อังเกลา เมอร์เคิล สุภาพสตรีเหล็กแห่งเยอรมัน
อังเกลา เมอร์เคิล สุภาพสตรีเหล็กแห่งเยอรมัน
อุตสาหกรรมเทคได้รู้จักกันมายาวนานต่อการขาดความหลากหลายโดยเฉพาะในแง่ของเพศ เเต่กระนั้นไม่นานมานี้เรามีการเคลื่อนไหวทำลายเพดานแก้ว และเพิ่มตัวอย่างของความสำเร็จของผู้หญิงภายในอุตสาหกรรมเทค ด้วยความท้าทาย เรามีผู้หญิงจำนวนหนึ่งทำลายเพดานแก้ว ก้าวหน้าไปสู่ตำแหน่งความเป็นผู้นำภายในอุตสาหกรรมเทค ผู้หญิงเหล่านี้เป็นโมเดลบทบาทเเละเเรงบันดาลใจต่อผู้หญิงคนอื่นมองที่จะทำอย่างเดียวกันภายในอุตสาหกรรมเทค ผู้หญิง เช่น เชอริล เเซนด์เบิรก ซีโอโอของเฟซบุค และซูซาน โวจิคกี ซีอีโอของยูทูป ได้ทุบเพดานแก้วแตกกระจาย และขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของบริษัท หนังสือของเชอริลแซนด์เบิรก “Lean In” ได้บันดาลใจผู้หญิงนับไม่ถ้วน ที่ได้แสวงหาเป้าหมายอาชีพของพวกเธอ และทำลายเพดานแก้ว ซูซาน โวจิคกีเป็นเครื่องมือต่อการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของยูทูป และเป็นเสียงสนับสนุนต่อความเสมอภาคทางเพศภายในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซูซาน โวจิคกี้ เข้าร่วมกับกูเกิ้ลเมื่อ ค.ศ 1998 เป็นบุคคลคนที่สิบหก และต่อมาได้ถูกแต่งตั้งเป็นซีอีโอของยูทูปเมื่อ ค.ศ 2014 ทักษะความเป็นผู้นำและความคิดที่สร้างสรรค์ของเธอ ได้ปฏิรูปบริษัทเป็นแพลตฟอร์มการร่วมวีดีโอใหญ่ที่สุดภายในโลกซูซาน โวจิคกี้ เชื่อว่าซิลิคอน แวลลี่ย์ สามารถทำลายวัฒนธรรมพี่ชายของมันเอง มันเป็นเพียงแค่ความตั้งใจที่จะทำมัน การกล่าวหาความลำเอียงทางเพศได้เขย่าอุตสาหกรรมเทคหลายปี เธอได้เขียนบทความเสนอแนะการทำลายวัฒนธรรมพี่ชาย การว่าจ้างผู้หญิงมากขึ้น ณ ทุกระดับของบริษัท สร้างวงจรแห่งคุณธรรม การว่าจ้างผู้หญิงมากขึ้นจะช่วยชนะบรรยากาศที่ยอมให้กับความลำเอียง และการล่วงละเมิดทางเพศ วัฒนธรรมพี่ชายที่ครอบงำบริษัทซิลิคอน แวลลี่ย์ทำให้ซูซานโกรธ โดยเฉพาะมันมีส่วนต่อบรรยากาศทำให้เกิดล่วงละเมิดผู้หญิงเธอเป็นส่วนหนึ่งของกูเกิ้ลต่อ 25 ปีที่ผ่านมา ณ ที่นี่ เธอได้บรรลุความสำเร็จอะไร และเธอกลายเป็นเจ้าของที่ดินคนเเรกของกูเกิ้ลอย่างไรบุคคลบางคนอาจจะไม่รับรู้การเชื่อมโยงก่อนหน้านี้ของเธอกับกูเกิ้ลและผู้ก่อตั้งร่วมของมัน แลร์รี เพจ และเซอร์เกย์ บริน ซูซานเป็นส่วนหนึ่งของกูเกิ้ล 25 ปีที่แล้ว และการเชื่อมโยงเริ่มแรกของเธอกับผู้ก่อตั้งเกิดขึ้นภายใน ค.ศ 1998 เมื่อพวกเขาได้เช่าโรงรถเมนโล พาร์คภายในแคลิฟอร์เนียต่อ 1700 เหรัยญ แลร์รี เพจ และเซอร์เกย์ บริน เริ่มต้นกูเกิ้ลภายในโรงรถของซูซานห้าเดือน ก่อนการย้ายไปที่สำนักงานกูเกิ้ลทางการ ภายในสังเวียนการเมือง ผู้หญิงเหมือนเช่น กมลา แฮร์รีส รองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของอเมริกา และจาซินดา อาร์เดิรน นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ได้พิสูจน์ว่าผู้หญิงสามารถนำด้วยความเข้มแข็งและความเห็นอกเห็นใจ กมลา แฮร์รีส ได้สร้างความก้าวหน้าอย่างสำคัญภายในการเมืองเธอกลายเป็นรองประธานาธิบดีผู้หญิง ผิวดำ เอเซียใต้ คนเเรกของอเมริกาเมื่อ ค.ศ 2021 ก่อนหน้านี้เธอเป็นวุฒิสมาชิกจากแคลิฟอร์เนียและอัยการสูงสุดของรัฐ ความสำเร็จของกมลา แฮร์รีส เป็นพินัยกรรมต่อความสำคัญของความอุตสาหะ ความยืดหยุ่น และความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงสภาวะเดิมเชอรีล เเซนด์เบิรก ซีโอโอก่อนหน้านี้ของเฟซบุค ผู้เขียน “Lean In : Women, Work, and the Will to Lead” ได้พูดอ้างอิงอย่างมีชื่อเสียง ภายในอนาคตเราจะไม่มีผู้นำหญิงเราจะมีเพียงแค่ผู้นำ การจินตนาการอนาคตตรงที่ความเป็นผู้นำจะถูกระบุโดยความสามารถไม่ใช่เพศหนังสือได้กระตุ้นการอภิปรายทั่วโลกเกี่ยวกับความเสมอภาคทางเพศ เเละการให้อำนาจแก่ผู้หญิง เชอริล เเซนเบิรก ได้กระตุ้นผู้หญิงให้รับเอาความท้าทาย และเเสวงหาโอกาสของความเป็นผู้นำเชอรีล แซนด์เบิรก ได้ขึ้นไปสู่ตำแหน่งซีโอโอ ณ เฟซบุคแสดงความสามารถของเธอทำลายอุปสรรคภายในอุตสาหกรรมยึดครองโดยผู้ชาย เธอได้ทุบเพดานแก้วแตกกระจาย และกลายเป็นแรงบันดาลใจต่อผู้หญิงที่ทะเยอทะยานทั่วโลก ความสำเร็จของเเซนด์เบิรกใช้เตือนความจำว่าเพศไม่ควรจะเป็นข้อจำกัดต่อการเดินตามเป้าหมายอาชีพและบรรลุตำแหน่งบริหารเธอได้เสนอเเนะว่ารัสเซียและยูเครนจะไม่ทำสงคราม ถ้าผู้หญิงรับผิดชอบ ไม่มีสองประเทศนำโดยผู้หญิงเคยเข้าไปสู่สงคราม ถ้าครึ่งหนึ่งของโลกนำโดยผู้หญิง สงครามสมัยเดิมเป็นเกมของผู้ชายเชอริลแซนด์เบิรก เชื่อว่าโลกจะปลอดภัยขึ้นและเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น ภายในวันเริ่มแรกของการแพร่ระบาดโควิด ประเทศนำโดยผู้หญิง เช่น จาร์ซาดา อาร์เดิรน นายกรัฐมนตรี นิวซีแลนด์ บริหารได้ดีกว่าประเทศที่นำโดยผู้ชายรัสเซียเปิดการบุกยูเครนของพวกเขาเมื่อประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินได้กล่าวเป้าหมายของเขาเพื่อ การทำให้ยูเครนปลอดทหาร และการยอมรับไครเมียเป็นชาวรัสเซีย และพื้นที่ขบถเป็นรัฐอิสระ โดเนตสค์และลูฮานสค์ยูเครนได้กล่าวว่าพวกเขามีสิทธิต่อการกำหนดอนาคตตนเอง และต้องการการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป ประเทศได้ต่อสู้กลับต่อรัสเซีย การอ้างว่ากองกำลังยูเครนได้ฆ่านายพลคนที่สองของรัสเซียภายหลังจากนายพลคนเเรกถูกฆ่าไปแล้ว
นานเป็นศตวรรษ ผู้หญิงได้ต่อสู้บรรทัดฐานทางสังคมและความอคติทางวัฒนธรรมที่จะได้การยอมรับและโอกาสเท่าเทียมกันภายในด้านที่หลากหลายของชีวิต ผู้หญิงได้สรีางการก้าวไปอย่างสำคัญภายในโลกธุรกิจ การเมือง และสังคม ผ่านทะลุเพดานเเก้ว จำกัดการเข้าไปสู่ตำแหน่งความเป็นผู้นำ บทบาทของผู้หญิงต่อความเป็นผู้นำได้วิวัฒนาการจากการหายาก ไปสู่พลังของการเปลี่ยนแปลงความท้าทายการเหมารวม และการปฏิรูปการเปลี่ยนแปลงของอำนาจแนวคิดของเพดานเเก้วอ้างถึวอุปสรรคที่มองไม่เห็นแต่ลำบากขัดขวางความก้าวหน้าของผู้หญิง และจำกัดการขึ้นไปของพวกเธอภายในสภาพแวดล้อมวิชาชีพ มันเป็นสัญลักษณ์ของความไม่เสมอภาคทางเพศ ตรงที่ผู้หญิงที่มีความสามารถ พบความก้าวหน้าทางอาชีพของพวกเธอได้ถูกหยุดยั้งภายในองค์การ แต่กระนั้นเพดานเเก้วไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ไม่สามารถผ่านไปได้ เมื่อผู้หญิงจำนวนมากได้ทุบมัน การพิสูจน์ว่าเพศไม่ได้เป็นข้อจำกัดที่จะบรรลุบทบาทความเป็นผู้นำเรื่องราวที่บันดาลใจของผู้หญิงทำลายเพดานเเก้วถูกใช้เป็นดวงประทีปของความหวัง และตัวกระตุ้นการเปลี่ยนแปลง ความสำเร็จของพวกเธอบันดาลใจและให้อำนาจแก่รุ่นของผู้หญิงในอนาคตการเเสดงเรื่องราวของผู้หญิงที่ทำลายเพดานแก้วได้สำเร็จสำค้ญต่อการบันดาลใจรุ่นในอนาคต ผู้บุกเบิกเหมือนเช่น เชอริล แซนด์เบิรก ซูซาน โวจิคกี อินดาร์ นูยี กมลา แฮร์รีส และอังเกลา เมอร์เคิล ได้คุณลักษณะความเป็นผู้นำที่มีความยืดหยุ่น ความมุ่งมั่น และความเห็นอกเห็นใจภายในสังเวียนการเมืองผู้หญิง เช่น อังเกลา เมอร์เคิล นารัฐมนตรีเยอรัน กมลา แฮร์รีส รองประธานาธิบดีหญิงคนเเรกของอเมริกา และจาซินดา อาร์เดิรน นากรัฐมนตรีนิว ซีเเลนด์ ได้พิสูจน์ว่าผู้หญิงสามารถนำด้วยความเข้มแข็งและความเห็นอกเห็นใจ
ข้อวิจารณ์อย่างหนึ่งที่ฉันได้เผชิญตลอดหลายปีคือ ฉันไม่ก้าวร้าวเพียงพอ หรือกล้าแสดงออกเพียงพอ หรือาจจะอย่างไรก็ตาม เพราะว่าฉันเห็นอกเห็นใจ มันหมายความว่าฉันอ่อนแอ ฉันต่อต้านมันอย่างสิ้นเชิง ฉันไม่ยอมรับต่อความเชื่อว่าคุณไม่สามารถเป็นทั้งความเห็นอกเห็นใจและความเข้มแข็ง จาซินดา อาร์เดิรน กล่าวกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เด็กผู้หญิงคนหนึ่งชื่ออังเกลา เมอร์เคิล เจริญเติบโตภายในบ้านล้อมรอบด้วยป่า ภายในเมืองเล็กชื่อ เทมพลิน เยอรมันตะวันออก เธอได้เจริญเติบโตภายในเยอนมันตะวันออก เธอเป็น ลูกสาวของบาทหลวงโปรเตสเต้นท์ เธอเริ่มต้นศึกษาเคมี ณ มหาวิทยาลัยคาร์ล มาร์ค ในขณะนี้เป็นมหาวิทยาลัยไลพ์ซิก ภายหลังจากนั้นเธอเป็นนักวิจัยอยู่ที่สถาบันกลางเคมีเชิงฟิสิกซ์ของสถาบันวิทยาศาสตร์ภายใน เบอร์ลินตะวันออกอังเกลา เมอร์เคิลได้รับปริญญาเอกเมื่อ ค.ศ 1986 การเข้าสู่การเมืองเมื่อกำแพงเบอร์ลินได้พังทลายลงเมื่อ ค.ศ 1989 เธอได้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วต่อตำแหน่งของพรรคคริสเตียน เดโมเครติค ยูเนียน และในที่สุดกลายเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนเเรกของเยอรมันผู้นำเยอรมัน อังเกลา เมอร์เคิล มีชื่อเล่นว่า นายกรัฐมนตรีภูมิอากาศต่อการกระทำระหว่างประเทศที่ยาวนานของเธอบนการลดการปล่อยมลพิษ ครั้งหนึ่งเธอได้กล่าวว่า ฉันกำบังใช้ความเข้มแข็งของฉันทุกอย่างต่อสู้การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศสามารถทำให้รุ่นในอนาคตมีชีวิตอยู่สงบสุขและเจริญรุ่งเรืองสภาวะโลกร้อนเป็นความจริง มันกำลังคุกคาม การสูงขึ้นของอุณหภูมิโลก เเละปัญหาของสภาวะโลกร้อนได้ถูกสร้างโดยมนุษย์ทุกอย่างดังนั้นเราต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างอย่างมนุษย์ธรรมดาเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อที่จะ เอาชนะความท้าทายของมนุษย์นี้ มันยังคงเป็นไปได้อยู่เสมอนักเคลื่อนไหวภูมิอากาศชาวสวีเดน เกรต้า ธันเบิรก และนักเคลื่อนไหววัยรุ่นคนอื่นสามคนได่มีการประชุม 90 นาทีกับนายกรัฐมนตรีเยอรมันอังเกลา เมอร์เคิล ภายในเบอร์ลิน กดดันความต้องการของพวกเธอ เพื่อการกระทำหนักขึ้นที่จะควบคุมการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ระหว่างการประชุมของพวกเธอ พวกเธอได้นำเสนอจดหมายประท้วงที่พวกเธอได้เขียนต่อผู้นำโลกจดหมายได้เรียกร้องผู้นำสิ้นสุดเงินอุดหนุนเชื้อเพลิงฟอสซิลทันที หยุดการลงทุนทุกอย่างต่อการสำรวจเชื้อเพลิง ฟอสซิล ภายหลังการประชุมเกรต้า ธันเบิรกได้บอกแก่นักข่าวว่าเธอได้กระตุ้น เมอร์เคิล……และผู้นำทุกคน เริ่มต้นปฏิบัติสถานการณฺ์ภูมิอากาศเหมือนวิกฤติ และออกไปจากบริเวณปลอดภัยของพวกเขา และให้ความสำคัญอนาคตข้างหน้าของตอนนี้ และกล้าหาญเพียงพอที่จะคิดระยะยาว เราได้ขอเธอปฏิบัติวิกฤติภูมิอากาศ เหมือนคุณปฏิบัติวิกฤติอื่นใดก็ตาม
เมื่อกำเเพงเบอรลินได้พังทลายลง อังเกลา เมอร์เคิลได้มาสู่ตะวันตกกับน้องสาวของเธอ เธอได้มาสู่การเมือง ขึ้นไปสู่ตำแหน่งของเธออย่างรวดเร็วของพรรคคริสเตียน เดโมเเครต ยูเนียน – ซีดียู ความสำเร็จอย่างน่าทึ่งต่อผู้หญิงวัยสาวโปรเตสเต้นท์ มาจากเยอรมันตะวันออก ภายในพรรคที่ครอบงำด้วยผู้ชายวัยชราแคธอลิคจากตะว้นตก เธอได้ลุกขึ้นไปสู่ตำแหน่งประธานของพรรคซีดียู และกลายเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเยอรมันอังเกลา เมอร์เคิล ทำอะไรช่วยเหลือโลก เมื่อผู้อพยพจำนวนมากได้หลบหนีความขัดแย้งภายในซีเรีย อัฟกานิสถาน และที่อื่น แห่กันมาสู่สหภาพยุโรป อังเกลา เมอร์เคิล ได้สนับสนุนต่อการตั้งถิ่นฐานใหม่ของผู้อพยพจำนวนมากภายในเยอรมัน ด้วยเหตุนี้ ผู้อพยพมากกว่าหนึ่งล้านคนได้เข้ามาเยอรมันแห่งเดียว การรักษาชีวิตของพวกเขาจากอันตรายของการกลับไปสู่ประเทศที่พังทลายจากสงครามของพวกเขาในฐานะของนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเยอรมัน อังเกลา เมอร์เคิล ได้ทุบเพดานแก้ว และกลายเป็นผู้นำแนวหน้าภายในการเมืองโลกโดยมาตรการใดก็ตาม อังเกลา เมอร์เคิลเป็นผู้นำหญิงที่มีอำนาจมากที่สุดภายในโลก วันนี้ เธอได้ทำลายอุปสรรคและทุบเพดานแก้วเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเยอรมัน ปูเส้นทางเพื่อรุ่นของผู้หญิงในอนาคต ผู้หญิงหลายล้านคนชื่นชมเธอต่อการทำลายเพดานแก้ว การถูกยึดครองของผู้ชายภายในการเมืองอังเกลา แมร์เกิล เป็นป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนเเรกของเยอรมัน และสถาปนิคคนหนึ่งของสหภาพยุโรป เธอได้ชนะชื่อเรียกของการเป็นผู้หญิงที่มีอำนาจมากที่สุดของโลก บุคคลภายในเยอรมันใช้ชื่อเรียกแตกต่างกันเมื่อกล่าวถึงเธอ – มัม – แม่ เธอเป็นผู้นำของประเทศประชาธิปไตย 16 ปี เกือบจะไม่เคยได้ยินมาก่อน เรามีเหตุผลบางอย่างทำไมเธอถูกมองเป็นผู้นำโดยพฤตินัยของสหภาพยุโรป องค์การที่ไม่ควรจะมีผู้นำ
แต่่กระนั้นเพศของเธอไม่ได้เป็นบางสิ่งบางอย่างที่เธอเคยได้หยิกยกภายในแฟชั่นหรือนโยบาย ผู้นำที่ใส่ชุดสูทกางเกงได้หลีกเลี่ยงอธิบายตัวเธอเองเป็นสตรีนิยม ตลอดส่วนใหญ่ของชีวิตสาธารณะของเธอ เมื่อเธอได้ตระเตรียมออกไปจากความเป็นผู้นำของประเทศ บุคคลบางคนได้กล่าวถึงความพยายามของเธอที่จะปรับปรุงสถานการณ์ของผู้หญิงได้ค่อยเข้ามาอังเกลา เมอร์เคิล เกิดเมื่อ ค.ศ 1954 ภายในฮัมบวร์ก เยอรมันตะวันตกถูกเลี้ยงดูภายในเยอรมันตะวันออก และได้ศึกษาเคมี ณ มหาวิทยาลัยคาร์ล มาร์ค ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยสิฟซิกซ์ เธอได้รับปริญญาเอกเมื่อ ค.ศ 1978 อังเกลา เมอร์เคิล นักการเมืองเยอรมันรับใช้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงของเยอรมันเมื่อตอนอายุ 51 ปี ตั้งแต่ ค.ศ 2005 ถึง ค.ศ 2012 เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ยึดครองทำเนียบ และเป็นนายกรัฐมนตรีที่รับใช้ยาวนานที่สุดลำดับสองภายในประวัติศาสตร์เยอรมัน
อังเกลา เมอร์เคิล ได้ข้าไปสู่การเมืองเมื่อ ค.ศ 1990 ภายหลังการทำลายกำแพงเบอร์ลินเมื่อ ค.ศ1989 เธอได้ถูกยกย่องกับการนำทางเยอรมันผ่านวิกฤติการเงิน 2098 และวิกฤติผู้อพยพชาวยุโรปเมื่อ 2015 เธอได้ถูกสรรเสริญเป็นนักการเมืองบรรลุความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของสมัยใหม่ อังเกลา เมอร์เคิลได้ถูกมองต่อความเป็นผู้นำภายในทางปฏิบัติ ไม่ใช่อุดมการณ์ เธอเป็นนักปฏิบัตินิยม และความสามารถประนีประนอม เธอยากที่จะใช้กรณีของอุดมการณ์อย่างเข้มงวดต่อปัญหาที่สำคัญ และเธอเต็มใจนำโดยหลักฐานและคำแนะนำบางทีความสำเร็จยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ เป็นความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของเยอรมันและสหภาพยุโรปตลอดความเป็นผู้นำของเธอ เมื่อ ค.ศ 2015
อังเกลา เมอร์เคิลได้ถูกระบุชื่อ บุคคลแห่งปีของวารสารไทม์ ด้วยหน้าปกวารสารประกาศเธอเป็น นายกรัฐมนตรีแห่งโลกเสรี แอตแลนติด ได้ยกย่องเธอเมื่อ ค.ศ 2019 เป็นนักการเมืองที่มีชีวิตอยู่บรรลุความสำเร็จมากที่สุดของโลก บนพื้นฐานของทั้งความสำเร็จและความยาวนานความเป็นผู้นำของเธอถูกแสดงโดยการยืนหยัดย่างเข้มเเข็งจากการยืนขึ้นต่อโดนัลด์ ทรัมป็ ยอมให้ผู้อพยพชาวซีเรียมากกว่าหนึ่งล้านคนมาสู่เยอรมัน เธอไม่ใช่ธรรมดา เธอรู้ว่าเธอคือใคร เธอไม่พยายามเป็นสิ่งอื่นใด เธอเป็นผู้นำที่แท้จริง เธอมีค่านิยมที่เข้มแข็งอังเกลา เมอร์เคิล เข้าใจประวิติศาสตร์ของเยอรมันอย่างดี ส่วนหนึ่งเพราะว่าเธอมาจากเยอรมันตะวันออก ดังนั้นเธอมีความถ่อมตัวเฉพาะมาจากชีวะประวัติของเธอเอง เธอได้ต่อสู้เพื่อประเทศของเธอ และเพื่อบุคคลของเธออังเกลา เมอร์เคิล ได้กลายเป็นราชินีแห่งยุโรปไม่สวมมงกุฏ เด็กหญิงที่น่าสงสารจากเยอรมันตะวันออกได้ลุกขึ้นกลายเป็นราชินีแห่งยุโรปอย่างไร เมื่อกำแพงเบอร์ลินได้พังทลายเมื่อ ค.ศ 1989 การกำจัดสิ่งกีดขวางระหว่างเยอรมันตะวันออกและเยอรมันตะว้นตกเพียงข้ามคืนเธอไม่ได้รีบเร่งไปอีกด้านหนึ่งเหมือนผู้รักชาติหลายคนของเธอ แต่เธอได้ไปห้องอบไอน้ำท้องที่เหมือนที่เธอทำทุกวันพฤหัสกับเพื่อนคนหนึ่งฉันคิดว่าถ้ากำแพงได้เปิดแล้ว มันยากที่จะปิดอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นฉันได้ตัดสินใจรออังเกลา เมอร์เคิล มักจะถูกเรียกเป็น สุภาพสตรีเหล็ก โดยสาธารณะไม่ใช่เพราะว่าเธอเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงของเยอรมันเท่านั้น ระหว่าง 16 ปีภายในอำนาจของเธอ เธอได้เอาชนะวิกฤติแตกต่างกันหลายอย่างนำเยอรมันกลายเป็นเศรษฐกิจหมายเลขหนึ่งภายในยุโรป ระหว่างช่วงเวลา 16 ปี เรามีประธานาธิบดียูเอส 4 คนประธานาธิบดีฝรั่งเศส 4 คน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ 5 คน และนายกรัฐมนตรีอิตาลี 8 คนในฐานะของนักการเมืองหญิงจากพรรคฝ่ายขวา ซีดียู พรรคการเมืองอนุรักษ์นิยมเยอรมันและเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้วยอังเกลา เมอร์เคิลมักจะถูกเปรียบเทียยกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษก่อนหน้านี้ มาร์กาเรต แธทเชอร์ บุคคลหลายคนเรียกเธอโดยชื่อเล่น “สุภาพสตรีเหล็ก” เธอได้กลายเป็นที่รู้จักต่อความเป็นผู้นำที่ใจเย็นและอดทนของเธอและได้ถูกมองเป็น ผู้นำแห่งโลกเสรี จากผู้อพยพชาวซีเรียและการแพร่ระบาดของโควิด ได้แสดงผู้หญิงสามารถเป็นผู้นำที่เข้มแข็งอย่างไร เธอได้เคยเผชิญกับวลาดิมีร์ ปูติน มากกว่าหนึ่งครั้ง หนังสือขายดีที่สุดเล่มหนึ่งของนิว ยอร์ค ไทม์ “The Chancellor : The Remarkable Odyssey of Angela Markel” โดย เคที มาร์ตัน การวิจัยของผู้เขียนมุ่งที่การเมืองของอังเกลา เมอร์เคิลลุกขึ้นมาจากกการเจริญเติบโตข้างหลังกำแพงเบอร์ลิน ก้าวไปจากชีวิตของนักวิทยาศาสตร์ไปสู่การเมือง เคที มาร์ตัน ได้ย้อนรอยอย่างรอบคอบการเดินทางของอังเกลาเมอร์เคิลจากเขตที่ห่างไกลของเยอรมันตะวันออกไปสู่ศูนย์กลางอำนาจภายในเบอร์ลินอย่างไรหนังสือเล่มนี้ได้เริ่มต้นด้วยการสำรวจการศึกษาการเมืองเริ่มแรกของอังเกลา เมอร์เคิลเป็นเด็กผู้หญิงภายในเมืองเล็กของเยอรมันตะวันออกที่รัสเซียยึดครอง บิดาของเธอ บาทหลวงลูเธอแลนด์ ได้ปลูกฝังความรู้สึกของการเสียสละ การรับใช้ และความศรัทธาเธอได้เรียนรู้ ณ อายุเริ่มแรกศิลปะของการอยู่รอดภายใต้การปกครองแบบเผด็จการด้วย เธอ เชื่อว่าสิ่งสำคัญที่สุด อย่าดึงความสนใจ ความโดดเด่นเป็นอันตราย ดังนั้นเธอได้เรียนรู้ไม่ดึงความสนใจต่อตัวเธออยู่เสมอสัญลักษณ์ตำนานของนักการเมืองที่มีชื่อเสียงของโลกท่าทางมืออย่างเดียวนี้เเม้แต่มีวิกิพีเดีย เพจของมันเอง ได้กลายเป็นเลียนแบบโดยผู้นำประเทศทั่วโลกต่อความหมายแฝงของมันของความมั่นคงและความเชื่อถือได้มันอ้างถึงท่าทางมือที่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์เคลื่อนไหวของอังเกลาเมอร์เคิล ท่าทางนี้อธิบายลักษณะโดยการวางมือข้างหน้าท้อง ดังนั้นนิ้วหัวเเม่มือและนิ้วชี้ของแต่ละมือสัมผัสระหว่างกันสร้างรูปร่างรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน สื่อภาษาอังกฤษมักจะอ้างมันเป็น Triangle of Power – สามเหลี่ยมแห่งอำนาจ หรือ Merkle Diamond = เพชรของเมอร์เคิล “Merkel-Raute” ภาษาเยอรมันของคำว่า สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนของเมอร์เคิล ท่าทางมือได้กลายเป็นตราสินค้าอย่างไร มือประสานกันข้างหน้าท้อง นิ้วหัวเเม่มือและและนิ้วสัมผัสกันสร้างรูปร่างคล้ายเพชร – ท่าทางวางมือเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนของอังเกลา เมอร์เคิล ได้กลายเป็นเกือบจะเป็นชื่อเสียงเป็นนายกรัฐมนตรีตัวเธอเอง
ณ การปราศัยความมั่นคงของชาติภายในยังค์ทาวน์ โอไฮโอ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ถูกเสนอชื่อประธานาธิบดีของรีพับลิแคนได้เปิดการโจมตีต่อคู่แข่งขันของเขา ฮิลลารี คลินตัน การเปรียบเทียบเธอต่อนายกรัฐมนตรีเยอรมัน อังเกลา เมอร์เคิล ภายในกิจกรรมการรณรงค์ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เรียกนโยบายการอพยพของเยอรมันเป็นความหายนะ และได้เปรียบเทียบฮิลลารี คลินตัน ต่อนายกรัฐมนตรีเยอรมัน อังเกลา เมอร์เคิล โดยสรุป ฮิลลารี คลินตันต้องการเป็น “อังเกลา เมอร์เคิลอเมริกา” และคุณรู้ว่าความหายนะอะไรที่การอพยพจำนวนมากนี้เกิดขึ้นกับเยอรมันและบุคคลของเยอรมันอาชญกรรมได้เพิ่มสูงขึ้นไปสู่ระดับที่ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะเคยมองเห็นมาก่อน มันเป็นความหายนะ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้คำปราศัยต่อความมั่นคงของชาติ และใช้เยอรมันเป็นตัวอย่างของนโยบายการอพยพที่ดป็นอันตราย การเปรียบเทียบฮิลลารี คลินตันกับอังเกลา เมอร์เคิล เป็นยุทธวิธีที่ฉลาด เพราะว่าการเปรียบเทียบผู้หญิงสองคนเท่าที่เห็น มันได้ผลเพราะว่ามันเป็นวิถีทางที่แตกต่างจากโดนัลด์ ทรัมป์ เขาได้มองตัวเขาเองเป็นชายที่ยิ่งใหญ่เข้มแข็ง และสามารถคุ้มครองอเมริกาจากความผิดพลาดของผู้หญิงคนหนึ่งได้นับตั้งแต่ ค.ศ 2015 อังเกลา เมอร์เคิล ได้เสนอเเนะนโยบายของการเปิดพรมแดนเยอรมัน สนับสนุนผู้อพยพชาวซีเรีย แต่กระนั้นมันได้เปิดประตูต่อคลื่นของผู้อพยพ 1.6 ล้านคนจากอัฟริกา เอเชียและตะวันออกกลาง ทะลักมาสู่เยอรมัน ทำให้เกิดวิกฤติอย่างรุนแรงภายในที่อยู่อาศัย การจ้างงาน และอาชญากรรมมันยุ่งยากที่จะอธิบายเป้าหมายของอังเกลา เมอร์เคิลคืออะไร แต่บุคคลส่วนใหญ่คิดถึงมันเนื่องจากความเมตตาของเธอต่อผู้อพยพ ตามความคิดเห็นสาธารณะ อังเกลา เมอร์เคิลมีชีวิตอยู่ ผ่านช่วงเวลากำแพง เบอร์ลิน ดังนั้นเธอเข้าใจอย่างขัดเจนถึงความลำบากของบุคคลระหว่างช่วงเวลาของการแบ่งเเยก แต่มันชัดเจนว่าการตัดสินใจนี้เหมือนกับยิงที่เท้านักเขียนชีวะประวัติของเธอได้ใช้คำพูดเปรียบเทียบอังเกลา เมอร์เคิล ผมคิดว่าเยอรมันและทั้งโลกประเมินนายกรัฐมนตรีเมอร์เคิลเป็นผู้นำที่ยืนยันความมั่นคงของประเทศเเละโลก ภายในอนาคต มันน่าจะยุ่งยาก
ต่อใครก็ตามทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหมือนเธอทำ
Cr : รศ สมยศ นาวีการ