แคนาดานำ”จี ๗”รุมต้านสหรัฐ

สบาย สบาย สไตล์เกษม
เกษม อัชฌาสัย
แคนาดานำ”จี ๗”รุมต้านสหรัฐ
ผลการเลือกตั้งทั่วไปในแคนาคาบ่งชี้ว่ารัฐบาลจะไม่ยอมอ่อนข้อใดๆ ต่อมาตรการขึ้นภาษีสินค้าขาเข้าของ”ทรัมป์”
และต่อเสียงขู่จะผนวกแคนาดาเข้าเป็นอีกรัฐหนึ่ง
แถมจะตอบโต้ให้หนักด้วยซ้ำ
โดยพรรคเสรีนิยม Liberal Party แกนนำรัฐบาลได้คะแนนนำหน้าพรรคอื่นๆ แม้ก็ไม่เกินกึ่งหนึ่ง ที่จะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ในการเลือกตั้งกะทันหันที่มีขึ้นในวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๘
นี้คือการตบหน้า”ทรัมป์”ฉาดใหญ่ ที่ชาวแคนาดาเสียงส่วนใหญ่บอกว่า”พวกอั๊วไม่ยอมลื้อโว้ย”
จากการที่ประธานาธิบดี”โดนัลด์ ทรัมป์”กล่าวหาแคนาดามาแต่แรกหลังขึ้นเป็นผู้นำสหรัฐสมัยที่ ๒ ว่า “ในเมื่อแคนาดาไม่ช่วยป้องกันการหลบหนีเข้าสหรัฐ หรือช่วยป้องกันการลักลอบค้ายาเสพติด”
จึงตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา ๒๕ เปอร์เซ็นต์และขึ้นภาษีพลังงานแคนาดา ๑๐ เปอร์เซ็นต์
ที่สำคัญไปยิ่งกว่านั้น “ทรัมป์”คุกคามจะผนวกแคนาดาเป็นรัฐที่ ๕๑ ด้วย
ยังความเคียดแค้นแก่ชาวแคนาดายิ่งนัก
เมื่อพูดเอาแต่ได้อย่างนี้ แคนาดาก็เลยตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐทัยที ๒๕ เปอร์เซ็นต์เช่นกัน
จากนั้นก็ยุบสภาเพื่อเลือกตั้งกลางคัน หวังเสียงชาวบ้านหนุน
โดยพรรคแกนนำรัฐบาลคือพรรคเสรีนิยม หมายใช้เสียงประชาชนชี้ขาดว่า จะร่วมต่อสู้กับการเบียดเบียนของ”ทรัมป์”ไปพร้อมกันหรือไม่
ในที่สุดผลก็ออกมาแล้วครับว่าให้สู้ ๆ
โดยพรรคเสรีนิยมได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งเพิ่มมากขึ้นที่ ๑๖๙ ที่นั่ง(จากเดิม ๑๕๗ ที่นั่ง) แต่ไม่เกินกึ่งหนึ่งจากทั้งหมด ๓๓๘ ที่นั่งครับ
ในการนี้ นายกรัฐมนตรีแคนาดา”มาร์ก คาร์นี”สังกัดพรรคเสรีนิยมประกาศสู้ไม่ถอยหลังรู้ว่าแนวโน้ม ผลการเลือกตั้งว่าจะชนะแน่ๆ โดยแถลงต่อสาธารณชนว่า
“ประธานาธิบดี”ทรัมป์”พยายามยุแยงตะแคงรั่วให้พวกเราแตกกัน แต่ไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะความสามัคคีที่พวกเราร่วมมือกัน เราจะชนะสงครามการค้า จะสร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็งด้วยกลุ่ม “จี ๗” เพื่อทุกๆ คน เราจะตอบโต้ด้วยทุกสิ่งที่เรามีอยู่ เพื่อให้แคนาดาได้รับประโยชน์สูงสุด”
“เฮ……..”
เป็นไงครับนายกรัฐมนตรีของแคนาดา ประกาศพร้อมสู้กับ”ทรัมป์”อย่างมั่นอกมั่นใจอย่างเต็มที่
เพราะผลเลือกตั้งชี้แนวโน้มออกมาแล้ว เช่นนั้น
ทำไมต้อง”จี-๗”
ก่อนจะตอบคำถามนี้ ก็จะต้องรู้เสียก่อนว่า”จี-๗”คืออะไร
“กลุ่ม 7 (: Group of Seven, G7) เป็นเวทีการเมืองระหว่างรัฐบาลที่ประกอบด้วยแคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร และสหรัฐ กับสหภาพยุโรป มีการจัดระเบียบอย่างเป็นทางการตามค่านิยมพหุนิยมกับรัฐบาลแบบมีผู้แทนร่วมกัน[1] ณ ค.ศ. 2020 รัฐสมาชิกกลุ่ม 7 มีความมั่งคั่งสุทธิทั่วโลกมากกว่าครึ่ง (ที่มากกว่า 200 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ)[2] ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศทั่วโลกที่ร้อยละ 32 ถึง 46[n 1] และร้อยละ 10 ของประชากรโลก (770 ล้านคน)[3] สมาชิกเป็นมหาอำนาจในกิจการโลกและรักษาความสัมพันธ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ การทูต และการทหารที่ใกล้ชิดซึ่งกันและกัน”(วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี)
จะเห็นว่า กลุ่มนี้ มีสหรัฐร่วมอยู่ด้วย
ทุกชาติที่ว่านี้ ล้วนแต่ถูกสหรัฐโดย”ทรัมป์”ตั้งกำแพงภาษีใส่
ฉะนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่ทุกชาติที่ว่า จะจับมือกันต่อสู้ในกรณีที่”ทรัมป์”ไม่ยอมอ่อนข้อให้ ด้วยพลังที่เข้มแข็ง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น
ส่วนวิธีการการต่อสู้ จะปรากฏออกมาในรูปใดนั้น ก็จะต้องจับตามองต่อไป
ที่แน่นอนก็คือกลุ่ม”จี-๗”จะประชุมที่เมือง”คานันนัสคิส”รัฐ”อัลเบอร์ตา”ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๗ มิถุนายนที่จะถึงนี้ โดยมีแคนาดาเป็นเจ้าภาพ
เชื่อว่าที่ประชุมจะต้องหยิบยกการตั้งกำแพงภาษีและทีท่าล่าเมืองขึ้นของ”ทรัมป์”มาเป็นประเด็นสำคัญในการหารือ
และที่สำคัญไปมากกว่านั้นก็คือจะมีการเสนอ”ไล่”สหรัฐออกจากสมาชิกหรือเปล่า
ก็สงสัยอยู่ว่า”ทรัมป์”จะไปร่วมประชุมหรือไม่ เพราะตามปกติแล้วเป็นการประชุมระดับผู้นำประเทศ
เอาเป็นว่า”ทรัมป์”กำลังเจอกับปัญหาที่ต้องปวดหัวในกรณีนี้ ในขณะที่อีกทางหนึ่งกำลังขะมักเขม้นว่าจะจัดการอย่างไรกับจีนอยู่
เพราะจีนไม่ยอมลดละ ในการต่อสู้สงครามการค้ากับสหรัฐ ถึงกับประกาศว่า จะสู้ในทุกรูปแบบจนถึงที่สุด ที่ไปตั้งภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงกว่าชาติไหนๆ
สหรัฐเลยกลายเป็นชาติตรงกลาง ที่ถูกโอบล้อมด้วยแนวรบที่เกิดจากสงครามการค้า
เอาเป็นว่า“กฎแห่งกรรม”กำลังทำงานอย่างรวดเร็ว ในชาตินี้กับ”ทรัมป์”แล้ว
โดยไม่ต้องรอชาติหน้าตอนบ่ายๆ ดังที่ชอบพูดกันครับ
เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้







