โอกาสสุดท้ายของการปกป้องธรรมชาติ

โอกาสสุดท้ายของการปกป้องธรรมชาติ
โดย พระไพศาล วิสาโล
“เขาก็เลยมีการประชุมอย่างที่ว่า เพื่อหาทางสกัดยับยั้งการทำลายธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการทำลายป่า ไม่ว่าจะเป็นการทำลายน้ำ เพราะพวกนี้มันทำให้ชีวิตนานาชนิดสูญหายไป เขาก็เลยวางแผน คาดหวังว่าภายใน 8 ปีข้างหน้าจะพยายามอนุรักษ์พื้นที่ ทั้งที่เป็นผืนดินและแหล่งน้ำให้ได้ 30 เปอร์เซ็นต์ อนุรักษ์เอาไว้ เพราะไม่งั้นความหลากหลายทางชีวภาพมันก็จะหดหาย ชีวิตไม่ว่าจะเป็นพืชหรือสัตว์จำนวนมากก็จะสูญพันธุ์ไป
แต่เขายังตกลงกันไม่ได้เสียทีเดียวนะว่าจะทำได้ไหม กันพื้นที่ 30 เปอร์เซ็นต์ให้เป็นเขตอนุรักษ์หรือให้ได้รับการดูแล ไม่ให้ธรรมชาติหรือสิ่งมีชีวิตสูญพันธุ์ไป ไม่ว่าจะเป็นผืนดินหรือแหล่งน้ำ โดยกำหนดหมายภายใน 8 ปี หรือปี ค.ศ. 2030 แต่ก็ยังตกลงกันไม่ได้ ขณะที่อีกสองวันก็จะสิ้นสุดการประชุมแล้ว
อันนี้คนก็ไม่ค่อยได้รู้เลยนะว่า นี่เป็นการประชุมที่สำคัญมาก ระดับน้องๆ การประชุมเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำให้เกิดโลกร้อนขึ้น ซึ่งประชุมกันไปแล้วเมื่อเดือนที่แล้วก็ขลุกขลักทีเดียวนะ แล้วก็ยังไม่ได้ผลสรุปที่น่าพอใจ
อันนี้ก็เป็นเรื่องที่เราต้องรู้เอาไว้นะ เพราะความหลากหลายทางชีวภาพนี่เป็นทรัพยาการสำคัญที่คนเพิ่งตระหนักกัน ว่าชีวิตต่างๆ ที่มันเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายโยงใยนี่ มันเป็นเหมือนเบาะที่รองรับการอยู่รอดของมนุษย์และของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ซึ่งทำได้ด้วยการลดมลภาวะ ทิ้งพลาสติกให้น้อยลง ใช้ยาฆ่าแมลงให้น้อยลง และลดการทำลายป่า อันนี้บางอย่างมันก็ช่วยทำให้ลดปัญหาโลกร้อน แต่บางอย่างมันก็ไม่ได้เกี่ยวพันโดยตรง แต่มันช่วยให้ธรรมชาติถูกทำลายน้อยลง และฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

เรื่องนี้ต้องรู้เอาไว้ เพราะมันสำพันธ์กับเรื่องของปัจจัยสี่ มีเงินแต่ไม่มีข้าวไม่มีน้ำ ก็ไร้ประโยชน์นะ อย่างที่หม่อมเจ้าสิทธิพร บิดาเกษตรกรไทยท่านเคยกล่าวว่า “เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาเป็นของจริง” เงินทองเป็นของสมมุตินะ ขึ้นลงแล้วแต่สมมุติ แต่ว่าข้าวปลานี้ของจริงนะ
ถ้าไม่มีข้าว ไม่มีปลา ไม่มีน้ำ ก็อยู่ไม่ได้
ถึงมีเงิน แต่ไม่มีอาหาร มันก็ไปไม่รอด
ไม่มีเงิน แต่มีอาหาร มีข้าวมีปลา ก็ยังอยู่ได้
แล้วจะมีข้าวมีปลาได้ ก็ต้องมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีความหลากหลายทางชีวภาพพอสมควร อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องรู้เอาไว้นะ”
Facebook Comments