“ไบเดน”จอมพลิกลิ้น

สบาย สบาย สไตล์เกษม
เกษม อัชฌาสัย
“ไบเดน”จอมพลิกลิ้น
ผมเคยเขียนถึงปะธานาธิบดีสหรัฐ” โจ ไบเดน”สะท้อนความเป็นนักการเมื องที่ไม่อยู่ในร่องในรอย มาหนสองหนแล้ว วันนี้ก็จะต้องเขียนอีกเป็นหนที่ สามครับ
เพราะทนไม่ไหวกับการสับปลั บของเขาที่กระทำสาธารณชนโดย
เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๖“ไบเดน”กล่าวปราศรั ยในการรณรงค์ระดมทุนหาเสียงว่า อิสราเอลกำลังสูญเสียแรงสนับสนุ นจากโลกทั้งใบด้วยการทิ้งระเบิ ดฉนวนกาซาโดยไม่เลือกเป้า
ฟังเผินๆ แล้ว ดูดีใช่ไหมครับ เพราะส่อนัยตำหนิอิ สราเอลเอามากๆ ว่าไม่เชื่อฟังเขาที่ให้ยึดหลั กกฎหมายระหว่างประเทศคือหลีกเลี่ ยงไม่โจมตีพลเรือน โรงพยาบาล โรงเรียนและค่ายผู้อพยพ
แต่อิสราเอลก็ไม่ฟัง ยังคงถล่มโจมตีทั้ งทางอากาศและภาคพื้นดิน ด้วยเครื่องบิน ด้วยโดรน ด้วยปืนใหญ่ทั้งทางบกและทางเรื อทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างต่ อเนื่อง
ทำให้ชาวกาซาเสียชีวิตเพิ่มเป็ นจำนวนมากในแต่ละวัน

จนกระทั่งขณะนี้ ตัวเลขของกระทรวงสาธารณสุขฮามาส ก็ระบุว่ายอดเสียชีวิตเพิ่มเป็ นกว่า ๑๗,๐๐๐ รายแล้ว นับแต่อิสราเอลเริ่มการโจมตี ตอบโต้กลุ่มฮามาส ที่บุกเข้าอิสราเอล สังหารผู้คนไป ๑,๒๐๐ คนและจับไปเป็นตัวประกันราว ๒๒๐ คน โดยปล่อยมาแล้วจำนวนหนึ่งและยั งเหลือที่ไม่ปล่อยอีกนับร้อยคน
แต่ขณะเดียวกัน ในอีกทางหนึ่ง”ไบเดน”ในนามสหรั ฐไม่เคยเอ่ยปากเรียกร้องให้หยุ ดยิงจริงจัง นอกจากสนับสนุนให้หยุดยิงชั่ วคราว ซึ่งกระทำได้เพียงเจ็ดวัน เพื่อเปิดทางให้ส่งข้ าวของบรรเทาทุกข์และแลกเปลี่ ยนตัวประกันกับนักโทษปาเลสไตน์ ที่อิสราเอลจับขังไว้ก่อนหน้ าเท่านั้น
ความละเลยไม่เอาจริงเอาจั งของสหรัฐต่อการหยุดยิงสะท้ อนเจตนารมณ์ลึกๆ ที่จะให้ทำลายปาเลสไตน์ไมให้มี อยู่อีกต่อไป
เห็นได้จากกรณีที่ผู้แทนสหรั ฐในคณะมนตรีความมั่นคงแห่ งสหประชาชาติใช้สิทธิยับยั้งทุ กญัตติที่เรียกร้องให้มีการหยุ ดยิงอย่างถาวร ซึ่งสามารถนำไปบังคับใช้ได้กั บอิสราเอล ซึ่งเป็นชาติสมาชิก
ความดื้อดึงของสหรัฐไม่ให้ มการหยุดยิง ก็ตือการปล่อยให้อิสราเอลทำผิ ดกฎหมายระหว่างประเทศมิใช่หรือ
ดังนั้น การออกปากตำหนิอิสราเอลของ” ไบเดน”ว่าสูญเสียการสนับสนุ นจากโลกทั้งใบนั้นฟังดูดีและไม่ เป็นที่พีงพอใจของอิสราเอลก็จริ ง
แต่ในอีกทางหนึ่งแล้วก็คือ เป็นเพียงการตำหนิ เพื่อให้ดูดีเท่านั้น
เป็นเพียงการปรามด้วยวาจา ให้โลกเห็นความเป็น”ผู้ใหญ่” ของสหรัฐเท่านั้น
เพราะไม่มีผลที่จะหยุดยั้งอิ สราเอลในทางปฏิบัติ มิให้ทิ้งระเบิดหรือถล่มโจมตีพื้ นที่ฉนวนกาซา
ในแง่ของความเป็นจริงครับ
พูดภาษาชาวบ้าน ก็คือสหรัฐพูดอย่างทำอย่างเท่ านั้นเอง เพราะที่ผ่านมา สหรัฐให้การสนับสนุนอิ สราเอลในทุกรูปแบบทั้งอาวุ ธและเงินทุนที่จะใช้ฟื้นฟูอิ สราเอลหลังสงคราม
ที่สำคัญก็คือสนับสนุ นการทำสงครามโดยตรง จนกว่าอิสราเอลจะชนะกลุ่มฮามาส

นอกจากนั้น การที่สหรัฐพยายามรณรงค์ ทางการทูตให้โลกเชื่อว่าสหรัฐยั งสนับสนุน”นโยบายสองรัฐ” Two State Solution คือการยืนยันตามข้อตกลงออสโล แบ่งแผ่นดินปาเลสไตน์ออกเป็ นสองรัฐ คือรัฐอิสราเอลและรัฐปาเลสไตน์ นั้น ก็เป็นเพียงการพูดลอยๆ ที่ฝรั่งเรียกว่า Lip service เช่นกัน
หากสหรัฐเปลี่ยนผู้นำในการเลื อกตั้งปีหน้า โอกาสที่ประธานาธิบดีสหรัฐใหม่ จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ไม่ใส่ใจรื้อฟื้นแก้ไขปัญหาด้ วย”นโยบายสองรัฐ”นั้นมีอยู่มาก
นั่นก็หมายความว่า อิสราเอลยังจะเดินหน้ายึดดิ นแดนปาเลสไตน์เพื่อสร้าง”รัฐซ้ อนรัฐ”คือยึดไว้และปล่อยให้มี ระบบการปกครองท้องถิ่ นโดยชาวปาเลสไตน์ได้
เช่นที่กระทำมาแล้วใน”ฉนวนกาซา” และ”เวสต์แบงค์”
แต่ในโอกาสต่อไปหลั งสงครามกาซาอิสราเอลจะควบคุ มปาเลสไตน์เข้มข้นมากขึ้น เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะไม่เกิ ดอันตรายหรือกระทบต่อความมั่ นคงของอิสราเอลในอนาคต
ซึ่งก็หมายความว่า ปาเลสไตน์ไม่มีอิสระ ที่จะสถาปนาเป็นประเทศอย่างจริ งจังได้เลย
จึงจำเป็นต้องเล่ามาให้ สาธารณชนได้รับรู้จุดยืน ที่แท้จริงของสหรัฐให้เป็นที่ ประจักษ์ชัด
ด้วยถ้อยคำของ”ไบเดน”ที่ยั งคงปลิ้นปล้อนไม่เลิก
Facebook Comments