ทฤษฎีธุรกิจ

ทฤษฎีธุรกิจ
ทฤษฎีธุรกิจของปีเตอร์ ดรัคเกอร์มีส่วนประกอบอยู่สามอย่าง สมมุติฐานเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม สมมุติฐานเกี่ยวกับภารกิจ และสมมุติฐานเกี่ยวกับความสามารถแกน สมมุติฐานเหล่านี้จะสร้างรากฐานขององค์การเพื่อการกำหนดกลยุทธ์ของมัน เสาสามต้นเหล่านี้สร้างทฤษฎีธุรกิจที่เชื่ิอมโยงกันคล้ายมากกับรากฐานสนับสนุนอาคาร ถ้าเสาต้นหนึ่งของเสาเหล่านี้อ่อน
แอ หรือสมมุติฐานไม่ถูกต้องแล้ว ธุรกิจตกอยู่ในอันตรายได้ เสาเหล่านี้จะ
แสดงความเชื่อรากฐานที่องค์การได้ยึดถือเกี่ยวกับตลาดของมัน เหตุผลดำรงอยู่ของมัน และจุดเเข็งเฉพาะของมัน
ทฤษฎีธุรกิจของเขามุ่งเน้นว่ากลยุทธ์ของบริษัทต้องถูกดำเนินการผ่าน
ทางวัฒนธรรม เพราะว่าวัฒนธรรมองค์การจะเป็นรากฐานที่ทำให้กลยุทธ์
บรรลุความสำเร็จหรือล้มเหลวได้เนื่องจากวัฒนธรรมสร้างพฤติกรรมของบุคคลและการตัดสินใจ ดังนั้นวัฒนธรรมที่ไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์จะทำ
ลายมัน วัฒนธรรมหมายถึงความเชื่อ ค่านิยม และพฤติกรรมที่บุคคลของ
บริษัทร่วมกัน มันจะเป็นเหมือนกับบุคลิกภาพขององค์การมันจะมีอิทธิพล
ต่อบุคคลทุกคนกระทำ และตัดสินใจอย่างไร ปีเตอร์ ดรัคเกอร์ เคยกล่าวอย่างมีชื่อเสียงว่า “วัฒนธรรมกินกลยุทธ์เป็นอาหารเช้า” หมายความว่าวัฒนธรรมที่ไม่ดีสามารถจะทำลายกลยุทธ์ที่ดีได้
วัฒนธรรมองค์การกระทบต่อการดำเนินการกลยุทธ์ แม้ว่าเป็นกลยุทธ์ที่ดีจะล้มเหลวได้ ถ้าวัฒนธรรมของบริษัทไม่สนับสนุนมัน ตามปีเตอร์ ดรัคเกอร์ จิตวิญญานและวัฒนธรรมขององค์การมาจากผู้นำ คุณลักษณะและการกระทำของผู้นำถูกใช้เป็นโมเดลเพื่อบุคคล ดังนั้นผู้นำต้องเต็มใจ ที่จะเป็นตัวตนวัฒนธรรมที่พวกเขาต้องการสนับสนุน วัฒนธรรมและกลยุทธ์ไม่ได้แยกจากกันมันจะต้องสอดคล้องกันเพื่อความสำเร็จ เมื่อสมมุติฐานที่ได้ระบุทฤษฎีธุรกิจเปลี่ยนแปลง อะไรเกิดขึ้นเมี่อมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญภายในตลาด ลูกค้า หรือผลิตภัณฑ์ วัฒนธรรมต้องเปลี่ยนแปลงให้สอด
คล้องกับกลยุทธ์ใหม่ด้วย
ทฤษฎีธุรกิจของปีเตอร์ ดรัคเกอร์ ถูกสร้างบนสมมุติฐานที่บริษัทสร้าง
เกี่ยวกับสภาพแวดล้อม ภารกิจ และความสามารถแกนของมัน เมื่อสภาพ
เเวดล้อมภายนอกเปลี่ยนแปลง สมมุติฐานเหล่านี้จะกลายเป็นไม่ถูกต้อง
ต้องการการเปลี่ยนเเปลงภายในกลยุทธ์ของมัน เนื่องจากวัฒนธรรมถูก
ระบุโดยสมมุติฐานเหล่านี้สร้างพฤติกรรมและการตัดสินใจขององค์การ
วัฒนธรรมต้องถูกเปลี่ยนแปลงที่จะสะท้อนสมมุติฐานใหม่ของธุรกิจ ถ้า
เราไม่มีการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมแล้ว กลยุทธ์ใหม่จะล้มเหลว เพราะว่าพฤติกรรมที่ถูกปลูกฝังและบรรทัดฐานจะขัดเเย้งกับมัน
ทฤษฎีธุรกิจของ ปีเตอร์ ดรัคเกอร์ ได้พิจารณาความเเตกต่างระหว่างประสิทธิภาพ การทำอะไรอย่างถูกต้อง และประสิทธิผล การทำอะไรที่ถูกต้อง ผลงานของเขามุ่งเน้นว่าในขณะที่ประสิทธิภาพมุ่งประสิทธิภาพสูงสุดของการใช้ทรัพยากร ความสำเร็จอย่างแท้จริงของธุรกิจจะมาจากประสิทธิผลภายในการบรรลุเป้าหมายสำคัญที่สุด เขายืนยันว่า องค์การต้องมุ่งที่ประสิทธิผลก่อน การระบุ และการทำ “สิ่งที่ถูกต้อง” เมื่อสิ่งที่ถูกต้องได้ถูกระบุแล้วจุดมุ่งสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงไปที่ประสิทธิภาพ การทำมันอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลต้องมาก่อนการมุ่งที่ประสิทธิภาพโดยไม่พิจารณาสิ่งที่ถูกต้องก่อนสามารถนำไปสูความพยายามที่้เสียเปล่า
มันทำสิ่งที่ถูกต้องไม่ดีดีกว่าทำสิ่งที่ผิดได้ดี
ทฤษฎีธุรกิจของปีเตอร์ ดรัคเกอร์ ฝังรากอยู่ภายในความคิดว่าผู้บริหาร
ควรจะมุ่งทั้งบุคคลและการปฏิบัติงาน การมุ่งเน้นการกระจายอำนาจ และ
การมีส่่วนร่วมของบุคคลภายในการตัดสินใจ ทฤษฎีธุรกิจมองการบริหารโดยเป้าหมาย เอ็มบีโอ เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะบรรลุเป้าหมาย ต้นกำเนิด
เอ็มบีโออยู่ภายในหนังสือ 1954 ของเขา The Practice of Management ตรงที่เขาได้แนะนำวิถีทางผู้บังคับบัญชาและผู้อยู่ใต้บังคับบัญชากำหนดเป้าหมายร่วมกัน ร่วมกันระบุผลลัพธ์ที่คาดหวังไว้และใช้สิ่งเหล่านี้นำทางการปฏิบัติงานและความสำเร็จขององค์การ
ปีเตอร์ ดรัคเกอร์ มององค์การเป็นชุมชนการเน้นย้ำว่าความมุ่งหมายของ
ธุรกิจจะไปเลยพ้นจากกำไรที่จะรวมถึงความเป็นอยู่ที่ดีของบุคคลของมัน
เขาสนับสนุนการกระจายอำนาจ การให้อำนาจบุคคลโดยการมอบหมาย
งานและการตัดสินใจแก่พวกเขา เขาจะมุ่งเน้นความต้องการผลลัพธ์ที่วัดได้ และมาตรฐาน เพื่อการประเมินมันไม่ยอมรับการบริหารโดยความรู้สึกเขาเชื่อว่าธุรกิจควรจะมีส่วนช่วยอย่างเข้มแข็งภายในความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนของมัน ไม่ใช่เพียงแค่มุ่งที่การทำกำไรเท่านั้น

ทฤษฎีธุรกิจของปีเตอร์ ดรัคเกอร์ มีส่วนประกอบสามอย่าง : สมมุติฐานเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม สมมุติฐานเกี่ยวกับภารกิจ และสมมุติฐานเกี่ยวกับความสามารถแกน สมมุติฐานเหล่านี้จะสร้างรากฐานขององค์การเพื่อการกำหนดกลยุทธ์ของมัน เสาสามต้นเหล่านี้จะสร้างทฤษฎีธุรกิจที่เชื่ิอมโยงกันคล้ายมากกับรากฐานสนับสนุนอาคารถ้าเสาหนึ่งของเสาเหล่านี้อ่อนแอหรือสมมุติฐานไม่ถูกต้องแล้ว ธุรกิจตกอยู่ในอันตรายได้ เสาเหล่านี้แสดงความเชื่อรากฐาน ที่องค์การยึดถือเกี่ยวกับตลาดของมัน เหตุผลดำรงอยู่ของมัน และจุดเเข็งเฉพาะของมัน
ทฤษฎีธุรกิจของปีเตอร์ ดรัคเกอร์ ฝังรากอยู่ภายในความคิดว่าผู้บริหาร
ควรจะมุ่งทั้งบุคคลและการปฏิบัติงาน การมุ่งเน้นการกระจายอำนาจและ
การมีส่่วนร่วมของบุคคลภายในการตัดสินใจ ทฤษฎีธุรกิจมองการบริหารโดยเป้าหมาย – เอ็มบีโอ – จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่จะบรรลุเป้าหมาย ต้นกำเนิดของเอ็มบีโออยู่ภายในหนังสือ ค.ศ 1954 ของเขา The Practice of
Management ตรงที่เขาได้แนะนำวิถีทางต่อผู้บังคับบัญชาและผู้อยู่ใต้บัง
คับบัญชากำหนดเป้าหมายร่วมกัน

ส่วนประกอบแกนสามอย่างของทฤษฎีทางธุรกิจของปีเตอร์ ดรัคเกอร์คือ
* สภาพเเวดล้อม
เสานี้คือ สมมุติฐานเกี่ยวกับสังคม ตลาด ลูกค้า เเละเทคโนโลยีที่ล้อม
รอบธุรกิจ มันเกี่ยวกับความเข้าใจและสร้างสมมุติฐานเกี่ยวกับโลภายนอกอย่างเช่นสังคม ตลาด ลูกค้า และเทคโนโลยีที่ธุรกิจดำเนินงานอยู่ตัวอย่างเช่นบริษัทอาจจะสันนิษฐานว่าลูกค้าให้คุณค่าราคาเหนือสิ่งอื่นใด
*ภารกิจ
เสานี้คือ สมมุติฐานเกี่ยวกับอะไรที่องค์การมุ่งหมายที่จะบรรลุ ผลลัพธ์อะไรที่มันพยายามจะสร้าง มันเกี่ยวกับการระบุภารกิจเฉพาะขององค์การ มันเป็นอะไรที่องค์การพิจารณาเป็นการมีส่วนช่วยที่สำคัญของมัน ปีเตอร์ดรัคเกอร์ กล่าวอย่างมีชื่อเสียงว่าความมุ่งหมายของธุรกิจคือ สร้าง และรักษาลูกค้า
*ความสามารถแกน
เสานี้คือ สมมุติฐานเกี่ยวกับทักษะ ความรู้ และความสามารถที่บริษัท
เชื่อว่ามันต้องดีที่สุดเพื่อการบรรลุภารกิจรักษาหรือเจริญเติบโตตำแหน่งภายในตลาดของมัน บริษัทอาจจะสันนิษฐานว่าความสามารถแกนของมันคือความสามารถของมันที่สร้างนวัตกรรมภายในการออกแบบผลิตภัณฑ์
โตโยต้า มอร์เตอร์ เป็นตัวอย่างที่ดีมากของการประยุกต์ใช้ทฤษฎีธุรกิจของปีเตอร์ ดรัคเกอร์ เมื่อกลยุทธ์ของบริษัท ถูกสร้างบนสมมุติฐานอย่าง
ชัดเจนเกี่ยวกับสภาพเเวดล้อม ภารกิจ และความสามารถแกนของบริษัท
สมมุติฐานทางสภาพแวดล้อมของมันคือ ตลาดโลกเพื่อรถยนต์ที่ไว้วางใจได้ และสามารถรับภาระได้ สมมุติฐานทางภารกิจชองมันคือสร้างรถยนต์ที่ดียิ่งขึ้นทำให้บุคคลมีชีวิตอยู่อย่างสะอาด ปลอดภัย เครียดน้อยลง และมีชีวิตที่เชื่อมโยงมากขึ้น และสมมุติฐานทางความสามารถแกนของมัน คืิอ ระบบการผลิตโตโยต้า – ทีพีเอส มันจะรวมถึงการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง – ไคเซน – และการผลิตทันเวลา – เจไอที –
*สภาพแวดล้อม
เสานี้มุ่งที่ความสามารถ ทักษะ และทรัพยากรต้องการที่จะบรรลุภารกิจ
โตโยต้าจะดำเนินงานบนสมมุติฐานว่าส่วนที่สำคัญของสภาพแวดล้อมภาย
