INEWHORIZON

ขอบฟ้าใหม่

การเมืองไทยสั่นคลอนหนัก

BB​C​ News ไทย

สบาย สบาย สไตล์เกษม
เกษม อัชฌาสัย
การเมืองไทยสั่นคลอนหนัก

เรื่องราวต่อไปนี้ คัดลอกมาจากวารสารรายปักษ์ East Asia Forum ขององค์กรเอกชนในออสเตรเลีย ที่ไม่มีส่วนได้-เสียใดๆ กับใคร เช่นหนังสือพิมพ์บางกอก โพสต์ จึงพึงรับฟังได้ด้วยความวางใจว่า จะไม่เข้าข้างหรือฝักใฝ่ฝ่ายใด ซึ่งผมมีความเห็นว่า มีความตรงไปตรงมาพอใช้

“อีสต์เอเชียฟอรัม”เขียนไว้ดังนี้ครับ:-

“๒๐๒๓ นับเป็นปีที่ไม่ปกติของการเมืองไทย บ่งชี้ความท้าทายอย่างหนักหน่วงต่อระบบการเมืองไทย เป็นความผิดปกติที่หยั่งรากลึกอย่างน่ากลัวในปี ๒๐๒๔ ที่คาดว่าภาวะเศรษฐกิจจะกลับคืนสู่ภาวะปกติ สม่ำเสมอไร้เสียงแห่งความวุ่นวาย

พรรคก้าวไกลซึ่งชนะได้เสียงข้างมากกว่าพรรคใด(แม้ไม่ได้เสียงข้างมากเด็ดขาด) ด้วยนโยบายปฏิรูปกฎหมายหมิ่นกษัตริย์ น่าจะได้เริ่มประชาธิปไตยที่แท้จริง ด้วยมาตรการเพิ่มความโปร่งใสและเสริมความรับผิดชอบของสถาบันต่างๆได้มากขึ้น แต่ราชวงศ์(ที่ผ่านมาต้องพึ่งพิงบารมีและความชอบธรรมตามธรรมเนียม)และทหาร(ซึ่งราชวงศ์ต้องพึ่งพาอย่างมาก)ต่างก็ไม่ยอมรับ ในปีนั้น(๒๐๒๓)ก็เกิด”ดีลลับ”ขึ้นระหว่างสถาบันอนุรักษ์นิยมกับพรรคเพื่อไทย ยอมให้อดีตนายกรัฐมนตรี”ทักษิณ ชินวัตร” ที่เนรเทศตนเองไปอยู่ต่างประเทศกลับบ้านได้ แต่ก็ต้องเป็นพันธมิตรกับอดีตศัตรูคู่อาฆาตซึ่งก็คือพรรคการเมืองตัวแทนทหาร ด้วยเงื่อนไขที่ว่าจะต้องสกัดกั้นพรรคก้าวไกลและรักษาไว้ซึ่งระเบียบแบบแผนตามรัฐธรรมนูญและหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดรัฐประหาร

ด้วยกฎระเบียบที่ตกลงกันเป็นส่วนใหญ่นั้น ปี ๒๐๒๔ สมควรเป็นปีของรัฐบาลผสมที่นำโดยอดีตนายกรัฐมนตรี”เศรษฐา ทวีสิน”ควรจะมุ่งธำรงไว้ซึ่งพลวัตทางเศรษฐกิจภารกิจยากๆ เช่นการปฏิรูปเศรษฐกิจและการศึกษาต้องเดินหน้า แต่กลับไม่ได้ทำ
เนื่องด้วยในศตวรรษที่ ๒๑การเมืองไทยเสมือนถูกภาวะไร้ความมั่นคงเข้าครอบงำด้วยด้วยปัจจัยสำคัญๆ สามประการ

ประการแรกการใช้กฎหมายเป็นอาวุธในการต่อต้านการเมืองฝ่ายตรงกันข้าม

รัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ สามารถปลดผู้ดำรงตำแหน่งบริหารได้โดยหลักฐานที่คลุมเครือ เป็นรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยที่ระบุว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ ซึ่งก็หมายความว่า พรรคการเมืองใดที่เอ่ยถึง(แตะ)การปฏิรูปราชวงศ์ ย่อมจะต้องถูกกล่าวหาได้ว่ามีความพยายามล้มล้างการปกครอง

นอกจากนั้นมาตรา ๑๑๒ ในประมวลกฎหมายอาญา ยังอนุญาตให้ใครก็ได้แจ้งข้อหาต่อตำรวจโดยไม่จำเป็นต้องมีหลักฐาน (allows anyone to lodge an allegation at any police station without needing to provide evidence.)

นับว่าเป็นการตั้งข้อกล่าวหาที่ไม่ยอมให้มีการป้องกันได้ ด้วยข้อเท็จจริง(It is a charge against which there is no defence based on truth.)

ประการที่ ๒ มีกลุ่มชนชั้นที่เรียกว่า”อีลีท”ระดับล่างซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของระบอบการปกครอง แต่มิใช่ระดับตัวละครที่สามารถชี้นำ กลุ่มนี้จะแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี กำหนดประเด็นของตนเองและได้รับการสนับสนุนให้ใช้เครื่องมือทางกฎหมาย(ดังที่กล่าวแล้ว)แล้วบ่อนทำลายความมั่นคงของรัฐบาลผู้บริหาร

เมื่อเดือนสิงหาคม ปีทีแล้ว(๒๕๖๗) วุฒิสมาชิก”เป็ดง่อย” ๔๐ รายร่วมกับอดีตนักต่อรองอำนาจและรัฐมนตรีกลาโหม”ประวิตร วงศ์สุวรรณ”ใช้รัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ ปลด”เศรษฐา ทวีสิน”พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยข้อหาที่ว่ากระทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๖๐ ซึ่งระบุมิให้รัฐมนตรีประพฤติล่วงละเมิดในขั้นอุกฤษฏ์ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม ในกรณีแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ซึ่งเคยโดนและทำผิดคดีให้สินบนผู้พิพากษา ทั้งๆ ที่เจ้าหน้าที่นั้นถูกลงโทษไปแล้ว…… นี้ก็คือข้ออ่อนด้วยอีกอย่าง

ประการที่ ๓ ก็คือไทยเป็นสังคมป่าเถื่อน(uncivil societry) หมายถึงการที่ไทยมีองค์ประกอบที่เป็นอนุรักษ์นิยมที่บางครั้งก็ต่อต้านความเชื่อเสรีนิยมอย่างรุนแรง และต่อต้านผู้ที่สนับสนุนพวกเขา

ปี ๒๕๖๗ กลุ่มนี้พุ่งเป้าไปยังเยาวชน ที่กล้าตั้งคำถามการได้สิทธิพิเศษของราชวงศ์ อย่างเช่น ขบวนเสด็จ

“ทักษิณ”ซึ่ง ณ บัดนี้คือนักการเมืองที่แทบจะไม่มีการคุ้มกันเช่นสมัยที่ยังที่ยังอยู่ในอำนาจก็ตกเป็นเป้าหมายของสังคมป่าเถื่อน ทั้งยังต้องคดี ม.๑๑๒ ต้องคดีโค่นล้ม ทั้งๆ ที่ตัว”ทักษิณ”เองและพรรคของเขายังคงเคลื่อนไหวในระบบกฎหมายของไทย

นั่นก็หมายความว่า ในปี ๒๕๖๘ จะนำไปสู่ภาวะไร้ความมั่นคงมากขึ้น

ขณะเดียวกันที่”สนธิ ลิ้มทองกุล”นักก่อกวนทางการเมือง ซึ่งเคยทำให้รัฐบาลที่นำโดย”ทักษิณ”พังพินาศลงในปี ๒๕๔๙ ก็หาทางขับเคลื่อนให้เกิดความรักชาติต่อความพยายามที่จะเจรจากับกัมพูชา กรณีที่จำเอาทรัพยากรใต้ทะเลในอ่าวไทยขึ้นมาใช้

ท่ามกลางความอลหม่านที่ว่านี้ ก็ยังคงมีการก้าวต่อที่จะรวบกฎระเบียบไว้ในระบบ วุฒิสภาที่ตั้งขึ้นมาโดยคณะผู้ยึดอำนาจการปกครอง ถูกแทนที่ผ่านการเลือกตั้งกันเอง
ส่งผลให้ได้วุฒิสภาใหม่ที่วุฒิสมาชิกส่วนใหญ่เป็นพันธมิตรกับกลุ่มอนุรักษ์นิยมและพรรคภูมิใจไทย(ที่เชิดชูราชวงศ์) ในขณะที่วุฒิสภาใหม่ไม่มีส่วนในการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีได้ต่อไปอีกแล้ว แต่ยังสามารถแต่งตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ สามารถโหวตเสียงในญัตติอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญที่ปราบพรรคก้าวไกลนั้น ได้ยุบพรรคนี้และห้ามมิให้บรรดาผู้นำพรรคลงเล่นการเมือง เนื่องจากพยายามที่จะปฏิรูปมาตรา ๑๑๒

ปลายปีที่ผ่านมา วงการผู้นำในพรรคเพื่อไทยได้สำแดงให้เห็นถึงความตระหนักต่อกฎระเบียบอันลึกซึ้ง ซึ่งกำหนดขอบเขตในการยอมรับนโยบาย/ “ทักษิณ”และลูกสาวคือนายกรัฐมนตรีแพทองธาร จึงต้องรีบระงับข้อเสนอที่จะทำหน้าที่ควบคุมการแต่งตั้งนายทหารให้มาอยู่ในอำนาจครม.

นอกเหนือไปจากม.๑๑๒ แล้ว เป็นการยากที่เคลื่อนไหวอะไรที่เป็นปฏิปักษ์ต่อหน่วยทหารรักษาพระองค์ ซึ่งยากมากยิ่งกว่า การได้มาซึ่งอำนาจในการแต่งตั้งทหาร

โดยสรุป ปี ๒๕๖๗ นับเป็นหนึ่งปีเต็มที่รัฐบาลพลเรือนดำรงอยู่ ภายใต้รัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ รัฐธรรมนูญที่มองลึกลงไป จะนำไปสู่พลวัตของการเมืองไทยในอนาคต โดยรัฐธรรมนูญซึ่งยากต่อการแก้ไข ยิ่งกว่าการหมุนเวียนก่อนหน้า ซึ่งทหารยังปรารถนาที่เห็นกลไกนี้ เดินต่อไปมากกว่าการทำรัฐประหารต่อต้านการคุกคามที่สามารถรับรู้ได้

หากจะสรุปสั้นๆ อีกที จากบทความเชิงวิเคราะห์นี้ก็คือ:-
“ประเทศไทยกลับสู่การปกครองและบริหารโดยพลเรือนโดยก็จริง แต่ปกปิดความไร้เสถียรภาพทางการเมืองเอาไว้ ขณะที่สถาบันกษัตริย์และทหารคืออุปสรรคในการปฏิรูปประชาธิปไตย กลไกกฎหมายและ”อีลีท”ที่ยึดมั่นถือมั่น คือตัวการที่ทำให้รัฐบาลอ่อนแอ อันนำไปสู่การยุบพรรคฝ่ายค้าน แถมสภาสูงหรือวุฒิสภาถูกแทนที่ด้วยพันธมิตรอนุรักษ์นิยม การปราบปรามด้วยกฎหมายหมิ่นพระประมุขและการใช้ความรุนแรงต่อต้านของกลุ่มฝ่ายค้านที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ปิดกั้นความก้าวหน้าของระบอบประชาธิปไตยและปิดกั้นการปฏิรูปเศรษฐกิจที่จำเป็นยิ่ง”

นี้คือใจความทั้งหมด ที่ผม(เกษม)พยายามถ่ายทอดมาจากบทความของ Greg Raymond ซึ่งเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ วันที่ ๑๑ กุมภาพันธุ์ ๒๕๖๘ ครับ

ผมเองจะไม่แสดงความเห็นอะไรต่อบทความนี้ แต่อยากจะให้ท่านช่วยแสดงความเห็นครับว่า:-

คิดอย่างไร ต่อการวิพากษ์วิจารณ์การเมืองไทยของชนชาวต่างชาติท่านนี้

จึงใคร่ขอบคุณทุกท่าน ที่เข้ามาอ่าน

ผมจะรอเสียงวิจารณ์ ต่อบทความนี้ อย่างใจจดใจจ่อครับ

 

**บทความนี้เป็นความเห็นของเจ้าของบทความไม่เกี่ยวกับทัศนะของกองบก.inewhorizon

Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *