jos55 instaslot88 Pusat Togel Online มิติคูล : ตู้เย็นดินเหนียว - INEWHORIZON

INEWHORIZON

ขอบฟ้าใหม่

มิติคูล : ตู้เย็นดินเหนียว

มิติคูล : ตู้เย็นดินเหนียว

ภาษาอินเดียไม่มีถ้อยคำเพื่อนวัตกรรม แต่อินเดียมีจูกาด มันหมายถึงข้อแก้ปัญหาทางปฏิบัต ควมคิดริเริ่มด้วยทรัพยากรที่จำกัด และเรียนรู้จากหลัการของความยืดหยุ่นและความประหยัด จูกาดยิ่งใหญ่กว่าคำพูด มันเป็นความคิด
เพื่อการอธิบาย อาจารย์ใจดี พราบู ได้ชี้ที่กล่องดินเหนียวภายในมุมของห้องของเขา มันเป็นการคิดค้นที่ฉลาด มันไม่ต้องใช้ไฟฟ้า ย่อยสลายทางชีวภาพ 100% และสร้างของเสียเป็นศูณย์
นาวี ราดจู ได้กล่าวถึงนักนวัตกรรมจูกาดแสวงหาโอกาสภายในความยากจน ตัวอย่างของผู้ประกอบการรากหญ้าที่ชื่นชอบของเขาคือ ชาวบ้านคนหนึ่งชื่อ มันสุข ปราจาปาตี เขามีชีวิตอย่างแท้จริงอยู่ภายในทะเลทรายของอินเดีย เขาอยู่ภายในภูมิประเทศตรงที่ไม่เพียงแค่ไม่ได้สร้างไฟฟ้าเท่านั้น แต่พวกเขาเข้าหาไฟฟ้าไม่ได้ด้วย แต่แม้ว่าถ้าพวกเขาสร้าง ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่สามารถรับภาระมันได้
เมื่อ ค.ศ 2001 แผ่นดินไหวทำให้เกิดความเสียหายอย่างกว้างขวางภายใน
รัฐคุชราต มันได้ทำลายสินค้าคงเหลือหม้อดินของเขาที่ใช้เพื่อทำให้น้ำเย็น
มันสุข ปราจาปาตี ช่างปั่นหม้อดิน ได้พบแรงบันดาลใจของเขา การอ่านคำอธิบายภาพ “ตู้เย็นของคนยากจนพังทลาย” ภายใต้ภาพของหม้อดินพังทลายภายในหนังสือพิมพ์ กระตุ้นความคิดแก่เขา ทำไมไม่ใช้ดินเหนียว เขาคิด สร้างตู้เย็นอย่างแท้จริงแก่ชาวบ้าน ตู้เย็นที่คล้ายกับตู้เย็นธรรมดา แต่ถูกกว่ามากและไม่ต้องใช้ไฟฟ้า เขาได้ทดลองด้วยการออกแบบดินเหนียวแตกต่างกันตลอดหลายเดือน และในที่สุดได้สร้างมิติคูล – ตู้เย็นที่ไม่ใช้ไฟฟ้าและราคาถูกอย่างมากต่อชาวบ้านที่เข้าหาไฟฟ้าไม่ได้ ตู้เย็นดินเหนียวได้กลายเป็นนิยมแพร่หลายอย่างรวดเร็ว และบริษัทของเขาได้สร้างผลิตภัณฑ์ดินเหนียวหลายอย่างในขณะนี้ ชาวอินเดียมากกว่าห้าร้อยล้านคนมีชีวิตอยู่โดยไม่มีไฟฟ้า
รวมทั้งบุคคลส่วนใหญ่ภายในหมู่บ้านของปราจาปาตี
มันสุข ปราจาปาตี ทำงานอย่างไม่รู้จักเหนื่อยกับการปรับปรุงการออกแบบ และได้เริ่มต้นขายมิติ คูล ทั่วอินเดีย และจากนั้นระหว่างประเทศ เขาไม่สามารถตามทันกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น และค้นหาวิถีทางที่จะขยายขนาดอย่างรวดเร็ว จากนั้น
เขามียูเรก้า โมเม้นต์ครั้งที่สอง ทำไมไม่เปลี่ยนแปลงเครื่องปั้นดินเผา จากงานช่างฝีมือเป็นกระบวนการอุตสาหกรรม เขายกระดับความรู้สมัยเดิมของเครื่องปั้นดินเผาเป็นการผลิตจำนวนมากตอบสนองความต้องการของลูกค้าสมัยใหม่ มีนสุข ปราจาปาตี ได้พัฒนาวิธีการใหม่ทั้งหมดของการทำงานกับดินเหนียว เขาได้เริ่มต้นฝึกอบรมผู้หญิงภายในหมู่บ้านกับเทคนิคเครื่องปั้นดินเผาทางอุตสาหกรรมนี้ และในที่สุดได้ว่าจ้างพวกเขาทำงานภายในโรงงานใหม่ ในไม่ช้าการปฏิวัติอุตสาหกรรม “มินิ” ภายในเครื่องปั้นดินเผาได้ถูกเปิดตัวภายในหมู้บ้านอินเดียห่างไกลนี้
มิติ คูล เป็นผลิตภัณฑ์แรกที่ปราจาปาตีผลิตแบบจำนวนมากภายในโรงงานของเขา ในไม่ช้าเขาได้สร้างผลิตภัณฑ์อื่นจากดินเหนียว เช่น กระทะ
ที่รักษาความร้อนได้นานกว่ากระทะอื่น และต้นทุนเพียง 2 เหรียญเท่านั้น
มันสุข ปราจาปาตี ถูกเลี้ยงดูภายในครอบครัวดำรงชีวิตอย่างถ่อมตัวโดยการใช้มือผลิตเครื่องครัวจากดินเหนียวท้องที่ มันสุข ปราจาปาตี ไม่เพียงแต่ดำเนินประเพณีของครอบครัวต่อไปเท่านั้น แต่เขาได้นำธุรกิจไปสู่ระดับสูงขึ้นใหม่จนชื่อของเขาได้ปรากฏภายในรายชื่อผู้ประกอบการท้องที่สูงสุดลำดับเจ็ดของวารสารฟอร์บ ครอบครัวของเขาได้อพยพมาจากวานคาเนอร์ ภายหลังจากเขื่อนแตกเมื่อ ค.ศ 1979
เมื่อ ค.ศ 2010 มันสุข ปราจาปาตี ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ของเขาทั่วทั้งอินเดีย และได้รับคำสั่งซื้อจาก 41 ประเทศด้วย มันสุข ปราจาปาตี ได้ชนะหลายรางวัลของประเทศ และบริษัทของเขา มิติคูล เคลย์ ครีเอชั่น ได้รับการยกย่องทั่วโลก ในไม่ช้าเราหวังที่จะมองเห็น “บ้านมิติ คูล” ตรงที่เเสงสว่างและความเย็นเป็นธรรมชาติและไม่มีไฟฟ้า เขาได้ถูกยกย่องเป็นนักวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริงต่อการคิดค้นอย่างน่าประหลาดใจของเขา
นักคิดค้นคนนี้และเรื่องราวประวัติส่วนบุคคลของเขาน่าประทับใจมาก มันสุข ปราจาปาตี ไม่ได้ทำงานกับนาซา หรือเวิร์ลพูล และเขาไม่ได้จบพีเอชดี ทางฟิสิกส์ หรือเอ็มบีเอจากแสตนฟอร์ด ที่จริงแล้วแม้แต่ไม่จบโรงเรียนมัธยมเลย
ห้องทดลองอาร์ แอนด์ ดี ของเขา ห้องเปิดโล่งเรียบง่ายด้วยดินเหนียวบนพื้น และเตาเผาสอดอยู่ที่มุม แตกต่างอย่างมากจากวิทยาเขตที่แผ่บริเวณของจีอีและเวิร์ลพูล เต็มไปด้วยวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์หลายร้อยคน
มิติ คูล ความคิดเกิดจากสถานการณ์ที่เป็นผลร้าย แสดงความคิดที่ยืดหยุ่น
สามารถปฏิรูปความขาดแคลนเป็นโอกาสอย่างไร การรวมทรัพยากรที่จำกัดและทัศนคติอย่าท้อแท้ มันสุข ปราจาปาตี ได้ใช้ประโยชน์ความเห็นอกเห็นใจและความลุ่มหลงของเขาต่อเพื่อนชุมชนที่ยากจน

ภายในภูมิศาสตร์โลกของนวัตกรรม อินเดียคร่อมสองทวีป วิศวกรส่วนหนึ่งของไมโครซอฟท์ เป็นชาวอินเดีย ความสำเร็จของชาวพลัดถิ่นนี้สะท้อนความสามารถของวิศวกรอินเดีย แต่มันสามารถเชื่อมโยงกับว้ฒนธรรมนวัตกรรมต้นกำเนิดด้วย
จูกาดเป็นกรอบความคิดที่ค้นหาข้อแก้ปัญหาเกิดขึ้นจากความฉลาดของมนุษย์ มันเป็นแก้ไขที่ฉลาดและทันควัน อาจจะหรือไม่อาจจะมีความซับซ้อนที่เหมาะสมถูกเรียกว่านวัตกรรมแบบประหยัด มันเป็นเทคโนโลยี่ระดับต่ำส่วนใหญ่ จูกาดสามารถถูกระบุเป็นศิลปของการสร้างข้อแก้ปัญหาชีวิต
สถานการณ์โควิด 19 ด้วยการปิดประเทศและระยะห่างทางสังคม เป็นเวลาที่สมบูรณ์ที่จะมองเห็นตัวอย่างของจูกาด มีนเป็นสถานการณ์ชั่วคราว แต่ชีวิตประจำวันได้ถูกกระทบอย่างรุนแรง ดังนั้นการมีระยะห่างทางสังคม และให้การจัดสงที่ปลอดการสัมผัส แม้แต่การขึ้นและลงจากรถจักรยายนยนต์ด้วยภาชนะทุกอย่างเป็นงานที่เขาหลีกเลี่ยงด้วยวิถีทางนี้
อินเดียเป็นประเทศที่ประชาชนส่วนใหญ่มาจากชนบท และพวกเขาส่วนใหญ่อยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน ด้วยเหตุนี้พวกเขามีการเข้าสู่เทคโนโลยี การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐานอื่นอย่างจำกัด แต่บุคคลมีความคิดที่สร้างสรรค์และทักษะของการกระทาเดี๋ยวนั้น ดังนั้นพวกเขาต้องคิดและกระทำเลยพ้นจากภูมิปัญญาที่ยอมรับกัน
เรามีความคิดที่ผิดธรรมบางอย่างที่มองเห็นได้จากจูกาด ตรงที่บุคคลแก้ปัญหาใหญ่ในขณะที่มีข้อจำกัดของทรัพยากรและเงิน จูกาดไม่ได้เป็นข้อ
แก้ปัญหาสุดท้าย มันเป็นข้อแก้ปัญหาชั่วคราว และแก้ปัญหาความต้องการ
ในขณะนั้น จากนวัตกรรมจูกาดไปสู่นวัตกรรมแบบประหยัด จูกาดเป็นการเริ่มต้นที่ดี หรือความคิดที่ฉลาดในแง่ของการคิดสร้างสรรค์และแนวนอน ดังนั้นมันอยู่เราที่จะนำความคิดนั้นไปข้างหน้าและสร้างสรรค์ต่อไป ทำให้มันยั่งยืน และคิดมันจากมุมมองของต้นทุน กระบวนการ และการปฏิบัติงานสูงสุด
นวัตกรรมแแบประหยัดเป็นนวัตกรรมต้นทุนต่ำแต่คุณภาพสูงที่รับภาระได้ยั่งยืน และขยายขนาดได้มากขึ้น มันรับรองความสามารถขยายขนาดและผละกระทบทวีคูณ ด้วยสายตาของการให้ประโยชน์ทางสังคมด้วยกำไรต่ำสุด
นวัตกรรมแบบประหยัดอยู่บนพื้นฐานหลักการของทำได้มากแต่ใช้น้อยลงเหมือนจูกาด แต่มันไม่ได้แก้ไขอย่างรวดเร็วและชั่วคราว มันเป็นระยะยาวมากขึ้น สามารถยั่งยืนและเจริญเติบโตเมื่อมันขยายขนาดขึ้น
นวัตกรรมแบบประหยัดสามารถกลายเป็นนวัตกรรมแบบย้อนกลับ ในขณะที่จูกาดไม่สามารถ นวัตกรรมแบบประหยัดสามารถลบล้างในขณะที่จูกาดขาดพลังที่ต้องการไปไกล ประเทศที่พัฒนาแล้วได้เริ่มต้นใช้ความพยายามอาร์ แอนด์ ดี ภายในตลาดเกิดใใหม่ ต้นทุนของอาร์ แอนด์ ดี ภายในหลายบริษัทเป็นพันล้านเหรียญเป็นตัวยับยั้งอย่างมาก และนวัตกรรมแบบประหยัดสามารถเป็นผู้พลิกเกมได้
ถ้อยคำจูกาด เป็นภาษาฮินดี หมายถึงข้อแก้ป้ญหาเฉพาะหน้า นาวี ราดจูเรียกมันว่า จิตวิญญานแมคกายเวอร์ มันเป็นความสามารถที่จะคิดค้นข้อแก้ปัญหาที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพโดยใช้ทรัพยากรที่จำกัดมาก เรามองเห็นทีกษะที่ยืดหยุ่นและทันควันนี้อย่างมากภายในการปฏิบัติของตลาดเกิดใหม่ภายในอินเดีย จีน และอัฟริกา ตรงที่บุคตลมีทรัพยากรจำกัดอย่างแท้จริงแต่ปัญหาใหญ่ การรวมกันของปัญหาใหญ่และทรัพยากรทีจำกัดนี้นำไปสู่ทันทีทันควัน
และความประหยัดอย่างมากภายในการสร้างข้อแก้ปัญหาอย่างไร นั่นคือจิต
วิญญานของนวัตกรรมแบบจูกาด ภายในหนังสือ Frugal Innovation นาวี
ราดจู ได้กล่าวถึงความคิดของการทำมากขึ้นด้วยการใช้น้อยลง การคิดค้นข้อแก้ปัญหาที่เรียบง่ายมากอย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว โดยไม่ต้องมีห้องทดลองอาร์ แอนด์ ดีใหญ่โต หรืองบประมาณมาก และความคิดประหยัดและยืดหยุ่นได้กลายเป็นสัมพันธ์กันภายในโลกตะวันตกอย่างไร และนั่นคือแนวคิดได้วิวัฒนาการเรียกกันว่านวัตกรรมแบบประหยัดอย่างไร
นาวี ราจู ได้กล่าวว่า เรามีคุณลักษณะห้าอย่างที่เราเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์แบบประหยัด ทางกายภาพสี่อย่างและไม่มีตัวตนหนึ่งอย่าง คุณลักษณะทางกายภาพสี่อย่างคือ การรับภาระได้ ความเรียบง่าย ความยั่งยืน และคุณภาพ
ที่สำคัญ เราต้องพยายามสร้างข้อแก้ปัญหาที่รีบภาระได้ไปไกลกว่ามากที่เราขายอะไรอยู่วันนี้ หรืออะไรที่ตลาดกำลังนำเสนออยู่วันนี้ เราต้องมุ่งเน้นอย่างมากบนการทำให้ข้อแก้ปัญหาเรียบง่าย ดังนั้นผู้ใช้จะไม่ถูกท่วมท้น เราต้องคิดในแง่ของความยั่งยืน เพราะว่าผลิตภัณฑ์ถูกผลิตจากการรีไซเคิล การใช้พลังงานน้อยลง และมลภาวะน้อยลง ผลิตภัณฑ์ราคาถูกลงและสร้างคุณค่าเพิ่มขึ้น และเราทำทุกอย่างโดยไม่เสียคุณภาพ การพิจารณาตัวอย่างของเครื่องมือแพทย์ของซีเมนส์ เราไม่ประนีประนอมระหว่างคุณภาพหรือความปลอดภัย
นี่คล้ายกับสมการด้วยตัวแปรสี่ตัวที่เราพยายามแก้ แต่เราคุณลักษณะที่ห้า ไม่มีตัวตน นี่คือความมุ่งหมาย เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้ว เราต้องมีความมุ่งหมายต่ออะไรที่เราทำอยู่ ผลิตภัณฑ์ที่เรานำเสนอต้องมีความหมายที่กว้างขึ้น
ความท้าทาย อย่างน้อยที่สุดต่อบริษัทตะวันตกจำนวนมากคือ พวกเขารู้ทำให้ใหญ่ขึ้นดีขึ้นอย่างไร แต่มันยากต่อพวกเขาทำให้เรียบง่ายลงและประหยัดมากขึ้น เรามีวิถีทางสองอย่างที่จะดำเนินการกลยุทธ์นวัตกรรมแบบประหยัดจากมุมมองขององค์การ ข้อเเรกคือ การเริ่มต้นด้วยโครงการทดลองที่จะเเสดงว่าเราสามารถสร้างบางสิ่งบางอย่างถูกกว่า รวดเร็วกว่า ดีกว่า ขัอสองคือ การคิดค้นใหม่ทั้งบริษัทผ่านทางเลนส์ของความประหยัด
เราได้มองเห็นลูกค้าภายในประเทศที่พัฒนาแล้วกลายเป็นความรู้สึกทางคุณค่ามากขึ้นด้วย พวกเขามองหาผลิตภัณฑ์ที่มึคุณค่าดี และมาจากบริษัทที่รับผิดชอบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม นี่ได้สร้างแรงกดดันต่อบริษัทภายในโลกตะวันตกมองที่พวกเขาสามารถทำได้มากขึ้น และดีขึ้น ด้วยการใช้น้อยลงอย่างไร การคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่รับภาระได้และยั่งยืน การตอบสนองความต้องการของคุณค่ามากขึ้น และลูกค้าที่รู้สึกทางคุณค่าภายในอเมริกาและยุโรป
นาวี ราดจู ได้ช่วยบริษัทคิดเกี่ยวกับการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ถูกกว่าและยั่งยืนมากขึ้นอย่างไรโดยใช้กระบวนการนวัตกรรมแบบประหยัด การมุ่งที่การรับภาระได้ ความเรียบง่าย ความยั่งยืน คุณภาพ และความมุ่งหมาย เขาได้ให้ตัวอย่างของจูกาดสมัยเดิม และตัวอย่างของนวัตกรรมแบบประหยัดภายในบริษัท
มิติคูล ตู้เย็นต้นทุนต่ำ ย่อยสลายได้ ทำจากดินเหนียว เป็นตัวอย่างที่ยิ่งใหญ่ของนวัตกรรมแบบจูกาด การสร้างผลิตภัณฑ์และกระบวนการอุตสาหกรรมใหม่ด้วยการศึกษาและเงินทุนอย่างจำกัด ความคิดที่ยืดหยุ่นทำให้นักนวัตกรรมใช้วัตถุดิบอายุนับพันปีเหมือนเช่นดินเหนียวสร้างตู้เย็นจากมัน และความเรียบง่ายที่ทำให้ขุมชนมีชุมชนผลิตและขายนมเป็นครั้งแรก และภายในวิถีทางเป็นมิตรทางสิ่งแวดล้อม ที่น่าสนใจผู้ใช้หลายคนของมิติคูลกล่าวว่า
อาหารรรสชาติดีกว่าเมื่อเก็บรักษาไว้ภายในมัน เปรียบเทียบกับตู้เย็นธรรมดา เพราะว่ามันให้ความชื้นแก่อาหารไม่ใช่ทำให้มันแห้ง
มิติคูล เป็นการคิดค้นของมันสุข ปราจาปาตี ถูกเลี้ยงดูภายในครอบครัวของช่างปั้นหม้อดิน พวกเขามีการดำรงชีวิตอย่างถ่อมตัวภายในอินเดีย มันสุข ปราจาปาดี เป็นช่างปั้นหม้อดินโดยการฝึกอบรมที่แม้แต่ไม่จบโรงเรียนมัธยม แต่กระนั้นเขาได้คิดค้นตู้เย็นทำด้วยดินเหนียวทั้งหมด มันใช้หลักการของการระเหยที่จะให้เย็น ดังนั้นตู้เยีนดินเหนียวของเขามีช่องเติมน้ำ และช่องให้น้ำระเหย เพี่อรักษาความเย็น การเเช่เย็นผักและผลไม้นานถึงห้าวันต่อการเติมน้ำเพียงหนึ่งครั้ง และไม่ต้องใช้ไฟฟ้าเลย ราคาตู้เย็นดินเหนียวของเขาประมาณ 1,500 บาทเท่านั้น

นาวีื ราดจู ได้กล่าวถึงหลักการของนวัตกรรมแบบประหยัดหกข้อต่อไปนี้
1 การผูกพันและการทำซ้ำ
นวัตกรรมต้องการให้อาร์ แอนด์ ดี ออกไปจากวิถีทางที่เเคบของการทำงานไปสู่วิถีทางของการเกี่ยวพันระหว่างกันของลูกค้าอย่างเข้มข้น การสังเกตุพฤติกรรมของลูกค้าภายในสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ และจากนั้นกลับไปกลับมาระหว่างกระดานเขียนแบบและลูกค้าที่จะปรับปรุงการออกแบบ ด้วยการใช้กรณีศึกษาของผู้บุกเบิกความประหยัด เช่น อาร์ลา ฟูดส์ ฟูจิตสุ จีอี
จีเอสเค และอินทุย มันแสดงว่าผู้บริหารอาร์ แอนด์ ดี และผู้บริหารการตลาด
สามารถปลูกฝังหลักการลูกค้าศูนย์กลางนี้ภายในองค์การของพวกเขาอย่างไร โมเดลเก่าของอาร์ แอนด์ ดี บนลงล่างสามารถเสียเวลา ไม่ยืดหยุ่น และมักจะพลาดสัญญาน ผลิตภัณฑ์ซับซ้อนเกินไปที่จะซื้อ ใช้ รักษา และไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความผูกพันลูกค้าและการทำซ้ำอย่างต่อเนื่องได้ถูกเรียกร้อง ดังที่
แสดงโดย ฟอลโลว์ มี โฮม ของอินทุย ที่จะเข้าใจความต้องการของลูกค้าดีขึ้น
คราวด์ซอสซิ่ง ไซต์ โซฟบอกซ์ ได้ช่วยให้ซิสโก้และจีเอสเค คานาดา
ได้ความคิดและการประเมินอย่างมีระบบ สมาร์ทสแกน ใช้การทำเหมืองสื่อสังคมเพื่อความเข้าใจลูกค้า จีเอสเค อาศัยไม่เพียงแค่ยาบลอกบัสเตอร์ แต่บนความเข้าใจมากมากขึ้นจากสถาบันดูแลสุขภาพและร้านขายยา อาร์ลา ฟูดส์
ได้ปรับปรุงโครงสร้างหน่วยอาร์ แอนด์ ดี ของพวกเขาเป็นทีมเครือข่ายที่เล็กลง ไม่มีโมเดลธุรกิจใดถูกกำหนดไว้ภายในก้อนหิน ทุกโมเดลธุรกิจต้องปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของลูกค้าและสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ บุคคลควรจะถูกว่าจ้างบนพื้นฐานความเต็มใจและความสามารถที่จะร่วมมือร่วมใจ ผู้สอดแนมสามารถมีบทบาทที่มีคุณค่าต่อความเข้าใจตลาด จีอีและเรโนลท์ ได้ใช้ประโยชน์จากความเข้าใจตลาดเหมือนเช่นอินเดีย
2 การปรับทรัพย์สินของเราให้ยืดหยุ่น
ลูกค้ากำลังกลายเป็นการเรียกร้องมากขึ้น พวกเขาต้องการผลิตภัฑ์ที่ผลิตตามความต้องการมากขึ้น และที่ไหนและเมื่อไรที่พวกเขาต้องการ
บริษัทกำลังมองดูที่จะทำมากขึ้นด้วยทรัพย์สินกายภาพและมนุษย์ที่น้อยลง เช่น การอธิบายแนวโน้มไปสู่การผลิตจำนวนมากตามความต้องการของลูกค้า และเครื่องมือใหม เช่นหุ่นยนต์และเครื่องพิมพ์สามดี และวิถีทางใหม่ เช่น การผลิตทางสังคมและการผลิตต่อเนื่อง สามารถช่วยผู้บริหารการผลิตและลูกโซ่อุปทาน ปรับการผลิต การขนส่ง และทรัพย์สินบริการ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้นและถูกลงอย่างไร ลูกค้าต้องการไม่เพียงแค่คุณค่ามากขึ้นเท่านั้น แต่พวกเขาคาดหวังการผลิตตามความต้องการมากขึ้น ความคิดของการจัดหาการผลิตตามความต้องการมากขึ้น ณ ต้นทุนที่ต่ำลง กำลังสร้างความเร่งด่วนต่อวิถีทางใหม่นี้
วิถีทางแบบประหยัดสามารถประยุกต์ใช้ทั่วทั้งลูกโซ่ทรัพย์สิน การผลิต การจัดจำหน่าย การบริการ และเเม้แต่บุคคล โฟลคสวาเก้นใช้การออกแบบโมดูลาร์เพื่อโรงงานที่เล็กลงด้วยความสามารถการผลิตอเนกประสงค์ ทาทา สตีล
ลดกระบวนการพลังงานลงอย่างสำคัญ บีเอ็มดับบลิว กำลังใช้วิถีทางน้ำหนักเบาเพื่อรถยนตไฟฟ้าด้วยอลูมเนียมและคาร์บอน ไฟเบอร์ไม่ใชเหล็ก บีเออี
ซีสเต็มส์ ใช้การพิมพ์สามมิติเพื่อส่วนประกอบเครื่องบินไอพ่น หุ่นยนต์อุตสาหกรรมต้นทุนต่ำได้ถูกใช้ภายในโรงงานญี่ปุ่ย ด้วยประสิทธิภาพ ความปลอดภัย คุณภาพ และความคล่องตัวสูงขึ้น โรงงานเครื่องจักรของเควิรคคี่ช่วยการทำต้นแบบของผลิตภัณฑ์บริโภคอย่างรวดเร็วบนพื้นฐานความคิดคราวด์ซอสซิ่ง โรงงานการพิมพ์สามดีของเชปเวย์ นำเสนอบริการการผลิตส่วนบุคคล
3 การสร้างข้อแก้ปัญหาที่ยั่งยืน
การระบุวิถีทางที่ลูกค้าทำการเลือกของพวกเขาที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ และบริษัทดำเนินการปฏิบัติเหมือนเช่น อู่สู่อู่อย่างไร บริษัทสามารถดำเนินการปฏิบัติอย่างยั่งยืนหมือนเช่นจากอู่สู่อู่ – ตรงที่ส่วนประกอบและวัตถุถูกรีไซเคิล – ภายในการออกแบบและการผลิตของผลิตที่ปลอดของเสีย บนพื้นฐานกรณีศึกษาของคิงฟิสเชอร์ ลีวาย สเตร้าส์ และยูนิลีเวอร์ ได้ให้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อผู้บริหาร อาร์ แอนด์ ดี และการผลิต สามารถพัฒนาข้อแก้ปัญหายั่งยืนด้วยตัวเองอย่างไร การช่วยเหลือทั้งทั้งธุรกิจและสิ่งแวดล้อม
ภายในการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงภูมือากาศ ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมมีทั้งการใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติน้อยลง การจัดหาอย่างมีจริยธรรม
การเปลี่ยนแปลงยังพลังงานที่นำมาใช้ใหม่ การส่งของเสียเป็นศูนย์ไปสู่ที่เก็บขยะ และการรีไซเคิลและการอัพไซเคิลอย่างเข้มแข็ง
4 การกำหนดพฤติกรรมของลูกค้า
บริษัทสามารถมีอิทธิพลต่อลูกค้าไปสู่การปฏิบัติที่แตกต่างกัน เช่น
ขับรถยนต์น้อยลง หรือปลอดภัยมากขึ้น และรู้สึกดีในขณะที่บริโภคน้อยลง
ผู้บริหารการตลาดสามารถปรับปรุงความจงรักภักดีของลูกค้าและส่วนแบ่งตลาดโดยการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ประหยัดให้ใกล้ชิดมากขึ่นต่อวิถีทางที่ลูกค้า คิด รู้สึก และปฏิบัติ และโดยการวางตำแหน่งที่เหมาะสม และสื่อสารคุณค่าที่ทะเยอทะยานของแก้ปัญหาที่ประหยัดเหล่านี้ ด้วยการใช้การวิจัยจากจิตวิทยาและเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม และผลงานบุกเบิกของบริษัท เช่น
อีเกีย บาร์เคลย์ และเนสท์เล่ แสดงสิ่งเหล่านี้
ในขณะที่ลูกค้าจำนวนมากได้รับเอาหลักการความประหยัดไว้แล้ว ความต้องการมากขึ้นที่จะเขยิบตามทางที่จะเพิ่มความตระหนักและเเรงจูงใจ การลดคาร์บอนเต็มวงจรต้องการรวมแบบแผนของลูกค้า ไม่ใช่เพียงแค่การผลิตเท่านั้น บุคคลไม่เพียงแค่บริโภคน้อยลง แต่เป็นผู้บริโภคที่ดีขึ้น
5 การสร้างคุณค่าร่วมกับลูกค้ามืออาชีพ
การสร้างร่วนกันและการกระจายปัญหาไปสู่บุคคลจำนวนมากสามารถใช้ประโยชน์ภูมิปัญญาและทักษะร่วมกันของผู้บริโภคมืออาชีพได้ และเปลี่ยนแปลงความคิดที่ผู้บริหารอาร์ แอนด์ ดี และการตลาด ต้องอยู่บนสุดของสิ่งนี้ บริษัทกำลังทำงานกับลูกค้าที่มีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้นมากขึ้นภายในเศรษฐกิจแบ่งปัน เพื่อการสร้างผลิตภัณฑ์ร่วม การมองวิถีทางที่ลูกค้า –
โดยเฉพาะรุ่นมิลเลนเนียนที่เข้าใจเทคโนโลยีีดี กำลังวิวัฒนาการจากผู้ใช้ที่อยู่เฉย เป็นชุมชนของผู้บริโภคมืออาชีพ พวกเขาได้ร่วมออกแบบ สร้าง และเเบ่งปันผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาต้องการ ด้วยเหตุนี้ผู้บริหารอาร์ แอนด์ ดี และการตลาด ณ บริษัท เช่น ผู้บุกเบิกคราวด์ซอสซิ่ง – การกระจายปัญหาแก่บุคลลจำนวนมาก ได้สนับสนุนและใช้ประโยชน์การร่วมกันของความฉลาดและทักษะของชุมชนลูกค้า
6 การสร้างเพื่อนที่สร้างสรรค์
บริษัทกำลังเป็นหุ้นส่วนมากขึ้นกับบุคคลอื่นที่จะสร้างนวัตกรรมรวดเร็วขึ้น ดีขึ้น และถูกลง บริษัทเหมือนเช่น จีอี และฟอร์ด ยืนยีนว่าอาร์ แอนด์ ดี คล่องตัวยืดหยุ่น และสร้างเครือข่ายมาก ผู้บริหารอาร์ แอนด์ ดี และการผลิต สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ประหยัดและวิธีการธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยความร่วมมือกับหุ้นส่วนภายนอกที่หลากหลาย เช่น ซัพพลายเออร์
การทำให้เพื่อนที่สร้างสรรค์นำความต้องการที่เข้มแข็งออกมาภายในโลกที่แบน การเป็นเครือข่ายอาร์ แอนด์ ดี อย่างกว้างขวาง คล่องตัว ยืดหยุ่น และบริษัทสามารถใช้ประโยชน์ระบบนิเวศทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้
ความร่วมมือร่วมใจกับหุ้นส่วน ซัพพลายเออร์ สตาร์ทอัพ รัฐบาล แม้แต่
คู่แข่งขันเป็นเสาหลักสำคัญต่อนวัตกรรมแบบประหยัด เช่น ยักษ์ใหญ่เทค
จากทั่วโลกกำลังสร้างศูนย์นวัตกรรมภายในซิลิคอน แวลลี่ย์

นวัตกรรมแบบประหยัดอยู่บนพื้นฐานแนวคิดจูกาดของอินเดีย หมายถึงการแก้ไขอย่างฉลาด สร้างสรรค์ ด้วยทรัพยากรที่จำกัด ภายในประเทศที่ร่ำรวยเหมือนเช่นอเมริกา นวัตกรรมได้ถูกขับเคลื่อนผ่านทางการวิจัยและพัฒนาที่แพง แต่ตรงกันข้าม จูกาดสามารถมีประสิทธิภาพสูงกว่า การมีทรัพยากรที่น้อยกว่าสนับสนุนความสามารถของเราที่จะสร้างสรรค์ ภายใน Jugard Innovation : Think Frugal Be Flexible Generate Breakthrough Growth
ผู้เขียน นาวี ราดจู วิถีทางใหม่ต่อนวัตกรรมที่จุดไฟการเจริญเติบโตภายในตลาดเกิดใหม่และตลาดที่พัฒนาแล้ว ภายในหนังสือของพวกเขา พวกเขาได้ระบุหลักการหกข้อของจูกาด เงินไม่สามารถซื้อความฉลาดที่แสดงภายในจูกาด – หรือเราสามารถออกกฏหมาย หรือจัดการนวัตกรรมแบบจูกาด
จูกาดเกิดขึ้นโดยชีวิตธรรมชาติ มันเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นกิจกรรมวางแผนได้ จูกาดได้รวม – อ้างถึงวูดโรว์ วิลสัน ประธานาธิบดีของอเมริกาตั้งแต่ ค.ศ 1913 ถึง ค.ศ 1921 – รูปแบบของประสิทธิภาพสูงสุดและดีที่สุดนั่นคือความร่วมมือตามธรรมชาติของเสรีชน โดยสรุปจูกาดแสดงโมเดลการคิดค้นล่างขึ้นบนที่อินเดียมีความสามารถสูง ซีอีโออินเดียไม่ค่อยจะพูดเกี่ยวกับจูกาด พวกเขาสอบถามเกี่ยวกับกลยุทธ์นวัตกรรม พวกเขาต้องการรับเอาไว้ที่จะเร่งการเจริญเติบโตของบริษัท พวกเขาห่วงใยเกี่ยวกับการลงทุนอาร์ แอนด์ ดี ที่ต่ำของอินเดีย ไม่มีข้อสงสัยเลยที่บริษัทอินเดียต้องการสนับสนุนการใช้จ่ายอาร์ แอนด ดี ของพวกเขา ซีอีโออินเดีย ไม่ควรจะมองข้ามจุดแข็งของระบบนิเวศของอินเดีย มันเป็นความสามารถของผู้ประกอบการที่จะใช้
จูกาดสร้างผลิตภัณฑ์ภายในวิถีทางออร์แกนิค ล่างขึ้นบน ด้วยการใช้ทรัพยากรที่จำกัด ไม่ใช่เป็นการลดค่าจูกาดเป็นวิถีทางนวัตกรรมของคนยากจน
ที่จริงแล้วครั้งหนึ่งจูกาดเป็นส่วนหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ของนวัตกรรมตะว้นตกด้วย
มันเป็นความคิดที่ยืดหยุ่นของนักนวัตกรรมจูกาดที่เร่งการเจริญเติบโตภายในเศรษฐกิจตะวันตกเหมือนเช่นอเมริการะหว่างการปฏิวัติอุตสาหกรรมภายในศตวรรษที่ 19 ท่ามกลางนักนวัตกรรมจูกาดอเมริก้นเริ่มแรกหลายคน
รู้จักกันดีที่สุดอาจจะเป็นเบ็น แฟรงคลิน บุคคลหนึ่งของบิดาผู้ก่อก่่อตั้งของอเมริกา เขาเกิดภายในบอสตัน แมสซาจูเสตต์ เมื่อ ค.ศ 1706 แฟรงคลิน มีประสบการณ์กับความขาดแคลน และได้เรียนรู้เกี่ยวกับความถูกต้องของความประหยัดโดยตรง การเจริญเติบโตภายในครอบครัวพิวริตันที่ใหญของน้องชายห้าคนและน้องสาวเจ็ดคน
เมื่อเขาเพียงแค่อายุสิบปี เเฟรงคลินออกจากโรงเรียนและเริ่มต้นทำงานภายในโรงงานเทียนไขและสบู่ของพ่อของเขา
ที่จะสนับสนุนครอบครัวของเขา ตอนเริ่มแรกแฟรงคลินได้พัฒนาความสามารถพิเศษของการใช้ทรัพยากรที่จำกัดออกเเบบข้อแก้ปัญหาที่ฉลาดและประหยัดแก้ปัญหาประจำวันเผชิญโดยบุคคลร่วมสมัยของเขา ความฉลาด
ตำนานของแฟรงคลินถูกจุดไฟโดยความเห็นอกเห็นใจประชาชนเพื่อนของเขา
การคิดค้นทางปฏิบัติมากที่สุดอย่างหนึ่งของเขาคือเตาแฟรงคลิน ระหว่างศตวรรษที่ 18 บ้านภายในอเมริกาถูกให้ความร้อนโดยเตาผิงที่ไม่มีประสิทธิภาพ นวัตกรรมแบบจูกาดของแฟรงคลินที่จะแก้ปัญหานี้คือ เตาประเภทใหม่ด้วยการใช้ไม้น้อยลง 75% และให้ความร้อนสูงถึงสองเท่า เตา
แฟลงคลินให้มากขึ้นด้วยใช้น้อยลง การเห็นประโยชน์ต่อผู้อื่นไม่ใช่กำไร เป็นเเรงจูงใจจับเคลื่อนของเขาเพื่อการพัฒนาเตาผิงที่มีประสิทธิภาพ เขาต้องการให้ชาวอเมริกันทุกคนได้ประโยชน์จากการคิดค้นของเขา
เบ็น แฟรงคลิน เป็นวีรบุรุษที่ชื่นชอบคนหนึ่งของเรา เมื่อกล่าวถึงจูกาดภายอเมริกาตอนเริ่มแรก เขาเจริญเติบโตภายในครอบครัวใหญ่ ตรงที่เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับหลัการของการทำได้มากขึ้นด้วยการใช้น้อยลง ความประหยัดนั้นได้ถูกปรากฏไม่เพียงแต่ชีวิตส่วนตัวของเขาเท่านั้น แต่ในแง่ของเขาได้สร้างผลิตภัณฑ์อย่างไรด้วย เขาเป็นผู้ประกอบการต่อเนื่อง ก่อนที่ถ้อยคำกลายเป็นที่นิยมแพร่หลาย การคิดค้นอย่างหนึ่งที่เราได้แสดงภายในหนังสือเล่มนี้คือเตาแฟรงคลิน
การคิดค้นที่ฉลาดมากที่ใช้ไม้น้อยลงกว่าที่ต้องการและสร้างความร้อนได้มากขึ้น ที่สำคัญเขาได้สร้างผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทรัพยากรน้อยและยังคงสร้างคุณค่ามากขึ้นแก่ลูกค้า
เตาแฟรงคลินนี้ได้ถูกรับเอาไว้อย่างมากภายในศตวรรษที่ 18 แต่ปรากฏการณ์
อะไรที่เขาได้รวมหลักการนี้ของจูกาดด้วย เราสามารถเรียกมันว่าการคิดและการกระทำอย่างยืดหยุ่น ภายในความรู้สึกที่เขาเป็นผู้บุกเบิกของการเคลื่อนไหวแหล่งที่เปิดกว้าง เพราะว่าเขาไม่เคยพยายามจดสิทธบัตรการคิดค้นนี้ ข้อเท็จจริง เบน แฟรงคลิน ไม่เคยพยายามจดสิทธิบัตรอย่างแท้จริงอะไรก็ตามของการคิดค้นของเขา เขาได้ปฏิเสธสิทธบัตรที่เสนอต่อ
การออกแบบต้นกำเนิดของเขา
เขารู้สึกว่า…… ต้องการให้ประโยชน์ชุมชนที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะบุคคลที่ไม่สามารถรับภาระการคิดค้นได้ นั่นหมายความว่าเขาได้ปฏิบัติหลักการจูกาดอื่นด้วย….การรวมตลาดที่ไม่สำคัญ ด้วยคำพูดอีกอย่างหนึ่ง เขาคิดอยู่เสมอ
เกี่ยวกับการทำให้การคิดค้นของเขาเป็นประโยชน์ต่อชุมชนที่กว้างขึ้น

ความคิดของรถยนต์ถูกที่สุดของโลกได้ถูกคิดโดยราทาน ทาทาื วันฝนตก
ภายหลังที่เขาได้มองเห็นครอบครัวสี่คนบนรถจักรยานยนต์ ข้อัท็จจริงของการเดินทางที่ไม่ปลอดภัยได้รบกวนจิตใจผม ราทาน อดีตประธานของกลุ่มทาทา จำได้ภายในการสัมภาษณ์ สิ่งที่จูงใจผมอย่างแท้จริง…..เป็นการมองเห็นอยู่เสมอครอบครัวอินเดียนั่งสกูตเตอร์ สี่หรือห้าคนบนสกูตเตอร์ บางทีลูก
ประกบอยู่ระหว่างพ่อและแม่……บนถนนที่ลื่นภายในความมืด
เฮนรี่ ฟอร์ด ได้ยืนยันว่ารถยนต์ต้องถูกเพียงพอต่อคนงานี่จะซื้อได้ ในขณะนี้
ราทาน ทาทา ของอินเดียได้หวังหลักการอย่างเดียวกันที่จะช่วยฟื้นฟูโชคชะตารถยนต์ถูกที่สุดของโลก ทาทา นาโน นาโน ได้คาดหวังที่จะสร้างส่วน
ของตลาดใหม่ที่ใหญ่โตของเจ้าของรถยนต์ภายในอินเดีย เมื่อคนยากจนเปลี่ยนจากสองล้อเป็นสี่ล้อ นาโน ได้เปิดตัวเมื่อ ค.ศ 2008 เป็นรถยนต์วัน
แลคห์ ไม่ถึง 1500 เหรียญ พวกเขาได้โห่ร้องเป็นหลักไมล์ของรถยนต์ รถยนต์ด้วยความหมายของโฟลคสวาเก้นต้นกำเนิดหรือฟอรดโมเดล ที
100 ปีภายหลังจากที่เฮนรี่ ฟอร์ด ได้เปิดตัวโมเดล ที ที่วางโลกไว้บนล้อ นาโนได้ถูกออกแบบที่ทำให้การเดินทางสี่ล้อหามาได้แก่ชาวอินเดียสิบล้านคนในขณะนี้เดินทางทั้งครอบครัวบนจักรยานยนต์
ประวัติของนาโนเต็มไปด้วยละคร มันได้กำเนิดเป็นโครงการช่วยเพื่อนมนุษย์
โดยนาธาน ทาทา ประธานของยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรม เมื่อ 2008 ได้ซื้อ
จากัวและแลนด์ โรเวอร์ จากฟอร์ด นาโนเป็นรถยนต์ถูกที่สุดของโลก และมันได้บันดาลใจอุตสากรรมจินตนาการใหม่รถยนต์
ถ้าเรายืนอยู่บนถนนมุมไปวันฝนตก สกูตเตอร์จำนวนมากวิ่งเลี้ยวไปมารอบรถยนต์อย่างน่าอันตราย เราจะมองเห็นทั้งครอบครัวพ่อแม่และลูกหลายคน
นั่งอยู่บนสกูตเตอร์ เราอาจจะคิดว่า บ้าไปแล้ว แต่นั่นคือวิถีทางภายในประเทศที่กำลังพัฒนา บุคคลได้สิ่งดีที่สุดที่พวกเขาสามารถ
เมื่อราทาน ทาทา ของทาทา กรุ้ป มองเห็นภาพนี้ เขามองเห็นงานที่ต้องทำให้สำเร็จ การให้ทางเลือกที่ปลอดภัยแก่สกูตเตอร์ครอบครัว เขาเข้าใจว่ารถยนต์ถูกที่สุดหามาได้ภายในอินเดีย ต้นทุนห้าเท่าของสกูตเตอร์ ครอบครัวเหล่านี้ไม่สามารถรับภาระได้
การนำเสนอทางเลือกที่รับภาระได้ ปลอดภัย ทุกสภาพอากาศต่อครอบครัวสกูดเตอร์เป็นการนำเสนอคุณค่าที่มีพลัง การเข้าสู่บุคคลสิบล้านคนที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตลาดรถยนต์ ราทาน ทาทา ได้รับรู้ว่าโมเดลธุรกิจของทาทา มอเตอร์ ไม่สามารถถูกใช้ที่จะพัฒนารถยนต์ ณ ราคาที่ต้องการได้
การพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่มักจะเริ่มต้นด้วยจินตนาการการนำเสนอคุณค่าที่ชัดเจน เราได้แสดงจุดนี้ด้วยตัวยตัวอย่างของทาทา มอเตอร์ของอินเดีย
อินเดียมีปรากฎการณ์เรียกว่า “ครอบครัวสกูตเตอร์” – พ่อแม่ด้วยลูกของพวกเขานั่งด้วยกันบนสกูตเตอร์คันเดียว การขี่รถจักรยานยนต์ด้วยบุคคลสามสี่
คนหรือมากกว่านี้ เป็นวิถีทางธรรมดาที่จะเดินทางภายในอินเดีย บ่อยครั้งไม่มีหมวกและไมว่าสภาพอากาศเป็นอย่างไร เขามองเห็นงานที่ต้องทำให้สำเร็จ การให้ทางเลือกที่ปลอดภัยแก่ครอบครัวสกูตเตอร์ ความคิดของทาทา นาโนได้กำเนิดขึ้น รถยนต์ราคาถูกเพียงพอที่จะทำให้ครอบครัวสกูตเตอร์รับภาระได้
ด้วยการพัฒนาทาทา นาโน รถยนต์ถูกที่สุดของโลก เพี่อความปลอดภัยมากขึ้น และทุกสภาวะอากาศแก่ครอบครัวที่ขี่รถจักรยานยนต์
ราธาน ทาทา รู้ว่าวิถีทางเดียวเท่านั้นที่จะให้ครอบครัวลงจากสกูตเตอร์และขึ้นรถยนต์ ต้องทำลายอุปสรรคความมั่งคั่ง ด้วยการลดราคารถยนต์อย่างมาก
อะไรจะเกิดถ้าผมสามารถเปลี่ยนแปลงเกม และผลิตรถยนต์เพื่อหนึ่งแสนรูปี
ราคาประมาณ 2,500 เหรียญ ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของราคารถยนต์ถูกที่สุดที่หามาได้ แต่กระนั้นเขาสามารถยังคงทำเงินได้ถ้าเขาสามารถเพิ่มปริมาณการขายได้อย่างมากมาย และเขารู้ว่าฐานลูกค้าเป้าหมายยิ่งใหญ่มาก
สูตรกำไรของทาทา มอเตอร์ ต้องการการลดลงอย่างมากภายในกำไรขั้นต้น และการลดลงอย่างสำคัญภายในโครงสร้างต้นทุน พวกเขาได้กระทำโดยการลดจำนวนชิ้นส่วนให้น้อยที่สุดภายในยานพาหนะ และได้จ้างภายนอก 85% ของชิ้นส่วนของนาโนแก่ซัพพลายเออร์น้อยลงออย่างมากจากปรกติที่จะลดต้นทุนและสร้างความประหยัดจากขนาด พวกเขาได้พัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่
เพื่อการประกอบละการจัดจำหน่ายรถยนต์ด้วย
ผู้ผลิตรถยนต์ของอินเดีย ทาทา มอเตอร์ ได้ปฏิรูปตลาดรถยนต์โลกด้วยนวัตกรรมแบบลบล้าง ราธาน ทาทา ได้สร้างนาโนเหมือนกับเฮนรี่ ฟอร์ดอย่างไร ภายหลังเฮนรี ฟอร์ด มันใช้ 100 ปีต่อผู้ประกอบการอีกคนหนึ่งที่จะผลักดัน ทาทา นาโน
ทาทา มอเตอร์ ได้นำเสนอนวัตกรรมลบล้างชื่อ “พีเพิล คาร์” : โฟล์คสวาเก้น
หรือ “วัน แลคห์” เมื่อ ค.ศ 2008 พวกเขาได้เปิดผ้าคลุม ทาทา นาโน รถยนต์
ขนาดเล็กและราคาถูก ผลิตเพื่อคนยากจนของอินเดีย วันแลคห์ เท่ากับ 100,000 รูปีอินเดีย เหมือนกับนวัตกรรมแบบลบล้างอื่น – ถ้อยคำสร้างโดยเคลย์ตัน คริสเตนเซน นวัตกรรมของทาทาได้สละการใช้งานของรถยนต์บางอย่างเพื่อที่จะลดต้นทุนและราคาขาย กลุ่มเป้าหมายของนวัตกรรมแบบลบล้างของ วัน แลคห์ คาร์ ของทาทา ไม่ใช่ผู้ขับรถยนต์อยู่แล้ว แต่เป็นผู้ขี่สกูตเตอร์หลายล้านคนของอินเดีย ผลิตภัณฑ์ของนวัตกรรมแบบลบล้างได้ถูกออกบบต่อตลาดที่ปรากฎขึ้น
และได้ถูกแยกประเภทเป็นตลาดระดับล่างของพีรามิด แกรี่ ฮาเมล ได้ใช้ถ้อยคำ
ระดับลางของพีระมิด ที่จะนำความสนใจไปสู่คนยากจนสี่ถึงห้าพันล้านคนที่ได้ถูกละเลยเป็นตลาดเป้าหมายโดยบริษัทใหญ่ พีรามิดเศรษฐกิจโลกแสดงบุคคลมากกว่าสี่พันล้านคนมีชีวิตอยู่ ณ ระดับล่างของพีรามิด ระดับล่างของพีรามิดจะแสดงตลาดใหญ่ที่สุดและเจริญเติบโตรวดเร็วที่สุดภายในโลก
โดยปรกติอุตสาหกรรมรถยนต์มุ่งลูกค้าเป้าหมายระดับบนของพีรามิด
แต่กระนั้นทาทา นาโน เป็นนวัตกรรมแบบลบล้าง ผลิตเพื่อตลาดที่ปรากฏขึ้นภายในอินเดีย 95% ของพลเมืองอยู่ระดับล่างของพีระมิด

Cr : รศ สมยศ นาวีการ

Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *