ฤดูฝนสั่งลาที่เชียงใหม่

ฤดูฝนสั่งลาที่เชียงใหม่

ฝนตก แบบหยุดๆตกๆมา ๒-๓ วันแล้ว ขณะนี้ ร่องความกดอากาศ กำลังเลื่อนลงไปทางใต้ เนื่องจากโลกกำลังเอียงด้านใต้เข้าหาดวงอาทิตย์ ทำให้ ซีกโลกใต้ อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ เป็นหน้าร้อน และซีกโลกเหนือเป็นหน้าหนาว หรือฤดูที่มีอากาศเย็น ความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศนี้ ทำให้สิ่งที่มีชีวิตขยายพันธุ์ ต้นไม้ออกดอกออกผล สัตว์หลายชนิดก็เข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์ของมัน

หน้าฝนก็คือหน้าร้อนที่มีฝนตก พระอาทิตย์อยู่ใกล้โลกซีกบน พลังงานแสงแรงเผาผลาญความชื้นจากทะเลเข้าแผ่นดิน ทั้งนี้ แผ่นดินรับความร้อนจากแสงแดดเร็วกว่าน้ำ ทำให้อากาศลอยตัวขึ้น อากาศในทะเลเคลื่อนเข้าไปแทนที่ เป็นลมที่พาฝนเช่นพายุหมุน หรือลมมรสุมเคลื่อนเข้าแผ่นดิน แต่ในหน้าหนาว พระอาทิตย์อยูทางใต้ของโลกห่างจากเรา ทำให้ส่วนบนของโลกซึ่งห่างจากดวงอาทิตย์หนาวเย็น แต่ในเขตร้อนชื้น( tropical zone) แถบเส้นศูนย์สูตร ก็ยังได้พลังความร้อนอยู่ และมากกว่าโลกทางด้านเหนือ อากาศในเขตร้อนชื้นนี้ จึงลอยตัวขึ้น อากาศทางเหนือ(จากไซบีเรีย) เคลื่อนเข้ามาแทนที่ หอบเอาอากาศเย็นเข้ามาด้วย เราจึงได้รับอากาศหนาวดังที่สัมผัส

ผมเขียนมาจากหลักการลมบกลมทะเลที่เราเรียนกันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ ฤดูร้อน ลมทะเลพัดเช้าแผ่นดิน และฤดูหนาว ลมบกพัดจากทางเหนือสู่ทะเลทางใต้ ตามฤดูกาลหน้าร้อน มี ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดเข้ามาจากทางใต้(ทะเลอันดามัน) เพราะพระอาทิตย์อยู่ใกล้โลก บนแผ่นดินร้อน อากาศลอยตัวขึ้น ลมมรสุมจึงพัดเข้ามาจากทางใต้ แต่พอเป็นหน้าหนาว พระอาทิตย์อยู่ด้านใต้ของโลก ตอนบนของโลกอากาศเย็น แต่เขตทางใต้แถบเส้นศูนย์สูตร ยังถูกพระอาทิตย์ส่องแสงร้อนแรงอยู่ จึงลอยตัวขึ้น ลมจึงพัดมาจากทางเหนือ(ทะเลจีนใต้) เป็นลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ เช้ามาทางอ่าวไทย คิดเล่นๆ ถูกผิดไม่รับรองนะครับ

อากาศสดใสของฤดูหนาวทางภาคเหนือ ทำให้จิตใจแช่มชื่น เย็นสบาย ที่ชอบคิดเรื่องดินฟ้าอากาศ และพยายามฟังพยากรณ์อากาศบ่อยๆ เนื่องจากในอดีต บ้านที่เกิดมาและอยู่มาจนโตจนจบชั้นมัธยม บ้านนั้น คล้ายๆว่าจะขุดสระมาถมที่บ้าน เป็นที่ต่ำ พอฝนตก น้ำท่วมทุกครั้ง และขังอยู่นานจนระเหยแห้งไปเอง แรกๆก็นึกสนุกเล่นน้ำกัน เด็กๆกับน้ำเป็นของคู่กัน แต่พอนานไปก็เบื่อ น้ำท่วมบ้านทรมานใจ ภาวนาให้หายท่วมเร็วๆ จะได้เดินสบายๆ เมื่อถึงหน้าหนาว หมดฤดูน้ำท่วม ก็เริ่มช่วงเวลาที่เป็นปกติต่อไป

ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน หรือเชียงรายคงจะหนาวมาก แต่ที่เชียงใหม่นี้ จะมีอากาศดี ในฤดูหนาวเมื่อ ๒-๓ ปีที่ผ่านมา ตอนเช้าตรู่ อากาศกำลังสบาย แต่ก็ต้องใส่เสื้อ ๒-๓ ชั้น เห็นคนวัยหนุ่มข้างบ้านเดินออกมาข้างนอกด้วยเสื้อกล้ามตัวเดียวจริงๆ ช่างแข็งแรงมาก ณ เวลาเดียวกัน ผมเคยไปเดินที่ตลาดจริงใจ ด้วยเสื้อเชิร์ตแขนสั้นเพียงตัวเดียว ด้วยความประมาทตัวเอง เห็นว่า เดินออกกำลังมา และอาบน้ำแต่งตัวแล้ว ที่ไหนได้ หนาวแทบแย่เลย

หลายๆคน มีสถานที่ หรือเรื่องราวที่ประทับใจในฤดูหนาว สำหรับผม ประทับใจสถานที่ในต่างประเทศอยู่ ๒ แห่ง แห่งแรกคือ ถนน ช็องเซลีเซ่ (Avenue des Champs Elysees) เป็นถนนยาว ๑.๙ กิโลเมตร ในเขตที่ ๘ ของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่ย่านนี้ ประกอบไปด้วยโรงละคร ศูนย์การค้า และร้านกาแฟ สองข้างทางมีต้นเกาลัดตบแต่งสวยงาม นัยว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลก ในยามค่ำคืน มีนักท่องเที่ยว หรือชาวบ้านเดินสวนกันไปมาบนทางเดิน ๒ ข้างทางถนนซึ่งกว้างมาก แม้ดึกดื่น ตี ๑ หรือตี ๒ ก็ยังมีคนเดิน ความประทับใจคือร้านกาแฟเรียงกันยาวหลายร้าน วางโต๊ะนั่งเรียงรายกลางแจ้งริมพื้นที่ของถนน และให้ลูกค้ามานั่งกินกาแฟ ดูคนเดินบนถนนเพลินๆ แม้จะเป็นฤดูร้อนของเขา แต่ก็อากาศเย็นคล้ายหน้าหนาวของบ้านเรา

อีกแห่งหนึ่ง คือที่ ถนนออร์ชาร์ด ( Orchard Road) ยาว ๒.๒ กิโลเมตร เป็นศูนย์กลางการค้าของสิงคโปร์ มีห้างสรรพสินค้า ร้านบูติกและโรงแรมหรูๆ ที่ประทับใจคือมีทางเท้าที่กว้างขวาง ๒ ข้างทางเหมือนที่ฝรั่งเศส ซึ่งผู้คน นักท่องเที่ยวเดินไปมากันจนดึกดื่น มีศูนย์อาหาร ร้านอาหารแบบเปิดโล่ง และบาร์ โต๊ะเก้าอี้ ริมถนนเช่นเดียวกัน แม้อากาศจะไม่หนาวเย็นมากนัก แต่บรรยากาศแบบสบายๆ ที่คนชอบไปเยือนเดินเล่นยามค่ำคืน นอกจากสถานที่ ๒ แห่งนี้แล้ว มักจะมีถนนคนเดิน หรือถนนที่ตอนค่ำๆ พวกวัยรุ่นไปนั่งคุย พบปะกันในประเทศต่างๆที่มีอากาศดี บางประเทศเป็นเมืองคาสิโนเช่นลาสเวกัส ผู้คนเดินตามถนนไปมา ร้านค้าประดับไฟหลากหลาย อากาศก็เย็น เดินไม่เหนื่อย ไม่ต้องซื้ออะไรก็ได้ กลับไปนอนหลับสบาย

ที่ประเทศเรานี้ ที่ผมเคยไปเที่ยว มีถนนคนเดิน บรรยากาศดีๆในฤดูหนาว คือที่ อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย และที่ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งน่าจะเคยไปเที่ยวกันมาแล้ว สำหรับที่เชียงใหม่ในหน้าหนาวนี้ ตามศูนย์การค้ามักจะจัดให้มีสวนอาหาร หรือสร้างบูธขายอาหารกลางแจ้งในบริเวณที่ว่างด้านหน้าหรือริมถนนใหญ่ เพื่อดึงดูดลูกค้า เมื่อสมัย ๑๐ กว่าปีมานี้ ได้ไปเดินแถวหน้าศูนย์การค้า MAYA (เมญ่า) ทั้ง ๒ ฟากฝั่งถนนมีร้านอาหารขายอย่างคึกคัก เดินเล่นเพลิดเพลินใจเล่น

อากาศเย็นทำให้คิดถึงบรรยากาศปีใหม่ ในสมัยที่ยังเพลิดเพลินกับการดื่มแอลกอฮอล์อยู่ มีร้านขายอาหารกลางแจ้งที่ตรงโรงแรมสุริวงศ์ในสมัยนั้น (ตอนนี้คงเป็นสุริวงศ์ รอยัล สวีท โฮเทล) และมีดนตรีด้วย ทำให้ใจระทึก ชวนครอบครัวไปนั่งชมบรรยากาศ ดื่มเบียร์เย็นๆพร้อมอาหารเบาๆ ภายใต้อากาศเย็นที่สดใส นักท่องเที่ยวเดินเที่ยวผ่านไปมา มีสินค้าทั่วๆไป และสินค้าพื้นเมืองวางขายเป็นแผงยาวบนทางเดิน ๒ ข้างถนน นักท่องเที่ยวที่มานั่งกินอาหารบางคนลุกขึ้นเต้น ร่ายรำไปตามจังหวะเพลงของวงดนตรี คอยเวลาเที่ยงคืน ที่จะขึ้นปีใหม่ แต่พอถึงเวลานั้น กลับลืมสวัสดีปีใหม่ใครๆ มัวแต่ดูทุกๆคนที่สนุกสนาน และสดชื่น หลังจากตี ๒ ก็พากันกลับพักผ่อน ในวันแรกของปีนั้น

ในช่วงของฤดูหนาว อดคิดถึงเวลาที่หลานๆมาเยี่ยมไม่ได้ หลานมี ๓ คน อายุ ๑๔, ๑๒ และ ๗ ขวบ แม้นานๆจะได้อยู่กับหลานที แต่ที่หลานมาทุกครั้ง จะเป็นวันที่พิเศษสำหรับตา ที่บ้านมีแป้นบาสเก็ตบอล วันแรกที่เริ่มเล่น ตายืนหันหลังให้แป้นบาส แล้วโยนลูกไปข้างหลัง ปรากฎว่าลงห่วงพอดี หลานเห็นแล้วชมว่าตาเก่ง อยากให้ทำอีก แต่ตาอุบไว้ ไม่ทำ เพราะถ้าโยนอีก มันไม่เข้าแน่นอน ครั้งแรกไม่ได้ตั้งใจมันเข้าไปเอง เลยให้หลานรู้ซะเลยว่า ตานี้ยอดมาก ตั้งความหวังว่าในอนาคต คงจะเป็นรุ่นหลานๆนี่แหละ ที่จะรับทุกอย่างจากเรา และเจริญเติบโตกันต่อไป มันเป็นวัฏจักรของชีวิตที่เกิดมา สร้างครอบครัว มีลูกหลานต่อทอดผลัดเปลี่ยนกันเรื่อยๆ อากาศหน้าร้อน หน้าฝน หน้าหนาว ก็สลับหมุนเวียนไป ยิ่งผ่านไปเร็วเท่าใด เราก็คงถึงเวลาที่ต้องจาก ตามวัฏจักร เร็วเท่านั้น

บู๊ คนเคยหนุ่ม
๒๒ ตค. ๒๕๖๖ เริ่ม เขียนที่เชียงใหม่
แต่มาจบที่กรุงเทพฯ