นอกคือ ลูกค้าให้คุณค่ารถยนต์คุณภาพสูง ประสิทธิภาพ ไว้วางใจได้ และ
สามารถรับภาระได้ต่อมวลชนไม่่ใช่เพียงแค่ตลาดหรูหราบริษัทตรวจสอบและปรับตัวอย่างต่อเนื่องต่อความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลง แสดงโดยการพัฒนาที่บรรลุความสำเร็จของรถยนต์ไฮบริด โตโยต้าสันนิษฐานว่าลูกค้าและสังคมคาดหวังรถยนต์ที่ปลอดภัยและประหยัดน้ำมัน และเทค
โนโลยีนั้นควรจะถูกใช้ปรับปรุงการผลิตและคุณภาพ โตโยต้าสันนิษฐาน
ว่าตลาดรถยนต์ได่กลายเป็นโลกและเเข่งขันมากขึ้น ต้องการการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง ที่จะรัษาข้อได้ปรียบ พวกเขารับรู้การแข่งขันจากผู้ผลิตรถยนต์อื่นที่สำคัญ การคุกคามที่เจริญเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า
*ภารกิจ
ภารกิจของโตโยต้าคือ การผลิตรถยนต์เพื่อมวลชน การนำเสนอเพื่อคุณ
ภาพสูงสุด และไว้วางใจได้ ณ ต้นทุนต่ำที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ภารกิจนี้ได้
สรุปอย่างมีชื่อเสียงโดย ” วิถีทางโตโยต้า” บริษัทมุ่งหมายที่จะบรรลุความ
เป็นผู้นำตลาด การทำกำไร และพลเมืองบริษัทที่รับผิดชอบ ที่เลยพ้นจาก
ความคาดหวังของลูกค้าในเเง่ของคุณภาพผลิตภัณฑ์ การประหยัดน้ำมัน และการบริการ ภารกิจของพวกเขามุ่งเน้นการสร้างคุณค่าการนำความสุขด้วยการทำให้การเคลื่อนที่ดีขึ้นต่อบุคคลทุกคน เมื่อ ค.ศ 2020 อคิโอะ โตโยดะ ได้ประกาศภารกิจของบริษัทระบุอย่างเป็นทางการว่าสร้างความสุขต่อทุกคน” ภารกิจนี้ ถูกสนับสนุนโดยปรัชญาที่ถูกยึดถือมาอย่างยาวนาน
ของบริษัทของการเคารพ และความผูกพันการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และ
และ “การเคลื่อนที่ต่อทุกคน” ทั้งผ่านทางผลิตภัณฑ์และการเป็นพลเมืองบริษัทของพวกเขา
ภารกิจของโตโยต้าจะถูกย้อนหลังไปสู่ความต้องการของผู้ก่อตั้ง ซาคิซิ
โตโยดะ ที่จะปรับปรุงชีวิตของคนงาน ความรู้สึกที่ถูกตกทอดโดยคิอิชีโร
โตโยดะ เมื่อสร้างบริษัทรถยนต์ ปรัญชานี้ ขยายเลยพ้นการผลิตรถยนต์ไปที่จะรวมถึงการสร้างสังคมที่มีสุขภาพดี และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภารกิจของซาคิชิ และคิอิชิโร โตโยดะคือการมีส่วนช่วยสังคมผ่านทางการคิดค้นและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องด้วยความมุ่งหมายแกนวิวัฒนาการไปสู่การสร้างความสุขต่อทุกคน ซาคิชิ โตโยดะ ผู้ก่อตั้งของ
ธุรกิจเริ่มแรก มุ่งที่การคิดค้นอย่างเช่นเครื่องทอผ้าอัตโนมัติ นำทางโดย
ความต้องการเพื่อความมีประโยชน์และนวัตกรรม ลูกชายของเขา คิอิชิโร
โตโยตะ ได้ขยายตัวไปสู่การผลิตรถยนต์ ด้วยภารกิจ ที่จะสร้างอนาคตที่ดีขึ้นผ่านทางการเคลื่อนที่

*ความสามารถแกน
ความสามารถแกนของโตโยต้าคือระบบการผลิตโตโยต้า – ทีพีเอส – ถูก
สร้างบนหลักการ อย่างเช่น การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง การผลิตทันเวลา
การผลิตแบบลีน และการให้อำนาจบุคคล มันทำให้โตโยต้าสามารถกลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพสูงสุดภายในโลก และส่วนประกอบที่สำคัญของระบบการผลิตโตโยต้าคือ
*การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง – ไคเซน – ไคเซนหมายถึง การเปลี่ยนแปลงให้ดีชึ้น และมุ่งเน้นว่าไม่มีกระบวนการใดเลยสมบูรณ์ กระตุ้นการปรับปรุงทีละน้อยประจำวัน แสวงหาอย่างต่อเนื่องปรับปรุงกระบวนการทุกอย่างให้ดีขึ้น การกระตุ้นบุคคลทุกคนตั้งแต่คนงานบนพื้นโรงงานไปถึงผู้บริหารระดับสูงระบุและแก้ปัญหาเป้าหมายของไคเซนคือการลดหรือกำจัดความสูญเสียทุกรูปแบบ ตั้งแต่การผลิตมากเกินไปไปถึงสินค้าคงเหลือมากเกินไป ด้วยการปรับปรุงกระบวนการอย่างต่อเนื่อง โตโยต้ามั่นใจว่าไคเซนจะ
ทำให้คุณภาพสูงขึ้น ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และประหยัดเวลาและต้นทุน
*การผลิตทันเวลา – เจไอที – การผลิตชิ้นส่วนและรถยนต์ต่อเมื่อมันถูกต้องการเท่านั้น ที่ลดต้นทุนสินค้าคงเหลือ และลดการสูญเสียให้ต่ำที่สุด ระบบคัมบังเป็นเครื่องมือที่สำคัญภายในเจไอทีใช้เป็นสัญญานที่มองเห็นกระตุ้นกผลิตและการเติมเต็ม การไหลเวียนอย่างสม่ำเสมอของชิ้นส่วนและสินค้าคงเหลือน้อยที่สุด เจไอที ทำให้โตโยต้าปรับตัวการผลิตอย่างรวดเร็วต่อการเปลี่ยนแปลงภายในความต้องการของลูกค้า เมื่อพวกเขา
ไม่ถูกยึด ด้วยจำนวนมากของชิ้นส่วนที่ทำล่วงหน้า โดยการไม่สต็อคชิ้นส่วนจำนวนมากโตโยต้าสามารถจะประหยัดต้นทุนการคลังสินค้าและลดความเสี่ยงภัยของความสูญเสียจากความล้าสมัยหรือสินค้าคงเหลือมากเกินไป
*การกำจัดความสูญเสีย – มูดะ – การมุ่งที่การระบุและการกำจัดกิจกรรมที่ไม่ได้เพิ่มคุณค่าภายในกระบวนการผลิตเพื่อที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพ คุณภาพ และความรวดเร็ว เป้าหมายสูงสุดของการกำจัดความสูญเสียคือ ให้คุณค่าสูงสุดต่อลูกค้าผ่านทางกระบวนการที่คล่องตัว คุณภาพสูง และการจัดส่งที่รวดเร็ว ด้วยการระบุเเละการกำจัดอย่างมีระบบกิจกรรม ที่ไม่เพิ่มคุณค่าโตโยต้าสามารถบรรลุการปรับปรุงอย่างสำคัญภายในคุณภาพ และประสิทธิภาพ ความสูญเสียเจ็ดประเภทที่ได้ถูกระบุคือ การผลิตมาก
เกินไป การรอคอย การขนส่งไม่จำเป็น กระบวนการมากเกินไป สินค้าคง
เหลือมากเกินไป การเคลื่อนไหวไม่จำเป็น และข้อบกพร่อง
*อัตโนมัติ – จิโดกะ – จิโดกะเป็นหลักการผลิตแบบลีน ที่ได้รู้จักกันเป็น
ระบบอัตโนมัติด้วย หมายความว่าอัตโนมัติด้วยสัมผัสมนุษย์ มันเกี่ยวพันกับเครื่องจักรและผู้คุมเครื่อง ตรวจพบความผิดปรกติ และหยุดสายการผลิตทันทีที่จะแก้ปัญหา ณ ต้นตอ ป้องกันข้อบกพร่องจากเคลื่อนไปข้างหน้า ประหยัดเวลาและทรัพยากร หรือทำงานใหม่ การสร้างความฉลาดภายในเครื่องจักรหยุดมันโดยอัตโนมัติเมื่อข้อบกพร่องเกิดขึ้นการป้องกันความสูญเสียของผลิตภัณฑ์ที่บกพรอง สร้างคุณภาพภายในกระบวนการด้วยการออกแบบเครื่องจักรและให้อำนาจคนงานหยุดสายการผลิตทันที ถ้าปัญหาของข้อข้อบกพร่องได้ถูกตรวจพบ
*การเคารพบุคคล การรับรู้ว่าคนงานแนวหน้ามีความรู้มากที่สุดเกี่ยวกับงานของพวกเขา และให้อำนาจพวกเขาระบุปัญหาและดำเนินการปรับปรุง
โตโยต้าได้สันนิษฐานว่าความสามารถของบริษัทที่จะสร้างนวัตกรรมอย่าง
เช่นภายในด้าน อย่างเช่นเทคโนโลยีรถยนต์ไฮบริดและไฟฟ้า สำคัญเพื่อการรักษาข้อได้เปรียบทางการแข่งขันภายในอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลง
โครงสร้างของบริษัท ขึ้นอยู่กับสมมุติฐานว่าการให้อำนาจบุคคล และการส่งเสริมวัฒนธรรมของการแก้ปัญหาสำคัญต่อความสำเร็จของทีพีเอสและคุณภาพโดยส่วนรวม การเคารพบุคคลของโตโยต้าเป็นรากฐานที่สำคัญ
ของทีพีเอส การสร้างความไว้วางใจร่วมกันผ่านการทำงานเป็นทีม การให้
อำนาจบุคคล และการลงทุนพัฒนาบุคคล
ทฤษฎีธุรกิจของปีเตอร์ ดรัคเกอร์ มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของ
โตโยต้าจากโครงสร้าง “บังคับบัญชาและควบคุม” สมัยเดิมของมันไปสู่
ระบบการกระจายอำนาจและความร่วมมือร่วมใจที่ได้ถูกพัฒนาต่อไปสู่
ระบบการผลิตโตโยต้า ปีเตอร์ ดรัคเกอร์ ได้ยืนยันว่าความอยู่รอดของ
ธุรกิจขึ้นอยู่กับทฤษฎีธุรกิจของมัน – สมมุติฐานเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม
ภารกิจ และความสามารถแกนของมัน – ถูกประเมินใหม่อย่างสม่ำเสมอ
และปรับตัว เมื่อสมมุติฐานกลายเป็นล้าสมัย ธุรกิจตกอยู่ในอันตรายได้
การเปลี่ยนแปลงไปสู่ความยั่งยืนและเทคโนโลยีใหม่ของโตโยต้าแสดงความผูกพันต่่อการประเมินใหม่อย่างสม่่ำเสมอและปรับปรุงทฤษฎีธุรกิจของมันที่จะยังคงมีข้อได้เปรียบทางการเเข่งขัน

ทฤษฎีธุรกิจของปีเตอร์ ดรัคเกอร์ เป็นแนวคิดที่ถูกระบุครั้งแรกภายใน
บทความฮาร์วาร์ด บิสซิเนส รีวิว 1974 ที่ได้ถูกสังเคราะห์จากหลายปีของการสังเกตุ และการให้คำปรึกษาของเขากับบริษัทที่สำคัญ อย่างเช่น เจ็น
เนอรัล มอเตอร์ การมุ่งเน้นสมมุติฐานที่บริษัทสร้างเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม ภารกิจ และความสามารถแกนของมัน สมมุตุฐานของมันจะเป็นหัวใจธุรกิจทุกอย่างจะดำเนินงานบนทฤษฎีธุรกิจ ทฤษฎีธุรกิจของบริษัทจะกลายเป็นล้าสมัยถ้าไม่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง ปีเตอร์ ดรัคเกอร์สังเกตุว่าธุรกิจหลายอย่างล้มเหลว เกิดขึ้นจากความไม่สอดคล้องระหว่าง
สมมุติฐานที่ล้าสมัยของบริษัท และความเป็นจริงของตลาดใหม่
ทฤษฎีธุรกิจจะรวมศูนย์อยู่ที่ความคิดว่าธุรกิจทุกอย่างจะดำเนินงานบน “ทฤษฎีของธุรกิจ” ที่ถูกสร้างบนสามเสาของสมมุติฐานเกี่ยวกับสภาพแวด
ล้อม ภารกิจ และความสามารถของมัน ธุรกิจจะเจริญเติบโตเมื่อสมมุติฐานเหล่านี้สอดคล้องกับความเป็นจริงสมมุติฐานเหล่านี้จะสร้างพฤติกรรมและการตัดสินใจของบริษัืท เพื่อธุรกิจที่จะบรรลุความสำเร็จสมมุติฐานเหล่านี้ต้องถูกต้องและสอดคล้องกับความเป็นจริง แต่ถ้ามันได้กลายเป็นล้าสมัยธุรกิจอยู่ในอันตรายที่มันจะล้มเหลวได้ โดยไม่มองถึงมันบรรลุความสำเร็จภายในอดีตอย่างไร
กลยุทธ์ถูกสร้างบนสมมุติฐาน ทฤษฎีธุรกิจที่ชัดเจนและสม่ำเสมออยู่บน
พื้นฐานของสมมุติฐานเหล่านี้ให้รากฐาน เพื่อการตัดสินใจทางกลยุทธ์ทุกอย่าง ทฤษฎีต้องการกลยุทธ์ที่ชัดเจนและสม่ำเสมอ ที่พิจารณาความเป็น
จริงของตลาด ความมุ่งหมายที่เฉพาะขององค์การ และความสามารถแกน
ของมันที่จะบรรลุความมุ่งหมายนั้นบริษัทที่ได้บรรลุความสำเร็จก่อนหน้านี้สามารถจะล้มเหลวได้ ถ้าสมมุติฐานของมันไม่ถูกต้องต่อไปอีกเเล้ว
ทฤษฎีธุรกิจได้เสนอแนะว่าความเข้าใจสมมุติฐานเหล่านี้อย่างชัดเจนและ
สม่ำเสมอ จำเป็นต่อความสำเร็จขององค์การ องค์การต้องตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ และปรับตัวสมมุติฐานเหล่านี้ที่จะมั่นใจว่ามันยังคงสอดคล้องกับความเป็นจริงที่จะหลีกเลี่ยงการอยู่นิ่งและความล้มเหลว เมื่อบริษัทที่บรรลุความสำเร็จมาก่อนสามารถสะดุดลงได้ เมื่อสมมุติฐานของมันได้กลายเป็น

ล้าสมัย ทฤษฎีธุรกิจ ได้ให้โครงสร้าง เพื่อการระบุธุรกิจ กลยุทธ์ และการ
กระทำประประจำวัน เพื่อการบรรลุผลลัพธ์ที่มีความหมาย
การยกเลิกอย่างมีความหมายจะเป็นหลักการที่สำคัญของทฤษฎีธุรกิจ
แนวคิดการยกเลิกอย่างมุ่งหมายของปีเตอร์ ดรัคเกอร์จะเป็นการตัดสินใจ
ทางกลยุทธ์ ที่จะหยุดทำสิ่งที่ไม่มีประสิทธิภาพต่อไปเเล้ว เช่น ผลิตภัณฑ์
บริการ หรือกระบวนการ มันเป็นส่วนที่สำคัญของนวัตกรรม เพราะว่ามันจะ
ปลดปล่อยทรัพยากรและพลังงานที่สามารถจะเปลี่ยนเส้นทางไปสู่โอกาสใหม่ที่มีอนาคตได้ เป้าหมายคือ ให้อาหารโอกาสและอดอาหารปัญหาด้วย การสลัดอะไรที่ล้าสมัย หรือไม่คุ้มค่า ระเบียบวินัยนี้จะเป็นส่วนประกอบที่
สำคัญของการวางแผนกลยุทธ์ เมื่อมันต้องการให้องค์การสงสัยอยู่ประจำ
และละทิ้งอะไรที่ไม่เพิ่มคุณค่าต่อไปเเล้ว
ปีเตอร์ ดรัคเกอร์ ได้มองว่าการยกเลิกอย่างมุ่งหมายไม่ใช่เหตุการณ์ตามโอกาส แต่เป็นการกระทำต่อเนื่องและวางแผนการกำจัดของเมื่อวานเกี่ยวพันกับความพยายามหยุดการลงทุนสิ่งที่มีชีวิตเกินกว่าความเป็นประโยชน์
ของมันและจัดสรรใหม่ทรัพยากรเหล่านี้ไปสู่การสร้างวันพรุ่งนี้การยกเลิก
เก่าเป็นข้อกำหนดเพื่อนวัตกรรมที่บรรลุความสำเร็จ เมื่อมันได้กระตุ้นการ
ค้นหาข้อแก้ปัญหาใหม่ และป้องกันองค์การจากการถูกระบุโดยอดีตของมัน ตัวอย่างเช่น บริษัทอาจจะหยุดการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ครั้งหนึ่งเคย
เป็น “วัวเงิน” ถ้ามันในขณะนี้ได้ดูดทรัพยากร และขัดขวางบริษัทจากการ
มุ่งนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่
การยกเลิกอย่างมุ่งหมายจะเป็นกระบวนการอย่างมีระบบของการกำจัดผลิตภัณฑ์ที่ล้าสมัย ที่จะปลดปล่อยทรัพยากร เพื่อโอกาสที่เจริญเติบโต
มันไม่ได้เกี่ยวกับตรงไหนที่จะเจริญเติบโตแต่เป็นขั้นตอนที่จำเป็นคือการ
ตัดสินใจอะไรที่จะยกเลิก สร้างพื้นที่เพื่อธุรกิจใหม่ ครั้งหนึ่งปีเตอร์ ดรัค
เกอร์ ได้ถามแจ็ค เวลซ์ ซีอีโอของเจ็นเนอรัล อีเล็คทริค ด้วยสองคำถาม
ที่สำคัญ “ถ้าคุณไม่ได้อยู่ภายในธุรกิจนี้อยู่แล้วคุณจะเข้าไปสู่มันวันนี้หรือไม่” และถ้าตอบคือไม่ คุณจะทำอย่างไรกับมัน นำไปสู่กลยุทธ์ทฤษฎีการยกเลิกที่มีชื่อเสียงของแจ็ค เวลซ์
ทฤษฎีการยกเลิกของแจ็ค เวลซ์ ถูกรู้จักกันอย่างดีเป็นกลยุทธ์ของเขา
เกี่ยวพันกับการขายหรือการปิดธุรกิจจีอีใดก็ตามที่ไม่ได้เป็นผู้นำตลาด – หมายเลข 1 หรือหมายเลข 2 กลยุทธ์นี้กำเนิดภายใน ค.ศ 1981 เมื่อเเจ็ค เวลซ์ได้กลายเป็นซีอีโอของจีอี และได้ถูกดำเนินการด้วยการขายธุรกิจที่ไม่มีประสิทธิภาพมากกว่า 200 อย่าง
คำถามของปีเตอร์ ดรัคเกอร์ได้กดดันให้เเจ็ค เวลซ์ประเมินใหม่ธุรกิจจีอี
ทุกอย่างด้วยมุมองที่สดใสไม่ลำเอียง ไม่มองว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทนานแค่ไหนบนพื้นฐานการแนะนำของปีเตอร์ดรัคเกอร์ แจ็ค เวลซ์ตัดสินใจว่าธุรกิจใดก็ตามที่ไม่สามารถเป็นหมายเลขหนึ่งหรือสองภายในตลาดของมันจะถูกแก้ไข ขาย หรือปืิด กลยุทธ์ที่เขาได้รับชื่อเล่นว่า “นิวตรอน แจ็ค” ด้วยการกำจัดบุคคลจำนวนมากในขณะที่รักกษาอาคารไว้
วิถีทางของเขาได้ถูกรู้จักกันเป็นทฤษฎีการยกเลิก ตามที่มันต้องการให้บริษัทปล่อยไปการลงทุนที่ผ่านมาที่ไม่สมเหตุผลต่อไปอีกแล้วทฤษฎีการยกเลิกของแจ็ค เวลซ์ กำเนิดจากคำถามสองข้อของปีเตอร์ ดรัคเกอร์ที่ได้
แสดงเกี่ยวกับการมีชีวิตอยู่ของธุรกิจที่เเจ็ค เวลซ์ ได้รับรู้และประยุกต์ใช้กับกลุ่มธุรกิจทั้งหมดของจีอี
Cr : รศ สมยศ นาวีการ

