jos55 instaslot88 Pusat Togel Online ยูนิโคล่คือ บริษัทญี่ปุ่นสมัยใหม่บันดาลใจโลกให้แต่งกายลำลอง - INEWHORIZON

INEWHORIZON

ขอบฟ้าใหม่

ยูนิโคล่คือ บริษัทญี่ปุ่นสมัยใหม่บันดาลใจโลกให้แต่งกายลำลอง

ยูนิโคล่คือ บริษัทญี่ปุ่นสมัยใหม่บันดาลใจโลกให้แต่งกายลำลอง

เราจะมีการเจริญเติบโตอย่างเข้มแข็งน่าพอใจ และในขณะนี้มีการดำเนินงานอยู่ทั่วโลก เครือข่ายลำดับสูงสุดของร้านค้ามากกว่า 1, 800 แห่ง ราคาที่เข้าหาได้ คุณภาพที่เหนือกว่า และสไตล์อเนกประสงค์ เราเชื่อว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลงภูมิปัญญาดั้งเดิมและเปลี่ยนแปลงโลกได้ ข้อความตราสินค้าของยูนิโคล่จะห่อหุ้มวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน : “ยูนิโคล่คือบริษัทญี่ปุนที่บันดาลใจโลกให้แต่งกายลำลอง” กลยุทธ์ของบริษัทที่ใช้กับยูนิโคล่เท่าที่ผ่านมาคือ การละเลยแฟชั่นอย่างสิ้นเชิง แทนการไล่ล่าแนวโน้มฟาสต์แฟชั่นเหมือนกับคู่แข่งขันอื่น ปรัชญาตราสินค้า ผลิตเพื่อบุคคลทุกคน วางตำแหน่งเสื้อผ้าที่จะอยู่เหนืออายุ เพศ เชื้อชาติ และวิถีทางอื่นทุกอย่างที่จะกำหนดบุคคล
วิสัยทัศน์ของเราจะกล้าหาญ : การกลายเป็นผู้ค้าปลีกเสื้อผ้าหมายเลขหนึ่งภายในโลก เราเชื่ออย่างแท้จริงว่าความฝันนี้สามารถบรรลุได้ด้วยการให้ประสบการณ์บริการลูกค้าดีที่สุดบนถนนใหญ่ ธุรกิจของยูนิโคล่จะเป็นการขับเคลื่อนโดยลูกค้าและลูกค้าต้องเป็นหนึ่งอยู่เสมอ
ผลิตภัณฑ์ ร้านค้า บริการ บุคคล การบริหาร ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำ รวมศูนย์อยู่ที่บุคคลที่ใส่เสื้อผ้า เราจะเป็นบริษัทรายแรกภายในญี่ปุนที่สร้างโมเดล
เอสพีเอ การรวมขั้นตอนทุกอย่างของธุรกิจ ตั้งแต่การออกแบบ การผลิต ไปจนถึงการขายสุดท้าย ด้วยการปรับปรุงโมเดลเอสพีเออย่างต่อเนื่อง เราสร้างควมแตกต่างตัวเราเองได้สำเร็จจากบริษัทอื่น ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใคร เราทำการปรับการผลิตอย่างรวดเร็วที่จะสะท้อนแนวโน้มการขายล่าสุด และลดต้นทุนการดำเนินงานร้านค้าให้ต่ำสุด นี่คือยูนิโคล่จัดหาเสื้อผ้าคุณภาพสูง ณ ราคาที่สมเหตุผลได้อย่างไร
ค่านิยมของเราจะเป็นมาตรฐานอ้างอิงต่อกิจกรรมของบริษัทของเรา
มันจะขับเคลื่อนกระบวนการตัดสินใจที่เราได้ดำเนินการภารกิจของเรา
ลูกค้าของเราจะสำคัญที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำจะให้ความพอใจลูกค้า
ของเรา ทุกครั้งที่เราได้พิจารณาปัญหา เราจะประเมินมันจากมุมมองของ
ลูกค้า ประโยชน์อะไรที่ลูกค้าจะได้รับ สิ่งนี้ได้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าของเราหรือไม่ ยูนิโคล่จะมุ่งประสบการณ์ร้านค้าอย่างมาก และการมีส่วนร่วมจุดสัมผัสของลูกค้าทุกอย่าง กิจกรรมทุกอย่างของบุคคลจะถูกบันทึกและวิเคราะห์ ตั้งแต่เทคนิคของการพับเสื้อผ้า ไปถึงวิถีทางคืนเครดิตการ์ดแก่ลูกค้าด้วยทั้งมือและสายตา บุคคลถูกสอนที่จะเกี่ยวพันกับลูกค้า ด้วยการใช้ถ้อยคำมาตรฐาน คุณได้พบทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณกำลังมองหาหรือไม่ และลูกค้าทุกคนจะถูกท้กทายด้วย ขอต้อนรับสู่ยูนิโคล่
นวัตกรรมและความท้าทาย จะเป็นจิตวิญญานรากฐานที่สนับสนุนการเจริญเติบโตของยูนิโคล่จนถึงวันนี้ นวัตกรรมและความท้าทายจะยู่ที่แกนของเรา ถ้าปราศจากสิ่งเหล่านี้ เราไม่สามารถสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนแก่บริษัทของเรา หรือรับรองความสุขของบุคคลของเรา ต่อเรา ณ ยูนิโคล่ นวัตกรรมจะเกี่ยวกับข้อสงสัยต่อการปฏิบัติที่ผ่านมาของเรา การประเมินโครงสร้างธุรกิจของเรา และการปรับปรุงรากฐาน เพื่อที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
