยไปกว่านี้ ไม่มีความรู้สึกแย่ๆ ใดๆ แม้ว่าจะฟังดูซ้ำซาก แต่ความสัมพันธ์นี้ถูกกำหนดโดยการเคารพอำนาจอธิปไตยซึ่งกันและกัน ในสถานการณ์ปัจจุบัน ปักกิ่งต้องดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมให้ได้ และการกัดเซาะต่อมาตรการของสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นในปักกิ่งในครั้งนี้ย่อมจะหาทางออกได้

อนึ่งยังมีการโต้แย้งว่าความแตกต่างอย่างมากของอัตราดอกเบี้ยระหว่างรัสเซียและจีนบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศนั้นไม่สอดคล้องกันโดยพื้นฐาน นี่เป็นการพูดเกินจริง แต่เท่าที่มันมีแก่นของความจริงอยู่บ้าง ก็เป็นความไม่สอดคล้องกันที่ถูกกำหนดขึ้นโดยลักษณะเทียม และควรจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นการชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออัตราดอกเบี้ยของรัสเซียลดลงในที่สุด เศรษฐกิจของรัสเซียและจีนนั้นจะเสริมซึ่งกันและกันได้ดีทีเดียว

ดังนั้น ความยากลำบากในการชำระเงินเป็นชัยชนะของการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ หรือไม่? ใช่ ปฏิเสธไม่ได้ แต่เป็นชัยชนะที่ค่อนข้างมองการณ์ใกล้และชั่วคราว แต่ชัยชนะในการรบในสงครามเศรษฐกิจครั้งนี้คือการพ่ายแพ้อย่างเด็ดขาดในอนาคต การที่วอชิงตันแทรกแซงความสัมพันธ์ทางการค้าของประเทศต่างๆ ทั่วโลกอย่างเกินขอบเขตนั้นไม่ใช่การแสดงความแข็งแกร่ง แต่เป็นการเผาเฟอร์นิเจอร์เพื่อให้ความอบอุ่นมากกว่า ซึ่งท้ายที่สุดแล้วก็จะเป็นการทำร้ายตัวเอง

ผู้นำที่กำลังเสื่อมความนิยมยังคงมีไพ่เด็ดอยู่บ้างที่จะสามารถใช้เล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตอนนี้ก็กำลังเล่นไพ่เหล่านั้นอยู่ แต่ทุกครั้งที่ทำเช่นนั้น ก็เท่ากับว่าใกล้ถึงวันที่ไพ่เหล่านั้นจะล้าสมัยและหมดน้ำยาในที่สุด เมื่อระบบการเงินโลกได้ปรับตัวเองไปสู่ความเสมอภาคในอธิปไตยของนานาประเทศ

ศ.พลท.ดร.สมชาย วิรุฬหผล ถอดความจากสำนักข่าวRT

Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *