jos55 instaslot88 Pusat Togel Online อินทิรา คานธี โจน ออฟ อาร์ค แห่งอินเดีย - INEWHORIZON

INEWHORIZON

ขอบฟ้าใหม่

อินทิรา คานธี โจน ออฟ อาร์ค แห่งอินเดีย

อินทิรา คานธี โจน ออฟ อาร์ค แห่งอินเดีย

ภายในหนังสือ “Leadership : Theory and Practice” ของ ปีเตอร์ นอรธเฮ้าส์ ได้กล่าวถึงผู้นำหญิงที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง เธอได้ถูกพิจารณาเป็นผู้นำหญิงคนหนึ่งภายในทฤษฎีผู้ยิ่งใหญ่ อินทิรา คานธีเป็นนักการเมืองอินเดีย ผู้นำบุกเบิกเเละเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอินเดีย ผู้หญิงที่มีอำนาจมากที่สุดคนหนึ่งภายในโลกเธอได้เจริญเติบโตภายในครัวเรือนการเมือง เป็นลูกสาวของนายกรัฐมนตรี และมองความยุ่งยากของชีวิตเการเมืองตั้งแต่ตอนเป็นเด็กไปข้างหน้า บิดาของเธอ จาวาฮาลาล เนห์รู ได้ทำงานเคียงข้างกับมหาตมะ คานธี นำอินเดียไปสู่เอกราชจากอังกฤษอินทิรา คานธี ถูกรู้จักกันต่อบุคลิกภาพที่เข้มแข็งของเธอ และเข้าไปสู่สงครามกับปากีสถาน สนับสนุนการเคลื่อนไหวเอกราชภายในปากีสถานตะวันออก นำไปสู่การก่อตั้งของบังคลาเทศ กองกำลังของอินเดียบรรลุชัยชนะอย่างรวดเร็วและเด็ดขาดต่อปากีสถาน เธอกลายเป็นผู้นำรัฐบาลคนแรกที่ยอมรับประเทศใหม่ อินทิรา คานธีมองตัวเธอเองเป็นโจน ออฟ อาร์ค ปัจจุบัน นั่นคือความเร่าร้อนและความศรัทธาของเธอภายในตัวเธอเองเป็นผู้รักชาติ เธอเสียขีวิตอย่างผู้พลีชีพเพื่อเอกภาพของประเทศของเธออินทิรา คานธีได้กล่าวว่าโจน ออฟ อาร์ค เป็นความฝันของฉันเมื่อเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ฉันได้ค้นพบเธอเมื่ออายุสิบหรือสิบสองปี เมื่อฉันไปฝรั่งเศส ฉันจำไม่ได้ฉันได้อ่านเกี่ยวกับเธอที่ไหน แต่ฉันจำได้ว่าเธอมีความสำคัญต่อฉัน ฉันต้องการสละชีว้ตของฉันเพื่อประเทศของฉันอินทิรา คานธีได้กล่าวก่อนการเสียซีวิตอย่างเศร้าสลดของเธอ เลือดทุกหยดของฉันจะมีส่วนช่วยต่อการเจริญเติบโตของประเทศนี้ และทำให้มันเข้มแข็งและเปลี่ยนแปลง เธอเป็นผู้หญิงแห่งความกล้าหาญ และชื่นชมแก่บุคคล ด้วยจิตวิญญานของการต่อสู้ ตอนเป็นเด็ก บิดาของเธอเป็นแหล่งบันบันดาลใจของเธอสุภาพสตรีเหล็กของอินเดีย อินทิรา คานธี เสียชีวิตเมื่อ 31 ตุลาคม 1984 เธอถูกยิงโดยองครักษ์สองคนของเธอ คำพูดของเธอได้ถูกพูดเพียงแค่วันก่อนหน้านี้ ณ การชุมนุมสาธารณะได้กลายเป็นคำทำนาย อินทิรา คานธีได้พูดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของความรุนเเรงจบชีวิตของเธอเธอกล่าวว่า “ฉันอยู่ที่นี่วันนี้ ฉันอาจจะไม่อยู่ที่นี่วันพรุ่งนี้ ไม่มีใครรู้บุคคลหลายคนพยายามยิงฉัน ฉันไม่สนใจฉันจะอยู่หรือตาย ฉันมีชีวิตอยู่มายาวนาน และฉันภูมิใจว่าฉันได้ใช้ทั้งชีวิตของฉันต่อการรับใช้บุคคลของฉัน ฉันภูมิใจต่อสิ่งนี้เท่านั้นและไม่มีอะไรอีกแล้ว ฉันจะรับใช้อยู่ต่อไปจนลมหายใจสุดท้าย และเมื่อฉันตาย ฉันสามารถกล่าวได้ว่า เลือดทุกหยดของฉันจะเติมพลังอินเดียเเละทำให้มันเข้มแข็งขึ้น”อินทิรา คานธี เป็นผู้นำหญิงที่มีบารมีมากที่สุดคนหนึ่งของอินเดียเธอมีชื่อเสียงต่อความเป็นผู้นำที่กล้าหาญ และตัดสินใจอย่างกล้าหาญ การชนะสงครามกับปากีสถานหรือการกำจัดผู้ต่อต้านภายในวิหารทองคำเธอได้กล่าวว่า เกมของฉันทุกเกมเป็นเกมการเมือง ฉันเหมือนกับโจน ออฟ อาร์ค ถูกเผาไฟอยู่บนหลักตลอดไปโจน ออฟ อาร์ค ได้ถูกพิจารณาเป็นผู้นำหญิงคนหนึ่งเป็นตัวแทนของทฤษฎีผู้ยิ่งใหญ่ เพราะว่าเธอมีพรสวรรค์และคุณลักษณะตามธรรมชาตินำกองทหารของเธอไปสู่ชัยชนะ เธอไม่ได้ทำงานปรับปรุงทักษะความเป็นผู้นำของเธอ เธอเป็นเพียงแค่มีมันภายในเธอเท่านั้นโจน ออฟ อาร์ค เป็นวีรสตรีอย่างแท้จริง ความรักมาจากหัวใจของเธอทำให้ประเทศของเธอเข้มแข็ง ฝรั่งเศสยังคงภูมิใจแย่างมากต่อวีรสตรีคนนี้ ถ้ามันไม่ใช่โจน ออฟ อาร์ค มันจะไม่เป็นฝรั่งเศสที่กว้างใหญ่เช่นนี้พรมแดนอาจจะแตกต่างกันโจน ออฟ อาร์ค เป็นผู้หญิง ผู้หญิงที่ยังคงโดดเด่นภายในประวัติศาสตร์เป็นวีรสตรีที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เป็นเพียงแต่ผู้หญิงต่อสู้อังกฤษรักษาประเทศที่เธอรักเท่านั้น เเต่เป็นผู้หญิงด้วยคุณลักษณะที่อัศจรรย์สามอย่างเหล่านี้ : ความเข้มแข็ง ความหวัง และความมุ่งมั่นโจน ออฟ อาร์ค เป็นวีรสตรีแห่งชาติของฝรั่งเศส เกิดภายในครอบครัวขาวนาเมื่อ ค.ศ 1412 ภายในหมู่บ้านโดมเรมี ฝรั่งเศส เธอมีชื่อเล่นว่า หญิงบริสุทธิ์แห่งออร์ลีนส์ เด็กหญิงชาวนาที่เชื่อว่าเธอได้กระทำภายใต้เเนวทางเเห่งเทพเจ้าเธอได้นำกองทัพฝรั่งเศสภายในชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ ณ ออร์ลีนส์ ด้วยการขับไล่ความพยายามของอังกฤษที่จะยึดครองฝรั่งเศสระหว่างสงคราร้อยปี ความขัดเเย้งที่รุนแรงระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศส การมีชีวิตอยู่และการเสียชีวิตย่างเศร้าสลดของโจน ออฟ อาร์คทำให้เธอเป็นสัญลักษณ์ที่ยั่งยืนของความกล้าหาญ ความศรัทธา และความภูมิใจของชาติโจน ออฟ อาร์ค เป็นชาวนาที่เคร่งศาสนาภายในฝรั่งเศสยุคกลาง เชื่อว่าพระจ้าได้เลือกเธอนำฝรั่งเศส ไปสู่ชัยชนะภายในสงครามที่ยาวนานกับอังกฤษ โดยไม่มีการฝึกฝนทางทหารเลย โจน ออฟ อาร์ค ได้ชักจูงให้องค์รัชทายาท ซาร์ลส์ แห่งวาลัวส์ ยอมให้เธอนำกองทัพฝรั่งเศสล้อมโจมตีเมืองออร์ลีนส์กษัตริย์ชารลส์ที่เจ็ดได้สั่งโจน ออฟ อาร์ค ไปเผชิญหน้าการโจมตีของเบอร์กันเดียนต่อกงเปียญ ภายในความพยายามของเธอที่จะป้องกันเมืองเธอได้ตกจากหลังม้าและถูกทิ้งไว้ข้างนอกประตูเมืองเมื่อมันได้ถูกปิดเบอร์กันเดียนได้จับตัวเธอไป ภายในการสอบสวนที่ตามมา เธอได้ถูกสั่งให้ตอบข้อกล่าวหารวมทั้งการใช้เวทย์มนตร์คาถา การนอกรีต และการเเต่งตัวเป็นผู้ชายภายในความพยายามไกลตัวเขาเองจากข้อกล่าวหาการนอกรีตและเเม่มด กษัตริย์ฝรั่งเศส ไม่พยายามเจรจาต่อรองการปล่อยตัวโจนออฟอาร์ค ในที่สุดเธอได้ถูกประหารชีวิตด้วยการผูกมัดกับเสาและจุดไฟเผาทั้งเป็น อายุเพียงแค่ 19 ปี

“ฉันไม่คิดถึงบุคคลเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ฉันเพียงแค่คิดถึงพวกเขาเป็นบุคคล บุคคลทุกคนมีเพศชายและเพศหญิงภายในพวกเขา อะไรที่สำคัญคือ ความสามารถของพวกเขา”นางอินทิรา คานธี นายกรัฐมนตรีอายุ 52 ปี ของชาวอินเดีย 550 ล้านคน ได้พูด ณ การประชุมหนังสือพิมพ์ ณ โซนา เมื่อมันมาสู่การเป็นผู้นำเธอไม่ได้มองว่าพวกเขาป็นชายหรือหญิง ทฤษฎีของฉันคือ ผู้ชายไม่ได้เสรีมากกว่าผู้หญิงอีกเเล้ว ฉันคิดว่าความเป็นผู้นำ ณ เวลาหนึ่ง หมายถึงกล้ามเนื้อ แต่วันนี้หมายถึงการเข้ากันได้กับบุคคลเธอกล่าวว่าครั้งหนึ่งเท่านั้นภายในชีวิตของเธอ เธอเคยเสียใจเป็นผู้หญิงก่อนฉันอายุ 16 ปี เพราะว่าคิดว่าเด็กผู้ชายสนุกสนานมากขึ้นกับการปีนต้นไม้ อินทิรา ปรียาทาสินี คานธี ชื่อกลางหมายถึง ความงานที่จะมองเห็น เป็นผู้หญิงดูงาม ห้าฟุตหนึ่งนิ้ว ด้วยอินเดียได้ให้ตัวอย่างที่ดีมากของผู้หญิง ลุกขึ้นไปสู่ตำแหน่งที่สำคัญอินทิรา คานธี ได้รับใช้เป็นนายกรัฐมนตรี เธอได้ทำลายเพดานแก้วต่อผู้หญิงภายในการเมือง และได้กลายเป็นแรงบันดาลใจต่อนักการเมืองหญิงที่ทะเยอทะยาน ชีวิตของอินทิรา คานธีเป็นเรื่องราวที่บันดาลใจผู้หญิง พยายามและบรรลุความสำเร็จด้วยการทำลายเพดานแก้วเรามีผู้นำหญิงที่มีชื่อเสียงไม่กี่คนสร้างรอยเท้าของพวกเธอภายในสังเวียนการเมืองโลก และอินทิรา คานธีเป็นชื่อหนึ่งอย่างเเน่นอน นายกรัฐมนตรีหญิงอินเดียรับใช้ยาวนานที่สุดลำดับสองของโลกตั้งแต่ ค.ศ 1966-1984 อินทิรา คานธี ได้ถูกชื่นชอบมากที่สุดต่อวิถีทางกำปั้นเหล็กของเธอ และสไตล์การปกครองอย่างกล้าหาญ เธอได้ถูกเลือกตั้งสี่ครั้งเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศ ภายในแต่ละวาร มันจะเป็นบุคลิกภาพเดียวกันภายในทำเนียบ แต่นายกรัฐมนตรีแตกต่างกันอินทิรา คานธี ไม่ได้เป็นบุคคลที่ยึดเอาความคิดสืบทอดจากบิดาของเธอ เธอได้เปลี่ยนแปลงและวืวัฒนาการ เพื่อการทำให้ดีขึ้น อินทิราคานธีเป็นความประทับใจที่ลบไม่ออกภายในโลกของการเมือง เธอได้กำหนดมาตรฐานที่สูงเพื่อผู้นำหญิงคนอื่นทั่วโลก ความสำเร็จของเธอได้แสดงต่อเรา ความสำคัญของการใช้ประโยชน์ของสิ่งแสดล้อมของคุณ และไม่ยอมให้เพศของคุณกำหนดคุณมันไม่ได้เป็นความสำคัญที่กล่าวถึงเรื่องราวของผู้หญิงภายในความเป็นผู้นำเท่านั้น แต่มันได้กลายเป็นความจำเป็น ชีวิตของอินทิรา คานธี เป็นเรื่องราวบันดาลใจผู้หญิงพยายามและบรรลุความสำเร็จโดยการทำลายเพดานแก้วในฐานะของนายกรัฐมนตรี อินทิรา คานธีได้เผชิญความท้าทายหลายอย่าง ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เธอได้ดำเนินการลำดับของการปฏิรูปเศรษฐกิจ มุ่งหมายที่การลดความยากจน นโยบายของเธอรู้จักกันเป็นการรณรงค์ “การ์บี ฮาทาว” – กำจัดความยากจน – มุ่งที่การกระจายพื้นที่ การทำให้ธนาคารเป็นของรัฐ และการส่งเสริมการพัฒนาชนบทแต่กระนั้นความเป็นผู้นำของอินทิรา คานธี ไม่ใช่ไม่มีการโต้เถีบง เมื่อ ค.ศ 1975 เธอได้ประกาศสภาวะฉุกเฉิน การระงับเสรีภาพสาธารณะ และการบังคับการตรวจสอบสื่ออย่างเข้มงวดการกระทำนี้ได้ถูกวิจารณ์และประท้วงอย่างกว้างขวาง เมื่อบุคคลจำนวนมากมองเป็นการใช้อำนาจที่ผิด แต่กระนั้นเธอได้ยกเลิกสภาะฉุกเฉินเมื่อ ค.ศ 1977 และเรียกร้องการเลือกตั้งที่เธอได้พ่ายแพ้ในที่สุดแม้ว่าจะพ่ายแพ้ อินทิรา คานธียังคงเป็นพลังที่น่ากลัวภายในการเมืองอินเดีย เธอได้กลับมาสู่อำนาจเมื่อ ค.ศ 1980 รับใช้เป็นนายกรัฐมนตรี จนกระทั่งเธอได้ถูกลอบสังหารเมื่อ ค.ศ 1984 ความเป็นผู้นำของเธอระหว่างนี้มุ่งที่ความมั่นคงของชาติ และนโยบายต่างประเทศโดยเฉพาะภายในความขัดเเย้งกับปากีสถานอินทิรา คานธี ได้ทำลายแม่้พิมพ์ ปูเส้นทางต่อรุ่นในอนาคตของผู้นำหญิงภายในอินเดียและทั่วโลก เธอเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกและคนเดียวเท่านั้นของอินเดีย ทิ้งรอยที่ลบไม่ออกบนประวัติศาสตร์ของชาติความเป็นผู้นำของเธอเเสดงคุณลักษณะด้วยวิถีทางที่เข้มแข็งและเเน่วแน่อินทิรา คานธี ได้เผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจหลายอย่างประเทศต่อสู้กับเงินเฟ้อที่สูง อุตสาหกรรมที่เฉื่อยชา และประชากรเพิ่มสูงขึ้น อินทิรา คานธี ได้รับรู้ความต้องการเร่งด่วนเพื่อการปฏิรูปเศรษฐกิจ การริเริ่มที่สำคัญของเธอมีทั้งการทำให้ธนาคารเอกชนสิบสี่แห่งเป็นของรัฐ การดำเนินการของการปฏิวัติเขียว และการส่งเสริมอุตสาหกรรมหนักภายในอินเดีย

ฮิลลารี คลินตัน หวังที่จะทุบเพดานแก้วของประธานาธิบดีหญิงให้แตกกระจาย ฮิลลารี คลินตันได้เข้ามาใกล้อย่างเจ็บปวดที่จะชนะการเสนอชื่อเลือกตั้งประธานาธิบดีของพรรคเดโมเเครต รวบรวมได้ถึง 18 ล้านเสียงก่อนการพ่ายเเพ้วุฒิสมาชิกน้องใหม่ บารัค โอบามา ณ การปราศัยยอมรับความพ่ายแพ้ของเธอ คลินตัน ได้อ้างการต่อสู้ตลอดชีวิตของเธอ ชนะอุปสรรคต่อผู้หญิง ถ้าเธอชนะครั้งนี้ เธอจะก้าวไปจากสุภาพสตรีคนแรกต่อวุฒิสมาขิกยูเอสจากนิวยอร์ค ไปสู่รัฐมนตรีต่างประเทศยูเอส ไปสู่มาดามประธานาธิบดีในที่สุดครั้งหนึ่งฮิลลารี คลินตัน ได้กล่าวว่า ผู้หญิงเป็นอ่างเก็บน้ำที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ของความสามารถภายในโลก เธอกล่าวได้อ้างอิงอย่างมีชื่อเสียง สิทธิมนุษยชนเป็นสิทธิของผู้หญิง และสิทธิของผู้หญิงเป็นสิทธิมนุษยชน ในขณะที่ทำการแข่งขันประธานาธิบดีอเมริกาเธอได้พูดต่อสาธารณะหลายครั้งเกี่ยวกับความฝันของการทุบเพดานแก้วสูงที่สุดและยากที่สุดให้แตก การชี้ต่อวิสัยทัศน์ของเธอ เพื่อการชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเอมริกา แม้ว่า ฮิลลารี คลินตัน ทุบเพดานเเก้ว แต่ผู้หญิงภายในอินเดียสัมผัสท้องฟ้าไปเเล้ว คุณจะทำลายเพดานแก้วสัมผัสท้องฟ้าอย่างไร อย่ายอมให้บุคคลจำกัดขอบฟ้าของคุณฮิลลารี่ คลินตัน ได้ยอมรับความพ่ายแพ้ของเธอภายในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาด้วยคำปราศัยที่มีพลังแก่ผู้สนับสุนของเธอภายในนิวยอร์ค การยอมรับว่าแม้ว่าเธอไม่สามารถทำให้เพดานแก้วสูงที่สุดและยากที่สุดแตกได้ วันหนึ่งในอนาคตบุคคลบางคนจะทำได้ ครั้งหนึ่งฮิลลารี่ คลินตันเกือบจะชนะการเสนอชื่อประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครต การรวบรวมเสียงได้ 18 ล้านเสียงก่อนที่จะพ่ายแพ้แก่บารัค โอบามา ณ การปราศัยการยอมรับของเธอ ฮิลลารี คลินตัน ได้อ้างถึงการต่อสู้อย่างยาวนานที่จะชนะอุปสรรคต่อผู้หญิง แม้ว่าไม่สามารถจะให้เพดานแก้วสูงสุดและยากที่สุดแตกได้ครั้งนี้ขอบคุณทุกคน มันได้สร้าง 18 รอยร้าวกับเพดาน แก้ว และแสงเพดานแก้วได้สาดส่องอย่างไม่เคยมีมาก่อน การสร้างความหวังแก่เรา และความมั่นใจว่าเส้นทางจะง่ายขึ้นครั้งหน้าต่อมาฮิลลารี่ คลินตัน ได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานาธิบดี และหวังที่จะทำให้เพดานแก้วแตกในที่สุดและกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงของอเมริกา และในขณะที่การเลือกตั้งได้สร้างเกือบ 57 รอยร้าวกับเพดานแก้ว มันยังคงไม่เพียงพอที่จะทำให้เพดานแก้วแตก และโดนัลด์ป์ ทรัมได้ถูกเลือกเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของอเมริกาการปราศัยยอมรับความพ่ายแพ้ของฮิลลารี คลินตันต่อโดนัลด์ ทรัมป์คู่ขนานกับคำปราศัยการยอมรับความพ่ายแพ้ก่อนหน้านี้ ภายในทั้งสองกรณี เธอได้กล่าวถึงหลักไมล์เพดานเเก้วที่เธอไม่สามารถไปถึงได้

ชาวอินเดียภูมิใจว่าอินเดียด้วยความซับซ้อนของมันและสังคมโบราณที่เข้มเเข็ง พวกเขามีผู้หญิงเป็นประธานาธิบดีหรือนายกรัฐนตรีต่อ 21 จาก 50 ปีที่แล้ว อินทิรา คานธี เป็นนายกรัฐมนตรีระหว่าง ค.ศ 1966 และ ค.ศ 1984 ต่อช่วงเวลา 16 ปี และจาก ค.ศ 2007 ถึง ค.ศ 2012 ประติภา ปาติล เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกแห่งอินดีย แต่ภายในอเมริกาไม่มีผู้หญิงเลยที่เคยเป็นประธานาธิบดี ภายหลังเอกราชอินเดียเป็นพยานลำดับของผู้นำหญิงดำรงตำแหน่งที่สำคัญภายในลำดับชั้นทางการเมืองของประเทศตั้งแต่วันเเรก ผู้หญิงอินเดียไม่ล้มเหลวที่จะพิสูจน์ว่าพวกเธอสามารถทำอะไรก็ตาม และเผขิญความท้าทายใดก็ตามมาสู่หนทางของพวกเธอผู้หญิงอินเดียได้แสดงความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งภายในชีวิตประจำวัน ณ ที่บ้าน การเเสดงความสำคัญของการสื่อสาร และการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ และความเข้าอกเข้าใจต่อการสร้างครอบครัวและชุมชนที่เข้มแข็งการทำลายเพดานแก้วของผู้หญิงภายในตำเเหน่งความเป็นผู้นำได้ท้าทายบทบาทเพศสมัยเดิม และปูเส้นทางเพื่อรุ่นในอนาคตพวกเธอได้แนะนำความคิดใหม่ ขับเคลื่อนวัตกรรม และส่งเสริมความก้าวหน้าทางสังคมในขณะที่สนับสนุนความหลากหลายและการครอบคลุม ผู้หญิงเหล่านี้ได้แสดงบทบาทที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนความท้าทายภายในสนามที่หลากหลาย ตั้งแต่การเมืองไปสู่ธุรกิจ และเลยพ้นไปพวกเธอได้ทำลายอุปสรรค และท้าทายบทบาทเพศสมัยเดิม ปูเส้นทางเพื่อรุ่นในอนาคตของผู้หญิง เดินตามรอยเท้าของพวกเธอ เรามีหลายตัวอย่างที่บันบาลใจของผู้หญิงที่ทำลายอุปสรรค และบรรลุตำแหน่งความผู้นำ สร้างผลกระทบทางบวกต่อองค์การและชุมชนของพวกเธอ พวกเธอมีความมุ่งมั่นและความอุตสาหะ ผู้หญิงสามารถทำลายเพดานแก้วและสัมผัสท้องฟ้า และบรรลุเป้าหมายของพวกเธอเนียร์มาลา สิฐรามัน เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของรัฐบาลอินเดียนับตั้งแต่ ค.ศ 2019 เธอเป็นนักเศรษฐศาสตร์อินเดียอยู่ภายในรายชื่อวารสารฟอร์บของผู้หญิงที่มีอำนาจมากที่สุดภายในโลก เธอเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลังหญิงคนแรกภายในประวัติศาสตร์อินเดีย การแต่งตั้งของเธอสะท้อนการเปลี่ยนแปลงต่อการรับรู้บทบาทของเพศภายในโลกยึดครองโดยเพศชายสมัยเดิมเนียร์มาลา สิฐรามัน เกิดเมื่อ ค.ศ 1959 ภายในมาดูไร อินเดีย เธอเป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยจาวาฮาลาล เนห์รู และลอนดอน สกูล ออฟ อีโคโนมิคส์ เธอเริ่มต้นบริการสาธารณะกับพรรคภารติยะชนตะ – บีเจพี พรรคชาตินิยมฮินดู ถูกมองว่าให้คุณค่าผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เนียร์มาลาควรจะถูกรู้จักต่อความสามารถของเธอ ไม่ใช่เพศของเธอ ผู้หญิงคนเเรกเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เธอได้ทำลายเพดานแก้วอย่างแน่นอน อินทิรา คานธี เป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมมาก่อนเธอในฐานะของรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เธอควบคุมเศรษฐกิจอินเดีย ณ ระดับโลกและประเทศ การลุกขึ้นภายในพรรคเป็นตัวอย่างของผู้หญิงทำลายเพดานเเก้วอยู่ภายในตำแหน่งผู้ควบคุมของเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดลำดับสามของเอเซียในฐานะของรัฐมนตรีกระทรวงการคลังหญิงคนเเรก เนียร์มาลา ได้ทำลายอุปสรรคเหล็กจนถึงตอนนี้ เพียงแค่วิถีทางที่เธอได้ทำเมื่อเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมหญิงคนเเรกของอินเดียภายในรัฐบาลก่อนหน้านี้ เนียร์มาลา นักเศรษฐษสาตร์โดยการศึกษา รับผิดชอบกระทรวงที่สำคัญ ณ เวลาเมื่อรัฐบาลดำเนินการปฏิรูปที่สำคัญภายในกระทรวงและกำลังคน และแผนที่ทะเยอทะยานเพิ่มการผลิตป้องกันตัวภายใต้นโยบายผลิตภายในอินเดีย ภายในหัวใจของอินเดีย เรามีเรื่องราวของความยืดหยุ่น ความกล้าหาญและความมุ่งมั่น เรื่องราวที่ได้รวมเอาเนื้อแท้ของวันสตรีสากล และจิตวิญญานทรหดของเนียร์มาลา ดวงประทีปแห่งความหวังและการเปลี่ยนแปลงภายในทางเดินแห่งอำนาจ เธอได้ถูกลิขิตให้ท้าทายบรรทัดฐานและทำลายอุปสรรค เธอได้ถูกเลี้ยงดู้ภายในครอบครัวที่ถ่อมตัว เธอชุ่มโชกด้วยค่านิยมของความอุตสาหะและความซื่อสัตย์จากบิดามารดาของเธอ ได้ปลูกฝังภายในความเชื่อของเธอว่าไมมีความฝันใดใหญ่เกินไปที่จะไล่ล่าอินดรา นูยี ไม่เพียงแต่ทำลายเพดานแก้วเท่านั้นภายในบริษัทอเมริกันเมื่อเธอได้ถูกเสนอชื่อเป็นซีอีโอของเป้ปซี่โค ยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มของโลกเมื่อ ค.ศ 2006 แต่ตลอดการเดินทางของเธอ ได้บันดาลใจชาวอินเดียหนุ่มสาวหลายล้านคนฝันและทะเยอทะยานเลียนแบบความสำเร็จผู้หญิงกำเนิดอินเดียภายในอเมริกาอินดรา นูยี เกิดภายในอินเดีย และมาสู่อเมริกาเเสวงหาการศึกษาและอาชีพของเธอ แม้ว่าเป็นความท้าทายต่อผู้หญิงผิวสีภวยในโลกธุรกที่ยึดครองโดยเพศชาย เธอได้ลุกขึ้นผ่านตำแหน่ง ณ เป้ปซีโคและในที่สุดได้กลายเป็นซีอีโอหญิงคนแรกของบริษัท ความเป็นผู้นำและวิสัยทัศน์ของอินดรา นูยี ได้ปฏิรูปเป้ปซีโค ไปสู่บริษัทแนวหน้าของโลกเธอเป็นตัวอย่างที่ส่องแสงของผู้หญิงสามารถทำลายเพดานแก้ว และบรรลุความสำเร็จ ณระดับสูงสุดของความเป็นผู้นำบริษัทอย่างไรการเดินทางของอินดรา นูยี ไปสู่จุดสูงสูดของเป้ปซี่โคเป็นแรงบันดาลใจอย่างแท้จริง ในฐานะของผู้อพยพจากอินเดีย อินดรา นูยี ได้เผชิญความอคติทางวัฒนธรรมและเพศตลอดอาชีพของเธอ เเต่กระนั้นเธอไม่ยอมรับที่จะให้อุปสรรคเหล่านี้ขัดขวางเธอ ด้วยจริยธรรมการทำงานที่เข้มแข็งและวิสัยทัศน์ของเธอ อินดรา นูยี ได้ปีนบันไดบริษัท ในที่สุดกลายเป็นซีอีโอของเป้ปซี่โคเมื่อ ค.ศ 2006อินดรา นูยี เป็นผู้หญิงที่มีพลังมากที่สุดคนหนึ่งภายในโลกธุรกิจภายใต้ความเป็นผู้นำของเธอ เป้ปซี่โคได้มองเห็นการเจริญเติบโตที่สูง และเธอจะเป็นผู้สนับสนุนที่เข้มแข็งต่อความยั่งยืน และความหลากหลายภายในสถานที่ทำงาน

อินทิรา คานธี ชื่อเดิม อินทิรา ปรียาทาสินี เนรูห์ เกิดเมื่อ ค.ศ 1917 ลูกสาวคนเดียวเท่านั้นของยาวาฮาร์ลาล เนห์รู นายกรัฐมนตรีคนแรกของอินเดีย ลูกชายของเธอ ราจีฟ คานธีต่อมาได้กลายเป็นนายกรัฐมนตรีอินเดีย เธอชนะการเลือกตั้งเมื่อ ค.ศ 1967 และกลายเป็นผู้หญิงคนแรกเลือกตั้งเป็นผู้นำประชาธิปไตยอินทิรา คานธีได้ถูกลิขิตเพื่อการเมือง นายกรัฐมนตรีหญิงคนเเรกของอินเดีย รับใช้สามวาระติดต่อกัน – ค.ศ 1966 – 1977 และวาระที่สี่จาก ค.ศ 1980 จนกระทั่งถูกลอบสังหารเมื่อ ค.ศ 1984 การดำรงตำแหน่งสะสมของอินทิรา คานธี 15 ปี และ 350 วัน ทำให้เป็นนายกรัฐมนตรีรับใช้ยาวนานที่สุดลำดับสองตามหลังบิดาของเธอ เฮนรี่ คิสซินเจอร์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกาได้เคยกล่าวถึงเธอเป็น”สุภาพสตรีเหล็ก” ชื่อเล่นที่กลายเป็นเชื่อมโยงกับบุคลิกภาพที่ทรหดของเธอตลอดชีวิตของเธอ
เธอได้รวบรวมการสนับสนุนจากประชาชนอย่างกว้างขวาง เพื่อการปรับปรุงการเกษตร นำไปสู่การเลี้ยงตัวเองของอินเดียภายในการผลิตอาหารเมล็ดพันธุ์ และความสำเร็จของเธอภายในสงครามปากีสถานทำให้เกิดการสร้างบังคลาเทศเมื่อ ค.ศ 1971 ฉันไม่เคยให้เราต้องขออาหารอีกครั้งหนึ่ง อินทิรา คานธี พูดภายหลังได้พูดคุยกับประธานาธิบดี ลินดอนจอห์นสันเมื่อ ค.ศ 1971 ภายในการตอบสนองต่อการไหลบ่าของผู้อพยพจากปากีสถานตะวันออก อินทิรา คานธี ได้เริ่มต้นสงครามต่อสู้ปากีสถานกองกำลังอินเดียได้ชนะสงคราม ทำให้เกิดการก่อตั้งชาติบังคลาเทศเมื่อ ค.ศ 1972 พรรคของอินทิรา คานธี ได่ชนะการเลือกตั้งแห่งชาติ บนความพ่ายแพ้ของปากีสถาน และสโลแกน “การิบี ฮาเทา” – กำจัดความยากจนในฐานะของนายกรัฐมนตรี อินทิรา คานธี ได้สร้างการก้าวไปอย่างมีชื่อเสียง เธอได้อนุญาติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อการตอบสนองต่อการทดสอบที่บรรลุความสำเร็จของจีน ณ ลอป นูร์ เมื่อ ค.ศ 1967 อินเดียได้ทดสอบระเบิดปรมาณูของพวกเขาเองเมื่อ ค.ศ 1974 เพื่อการถ่วงดุลมิตรภาพของปากีสถานกับอเมริกา และบางทีเนื่องจากความไม่ลงรอยส่วนบุคคลกับประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน เธอได้สร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับรัสเซียภายในการรักษาหลักการสังคมนิยม อินทิรา คานธีได้ยกเลิกมหาราชของรัฐที่หลากหลายของอินเดีย การยกเลิกสิทธิพิเศษของพวกเขาและชื่อตำแหน่งของพวกเขาด้วย เธอได้ทำให้ธนาคารเป็นของชาติเมื่อ ค.ศ 1969 และบริษัทน้ำมันด้วย ภายใต้การดูแลของเธอ ความอดอยากของอินเดีย ได้กลายเป็นเรื่องราวความสำเร็จของการปฏิวัติเขียว อินเดียได้กลายเป็นสามารถส่งออกข้าวสาร เข้าสาลี และพีชผลอื่นที่เหลือได้เมื่อต้น 1970ตามอินทิรา คานธี การก้าวไปมุ่งหมายที่จะให้การเข้าสู่สินเชื่อธนาคารเสมอภาคมากขึ้น โดยเฉพาะเกษตรกรและช่างฝีมือขนาดเล็ก การหนุนหลังความทะเยอทะยานสังคมนิยมของเธอต่อประเทศ เธอได้ประกาศว่าการกระทำเป็นเพียงการเริ่มต้นของการต่อสู้ที่ขมขื่นระหว่างบุคคลธรรมดาและผู้มีส่วนได้เสียภายในประเทศเท่านั้น ณ เวลานั้น ประมาณ70% ของทรัพย์สินธนาคารรวมส่วนใหญ่อยู่ภายในมือของไม่กี่ครอบครัวธุรกิจอินทิรา คานธี สุภาพสตรีเหล็กแห่งอินเดีย ทำให้การปฏิบัติเขียวเป็นลำดับความสำคัญสูงสุดของรัฐบาล อินเดียได้บรรลุความสำเร็จที่ชัดเจนผ่านความก้าวหน้าของการปฏิวัติเขียว การรับมือกับการขาดแคลนอาหารการใช้เมล็ดสายพันธุ์ผสมใหม่ การริเริ่มเงินสนับสนุนของรัฐ การจัดหาพลังงาน และสินเชื่อแก่เกษตรกร และรายได้จากเกษตรกรรมไม่ต้องเสียภาษีเมื่อ ค.ศ 1947 ยาวาฮาร์ลาล เนรูห์ ได้กลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของชาติเอกราชอินเดียและอินทิรา คานธี ได้ตกลงไปนิว เดลฮี รับใช้เป็นปฏิคมของเขา ต้อนรับนักการฑูตและผู้นำโลก ณ ที่บ้าน เเละเดินทางไปกับบิดาของเธอทั่วทั้งอินเดียและต่างประเทศ ภายหลังการเสียชีวิตของเนรูห์เมื่อ ค.ศ 1964 ลาล บาฮาดูร์ ศาสตรี ได้กลายเป็นนากรัฐมนตรีคนใหม่ และอินทราได้รับเป็นรัฐมนตรีข่าวสารเเต่ความเป็นผู้นำของศาสตรีอายุสั้น เพียงแค่สองปีต่อมาเขาได้เสียชีวิตกะทันหัน และอินทิรา คานธีได้ถูกแต่งตั้งโดยผู้นาพรรคคองเกรสเป็นนายกรัฐมนตรีภายในเวลาไม่กี่ปี อินทิรา คานธี ได้รับความนิยมเเพร่หลายอย่างมากต่อโครงการที่บรรลุความสำเร็จ ปฏิรูปอินเดียไปสู่ประเทศเลี้ยงตัวเองภายในเมล็ดพืชอาหาร ความสำเร็จที่รู้จักกันเป็นการปฏิวัติเขียว เเละการกำจัดความยากจนเมื่อ ค.ศ 2005 การสนทนาเทปไม่เป็นความลับอีกต่อไปของกระทรวงต่างประเทศ ระหว่างประธานาธิบดีนิกสัน และรัฐมนตรีต่างประเทศเฮนรี คิสซินเจอร์ ได้ถูกเปิดเผย ภายในเทป นิกสันและคิสซิงเจอร์ กำลังพูดเกี่ยวนายกรัฐมนตรี อินทิรา คานธี ภายหลังไม่นานการปะชุมกับเธอ ระหว่างการสนทนาอย่างร้อนแรง นิกสันเได้รียกนางคานธีว่า แม่มดแก่ และคิสซินเจอร์ได้เรียกเธอนางแรด เมื่อคำพูดได้ออกมาสู่สาธารณะ เฮนรี คิสซิงเจอร์ กล่าวว่าเขาเสียใจคำพูดของเขา และเขาเคารพนางอินทิรา คานธีอยู่เสมออินทิรา คานธี เเละรัฐบาลของเธอดูเหมือนไม่สามารถทำอะไรก็ตามหยุดความวุ่นวายทางการเมืองภายในปันจาป เธอรู้ว่าการเลือกตั้งทั่วประเทศจะมีขึ้นภายใน ค.ศ 1985 และท่วมท้นด้วยชาวฮินดูส่วนใหญ่ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งของอินเดียน่าจะมองรัฐบาลของเธออ่อนแอที่จะรักษาไว้ ดังนั้นเมื่อ ค.ศ 1985อินทิรา คานธี ได้อนุญาตินายพลของเธอเปิด ปฏิบัติการดาวน้ำเงินของพวกเขามันเป็นชื่อรหัส ต่อสู้ ณ วิหารทองคำภายหลังคืนของการยิงปืนใหญ่ พวกเขาได้เคลื่อนรถถังและกองทหารไปสู่บริเวณวิหาร และตลอดสี่วันและสี่คืนของการสู้รบ จนกระทั่งผู้ต่อต้านเสียชีวิต บุคคลบริสุทธุ์หลายร้อยคนถูกลูกหลง และทหารอย่างน้อยที่สุด 100 คนเสียชีวิตการปฏิบัติการของกองทัพอินเดียรู้จักกันเป็น การปฏิบัติการดาวน้ำเงินได้ถูกดำเนินการเมี่อ ค.ศ 1984 ณ วิหารทองคำภายในอมฤตสระ ปันจาบขับไล่ผู้ต่อต้านกองกำลังซิกซ์นำโดย ชรไนล สิงห์ ภินฑราณวาเลในขณะที่กองทัพบรรลุความสำเร็จภายในการบรรลุเป้าหมายของพวกเขา ชาวซิกซ์บางคนได้เจ็บแค้น เมื่อพวกเขามองเห็นการปฏิบัติการเป็นการโจมตีต่อความศรัทธาของพวกเขา การปฏิบัติการดาวน้ำเงินเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญภายในประวัติศาสตร์อินเดีย วิหารทองคำ เทวสถานชาวซิกซ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ ได้ถูกทำลายอย่างรุนเเรงระหว่างการปฏิบัติการ และผู้เสียชีวิตได้ถูกรายงานทั้งสองข้างการปฏิบัติการมีผลตามมาแผ่ไปไกล และมีผลกระทบอย่างสำคัญต่อสภาพเเวดล้อมทางการเมือง สังคม และวัฒนธรรมของอินเดียปฏิบัติการดาวน้ำเงินแลเหตุการณ์ตามมาทำให้เกิดความรู้สึกอย่างลึกซึ้งของความไม่ไว้วางใจ และความห่างเหินของชุมชนซิกซ์ต่อรัฐบาลอินเดียพรรคครองเกรสถูกมองเป็นความรับผิดชอบต่อปฏิบัติการทหาร เผชิญการสะท้อนกลับอย่างรุนเเรงจากชาวซิกซ์ กระทบต่อโชคชะตาทางการเมืองของพรรคภายในปันจาบ และภูมิภาคอื่นของชุมชนซิกซ์ผลกระทบจากปฏิบัติการดาวน้ำเงินทำให้เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดเปลี่ยนแปลงเส้นทางของประวัติศาสตร์อินเดีย ภายในการแก้เเค้นต่อการปฏิบัติการทางทหาร องครักษ์ชาวซิกซ์สองคน ได้ลอบสังหารนายกรัฐมนตรี อินทิรา คานที ณ บ้านพักของเธอเมื่อ 31 ตุลาคม 1984 เหตุการณ์นี้ ได้กระตุ้นจลาจลต่อต้านซิกซ์ภายในเดลฮี และส่วนอื่นของประเทศ การนำไปสู่ความรุนเเรง การเสียชีวิต และการทำลายทรัพย์สินของชาวซิกซ์ภายหลังที่อินเดียถูกแบ่งเป็นปากีสถานตะวันตก – ปากีสถานปัจจุบัน และปากีสถานตะวันออก – บังคลาเทศปัจจุบัน แนวคิดขาลิสถานได้เกิดขึ้นเนื่องจากพรมแดนสร้างใหม่ ปันจาบตรงที่ส่วนใหญ่ของชุมชนซิกซ์อาศัยอยู่ ได้ถูกเเบ่งเเยกด้วย เมืองที่สำคัญต่อวัฒนธรรมและศาสนาซิกซ์ เช่น ลาฮอร์ และนานคานา ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของปากสถานอินทิรา คานธีได้ถูกลอบสังหารเมื่อ ค.ศ 1984 ณ บ้านพักของเธอ โดยองครักษ์ของเธอเอง ผลกระทบจากปฏิบัติการดาวสีน้ำเงิน การสังหารหมู่ชาวซิกซ์ภายในวิหารทอง อมฤตสระ โดยกองทัพอินเดีย

Cr : รศ สมยศ นาวีการ

Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *