ถึงจะเกิดสงครามคนไทยก็ยังสบายดี
สบาย สบาย สไตล์เกษม
เกษม อัชฌาสัย
ถึงจะเกิดสงครามคนไทยก็ยังสบายดี
เป็นคนไทยนี่ สบายดีจริงๆ ครับ เห็นอะไรต่ออะไร เป็นเรื่องเล็ก เป็นเรื่องสนุกไปหมด ไม่ยึดมั่น ถือมั่นเป็นเรื่องจริงจัง สมกับเป็นศิษย์ตถาคต ที่มองทุกอย่างเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา รวมทั้งเรื่องสงครามยูเครน ที่เอามาต่อรองกันเล่นๆว่า ฝ่ายไหนจะชนะ
ก็สบายใจไปอย่าง ไม่ต้องเครียด ใครจะเป็นจะตายหรือไม่อย่างไร ช่างหัวมัน ไม่เกี่ยวกับเรา
เถียงกันว่า ระหว่างรัสเซียกับยูเครน ฝ่ายไหนถูกต้อง ไม่ถูกต้องอย่างไร แล้วแต่จะหยิบยกเหตุผล มากมายมาอ้างอิง
ล่าสุดนี่ ทายกันว่าสงครามจะไปอีกยาวไหน จะจบในสองสามสัปดาห์ หรือลากยาวไปนานกว่านั้น จะกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ ๓ ไหม เพราะขยายเป็นสงครามหลายรูปแบบแล้ว ทั้งสงครามยิง สงครามเศรษฐกิจ สงครามข่าวสาร สงครามน้ำลาย
ที่สนุกไปกว่านั้น ก็คือคดีดารา”แตงโม”ตกน้ำตาย ที่สื่อมวลชนพากันลากยาว มาเป็นเดือนแล้ว สื่อรุมขุดกันชนิดลงลึกในรายละเอียด กลายเป็นความบันเทิงระดับชาวบ้าน ไปที่ไหนมีแต่คนพูดถึง ทำให้บริภาษผู้เป็นแม่กันอึงคนึง ว่าเห็นแก่ได้
ถือว่าเป็น Reality Show (น่าจะแปลว่า”แสดงสถานการณ์จริง” โดยไม่เขียนบท ของโทรทัศน์)เรื่องหนึ่ง ก็ว่าได้
ถ้าจัด”เรตติ้ง” ข่าว”แตงโม”น่าจะได้คะแนนสูงกว่า ข่าว”สงครามยูเครน” เสียด้วยซ้ำไป เป็นแน่แท้
นี่ครับนิสัยใจคอคนไทย ที่พากันฮาโน่น เฮนี่ เมื่อถูกสื่อไร้คุณธรรมจูงใจไปหล่อหลอม
แต่ก็ทำให้ลืมความยากเข็ญที่เกิดจากความทุกข์เพราะโรคระบาด”โควิด 19”ที่ลากยาวเข้าปีที่ ๓ แล้วเป็นอย่างดีและไม่แน่ว่าลามไปถึงปีที่ ๔ ปีที่ ๕ ซึ่งจะ”อ่วมอรทัย”กว่านี้อีกกี่เท่าก็ไม่รู้
ถามว่า สงครามยูเครน จะเพิ่มความทุกข์ยากในการดำรงชีวิตด้วยความลำบาก เพราะเศรษฐกิจรัดตัวมากแค่ไหน
ตอบว่าวัดอะไรไม่ได้หรอกครับ ในภาวะอย่างนี้
คนที่จะรู้สึกได้ทันที ก็คือคนเมือง ที่ทำงานเป็นลูกจ้าง ซึ่งนับจะแห้งเหี่ยวตายลงทุกวัน เพราะไม่มีจะกิน ในขณะที่รัฐบาลกำลังจะ”เจ๊งบ้ง” เพราะหนี้สินล้นพ้นตัว ที่ไปกู้เขามาทำนั่นแจกนี่
แต่ก็ยัง”ปากแข็ง”ว่า สถานะทางการเงินการคลังของเรา ยังสามารถ”เอาอยู่”
แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่สามารถคุมได้ ก็คือเงินเฟ้อ จากภาวะเศรษฐกิจโลกโดยรวมอยู่แล้ว ที่ทำให้เครื่องอุปโภคบริโภคแพงขึ้น
พอเกิดสงคราม ราคาเชื้อเพลิงจึงแพงตามแลซ้ำเติม ต้นทุนการผลิตสินค้า ค่าการขนส่ง ก็ต้องสูงขึ้นไปอีกมาก
จึงแน่นอนว่า ข้าวของจะแพงขึ้นไปอีก ส่วนจะแพงเกินจริงหรือแค่ไหนและอย่างไร สมเหตุสมผลหรือไม่ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลจะต้องเร่งดูแลกำกับให้ดีละครับ
การที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ออกมาพูดสะท้อนบางเสี้ยวของผลกระทบของสงคราม ระหว่างรัสเซียกับยูเครนต่อไทย เมื่อสามวันที่ผ่านมาว่า อาจส่งถึงการ”ส่งออก-นำเข้า”สินค้า เนื่องจากค่าเงินสกุล”รูเบิล”ยังไม่เสถียร จะต้องติดตามดูต่อ เพราะฉะนั้นการทำการค้าจึงต้องชะลอออกไป แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ราคาน้ำมันดิบแพงขึ้น ย่อมส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อ
“ในส่วนของรัฐบาลทุกกระทรวงพยายามช่วยกัน เพื่อเกิดผลกระทบต่อราคาสินค้าน้อยที่สุด” นายจุรินทร์สรุป
ที่อยากเสนอ ณ ที่นี้ก็คือ รัฐบาลสมควรประชุมหารือวางแผนรับมือภาวะสงครามให้รอบคอบ แล้วเอามาบอกกับประชาชน ชัด ๆ เพื่อขอความเห็นและความร่วมมือ
ไม่ใช่ปล่อยให้คนนั้นคนนี้พูดไปตามเรื่อง ตามราว แล้วอึกๆอักๆ
ก็ไม่รู้ว่านายกรัฐมนตรี”ประยุทธ์”ลงมือกระทำไปแล้วหรือยัง
ใคร่แสดงความเห็นตรงนี้สั้นๆว่า ยังคาดการณ์ไม่ได้หรอกครับ ว่าสงครามจะยุติลงเมื่อไร ในเมื่อยูเครน ยังไม่ยอมแพ้ ตามเงื่อนไขที่”วาดีมีร์ ปูติน” ต้องการ คือยอมแพ้อย่างศิโรราบ
เกรงเหลือเกินว่า จะเกิดการรุกกวาดล้างครั้งใหญ่ ในยูเครนในเร็ววัน เพื่อถอนรากถอนโคน กลุ่มการเมืองที่ฝักใฝ่ตะวันตกรวมถึงการกำจัดประธานาธิบดียูเครน
หากถึงขั้นนั้น ในแง่คนไทยขอให้พวกท่านทำตัวสบายๆ…. วางอุเบกขาซะ มีก็กิน ไม่มีก็กิน ไปตามเรื่อง
รัฐบาลไทยท่านไม่ทอดทิ้งพวกเราหรอกครับ เพียงแต่ทนลำบากกันให้มากๆ หน่อย เพ่งขันติธรรมให้เคร่งเข้าไว้
อย่าเอาแต่ใช้”ผรุสวาจา”ในสื่อสังคม ให้เสียอารมณ์
หรือจะ”เฝ้าหอล่อกามา” ไปวันๆ ไม่มีใครว่าอะไรท่านได้หรอก