ดังที่ปีเตอร์ ดรัคเกอร์ กูรูทางการบริหาร ได้กล่าวว่า นวัตกรรมและการตลาดจะเป็นหน้าที่สองอย่างเท่านั้ขององค์การ ยูนิโคล่ได้เข้าใจสิ่งเหล่านี้อย่างดี บริษัทจะมีชื่อเสียงจากนวัตกรรมผ้า บริษัทได้ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญสิ่งทอญี่ปุ่นเรียกว่า ทาคูมิ ทำงานอย่างใกล้ชืดกับโรงงานภายในจีนและญี่ปุนที่จะพัฒนาผ้าไฮเทคใหม่แก่ยูนิโคล่อย่างต่อเนื่อง นวัตกรรมสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของยูนิโคล่คือ ฮิทเทค ผ้าที่พัฒนาร่วมกันกับโทเรย์ อินดัสตรีย์ บริษัทเคมีญี่ปุน เปลี่ยนความชื้นให้เป็นความร้อนและมีหลุมอากาศภายในผ้าที่จะรักษาความร้อนไว้ ผ้าฮิทเทคจะบาง อบอุ่น และสบาย ยูนิโคล่สามารถที่จะสร้างการออกแบบที่ทันสมัย แตกต่างอย่างมากจากกลุ่มเสื้อผ้าอบอุ่นมาตรฐานสมัยเดิม นวัตกรรมฮิทเทคได้ปรับปรุงตลอดเวลาด้วยเทคโนโลยีเส้นใยใหม่
ความสามารถยั่งยืนจะเป็นหัวข้อหนึ่งที่ร้อนแรงภายในธุรกิจเมื่อทศวรรษที่แล้ว และได้กลายเป็นปัจจัยสุขอนามัยที่ต้องมีอย่างรวดเร็วต่อบริษัทที่ต้องการชนะความจงรักภักดีของลูกค้าทั่วโลก หลักการบริหารข้อหนึ่งของ 23 ข้อ
ของทาดาชิ ยาไน คือ การมีส่วนช่วยคืนกลับต่อสังคม ยูนิโคล่เชื่อมั่นอย่างเข้มแข็งว่าคุณค่าของบริษัทจะถูกเชื่อมโยงกับคุณค่าที่บริษัทนำไปสู่สังคมโดยส่วนรวม และบริษัทที่บรรลุความสำเร็จจะต้องรับใช้สังคม ทาดาชิเ ยาไน ชื่อว่าบริษัททึ่มุ่งกำไรไรเท่านั้นจะไม่บรรลุความสำเร็จ ถ้อยแถลงของบริษัทคือ การเปลี่ยนแปลงเสื้อผ้า การเปลี่ยนแปลงภูมิปัญญาดั้งเดิม การเปลี่ยนแปลงโลก จะสะท้อนความต้องการของบริษัทที่จะปฏิรูปสังคม และปรับปรุงสิ่งแวดล้อมและชีวิตของผู้มีส่วนได้เสียทุกคน วิถีทางความยั่งยืนของฟาสต์ รีเทลลิ่งจะประกอบด้วยหกเสาหลักคือ การสร้างคุณค่าใหม่โดยผลิตภัณฑ์และบริการ การเคารพสิทธิมนุษย์ภายในลูกโซ่อุปทานของเรา การเคารพสิ่งแวดล้อม การทำให้ชุมชนเข้มแข็ง การสนับสนุนความสมหวังของบุคคล และการกำกับดูแลบริษัท
ตราสินค้ายูนิโคล่ได้ถูกสร้างบนปรัชญาญี่ปุ่นของความเรียบง่ายและความจำเป็น และสิ่งนี้จะสะท้อนโดยการตลาด การดำเนินงาน และการสื่อสารของบริษัท มันน่าประทับใจที่ยูนิโคล่ได้บริหารที่จะปฏิรูปจากร้านตัดเสื้อผ้าผู้ชายมรดกแห่งเดียวจากโตเกียวเป็นยักษ์ใหญ่เสื้อผ้าลำลองของโลกได้อย่างไร และเป็นตราสินสินค้าหนึ่งที่ประทับใจมากที่สุดภายในญี่ปุนและเอเซีย ภายใต้ความเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ของทาดาชิ ยาไน บริษัทแม่ฟ้าสต์ รีเทลลิ่งของยูนิโคล่ มุ่งเป้าหมายที่จะบรรลุยอดขาย 28 พันล้านเหรียญภายใน ค.ศ 2020
ภายใต้การลบล้างทางเทคโนโลยีและธุรกิจที่รุนแรงเกิดขึ้นเมื่อทศวรรษที่ผ่านมา ความเป็นผู้นำภายในทศวรรษที่ยี่สิบเอ็ดจะได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง
ครั้งหนึ่งทาดาชิ ยาไน คิดว่าเขาจะเกษียณจากการดำเนินงานประจำวันเมื่อเขามีอายุ 60 ปี แต่เมื่ออายุ 70 ปี เขายังคงยึดครองการบริหารบริษัทอยู่เป็น
ซีอีโอ ยูนิโคล่จะต้องวางแผนการสืบทอดอย่างรวดเร็ว และสร้างทีมความเป็นผู้นำรุ่นต่อไป
การทำงานเป็นทีมจะสำคัญต่อบริษัทที่สร้างสรรค์เล็กและใหญ่ภายในตะวันตก นี่จะเป็นความคิดอัจฉริยะสร้างสรรค์ของบุคคล สตีฟ จ้อปส์ ของโลกการออกแบบและธุรกิจ บุคคลจะถูกกระตุ้นให้เสี่ยงภัยและเป็นอิสระ วัฒนธรรมการทำงานของญี่ปุนจะเป็นลำดับชั้นและร่วมกันมาก การเคารพต่อผู้สูงอายุ
บนลำดับชั้นข้างบนเรา ฟาสต์ รีเทลลิ่งต้องการจะผ่อนคลายบางอย่างของความไม่ยืดหยุ่น แต่ต้องการจะรักษาองค์ประกอบที่ทำให้บุคคลของพวกเราเข้มแข็ง สนใจรายละเอียด ระเบียบวินัย และความเคารพไว้
เมื่อฟาสต์ รีเทลลิ่ง ได้ตัดสินใจที่จะสร้างสำนักงานใหญ่ใหม่ พวกเขาได้วางเดิมพันบนโมเดลซิลิคอน แวลลี่ย์ด้วยความหวังว่ามันจะปลอปล่อยความคิดสร้างสรรค์ของบุคคลมากขึ้น การทำให้ธุรกิจเข้มแข็งขึ้นและแข่งขันได้มากขึ้น สำนักงานสไตล์ซิลิคอน แวลลีย์ – พื้นที่การทำงานแบบเปิด อาหารภายในพื้นที่ และห้องนั่งเล่นส่วนกลาง ได้กลายเป็นธรรมดาภายในอุตสาหกรรมหลายอย่าง มันได้ถูกส่งออกไปประเทศตะวันตกทั่วโลก เมื่อบริษัทเชื่อว่าการออกแบบสำนักงานประเภทนี้จะกระตุ้นบุคคลให้กลายเป็นสร้างสรรค์มากขึ้น
ประสิทธิภาพมากขึ้น ความสุขมากขึ้น
ทาดาชิ ยาไน มีความทะเยอทะยานของการเจริญเติบโตระดับซิลิคอน แวลลี่ย์ และในขณะนี้เขาจะมีสำนักงานใหญ่เทียบเคียงได้ ฟาสท์ รีเทลลิ่ง จะยังคงมีการเดินทางที่ไกล เป้าหมายของทาดาชิ ยาไน คือ การนำหนาอินดิเท็กซ์ บริษัทแม่ของซาร่า ยอดขายมากกว่า 27 พันล้านเหรียญเมื่อ ค.ศ 2016 เปรียบเทียบกับฟาสต์ รีเทลลิ่ง 17 พันล้านเหรียญ
เมื่อทาดาชิ ยาไน อายุมากขึ้น เขาไดัถูกถามบ่อยครั้งเกี่ยวกับการสืบทอดของบริษัทที่เขาได้สร้างจากร้านตัดเสื้อผ้าของบิดาของเขาให้เป็นตราสินค้าโลก ผู้รับเลือกที่เป็นได้อาจจะเป็น มากิ อาไคดา ผู้บริหารการผลิตญี่ปุ่นของยูนิโคล่
ทาดาชิ ยาไน ได้กล่าวว่า งานของซีอีโอจะเหมาะสมมากกว่าต่อผู้หญิง เขาชอบให้ผู้สืบทอดของเขาเป็นผู้หญิง ตามรายงานโดยบลูมเบิร์ก แจแปน ทาดาชิ ยาไน ได้กล่าวถึงบทบาทซีอีโอของเขาว่า งานจะเหมาะสมต่อผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ผู้หญิงจะรักษาการมุ่งรายละเอียดและมีความรู้สึกทางความสวยงาม เมื่อเราได้พูดถึงความรุนแรงของซีอีโอคนต่อไปของยูนิโคล่ นายกรัฐมนตรีชินโซะ อาเบะ ได้พยายามที่จะส่งเสริมผู้หญิงภายในกำลังงานท่ามกลางการขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากการสูงวัยและประชากรลดลงของญี่ปุ่น ด้วยอัตราเกิดที่ลดลง จำนวนของบุคคงจะลดลงอย่างมากเกือบหนึ่งในสามของ ค.ศ 2060 เขาได้พูดเกี่ยวกับความต้องการที่จะจัดการการหดตัวของกำลังงานของประเทศ และการให้ความสำคัญต่อคุณภาพของงานที่ดีขึ้นและตำแหน่งอาวุโสมากชึ้นเพื่อผู้หญิง
สภาเศรษฐกิจโลกได้ลำดับญี่ปุนอยู่ ณ 110 ภายในดัชนีช่องว่างเพศของโลก ค.ศ 2018 ด้วยช่องว่างค่าจ้าง 24% ของผู้หญิงเมื่อ ค.ศ 2027 เปรียบเทียบกับผู้ชายภายในบทบาทเดียวกัน ภายในรายงาน ค.ศ 2019 ไอเอ็มเอฟ ได้ต่อว่าญี่ปุนจากการไม่สร้างความคืบหน้าภายในความเสมอภาคทางเพศ ไอเอ็มเอฟได้ธิบายช่องว่างทางเพศของญี่ปุ่นว่าน่าสงสาร แม้ว่าพวกเขาจะรับรู้การปรับปรุงเพียงเล็กน้อย
มากิ อาไคดา จะรับผิดชอบการผลิตของญี่ปุนของยูนิโคล่ ได้นำหน่วยงานที่ทำกำไรสูงสุดของบริษัท และถูกมองว่าน่าจะเป็นผู้สืบทอดมากที่สุด เมื่อถูกถามโดยบลูมเบิร์ก ญี่ปุ่น ทาดาชิ นาไน ได้อ้างถึงการยกระดับของเธอว่าเป็นไปได้ เธอมีอายุ 40 ปี เข้าร่วมบริษัทเมื่อ ค.ศ 2001 และได้บริหารร้านยูนิโคล่ภายในจีนและญี่ปุน และทำงานภายในแผนกขายและทรัพยากรมนุษย์
ทาดาชิ ยาไน ได้กล่าว่าเราอยู่ภายในธุรกิจของการขายเสื้อผ้า ไม่ดีเลยที่เราจะแก่ลง ทาดาชิ ยาไน ได้กล่าวว่าเขาต้องการจะเพิ่มอัตราส่วนของผู้บริหารอาวุโสหญิงภายในบริษัทเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่ง ภายหลังจากที่บริษัทได้บรรลุเป้าหมายของการแต่งตั้งผู้หญิงมากกว่า 30% ภายในตำแหน่งบริหารเมื่อ ค.ศ 2018 ในขณะที่ความผูกพันของทาดาชิ ยาไน ต่อความหลากหลายทางเพศ ญี่ปุ่นจะยังคงอยู่ล้าหลังของโลก เมื่อกล่าวถีงผู้หญิงภายในตำแหน่งบริหาร 4.1% เท่านั้นของตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ณ บริษัทมหาชนภายในญี่ปุน

ถ้าเราได้เคยเดินทางไปญี่ปุ่น พร้อมที่จะต้องมองเห็นร้านเสื้อผ้าตามมุมถนนภายในเมือง ภายใต้เจ้าของบริษัทแม่ชื่อ ฟาสต์ รีเทลลิ่ง ยูนิโคล่ จะเป็นร้านเสื้อผ้าลำลองที่ได้ลุกขึ้นมา พวกเขาจะเป็นผู้ออกแบบ ผู้ผลิต และผู้ค้าปลีก
บริษัทลูกที่ลงทุนทั้งหมดโดยบริษัทแม่ ฟาสท์ รีเทลลิ่ง เริ่มแรกยูนิโคล่จะเป็นหน่วยธุรกิจที่เล็กของผู้ค้าปลีกเสื้อผ้าผู้ชายญี่ปุนที่ใหญ่กว่า
46% ของฟาสต์ รีเทลลิ่ง จะเป็นเจ้าของโดยชายคนหนึ่ง ทาดาชิ ยาไน 40% จะเป็นเจ้าของโดยภรรยาของทาดาชิ ยาไน และลูกขายสองคน ทาดาชิ ยาไน ได้มีการเริ่มต้นของเขา 34 ปีที่แล้วด้วยร้านเสื้อผ้าผู้ชายทรุดโทรมที่เขาได้รับมรดกจากบิดาของเขา ยูนิโคล่จะเป็นร้านเสื้อผ้าลำลองญี่ปุ่น
และตราสินค้าได้สร้างชื่อเสียงระหว่างประเทศ การออกแบบพื้นฐาน ราคาไม่แพง ได้กระทบต่อบุคคลเกือบทุกคน และการเป็นหุ้นส่วนกับผู้อนุญาติตัวแสดง
เหมืนเช่นดิสนีย์ ทำให้ลูกค้าต้องกลับมาอีก
บริษัทจะเรียกตัวเองต้นกำเนิดว่า ยูนิค โคลธติ้ง แวร์เฮ้าส์ ด้วยการรวมถ้อยคำเหล่านี้เข้าด้วยกัน ยูนิโคล่ได้กำเนิดขึ้น ยูนิโคลฺ่แห่งแรกได้เปิดประตูของพวกเขาภายในฮิโรชิมา ญี่ปุ่น เมื่อ ค.ศ 1984 เมื่อ ค.ศ 1994 สิบปีภายหลังร้านแห่งแรกได้เปิดขึ้น ร้านยูนิโคล่ 100 แห่งได้ดำเนินงานอยู่ภายในญี่ปุ่น
ชื่อของยูนิโคล่มาจากที่ไหน เมื่อ ค.ศ 1984 บริษัทเสื้อผ้าชื่อ โอโกริ โชจิ ได้เปิดร้านค้าภายในฮิโรชิมา ญี่ปุน เรียกว่า ยูนิค โคลธติ้ง แวร์เฮ้าส์ พวกเขาได้ตัดสินใจว่าตราสินค้าควรจะจดทะเบียนภายใต้การหดตัวลงเป็นยูนิ โคล่ จากยูนิค โคลธติ้ง แวร์เฮ้าส์ แต่เมื่อ ค.ศ 1988 บุคคลที่รับผิดชอบการจดทะเบียนชื่ออ่านผิด ตัวซี เป็นตัวคิว ชื่อของร้านค้าได้ถูกเปลี่ยนแปลงเป็นยูนิโคล่ สามปีต่อมา โอโกริ โชจิ ได้เปลี่ยนชื่อเป็นฟาสต์ รีเทลลิ่ง และบริษัทได้ถูกจดทะเทียนบนตลาดหุ้นฮิโรชิมาเมื่อ ค.ศ 1994
ภายในการเริ่มต้น อัตราส่วนของผลิตภัณฑ์ต้นกำเนิดภายในร้านยูนิโคล่จะไม่สูง จนกระทั่ง ค.ศ 1998 เมื่อยูนิโคล่ได้เปิดร้านแห่งแรกของพวกเขาภายในโตเกียว ด้วยผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่ขายใช้ตราสินค้ายูนิโคล่ การช่วยให้เราสร้างตำแหน่งของการมีผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ณ ราคาที่สมเหตุผล ค่านิยมรากฐานเบื้องหลังผลิตภัณฑ์ของเรา
ความมีประโยชน์ นวัตกรรม และเทคโนโลยี จะเป็นเสาที่เข้มแข็งสร้างความนิยมแพร่หลายของผลิตภัณฑ์ยูนิโคล่ ตามปรัชญาบริษัทของฟาสต์ รีเทลลิ่ง กรุ็ป คือ การเปลี่ยนแปลงเสื้อผ้า การเปลี่ยนแปลงภูมิปัญญาดั้งเดิม การเปลี่ยนแปลงโลก ผลลัพธ์คือ “ไลฟ์แวร์” เสื้อผ้าที่ออกแบบให้บุคคลสวมใส่
มีชืวิตที่ดีขึ้นภายในทุกที่ โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ ชาติพันธุ์ อายุ ศาสนา ความพิการ เพศ หรือรสนิยมทางเพศ บริษัทได้ยืนยันว่า เสื้อผ้ายูนิโคล่ จะเป็น “เครื่องมือ” ที่ปรับปรุงชีวิตของบุคคล และนั่นคือทำไมเราจะไม่มีลูกค้ายูนิโคล่ตัวอย่าง ยูนิโคล่ ไลฟ์แวร์ จะถูกสร้างเพื่อบุคคลทุกคน ดังนี้นบุคคลทุกคนคือลูกค้าเป้าหมาย
สิบปีตั้งแต่วันที่เปิดร้านแห่งแรกของพวกเขา ยูนิโคล่จะมีร้านเสื้อผ้าลำลองที่นิยมแพร่หลายมากกว่า 100 แห่งภายในญี่ปุน บริษัทได้พุ่งพรวดขึ้นภายในทศวรรษที่ผ่านมา กลายเป็นผู้ค้าปลีกเสื้อผ้าใหญ่ที่สุดของเอเชีย ผู้นำของยูนิโคล่มีเป้าหมายทะเยอทะยานที่จะทำให้ตราสินค้าเป็นผู้นำภายในการค้าปลีกทั่วโลก
บริษัทจะเป็นหน่วยธุรกิจหนึ่งของบริษัทผู้ถือหุ้นการค้าปลีกญี่ปุ่น ฟาสต์ รีเทลลิง โดยมีทาดาชิ ยาไน เป็นผู้นำ
ทาดาชิ ยาไนได้พิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเขาได้เรียนรู้จากขั้นตอนผิดพลาดของบริษัท และปรากฎเข้มแข็งขึ้นอยู่เสมอ เขาได้ตัดสินใจที่จะผลิตผลิตภัณฑ์ที่ดี ณ ราคาที่ดีที่ลูกค้าของเขาต้องการอยู่ต่อไป ยูนิโคล่โดยทั่วไปจะไม่เกี่ยวกับสไตล์ พวกเขาจะเชี่ยวชาญภายในพื้นฐาน พวกเขาขายเสื้อผ้าไม่ใช่แฟชั่น
ไม่เหมือนกับคู่แข่งขัน ซาร่า และเอส แอนด์ เอ็ม ผลิตผลิตภัณฑ์ตามกระแสแตกต่างกันจำนวนมากแต่ละฤดูกาล สินค้าสำคัญของยูนิโคล่จะเป็นยีนส์
สวีตเตอร์ เเจ็ตเก็ต เป็นต้น ยูนิโคล่ ไม่ได้ให้ความสนใจสมัยนิยม เราจะขายเสื้อผ้าที่พอดีกับตู้เสื้อผ้าของลูกค้า เครื่องตกแต่งและการออกแบบทุกอย่าง
จะถูกเอาออก
ภายในต้น ค.ศ 1990 ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับการตกต่ำทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงมักจะถูกเรียกว่า การตกต่ำครั้งใหญ่ และนานเป็นทศวรรษ มันจะเป็นข่าวร้ายต่อทั้งประเทศ แต่ยูนิโคล่ได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์อย่างสำคัญ ด้วยการมุ่งประชาชนที่พยายามลดค่ใช้จ่าย เสื้อผ้าราคาถูกของยูนิโคล่ได้เป็นที่นิยมแพร่หลายอย่างรวดเร็ว การเจริญเติบโตเริ่มแรกส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชานเมืองญี่ปุนด้วยร้านข้างถนน ร้านของยูนิโคล่ส่วนใหญ่จะอยู่ภายในญี่ปุน แต่พวกเขาจะมีร้านภายในอเมริกา ฝรั่งเศส สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย จีน และประเทศอื่น
ยูนิโคล่ ได้กลายเป็นผู้ค้าปลีกเสื้อผ้าใหญ่ที่สุดภายในเอเชีย แต่ผู้บริหารบริษัท
ได้กล่าวว่าพวกเขาต้องการให้ยูนิโคล่เป็น ตราสินค้าเสื้อผ้าลำลองหมายเลขหนึ่งของโลก สโลแกนของยูนิโคล่คือ “ผลิตเพื่อบุคคลทุกคน” และบริษัทหมายความว่า เสื้อผ้าของยูนิโคล่จะถูกผลิตเพื่อบุคคลทุกคน ไม่คำนึงถึงอายุ เพศ เชื้อชาติ ความพิการ เป็นต้น มันได้สะท้อนภายในส่วนอื่นของบริษัทด้วย
รวมทั้งโมเดลภายในการโฆษณา และการคัดเลือกตัวแทนตราสินค้าทั่วโลก
ฟาสท์ รีเทลลิ่ง จะดำเนินร้านยูนิโคล่มากกว่า 1,900 แห่งทั่วโลก เมื่อ ค.ศ 2016 ยูนิโคล่จะมีมูลค่า 7 พันล้านเหรียญ และอยู่ลำดับที่ 91 ของตราสินค้ามีค่ามากที่สุดของโลกของฟอร์บ ภายในญี่ป่นแล้ว ทาดาชี ยานาอิ จะเป็นชื่อครัวเรือน
ทาดาชิ ยาไน ผู้ก่อตั้งยูนิโคล่ จะเป็นบุคคลร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งของญี่ปุน ความมั่งคั่งของเขาได้ถูกประมาณไว้ ณ 15.5 พันล้านเหรียญ ทาดาชิ ยาไนจะเป็นนักธุรกิจที่บรรลุความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งภายในญี่ปุ่น และเป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอของฟาสต์ รีเทลลิ่ง ยูนิโคล่มุ่งหมายที่จะเพิ่มยอดขายเป็น 50 พันล้านเหรียญภายใน ค.ศ 2020 บนพื้นฐานส่วนใหญ่ของการขยายตัวไปอเมริกา จีน และออนไลน์
ทาดาชิ ยาไน ชอบที่จะพูดว่า “ยูนิโคล่ไม่ใช่บริษัทแฟชั่น ยูนิโคล่จะเป็นบริษัทเทคโนโลยี”
และที่จริงแล้ววิถีทางของตราสินค้าที่จะผลิตเสื้อผ้าจะเป็นวิถีทางการทำซ้ำ
ต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้อุตสาหกรรมเทคโนโลยี ไม่ใช่การขับเคลื่อนด้วยแนวโน้มของอุตสาหกรรมแฟชั่น ที่จริงแล้วทั้งที่เป็นชื่อของบริษัทแม่ของพวกเขา มันจะเป็นการเรียกชื่อผิดที่จะเรียกยูนิโคลบริษัท “ฟาสท์ แฟชั่น”
ทาดาชิ ยาไน จะมีชื่อเสียงของการเป็นผู้นำที่บันดาลใจคนหนึ่ง แต่จะถ่อมตัวเมื่อเขาทะเยอทะยาน เขาได้กล่าวว่า ผมอาจจะดูแล้วบรรลุความสำเร็จ แต่ผมได้ทำความผิดหลายอย่าง บุคคลจะมองความล้มเหลวของพวกเขาจริงจังเกินไป
เราจะต้องเป็นบวกและเชื่อว่าเราจะบรรลุความสำเร็จคราวหน้ ทาดาชิา ยานาอิจบจากมหาวิทยาลัยวาเซดะ เมื่อ ค.ศ 1971 ด้วยปริญญาตรีทางเศรษฐศาสตร์และการเมือง เมื่อ ค.ศ 2011 ทาดาชิ ยาไน ได้บริจาคเงินหนึ่งพันล้านเยนแก่ผู้เคราะห์ร้ายจากแผ่นดินไหวเซนได ภายในการเรียงลำดับล่าสุดของฟอร์บ เขาจะเป็นบุคคลร่ำรวยที่สุดของญี่ปุน และลำดับที่ 66 ของมหาเศรษฐีทั่วโลก
ทาดาชิ ยาไน ได้ยืนยันว่าเขาได้ศึกษาแก้ปส์อย่างเข้มข้นและใช้บริษัทอเมริกันเป็นรากฐานต่อโมเดลธุรกิจของพวกเขา ตามวอลล์ สตรีท เจอร์นัล
ทาดาชิ ยาไน ได้เรียกซีอีโอก่อนหน้านี้ของแก้ปส์ มิคกี้ แดรสเลอร์ “อาจารย์” เมื่อพวกเขาได้พบกันครั้งแรก เพราะว่ามิคกี้ แดรสเล่อร์ได้ช่วยให้เขาบรรลุความสำเร็จ
คุณลักษณะบางอย่างของธุรกิจของยูนิโคล่จะดีเด่นท่ามกลางผู้ค้าปลีกอื่น
เช่น ทาดาชิ ยาไน ได้เสนอแนะระบบค่าตอบแทนที่ผู้บริหารทั่วโลกจะได้รายได้เหมือนกัน เขาเชื่อว่าจำนวนงานที่เท่ากันสมควรจะได้รับรายได้เท่ากัน ทาดาชิ ยาไน ได้บอกฟอร์บว่ายูนิโคล่ได้กำหนดตัวพวกเขาเองแยกออกมาด้วยการไม่ไล่ล่าแนวโน้ม พวกเขาจะมุ่งที่พื้นฐานเหมือนกับออกซ์ฟอร์ดและโปโลส์ และทำให้มันราคาไม่แพง
แม้ว่ายูนิโคล่จะเป็นบริษัทญี่ปุ่น ประมาณ 70% ของเสื้อผ้าของพวกเขาจะถูกผลิตภายในจีน การทำให้เกิดปัญหาบางอย่างไม่นานมานี้ เนื่องจากการต่อต้านญี่ปุ่นของจีน แต่ทาดาชิ ยาไน ไม่มีแผนที่จะย้าย และได้บอกแก่ฟอร์บว่าเขาต้องการจะเปิดร้านเพิ่มขึ้นหนึ่งร้อยแห่งภายในจีน
ยูนิโคล่ได้ถูกรู้จักกันว่าเป็นเสื้อผ้าลำลองสึรุ้งเพื่อผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก เสื้อผ้าส่วนใหญ่ของยูนิโคล่จะถูกผลิตจำนวนมากภายในทุกสีที่สูกค้าอาจจะต้องการ บุคคลบางคนได้เรียกยูนิโคล่เป็น “การตอบสนองต่อแก้ปส์ของญี่ปุ่น” เสื้อผ้าจะราคาถูกมุ่งที่ความสามารถซื้อได้ของลูกค้าทุกคน ทาดาชิ ยาไน ได้กล่าวว่า แนวคิด…..
การจัดหาร้านที่ลูกค้าสามารถซื้อได้ง่าย และซื้อเสื้อผ้าคุณภาพสูง ณ ราคาที่สมเหตุผล คล้ายกับการซื้อวารสารภายในร้านหนังสือ แรงบันดาลใจเพื่อสไตล์
บริการตัวเองของการซื้อสินค้าจะมาจากร้านนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยเมื่อเขาได้เดินทางไปอเมริกา แต่แทนที่จะบริการตัวเองเท่านั้น เขาได้ปรับสไตล์บริการตัวเองเป็นระบบที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ยูนิโคล่ ได้ใช้กลยุทธ์เอสพีเอกับเสื้อผ้าของพวกเขา ยูนิโคล่ จะออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเอง และด้วยการจ้างภายนอกการผลิตของพวกเขาแก่ต่างประเทศ ยูนิโคล่สามารถรักษาต้นทุนให้ต่ำลง การรวมกันของเสื้อผ้าคุณภาพแต่ต้นทุนตำได้พิสูจน์ความสำเร็จกับลูกค้า ณ เวลานั้น การผลิตจำนวนมากจะรักษาราคาไว้ต่ำมาก หลายปีมาแล้วบริษัทได้ขายกางเกงยีนส์ 9.90 เหรียญทั่วโลกภายในทุกเงินตรา
ร้านของยูนิโคล่มักจะยากที่จะมองไม่เห็น ร้านเดอะ ฟิฟท์ อเวนิว จะใหญ่โต ณ พื้นที่ 89000 ตารางฟุต
เพื่อที่จะให้ความคิดบางอย่างแก่เราว่ายูนิโคล่ที่แพร่หลายภายในญี่ปุ่นอย่างไร เราจะมียูนิโคล่เกือบ 900 แห่งภายในญี่ปุ่น เปรียบเทียบกับแก้ปส์ประมาณ 2400 แห่งภายในอเมริกา หมายความว่าเราจะมีมากกว่าหนึ่งในสามจำนวนของยูนิโคล่ภายในประเทศขนาด 3% ของอเมริกา ถ้าแก้ปส์จะมีต่อหัวอย่างเดียวกัน พวกเขาจะต้องเปิดร้านใหม่ 21000 ภายในอเมริกา
ทาดาชิ ยาไน เกิดเมื่อ ค.ศ 1949 ภายในยามากูชิ ปีที่ตามมาด้วยสงครามโลกครั้งที่สองที่สร้างความลำบากอย่างมากต่อชาวญี่ปุ่นทุกคน เมื่อทาดาชิ ยาไน ได้จัดการร้านร้านเสื้อผ้าของครอบครัวของเขา ร้านเสื้อผ้าแห่งเดียวจะไม่เพียงพอ เขาต้องการจะสร้างอาณาจักร ทาดาชิ ยาไน จะชื่นชมผลงานของผู้เชี่ยวชาญการบริหารอเมริกัน ปีเตอร์ ดรัคเกอร์ ปรัชญาทางธุรกิจได้กล่าวว่าเงินและศีลธรรมจะไม่ใช่ไม่สามารถเกิดร่วมกันได้
ทาดาชิ ยาไน ได้รับรู้ว่าเขาสามารถสร้างอาณาจักรของเขา และกลายเป็นบุคคลที่มั่งคั่งโดยไม่ทำให้จิตวิญญานของเขาไม่บริสุทธ์ จากการการสอนของปีเตอร์ ดรัคเกอร์ ทาดาชิ ยาไน ได้เรียนรู้ว่ามันดีที่สุดที่จะคิดก่อนเกี่ยวกับลูกค้าต้องการอะไร ไม่ใช่บริษัทหรือเจ้าของต้องการขายอะไร เขาได้เพื่ิมเสื้อผ้าของผู้หญิงกับร้านเสื้อผ้าผู้ชายของเขา และได้สร้างตราสินค้าใหม่เมื่อ ค.ศ 1984 เป็น ยูนิค โคลทธิ้ง แวร์เฮ้าส์ ต่อมาได้ถูกทำให้สั้นลงเป็นยูนิโคล่ ในไม่ช้าเขาได้เริ่มต้นการขยายตัวไปสู่ชานเมือง

ทาดาชิ ยาไน ไดีมีรสชาติครั้งแรกของงานการขายเครื่องครัวและเสื้อผ้าผู้ชายภายในซุปเปอร์มารเก็ตจัสโก้ ภายหลังจากหนึ่งปี เขาได้ลาออกและร่วมกับบริษัทของบิดาของเขา ร้านตัดเสื้อผ้าที่ต่อมาได้ถูกเรียกว่าโอโกริ โชจิ ต่อมาเขาได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นฟ้าสท์ รีเทลลิ่ง เมื่อ ค.ศ 1991 ภายใต้ความเป็นผู้นำของเขา ฟาสต์ รีเทลลิ่งจะอยู่ลำดับ 32 ของบริษัทนวัตกรรมมากที่สุด
ของโลกของฟอร์บ เขาได้ประกาศภาษาอังกฤษเป็นภาษาบริษัท ณ ฟาสต์
รีเทลลิ่ง
ทาดาชิ ยาไน จะไปทำงานเจ็ดโมงเช้าและกลับบ้านสี่โมงเย็นที่จะใช้เวลากับครอบครัวของเขาและฝึกฝนกอล์ฟ เมื่อถามทำไมเขาคิดว่าร้านยูนิโคล่ของเขาบรรลุความสำเร็จมากกว่าภายในเอเชียเปรียบเทียบกับอเมริกา เขาได้ยอมรับ
ทุกอย่างสรุปลงมาที่ขนาดของร่างกาย เราจะมีความเหมือนกันทางวัฒนธรรม
เนื่องจากลัทธิขงจื้อ และร่างกายจะคล้ายกับชาวญี่ปุ่น ชาวคอเคเชี่ยนจะกลมคล้ายกับเสา พวกเขาจะมีแขนล่ำสันมาก
เมื่ออายุใกล้ถึงเจ็ดสิบปีแล้ว ทาดาชิ ยาไน ไม่ได้แสดงสัญญานอะไรของการช้าลง เขายังคงวางแผนฟ้าสต์ รีเทลลิ่ง ที่จะกลายเป็นบริษัทเสื้อผ้าใหญ่ที่สุดของโลกภายใน ค.ศ 2020 หรือบรรลุยอดขาย 50 พันล้านเหรียญ เพื่อที่จะบรรลุยอดขายนี้ พวกเขาจะต้องเพิ่มยอดขาย 20% ทุกปี ตั้งแต่ ค.ศ 2018 ถึง ค.ศ 2020 เขาต้องการผู้สืบทอดที่สามารถเทียบเคียงการยืนหยัดที่จะบรรลุความสำเร็จของเขาได้ เขาจะถูกรู้จักเป็นผู้บริหารที่ต้องการมีส่วนร่วมภายในทุกงาน การเห็นด้วยกับทุกสิ่งทุกอย่างลงมาถึงสีของสินค้าของบริษัท เมื่อ ค.ศ 2010 วารสารอีโคโนมิสต์ ได้รายงานว่าลูกชายของทาดาชิ ยาไน จะถูกพิจารณาเป็นผู้ถือหุ้นในอนาคตเท่านั้น และเขาจะไม่ถูกแต่งตั้งเป็นซีอีโอหรือประธานบริษัทของฟาสต์ รีเทลลิ่ง
ตามการวิจัยของเฮย์ กร็ุป การสำรวจสไตล์ความเป็นผู้นำภายในบางประเทศจะแตกต่างกัน ภายในกรณีศึกษานี้ ญี่ปุนได้ใช้วิถีทางการมีส่วนร่วมหรือประชาธิปไตยอย่างโดดเด่นภายในการนำบริษัท และน้อยที่สุดภายในวิสัยทัศน์ – เฮย์ กรุ็ป 2015 แต่กระนั้นจากตัวอย่างของบริษัทแฟชั่น – ฟาสต์
รีเทลลื่ง : ยูนิโคล่ ผู้นำ ทาดาชิ ยาไน ได้ใช้วิถีทางวิสัยทัศน์อย่างโดดเด่นภายในบริษัทของเขา วิสียทัศน์จะเป็นผลกระทบทางบวกเข้มแข็งที่สุดภายในสภาพแวดล้อมขององค์การ และมันจะสอดคล้องกับสถานการณ์ของฟาสต์
รีเทลลิ่ง
ในขณะนี้บริษัทต้องการจะเป็นตลาดโลกในฐานะของตัวแทนของชาวญี่ปุ่่นและวัฒนธรรมญี่ปุ่น พวกเขาได้แสดงว่าสไตล์วิสัยทัศน์จะมีประสิทธิภาพภายในสถานการณ์เมื่อบริษัทต้องการที่จะเปลี่ยนแปลง บริ็ษัทได้กระตุ้นบุคคลขององค์การที่จะบันดาลใจและทำงานให้ดีขึ้นแก่บริษัท ด้วยเหตุนี้ในขณะนี้ยูนิโคล่สามารถแข่งขันกับผู้ค้าปลีกแฟชั่นยักษ์ใหญ่เหมือนเช่นอินดิเท็กซ์ แก้ปส์ และอาร์คาเดีย
บนพื้นฐานโมเดลความเป็นผู้นำของเคิรท เลวิน สไตล์ความเป็นผู้นำของ
ทาดาชิ ยาไน ค่อนข้างจะเป็นเผด็จการ ตามสารสารอีโคโนมิสต์ ทาดาชิ
ยาไน ชอบที่จะสั่งการบุคคลให้กระทำ และต้องการมั่นใจว่ทุกสิ่งทุกอย่าง
อยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง เพราะว่าเขาต้องการบรรลุการปฏิบัติงานสูงสุด
แม้ว่าอาจจะใช้การสัมผัสเกินไปของการตัดสินใจ แต่เขาได้บรรลุความสำเร็จ การแสดงให้เห็นจากเรื่องราวความสำเร็จของบริษัท
ทาดาชิ ยาไน ได้กล่าวว่า การมอบหมายทุกสิ่งทุกอย่างแก่บุคคล และการมี
ผู้บริหารระดับสูงเพียงแต่นั่งอยู่ภายในห้องทำงาน และมุ่งที่งานบริหารทั่วไป เราจะไม่มีผู้บริหารธุรกิจที่ดีเช่นนี้ เราไม่จำเป็นต้องใช้สตีฟ จ้อป เป็นตัวอย่าง ผู้บริหารธุรกิจที่ดีใครก็ตามจะต้องให้ความสนใจแก่ร้านค้าของเขา ผลิตภัณฑ์ของเขา การตลาดของเขา ความผูกพันอย่างเต็มที่ของผู้บริหารระดับสูงจะสำคัญ
นักธุรกิจที่เข้าใจใครก็ตามอาจจะอธิบายบทบาทของผู้นำเป็นการกำหนด
และการสื่อสารวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ และการจูงใจและการให้รางวัลแก่บุคคล
แต่กระนั้นบรรทัดสุดท้ายที่แท้จริงบังคับธุรกิจอะไรก็ตามคือ สภาพแวดล้อมของงานที่มีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของบุคคล ที่จริงแล้วบรรยากาศของสถานที่ทำงาน – โดยทั่วไปจะอ้างเป็นวัฒนธรรมองค์การ ได้ถูกพบเป็นปัจจัยภายในยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างเดียวที่ขับเคลื่อนการปฏิบัติงานของบุคคล การศึกษาจำนวนมากได้แสดงการเชื่อมโยงระหว่างบรรยากาศองค์การและเครื่องวัดการปฏิบัติงานที่สำคัญเหมือนเช่น การเจริญเติบโตของยอดขาย การเพิ่มประสิทธิภาพ และการรับรู้คุณภาพบริการแก่ลูกค้า บรรยากาศองค์การได้ถูกสร้างอย่างไร การศึกษาได้แสดงว่ามันได้ถูกกำหนดรูปร่างพื้นฐานโดยพฤติกรรมของผู้นำ พฤติกรรมของผู้นำที่ถูกใช้บ่อยครั้งที่สุดได้ถูกอ้างว่าเป็นสไตล์ความเป็นผู้นำของพวกเขา
บุคคลหลายคนจะคุ้นเคยกับผลงานขอวความฉลาดทางอารมณ์ของ ดร.
แดเนียล โกลแมน แต่เรารู้ไหมว่าเขาได้บุกเบิกสไตล์ความเป็นผู้นำหกอย่างของคอร์น เฟอร์รี่ เฮย์ กรุ็ป บริษัทที่ปรึกษา ด้วย เริ่มแรกได้ถูกพิมพ์ภายในฮาร์
วาร์ด บิสซิเนส รีวิว เมื่อ ค.ศ 2000
“Leadership That Get Results” ยังคงเป็นบทความที่ถูกดาวโหลดมากที่สุดบทความหนึ่งภายในประวัติของเอชบีอาร์ สไตล์ความเป็นผู้นำหกอย่าง ได้กลายเป็นเครื่องมือการปล้นกลับ 180 องศาที่ของเฮย์ กรุ้ป ต่อผู้นำ ใช้กันทั่วโลกภายในทุกภาค
อะไรสร้างความเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ การให้ความชัดเจนของงาน ? การสร้าง
วิสัยทัศน์ ? การทำงานเคียงข้่างบุคคล ? การดึงข้อมูลของทีม ? การให้การป้อนกลับ ? ความจริงคือ ทุกอย่างที่กล่าวมานี้ เมื่อได้ถูกใช้ ณ เวลาที่เหมาะสม ภายในสถานที่ที่เหมาะสม ภายในความพอประมาณ
1 ผู้นำแบบวิสัยทัศน์
ผู้นำใช้สไตล์แบบวิสัยทัศน์ที่จะให้ทิศทางระยะยาวและวิสัยทัศน์ มันจะให้ความชัดเจน มันช่วยให้บุคคลเข้าใจพวกเขาต้องทำอะไร และพวกเขาต้องทำมันอย่างไร การกระตุ้นบุคคลไปสู่ความฝันร่วม การสร้างผลกระทบที่ดีต่อบรรยากาศ สไตล์นี้จะเหมะสมเมื่อการเปลี่ยนแปลงต้องการวิสัยทัศน์ใหม่ หรือเมื่อทิศทางที่ชัดเจนได้ถูกต้องการ
2 ผู้นำแบบให้คำแนะนำปรึกษา
ผู้นำใช้สไตล์แบบให้คำแนะนำปรึกษาที่จะช่วยบุคคลปรับปรุงการปฏิบัติงาน ด้วยการสร้างความสามารถระยะยาว การเชื่อมโยงสิ่งที่บุคคลต้องการกับเป้าหมายขององค์การ การสร้างผลกระทบที่ดีต่อบรรยากาศ
มันจะเกี่ยวพันความเข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน และความต้องการของสมาชิกของทีม ภายใต้การให้คำแนะนำปรึกษา ผู้นำจะช่วยให้สมาชิกของทีมแต่ละคนมีความสามารถดีที่สุด
3 ผู้นำแบบความสัมพันธ์
ผู้นำใช้สไตล์แบบความสัมพันธ์ที่จะสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตร
การสร้างความสามัคคีด้วยการเชื่อมโยงระหว่างกัน การสร้างผลกระทบที่ดีต่อบรรยากาศ มันทำให้สมาชิกของทีมรู้สึกมีคุณค่าในฐานะของเอกบุคคล ไม่ใช่เพียงแต่เป็นคนงาน
4 ผู้นำแบบต้นแบบ
ผู้นำที่ใช้สไตล์แบบต้นแบบที่จะทำให้งานบรรลุมาตรฐานที่สูง เมื่อสมาชิกของทีมไม่รู้จะทำอะไร หรือทำมันอย่างไร ผู้นำจะเข้ามาและใช้สไตล์นี้ ผู้นำแบบต้นแบบจะคาดหวังและเป็นโมเดลของความเป็นเลิศ สไตล์ของผู้นำนี้อาจจะสรุปด้วยถ้อยคำเดียว ทำตามที่ผมทำอยู่ในขณะนี้ และเหมาะสมที่สุดต่อบุคคลมีแรงจูงใจและทักษะพร้อมอยู่แล้ว
5 ผู้นำแบบมีส่วนร่วม
ผู้นำใช้สไตลแบบมีส่วนร่วมที่จะสร้างความผูกพันและการเห็นพ้องท่ามกลางบุคคล และการสร้างความคิดใหม่ มันสามารถช่วยให้ทีมสร้างวิสัยทัศน์ร่วม ทำการตัดสินใจ และร่วมความรับผิดชอบ ด้วยกัน การให้คุณค่าแก่ความคิดของบุคคล การสร้างผลกระทบที่ดีต่อบรรยากาศ โดยเฉพาะเมื่อเราต้องการการยอมรับ หรือการได้ข้อมูลที่มีคุณค่าจากบุคคล
6 ผู้นำแบบบังคับบัญขา
ผู้นำใช้สไตล์แบบบังคับบัญชาที่จะชี้แนวทางของงาน และต้องการการทำตามทันที เพื่อความสำเร็จของงาน มันได้ให้ความชัดเจนแก่บุคคลสิ่งที่ต้องทำ และทำอย่างไร แต่มันไม่ได้อธิบายทำไม
ผู้นำควรจะระวังว่าเราจะไม่มีสไตล์ความเป็นผู้นำที่ดีที่สุด หรือสไตล์ความเป็นผู้นำอย่างหนึ่งที่สอดคล้องกับทุกสถานการณ์ ผู้นำจะต้องใช้สไตล์ความเป็นผู้นำที่เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

Cr : รศ สมยศ นาวีการ

Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *