ปากีสถาน : ประชาธิปไตยที่รุนแรง

สบาย สบาย สไตล์เกษม
เกษม อัชฌาสัย
ปากีสถาน : ประชาธิปไตยที่รุนแรง
ผมไม่แปลกใจครับ ที่ศาลปากีสถานยกฟ้อง”อิมรอน ข่าน”อดีตนายกรัฐมนตรี(หนึ่งในอดีตนัก”คริกเก็ต”ที่โด่งดังระดับโลก)ในคดีคอรัปชั่น
ทั้งนี้ ตามที่ทางการยื่นฟ้อง เพื่อจับเขาติดคุก หมายปิดปากและยุติบทบาทเขา ที่ต่อต้านรัฐบาลด้วยการลุกฮือผ่านกลุ่มชนที่สนับสนุนเขามาตลอด
เขาพ้นจากตำแหน่งไป ก็เพราะถูกสภาผู้แทนราษฎร ลงมติไม่ไว้วางใจ เมื่อเดือนเมษายนปี ๒๐๒๒ ฐานบริหารเศรษฐกิจถดถอย
ครับ
แต่แล้วในที่สุด ก็กลับถูกจับดำเนินคดีต่อมา ด้วยข้อหาฉ้อราษฎร์บังหลวง ซึ่งชัดๆ ว่าเป็นการกลั่นแกล้งกัน
นับเป็นความซวยของ”อิมรอน ข่าน”ครับ ที่เขายังต้องจำคุกต่อ เพราะมีคดีค้างคามากมาย คดีที่ยังสะสางไม่เสร็จ เลยต้องกักตัวไว้ก่อน
โดยไม่มีอำนาจหรืออิทธิพลพิเศษอะไร ที่ช่วยทำให้เขาเป็น”นักโทษเทวดา” อย่าง“ทักษิณ”
ที่ผมหยิบยกประเด็นนี้มาเขียนนั้น คือจะพยายามอธิบายระบอบประชาธิปไตยของปากีสถาน นับแต่ได้เอกราช จากการแบ่งแยกของสหราชอาณาจักร จากสาธารณรัฐอินเดียออกมาเมื่อปี ๒๔๙๐
ว่าเป็นอย่างไรเท่านั้นเอง
คือทำไม จึงยังทุลักทุเล ไม่ลงตัวสงบแล้วเส็จเรียบร้อยลงสักที เช่นอินเดีย ทั้งๆ ที่แยกออกมาจากสหราชอาณาจักรไล่เลี่ยกัน

ความไม่ลงตัวนี้ ผมเล็งไปที่”ความรุนแรง”ครับ
ความรุนแรงที่เกิดขึ้นมาซ้ำแล้วครั้งเล่า ไม่เลิกรากับนักการเมืองชั้นนำ
นับแต่ครั้งแรก ที่มีการลอบยิงนายกรัฐมนตรี”ลีอาควัต อาลี ข่าน”เสียชีวิต ระหว่างการหาเสียงใน”ราวัลปินดีในปี ๑๙๕๑

ครั้งต่อมาในปี ๑๙๗๙ “ซุลฟิกอรฺ อาลี บุตโต” อดีตนายกรัฐมนตรีถูกศาลสั่งประหารด้วยการแขวนคอ ฐานสั่งฆ่าผู้อื่นกรณีแก่งแย่งกันทางการเมือง

ปี ๑๙๘๘ ประธานาธิบดี”โมฮัมหมัด เซีย อัล ฮัก”เครื่องบินตกตายอย่างเป็นปริศนา พบหลักฐานว่า มีมือมืดวางยานักบินให้หมดสติ ระหว่างบินเดินทาง เครื่องบินเลยตก

ปี ๒๐๐๗ ”เบนาซีร์ บุตโต”นายกรัฐมนตรีสองสมัย ลูกสาวซัลฟิกอรฺ อาลี บุตโต”ถูกสังหารด้วยการยิงและวางระเบิดใน”ราวัลปินดี”
เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๐๒๒ คือปีที่แล้ว”อิมรอน ข่าน”ถูกยิงบาดเจ็บ ชัดเจนว่าเป็นความพยายามลอบสังหาร ที่เมือง”วาซิราบัด” ขณะที่เข้าร่วมประท้วงต่อต้านรัฐบาล
ดีที่เขายังรอดชีวิตมาติดคุกได้

นับว่าเป็นความพยายาม”กำจัด””อิมรอน ข่าน”ให้พ้นจากวงการเมือง ทั้งด้วยความพยายามลอบสังหาร หรือกีดกันด้วยกฏระเบียบและกฏหมายครับ
นี้คือวิถีทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยที่สหราชอาณาจักรทิ้งเป็นมรดกไว้ ให้ปากีสถานได้ประพฤติปฏิบัติกันตามยะถากรรม
นับเป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนความไม่ลงตัวทางการเมืองอีกครั้งหนึ่ง ภายใต้ระบอบการปกครอง Islamic Republic คือสาธารณัฐอิสลามครับ
คือเป็นประชาธิปไตยอิงอิสลาม แต่อิงยังไง อิงตรงไหนในรายละเอียด ผมไม่รู้จริงๆ ครับ
ใครรู้ช่วยอธิบายด้วยครับ
หรือเป็นเพียงชื่อ เพราะชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ก็ไม่รู้ได้
รู้แต่ว่า ปากีสถานเป็นประชิปไตยแบบมีประมุขเป็นประธานาธิบดี มีผูนำการบริหารเป็นนายกรัฐมนตรี โดยอำนาจการบริหารจริงๆ อยู่ที่นายกรัฐมนตรีเท่านั้น
ผมอยากจะว่า ปากีสถานนั้น แท้ที่จริงก็มาถูกทางแล้วครับ ในความพยายามเป็นประชาธิปไตยในแบบเขา
จะให้นุ่มนวลอย่าง ปรองดองอย่างไทยๆ เราคงจะยาก

เพราะความอดทน ตามวิถีชาวปากีนั้นมีน้อยมาก หากจะถือว่าเป็นสันดานประจำ”เผ่าพันธุ์”เลยก็ว่าได้ ….นี่ผมเล่นแรงนะ
ผมเคยอาศัยอยู่กับครอบครัว”ปุชตูน”คือชนเผ่าปากีสถานดั้งเดิม ย่อมตระหนักดีครับ
พวกเขานิยมใช้ความรุนแรง ตัดสินปัญา แค่เพียงน้องสาวไปชอบกับชาวพุทธ ก็เชือดคอน้องสาวซะแล้ว
ดีมากนะครับ ที่ในเมืองไทยเรายังไม่ใช้ความรุนแรง ถึงขั้นลอบสังหาร มาจัดการกับนักการเมือง จนกลายเป็น”ปทัสถาน”หรือNorms ตามศัพท์วิชาการทางสังคมวิทยาว่าเอาไว้
ยกเว้นเฉพาะก็ในกรณีลอบสังหาร”เสธ.แดง” ซึ่งไม่ว่าใครก็มองออกว่าเป็นฝีมือฝ่ายใดและเพราะอะไร
ไม่เช่นนั้น ป่านนี้ คงจะมีนักการเมืองที่ถูกหมายปอง ลอบสังหารอย่างน้อย ก็อีกหนึ่งคนครับ







