การค้าต่างประเทศกับการพัฒนาอุตสาหกรรม (ต่อ)

การค้าต่างประเทศกับการพัฒนาอุตสาหกรรม (ต่อ)
โดย รศ.ดร สมศักดิ์ แต้มบุญเลิศชัย
นโยบายส่งเสริมการส่งออก
ประเทศต่างๆในโลกใช้นโยบายและมาตรการหลายอย่างในการส่งเสริมการส่งออก เช่น มีเขตอุตสาหกรรมส่งออก (:export processing zone: EPZ) คลังสินค้าทัณฑ์บน(bonded warehouse) มีการยกเว้นภาษีอากรให้แก่ผู้ส่งออกในรูปแบบต่างๆ และให้ช่วยเหลือทางการเงิน แนะนำในกฎระเบียบและขั้นตอนการส่งออก เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในตลาดส่งออก ตลอดจนให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนจากต่างประเทศที่ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมส่งออกเข้ามาลงทุนในประเทศ
เขตอุตสาหกรรมส่งออก(export processing zone:EPZ)
หลายประเทศ มีการจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมส่งออก บางประเทศมีเขตอุตสาหกรรมส่งออกหลายแห่ง วัตถุประสงค์ของการมีเขตอุตสาหกรรมส่งออก คือ อำนวยความสะดวกแก่การผลิตสินค้าอุตสาหกรรมเพื่อการ ออก ทำให้การผลิตสินค้เพื่อการส่งออกมีความสะดวกขึ้น ผู้ผลิตสินค้าที่อยู่ในเขตอุตสาหกรรมส่งออกนี้ สามารถนำสินค้าเข้าที่มีความจำเป็นในการผลิตโดยไม่ต้องผ่านพิธีการศุลกากร นำเข้าเครื่องจักรอุปกรณ์ วัตถุดิบและสินค้าขั้นกลาง ตลอดจนสิ่งอื่นๆทีจำเป็นต้องใช้ในการผลิต โดยได้รับการยกเว้นอากรขาเข้าและภาษีอื่น สำหรับวัตถุดิบและปัจจัยการผลิตที่มีอยู่ในประเทศและไม่ต้องนำเข้า ก็ได้รับการปลอดภาษี ผู้ประกอบการในเขตอุตสาหกรรมส่งออกนี้ ยังได้รับสิทธิประโยชน์อื่นๆอีก เช่น อนุญาตให้นำเข้าผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ และช่างฝีมือชาวต่างชาติเข้ามาทำงาน นอกเหนือจากส่วนที่กำหนดไว้ตามกฏหมายอื่นได้
โดยทั่วไป เขตอุตสาหกรรมส่งออก มักตั้งอยู่ในเขตที่อยู่ใกล้ท่าเรือ เพื่อความสะดวกในการนำเข้าและส่งออกสินค้าโดยไม่ต้องเสียภาษี และผ่านพิธีศุลกากร แต่มีข้อแม้ว่า สินค้าเข้าทุกชนิด ต้องนำมาใช้เพื่อการผลิตสินค้าออก ถ้าสินค้าเข้าชนิดใดๆ ถูกนำไปใช้หรือขายนอกเขตอุตสาหกรรมส่งออก ก็จะต้องถูกเก็บภาษีนำเข้าและภาษีอื่นๆย้อนหลัง สินค้าที่ผลิตได้ในเขตอุตสาหกรรมส่งออก ก็ต้องส่งออกไปต่างประเทศเท่านั้น หากนำออกจำหน่ายในประเทศ ก็ต้องถูกเก็บภาษีตามอัตราที่กำหนดไว้เดิม
การมีเขตส่งออก แม้ทำให้มีการผลิตสินค้าออกมากขึ้น แต่การผลิตในเขตอุตสาหกรรมส่งออกนี้ ก็ไม่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจส่วนอื่นๆของประเทศ จึงไม่ได้การช่วยพัฒนาเศรษฐกิจได้มากนัก อย่างไรก็ตามประเทศกำลังพัฒนาบางประเทศที่มีแรงงานมากและมีนโยบายส่งเสริมการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ก็มีเขตอุตสาหกรรมส่งออก แม้ได้รับเงินตราต่างประเทศสุทธิ และมีผลเชื่อมโยงกับส่วนอื่นในประเทศ จากการนี้ได้ไม่มากนัก
คลังสินค้าทัณฑ์บน(bonded warehouse)
คลังสินค้าทัณฑ์บน คือ พื้นที่สำหรับเก็บสินค้าเข้าจากต่างประเทศ โดยที่ผู้นำเข้าไม่ต้องชำระอากรขาเข้าและภาษีอื่น สินค้าที่นำเข้าเมื่อยังไม่ได้ใช้ในการผลิต ก็เก็บรักษาไว้ในคลังสินค้าและเบิกออกใช้ได้ทีหลัง แต่สินค้าที่นำเข้านั้น หากนำไปใช้ในการอื่น เช่น นำออกมาจำหน่ายในประเทศ หรือนำไปใช้ผลิตสินค้าที่ไม่ใช่สินค้าออก สินค้านั้นก็ต้องถูกเก็บภาษีย้อนหลังเต็มอัตรา
คลังสินค้าทัณฑ์บน มีวัตถุประสงค์เช่นเดียวกับเขตอุตสาหกรรมส่งออก คือ อำนวยความสะดวกในการนำเข้าและส่งออกการผลิตสินค้าออก โดยไม่ต้องมีการจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมส่งออก เพียงแต่มีคลังสินค้าและมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเวลานำของเข้าและออกจากคลังสินค้าเท่านั้น
สินค้าที่เก็บไว้ในคลังสินค้าทัณฑ์บน อาจเป็นสินค้าสำเร็จรูปที่นำเข้ามาเพื่อทำการส่งออกต่อไปภายหลัง(re-export) หรือเป็นเครื่องจักรอุปกรณ์ วัตถุดิบ และสินค้าขั้นกลางอื่นที่นำมาใช้ผลิตสินค้าออก แต่การนำสินค้าเข้าและออกจากคลังสินค้า และการขนส่งสินค้าที่อยู่ในคลังนี้ ต้องมีการตรวจสอบทุกขั้นตอนเพื่อป้องกันการเลี่ยงภาษี
การคืนเงินอากร(tax/duty rebate)
เครื่องมือด้านภาษีอากร ที่มีการใช้ในการส่งเสริมการผลิตเพื่อการส่งออก คือ ระบบการคืนเงินอากร ซึ่งภาษีศุลกากรและภาษีอื่นที่จัดเก็บแล้วในวัตถุดิบ สินค้าการกลาง ทั้งชิ้นส่วนและส่วนประกอบอื่น ที่นำเข้ามาใช้มรการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกที่มีการเสียภาษีไปแล้ว มีสิทธิ์ได้รับการคืนเงินภาษีอากรได้เมื่อมีการผลิตเพื่อส่งออก รผู้ผลิตและส่งออกสินค้าต้องแสดงสูตรการผลิต ยื่นคำร้องขอคืนเงินภาษีอากรที่มีการเก็บแล้วก่อนหน้านี้ได้ ระบบการคืนเงินภาษีอากรนี้ใช้กับผู้ผลิตที่ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมทั้งเพื่อการส่งออกและเพื่อจำหน่ายในประเทศด้วย สำหรับผู้ผลิตเพื่อการส่งออก โดยไม่มีการจำหน่ายสินค้าที่ผลิตนั้นในประเทศเลย เมื่อมีการนำเข้าปัจจัยการผลิตจากต่างประเทศ ก็อาจได้รับสิทธิไม่ต้องเสียภาษีอากรตั้งแต่แรก โดยไม่จำเป็นต้องขอคืนอากรภายหลัง เช่น กิจการอุตสาหกรรมส่งออกที่ได้รับสิทธิประโยชน์การส่งเสริมการลงทุน เมื่อมีการนำเข้าเครื่องจักร วัตถุดิบ สินค้าขั้นกลาง และวัสดุอื่นๆ จะได้รับสิทธิ์ปลอดภาษีเมื่อมีการนำเข้า โดยไม่ต้องผ่านระบบการคืนเงินภาษีอากรแต่อย่างใด
นโยบายการค้าต่างประเทศในบริการ
ก่อนหน้านี้ เมื่อกล่าวถึงการค้าต่างประเทศทางด้านบริการ มักมีการยกตัวอย่างบริการการท่องเที่ยว และการขนส่ง การที่มีชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศของเรา มีการใช้จ่ายในที่พัก อาหาร การบันเทิง และซื้อสินค้าในประเทศเรา สถิติการค้าต่างประเทศถือว่า เป็นการส่งออกทางด้านบริการ โดยประเทศเจ้าบ้านได้รับเงินตราต่างประเทศจากการท่องเที่ยว บริการขนส่งก็เช่นเดียวกัน การขายบริการทางด้านนี้ให้แก่ชาวต่างชาติ เช่น ต่างชาติมีการใช้สายการบิน หรือใช้บริษัทเดินเรือของเราทำการขนส่งคนหรือสินค้า โดยได้รับผลตอบแทน มีรายรับเงินตราต่างประเทศแล้ว ก็ถือว่าเป็นการส่งออกทางด้านบริการ
บริการการขนส่งก็เช่นเดียวกัน ถ้าการขนส่งนี้มีการใช้ปัจจัยการผลิตที่นำเข้าจากต่างประเทศ เช่นใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ และใช้พนักงานที่เป็นชาวต่างชาติ รายรับสุทธิเงินตราต่างประเทศที่ได้มาจากการขนส่งนี้ ก็จะลดน้อยลง
สถิติเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศมีสองส่วน คือ การค้าในสินค้า และการค้าในบริการ การค้าในสินค้า คือ การค้าในสิ่งของ ซึ่งมีสินค้าการเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมเป็นสำคัญ ส่วนการค้าในบริการ มีการท่องเที่ยว การขนส่ง สื่อสารคมนาคม การให้คำปรึกษา การศึกษาพยาบาล และกิจกรรมการบันเทิงข้ามประเทศ การส่งคนงานไปทำงานในต่างประเทศ ได้รับเงินตราต่างประเทศเป็นผลตอบแทน ก็ถือ เป็นการส่งออกในบริการได้ด้วย แต่ประเทศเรามีรายรับในเงินตราต่างประเทศ ก็ต่อเมื่อผู้ออกไปทำงานนั้นส่งเงินตราต่างประเทศเข้ามา
สถิติการค้าต่างประเทศ แยกออกเป็นดุลการค้าและดุลบริการ เรียกรวมว่าดุลบัญชีเดินสะพัด(current account) บางประเทศนำเข้าสินค้าในมูลค่ามากกกว่าการส่งออก ต้องประสบกับการขาดดุลในการค้า แต่มีการเกินดุลในบริการ มีรายรับเงินตราต่างประเทศในบริการมากกว่ารายจ่าย เมื่อรวมกับดุลการค้าแล้ว หากมีรายรับมากกว่ารายจ่าย ก็มีดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุล แต่หากมีรายน้อยกว่ารายจ่าย ก็มีดุลบัญชีเดินสะพัดที่ขาดดุล
การค้าต่างประเทศในบริการมีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ในประเทศ ปัจจุบัน อีคอมเมอส(e-commerse)หรือการค้าออนไลน์ มีความแพร่หลายมาก การขายสินค้าไปต่างประเทศผ่านการค้าออนไลน์ ทำให้ส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมได้มากขึ้น การท่องเที่ยวมีส่วนส่งเสริมเศรษฐกิจต่างๆในประเทศ โรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้าที่ทีลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวจะมีรายรับมากขึ้น สินค้าอุตสาหกรรมและหัตถกรรมพื้นเมืองก็ขายได้มากขึ้น คนไปทำงานต่างประเทศ เมื่อกลับมาในประเทศแล้ว ก็อาจนำความรู้และประสบการณ์จากการทำงานของเขา มาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้
ทรัพยากรณ์มนุษย์ มีความสำคัญต่อการพัฒนาของประเทศ การส่งคนออกไปศึกษาเล่าเรียนในต่างประเทศเป็นแนวทางหนึ่งในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ในหลายประเทศ ผู้เรียนหนังสือในต่างประเทศ มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ บางประเทศ มีคนต่างชาติเข้ามาศึกษาเป็นจำนวนมาก และชาวต่างชาติที่จบการศึกษาบางคน เมื่อเรียนจบแล้ว อยู่ทำงานในประเทศที่เขาเรียนหนังสือนั้นต่อไป และมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศนั้น
กิจกรรมภาคเศรษฐกิจต่างๆ มีความเชื่อมโยงกัน ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีมีความเจริญก้าวหน้า บริการหลายอย่างใช้ประโยชน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมได้ บริการข้ามชาติ เช่น การออกแบบ การให้คำปรึกษา การถ่ายทอดความรู้ มีประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม ข้อมูลข่าวสารเรื่องต่างๆ เช่น ในเรื่องสถานการณ์เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองโลก สภาพเศรษฐกิจและความต้องการสินค้าและบริการในประเทศต่างๆ แหล่งวัตถุดิบ กรรมวิธีในการผลิตสินค้าและบริการบางอย่าง รวมทั้งความรู้ด้านต่างๆ ล้วนค้นหาจากเครื่องมือสื่อสารได้ การวิจัยพัฒนา การสร้างนวัตกรรม ก็ได้รับประโยชน์จากการค้นหาข้อมูลทางสาระสนเทศน์ได้
การส่งเสริมการค้าต่างประเทศในกิจกรรมบริการ จึงมีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศได้มาก
บทบาทของรัฐบาลในการค้าต่างประเทศ
การกำหนดนโยบายการค้าต่างประเทศ เป็นหน้าที่ของรัฐบาล นอกจากนโยบายภาษีศุลกากร การจำกัดการนำเข้าและการส่งเสริมการส่งออกแล้ว รัฐบาลมีหน้าที่การส่งเสริมการค้าต่างประเทศในด้านต่างๆ เช่น รวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร สร้างความสัมพันธ์ทางเศรษกิจการค้ากับต่างประเทศ ให้คำปรึกษาแก่ประชาชน ปฏิบัติตามกฎระเบียบนานาชาติ รักษาความสมดุลย์ทางการค้าและการชำระเงินระหว่างประเทศ กำหนดนโยบายที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจการเมืองโลกและความได้เปรียบเปรียบเทียบของประเทศ เป็นต้น
ข่าวสารข้อมูลที่ทันสมัยและครบถ้วน มีความสำคัญต่อการค้าต่างประเทศ สถานประกอบการเอกชน โดยเฉพาะกิจการขนาดเล็ก อาจประสบอุปสรรคในการรวบรวมข้อมูลข่าวสารที่มีความจำเป็นต่อการประกอบธุรกิจของตน หน่วยงานภาครัฐฐบาลที่มีหน้าที่ส่งเสริมการค้า ต่างประเทศ จึงมีภารกิจในการรวบรวมและเผยแพร่สถิติ ข้อมูลข่าวสาร ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสถานประกอบการในภาคเอกชน ในการค้าต่างประเทศ ข้อมูลข่าวสารที่มีความจำเป็น คือ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจการเมืองสังคมของโลก และของประเทศต่างๆ ความต้องการสินค้าและบริการในตลาดต่างประเทศ สภาพการแข่งขันในแต่ละตลาด กฎระเบียบการค้าการลงทุนและข้อระวังที่พึงมี สิทธิประโยชน์ต่างๆที่ผู้ทำการค้าต่างประเทศควรได้รับ และวิธีใช้สิทธิประโยชน์เหล่านี้
ในการรวบรวมข้อมูลข่าวสารและเผยแพร่ข้อมูล นอกจากหน่วยงานรัฐบาลส่วนกลางแล้ว หน่วยงานต่างๆของรัฐทั้งที่อยู่ในต่างประเทศ และที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคในส่วนต่างๆของประเทศ ก็มีบทบาทในการรวบรวมสถิติ ข้อมูลข่าวสาร ในท้องถิ่นที่ตนประจำอยู่
นอกจากการรวบรวมสถิติข้อมูลข่าวสารแล้ว การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างมีประสิทธิภาพก็เป็นสิ่งสำคัญ หน่วยงาน ทั้งที่อยู่ในภาครัฐเอกชน ควรมีการใช้เครื่องมือสารสนเทศต่างๆให้เป็นประโยชน์ และมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ในยุคปัจจุบัน ประเทศต่างๆมีความขัดแย้งกัน มีการกีดกันการค้าการลงทุนในลักษณะต่างๆ ในขณะเดียวกัน ก็มีการร่วมมือกัน มีข้อตกลงทางการค้าการลงทุนในภูมิภาค และการทำข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคี ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งและความร่วมมือ นโยบายการค้าต่างประเทศ ควรมีความเป็นกลาง ไม่ขัดแย้งกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และรู้จักใช้สถานการณ์เศรษฐกิจการเมืองโลกให้เป็นประโยชน์ต่อการค้าต่างประเทศ เข่น เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มการค้าการลงทุนภูมิภาค และทำข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ แต่การเข้าร่วมและการทำข้อตกลงการค้าเสรีไม่ว่าที่เป็นกลุ่มประเทศหรือเป็นรายประเทศ ก็ต้องมีการศึกษาวิเคราะห์ถึงข้อดีข้อเสีย และมีความชัดเจนในระเบียบวิธีการปฏิบัติด้วย
การให้คำปรึกษาแนะนำ
หน่วยงานของรัฐบาล มีหน้าที่ในการให้คำปรึกษาแนะนำผู้ทำการค้าทั้งผู้นำเข้าและผู้ส่งออก การแนะนำขั้นตอนและกฎระเบียบศุลกากร การใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีจากข้อตกลงการค้าเสรี ทั้งกลุ่มการค้าในภูมิภาค และข้อตกลงการค้าเสรีเฉพาะประเทศ มีประโยชน์ต่อผู้ค้ารายย่อยและกิจการขนาดเล็ก โดยเฉพาะผู้ที่ทำการค้าต่างประเทศใหม่ๆ ที่ไม่มีข้อมูลและไม่สันทัดกับขั้นตอนแรกกฎระเบียบต่างๆ ทางศุลกากร และไม่ทราบรายละเอียดและการขอรับสิทธิประโยชน์การยกเว้นภาษีนำเข้าและส่งออกในลักษณะต่างๆ สำหรับผู้ทำการค้าต่างประเทศรายใหม่ การแนะนำการขนส่งบรรจุหีบห่อ กฎระเบียบและขั้นตอนศุลกากรที่ต้องรู้ การใช้ชิปปิ้งที่น่าเชื่อถือ จะมีประโยชน์ได้
การส่งเสริมการค้าต่างประเทศลักษณะอื่นๆ
สิ่งที่รัฐบาลทำได้ในการส่งเสริมการค้าต่างประเทศไม่อยู่หลายอย่าง เช่น ให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน จัดงานแสดงสินค้า ร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ จัดประชุมนานาชาติ เจรจาการค้า โฆษณาสินค้า บริการและแหล่งท่องเที่ยว ไปยังประเทศต่างๆผ่านสื่อสารสนเทศน์ ร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศและหน่วยงานของรัฐบาลและเอกชนในต่างประเทศจัดทำกิจกรรมช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา ให้ความรู้ในสภาพตลาดและกฎระเบียบการค้าขายในประเทศต่างๆ มีมาตรการตอบโต้การกีดกันทางการค้าและการทุ่มตลาดจากต่างประเทศที่เหมาะสม ล้วนเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในเรื่องการค้าต่างประเทศ ในบางประเทศ มีการแต่งตั้งผู้แทนการค้าขึ้นเพื่อทำหน้าที่เหล่านี้โดยเฉพาะ
การปฏิบัติตามกฎระเบียบนานาชาติเกี่ยวกับการค้าต่างประเทศ
การรักษาความสมดุลย์ทางการค้าและการชำระเงินระหว่างประเทศ
ในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ความสมดุลย์ทางการค้าและการชำระเงินระหว่างประเทศ เป็นสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญ ถ้ารัฐบาลและประชาชนใช้จ่ายเกินตัว ต้องนำเข้าสินค้าและบริการต่างประเทศ เป็นปริมาณมาก ในขณะเดียวกัน ก็ไม่สามารถส่งออกสินค้าและบริการได้มาก จนมีการขาดดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดระหว่างประเทศในปริมาณมากเป็นเวลานาน สถานการณ์เช่นนี้เป็นสภาพที่ไม่พึงปรารถนา
ในการรักษาความสมดุลย์ในดุลการค้า และดุลบัญชีเดินสะพัด นอกจากนโยบายการค้าแล้ว นโยบายธุรกิจระหว่างประเทศด้านอื่นๆเช่น การกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ รักษาเสถียรภาพของราคาสินค้าบริการ ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ ตลอดจนนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับการค้าต่างประเทศ การกำหนดและดำเนินการโยบายเศรษฐกิจทางด้านอื่น จึงควรมีความสอดคล้องกับนโยบายการค้าต่างประเทศด้วย
นอกจากดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดแล้ว ความสมดุลย์ในดุลบัญชีชำระเงิน ซึ่งเป็นบัญชีรวมในการชำระเงินระหว่างประเทศ ซึ่งรวมทั้งการค้าในสินค้าบริการ และการเข้าออกของเงินทุนในลักษณะต่างๆ ก็มีความสำคัญมาก บางประเทศมีดุลบัญชีเดินสะพัดที่ขาดดุล แต่มีเงินทุนไหลเข้ามามาก จนมีดุลการชำระเงินเกินดุล สภาพการณ์เช่นนี้ น่าเป็นห่วงมาก การมีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามากหมายถึงเป็นหนี้ต่างประเทศมาก ถ้ามีหนี้ต่างประเทศมากและไม่สามารถชำระคืนได้ ก็จะอยู่ในสภาพล้มละลาย ไม่สามารถซื้อสินค้าแบะบริการจากต่างประเทศได้อีกต่อไป
ในการรักษาดุบยภาพของดุลการชำระเงิน นอกจากการใช้จ่ายของรัฐบาลและประชาชน การกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแล้ว นโยบายการเงินด้านการควบคุมปริมาณเงินและอัตราดอกเบี้ย ก็มีความสำคัญ ในบางประเทศ รัฐบาลมีการใช้จ่ายเกินตัว มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาคเอกชน มีมาตรการส่งเสริมการบริโภคในลักษณะต่างๆ และมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ โดยมีดอกเบี้ยอัตราต่ำกว่าในต่างประเทศมาก ทำให้มีเงินทุนไหลออกนอกประเทศจำนวนมาก จนมีการขาดดุลการชำระเงินในระดับสูง แต่ในทางตรงกันข้าม หากมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยในประเทศในอัตราสูงเกินไป แม้จะเป็นเงินสดไหลเข้ามามาก แต่ก็เป็นหนี้ต่างประเทศมาก ดังนั้น การกำหนดตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งควรทำ
การกำหนดนโยบายการค้าต่างประเทศที่เหมาะสม
การกำหนดและดำเนินนโยบายการค้าต่างประเทศ ควรคำนึงถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลก และความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบของประเทศตน สถานการณ์เศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของโลก มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รัฐบาลต้องมีข้อมูล ข่าวสาร ทำการวิเคราะห์สถานการณ์ แบะกำหนดนโยบายการค้าที่สอดคล้องกับสถานการณ์โลก ในขณะเดียวกัน ก็ต้องคำนึงถึงความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบ ของประเทศตน มีนโยบายการค้าการลงทุนที่สอดคล้องกับสถานการณ์ และใช้ข้อได้เปรียบของตนให้เป็นประโยชน์ เช่น หากประเทศเรามีข้อได้เปรียบในการเป็นสินค้าการเกษตร แต่ไม่มีความถนัดในการผลิตสินค้าที่ต้องใช้เทคโนโลยีระดับสูง เราก็ต้องส่งเสริมการผลิตและการส่งออกสินค้าการเกษตรที่มีความต้องการในตลาดโลก ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีการส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยี และกำลังคน เพื่อให้มีสินค้าที่มีคุณภาพเหมาะสมตามความต้องการของตลาดโลกด้วย สำหรับสินค้าและบริการที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง ซึ่งประเทศเรายังไม่มีความพร้อม ก็ยังอาจทำการผลิตและส่งออกได้ โดยการชักชวนให้บริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุน เรื่องการลงทุนต่างประเทศนี้ จะมีการกล่าวถึงในบทต่อไป