jos55 instaslot88 Pusat Togel Online หลักการจิตวิทยาของเนตฟลิกซ์ - INEWHORIZON

INEWHORIZON

ขอบฟ้าใหม่

หลักการจิตวิทยาของเนตฟลิกซ์

หลักการจิตวิทยาของเนตฟลิกซ์

ถ้าเรามีบริษัทมีความหมายเดียวกับประสบการณ์ลูกค้าไร้รอยต่อ มันเป็นเนตฟลิกซ์อย่างแน่นอน ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา แพลตฟอร์มของมันได้กลายเป็นแหล่งความบันเทิงอย่างแท้จริงของบุคคลจำนวนมาก ร้อยละห้าสิบของการเข้าชมเว็บไซต์ของโลกไปสู่เนตฟลิกซ์ และระหว่างเพียงแค่ไม่กี่เดือนแรกของการแพร่ระบาดของโควิด การเข้าชมสตรีมมิ่งได้เพิ่มขึ้นอีก 12%นั่นคือทำไมเป้าหมายของประสบการณ์ของเนตฟลิกซ์คือ รักษาลูกค้าสตรีมมิ่ง ผู้ก่อตั้งร่วม รีด ฮาสติ้ง ได้อ้างชั่วโมงต่อสมาชิกต่อเดือน เป็นเครื่องวัดของความสำเร็จหมายเลขหนึ่งของเนตฟลิกซ์ เนตฟลิกซ์ มองการแข่งขันที่แท้จริงของมันเป็นเวลา ไม่ใช่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่นเลยเนตฟลิกซ์คิดถึงกิจกรรมเหมือนเช่นวีดีโอเกม งานอดิเรก ยูทูป เเละแม้แต่การนอน เป็นคู่แข่งขันความสำเร็จของเนตฟลิกซ์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง แต่มันจะเป็นประสบการณ์ลูกค้ายื่งใหญ่ที่สุด แต่เนตฟลิกซ์ได่สร้างประสบการณ์ลูกค้าอย่างไร มันได้ลงมาสู่การประยุกต์ใช้หลักการจิตวทยาที่พิสูจน์แล้ว เนตฟลิกซ์ ได้อธิบายตัวมันเองเป็นลุ่มหลงลูกค้า และมุ่งหมายที่จะให้ประสบการณ์เป็นส่วนบุคคล รีด ฮาสติ้ง มองการเป็นส่วนบุคคลของเนตฟลิกซ์เป็นข้อได้เปรียบทางการเเข่งขันอย่างหนึ่งถ้าความลับของสตาร์บัคส์คือรอยยิ้ม เมื่อคุณได้ลาเต้ของคุณ ความลับของเนตฟลิกซ์คือ เว็บไซต์ปรับตัวต่อรสนิยมของบุคคลผลกระทบงานเลี้ยงคอกเทลระบุว่า บุคคลชอบที่จะมุ่งข้อมูลที่เกี่ยวพันกับพวกเขา แต่ผลกระทบงานเลี้ยงคอกเทลได้พิสูจน์ว่าถ้าเราไปลึกขึ้นเนื้อหาที่เกี่ยวพันสามารถขับเคลือนผลลัพธ์อย่างไม่น่าเชื่อ คุณค่าของการทำให้เป็นส่วนบุคคลผสมกันด้วยแต่ละประสบการณ์ เนื้อหายิ่งเป็นส่วนบุคคลที่ผู้ใช้ดูมากเท่าไร ความผูกพันของพวกเขายิ่งดีขึ้นเท่านั้น การวิจัยไม่นานมานี้พบว่าเรามียุทธวิธีการทำให้เป็นบุคคลสามอย่างที่มีผลกระทบโดยตรงต่อพฤติกรรมของลูกค้า การรู้ชื่อของผม การรู้อดีตของผม และการรู้ผมต้องการอะไรเนื่องจากเป้าหมายของเนตฟลิกซ์คือ เพิ่มชั่วโมต่อหนึ่งสมาชิกต่อเดือนมันจะมีเหตุผลที่เนตฟลิกซ์ใได้ใช้หลักการการทำให้เป็นส่วนบุคคลของพฤติกรรมศาสตร์ เช่น ผลกระทบงานเลี้ยงคอกเทล แต่พวกเขาได้ใช้หลักการนี้อย่างไรรายการเนื้อหามากมายของเนตฟลิกซ์ – ประมานณ 50,000 เนื้อหาจะเป็นส่วนที่ดึงดูดของพวกเขา เอชบีโอ แมกซ์ มีประมาณ 10,000 เนื้อหาเท่านั้น แต่กระนั้นเนื้อหาด้วยจำนวนของทางเลือกสามารถจะเป็นดาบสองคมได้ หลักการพฤติกรรมศาสตร์ของผลกระทบของทางเลือกมากเกินไป กล่าวว่า ทางเลือกจำนวนมากจะดึงลูกค้าเรียกดู แต่ทางเลือกน้อยทำให้พวกเขาซื้อด้วยขนาดของจำนวนเนื้อหาของพวกเขา เนตฟลิกซ์ทำให้เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันต่อบุคคลอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะทำให้เป็นเนื้อหาที่เหมาะสม ณ เวลาที่่เกมาะสม ต่อบุคคลที่เหมาะสม เนตฟลิกซ์ได้ขึ้นอยู่กับเครื่องมือแนะนำของมัน เนตฟลิกซ์รู้ว่าถ้ามันสามารถให้เนื้อหาที่เหมาะสมต่อหน้าบุคคลที่เหมาะสม ประสบการณ์ของมันสามารถเพิ่มชั่วโมงต่อสมาชิกต่อเดือนอย่างมาก และการวิจัยแสดงว่าเนื้อหาส่วนบุคคลสะดุดตามากขึ้น หรือดึงดูดต่อลูกค้าเนตฟลิกซ์ได้อธิบายตัวมันเองเป็นลุ่มหลงลูกค้า ต้องการให้ประสบการณ์ส่วนบุคคลอย่างเต็มที่ รายการ “Because You Watched ” ของมันจะเป็นตัวอย่างที่ดีมากของปรัชญานี้ภายในการกระทำ ส่วนนี้ได้เสนอแนะเนื้อหาสัมพันธ์กับเรื่องที่คุณพอใจมาเเล้ว

การพิสูจน์ทางสังคม สามารถถูกอธิบายเป็นแนวโน้มที่บุคคลเดินตามและเลียนแบบการกระทำของบุคคลอื่น เพื่อที่จะตัดสินใจกระทำภายในสถานการณ์คล้ายกันอย่างไร คุณได้มองการประเมินและการแนะนำก่อนการซื้อผลิตภัณฑ์หรือไม่ นั่นคือการพิสูจน์ทางสังคม เนตฟลิกซ์ใช้หลักการพฤติกรรมศาสตร์นี้ สุ่มผู้ใช้ไปสู่การชมเนื้อหาเฉพาะ การทำให้ผู้ใช้มองเห็นอะไรเป็นแนวโน้มและเปิดตัวใหม่ มันได้เสนอแนะภาพยนตร์ตามแนวโน้มของมัน การพิสูจน์ทางสังคมนี้ได้ช่วยเหลือบุคคลอยู่กับปรับปรุงให้ทันสมัยเกี่ยวกับภาพยนตร์ล่าสุดถ้อยคำ การพิสูจน์ทางสังคม ได้ถูกแนะนำครั้งแรกโดยนักจิตวิทยาชาว อเมริกัน โรเบิรต เคียลดินี ภายในหนังสือ 1984 ของเขา “Influence : The Psychology of Persuasion” ภายในหนังสือของเขา โรเบิรต เคียลดินีได้อธิบายว่าบุคคลน่าจะทำตามการกระทำของบุคคลอื่น เมื่อพวกเขาไม่เเน่ใจเกี่ยวกับทำอะไรเขาได้เสนอแนะว่าปรากฏการณ์นี้สามารถถูกใช้เป็นเครื่องมือชักจูงภายในการตลาดหนังสือของโรเบิรตได้กลายเป็นคลาสสิคภายในสาขาวิชาจิตวิทยา และได้ถูกอ้างอิงอย่างกว้างขวางภายในสิ่งพิมพ์และสื่อ แนวคิดของการพิสูจน์ทางสังคมนับแต่นั้นมา ได้กลายเป็นส่วนที่สำคัญของจิตวิทยาสังคม และส่วนประกอบที่สำคัญของการตลาดมูซาเฟอร์ เชอริฟ เป็นนักจิตวิทยาสังคมชาวตุรกี-อเมริกัน เขาได้ช่วยพัฒนาทฤษฎีดุลยพินิจทางสังคมและทฤษฎีความขัดเเย้งแท้จริงเขาเป็นผู้ก่อตั้งคนหนึ่งของจิตวิทยาสังคมสมัยใหม่ พัฒนาเทคนิคที่เฉพาะและมีพลังหลายอย่าง เพื่อความเข้าใจกระบวนการทางสังคม เช่น บรรทัดฐานทางสังคม และความขัดเเย้งทางสังคม มูซาเฟอร์ เชอริฟ ได้สร้างการมีส่วนช่วยอย่างมากต่อจิตวิทยาสังคม เขาเขียนบทความมากกว่า 60 บทและหนังสือ 24 เล่ม ส่วนใหญ่ของการวิจัยของเขาทำร่วมกับภรรยาของเขา คาโรลรีน เชอริฟผลงานของมูซาเฟอร์ เชอริฟ มุ่งเน้นว่าพลวัตรของกลุ่มถูกอิทธิพลโดยทั้งการแข่งขันและความร่วมมือ การแสดงการคุกคามที่รับรู้สามารถทำให้ความขัดเเย้งระหว่างกลุ่มรุนแรงขึ้น เขาได้แนะนำแนวคิดเป้าหมายที่เหนือกว่าภายในการทดลองของเขา การแสดงว่าเป้าหมายร่วมสามารถรวมกลุ่มที่ขัดเเย้งกันเป็นหนึ่งเดียว และจะลดความเป็นศัตรูลงได้ เขาได้ถูกพิจารณาเป็นผู้ก่อตั้งคนหนึ่งของจิตวิทยาสังคม เนื่องจากวิธีการอย่างสร้างสรรค์และความเข้าใจพฤติกรรมกลุ่มของเขา
*การทดลองผลกระทบของออโตคิเนติค
วิทยานิพนธ์ของมูซาเฟอร์ เชอริฟ Some Social Factors in Perception และความคิดและการวิจัยเป็นรากฐานต่อหนังสือคลาสสิคเล่มแรกของเขา
Psychology of Social Norms หัวข้อของวิทยานิพนธ์จะเป็นอิทธิพลทางสังคมภายในการรับรู้ และการทดลองได้กลายเป็นถูกรู้จักกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นการทดลองผลกระทบของออโตคิเนติคการพิสูจน์ทางสังคมไม่ได้เป็นปรากฏการณ์เมื่อไม่นานมานี้ อิทธิพลของกลุ่มเหนือพฤติกรรมของบุคคล ได้ถูกศึกษาตั้งแต่ ค.ศ 1930 เมื่อ ค.ศ 1935 มูซาเฟอร์ เชอริฟ นักจิตวิทยาสังคมชาวตุรกี-อเมริกันได้ถูกยกย่องโดยการพัฒนาทฤษฎีดุลยพินิจทางสังคม มูซาเฟอร์ เชอริฟ ได้ดำเนินการทดลองผลกระทบของออโตคิเนติคคลาสสิคเกี่ยวกับบรรทัดฐานทาสังคมและการทำตาม เขาพยายามแสดงว่าบุคคลจะทำตามบรรทัดฐานของกลุ่มอย่างไร เขาได้ดำเนินการทดลองด้วยการให้บุคคลนั่งภายในห้องมืด และถูกขอให้จ้องมองจุดของแสง การแสดงบนกำแพงที่ห่างไปไม่กี่ฟุตจากพวกเขาบุคคลได้ถูกขอให้ประมาณจุดเเสงคลื่อนที่ไปได้ไกลเเค่ไหนภายในความเป็นจริงแล้ว จุดเเสงไม่ได้เคลื่อนที่เลย ผลกระทบของออโตคิเนทิคจะเป็นปรากฏการณ์ที่มองเห็น ตรงที่แสงไม่ได้เคลื่อนที่ภายในห้องมืดแต่ปรากฏดูเหมือนจะเคลื่อนที่ มูซาเฟอร์ เชอริฟได้ใช้ปรากฏการณ์นี้ศึกษาบุคคลจะถูกอิทธิพลโดยความคิดเห็นของบุคคลอื่นอย่างไร พวกเขาได้ถูกทดสอบเป็นสามระยะคือ ระยะที่หนึ่ง บุคคลได้ประมาณเป็นรายบุคคลระยะที่สองบุคคลได้ประมาณภายในกลุ่มสามคน และระยะที่สามบุคคลได้ประมาณเป็นรายบุคคลภายในระยะที่สองบุคคลได้ประมาณภายในกลุ่ม บุคคลได้ถูกขอให้ร้องตะโกนการประมาณการเคลื่อนที่ของมัน และมูซาเฟอร์ เชอริฟ ได้สังเกตุว่ากลุ่มโน้มเอียงเบนเข้าหากันบนการประมาณ แม้ว่าการประมาณเหล่านี้แตกต่างอย่างมากต่อบุคคลที่พวกเขาได้ให้ไว้ภายในระยะที่หนึ่งของการประมาณเป็นรายบุคคลภายในระยะที่สามได้ประมาณเป็นรายบุคคล แต่พวกเขาได้โน้มเอียงที่จะที่จะยังคงอยู่กับการประมาณของกลุ่ม ไม่ใช่กับการประมาณเริ่มแรกของพวกเขาเอง โดยสรุปแล้วการพิสูจน์ทางสังคมได้แสดงเราน่าจะเบนเข้าหากันบนทางเลือกของการกระทำ เมื่อบุคคลอื่นได้ให้การกระทำนั้นแก่เรา
*การทดลองรอบเบอรส์ เคฟ
เมื่อ ค.ศ 1961 มูซาเฟอร์เชอริฟได้พัฒนาทฤษฎีความขัดเเย้งแท้จริง เพื่อ การอธิบายเรื่องราวความขัดเเย้งระหว่างกลุ่ม ทฤษฎีจะอยู่บนพื้นฐานของการทดลองรอบเบอรส์ เคฟ มูซาเฟอร์ เชอริฟ เขาได้ดำเนินการทดลองมุ่งที่ความขัดเเย้งระหว่างกลุ่ม และความร่วมมือท่ามกลางเด็กผู้ชาย 22 คน มันเป็นการศึกษาที่ได่ถูกอ้างมากที่สุดภายในจิตวิทยาสังคม เขายืนยันว่าความขัดเเย้งระหว่างกลุ่มได้เกิดขึ้น เมื่อกลุ่มสองกลุ่มต่างแข่งขันกันเพื่อทรัพยากรที่จำกัดการเป็นศัตรูสามารถเกิดขึ้นระหว่างสองกลุ่มภายในความขัดเเย้งและการแข่งขันเพื่อทรัพยากรที่หายาก ในกรณีของการทดลองทรัพยากรที่หายากคือเหรียญและรางวัล มันได้แสดงว่าผ่านทางเป้าหมายที่เหนือกว่าความขัดเเย้งระหว่างกลุ่มสามารถถูกลดลงได้ มันจะเป็นการทดลองภาคสนามที่เกี่ยวพันกับกลุ่มเด็กผู้ชายอายุสิบสองปี ได้มาอยู่ค่ายฤดูร้อน ณ รอบเบอรส์ เคฟ สเตรท พาร์ค โอคลาโฮมา อเมริกา เด็กผู้ชายยี่สิบสองคนภายในการศึกษาไม่รู้จักระหว่างกัน และทุกคนมาจากภูมิหลังชนชั้นกลางผิวขาว พื้นเพของพวกเขาใกล้เคียงกัน นักวิจัยได้แบ่งสุ่มเด็กผู้ชายเป็นสองกลุ่ม เด็กผู้ชายได้มาที่ค่ายแยกจากกันเป็ยสองกลุ่ม พวกเขาอาศัยอยู่ภายในกระท่อมแยกจากกัน ภายในระยะเเรกของการทดลองพวกเขาได้ใช้เวลากับสมาชิกของกลุ่มพวกเขาเอง โดยไม่รู้ว่าอึกกลุ่มหนึ่งมีอยู่ ทั้งสองกลุ่มได้เลื่อกชื่อกลุ่มของพวกเขา และได้พิมพ์สเตนซิลบนเสื้อเชิรตและธงของพวกเขา กลุ่มหนึ่งคือนกอินทรี และอีกกลุ่มหนึ่งคืองูหางกระดิ่ง เเต่ละกลุ่มได้เพัฒนบรรทัดฐานของกลุ่มและลำดับชั้นสถานภาพของกลุ่มของพวกเขาเองภายหลังจากนั้นไม่นาน เด็กผู้ชายได้กลายเป็นรับรู้ว่าพวกเขามีอึกกลุ่มหนึ่งอยู่ที่ค่าย เมื่อได้เหลือบมองและเรียนรู้พวกเขา กลุ่มหนึ่งได้พูดทางลบเกี่ยวกับอีกกลุ่มหนึ่ง แม้ว่าไม่มีการเกี่ยวพันระหว่างกัน และการรับรู้ “พวกเราต่อสู้พวกเขา” ได้พัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ภายในระยะที่สองของการทดลอง กลุ่มได้ถูกแนะนำระหว่างกัน นักวิจัยได้ประกาศว่าเราจะมีการแข่งขันระหว่างสองกลุ่ม ประกอบด้วยเกมเหมือนเช่น บาสเกตบอลล์ การกางเต้นท์ และการชักกะเย่อ ผู้ชนะจะได้รับรางวัลเเละถ้วย ภายหลังที่นกอินทรี และงูห่างกระดิ่งได้เริ่มต้นเเข่งขันกัน ความสัมพันธ์ระหว่างสองกลุ่มได้กลายเป็นเครียดอย่างรวดเร็ว และทำให้ความขัดเเย้งระหว่างกลุ่มรุนเเรงขึ้น กลุ่มได้เริ่มต้นดูถูกกันและกันนักวิจัยได้สังเกตุพฤติกรรมและการเกี่ยวพันกันของเด็กผู้ชาย มองเห็นการพัฒนาของความเกลียดชัง และความก้าวร้าวระหว่างกลุ่ม เช่น อีเกิ้ลได้เผาธงของงูหางกระดิ่ง งูหางกระดิ่งได้แก้แค้นคืนต่อไป ด้วยการจู่โจมกระท่อมของนกอินทรี และพลิกคว่ำเตียงของพวกเขา เเละขโมยบางสิ่งบางอย่างของพวกเขาภายในระยะที่สามของการทดลอง นักวิจัยได้ออกแบบโอกาสที่จะรวมกลุ่มสองกลุ่ม และได้ลบล้างความไม่เป็นมิตร ระยะนี้เริ่มต้นด้วยโอกาสที่เรียบง่ายทำความรู้จักกัน เช่น การชมภาพยนตร์ด้วยกัน และเวลาทานอาหารร่วมกัน แต่โชคไม่ดีเลย ประสบการณ์เหล่านี้มีผลกระทบทางบวกน้อย และทำให้เกิดการโยนอาหารใส่กันดังนั้นนักวิจัยได้ตัดสินใจพยายามทำบางสิ่งบางอย่างที่แตกต่างกัน เช่น นักวิจัยได้สร้างสถานการณ์ที่นำเสนอความท้าทาย ตรงที่ความสำเร็จเป็นไปได้ ถ้าทั้งสองกลุ่มได้ทำงานด้วยกันเท่านั้นเป้าหมายที่เหนือกว่าได้ถูกแนะนำเพื่อการลดความขัดเเย้ง มันจะเกี่ยวพันกับทรัพยากรร่วมใช้โดยทั้งสองกลุ่ม อุปทานน้ำของพวกเขาได้หยุดไหลทันที น้ำดื่มทั้งหมดภายในค่ายจะมาจากอ่างเก็บน้ำบนภูเขาทางเหนือของค่ายบนการตรวจสอบสายน้ำอย่างกว้างขวางโดยกลุ่มนกอินทรีและกลุ่มงูหางกระดิ่งเป็นกลุ่มแยกจากกันพวกเขาได้ค้นพบว่าก๊อกน้ำทางออกมีกระสอบยัดอยู่ เด็กผู้ชายเกือบทุกคนได้รวมกันรอบก๊อกน้ำพยายามทำมันให้โล่ง ในที่สุดน้ำได้ไหลไปตามปรกติ เมื่อกลุ่มได้ทำงานด้วยกันมุ่งไปสู่เป้าหทายร่วมกันเหล่านี้ ความเป็นศัตรูได้เริ่มต้นหายไป ทดแทนด้วยความรู้สึกของความร่วมมือ และเเม้แต่ความเป็นเพื่อ กิจกรรมเป้าหมายที่เหนือกว่าคือ ปัญหาน้ำดื่มเด็กผู้ชายได้ถูกบอกว่าแหล่งน้ำของพวกเขาได้หยุดไหลด้วยเหตุผลใดก็ตาม พวกเขาต้องค้นหาปัญหา และแก้ไขมัน เพื่อที่จะได้ดื่มน้ำเป้าหมายร่วมระหว่างกลุ่มสร้างการขึ้นอยู่ระหว่างกัน มันสามารถอธิบายเป็นสภาวะตรงที่ทั้งสองกลุ่มต้องร่วมมือกันเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ต้องการการบรรลุเป้าหมายร่วมกันสามารถลดความขัดเเย้งระหว่างกลุ่มได้ และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกลุ่ม ด้วยการให้เป้าหมายร่วมแก่เด็กผู้ชาย และต้องการให้พวกเขาทำงานด้วยกันเพื่อที่จะมัน นักวิจัยสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มสองกลุ่มจากความเป็นศัตรูไปสู่ความเป็นมิตร

เครื่องมือเเนะนำของเนตฟลิกซ์มีประสิทธิภาพอย่างชัดเจน มากกว่า 80% ของการเเสดงของเนตฟลิกซ์ที่ลูกค้าได้ชมภายในสองปีที่แล้วเป็นผลลัพธ์โดยตรงของเครื่องมีอแนะนำของเนตฟลิกซ์ ไม่ใช่บุคคลบางคนค้นหาเพื่อเนื้อหาเรื่องหนึ่งเฉพาะจิตวิทยาของเนตฟลิกซ์ ยักษ์ใหญ่สตรีมมิ่งมีอิทธิพลพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างไร เนตฟลิกซ์จะเป็นบริการสตรีมมิ่งนิยมแพร่หลายมากที่สุดภายในโลก ด้วยสมาชิกมากกว่า 222 ล้านคนทั่วโลก บริษัทจะมีประวัติที่ยาวนานของความเข้าใจและมีอิทธิพลพฤติกรรมผู้บริโภค และความเข้าใจเหล่านี้ได้ช่วยเหลือให้มันกลายเป็นบรรลุความสำเร็จบริษัทมีประวัติของการเจริญเติบโตที่ยาวนาน และมันสามารถจะรักษาการยึดครองภายในตลาดสตรีมมิ่ง แม้ว่าการเเข่งขันเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก การเจริญเติบโตของเนตฟลิกซ์สามารถถูกอ้างโดยปัจจัยจำนวนหนึ่งคือ เนื้อหาที่หลากหลาย ความสะดวก ความสามารถรับภาระได้ การเป็นส่วนบุคคล และการลงทุนเนื้อหาต้นกำเนิดบริษัทเผชิญการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นจากบริการสตรีมมิ่งอื่น แต่มันจะมีข้อได้เปรียบจำนวนหนึ่งเนตฟลิกซ์ ได้ระเบิดเป็นบริการสตรีมมิ่งสำคัญที่สุดของโลก การสร้างภายในโลกของการผลิตเนื้อหา ความผูกพันของพวกเขาต่อการทดสอบทางวิทยาศาสตร์และการใช้พฤติกรรมศาสตร์สามารถอธิบายความสำเร็จเหล่านี้ได้วิถีทางที่สำคัญของเนตฟลิกซ์สร้างอิทธิพลพฤติกรรมผู้บริโภคคือ ผ่าน เครื่องมือแนะนำของมัน เครื่องมือแนะนำได้ใช้ปัจจัยที่หลากหลายแนะนำภาพยนต์และรายการทีวีแก่ผู้ใช้คือ ประวัติการชม และการประเมินของพวกเขา วิถีทางการทำให้เป็นส่วนบุคคลต่อการแนะนำทำให้มันน่าจะเป็นมากขึ้นที่ผู้ใช้จะพบบางสิ่งบางอย่างที่พวกเขาต้องการชมเนตฟลิกซ์ได้ใช้การทำให้เป็นส่วนบุคคลบรรลุความสำเร็จมากจน 80% ของรายการที่ชมผ่านทางเครื่องมือคำแนะนำของมัน แทนการที่ผู้ใช้ผ่านทางการค้นหาเนื้อหาอย่างตั้งใจ การทำให้เป็นส่วนบุคคลได้ถูกโน้มน้าวเพิ่มขึ้นเป็นอนาคตของพฤติกรรมศาสตร์
การพิสูจน์ทางสังคม สามารถถูกอธิบายเป็นแนวโน้มที่บุคคลจะเดินตามและเลียนแบบการกระทำของบุคคลอื่น เพื่อที่จะตัดสินใจกระทำภายในสถานการณ์คล้ายกันอย่างไร คุณได้มองการประเมินและการแนะนำก่อนการซื้อผลิตภัณฑ์หรือไม่ นั่นคือการพิสูจน์ทางสังคม และเนตฟลิกซ์ใช้หลักการพฤติกรรมศาสตร์ข้อนี้สุ่มผู้ใช้ไปสู่การชมเนื้อหาเฉพาะ การทำให้ผู้ใช้มองเห็นอะไรเป็นแนวโน้มและเปิดตัวใหม่ มันเสนอแนะภาพยนตร์ตามแนวโน้มของมัน การพิสูจน์ทางสังคมนี้ได้ช่วยเหลือบุคคลที่จะอยู่กับการปรับปรุงให้ทันสมัยเกี่ยวกับภาพยนตร์ล่าสุดเมื่อผู้ใช้เปิดดูโฮมเพจของเนตฟลิกซ์ค้นหาเพื่อบางสิ่งบางอย่างใหม่ที่จะชม พวกเขาเพียงแค่ใช้ชื่อเรื่องและภาพขนาดย่อตัดสืนใจชมภาพยนตร์คุ้มค่าชั่วโมงของเวลาของคุณหรือไม่นั่นคือทำไมเนตฟลิกซ์ใช้การพิสูจน์ทางสังคมเป็นหลักการชักจูงช่วยเหลือผู้ใช้ เพื่อการชนะความเสี่ยงภัยทางจิตวิทยาของความพยายามบางสิ่งบางอย่างใหม่ เนตฟลิกซ์ได้ใช้การพิสูจน์ทางสังคมของมันภายในรายการ “Top 10” โฮมเพจของมันเสนอเเนะต่อผู้ใช้คุณยิ่งมีทางเลือกมากขึ้นเท่าไร คุณยิ่งพยายามเลือกมันมากขึ้นเท่านั้นนั่นคือความขัดเเย้งของทางเลือกสร้างความเหนื่อยของการตัดสินใจต่อผู้ใช้เนตฟลิกซ์ เพื่อต่อสู้ปรากฏการณ์นี้ เนตฟลิกซ์ได้ประกาศคุณสมบัติสุ่ม สนับสนุนการตัดสินใจ : Play Something เปิดตัวอัตโนมัติบางสิ่งบางอย่างที่จะชม การแนะนำจะยังคงให้กับภาพยนตร์ที่คุณได้เคยชมแล้วบนเนตฟลิกซ์ ถ้าคุณได้ชมมัน คุณชอบมัน เราแนะนำคุณบางสิ่งบางอย่างที่ คล้ายกันคุณใช้เวลามากแค่ไหนพยายามตัดสินใจอะไรที่จะดูบนเนตฟลิกซ์ถ้าคุณเป็นผู้ใช้เนตฟลิกซ์คนหนึ่ง คุณมีประสบการณ์แล้วอย่างน้อยที่สุดหนึ่งครั้ง “พวกเขามีทางเลือกมากเหลือเกิน” ในขณะที่คุณกำลังนำทางบนแพลตฟอร์มและเลื่อนไปเรื่อย ดังนั้นคุณมีประสบการณ์กับกฏของฮิคบนเนตฟลิกซ์ และแน่นอนภายในช่วงเวลาอื่นของการตัดสินใจ แต่โดยเฉพาะออนไลน์ เพราะว่าคุณมีช่วงของผลิตภัณฑ์กว้างมากตามกฏของฮิค คุณมีทางเลือกมากขึ้นเท่าไร คุณใช้เวลาตอบสนองมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นคุณเลื่อนไปเรื่อยที่จะมั่นใจว่าคุณไม่ได้พลาดทางเลือกที่ดีที่สุดโดยสรุป กฏของฮิค อธิบายปรากฏการณ์ทางจิตวืทยา ตรงที่เวลาใช้ตัดสินใจเพิ่มขึ้นภายในการเผชิญกับทางเลือกหลายทางบุคคลยิ่งมีทางเลือกมากขึ้นเท่าไร มันจะต้องใช้เวลานานขึ้นที่จะเลือกเท่านั้น หลักการคล้ายกันกับความขัดเเย้งของทางเลือกของเเบร์รี ชวาร์ตซ์ หลักการที่ระบุว่าการกำจัดทางเลือกของลูกค้าสามารถลดความวิตกกังวลได้มากต่อลูกค้า กฏของฮิคจะอธิบายเวลาที่บุคคลใช้กับตัดสินใจจากทางเลือกที่เป็นไปได้ มันเกี่ยวพันกับเวลา นั่นคือ ข้อมูลที่คุณนำเสนอมากขึ้นเท่าไร มันใช้เวลาที่จะบรรลุข้อสรุปนานขึ้นเท่านั้น กฏของฮิคส่งเสียงอย่างหนักแน่นหลักการออกแบบนิยมแพร่หลายเมื่อ ค.ศ 1960 รู้จักกันอย่างชื่นชอบว่า “KISS” ย่อมาจาก Keep It Simple, Stupid ด้วยการทำให้จำนวนของทางเลือกนำเสนอต่อผู้ใช้ง่ายลง นักออกแบบสามารถหลีกเลี่ยงผู้ใช้จากการชะงักภายในการตัดสินใจ มันง่ายขึ้นที่จะตัดสินใจเมื่อคุณมีทางเลือกน้อยลงที่จะเลือกกฏของฮิค – กฏของฮิค-ไฮแมน เรียกชื่อตามทีมนักจิตวิทยาอังกฤษและอเมริกัน วิลเลียม ฮิค และเรย์ ไฮแมน เมื่อ ค.ศ 1952 พวกเขาได้เริ่มต้นพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนของตัวกระตุ้นและเวลาตอบสนองของบุคคลต่อตัวกระตุ้นที่ให้ใดก็ตามตัวกระตุ้นที่จะเลือกยิ่งมากขึ้นเท่าไร เวลานานขึ้นที่จะตัดสินใจมากขึ้นเท่านั้น ณ บางเวลา คุณจะท่วมท้นด้วยจำนวนของทางเลือก และภายหลัง 30 นาทีคุณยังคงอยู่ ณ ของการดูเพิ่มของรายการเนตฟลิกซ์ นี่เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์ของสิ่งที่แบร์รี ชวารตซ์ เรีบกว่าความขัดเเย้งของทางเลือก ความคิดคือทางเลือกมากขึ้นนำไปสู่ความเครียดทางจิตใจมากขึ้น และรู้สึกมีความสุขน้อยลงเรามีคำศัพท์เรียกว่า อาการเนตฟลิกซ์ มันได้อ้างถึงผู้ใช้ใช้เวลาเลือกเนื้อหามากกว่าชมมันจริง คุณยิ่งมีทางเลือกมากเท่าไร คุณยิ่งพยายามที่จะเลือกมากขึ้นเท่านั้น ความเหนื่อยของการตัดสินใจนี้สามารถถูกอ้างต่อสิ่งรู้จักกันอย่างมีชื่อเสียงเป็น โฟโม ความกลัวของการพลาดไปเพราะว่าไม่มีใครต้องการพลาดอะไรที่ดีที่สุดต่อไป คุณยิ่งมีทางเลือกมากขึ้นเท่าไร คุณพยายามที่จะเลือกมากขึ้นเท่านั้นนั่นคือความขัดเเย้งของทางเลือกสร้างความเหนื่อยของการตัดสินใจต่อผู้ใช้ของเนตฟลิกซ์
เมื่อไม่รู้จะดูอะไรเนตฟลิกซ์ได้หวังที่จะเเก้ปัญหารนี้กับ”Play Something” ของพวกเขาเนตฟลิกซ์ได้เปิดตัวคุณสมบัติใหม่เรียกว่า”Play Something”ถูกออกแบบช่วยเหลือคุณตัดสินใจดูอะไร คุณสมบัตินี้จะเเสดงภาพยนตร์บนพื้นฐานรสนิยมของคุณเมื่อคุณกดปุ่ม “Play Something” คุณจะพบทันทีภาพยนตร์ที่เรารู้คุณชอบ บนพื้นฐานของอะไรที่คุณได้ดูก่อนหน้านี้ หรือด้วยกดอีกครั้งหนึ่ง คุณสามารถ “Play Something Else” และได้ภาพยนตร์ใหม่ทันที

Cr : รศ สมยศ นาวีการ

Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *