แนวคิดของ “แจ็ค เวลซ์” หนึ่งในผู้บริหารที่ดีที่สุดของอเมริกา
ถ้าเราถามผู้บริหาร 100 คน และนักวิชาการบริหารธุรกิจ 100 คนว่า ใครคือซีอีโอสิบลำดับสูงสุดของโลก รายชื่ออาจจะแตกต่างกันอย่างกว้างขวาง แต่รายชื่อหนึ่งที่ร่วมกันอย่างแน่นอนคือ แจ็ค เวลซ์
เมื่อแจ็ค เวลซ์ กลายเป็นซีอีโอของเจ็นเนอรัล อีเล็คทริค บริษัทอเมริกันใหญ่ที่สุดบริษัทหนึ่งของโลก เขาเป็นซีอีโอหนุ่มที่สุดภายในประวัติของจีอี และได้ถูกยกย่องว่าเป็นซีอีโอยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษที่ 20 การปฏิรูปจีอีสองทศวรรษของแจ็ค เวลซ์ ได้ถูกใช้เป็นโมเดลทางการบริหารของกรณีศึกษาของนักศึกษา MBA ภายในมหาวิทยาลัยทั่วโลก
แจ็ค เวลซ์ สามารถปฏิรูปจีอี จนกลายเป็นบริษัทที่ผอมลง คล่องตัวขึ้น และทำกำไรเพิ่มสูงขึ้น 7.6% ต่อปี มูลค่าของผู้ถือหุ้นเพิ่มสูงขึ้นหกเท่าตัว มูลค่าตลาดของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นเป็น 387 พันล้านเหรียญ กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดภายในโลก แจ็ค เวลซ์ ได้เติบโตจากเด็กพูดติดอ่าง ย่านชนชั้นแรงาน ซาเร็ม แมสซาชูเสตส์ จนกลายเป็น”ผู้บริหารแห่งศตวรรษ” ของวารสารฟอร์จูน และ”ไอคอนของธุรกิจอเมริกัน” ของวารสารบิสซิเนสส์ วีค
แจ็ค เวลซ์ ซื่อสัตย์และพูดตรงไปตรงมา เขาไม่ยอมออมมือให้ใครเลย และได้กระตุ้นทั่วทั้งบริษัทให้กระทำอย่างเดียวกัน เขามุ่งการได้ชัยชนะเท่านั้น ถ้าบริษัทหรือหน่วยธุรกิจไม่เป็น 1 หรือ 2 ภายในอุตสาหกรรม เขาจะปิดหรือขายไปเลย การแข่งขันที่เหนือกว่าที่แจ็ค เวลซ์ ต้องการคือ การได้ชัยชนะ
แจ็ค เวลซ์ เชื่อว่าการได้ชัยชนะและการทำกำไรคือ ความรับผิดชอบทางสังคมหมายเลขหนึ่งของบริษัท บริษัทที่ได้ชัยชนะคืนสู่สังคมได้มากที่สุด และพนักงานมีความสุขมากที่สุด ดังนั้นเนื่องจากการครอบงำจิตใจกับการได้ชัยชนะของเขา หนังสือเล่มหนึ่งของแจ็ค เวลซ์ และซูซี่ เวลซ์ได้ชื่อว่า Winning วอร์เร็น บัฟเฟตต์ ได้ยกย่องหนังสือเล่มนี้ว่า “อ่านเล่มนี้แล้ว ไม่ต้องอ่านหนังสือการบริหารเล่มใดอีกเลย”
แจ็ค เวลซ์ ได้กล่าวถึง 3S’s ของการได้ชัยชนะภายในธุรกิจคือ ความเชื่อมั่นตนเอง(Self Confiddent) ความรวดเร็ว(Speed) และความเรียบง่าย(Simplicity) ระบบราชการสนับสนุนความเป็นระเบียบแบบแผนที่ทำให้บริษัทช้าลง ระบบราชการต่อต้านทั้งความเรียบง่ายและความรวดเร็ว เราต้องใช้ 3S’s ทำลายระบบราชการและฐานะเดิม
แจ็ค เวลซ์ เชื่อว่าเราต้องใช้การปฏิวัติจีอี เพื่อที่จะทำให้ความฝันกลายเป็นความจริง โมเดลทางธุรกิจของบริษัทอเมริกันเมื่อ ค.ศ 1980 ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเป็นทศวรรษ คนงานผลิต ผู้บริหารจัดการ และระบบราชการควบคุม แจ็ค เวลซ์ ได้กล่าวว่า การปฏิวัติหมายถึงการทำสงครามกับวิถีทางเดิมของการกระทำสิ่งต่างๆของจีอี
โนเอล ทิชี่ นักวิชาการ มหาวิทยาลัยมิชิแกน ได้ยกย่องแจ็ค เวลซ์ ผู้นำธุรกิจแห่งปลายศตวรรษที่ยี่สิบ ทำให้จีอีกลายเป็นบริษัทที่แข่งขันได้มากที่สุดบริษัทหนึ่งของโลก โดยการปฏิรูปสัตว์ใหญ่มหึมาเซื่องซึมระบบราชการตัวนี้ ให้กลายเป็นผู้ชนะที่คล่องแคล่วชอบการต่อสู้ภายในตลาดโลก โนเอล ทิชี่ ได้กล่าว่า แจ็ค เวลซ์ได้เติมเชื้อเพลงไฟข้างใต้หม้อน้ำใหญ่จีอี เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงอาการของกบต้ม ถ้าเราใส่กบลงหม้อน้ำเย็น แล้วค่อยเพิ่มความร้อนทีละน้อย กบจะเคยชินกับอุณหภูมิน้ำเย็นจนตายใจ เมื่อน้ำเริ่มเดือดมากขึ้น จนกบตายทันที แต่ถ้าเราใส่กบหม้อน้ำร้อน กบกระโดดหนีจากหม้อ และรอดชีวิตได้ ดังคำพังเพยว่า น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย การเปลี่ยนแปลงจีอีอย่างรุนแรงยากที่จะถูกชื่นชม แต่ได้ทำให้จีอีจากบริษัทธรรมดากลายเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่ของโลกได้
บริษัทเจ็นเนอรัล อีเล็คทริค ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ 1892 โดยนายโทมัส อัลวา เอดิสัน นักประดิษฐ์และนักธุรกิจ รายได้รวมเมื่อ ค.ศ 2016 มากกว่า 123 พันล้านเหรียญ บริษัทมีการกระจายธุรกิจอย่างกว้าวขวาง ตั้งแตหลอดไฟฟ้า เครื่องยนตร์ไอพ่น มอเตอร์ไฟฟ้่า อุปกรณ์การแพทย์ โรงไฟฟ้า ไปจนถึงหัวรถจักร
ภายใต้การปฏิรูปจีอีเมื่อ ค.ศ 1981 แจ็ค เวลซ์ ไม่รีรอที่จะกำจัดระบบราชการที่ทำให้การดำเนินงานล่าช้า เขาได้กระทำสิ่งที่โจเซฟ ชุมปีเตอร์ นักปรัชาญาเศรษฐศาสตร์เรียกว่า “การทำลายอย่างสร้างสรรค์”(Creative Destruction) เขาได้ลดขนาดของจีอีลงอย่างมาก เขาได้ปลดบุคคลออกจากงานมากกว่า 100,000 คนภายใน 5 ปี สายงานสนับสนุนของบริษัทได้ถูกลดลงจาก 2,100 คนเหลือเพียง 900 เท่านั้น ระดับการบริหารได้ถูกยกเลิกไป 2 ระดับ จนเขาได้รับชื่อเล่นว่า”นิวตรอน แจ็ค” ระเบิดนิวตรอนที่ทาลายชีวิตผู้คนเท่านั้น แต่ไม่ทำลายตัวอาคารเลย
เรื่องเล่ากันว่า ภายหลังจากที่แจ็ค เวลซ์ กลายเป็นซีอีโอของจีอี วันหนึ่งเขาได้พาภรรยาไปร้านอาหารแห่งหนึ่ง เขาได้เกิดความคิดเกี่ยวกับกลยุทธ์ของจีอีในอนาคต ดังนั้นเขาได้อธิบายกลยุทธ์ของจีอีแก่ภรรยาด้วยการเขียนวงกลมสามวงตัดกันบนผ้าเช็ดปาก
เมื่อ ค.ศ 1982 แจ็ค เวลซ์ ได้ตอบข้อวิจารณ์ว่าจีอี เป็นบริษัทของรวมกลุ่มธุรกิจที่ไม่เกี่ยวพันกันเข้าด้วยกันเท่านั้น เขาได้แสดงการรวมกลุ่มธุรกิจของบริษัทเป็นวงกลมสามวง(ดูรูป) คือ กลุ่มธุรกิจแกน กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี และกลุ่มธุรกิจบริการ หน่วยธุรกิจของจีอีต้องมีส่วนแบ่งตลาดเป็น 1 หรือ 2 เท่านั้นได้ถูกยอมให้อยู่ภายในวงกลมได้ หน่วยธุรกิจที่ไม่เป็น 1 หรือ 2 ต้องอยู่ภายนอกวงกลม และต้องถูกปรับปรุง หรือขาย หรือปิดในที่สุด ดังสโลแกนที่ชอบของแจ็ค เวลซ์ “Fix It, Sell It, or Close It”
ธุรกิจได้ถูกขายไป 71 อย่าง และธุรกิจใหม่ได้ถูกซื้อเข้ามา 118 อย่าง แจ็ค เวลซ์ ยืนยันว่าการลดขนาดจำเป็นต่อสุขภาพของบริษัท การมีบุคคลมากเกินไป ไม่เพียงแต่ไม่ดีต่อบริษัทเท่านั้น แต่ทำให้งานทุกอย่างต้องเสี่ยงภัยด้วย แต่การปลดออกจากงานต้องทำอย่างนิ่มนวล แจ็ค เวลซ์ ได้กล่าวว่า “เราต้องเข้มแข็งต่อข้อได้เปรียบทางการแข่งขันในระยะยาว แต่เราสามารถมีจิตใจที่อ่อนโยนต่อการจัดการบุคคลที่เราให้ออกจากงานได้” จีอี ได้ปิดโรงงานอย่างดีล่วงหน้า และได้พยายามช่วยเหลือบุคคลหางานใหม่ การนัดหยุดงานไม่เกิดขึ้นเลย การปลดออกจากงานเป็นการกระทำที่เลวร้าย แต่บริษัทจำเป็นต้องทำ เพื่อที่จะกำจัดทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางทางต่อความไม่เป็นทางการ ความรวดเร็ว และการไร้พรมแดน เราไม่ต้องการระบบราชการที่อ้วนใหญ่ เราต้องการการไร้พรมแดน การมีวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ไร้พรมแดน(Boundaryless Company) ถ้าเราไม่สามารถกวาดล้างป่าได้ เราจะมองไม่เห็นอะไรเลย
แจ็ค เวลซ์ ได้เขียนภายในรายงานประจำปี 1990 ว่า “ความฝันของเราสำหรับ ค.ศ 1990’s บริษัทที่ไร้พรมแดน …..เราจะทำลายกำแพงที่แยกพวกเราออกจากกันภายใน และแยกพวกเราออกจากผู้มีส่วนได้เสียภายนอก” ตามวิสัยทัศน์ของแจ็ค เวลซ์ แล้ว บริษัทที่ไร้พรมแดนกำจัดอุปสรรคท่ามกลางหน้าที่ การรับรู้ความไม่แตกต่างของการดำเนินงานภายในประเทศและต่างประเทศ และการละเลยหรือลบฉายาของกลุ่ม เช่น ‘ผู้บริหาร’ ‘เงินเดือน’ หรือ ‘รายชั่วโมง’ ที่ขัดขวางการทำงานด้วยกันของบุคคล
แจ็ค เวลซ์ ได้พบว่าการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของจีอีง่ายกว่าการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของจีอีมาก แต่เขาเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมต้องเริ่มต้นที่ค่านิยม ดังนั้นเขาได้ระบุแนวคิดพื้นฐานของค่านิยมของจีอีไว้สามอย่างคือ ความเป็นจริง หมายถึงความเข้าใจทั้งตลาดและความรับผิดชอบทางสังคม ความเป็นเลิศ หมายถึงการกระตุ้นบริษัทสร้างชื่อเสียงทางคุณภาพ และความเป็นเจ้าของหมายถึงการผลักดันการตัดสินใจไปสู่ระดับการปฏิบัติการ แจ็ค เวลซ์ มองว่าวัฒนธรรมของบริษัทเป็นระบบราชการจนเกินไป
และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงช้า เขาได้กำจัดระบบราชการที่ส่งเสริมให้บุคคลสร้างแต่กระดาษจนเต็มภายในห้องฝุ่นจับนานเป็นสิบปี
– ป่ากระดาษ
แจ็ค เวลซ์ ต้องการปลูกฝังค่านิยมใหม่ของจีอีคือ ความรวดเร็ว ความเรียบง่าย และความเชื่อมั่นตนเองแก่บุคคลทุกคน เจ็นเนอรัล อีเล็คทริค ได้สร้างศูนย์การฝึกอบรมผู้บริหารครอตันวิลล์ นิวยอร์ค ขึ้นมาเมื่อ ค.ศ 1856 และได้อ้างว่าเป็นมหาวิทยาลัยบริษัทเก่าแก่ที่สุดภายในประทศ ภารกิจของครอตันวิลล์คือ การเพิ่มความสามารถแข่งขันของจีอีภายในสภาพแวดล้อมโลก วารสารฟอร์จูนได้ยกย่องวิทยาเขตครอตันวิลล์ว่าเป็น “The Harvard of Corporate America” แจ็ค เวลซ์ มองครอตันวิลล์ ว่าเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของการปฏิรูปจีอี ค่านิยมของจีอีสำคัญแค่ไหน แจ็ค เวลซ์ ได้เขียนจดหมายไปยังผู้ถือหุ้นจีอีว่า ถ้าต้องถูกบังคับให้เลือกระหว่างผู้บริหารที่ร่วมค่านิยมของจีอี แต่ไม่เป๊น 1 หรือ 2 ทีเดียว และผู้บริหารที่เป็น 1 หรือ 2 แต่ไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมบริษัท เขาจะเลือกผู้บริหารคนแรก และไล่ผู้บริหารคนที่สองออกไป ผู้บริหารที่ไม่ร่วมค่านิยมของบริษัท มีอำนาจด้วยตัวเอง ที่จะทำลายวัฒนธรรมของความไว้วางใจ ไม่เป็นทางการ และเปิดเผย ที่เราต้องการเพื่อจะได้ชัยชนะวันนี้หรือวันพรุ่งนี้
แจ็ค เวลซ์ ได้ลงจากตำแหน่งซีอีโอของเจ็นเนอรัล อีเล็คทริค และลาออกไป เมื่อ ค.ศ 2001 ภายหลังจากการเป็นซีอีโอยาวนานถึง 22 ปี เขาได้รับเงินชดเชย 417 ล้านเหรียญ เงินชดเชยมากที่สุดภายในประวัติศาสตร์ มรดกยั่งยืนที่สุดของแจ็คเวลซ์ที่ได้ทิ้งไว้แก่จีอีคือ การรับเอาการเปลี่ยนแปลงไว้เป็นวิถีทางของชีวิต ความต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอ แจ็ค เวลซ์ เชื่อว่าบริษัทต้องเรียนรู้และสร้างแหล่งที่มาของข้อได้เปรียบทางการแข่งขันใหม่ ความสามารถของบริษัทที่จะเรียนรู้และถ่ายทอดการเรียนรู้ให้เป็นการกระทำอย่างรวดเร็วคือ ข้อได้เปรียบทางการแข่งขันในที่สุด เขาพูดถึงความสำคัญของข้อได้เปรียบทางการแข่งขันอยู่เสมอว่า ถ้าเราไม่มีข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน อย่าแข่งขันลย ธุรกิจภายในอุตสาหกรรมต้องเปลี่ยนแปลงและสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ให้รวดเร็วกว่าการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม ด้วยคำพูดอีกอย่างหนึ่งข้อได้เปรียบทางการแข่งขันได้เกิดขึ้นจากการใช้การเปลี่ยนแปลงสร้างโอกาสใหม่ให้รวดกว่าคู่แข่งขัน ถ้าอัตราการเปลี่ยนแปลงภายนอกนำหน้ากว่าอัตราการเปลี่ยนแปลงภายในแล้ว จุดจบใกล้เข้ามาแล้ว













