“ปูติน”คนขี่เสือรายล่าสุด

สบาย สบาย สไตล์เกษม

เกษม อัชฌาสัย

“ปูติน”คนขี่เสือรายล่าสุด

ปรากฏว่า “ไม่มีอะไรในก่อไผ่”ตามที่ทายกันว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย”วลาดิมีร์ ปูติน”อาจประกาศชัยชนะเหนือยูเครนหรือประกาศยกระดับการสู้รบ จากการ”ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร”เป็น”สงครามเต็มรูปแบบ”ในวันฉลองชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ ๒ เหนือเยอรมนี เมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ที่ผ่านมา ในการจัดสวนสนามที่จัตุรัสแดง

เป็นที่ผิดหวังอย่างยิ่ง ของนักวิเคราะห์และ”นักวิแคะข่าว”ที่พากันคาดหมายไว้ล่วงหน้า

บังเอิญผมเวลานี้ ไม่ได้ตั้งตนเป็นนักวิเคราะห์และ”นักวิแคะ”ในสงครามนี้ จึงไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรกับถ้อยคำเสียดสีนั้น

ด้วยรู้ตัวว่า ไม่ใช่นักการทหาร ไม่เคยเรียนรู้เรื่องยุทธศาสตร์ หรือยุทธวิธี ไม่เคยอ่านตำราพิชัยยุทธ์ของ”ซุนวู”หรือแม้แต่ของ”งักฮุย”(ตามที่ระบุไว้ในมังกรหยกภาคแรกและภาคสาม)

ทำแค่”วิจารณ์”เหตุการณ์ตามกระแสข่าว ที่น่าจะเป็นไป เท่านั้นครับ

เพราะฉะนั้น ถ้าจะวิเคราะห์เหตุการณ์อะไร ต้องทำใจไว้ล่วงหน้า อย่าไป”ฟันธง”

ไม่เช่นนั้น ก็อาจจะต้อง”เสียหน้า” โดยใช่เหตุ

เอาเป็นว่า “ปูติน”ไม่ได้ประกาศ”อะไร”ที่ว่านั้น

แต่เขาก็ใช้โอกาสนี้ ปราศรัยย้ำกับชาวรัสเซียทั้งประเทศและเหล่าทหารที่ไปร่วมสวนสนามในครั้งนี้ ถึงความชอบธรรมในการบุกยูเครน ยืนยันสิ่งที่กระทำอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน ก็”กล่าวหา”ทุกๆฝ่าย (แน่นอน…ยกเว้นรัสเซีย)ในสิ่งที่เกิดขึ้น

“นี่เป็นการปกป้องมาตุภูมิของเรา” นี้คือประโยคทองของเขาในคำปราศรัย(เชิงปลุกระดม)

ดังนั้น สำหรับนักวิเคราะห์ ทางที่ดี”แทงกั๊ก”ไว้ ปลอดภัยที่สุด

“ปูติน”วิจารณ์สหรัฐ “นาโต้”และรัฐบาล”เคียฟ”อย่างไม่ยั้งในคำปราศรัย

จาระไนว่า สามฝ่ายนี้ทำให้ความมั่นคงปลอดภัยของรัสเซียตกอยู่ในอันตราย แถมแจกแจงเน้นว่า ในยูเครนนั้นมีพวก”นีโอนาซี”เคลื่อนไหวอยู่ ตามที่เจ้าหน้าที่รัสเซียอ้างและเอ่ยถึงหลายหนว่า ยูเครนปกครองโดยกลุ่ม”ฟาสซิสต์ พวกรักชาติสุดโต่งและผู้ที่เข้าข้างฝักใฝ่นาซี

เขาก็ยอมรับว่า กองกำลังรัสเซียได้รับความสูญเสียทางทหารจริง ในปฏิบัติการในยูเครน แต่ไม่แจกแจงรายละเอียดอะไร

การฉลองชัยปีนี้ สังเกตดูไม่ยิ่งใหญ่ เหมือนปีที่แล้ว ทั้งจำนวนทหารและอาวุธที่นำออกมาแสดง การแสดงกำลังทางอากาศก็ไม่มี นัยว่าเป็นเพราะสภาพอากาศไม่อำนวย หรือจะด้วยเหตุผลอื่นใด ก็แล้วแต่

จึงเป็นได้ว่า สงครามยูเครนจะยังดำเนินต่อไป จะสิ้นสุดลงเมื่อไร ไม่มีใครรู้

ที่รู้คือ เจ่งและโหมโจมตีเมืองต่างๆโดยเฉพาะเมืองริมทะเลด้วยขีปนาวุธอย่างหนัก หมายเผด็จศึก

ที่ยังไม่รู้อีกก็คือ สภาพความเสียหายต่อเศรษฐกิจ โดยรวมของรัสซีย จากค่าใช้จ่ายในการทำสงคราม ถึงจะมีการวิเคราะห์ว่า รัสเซียเตรียมการไว้ดี ไม่กระทบกระเทือนเศรษฐกิจภายในอะไรมาก แม้จะถูกรุม”แซงชั่น”จากชาติตะวันตก

โดยอ้างเหตุผลว่า รัสเซียสามารถเลี้ยงตัวเองได้ หากถูกโดดเดี่ยว ไม่น่าจะเดือดร้อนมาก

ในแง่ที่ผมมองนั้น “ปูติน”ทำสงครามนานเกินไปและผิดแผน ตามที่คาดหมายไว้ว่า จะยึดยูเครนไว้ได้ในระยะเวลาอันสั้น นับแต่เคลื่อนทหารเข้าไปในเขต”ดอนบาส”และ”โลฮันสก์”ช่วงแรก

ซึ่งถ้าจำกัดการยึดครองไว้แค่นั้น ก็คงจะไม่กระไร

แต่รัสเซียโลภมาก ปรับแผนขายการยึดครองยูเครนทั้งประเทศ ขยายเวลา เลยผิดคาด เพราะทางยูเครนนำโดยประธานาธิบดี”โวโลดีมีร์ เซเลนสกี”ต้านทานอย่างเหนียวแน่น ไม่ยอมหนี ไม่ยอมถอย

ชาวยูเครนส่วนใหญ่ตั้งสติไว้ดี ส่วนที่หลบหนีลี้ภัยสงครามนั้น มีไม่มากราวสี่ล้าน เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งหมด ๔๔ ล้าน

แถมยิ่งแกร่งกล้า เมื่อโลกตะวันตกทยอยให้การสนับสนุน โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาส่ง สัญญาน”เดินหน้า”ช่วยยูเครนเต็มที่

ดังนั้น ยิ่งรัสเซียทำสงครามยืดเยื้อไปนานเท่าไร โอกาสสงครามขยายตัว ไปทั่วยุโรป ก็จะมีมากขึ้น

ภาระคาใช้จ่าย ก็จะเพิ่มตาม

หากราษฎรรัสเซีย ต้องรู้สึกเดือดร้อนเมื่อไร หรือเกิดความทุกข์ยาก ความไม่พอใจในรัฐบาลเครมลิน ก็จะเกิดติดตามมา เมื่อนั้น“ปูติน”ก็ยากจะอยู่ต่อในอำนาจ

”ปูติน”เวลานี้ จึงไม่ผิดอะไรกับ “กาโล”ตัวเอกในนวนิยายดังอินเดียคือ”คนขี่เสือ”(He who rides a tiger) ของ”ภวานี ภัฏฏาจารย์”

“กาโล”บุรุษในชั้นวรรณะ”สูทร”(ใช้แรงงาน) ที่ถูกกดดันให้ต่อสู้กับชีวิต ต้องปลอมชั้นวรรณะเป็น”พราหมณ์”เพื่อความรอดอยู่

แต่แล้วในคราบชั้นวรรณะใหม่ ท้ายสุดกลับทนทานไม่ไหว “กาโล”ตกอยู่สภาพ”คนขี่หลังเสือ” จะลงจากหลังเสือก็ไม่ได้ กลัวโดนเสือขย้ำ

ทางเดียวจะทำได้ ก็ต้องฆ่าเสือ

สำหรับ“ปูติน”จะ”ฆ่าเสือ”อย่างไร จะเกิดสงครามปรมาณูเสียก่อนหรือไม่

ผมเดาไม่ได้ครับ

———

หมายเหตุ

ขอแจ้งว่า ผมได้รับโล่ห์(ความจริงเป็นแผ่นป้ายแก้ว)รางวัลเกียรติคุณ”นราธิปพงศ์ประพันธ์”ประจำปี ๒๕๖๓ จากสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยทางไปรษณีย์แล้วครับ

ได้รับ ก่อนหน้าที่จะมีพิธีมอบรางวัลแก่ผู้ที่ได้รับรางวัลประจำปี ๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕ (ตรงกับ”วันนักเขียน”) ที่โรงแรมตรัง ถนนวิสุทธิกษัตริย์ กรุงเทพฯ หลังเลื่อนเวลามาจากปีที่แล้ว เพราะภาวะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค”โควิด 19”

ต้องขออภัยสมาคมอย่างยิ่งครับ ที่ไม่ได้ร่วมงาน เนื่องจากป่วยเรื้อรังและเดินเองไม่ได้ ตามที่ได้แจ้งไป

จึงขอขอบคุณสมาคมมาอีกครั้งหนึ่ง ที่ให้เกียรติผมได้รับรางวัล อันทรงคุณค่า ในวาระนี้ครับ

 

 

 

 

 

ภวานี ภัฏฏาจารย์ He who rides a tiger คนขี่เสือ