บรูทซอรก : กาแฟก่อน แล้วดูแล
บรูทซอรก : กาแฟก่อน แล้วดูแล
จุดศูนย์กลางของหลักการของบรูทซอรกคือ “กาแฟก่อน แล้วดูแล”
สิ่งเเรกที่พยาบาลของบรูทซอรก ณ บ้านของลูกค้าใหม่คือ การดื่ม
กาแฟกับพวกเขา มันได้สรุปวิสัยทัศน์ของเราของการรู้จักคุณบนระดับ
ส่วนบุคคล เพื่อที่จะ
มั่นใจคุณภาพองค์รวมของการดูแลและสนับสนุน ด้วยการใช้เวลา
นั่งกับคุณและครอบครัวของคุณ และอภิปรายแผนเเละเป้าหมายบน
ถ้วยกาแฟจะช่วยพัฒนาแผนการดูแลอย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้อง
กับความต้องการของคุณ พยาบาลเเละผู้ป่วยมักจะร่วมสายสัมพันธ์
เฉพาะ พวกเขาหลายคนอยู่ด้วยกันหลายปี บางครั้งถึงไหนถึงกัน เมื่อ
พยาบาลช่วยผู้ป่วยจากไปอย่างสงบ
บรูทซอรกมุ่งอย่างแรกต่อการสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลที่ได้รับ
การดูแล ถ้าเราเป็นลูกค้าคนหนึ่ง ความสัมพันธ์ของเรากับบรูทซอรก
เริ่มต้นด้วยการประชุม พยาบาลนั่งลงดื่มกาแฟกับคุณ และพูดเกี่ยวกับ
สิ่งที่สำคัญต่อคุณ พยายาลพูดเกี่ยวกับสมาชิกครอบครัวของคุณและ
เพี่อนบ้านอาจจะสามารถช่วยเหลือคุณ พยาบาลจะค้นหาเพื่อนบ้านของ
คุณสามารถช่วยเหลือภายในกระบวนการดูแลได้หรือไม่ ภายในวิถีทางนี้
พยาบาลสามารถปรับปรุงการดูแลที่บ้านเฉพาะต่อคุณใช้ทรัพยากรและเครือข่ายของคุณ ทำให้มั่นใจว่าคุณสามารถเป็นอิสระเท่าที่เป็นไปได้
เเม้ว่าคุณต้องการการดูแลที่บ้าน
จอส เดอ บอลค ทำงานเป็นพยาบาลสิบปี ดังนั้นเขาได้ประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงโดยตรงภายในอุตสาหกรรมของเขา เขาได้ออกจากงานของเขาและเปิดตัวบรูทซอรก บริษัทของเขาทำงานด้วยวิถีทางที่แตกต่างอย่าง
มากจากการดูเเลสุขภาพของรัฐบาล
เมื่อ ค.ศ 2006 จอส เดอ บอลค อายุ 56 ปี เริ่มต้นบรูทซอรกด้วยทีมของพยาบาลวิขาชีพ 4 คน ภายหลังการเป็นพยาบาลตัวเขาเองนานหลายปี ณ องค์การดูแลสุขภาพบ้านสมัยเดิม จอส รู้สึกว่าวิถีทางการทำงานของการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมของพวกเขาเป็นระบบราชการเกินไป และความเป็นอิสระน้อยเกินไป พวกเขารับเอาความเสี่ยงภัยส่วนบุคลและการเงินอย่างมากที่จะสร้างองค์การดูแลสุขภาพบ้านไม่มุ่งกำไร มุ่งหมายที่จะวางความเป็นมนุษย์เหนือระบบราชการ
ความสำเร็จของบรูทซอรกได้ถูกมองเห็น และองค์การได้ถูกวิจัยอย่าง
กว้างขวางตลอดหลายปี การวิจัยเหล่านี้แสดงอย่างชัดเจนความพอใจ
ของลูกค้าของพวกเขาทะลุหลังคา และความพอใจของบุคคลของ
พวกเขาสูงที่สุดท่ามกลางองค์การดัทช์ใดก็ตาม จอส ไม่ต้องการคุยโต
ชัยชนะของเขาเองในขณะที่บุคคลอื่นจำนวนมากพร้อมที่จะทำเพื่อเขา
เฟรดเดอริค ลาโลซ์ ได้สละส่วนหนึ่งของหนังสือที่มีอิทธิพลของเขา
Reinventing Organiztions แก่โมเดลบรูทซอรก
โมเดลระบบราชการบนลงล่างของการพยาบาลสมัยเดิมนำไปสู่การดูแลสุขภาพคุณภาพต่ำ และความไม่พอใจของบุคคล เกิดขึ้นจากการขาดความเป็นอิสระ และความไม่สามารถใช้เวลาการดูเเลส่วนบุคคลต่อความต้องการของผู้ป่วย
ก่อนการค้นพบบรูทซอรก พยาบาลหลายคนเคยทำงานภายในองค์การ
หลายลำดับชั้นมาก เจ็บปวดภายใต้ระดับการบริหารและระบบราชการ
จอส เดอ บอลค กล่าวว่า ผมถูกชักจูงว่าเราต้องการองค์การแบบแบน เราต้องการเครือข่ายของบุคคลทำงานด้วยกัน และร่วมค่านิยมอย่างเดียวกัน เราต้องการความเป็นอิสระทำการตัดสินใจของเราเอง
บรูทซอรก ได้บุกเบิกแนวคิดของการพยาบาลชุมชน บนพื้นฐานของทีมดูแลสุขภาพบริหารตัวเอง บรูทซอรกทำงานโดยไม่มีโครงสร้างการ
บริหารลำดับชั้น แต่ด้วยเครือข่ายของทีมบริหารตัวเอง โมเดลนี้ได้สร้างสถานที่ทำงานอย่างมีความสุข และให้การดูแลสุขภาพที่ดีขึ้น ณ
ต้นทุนที่ต่ำ บรูทซอรกมีบุคคล 15,000 คนภายในเธอรแลนด์ พวกเขาได้ปฏิรูปการดูแลสุขภาพของชุมชนภายในเนเธอร์แลนด์ แนวคิดของพวก
เขาได้ถูกแนะนำไปทั่วโลก
จอส ได้ยกเลิกผู้บริหารที่รายได้สูงเกินไป สำนักงานที่หรูหรา และระดับ
ของระบบราชการ และการให้อำนาจหน้าที่และความ
รับผิดชอบแก่ทีมพยาบาล เพื่อการดูแลบุคคลสูงอายุติดบ้านด้วยโรคเรื้อรังและความพิการ
เมื่อเขาอยู่บนถนนแพร่กระจายถ้อยคำเกี่ยวกับปรัชญชาความเป็นผู้นำ
ของเขา จอส เดอ บอลค มักจะเเต่งตัวสีดำอยู่เสมอ ได้กล่าวว่า ยกมือของคุณ แก่ผู้ฟังของเขา ถ้าคุณชอบมีนาย ไม่มีใครยกมือของพวกเขาเลย
ยกมือขึ้นถ้าคุณเป็นนาย….ผู้ฟังต่างหัวเราะ
เขาไม่ได้ไม่ยอมรับคุณค่าของบุคคลที่บริหารบุคคลอื่น แต่เพียงแค่คิดว่า
ระบบไม่เป็นผล เเน่นอนเรามีนายที่ดีภายในโลกของงาน แต่พวกเขาไม่ดี
เพราะว่าพวกเขาเป็นนาย พวกเขาดีเพราะว่าโดยทั่วไปพวกเขาเป็นบุคคล
ที่ดี บุคคลที่ดีสามารถมีประโยชน์และประสิทธิภาพมากขึ้นต่เรา ถ้าพวก
เขาไม่เป็นนาย เมื่อเราเอาการบริหารออกจากองค์การ เรามองเห็นไม่มี
ใครเลยกำลังเรารอเราที่จะบริหาร
บรูทซอรกเป็นโมเดลองค์การใหม่ของการดูแลสุขภาพ และจอส เดอ
บอลค ในฐานะของผู้นำบันดาลใจกลายเป็นสัญลักษณ์ เพื่อการปฏิรูป
ของการดูแลสุขภาพ และเเรงบันดาลใจต่อบุคคลภายในหลายสถานที่
ทั่วโลก บรูทซอรกเป็นตัวอย่างของทีมบริหารตัวเองด้วยความไว้วางใจ
ที่เข้มแข็งและความรู้สึกที่ชัดเจนของความมุ่งหมายร่วมสามารถเคลื่อน
ภูเขาได้อย่างไร
บรูทซอรกได้ถูกระบุโดยอะไรที่พวกเขาไม่มี : ผู้บริหาร นโยบายไม่จำเป็น
แผนกเอสอาร์ หรือแผนกการตลาด พวกเขาใช้กฏน้อยเท่าที่เป็นไปได้ ไม่มี
การเลื่อนตำแหน่ง และคำบรรยายลักษณะงาน
โครงสร้างองค์การของบรูทซอรกเรียบง่ายและเเบนด้วยไม่มีผู้บริหาร
ระดับกลาง ไม่มีการจัดแผนกงาน หน้าที่สำนักงานส่วนหลังน้อยที่สุด
เมื่อบุคคลบางคนถามจอส เดอ บอบค สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ตรงไหน เขาตอบว่า้เราไม่มีสำนักงานใหญ่ เรามีสำนักงานส่วนหลัง จอส เชื่อว่าพวกเขาไม่ต้องการสำนักงานใหญ่ควบคุมกิจกรรม สำนักงานส่วนหลังทำระบบ
ราชการที่หลีกเลี่ยงไม่ได่้ ดังนั้นพยาบาลสามารถมุ่งที่ลูกค้าได้ เพื่อที่จะทำให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ที่นี่เรามีบุคคลสนับสนุนเท่านั้น บรูทซอรก
ว่าจ้างบุคคลพยาบาล 15,000 คน บุคคลสำนักส่วนหลัง 50 คน โคชภูมิภาค 21 คน และผู้บริหาร 2 คน คนหนึ่งเป็นจอส เดอ บอลค ต้นทุนโสหุ้ยเป็น
8% ไม่ใช่ 25 % ของมาตรฐานภายในอุตสาหกรรม รายงานโดยเอิรล
แอนด์ ยังก์ ประมาณว่า ถ้าโมเดลนี้ได้ถูกรับเอาไว้ทั้งเนเธอร์แลนด์
มันจะประหยัดมากกว่า 2 พันล้านยูโร
องค์การใหญ่มักจะแพร่ขยายสายงานสนับสนุน : ทรัพยากรมนุษย์
การเงิน กฏหมาย การฝึกอบรม และการวางแผน เป็นต้น เรามีแนวโน้ม
ตามธรรมชาติต่อบุคคของหน้าที่สนับสนุน พิสูจน์คุณค่าของพวกเขา
ด้วยวิถีทางที่จะเพิ่มคุณค่า การสร้าวกฏและระเบียบวิธีการปฏิบัติงาน
ในที่สุดพวกเขาได้ยึดอำนาจหน้าที่การตัดสินใจจากบุคคลแนวหน้า
พวกเขา
เราต้องเดินตามกฏที่มักจะมีเหตุผลตามหลักการเท่านั้น แต่ไม่สามารถปรับตัวกับความซับซ้อนของสถานการณ์ได้ กลับกันองค์การ
ที่บริหารตัวเองรักษาหน้าที่สนับสนุนให้น้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ด้วย
เหตุนี้ เรามีบุคคลน้อยมากทำหน้าที่สนับสนุนภายใน
องค์การบริหารตัวเอง โดยทั่วไปพวกเขาไม่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจ
พวกเขาสามารถให้แนวทาง แต่ไม่สามารถบังคับกฏหรือการตัดสินใจ
พวกเขาสมควรอย่างแท้จริงเรียกชื่อว่าหน้าที่สนับสนุน บรูทซอรก จ้าง
พยาบาลและผู้ช่วยมากกว่า 10,000 คนภายในทีมบริหารตัวเอง 850
ทีม โคชภูมิภาค 20 คนสนับสนุนทีมเมื่อต้องการ บุคคล 45 คนของ สำนักงานส่วนหลังของบรูทซอรกดูแลเงินเดือนและใบเก็บเงินของ
พวกเขา
จอส เดอ บอลค กล่าวว่า คำถามไม่ใช่คุณสามารถสร้างกฏที่ดีขึ้นอย่างไร แต่คุณสามารถสนับสนุนทีมภายในการค้นหาข้อแก้ปัญหาที่ดีที่สุดอย่างไร คุณสามารถทำให้ความเป็นไปได้ของสมาชิกของทีมเข้มแข็งขึ้นอย่างไร เพื่อที่พวกเขาต้องการจำนวนน้อยที่สุดของการกำหนดทิศทางจากข้างบน
แกรี ฮาเมล กล่าวว่าสมมุติฐานของเราเกี่ยวกับขนาดของการควบคุม
ล้าสมัยไปแล้ว บรูทซอรก บริหารองค์การด้วยพยาบาล 15,000 คนและ
ผู้บริหารเพียงแค่ 2 คน ทีมบุคคล 12 คนให้บริการ และเชื่อมโยงด้วยแพลตฟอร์มสังคม ลำดับชั้นของผู้บริหารบังคับภาษีที่หนักต่อองค์การใดก็ตาม ผู้บริหารเพิ่มโสหุ้ยหรือต้นทุนการบริหารแก่องค์การ
องค์การเล็กอาจจะมีผู้บริหารคนเดียวและบุคคล 10 คน ถ้าบุคคล 100,000 คน ขนาดของการควบคุมอย่างเดียวกัน 1:10 จะมีผู้บริหาร 11,111 คน นั่นเพราะว่าผู้บริหาร 1,111 ที่เพิ่มขึ้นถูกต้องการที่จะบริหารผู้บริหาร สมมุติว่าผู้บริหารแต่ละคนมีรายได้สามเท่าของเงินเดือนเฉลี่ยของบุคคลระดับแรก ต้นทุนการบริหารโดยตรงจะ 33% ของบัญชีเงินเดือน การบริหารจะมีตันทุนสูง
โทมัส ปีเตอร์ และโรเบิรต วอเตอร์แมน ผู้เขียนหนังสือทางธุรกิจขายดีที่สุดเล่มหนึ่งของโลก “In Saearch of Excellence” ได้กล่าวถึงหลักการของบริษัทดีเด่นไว้สองข้อคือ ความคล่องตัว และความเล็ก บริษัททุกบริษัทที่เจริญเติบโตใหญ่ขึ้นย่อมจะมีความซับซ้อนมากขึ้น การตอบสนองอย่างธรรมชาติคือ การควบคุมความซับซ้อนด้วยการเพิ่มความซับซ้อนต่อไปอีก : สายงานสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น ระดับการบริหารเพิ่มมากขึ้น และจำนวนบุคคลเพิ่มมากขึ้น บริษัทยิ่งมีความสับสนเพิ่มมากขึ้น บริษัทดีเด่นได้ควบคุมความซับซ้อน และรักษาโครงสร้างที่เรียบง่าย และสายงานสนับสนุนที่เล็กเอาไว้
ขนาดของการควบคุมเป็นถ้อยคำทางทหาร หมายถึงจำนวนผู้ใต้บังคับบัญชาภายใต้การควบคุมโดยตรงของผู้บริหาร ขนาดของการควบคุมได้เริ่มต้นจากความเชี่อของผู้นำกองทัพโรมันว่า ขนาดของการควบคุมที่แคบย่อมจะมีประสิทธิภาพสูงภายในการทำสงคราม
สายการบังคับบัญ เป็นถ้อยคำทางทหาร หมายถึงลำดับชั้นของอำนาจหน้าที่ สายการบังคับบัญชาแสดงให้เห็นถึงอำนาจหน้าที่ตามสายงาน ความรับผิดชอบ และช่องทางการสื่อสารภายในองค์การ และอยู่บนรากฐานของหลักการบริหารสมัยเดิมคือ การมีผู้บังคับบัญชาคนเดียว เรามีภูมิปัญญาของกฎหมายโรมันว่า ถ้าทาสคนหนึ่งมีนายสามคนแล้ว ทาสคนนั้นจะเป็นเสรีชนทันที
ขนาดของการควบคุมมีความสำคัญมากต่อโครงสร้าง เพราะว่าขนาดของการควบคุมได้กำหนดจำนวนระดับการบริหารและจำนวนผู้บริหารภายในโครงสร้าง ถ้าขนาดของการควบคุมยิ่งกว้างเท่าไร ระดับการการบริหารยิ่งน้อยลง และโครงสร้างยิ่งแบนลงเท่านั้น ภูมิปัญญาของชนพื้นเมืองเผ่าอินเดียนแดงภายในอเมริกา มีหัวหน้าเผ่าคนเดียวเท่าน้้น นอกนั้นเป็นอิน
เดียนทุกคน
เมื่อบริษัทได้เจริญเติบโตและบรรลุความสำเร็จ บริษัทมักจะเปลี่ยนแปลง ไปสู่โครงสร้างที่ซับซ้อนมากขึ้น สาเหตุที่สำคัญคือการเพิ่มขึ้นของสายงานสนับสนุน ผู้บริหารรมักจะเรียกร้องสายงานสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น และพวกเขามักจะเทียบเท่าขนาดของสายงานสนับสนุนเท่ากับความสำเร็จ โครงสร้างจะกลายเป็นซับซ้อน อุ้ยอ้าย และไม่คล่องต้ว โทมัส ปีเตอร์ ได้ยืนยันว่าบริษัทดีเด่นได้พยายามรักษาโครงสร้างที่เรียบง่ายและคล่องตัวไว้ด้วยงานสนับสนุนน้อยสูงสุดไม่เกินหนึ่งร้อยคน โครงสร้างที่เรียบง่ายและสายงานสนับสนุนน้อยทำให้บริษัทสามารถปรับตัวกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
บริษัทหลายบริษัทได้ลดสายงานสนับสนุนของบริษัทภายในการลดขนาด ผู้ผลิตรถยนต์อเมริกันได้ลดสายงานสนับสนุนลง เพื่อที่จะเยียวยาข้อเสียเปรียบทางต้นทุนภายในการแข่งขันกับผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น
เมื่อแจ็ค เวลย์ ได้ยึดครองอาณาจักรของเจ็นเนอรัล อีเล็คทริค เขาได้ยกเลิกระดับการบริหารที่ไม่ต้องการ ก่อนที่แจ็ค เวลซ์จะกลายเป็นซีอีโอ ผู้บริหารหน่วยธุรกิจของบริษัทต้องรายงานต่อผู้บริหารสูงขึ้นไปสองระดับ ระหว่างพวกเขาและซีอีโอ แจ็ค เวลย์ ได้ยกเลิกผู้บริหารสองระดับนี้ เพื่อที่จะกำจัดจุดติดขัดขององค์การ
เขาไ้ด้มองเห็นว่าสายการบังคับบัญชาของบริษัทเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งต่อความคิดสร้างสรรค์และความล้าช้าของการตัดสินใจ ผู้บริหารหน่วยธุรกิจต้องได้ได้รับการยินยอมจากสายงานสนับสนุนของบริษัทต่อการตัดสินใจที่สำคัญทุกครั้ง ดังนั้นเขาได้ยกเลิกสายงานสนับสนุนของบริษัท 700 คน เพื่อที่จะทำให้บริษัทมีโครงสร้างที่แบนลง คล่องตัวมากขึ้น และตอบสนองได้อย่างรวดเร็วขึ้น
บริษัทหลายบริษัทได้ดำเนินการลดสายงานสนับสนุนของบริษัท ซีบีเอส ได้ลดสายงานสนับสนุนหลายร้อยคน ณ สำนักงานใหญ่ของบริษัท ไอบีเอ็ม ได้ลดสายงานสนับสนุนของสำนักงานใหญ่จาก 7, 000 คน เหลือเพียง
2, 000 คนเท่านั้น
กาแฟ ก่อน แล้วดูแล มันเป็นเวทมนต์ที่เรียบง่ายของโมเดลของการพยาบาลที่ได้ปฏิรูปการดูแลบุคคลสูงอายุภายในเนเธอร์แลนด์ เวทมนต์
นี้ได้สรุปอะไร ณ หัวใจ ของโมเดลการดูสุขภาพของบรูทซอรก มันหมาย
ถึงการค้นหาเกี่ยวกับทั้งบุคคล อะไรสำคัญต่อพวกเขา และเป้าหมายของ
พวกเขาคืออะไร
บรูทซอรก เป็นองค์การดูแลสุขภาพบุกเบิกก่อตั้งภายในเนเธอรแลนด์
บรูทซอรก ได้สร้างความเป็นอิสระ ทีมพยาบาลบริหารตัวเอง และ
สัญญาการดูแลที่บ้านคุณภาพสูง ณ ต้นทุนที่ต่ำ ผ่านทางการดูแล
บุคคลเป็นศูนย์กลาง ความต่อเนื่องของการดูแล การสร้างความสัมพันธ์
ที่ไว้วางใจ และเครือข่ายภายในเพื่อนบ้าน จอส เดอ บอลค
ซีอีโอของบรูทซอรก กล่าวว่า ผมเชื่อมั่นภายในการดูแลศูนย์กลางลูกค้า ด้วยพยาบาลมีความเป็นอิสระและความร่วมมือร่วมใจ พยายาลบนพื้นฐานชุมชนควรจะมีบทบาทศูนย์กลาง เหนือสิ่งอื่นใดพวกเขารู้ดีที่สุด พวกเขาสามารถสนับสนุนสถานการณ์เฉพาะเพื่อลูกค้าอย่างไร
วิถีทางการให้อำนาจของบรูทซอรกแก่พยาบาลและลูกค้าพิสูจน์นิยมแพร่หลายด้วยทั้งสอง เมื่ออุปสงค์ของลูกค้าได้เจริญเติบโต ทีมบรูทซอรกใหม่ได้ถูกสร้างขึ้นมา ภายใน 10 ปี เรามีพยาบาลมากกว่า 10000 คน 850 ทีมอยู่ภายในเมืองและหมู่บ้านทั่วทั้งฮอลแลนด์ เมื่อ 2016 บรูทซอรกเกิดขึ้นภายใน 24 ประเทศ อะไรทำให้โมเดลบรูทซอรกพิเศษ คือ โครงสร้างที่
แบนและการดูแลศูนย์กลางบุคคล ชื่อของมันแปลโดยตรงเป็น “การดู
แลเพื่อนบ้าน” สะท้อนโมเดลการดำเนินงานของบรูทซอรก
ศูนย์กลางของหลักการบรูทซอรกคืิอ “กาแฟก่อน จากนั้นดูแล” สรุป
วิสัยทัศน์ของเราของการรู้จักคุณ บนระดับส่วนบุคคลที่จะยืนยัน
คุณภาพของการดูแลและการสนับสนุนของคุณ ด้วยการใช้เวลา นั่ง
กับคุณและครอบครัวของคุณ และอภิปรายแผนและเป้าหมายบน
ถ้วยกาแฟ สามารถช่วยพัฒนาแผนการดูแลหรือการสนับสนุนที่มี
ประสิทธิภาพเหมาะสมต่อความต้องการของคุณ นี่ถูกทำทั้งหมดโดย
ทีมบริหารตัวเองของนักวิชาชีพดูแลสุขภาพ พวกเขาตัดสินใจกับ
คุณที่จะให้บริการของคุณอย่างไร ทีมของเราถูกไว้วาง ณ หัวใจทำการ
ตัดสินใจด้วยพวกเขาเองกับคุณและครอบครัวของคุณ
ความเป็นมนุษย์เหนือกว่าระบบราชการด้วยการรวมความเรียบง่ายไว้ภายในองค์การสีเขียวอมน้ำเงิน เมื่อ ค.ศ 2006 บรูทซอรกได้เริ่มต้นเป็นทีมพยาบาลขนาดเล็กภายในฮอลแลนด์ ภายใน 10 ปี พวกเขาได้กลายเป็นองค์การพยาบาลแนวหน้าทั่วประเทศ บริการผู้ใช้ มากกว่า 60.000 คน
แต่ละวัน ปัจจุบันนี้บุคคล 9,000 คนของบรูทซอรกดำเนินงานด้วยการ
บริหารตัวเอง
บริษัทที่มีชีวิต….. อนาคตของงาน สิ้นสุดของลำดับชั้น และการลุกขึ้นของ
องค์การสีเขียวอมน้ำเงิน
ความเป็นมนุษย์เหนือกว่าระบบราชการด้วยการรวมความเรียบง่ายไว้ภายในองค์การสีเขียวอมน้ำเงิน ดัชท์อาจจะมีชื่อเสียงต่อดอกทิวลิปและ
ชิสอีแดม
แต่วันนี้โมเดลการพยาบาลชุมชนและการดูแลสุขภาพที่บ้านนวัตกรรมของพวกเขา ได้กระตุ้นความสนใจทั่วโลก เบอรซอรก แปลว่า การดูแลเพื่อนบ้านได้ถูกมองเห็นโดยผู้ศรัทธาจำนวนมากเป็นส่วนที่สำคัญของข้อแก้ปัญหาที่จะท้าทายระบบการดูแลสุขภาพเผชิญอยู่ทั่วโลก
เมื่อ ค.ศ 2006 บรูทซอรก ได้เริ่มต้นเป็นทีมพยาบาลขนาดเล็กภายในฮอลแลนด์ การดูแลที่ดีกว่า ณ ต้นทุนที่ต่ำ – โมเเดลลบล้างของการดูแลที่บ้าน โมเดลดัชท์ของการดูแลเพื่อนบ้านที่ไปสู่โลก
โมเดลพยาบาลนวัตกรรมที่กำจัดระบบราชการ และให้พยาบาลอิสระภาพ
และเวลามากขึ้นกับผู้ใช้
ภายใน 10 ปี พวกเขาได้กลายเป็นองค์การพยาบาลแนวหน้าทั่วประเทศ บริการผู้ใช้ มากกว่า 60,000 คนแต่ละวัน บรูทซอรก ได้เจริญเติบโตจาก
พยาบาลสี่คนเหล่านี้เป็นพยาบาลมากกว่า 10,000 คน เพราะว่าพวกเขา
ให้การดูแลดีกว่า ณ ต้นทุนต่ำกว่าต่อลูกค้าหนึ่งคน
ปัจจุบันนี้บุคคล 9,000 คนของบรูทซอรกดำเนินงานด้วยการบริหารตัวเอง ดำเนินงานใช้ทีมอิสระของพยาบาล 12 คน พวกเขาทำงานทุกอย่างของการสร้างคุณค่าคือ การวางแผน ตารางเยี่ยม การประสานงาน การให้บริการ และโทรศัพท์ พวกเขาไม่มีศูนย์กลางโทรศัพท์ และทีมไม่มีผู้นำหรือผู้บริหาร
หลักการรากฐานของโมเดลคือ พยาบาลกระทำเป็น “โค้ชสุขภาพ” ต่อบุคคลเเละครอบครัวของพวกเขา มุ่งเน้นมาตรการสุขภาพป้องกัน แต่ให้
การดูแลที่จำเป็นด้วยตัวพวกเขาเองด้วย กฏทองคือ พยาบาลต้องใช้ 61% ของ
เวลาของพวกเขาสัมผัสโดยตรงกับบุคคลที่พวกเขาช่วยเหลือ
ทีมบริหารตัวเองมีอิสระภาพทางวิชาชีพด้วยความรับผิดชอบ ทีม 12 คน
ภายในเพื่อนบ้าน ดูแลบุคคลที่ต้องการความช่วยเหลือ และบริหารงานของทีม ทีมใหม่จะหาสำนักงานของพวกเขาเองภายในเพื่อนบ้าน ใช้เวลาแนะนำตัวพวกเขาต่อชุมชนท้องที่ ทีมบรูทซอรก มีจิตวิญญานผู้ประกอบการปรับปรุงองค์การและบริการอย่างต่อเนื่อง นวัตกรรมของบรูทซอรกทุกอย่างเกิดขึ้นจากบุคคลหนึ่งหรือทีมมีความคิด และอิิสระภาพพยายามบางสิ่งบางอย่างที่ใหม่
เราพยายามป้องกันมันกลายโครงสร้างการประชุม จอส เดอ บลอค อธิบาย
ทีมของเขาถูกกระตุ้นที่จะคิดอย่างเสรีภายในการค้นหาคำตอบแก่ความ
ต้องการดูแลของบุคคล ใช้นักวิชาชีพและผู้อาสาสมัครคนอื่น ความเป็นอิสระดีขึ้น เมื่อทีมสร้างเครื่อขายที่จะเเก้ปัญหาของพวกเขาเอง
โมเดลหัวหอมของบรูทซอรกวางลูกค้า ณ จุดศูนย์กลาง มันเริ่มต้นจาก
มุมมองของลูกค้า โมเดลนี้ใช้เป็นจุดเริ่มต้นพยายามให้ข้อแก้ปัญหาแก่
ลูกค้าที่ต้องการดูแล แต่ต้องการรักษาความเป็นอิสระของพวกเขา และ
ปรับปรุงคุณภาพชีวิตของพวกเขา ผู้ป่วยอยู่ภายในตรงกลาง ด้วยเพื่อน
ครอบรัว และเพื่อนบ้าน หุ้มรอบพวกเขาอย่างใกล้ชิด
ด้วยลูกค้า ณ แกนของหัวหอม ทีมบรูทซอรกอยู่ยนรากฐานทั้งเครือข่ายไม่เป็นทางการ เช่น เพื่อน
และครอบครัว และเครือข่ายเป็นทางการ เช่น นักวิชาชีพดูแล ปรับปรุงแผน
ดูแลของบุคคลให้เหมาะสม
โมเดลหัวหอมรวบรวมรากฐานเพื่อความเป็นอิสระบน พื้นฐานค่านิยมของมนุษย์โดยทั่วไป
*บุคคลต้องการควบคุมชีวิตของพวกเขาเองยาวนานเท่าที่เป็นไปได้
*บุคคลพยายามรักษาหรือปรับปรุงคุณภาพชีวิตของพวกเขา
*บุคคลแสวงหาการเกี่ยวพันระหว่างกันและกันทางสังคม
*บุคคลแสวงหาความสัมพันธ์อย่างอบอุ่นกับบุคคลอื่น
จอส เดอ บอลค ตัวเขาเองเป็นพยาบาล เชื่อภายในวิถีทางให้อำนาจทีมพยาบาลนำและให้อำนาจผู้ป่วยด้วย เขาเชื่อว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถถูกกระตุ้น
มีส่วนร่วมด้วยกันกับพยาบาลบรูทซอรก เพื่อการค้นหาข้อแก้ปัญหาต่อ
ความต้องการดูแลที่บ้านของพวกเขา และข้อแก้ปัญหาเหล่านี้หลาย
อย่างสามารถค้นพบอย่างถูกต้องภายในชุมชน
จุดสำคัญ บรูทซอรกให้อำนาจแก่พยาบาล แทนที่จะเป็นผู้ช่วยพยาบาล
หรือผู้ทำความสะอาด ให้การดูแลทุกอย่างที่ผู้ป่วยต้องการ ในขณะที่
มันหมายถึงต้นทุนต่อชั่วโมงสูงขึ้น ผลลัพธ์จำนวนชั่วโมงน้อยลงโดย
ส่วนรวม ที่จริงแล้วโดยการเปลี่ยนแปลงโมเดลของการดูแล บรูทซอรก
ได้บรรลุการลด 50% ของชั่วโมงการดูแล ปรับปรุงคุณภาพของการดูแล
และเพิ่มความพอใจงานแก่บุคคลของพวกเขา
สำนักงานใหญ่ของบรูทซอรกมีบุคคล 50 คนส่วนใหญ่เป็นไอที โคชตาม
คำขอ 36 คน และผู้บริหารสองคน หนึ่งคนเป็นจอส นั่นคือผู้บริหารหนึ่งคน
ต่อบุคคล 8,000 คน แกรี ฮาเมลอุทาน มันลีนเหลือเกิน เราวางฮิวแมนนอค
เครซีเหนือบิวรอคเครซี
บรูทซอรก เขี่ยวชาญภายในสาขาของการพยาบาลชุมชน และการดูแล
สุขภาพชุมชน องค์การได้กลายเป็นมีชื่อเสียงต่อวิถีทางที่ผิดธรรมดา
ที่จะดูแลผ่านทางทีมบริหารตัวเอง ทีมเหล่านี้ดำเนินงานด้วยไม่มีลำดับ
ชั้นการบริหาร และการมุ่งที่พวกเขาสามารถทำงานได้ดีที่สุดกับผู้ป่วย
อย่างไร บรูทซอรก เป็นภาษาดัืทช์แปลว่า “การดูแลเพื่อนบ้าน” มันไม่ได้
เป็นแนวคิดใหม่ เดอะ ควีน’ส เนิรส ออฟ สก็อตแลนด์ ได้ปฏิบัติภายใน
วิถีทางนี้มาหลายปี ผลงานของจอส เดอ บอลค
ได้เตือนใจเราถึงความสำคัญของ
การทำงานกับและภายในชุมชน ตรงที่ความสัมพันธ์อย่างมีคุณค่าอยู่
ณ หัวใจของทุกสิ่งที่เราทำ
โมเดลบรูทซอรก เป็นการส่งออกที่มีชื่อเสียงอย่างหนึ่งของเนเธอรแลนด์
วันนี้ แม้ว่าอาจจะไม่เท่าเทียมกับบิสคิทอีดามหรือวินด์มิลล์ แต่ปรากฏอยู่
ภายในยี่สิบห้าประเทศ ยิ่งกว่านั้นคู่แข่งขันจำนวนมากของบรูทซอรกได้
รับเอาโมเดลของพวกเขาไว้ด้วย จอส เดอ บลอก ประมาณ 70% ของ
องค์การดูเเลสุขภาพภายในเนเธอรแลนด์ได้สับเปลี่ยนไปยังทีมบริหาร
ตัวเอง เขากล่าว่า ความทะเยอทะยานของผมภายในฮอลแลน์คือ การ
เปลี่ยนแปลงระบบการดูแลสุขภ่พ เราบรรลุความสำเร็จค่อนข้างดี
เมื่อ ค.ศ
2007 รัฐมนตรีสาธารณสุข มองเห็น จอส เดอ บลอค ทางโทรทัศน์ เธอได้ขอว่าเธอสามารถเข้าร่วมทีมของพยาบาลบรูทนอรกด้วยจักรยานของเธอได้
หรือไม่ เธอชอบอะไรที่เธอมองเห็น และได้เชิญบรูทซอรกมาเยี่ยม
กระทรวงสาธารณสุข และจากที่นี่การริเริ่มได้นำไปสู่บรูทซอรกถูกขอ
ให้พัฒนานโยบายประเทษบนพื้นฐานโมเดลของพวกเขา เธอต้องการ
ค้นหาวิถีทางเปลี่ยนแปลงระบบการดูสุขภาพด้วยตัวเธอเอง
ทีมบริหารตัวเองดูแลลูกค้าของพวกเขา ด้วยความมุ่งหมายของการทำให้พวกเขาแข็งแรงขึ้นและเป็นอิสระ เพื่อที่จะบรรลุความมุ่งหมายนี้พยาบาลให้การดูแลอย่างครอบคลุม ขอบเขตตั้งการปฏิบัติและการดูแลทางเเพทย์ ไปจนถึงบริการสนับสนุน เช่น แต่งตัวอาบน้ำ ตระเตรียมอาหารเบา และพยายามรวบรวมเครือข่ายทางสังคมของลูกค้า เป็นส่วนหนึ่งภายในการดูแล จอส เดอ บลอค กล่าวว่า บรูทซอรก แตกต่างจากองค์การดูแลที่บ้านสมัยเดิมภายในการสร้างข้อแก้ปัญหา ไม่ใช่การให้บริการ
จอส เดอ บลอค ไมพอใจกับการดูแลสุขภาพขับเคลื่อนด้วยระบบราชการ เขาได้พยายามเพื่อโมเดลองค์การที่มุ่งความสัมพันธ์อย่างมีคุณค่าและไม่มีลำดับชั้น ความคิดของบรูทซอรกกำเนิดจากความเชื่อว่าวิถีทางมนุษย์นิยม
ถูกต้องการภายในการบริหาร ดังนั้นบุคคลสามารถเป็นเจ้าของงานประจำวันของพวกเขา สามารถพอใจกับผลลัพธ์ของพวกเขา และมีส่วนช่วยเหลือสังคมอย่างมีคุณค่า ความเป็นมนุษย์เหนือระบบราชการเป็นเวทย์มนตร์ขององค์การ การเริ่มต้นด้วยทีมบริหารตัวเองของพยาบาลสี่คนภายในเมืองเล็กของอัลมีโอเมื่อ ค.ศ 2007 พวกเขาได้เจริญเติบโตจากบุคคล 4 คนเป็น 10,000. คนภายใน ค.ศ 2016 โดยไม่ใช้การตลาดใดเลย
ตลอดหลายปีที่แล้ว บรูทซอรก ด้วยโมเดลองค์การที่ก้าวหน้า ไม่เพียงแต่
ปฏิรูปอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพเท่านั้น แต่ได้ดึงจินตนาการของบุคคล
จำนวนมาก รวมทั้งกูรูการบริหารเหมือนเช่นเฟดเดอริค ลาโลซ์ และเเกรี่
ฮาเมล
ทีมบรูทซอรก ไม่มีนาย สมาชิกของทีมทุกคน – โดยทั่วไป 10 ถึง 12 คน
เป็นพยาบาล พวกเขาบริหารงานทุกอย่างตามปรกติที่เกิดขึ้นภายใน
สภาพแวดล้อมของทุกทีม พวกเขากำหนดทิศทางและลำดับความสำคัญ
และวิเคราะห์ปัญหา ประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคคล และทำการตัดสินใจที่ยากตามโอกาส แทนที่จะอยู่กับบุคคลเดียว – นาย สมาชิกของทีม
กระจายการบริหารงานเหล่านี้ท่ามกลางตัวพวกเขาเอง
ขนาดของการสนับสนุน – อะไรที่องค์การสมัยเดิมเรียกว่าขนาดของ
การควบคุม ของโค้ชภูมิภาคของบรูทซอรกกว้างมาก โดยเฉลี่ย โคช
หนึ่งคนสนับสนุนทีม 40 ถึง 50 ทีม
แม้ว่าเดอบอลคมองตัวเขาเองพื้นฐานเป็นผู้ประกอบการคนหนึ่ง เขา
รักษาการสัมผัสผู้ป่วยไว้ “มันบันดาลใจ” เขาอธิบาย ตัวอย่างเช่น ผม
ไดรับจดหมายฉบับหนึ่ง ภายหลังการเสียชีวิตของเธอ จากผู้ป่วยโรค
มะเร็งอายุ 31 ปี เธอขอบคุณเราต่อเดือนสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต
ของเธอ เธอมีเพื่อนผู้หญิง – ผู้ดูเเล สี่คน นำเธอบนเปลหามคนเจ็บไปยังสถานที่เธอต้องการไปเยี่ยมครั้งสุดท้าย
แรงจูงใจและความลุ่มหลงของพยาบาลยากที่จะขาดไป เมื่อพวกเขาได้เริ่มต้นอธิบายอย่างภูมิใจพวกเขาดูแลเพื่อนบ้านของพวกเขาเองอย่างไร วิถึทางการทำงานของบรูทซอรกทำให้พวกเขาเป็นอิสระ เรารู้สึกเป็นอิสระ
ชื่นชมมากขึ้น และควบคุมอย่างเต็มที่เราสามารถให้การดูเเลสุขภาพแก่ลูกค้าของเราดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้อย่างไร ไม่ใช่การทำงานด้วยระบบ
ราชการที่คับอกคับใจ เราสามารถทำอะไรที่เรารักที่จะทำ : การดูแล
ลูกค้าของเรา
แต่กระนั้นบรูทซอรกยังคงมีสำนักงานใหญ่ที่เล็กของบุคคล 50 คนเท่านั้น
ให้การสนับสนุนพยาบาลน้อยที่สุด และดูแลการชำระเงินและการเรียก
เก็บเงิน สำนักงานใหญ่นี้มีหน้าที่อย่างเดียว สำนักงานใหญ่
ดูแลของระบบราชการที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นพยาบาลจะไม่ถูกรบกวน
ด้วยมัน การคิดเกี่ยวกับการเก็บเงินค่าดูแลสุขภาพ การทำงบการเงิน
อย่างเป็นทางการ และความมั่นใจว่าพยาบาลได้รับรายได้ เรามีโค้ช
18 คนสนับสนุนทีมด้วยปัญหาที่พวกเขาไม่สามารถแก้ไขได้ แกนของ
หลักการของบรูทซอรกคือ คุณค่าของความสัมพันธ์ และสายสัมพันธ์
ระหว่างพยาบาลและผู้ป่วย สนับสนุนด้วยโครงสร้างที่แบนมากด้วย
ผู้บริหารระดับสูงคนเดียวประสานงานทีมบริหารตัวเองครอบคลุม
พื้นที่
ทีมใหม่ยังคงเข้าร่วมบรูทซอรกเป็นประจำ ทีมใหม่สามารถสมัครที่จะ
ดูแลเพื่อนบ้านของพวกเขาเองได้ เมื่อพวกเขาเริ่มต้น พวกเขาส่วนใหญ่
พึ่งพาตัวพวกเขาเอง เราสังเกตุว่าทีมใช้เวลานานที่สุดพร้อมที่จะทำงาน
ได้ สิ่งนี้เราได้เรียนรู้ให้ไปทำและปล่อยทีมค้นหาวืถีทางของพวกเขา
เองอย่างไร
“บอกผมเกี่ยวกับคุณ” ถ้อยคำสี่คำมีความหมายอย่างมาก ถ้อยคำสี่คำที่เราใช้ทุกวัน ถ้อยคำสี่คำสามารถช่วยให้เรารู้จักระหว่างกัน ถ้อยคำสี่คำสามารถทำลายอุปสรรค เวทมนต์
กาแฟก่อน แล้วดูแล ของบรูซอรกสามารถทำให้ทีมบริหารตัวเองทุ่มเทอย่างเเท้จริงตัวพวกเขาเองที่จะ “บอกผมเกี่ยวกับคุณ” วิถีทางนี้ช่วยให้
พยาบาลรู้จักผู้ป่วย และชื่นชมประวัติของพวกเขาด้วยวิถีทางส่วนบุคคล
พยาบาลใช้เวลาที่จะนั่งลง ดื่มถ้วยกาแฟและทำความรู้จักผู้ป่วย ความ
ไว้วางใจอย่างลึกซึ้งสามารถฝังรากภายในความสัมพันธ์
ภายในบรูทซอรก พยาบาลทำงานภายในทีม 10 ถึง 12 คน ด้วยแต่ละ
ทีมดูแลผู้ป่วยประมาณ 50 คน ภายในหมู่บ้านเล็ก พวกเขารับผิดชอบไม่
เพียงแต่เพื่อการดูแลเท่านั้น เเต่เพื่อการตัดสินใจผู้ป่วยจำนวนกี่คนและ
คนไหนด้วย พวกเขาตัดสินใจที่จะเช่าสำนักงานที่ไหน และตกแต่งมัน
อย่างไรด้วย
พวกเขาพิจารณาที่จะรวมกับชุมชนท้องที่ให้ดีที่สุดอย่างไร แพทย์ และเภสัชกรคนไหนที่จะเข้าหา และทำงานอย่างดีที่สุดกับโรงพยาบาลท้องที่อย่างไร พวกเขาตัดสินใจถ้าพวกเขาต้องการขยายทีม หรือแตกมันเป็นสองทีม ถ้าพวกเขามีลูกค้ามากกว่าที่พวกเขาสามารถตามทัน และพวกเขาตรวจสอบการปฏิบัติงานของพวกเขาเอง และตัดสินใจเกี่ยวกับการแก้ไขถ้าประสิทธิภาพลดลง พวกเขาไม่มีผู้นำภายในทีม การตัดสินใจที่สำคัญกระทำร่วมกัน
Cr : รศ สมยศ นาวีการ