jos55 instaslot88 Pusat Togel Online วอลท์ ดีสนี่ย์ ชอบรถไฟ เปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างไร - INEWHORIZON

INEWHORIZON

ขอบฟ้าใหม่

วอลท์ ดีสนี่ย์ ชอบรถไฟ เปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างไร

วอลท์ ดีสนี่ย์ ชอบรถไฟ เปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างไร

บริษัทต้องกำหดกลยุทธ์ขึ้นมาเพื่อการแข่งขัน และบริษัทต้องบริหารกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ ตัวกำหนดกลยุทธ์ของบริษัทอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อสภาพแแวดล้อมภายนอก สภาพแวดล้อมภายใน และเป้าหมายของบริษัทได้เปลี่ยนแปลงไป กลยุทธ์ของบริษัทจะต้องเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย การบริหารเชิงกลยุทธ์ต้องประเมินตัวกำหนดกลยุทธ์เสียใหม่ นโปเลียน โบนาปาร์ต ได้กำหนดกลยุทํ์การยึดครองยุโรปที่บรรลุความสำเร็จอย่างมาก แต่กลยุทธ์ของเขาบรรลุความ
สำเร็จภายในยุโรป แต่ไม่บรรลุความสำเร็จภายในรัสเซียและสเปน
นโปเลียนเป็นนักกลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาไม่ได้มีการบริหารเชิงกลยุทธ์ที่ดี นโปเลียนขาดการประเมินความเหมาะสมของกลยุทธ์ เมื่อสภาพแวดล้อมได้เปลี่ยนแปลงไป ความแตกต่างระหว่างการมีกลยุทธ์และการบริหารเชิงกลยุทธ์ สามารถเป็นความแตกต่างระหว่างความสำเร็จและความล้มเหลวได้ บริษัทหลายบริษัทบรรลุความสำเร็จจากการใช้กลยุทธ์การแข่งขันเริ่มแรก แต่เมื่อสภาพแวดล้อมได้เปลี่ยนแปลงไป กลยุทธ์การแข่งขันเริ่มแรกได้ล้าสมัยไป บริษัทที่ไม่สามารถปรับกลยุทธ์การแข่งขันเริ่มแรกให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่จะต้องเผชิญกับความล้มเหลวไปในที่สุุด
เรามีเรื่องเล่ากันว่าซีอีโอของบริษัทสองบริษัทที่แข่งขันกันอยู่ภายในอุตสาหกรรมเดียวกัน ได้เดินทางไปพักแรมที่ป่าแห่งหนึ่ง เพื่อที่จะพูดคุยการรวมบริษัทของพวกเขา ทันใดพวกเขาได้เผซิญกับหมีร้ายที่ยกขาคำรามอย่างน่ากลัว ซีอีโอคนที่สองได้ล้วงเป้และเอารองเท้าวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ซีอีโอคนที่หนึ่งได้พูดว่า “เฮ้ คุณไม่สามารถวิ่งเร็วกว่าหมีได้เลย” ซีอีโอคนที่สองได้ตอบว่า ” ผมไม่สามารถวิ่งเร็วกว่าหมีได้ แต่ผมวิ่งเร็วกว่าคุณได้อย่างแน่นอน”
เรื่องราวของซีอีโอสองคนนี้ต้องการเปรียบเปรยความสำคัญของการบริหารเชิงกลยุทธ์ : การสร้างและการรักษาข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน ทำไม ผู้บริหารธุรกิจควรจะเรียนรู้การบริหารเชิงกลยุทธ์ ดังที่ แจ็ค เวลซ์ อดีต ซีอีโอ ที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของบริษัทเจ็นเนอรัล อีเล็คทริคได้เคยพูดว่า ” ถ้าเราไม่มีข้อไ้ด้เปรียบทางการแข่งขัน อย่าไปแข่งขันเลย”

Competitive Advantage เป็นชื่อหนังสือของ ไมเคิล พอร์เตอร์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่ได้กลายเป็นคัมภีร์ไบเบิ้ลของผู้บริหารไปทั่วโลกเมื่อปลาย ค.ศ 1980 การสะท้อนความคิดของข้อได้เปรียบทางการเปรียบเทียบของเดวิด ริคาร์โด นักเศรษฐศาสตร์สมัยเดิม ชาวอังกฤษ เมื่อศตวรรษที่ 19
หนังสือเล่มนี้ได้ถูกใช้เป็นกรอบข่ายเพื่อการคิดเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับผู้บริหารจะชนะคู่แข่งขันได้อย่างไร แม้ว่าเราจะมีหนังสือธุรกิจและการบริหารที่ขายได้มากกว่าภายในสองทศวรรษของศตวรรษที่ 20 แต่ไม่มีหนังสือเล่มไหนเลยที่มีอิทธิพลเทียบเท่า Competitie Advantage ได้
เบี้องหลังความคิดของไมเคิล พอร์เตอร๋์ คือการวางรากฐานวิถีทางใหม่ของการมองบริษัทเป็นลำดับของกิจกรรมที่เชื่อมโยงเข้าด้วยกันเรียกว่าลูกโซ่คุณค่า : Value Chain แต่ละการชื่อมโยงภายในลูกโซ่คุณค่าจะเพิ่มคุณค่าได้ นั่นคือบางสิ่งบางอย่างที่ลูกค้าตระเตรียมจะจ่ายเงิน แม้แต่กิจกรรมสนับสนุน เช่น การบริหารทรัพยากรมนุษย์ สามารถถูกเชื่อมโยงภายในลูกโซ่คุณค่า และเป็นแหล่งที่มาของข้อได้เปรียบทางการแข่งขันได้
ไมเคิล พอร์เตอร์ ได้แบ่งกิจกรรมของลูกโซ่คุณค่าเป็นสองประเภทคือ กิจกรรมพื้นฐาน และกิจกรรมสนับสนุน
กิจกรรมพื้นฐานได้แก่ การขนส่งขาเข้า การผลิต การขนส่งขาออก การตลาดและการขาย และการบริการ กิจกรรมสนับสนุน ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานของบริษัท
การบริหารทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาเทคโนโลยี และการจัดหา
Competitve Advantage ได้ถูกพิมพ์เมื่อ ค.ศ 1985 เพื่อนคู่เคียงที่สำคัญของผลงานก่อนหน้านี้คือ Competitive Strategy ค.ศ 1980 หนังสือเล่มนี้จะมองการแข่งขัน ณ ระดับอุตสาหกรรม แต่ Competitive Advantage จะมองการแข่งขัน ณ ระดับบริษัท Competitive Strategy ได้ระบุพลังห้าตัวของอุตสาหกรรมที่มีผลกระทบต่อการทำกำไรของบริษัท เรียกว่าโมเดลพลังห้าตัว : Five Forces Model คือ การคุกคามของคู่แข่งขันรายใหม่ อำนาจการต่อรองของซัพพลายเออร์ อำนาจการต่อรองของลูกค้า การคุกคามชองผลิตภัณฑ์ทดแทน และการแข่งขันท่ามกลางคู่แข่งขันภายในอุตสาหกรรม
ไมเคิล พอร์เตอร์ ได้เขียนหนังสือเล่มต่อมาคือ The Competitive Advantage of Nations เมื่อ ค.ศ 1990 ภายในหนังสือเล่ม่นี้ เขาได้มองที่การเลือกทำที่ตั้งของบริษัทจากการกลายเป็นธุรกิจระหว่างประเทศ เพื่อที่จะเป็นแหล่งที่มาของข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศ
ไมเคิล พอร์เตอร์ ยืนยันว่า ข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน หมายความว่่า การใช้การรุกหรือการตั้งรับสร้างตำแหน่งที่สามารถป้องกันได้ภายในอุตสาหกรรม ดังนั้นบริษัทย่อมจะสร้างกำไรที่เหนือกว่าคู่แข่งขันได้
บริษัทจะมีทางเลือกของการสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันอยู่สองทางคือ ข้อได้เปรียบทางต้นทุนต่ำ และข้อได้เปรียบทางความแตกต่าง ข้อได้เปรียบทางต้นทุนต่ำและข้อได้เปรียบทางความแตกต่างจะเป็นข้อได้เปรียบทางตำแหน่ง เนื่องจากเป็นการอธิบายถึงตำแหน่งของบริษัทภายในอุตสาหกรรมว่าเป็นผู้นำทางต้นทุน
หรือผู้สร้างความแตกต่าง
ข้อได้เปรียบทางการเปรียบเทียบเป็นถ้อยคำทางเศรษฐศาสตร์ เดวิด ริคาร์โด นักเศรษฐศาสตร์ชาวอังกฤษ ยืนยันว่าผลผลิตของโลกจะเพิ่มสูงขึ้น เมื่อประเทศได้ประยุกตฺใช้หลักการข้อได้เปรียบทางการเปรียบเทียบ เดวิด
ริคาร์โด ไดสร้างถ้อยคำข้อได้เปรียบทางกาาเปรียบเทียบ : Comparative Advantage ขึ้นมาเมื่อ ค.ศ 1917 เขาได้เสนอแนะว่าประเทศควรจะผลิตสินค้าอะไร พวกเขาต้องเชี่ยวชาญกับการจัดสรรทรัพยากรที่หายาก
ผลิตสินค้าที่มีข้อได้เปรียบทางต้นทุนเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ประเทศที่ผลิตน้ำมันย่อมจะมีข้อได้เปรัยบ
ทางการเปรียบเทียบภายในการผลิตเคมี เนื่องจากพวกเขา
มีแหล่งวัตถุดิบที่มีต้นทุนต่ำกว่าประเทศที่ไม่ผลิตน้ำนัน
มุมมองทางทรัพยากรของการบริหารเชิงกลยุทธ์ จะมุ่งเน้นว่าบริษัทได้ใช้ทรัพยากรและความสามารถสร้างช้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่ทำให้เกิดการสร้างคุณค่าที่เหนือกว่า รูปต่อไปนี้จะเป็นการรวมกันระหว่างมุมมองทางทรัพยากรและการวางตำแหน่ง เพื่อที่จะแสดงแนวคิดของข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน
ตามมุมมองของทรัพยากรแล้ว เพื่อที่จะสร้างข้อได้เปรียบ
ทางการแข่งขัน บริษัทต้องมีทรัพยากรและความสามารถที่จะถูกรวมเข้าด้วยกัน เพื่อที่จะสร้างความสามารถดีเด่น ความสามารถดีเด่นจะถูกใช้สร้างข้อได้เปรียยทางการแข่งขัน
บริษัทที่มุ่งข้อได้เปรียบทางต้นทุนต่่ำจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่งขัน และขายราคาต่ำกว่าคู่แข่งขัน เราจะเรียกว่ากลยุทธ์การเป็นผู้นำทางต้นทุน บริษัทที่มุ่งข้อได้เปรียบทางความแตกต่างจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างจากคู่แข่งขัน และขายราคาสูงกว่าคู่แข่งขัน เราจะเรียกว่ากลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง
ชาร์ล ฮิวส์ และแกเร็ธ โจนส์ นักวิชาการกลยุทธ์ ได้เสนอแนะว่าปัจจัยที่สร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันแก่บริษัทมีอยู่สี่ตัวคือ ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า คุณภาพที่เหนือกว่า นวัตกรรมที่เหนีอกว่า และการตอบสนองลูกค้าที่เหนือกว่า
ปัจจัยสี่ตัวนี้จะเรียกกันว่ารากฐานของได้เปรียบทางแข่งขัน ปัจจัยสี่ตัวเหล่านี้จะเป็นวิถีทางโดยทั่วไปของการลดต้นทุนและการสร้างความแตกต่าง บริษัททุกบริษัทไม่ว่าจะอยู่ภายในอุตสาหกรรทอะไรสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ ที่จรงแล้วปัจจัยสี่ตัวจะเกียวพันระหว่างกัน คุณภาพที่เหนือกว่าสามารถนำไปสู่ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าได้ นวัตกรรมที่หนือกว่าจะนำไปสู่ประสิทธิภาพ คุณภาพ และการตอบสนองลูกค้าที่เหนือกว่าได้
รูป จะแสดงให้เห็นถึงผลกระทบของปัจจัยสี่ตัวต่อต้นทุนและราคาของบริษัทอย่างไร ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าจะทำให้บริษัทลดต้นทุนได้ต่ำลง และคุณภาพที่เหนือกว่าจะทำให้บริษัทกำหนดราคาได้สูงขึ้น และลดต้นทุนได้ต่ำลง นวัตกรรมที่เหนือกว่าจะทำให้บริษัทกำหนดราคาได้สูงขึ้นและลดต้นทุนได้ต่ำลง และการตอบสนองลูกค้าที่เหนือกว่าจะทำให้บริษัทกำหนดราคาได้สูงขึ้น
ไมเคิล พอร์เตอร์ ได้กล่าวถึงเริ่มแรกของถ้อยคำว่า การติดอยู่ตรงกลาง : Stuck in the Middle ตามมุมมองของเขาแล้วบริษัทที่ไม่สามาถเลือกระหว่างกลยุทธ์ความเป็นผู้นำทางต้นทุนและกลยุทธ์การสร้างความแตกต่างได้สำเร็จ แสดงว่าบริษัทได้กลายเป็นติดอยู่ตรงกลาง ดังสำนวนที่ว่าบริษัทรักพี่เสียดายน้อง
การทำกำไรของบริษัท ไม่ได้ขึ้นอยู๋กับกำไรเฉลี่ยภายในอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่สำคัญกว่าต้องขึ้นอยู่กับตำแหน่งและข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของบริษัทภายในอุตสาหกรรม และเขายืนยันว่าข้อได้เปรียบทางการแข่งขันจะได้มาจากข้อได้เปรีบทางต้นทุนต่่ำหรือข้อได้เปรียบทางความแตกต่างเท่านั้น ตรงกลางระหว่างข้อได้เปรียบทางต้นทุนต่ำและข้อได้เปรียบทางความแตกต่าง ไม่ได้เป็นสถานที่ที่ดีต่อบริษัทควรจะติดอยู่
ไมเคิล พอร์เตอร์ ยืนยันว่าความเป็นผู้นำทางต้นทุนและการสร้างความแตกต่าง เป็นกลยุทธ์ที่ขัดแย้งกันโดยพื้นฐาน และใช้ทรัพยากรและความสามารถที่แตกต่างกัน
ดังนั้นบริษัทที่ได้พยายามรวมกันจะลงเอยด้วยการติดอยู่ตรงกลาง และไม่สามารถทำกำไรที่สูงได้ บริษัทที่ติดอยู่ตรงกลางจะทำกำไรต่ำ พวกเขาจะเสียสูกค้าที่ต้อง
การซื้อผลิตภัณฑ์มาตรฐาน ณ ราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งขัน และลูกค้าที่ต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างจากคู่แข่งขัน ณ ราคาที่สูงกว่า บริษัทที่ติดอยู่ตรงกลางจะไม่มีข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน
ธุรกิจคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของไอบีเอ็มเป็นตัวอย่างหนึ่งของการติดอยู่ตรงกลาง ไอบีเอ็มได้พยายามวางตำแหน่งโดยกลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของไอบีเอ์มมีราคาสูง และบริษัทจะให้การบริการลูกค้าที่ดีเยี่ยม แต่คู่แข่งขันของไอบีเอ็ม เดลล์ คอมพิวเตอร์ ขายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ณ ราคาที่ต่ำกว่า และให้การบริการแก่ลูกค้าที่เทียมเท่ากัน ลูกค้ามองไม่เห็นอะไรเลยที่เป็นความแตกต่างของไอบีเอ็มจากคู่แข่งขัน และในที่สุดไอบีเอ็มต้องออกไปจากธุรกิจคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล

 


ไมเคิล พอร์เตอร์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ได้สร้างโมเดลที่ช่วยให้เราเข้าใจว่าข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศจะเกิดขึ้นจากปัจจัยบางอย่างที่หามา ได้ของพวกเขา และอธิายว่ารัฐบาลจะเป็นตัวเร่งปรัยปรุงฐานะทางการแข่งขันของประเทศภายในสภาพแวดล้อม โลกอย่างไร ประเทศสามารถสร้างข้อได้เปรียบของปัจจัยใหม่แก่พวกเขาเองได้ เช่น เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า แรงงานที่มีทักษะ และการสนับสนุนจากรัฐบาล ไมเคิล พอร์เตอร์ ไม่เห็นด้วยกับนักเศรษฐศาสตร์สมัยเดิมที่มองว่าปัจจัยทีประเทศได้ตกทอดเป็นมรดก เช่น ที่ดิน ทำเลที่ตั้ง ทรัพยากร
ธรรมช่าติ และขนาดประชากร เป็นตัวกำหนดพิ้นฐานของข้อได้เปรียบทางการเปรียบเทียบของประเทศ
ความเจริญรุ่งเรืองของประทศได้ถูกสร้างขึ้นมาไม่ใช่มรดกตกทอด ไม่ได้เกิดจากทรัพยากรทางธรรมชาติ กำลังงาน อัตราดอกเบี้ย หรือค่าของเงิน ตามที่นักเศรษฐศาสตร์สมัยดิมยืนยัน ความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ ขึ้นอยู่กับความสามารถของอุตสาหกรรทที่จะสร้างนวัตกรรม บริษัทมีข้อได้เปรียบทางการแข่งขันต่อสู้กับคู่แข่งขันที่ดีที่สุดของโลกได้ เนื่องจากแรงกดดันและความท้าทาย พวกเขาได้ประโยชน์จากการมีคู่แข่งขันภายในประเทศที่เข้มแข็ง การเรียกร้องของลูกค้าภายในประทศ และซัพพลายเออร์
ตัวอย่างเช่น ญี่ปุ่น ได้พัฒนาฐานะการแข่งขันระดับโลก เลยพ้นไปจากทรัพยากรที่ตกทอดมาของประเทศ ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากการผลิตวิศวกรจำนวนมาก พวกเขาได้ช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมทางเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก
ไมเคิล พอร์เตอร์ได้ศึกษาปัจจัยที่สร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันแก่อุตสาหกรรมภายในสิบสามประเทศ และได้พิมพ์เผยแพร่เป็นหนังสือชื่อ The Competitive Of Nations โด่งดังไปทั่วโลก การวิจัยของไมเคิล พอร์เตอร์ได้ขยายความเข้าใจของเราเกี่ยวกับผลกระทบของสภาวะของประเทศต่อการสร้างข้อได้ทางการแข่งขันของบริษัท
ดังนั้นไมเคิล พอร์เตอร์ ได้พัฒนากรอบข่ายของการศึกษาที่มีรูปร่างคล้ายเพชรเชื่อมโยงจุดสี่จุดตามรูปขึ้นมา เรียกว่า Diamond Of National Competitive Advantages เพื่อทำการวิเคราะห์ว่า
ทำไมอุตสาหกรรมของประเทศหนึ่งมีข้อได้เปรียบทางการแข่งขันเหนือกว่าอุตสาหกรรมของประเทศอื่น
สภาวะของปัจจัย หมายถึงปัจจัยพื้นฐาน เช่น ที่ดิน ทุน แรงงาน หรือวัตถุดิบ และปัจจัยก้าวหน้า เช่น เทคโนโลยี
ญี่ปุ่นจะขาดแคลนปัจจัยพื้นฐาน แต่ญี่ปุ่นมีปัจจัยก้าวหน้า ญี่ปุนกลายเป็นผู้นำอุตสาหกรรมคอมซูมเมอร์อีเล็คโทร
นิคระดับโลกได้ เนื่องจากปัจจัยก้าวหน้า เช่น เทคโนโลยี
สภาวะของอุปสงค์ หมายถึงลักษณะและขนาดความต้องการของลูกค้าภายในอุตสาหกรรม เช่น สวิสเซอร์แลนด์ได้กลายเป็นผู้นำอุตสาหกรรมเครื่องจักรขุดเจาะอุโมงระดับโลกได้ เนื่องจากความต้องการขุดเจาะอุโมง เพื่อการสร้างถนนและทางรถไฟของประเทศ
อุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องและสนับสนุน อิตาลีได้กลายเป็นผู้นำอุตสาหกรรมเครื่องหนังระดับโลกได้ เนื่องจากอิตาลีมีอุตสาหกรรมเครื่องจักรผลิตหนังและอุตสาหกรรมการออกแบบที่ดีสนับสนุนอยู่
กลยุทธ์ โครงสร้าง และการแข่งขัน การแข่งขันอย่างรุนแรงระหว่างบริษัทคอมพิวเตอร์ได้ทำให้อเมริกากลายเป็นผู้นำอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ระดับโลกได้
ยุคแรกของอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ โนเกีย โมโตโลร่า และอีริคสัน คือบริษัทแนวหน้าของโลก โนเกียเป็นบริษัทฟินแลนด์
ฟินแลนด์กลายเป็นผู้นำอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไร้สายระดับโลกได้ เนื่องจากสภาพทางภูมิศาสตร์แถบ
อารค์ติค ฟินแลนด์จะมีอากาศหนาวจัดตลอดปี ประชากรน้อยมาก บ้านเรือนอยู่ห่างไกลกัน การวางสายโทรศัพท์บ้านจะไม่คุ้มค่า และการขอความช่วยเหลือบนถนน บังคับให้ฟินแลนด์ต้องทุ่มเทกับการลงทุนเทคโนโลยีโทรคมนาคมไร้สาย
เนื่องจากสภาพทางภูมิศาสตร์ของญี่ปุนเป็นเกาะ บังคับให้ญี่ปุนต้องทุ่มเทกับการพัฒนาระบบการจัดส่งทันเวลาขึ้นมา เพื่อที่จะยกเลิกการใช้พื้นที่เป็นคลังสินค้า ดังนั้นญี่ปุนจะมีอุตสาหกรรมที่มีต้นทุนต่ำ เนื่องจากต้นทุนสินค้าคงเหลือจะไม่มี การสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันแก่ญี่ปุ่น

เราจะมีความสัมพันธ์ระหว่างกลยุทธ์ ความสามารถดีเด่น และข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของบริษัท ความสามารถดีเด่นจะกำหนดกลยุทธ์ของบริษัทท ที่นำไปสู่ข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน และการทำกำไรที่เหนือกว่า แต่เราต้อง
รับรู้ว่ากลยุทธ์สามารถสร้างทรัพยากรและความสามารถใหม่ขึ้นมาได้ หรือทำให้ทรัพยากรและความสามารถเดิมเข้มแข็งขึ้น ความสามารถดีเด่นของบริษัทจะสูงขึ้น
ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างกลยุทธ์และความสามารถดีเด่นจะไม่เป็นเส้นตรง แต่เป็นความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ระหว่างกัน ความสามารถดีเด่นสร้างกลยุทธ์ และกลยุทธ์สร้างความสามารถดีเด่น
เรื่องราวของวอลท์ ดีสนี่ย์ เมื่อค.ศ 1980 จะแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่ใช้ทรัพยากรและความสามารถของบริษัท
ได้อย่างดี เมื่อ ค.ศ 1981 วอลท์ ดีสนี่ย์ มีฐานะการเงินที่ไม่ดี และลงเอยด้วยการปฏิรูปบริษัท เมื่อไมเคิล ไอสเน่อร์ ได้ถูกแต่งตั้งเป็นซีอีโอ การปฏิรูปวอลท์ ดีสนี่ย์ของไมเคิล ไอสเน่อร์ จะมุ่งที่การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและความสามารถที่มีอยู่ให้มากขึ้น ทรัพยากรและความสามารถเหล่านี้ได้แก่ หอภาพยนตร์จำนวนมาก ชื่อตราสินค้า
และทักษะของการสร้างภาพยนตร์ ของวอลท์ ดีสนี่ย์
ภายใต้การบริหารของไมเคิล ไอสเนอร์ ภาพยนตร์คลาสสิคหลายเรื่องของวอลท์ ดีสนี่ย์ ได้ถูกนำออกฉายใหม่ภายในโรงภาพยนตร์ และต่อมาภายในวีดีโอ
เช่น สโนไวท์และคนแคระเจ็ดคน ได้ถูกนำออกฉายใหม่หลายครั้ง และสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 50 ล้านเหรียญ บริษัท
ได้เริ่มต้นเคเบิ้ลทีวีด้วยคือ ดีสนี่ย์ แชนแนล เพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากภาพยนตร์และชื่อตราสินค้าของบริษัท
นอกจากนี้การสร้างภาพยนตร์ของวอลท์ ดีสนี่ย์ ได้เฟื่อง
ฟูมากขึ้น ภายในสี่ปีวอลท์ ดีสนี่ย์ ได้สร้างภาพยนตร์การ์ตูนที่โด่งดังหลายเรื่อง เช่น เดอะ ลิตเติ้ล เมอร์เมด และอลาดิน การปฏิรูปวอลท์ ดีสนี่ย์จะอยู่บนพื้นฐานของการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและความสามารถเดิมของบริษัท
นอกจากนี้ไมเคิล ไอสเน่อร์ ได้พัฒนาความสามารถดีเด่นใหม่ขึ้นมาจากการดำเนินกลยุทธ์ของเขาด้วย เขาได้สร้างหน่วยธุรกิจภาพยนตร์ต้นทุนต่ำภายใต้บริษัท ทัชสโตน พิจเจอร์ บริษัทได้ทำข้อตกลงระยะยาวกับพิกซาร์ บริษัทสร้างการ์ตูนแอนิเมชั่น เพื่อที่จะพัฒนาความสามารถดีเด่นของการ์ตูนแอนิเมชั่นของวอลท์ ดีสนี่ย์ การปฏิรูปวอลท์ ดีสนี่ย์ จะอยู่บนรากฐานไม่เพียงแต่กลยุทธ์ที่ใช้ทรัพยากรและความสามารถเดิมของบริษัทเท่านั้น แต่เป็นกลยุทธ์ที่สร้างทรัพยากรและความสามารถใหม่ด้วยคือ กลยุทธ์บนรากฐานของการสร้างภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่น
นับตั้งแต่การสร้างมิกกี้ เม้าส์ และโดนัลด์ ดัค วอลท์
ดีสนี่ย์ คอมพานี ได้สร้างตัวแสดงการ์ตูนเป็นร้อยตัวแก่ผู้รักการ์ตูน ได้ชื่นชมทางภาพยนตร์ โทรทัศน์ สินค้า และสวนสนุก วอลท์ ดีสนี่ย์ ได้สร้างอาณาจักรทางธุรกิจบนพื้นฐานของความเพ้อฝัน และสิ่งที่เขามองว่าเป็นความสนุกสนานแฟชั่นเก่าแก่ที่ดี จินตนาการและความมุ่งมั่นของวอลท์ ดีสนี่ย์ ได้ช่วยให้บริษัทเจริญเติบโตและรุ่งเรือง ผ่านพ้นการพ่ายแพ้เริ่มแรกหลายครั้ง การตกต่ำทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ สงครามโลกครั้งที่สอง และสงครามเย็น ตราสินค้าของความสนุกสนานได้สร้างความบันเทิงอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้
วอลท์ ดีสนี่ย์ เป็นผู้ประกอบการ ผู้สร้างแอนิเมชั่น ผู้ให้เสียงตัวแสดง และผู้สร้างภาพยนตร์ ผู้บุกเบิกอุตสา
หกรรมแอนนิเมชั่นของชาวอเมริกัน เขาได้ริเริ่มการพัฒนาหลายอย่างของการผลิตการ์ตูน ในฐานะของผู้สร้างภาพยนตร์ วอลท์ ดีสนี่ย์ มีประวัติของการได้รางวัลออส
ก าร์ มากที่สุด 22 ตัว จากการถูกเสนอชื่อ 59 ครั้ง
บุคคลไม่กี่คนที่จะมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมอเมริกันมากกว่าวอลท์ ดีสนี่ย์ ผลงานของเขาภายในโลกภาพยนตร์การ์ตูนจะอยู่ภายในหัวใจของเด็กและผู้ใหญ่ไปทั่วโลก เขาได้สร้างอาณาจักรสื่อที่ต้องถูกยอมรับว่ายังคงเป็นพลังที่สำคัญอยู่ภายหลังจากการเสียชีวิตของเขาไปนานแล้วก็ตาม
บุคคลน้อยคนที่จะได้ยินชื่อวอลท์ ดีสนี่ย์โดยไม่คิดถึง
มิกกี้ เม้าส์ ตัวแสดงการ์ตูนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเขา ที่จริงแล้ว เราคงจะไม่มีการ์ตูนอเมริกันไอคอนตัวไหนที่จะ ฉลาด สนุกสนาน และสร้างสรรค์กว่ามิกกี้ เม้าส์ อีกแล้ว
วงกลมสามวงรวมเข้าด้วยกัน ใครก็ตามจะสามารถจดจำได้ทันที
วอลเตอร์ อีเลียส “วอลท์ ” ดีสนี่ย์ เกิดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ 1901 ณ ชิคาโก อิลลินอยส์ พ่อของเขา
อีเลียส ดีสนี่ย์ ชาวคานาดา และแม่ของเขา ฟลอรา
ดีสนี่ย์ ชาวอเมริกัน ลูกชายสี่คน และลูกสาวหนึ่งคน
เขาเป็นลูกคนหนึ่งของลูกห้าคน ครอบครัวได้ตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่มาร์ซีไลน มิสซูรี่ เมื่อ ค.ศ 1906 ชีวิตภายในเมืองเล็ก ได้มีผลกระทบอย่างมากต่อวอลท์ ดีสนี่ย์ ณ
ที่นี่ เขาได้เริ่มต้นวาดภาพสัตว์ หมกมุ่นอยู่กับจินตนาการ และการขายภาพแก่เพื่อนบ้าน
ภายหลัวจากสี่ปีผ่านไป การทำฟาร์มไม่มีกำไร พ่อของเขาสุขภาพไม่ดี และได้ขายฟาร์มไป ครอบครัวของเขาได้ย้ายไปที่แคนซัส ซิตี้ เขาได้ช่วยพ่อของเขาส่งหนังสือพิมพ์ วอลท์ ดีสนี่ย์ มีอายุเก้าปีเท่านั้น
ต้องตื่นตีสามครึ่งทุกวัน พับและส่งส่งหนังสือพิมพ์ สองชั่วโมง ก่อนที่จะไปโรงเรียน ความรับผิดชอบงานไม่ได้ทำให้เขาละทิ้งการวาดภาพและสนุกสนานเลย
ความชอบรถไฟของเขาได้เกิดขึ้น ณ ที่นี่ ลุงของเขาเป็นวิศวกรรถไฟ ต่อมาวอลท์ ดีสนี่ย์ ได้ทำงานภาคฤดูร้อน
กับรถไฟ ด้วยการขายสแนคส์และหนังสือพิมพ์แก่นักท่องเที่ยว
ต่อมาครอบครัวได้ย้ายไปที่ชิคาโก วอลท์ ดีสนี่ย์ ได้วาดภาพการ์ตูนให้กับหนังสือพิมพ์ของโรงเรียนแมคคินลี่ย์
และเขาได้ไปเข้าชั้นเรียนตอนเย็นที่สถาบันศิลปชิคาโก
เมื่อ ค.ศ 1919 วอลท์ ดีสนี่ย์ อายุ 22 ปี เขาได้ถูกไล่ออกจากงานแอนิเมชั่น ณ แคนซัส ซิตี้ เนื่องจากบรรณาธิการหนังสือพิมพ์มิสซูรี่ มองว่าเขาขาดจินตนาการและไม่มีความคิดที่ดี ด้วยการใช้คำพูดว่า ” not being creative enough” แต่ไม่ได้เป็นความล้มเหลวครั้งสุดท้ายของเขา วอลท์ ดีสนี่ย์ ได้ซื้อ ลาฟ-โอ-แกรม โรงถ่ายภาพยนตร์
แอนิเมชั่น สร้างการ์ตูนตลกขบขันจากเทพนิยาย แต่ดูเหมือนว่าเขาสนใจการทำเงินน้อยกว่าความสนุกสนาน
และได้ล้มละลายไป การส่งวอลท์ ดีสนี่ย์ ไปลอสแอนเจลิส มองหางานทำภายในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
วอลท์ ดีสนี่ย์ และรอย ดีสนี่ย์ น้องชายของเขา ได้รวมเงินของพวกเขา และย้ายไปที่ฮอลลีวูด ออบ ไอเวิรค เพื่อนของเขา ได้ย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วย ณ ฮอลลีวูด พวกเขาสามคนได้เริ่มต้นสร้างโรงถ่ายภาพยนตร์ดีสนี่ย์ บราเธอร์ ขึ้นมา พวกเขาได้ทำข้อตกลงครั้งแรกกับมาร์กาเร็ต วิงเกอร์ ผู้จัดจำหน่ายแห่งนิวยอร์ค จัดจำหน่ายการ์ตูนอลิซ ของพวกเขา พวกเขาได้คิดค้นตัวแสดงเรียกว่า ออสวอลด์ เดอะ ลักกี้ แรบบิท ด้วย
วอลท์ ดีสนี่ย์ ิิเป็นผู้ผลิตภาพยนตร์ที่รู้จักกันดีที่สุดของโลก บริษัทมีชื่อเสียงจากการเป็นผู้บุกเบิกภาพยนตร์การ์ตูน และสร้างตัวแสดงการ์ตูน มิกกี้ เม้าส์ ที่เป็นสัญลักษณ์นำโชคของวอลท์ ดีสนี่ย์และผู้สร้างดีสนี่ย์แลนด์ และดีสนี่ย์ เวิรลด
วอลท์ ดีสนี่ย์ จะไม่เคยพอใจกับสิ่งที่เขาได้บรรลุความสำเร็จไปแล้ว เมื่อภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ของเขาได้บรรลุความสำเร็จ เขาจะรู้สึกอยากจะแตกกิ่งก้านออกไปอีก เขาได้ถูกกระตุ้นด้วยธุรกิจอย่างหนึ่งคือ สวนสนุก
ในฐานะที่เป็นพ่อ เขาจะไปท่องเที่ยวกับลูกสาวสองคนที่สวนสัตว์ งานรื่นเริง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่น และเขามักจะลงเอยด้วยการนั่งบนม้ายาว ในขณะที่ลูกสาวขี่ม้าหมุนอย่างสนุกสนาน เขาคิดว่าเราควรจะมีสวนสนุกที่พ่อแม่และลูกจะไปท่องเที่ยวสนุกสนานด้วยกัน ต้นกำเนิดของ
ดีสนี่ย์แลนด์
ภายหลังจากการวางแผนและการก่อสร้างอยู่หลายปี สวนสนุกแห่งใหม่ได้ถูกเปิดขึ้นมาเมื่อ ค.ศ 1955 ดีสนี่ย์ แลนด์ เป็นสวนสนุกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร บุคคลบางคนได้สร้างถ้อยคำขึ้นมาเรียกว่า “Theme Park ” และได้ถูกใช้เป็นแบบแผนของสวนสนุกทุกแห่งนับตั้งแต่นั้นมา ดีสนี่ย์ แลนด์ ได้กลายเป็นสวนสนุกที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก และดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคน วอบท์ ดีสนี่ย์ ได้กล่าวว่า ดีสนี่ย์แลนด์จะไม่เคยสมบูรณ์เลย ตราบเท่าที่จินตนาการ
เหลืออยู่ภายในโบกใบนี้ และคำพูดนี้ยังคงเป็นความจริงตราบเท่าทุกวันนี้ ความดึงดูดใหม่ได้ถูกเพิ่มเข้ามาเป็นประจำ และดีสนี่ย์แลนด์ยังยังคงเป็นทีนิยมแพร่หลายเหมือนกับ ค.ศ 1955
เราเพียงแต่เขียนวงกลมสามวง หรือกางเกงขาสั้นสีแดงกับกระดุมสีขาว เด็กของเราจะร้องตะโกนว่า ” มิกกี้ เม้าส์ ” ทันที ตัวแสดงการ์ตูนที่ไม่มีกาลเวลาของวอลท์ ดีสนี่ย์จะเป็นที่รู้จักมากที่สุดภายในโลก
แม้ว่าวอลท์ ดีสนี่ย์ ได้สร้างตัวแสดงการ์ตูนแห่งความทรงจำไว้หลายตัว เราต้องระลึกว่า ตัวแสดงการ์ตูนทุกตัวเริ่มต้นจากกระต่าย ต้นกำเนิดของการ์ตูนจะเกิดขึ้นจากบุคคลสองคนคือ วอลท์ ดีสนี่ย์ และเพื่อนที่ยาวนานของเขา ออบ ไอเวิรค
ออสวอลด์ เดอะ ลัคกี้ แรบบิท ที่เกือบจะลืมไปแล้ว แต่เป็นตัวแสดงการ์ตูนที่สำคัญมากภายในประวัติของการสร้างแอนิเมชั่น วอลท์ ดีสนี่ย์ และออบ ไอเวิรค ได้สร้างออสวอลด์ เดอะ ลักกี้ แรบบิท เป็นภาพยนตร์การ์ตูนสัตว์สนุก
สนานแก่โรงถ่ายภาพยนตร์ยูนิเวอร์แซล จัดจำหน่าย เมื่อ ค.ศ 1928 ชาร์ล มินท์ ได้ยึดลิขสิทธิ์ออสวอลด์ เดอะ ลักกี้ แรบบิท จากวอลท์
ดีสนี่ย์ ไป และอ้างว่าเป็นตัวแสดงการ์ตูนที่เป็นลิขสิทธิ์ของโรงถ่ายภาพยนตร์ยูนิเวอร์แซล เพื่อการทดแทนที่จะแข่งขันกับตัวแสดงการ์ตูนกระต่ายออส
วอลด์ พวกเขาได้สร้างมิกกี้ เม้าส์ ขึ้นมา ณ โรงถ่ายภาพยนตร์วอลท์ ดีสนี่ย์ ในทีสุด
ความชอบรถไฟของวอลท์ ดีสนี่ย์ ได้เปลี่ยนแปลงโลกอย่างไร เขาชอบรถไฟ และด้วยเหตุนี้ โลกได้กลายเป็นสถานที่ที่ดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น หนูได้นำโชคมาให้เขา ความคิดของมิกกี้ เม้าส์ ได้เกิดขึ้นในขณะที่เขา
นั่งรถไฟกลับบ้าน เป็นไปได้ถ้าวอลท์ ดีสนี่ย์ ไม่ได้ชอบรถไฟ ดีสนี่ย์ แลนด์ และสวนสนุกอื่นภายในโลกจะไม่เกิดขึ้น สวนสนุกของวอลท์ ดีสนี่ย์ มีรีสอร์ท โฮเต็ล 46 แห่งภายในสี่ประเทศ และนักแสดงมากกว่า 140,000 คน วอลท์ ดีสนี่ย์ เวิรลด ณ ออร์แลนโด้ เพียงแห่งเดียวภายในอเมริกาต้องจ่ายเงินเดือน 1.6 พันล้านเหรียญ ทุกอย่างได้เริ่มต้นจากหนู แต่หนูจะไม่เคยเกิดขึ้นเลย ถ้าวอลท์ ดีสนี่ย์ ไม่ชอบรถไฟ
เมื่อ 1927 วอลท์ ดีสนี่ย์ กำลังทำงานอยู่กับยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ และผู้จัดจำหน่าย ชาร์ล มินท์ ต้องการการ์ตูนชุดใหม่ และยูนิเวอร์แซลต้องการตัวแสดงสำคัญเป็นกระต่าย ดังนั้นวอลท์ ดีสนีย์ มี ออบ ไอเวิรค นักออกเขียนการ์ตูนที่
ดีที่สุดและเพื่อนที่ยาวนานของเขา สร้างตัวแสดงกระต่ายเรียกว่า ออสวอลด์ เดอะ ลักกี้ แรบบิท ขึ้นมา
วอลท์ ดีสนี่ย์ และออบ ไอเวิรค ได้สร้างออสวอลด์ เดอะ ลักกี แรบบิท เมื่อ ค.ศ 1927 ต้นทุนได้เพิ่มสูงขึ้น และเขาต้องการสร้างการ์ตูนให้ดีขึ้น วอลท์ ดีสนี่ย์ และลิลเลียน
ดีสนี่ย์ ภรรยาของเขา ได้เดินทางรถไฟไปนิวยอร์ค เพื่อที่จะต่อสัญญาใหม่ของเขา เขาได้ของบประมาณเพิ่มมากขึ้นจากผู้จัดจำหน่าย ชาร์ล มินท์ เพื่อที่จะสร้างการ์ตูนตอนที่สองของออสวอลด์ เดอะ แรบบิท แต่ชาร์ล มินท์ บอกว่าเขาเป็นเจ้าของตัวแสดงออสวอลด์ ได้เสนอจำนวนเงินที่ลดลงกว่าเดิม เพราะว่าเขาได้สร้างโรงถ่ายภาพยนตร์ของเขาเองสร้างได้ถูกกว่า และใช้นักเขียนการ์ตูนที่เขาได้ซื้อตัวมาจากวอลท์
ดีสนีย์ ยกเว้นออบ ไอเวิรค เท่านั้น วอลท์ ดีสนี่ย์ ไม่รู้เรื่องนี้เลย
การเรียนรู้บทเรียนที่เจ็บปวด วอลท์ ดีสนี่ย์ ได้ขึ้นรถไฟกลับมาที่แคลิฟอร์เนีย ระหว่างการเดินทางกลับบ้าน
วอลท์ ดีสนีย์ ได้วาดภาพตัวแสดงหนูขาวดำ หูกลม และหางผอมยาว และใช้ชื่อว่า มอร์ติเมอร์ แต่ภรรยาของเขาไม่เห็นด้วย เนื่องจากเป็นชื่อที่หรูเกินไป และเสนอชื่อใหม่ เป็นมิกก้ เมาส์
ทันทีเมื่อเขามาถึงลอสแอนเจลิส เขาได้ไปจดลิขสิทธิ์
มิกกี้ เม้าส์ ทันที วอลท์ ดีสนี่ย์ และออบ ไอเวิรค เพื่อนที่จงรักภักดีของเขา ได้สร้างการ์ตูนเรื่องใหม่ ตัวแสดงคือ
มิกกี้ เมาส์ เป็นดาราผจญภัย แต่ดีสนีย์ต้องยุ่งยากกับการหาผู้จัดจำหน่าย


เดอะ วอลท์ ดีสนี่ย์ คอมพานี ถูกก่อตั้งขึ้นมาเมื่อ ค.ศ 1923 โดยสองพี่น้อง วอลท์ ดีสนี่ย์ และรอย ดีสนี่ย์ ใช้ชื่อบริษัทว่า ดีสนี่ย์ บราเธอร์ การ์ตูน สตูดิโอ เพียงไม่กี่ปีภายหลังจากการเสียชีวิตของวอลท์ ดีสนี่ย์ ผู้ก่อตั้งที่มีวิสัยทัศน์ เมื่อ ค.ศ 1966 วอลท์ ดีสนี่ย์ ได้ตกต่ำลง ภายใต้ความเป็ยผู้นำที่อ่อนแอ และการขาด
การรับรู้ทิศทางของบริษัท มงกุฏเพชรของบริษัท – ภาพยนตร์ – ได้ตกไปข้างทางเสียแล้ว
เมื่อ ค.ศ 1982 กำไรได้ลดลงเป็น 18% และปีต่อมาได้ลดลงเป็น 7% อีกครั้งหนึ่ง ปีต่อมา ซอล สไตร์เบิรก นักล่าบริษัท ได้มุ่งวอลท์ ดีสนีย์ เป็นเป้าหมายของการยึดครองบริษัท คณะกรรมการบริษัทของวอลท์ ดีสนีย์ มองเห็นว่าบริษัทจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง การเข้ามาของไมเคิล ไอสเนอร์ ซีอีโอ คนใหม่ ไมเคิล ไอสเนอร์ เป็นผู้นำคนหนึ่งภายในอุตสาหกรรมความบันเทิงของอเมริกามานานกว่าสี่ทศวรรษ การเริ่มต้นอาชีพของเขา ณ เอบีซี และในไม่ช้าเขาได้กลายเป็นซีอีโอของพาราเม้าท์ พิคเจอร์
ไมเคิล ไอสเน่อร์ ได้เข้ามาเป็นซีอีโอ ของวอลท์ ดีสนี่ย์ ตั้งแต่ 1984 จนถึง 2005 รวม 21 ปี ก่อนหน้านี้เขาจะเป็น
ซีอีโออยู่ที่ พาราเม้าท์ พิคเจอร์ เขาได้ปฏิรูปวอลท์ ดีสนี่ย์จากบริษัทภาพพยนตร์และสวนสนุก เริ่มต้นจากมูลค่าบริษัทเพียง 1.8 พันล้านเหรียญ จนกลายเป็นอาณาจักรสื่อระดับโลกมูลค่า 80 พันล้านเหรียญ
เขาได้เปลี่ยนชื่อบริษัท จาก วอลท์ ดีสนี่ย์ โปรดัคชั่นส์ เป็น วอลท์ ดีสนี่่ย์ คอมพานี นับตั้งแต่เขากลายเป็นซีอีโอเมื่อ ค.ศ 1984 เขา ได้สร้างสวนสนุกใหม่ไปทั่วโลก การเปิดเคเบิล ทีวี หลายช่อง และสายการเดินเรือท่องเที่ยว
เมื่อปลาย ค.ศ 1980 และต้น ค.ศ 1900 เราได้มองเห็นการฟื้นตัวของหน่วยธุรกิจภาพยนตร์การ์ตูนที่มีชื่อเสียงของวอลท์ ดีสนี่ย์ ด้วยภาพยนตร์การ์ตูนยอดนิยมเรื่องใหม่เช่น เดอะ ไลอ้อน คิง เดอะ ลิตเติ้ล เมอร์เมด และบิวตี้ แอนด์ เดอะ บีท
เมื่อ ค.ศ 1980 วอลท์ ดีสนี่ย์ ได้เผชิญกับฐานะการเงินที่ไม่ดี และต้องลงเอยด้วยการปรับปรุงการบริหาร ดังนั้นไมเคิล ไอสเนอร์ ได้ถูกแต่งตั้งเป็นซีอีโอ คนใหม่ เพื่อที่จะชุบชีวิตของวอลท์ ดีสนี่ย์ ภายใต้ความเป็นผู้นำของไมเคิล ไอสเน่อร์ สี่ปีต่อมารายได้ของบริษัทได้เพิ่มสูงขึ้นจาก 1.66 พันล้านเหรียญ เป็น 3.75 พันล้านเหรียญ
ตามมาตรฐานส่วนใหญ่ของใครก็ตาม ไมเคิล ไอสเนอร์ ได้เผชิญกับงานที่ยากลำบาก เขาได้พยามยามฟื้นฟูไอคอนของความบันเทิงของชาวอเมริกัน ภายใต้เงาที่ทอดยาวของราชวงศ์ครอบครัวที่ได้แนะนำหนูของโลก ณ เวลวหนึ่งไมเคิล ไอสเนอร์เข้ากันได้ดีกับรอย ดีสนี่ บุคคลที่สนับสนุนเขาเข้ามาเป็นซีอีโอ แต่ภายหลัง ค.ศ 1994 ความสัมพันธ์กับรอย สมาชิกครอบครัวคนสุดท้ายของคณะกรรมการบริษัทได้เริ่มต้นขุ่นเคือง และโชคชะตา
ของบริษัทเริ่มต้นตกต่ำ
ไมเคิล ไอสเน่อร์ได้ช่วยให้วอลท์ ดีสนี่ย์ ไม่เพียงแต่กลับคืนสู่ความรุ่งโรจน์ก่อนหน้านี้เท่านั้น เขายังได้ผลักดันบริษัทไปข้างหน้า จนกลายเป็นบริษัทความบันเทิงยิ่งใหญ่ที่สุดบริษัทหนึ่งภายในอเมริกา เขาบรรลุความสำเร็จการเปลี่ยนแปลงภายในบริษัทด้วยความเป็นผู้นำที่มีบารมีของเขา – เหมือนเช่นผู้ก่อตั้ง วอลท์ ดีสนี่ย์ – บุคลิกภาพของผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจแก่บุคคลให้มีความจงรักภักดี และทำงานเลยพ้นไปจากความคาดหวัง
ไมเคิล ไอสเนอร์ ได้นำทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์เข้ามา เรียกว่าดีสนี่ย์ ทีม และก้าวไปทันทีภายในการฟื้นฟูบริษัท เพื่อที่จะสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ เขาได้ว่าจ้าง
เจฟฟรีย์ คาทเซ็นเบิรก
เข้ามาเป็นหัวหน้าโรงถ่ายภาพยนตร์
สร้างภาพยนตร์ภายใต้ชื่อตราสินค้าใหม่สองชื่อคือ ทัช
สโตน พิจเจอร์ และฮอลลีวูด พิจเจอร์
ภายใต้ทิศทางของเจฟฟรีย์ แคทเซนเบิรก วอลท์ ดีสนี่ย์ ได้ชุบชีวิตใหม่แก่หน่วยธุรกิจภาพยนตร์การ์ตูน เดอะ ลิตเติ้ล เมอร์เมด ได้รางวัลออสการ์สองตัว และทำรายได้ 85 ล้านเหรียญ บิวตี้ แอนด์ เดอะ บีท ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องแรกที่ได้ถูกเสนอชื่อเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของ
ออสการ์ และ ไลอ้อน คิง ทำรายได้ 423 ล้านเหรียญ
จากโรงภาพยนตรฺ์ เจฟฟรีย์ แคทเซนเบิรก เคยเปรียบเทียบสถานภาพของวอลท์ ดีสนี่ย์ เหมือนกับความบันเทิง
ของครอบครัว ทำนองเดียวตราสินค้าคลีเนกซ์ของทิชชู่
การก้าวไปที่ฉลาดของทีมผู้บริหารที่เหลือเชื่อคือ การรับรู้โอกาสการสร้างเงินสดของทรัพย์สินของวอลท์ ดิสนี่ย์ เมื่อ ค.ศ 1980 สวนสนุกได้สร้างรายได้ 70 % ของรายได้ของบริษัท ดังนั้นพวกเขาได้ใช้ความรู้สึกอย่างถูกต้องว่าสวนสนุกสามารมารถขึ้นราคาค่าตั๋วได้ และไม่กระทบต่ออุปสงค์ของสวนสนุก การขึ้นค่าตั๋วเพียง 1 เหรียญจะทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 30 ล้านเหรียญต่อปี ไมเคิล ไอส
เน่อร์ ได้ขยายสวนสนุกวอลท์ ดีสนี่ย์ เวิรลด ณ ออร์แลนโด้ ฟลอริด้า ด้วยการเป็นหุ้นส่วนกับเอ็มจีเอ็ม การเปิดโรงถ่ายภาพยนตร์ความบันเทิงขึ้นมาเมื่อ ค.ศ 1989
ไมเคิล ไอสเนอร์ ชี้ให้เห็นว่าการกำหนดราคาที่สูงของสินค้าและการบริการของวอลท์ ดีสนี่ย์ ขึ้นอยู่กับตัวแสดงของดีสนี่ย์ วอลท์ ดีสนี่ย์ ได้สร้างตัวแสดงเหล่านี้
จากภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ ตัวแสดงหลายตัวเริ่มต้นมีอายุมากขึ้น เขาไม่มั่นใจว่าตัวแสดงเหล่านี้จะยังคงดึงดูดเด็กอยู่อีกหรือไม่ การแก้ปัญหาคือวอลท์ ดีสนี่ย์ ควรจะสร้างตัวแสดงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ภาพยนตร์ของวอลท์ ดีสนี่ย์ ได้สร้างตัวแสดงที่มีชื่อเสียงมานานแล้ว ดังนั้นไมเคิล ไอสเน่อร์ ได้มุ่งที่การลงทุนภาพยนตร์การ์ตูน
หลายเรื่อง
ไมเคิล ไอสเนอร์ ได้คิดใหญ่ขึ้น โตเกียว ดีสนี่ย์แลนด์ ได้ถูกเปิดขึ้นมาเมื่อ ค.ศ 1983 และบรรลุความสำเร็จอย่างดี เขาได้เริ่มต้นทำงานเกี่ยวกับการสร้างดีสนี่ย์แลนด์ภายในปารีส ต่อมายูโร ดีสนี่ย์ ได้ถูกเปิดขึ้นมาเมื่อ ค.ศ 1992 การตัดสินใจที่จะแสวงหาการขยายตัวไปทั่วโลก การเพิ่มความรวดเร็วของสินค้าไปยังผู้บริโภคทั่วโลก และการเสริมแรงสถานภาพไอคอนของตราสินค้า
วอลท์ ดีสนี่ย์ บรรลุความสำเร็จมากที่สุดกับการใช้การเสริมแรงเป็นกลยุทธ์เพื่อที่จะสร้างรายได้สูงสุด ณ วอลท์
ดีสนี่ย์ การส่งเสริมการตลาดข้ามกัน หมายถึงการเสริมแรงของบริษัท เมื่อหน่วยธุรกิจสองหน่วยหรือมากกว่าของบริษัทเพิ่มคุณค่าจากการทำงานด้วยกัน ภายใต้ความเป็นผู้นำของไมเคิล ไอสเน่อร์ เขาเป็นผู้ที่
ใจกว้างและเข้าใจคุณค่าของการเสริมแรงว่าความเป็นจริงที่สามารถกระทำได้ ความสำเร็จของการส่งเสริมการตลาดข้ามกันจะมีตั้งแต่ภาพยนตร์ ไปโทรทัศน์ ไปสวนสนุก จนถึงร้านค้าดีสนี่ย์
ไมเคิล ไอสเนอร์ ได้ส่งเสริมการเสริมแรงด้วยการกล่าวว่า
1 + 1 = 3 หรือมากกว่า เมื่อวอลท์ ดีสนี่ย์ ซื้อเอบีซี ค.ศ 1995 สตาร์ วอร์ จะไม่เพียงแต่เป็นภาพยนตร์ ด้วยคำพูดอีกอย่างหนึ่ง สตาร์ วอร์ จะเป็นรายการทีวี ของเล่น วีดีโอ เกม และเครื่องเล่นของสวนสนุก
วอลท์ ดีสนี่ย์จะมีความสามารถสูงภายในการสร้างการเสริมแรง ทุกครั้งที่บริษัทได้สร้างภาพยนตร์การ์ตูนขึ้นมา พวกเขาจะนำตัวแสดงการ์ตูนจากภาพยนตร์ไปสู่สวนสนุก เด็กและผู้ใหญ่ที่คุ้นเคยกับสโนว์ ไวท์ ปีเตอร์ แพน หรือ
มิกกี้เมาส์ จากภาพยนตร์ จะจดจำประสบการณ์ที่พึงพอใจ ด้วยการมองเห็นตัวแสดงการ์ตูนเหล่านี้เดินอยู่ภายใน
ดีสนีย์ แลนด์ ดืสนี่ย์ เวิรลด์ โตเกียว ดีสนีย์แลนด์ หรือยูโรดีสนี่ย์แลนด์ นักท่องเที่ยวสามารถนำความทรงเหล่านี้กลับบ้านกับพวกเขาด้วยการซื้อเสื้อผ้าของสโนว์ ไวท์ ไม้วิเศษของปีเตอร์ แพน และเสื้อเชิรตของโรเจอร์ แรบบิท จากร้านค้าดีสนีย์
เอบีซี- ทีวี ของวอลท์ ดิสนี่ย์มักจะโฆษณาภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของดิสนีย์ ดีสนี่ย์ดีวีดี หรือเครื่องเล่นใหม่ ณ ดีสนี่ย์
เวิรลด อยู่เสมอ ในขณะเดียวกันดีสนี่ย์ดีวีดี สวนสนุกของดีสนี่ย์ หรือดีสนี่ย์ เว็บไซต์ จะส่งเสริมรายการทีวีของเอบีซี
นานหลายปีภายหลังจากการเสียชีวิตของวอลท์ ดีสนี่ย์
ผู้บริหารของบริษัทจะต้องคิดครั้งที่สองเกือบทุกครั้งของการตัดสินใจที่สำคัญ ถ้าวอลท์ ดีสนี่ย์ ยังมีชีวิตอยู่ ” เขาควรจะทำอย่างไร ” วิญญานของเขาดูเหมือนกับเดินย่องอยู่ภายในโรงถ่ายภาพยนตร์ของดีสนี่ย์ ณ เบอร์แบงค์ แคลิฟอร์เนีย การบูชาวีรบุรุษวอลท์ ดีสนี่ย์ ได้ทำให้วอลท์ ดีสนี่ย์สร้างแต่ภาพยนตร์ครอบครัวที่ไม่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อม
ทีมผู้บริหารของไมเคิล ไอสเนอร์ จะเป็นอิสระจาก
” วิญญาน ” ของวอลท์ ดีสนี่ย์ พวกเขาได้สร้างวัฒนธรรมที่มีความลึกซึ้งมากขึ้น การผจญภัยมากขึ้น และความทะเยอทะยานมากขึ้น การสร้างภาพยนตร์เพื่อผู้ชมที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เมื่อ ไมเคิล ไอสเนอร์ ได้เข้ามาควบคุม ” Mouse House ” ณ เวลานั้น วอลท์ ดีสนี่ย์ได้สร้างภาพยนตร์การ์ตูนหนึ่งเรื่องเท่านั้นทุกสามถึงห้าปี และช่องเคเบี้ลเพียงช่องเดียวคือ ดีสนี่ย์ แชนแนล และขาดทุน รายได้ของบริษัทขึ้นอยู่กับสวนสนุกและค่าลิขสิทธิ์ของ
มิกกี้เม้าส์ ืเท่านั้น
เมื่อ ค.ศ 2005 วอลท์ ดีสนี่ย์ ได้กลายเป็นบริษัทร่ำรวยที่สุดบริษัทหนึ่งภายในอเมริกา มูลค่าของบริษัทได้เพิ่มสูงขึ้น 32 เท่าตั้งแต่ ค.ศ 1984 และอยู่ ณ 69 พันล้านเหรียญ หน่วยธุรกิจความบันเทิงบ้าน มีรายได้เกือบหนึ่งในสามของทั้งอุตสาหกรรม ไมเคิล ไอเนอร์ สามารถปฏิรูปวอลท์
ดีสนี่ย์ ได้บรรลุความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง ในขณะที่คู่แข่งขันของพวกเขากำลังยุ่งยากอยู่ เช่น ไทม์ วอร์เนอร์
เวียคอม โซนี่ และนิวส์ คอรป
ไมเคิล ไอสเนอร์ มีการตัดสินใจที่สำคัญสองอย่างภายในการปฏิรูปบริษัท การตัดสินใจอย่างแรกคือ ณ เวลานั้น ผู้บริหารของโรงถ่ายภาพยนตร์รวมทั้ง เจฟฟรีย์ แคทเซน
เบิรก ไม่เห็นด้วยกับการเผยแพร่ภาพยนตร์การ์ตูนขวัญใจด้วยวีดีโอ เพราะว่าวีดีโอจะกระทบต่อกำไร
จากการฉายภาพยนตร์การ์ตูนเหล่านี้อีกครั้งหนึ่งภายในโรงภาพยนตร์ แต่ไมเคิล ไอสเนอร์ รับรู้สถานการณ์แตกต่างออกไป เขาได้วางขายวีดีโอ ภายในร้านค้า
ภายในเวลาไม่กี่ปี ได้สร้างกำไรสูงมากแก่หน่วยธุรกิจภาพยนตร์ของบริษัท และเมื่อ ค.ศ 2004 วอลท์ ดีสนี่ยฺ์
ติดลำดับการขายวีดีโอสูงถึง 6 พันล้านเหรียญ
การตัดสินใจที่สำคัญอย่างที่สองของไมเคิล ไอสเนอร์ คือ การซื้อแคปปิตอลซิตี้ส์/เอบีซี มูลค่า 19 พันล้านเหรียญ ด้วยการปฏิวัติเพียงครั้งเดียว วอลท์ ดีสนี่ย์ จะได้ไม่เพียงแต่เครือข่ายเอบีซี และสถานีทีวีเท่านั้น บริษัทยังได้ 80% เครือข่ายกีฬาอีเอสพีเอ็นที่เป็นวัวเงิน ด้วย ไมเคิล ไอสเนอร์เชื่อว่าปัจจุบ้นชาวอเมริกันและทั่วโลก จะเข้าโรงภาพยนตร์น้อยลง พวกเขาจะชมภาพยนตร์ผ่านเครือข่ายเคเบิ้ลมากขึ้น ดังนั้นอนาคตของวอลท์ ดีสนี่ย์ ย่อมจะขึ้นอยู่กับตลาดความบันเทิงบ้าน ไม่ใช่โรงภาพยนตร์ แต่จะเป็นสถานีทีวี
ไมเคิล ไอสเนอร์นำ วอลท์ ดีสนี่ย์อยู่นานถึง 21 ปี ความสำเร็จของเขาจะมีหลายอย่าง แต่ความสำเร็จน้อยของเขาคือการขยายสวนสนุกไปยุโรป ด้วยการเปิดยูโร ดีสนี่ย์ภายนอกปารีส การลงทุนไ่ม่บรรลุความสำเร็จทางการเงินหรือทางประชาชน ข้อวิจารณ์ต่อการเลือกปารีสเพราะว่าเขาได้สิ่งจูงใจจากรัฐบาล แทนที่เขาควรจะเลือกที่ใดที่หนึ่งที่มีภูมิอากาศดีกว่า นับได้ว่าเป็นการก้าวผิดทางที่สำคัญอย่างหนึ่งของเขา

Cr : รศ สมยศ นาวีการ

Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *