INEWHORIZON

ขอบฟ้าใหม่

ซีเรีย​-ปาเลสไตน์​ : จากแผ่นดินโบราณสู่สัญญาณ​แห่งวันสิ้นโลก​ (11)

ซีเรีย​-ปาเลสไตน์​ : จากแผ่นดินโบราณสู่สัญญาณ​แห่งวันสิ้นโลก​ (11)

โดย​ อดุลย์​ มานะจิตต์

เมื่อช่วงยุคสุดท้ายแห่งชีวิตของเขามาถึง เขาจะปรากฏตน และแจ้งข่าวดีกับพวกเขาว่า ดาวูดจะมาปรากฏในไม่ช้านี้ โดยจะมา ปลดปล่อยพวกเขาให้พ้นจากความชั่วร้ายของบรรดาผู้กดขี่ มาทำให้ แผ่นดินปลอดพ้นจากความโกลาหลวุ่นวายของยาลูตและผู้คนใน กองทัพของเขา อิมามที่เป็นชีอะฮ์ของเขารู้แล้วว่า ดาวูดถือกำเนิด ขึ้นแล้วและโตเป็นหนุ่มแล้วเช่นกัน พวกเขาต่างเห็นเขา (ดาวูด)แล้ว แต่พวกเขา(พี่ๆของดาวูด)ไม่ทราบว่าเขาคือดาวูด ถึงแม้จะได้พูดคุยกับ เขาแล้วก็ตาม

 

เมื่อเขาเข้าสู่สมรภูมิพร้อมกับกองทัพของฝ่ายอิสราเอล เขาจึงมารู้ว่ายาลูตนั้นเป็นศัตรูที่จะเอาชนะได้อย่างยากลำบากมาก สำหรับกองทัพของเขา (ของพวกอิสราเอล) ดังนั้นเขาจึงกล่าวขึ้นว่า “พวกท่านไปเห็นเขา (ยาลูต)ว่าใหญ่โตเช่นนั้นได้อย่างไร ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ หากเมื่อฉันได้เห็นเขา ฉันจะสังหารเขาเสียในทันที” คำพูด ของเขาไปถึงหูของกองทัพนั้น และยาลูตก็ได้ยินมันด้วยเช่นกัน เขาจึงเรียก ดาวูด เข้ามาและบอกกับเขาว่า “นี่แหนะเจ้าหนุ่มน้อย เจ้ามีพลกำลังมากสักเพียงใด และเจ้ามีประสบการณ์ในการทำสงคราม มากสักเท่าใดกัน ที่เจ้าจะมาต่อกรกับยาลูต” ดาวูดจึงกล่าวตอบไปว่า “มีครั้งหนึ่งที่เสือได้เข้ามาคาบเอาลูกแกะของฉันไปตัวหนึ่งจากฝูง ของมัน และมันกำลังเดินออกไป พร้อมกับแกะตัวนั้นของฉัน ฉันจึง ตามเสือตัวนั้นไป และจึงเข้าไปบิดคอของมันและปล่อยแกะของฉัน ออกจากปากของมัน”

 

ภายหลังจากที่ดาวูดสังหารยาลูตแล้ว ผู้คนจึงแต่งตั้งเขา(ดาวูด)​ให้เป็นกษัตริย์​ของพวกเขาและจึงไม่มีผู้ใดเคารพเชื่อฟังฏอลูต อีกต่อไป อัลลอฮ์ทรงประทานคัมภีร์ซาบูรให้กับดาวูด สอนเขาให้ รู้จักการทำเสื้อเกราะ และทำให้เหล็กมีความอ่อนนุ่มราวกับเทียนไข อยู่ในมือของเขา และอัลลอฮ์ทรงมีพระบัญชาให้บรรดานกและภูเขาทำ การขับร้องสรรเสริญอัลลอฮ์ไปพร้อมกับ ดาวูด อัลลอฮ์ทรงประทานให้

 

ดาวูด มีเสียงอันไพเราะเสนาะยิ่ง ซึ่งไม่มีผู้ใดก่อนหน้าเขาจะเคยได้ยิน พระองค์ทรงทำให้ดาวูดมีความเพรียบพร้อมในการละหมาดเช่นกัน เขามีชีวิตอยู่ร่วมกับชาวอิสราเอลในฐานะที่เป็นทั้งศาสนทูต และ เป็นผู้ปกครองแห่งขอบเขตขันทสีมาในวาระเดียวกัน

 

มึกล่าวไว้ในวจนะที่น่าเชื่อถือได้อีกวจนะหนึ่งถึงความ อัปมงคลของวันพุธสุดท้ายของเดือน ดังที่ว่า มันเป็นวันนี้ที่ชุมชน ของพวก อมาลิเกาะฮ์ ได้นำเอาหีบใบนี้ไปจากชาวอิสราเอล

 

มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันถึงชื่อของศาสดาในยุคนั้น บางคนกล่าวว่าเขาคือซัมอูน บินซอฟียะห์ ผู้ซึ่งสืบสายตระกูลมาจาก บุตรหลานของเลวี บางคนกล่าวว่า เขาคือ ยูชูอะฮ์ และคนส่วนใหญ่ กล่าวกันว่า เขาคือ อิชมูอิล (ชื่อภาษาอาหรับคือ อิสมาอีล) อิมาม อะลี อิบรอฮีม มุฮัมมัด อัลบากิร กล่าวไว้ว่า เขาคือ อิสมาอีล กล่าวว่า หากว่ากันตามการเล่าขาน อีกกระแสหนึ่ง เขาคือ อัรซียา

 

ควรเป็นที่รำลึกไว้ด้วยว่า นักอรรถาธิบายอัลกุรอานส่วนใหญ่ และบรรดานักประวัติศาสตร์ที่ไม่ใช่ชีอะฮ์ พิจารณาเห็นว่า ฏอลูต เป็นผู้กระทำผิด และเป็นผู้ปฏิเสธ (กุฟร์) และพวกเขากล่าวว่า “ภายหลัง จากที่ยาลูตถูกสังหารแล้ว เขากลับกลายเป็นศัตรูของดาวูด และมี ความตั้งใจจะสังหารเขา พวกเขาเป็นผู้เริ่มต้นใส่ความคิดต่างๆที่ไม่ เหมาะสมดังกล่าวอย่างมากมายให้กับฏอลูต แต่ฝ่ายชีอะฮ์ไม่ได้กล่าว ถึงเรื่องอันแปลกประหลาดดังกล่าวนั้น แต่ที่ความหมายของโองการ ต่างๆที่ปรากฏชัด และการเล่าขานส่วนใหญ่นั้นแสดงให้เห็นว่า เขา อยู่กับฝ่ายสัจธรรม และมีเรื่องเล่าขานที่ไม่สู้จะเป็นที่มีชื่อเสียงมากนัก บางรายงานถึงกับกล่าวไว้ว่า อมีรุ้ลมุอ์มีนีน กล่าวว่า “ฉันเป็นดังฏอลูต ของประชาคมนี้ เมื่อฏอลูตออกไปสู้รบกับยาลูต เขาได้บอกกับ ทหารในกองทัพของเขาว่า “อัลลอฮ์จะทรงทดสอบพวกเขาด้วยกับ ลำน้ำสายหนึ่ง ผู้ใดที่เขาดื่มจากมัน มิใช่พวกของฉัน ส่วนผู้ใดที่ ไม่ดื่ม เป็นพวกฉัน หรือก็ไม่เป็นที่กล่าวโทษอันใดสำหรับผู้ที่จะดื่มเพียงวักมือหนึ่ง” ดังที่ได้กล่าวถึงแล้วนั้น

 

ควรเป็นที่ระลึกไว้ด้วยว่า โองการเหล่านี้เป็นข้อพิสูจน์ที่แสดง ให้เห็นว่า อมีรุ้ลมุอมีนีน อะลี มีสิทธิในความเป็นอิมามและคงดีท มากกว่าบรรดาผู้ที่พวกเขายึดอำนาจเอาตำแหน่งคคอลีฟะฮ์ของท ทั้งนี้เพราะโองการเหล่านี้เป็นข้อพิสูจน์อย่างชัดแจ้งถึงข้อเท็จจริงที่ว่า ความสูงส่งในด้านความกล้าหาญ และความรู้ ถือเป็นเรื่องสำคัญของ การเป็นกษัตริย์ และการเป็นรัฐบุรุษของอาณาจักรของอัลลอฮ์ และเป็นที่เห็นพ้องต้องกันอย่างเอกฉันท์ว่า อะลีเป็นผู้ที่มีความกล้า หาญชาญชัยและมีความรู้มากกว่าบรรดาสาวกคนอื่นๆทั้งหมด ไม่มี ความเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องนี้ และฉะนั้นเขาจึงเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ มากกว่าในตำแหน่งคอลีฟะฮ์ และอิมามะฮ์ เมื่อเปรียบเทียบกับบรรดา ผู้ที่พวกเขาวิ่งหนีออกจากสนามรบของการญิฮาดและแสดงความ อ่อนด้อยของพวกเขาในเรื่องต่างๆ และต้องอาศัยอะลีเพื่อคำชี้แจง อธิบาย

 

3.2) คุณธรรมความดี ความสมบูรณ์​ และความมหัศจรรย์ของดาวูด

 

ดังได้กล่าวไว้ตอนต้นแล้วว่า ดาวูดเป็นศาสนทูตของอัลลอฮ์ และท่านถือกำเนิดมาในสภาพทำสุนัตแล้ว และท่านเป็นหนึ่งในสี่ของ บรรดาศาสนทูตของอัลลอฮ์ ที่พระองค์ทรงเลือกสรรให้สู้รบด้วยดาบ (ญิฮาด) ด้วยเหตุนี้จึงถือเป็นการอธิบายให้เห็นว่า ทำไมเขาจึงมีชื่อว่า ดาวูด ทั้งนี้เพราะเขารักษาบาดแผลของหัวใจ(ซึ่งเกิดมาจากการ ศักร อัดเอาลา หรือเลิกราในสิ่งที่ชอบมากกว่า) โดยอาศัยความรักที่มีต่ออัลลอฮ์ มีการเล่าขานไว้อย่างจริงแท้จากอิมาม บากิรว่า อัลลอมิได้ทรงส่งผู้ใด ภายหลังจากนบีนุฮฺให้เป็นศาสนทูตและเป็นกษัตริย์ใน คราวเดียวกัน นอกจากซุลกอรนัย ตาวูด สุลัยมาน และยูซุฟ

 

ราชอาณาจักรของ ดาวูด เริ่มจาก ซีเรีย จรด อิสตะคารในอิหร่าน

 

มีกล่าวไว้ในวจนะหนึ่งที่เชื่อถือได้จากอิมามยะอ์ฟัร อัศศอดิก ว่า ดาวูดเสียชีวิตในวันอาทิตย์ นกในฟ้าต่างให้ร่มเงากับเขาด้วย การกางปีกออก อัลลอฮ์ตรัสว่า

 

และเราได้ให้วิทยปัญญาและความรู้ และเราทำให้ภูเขาและ นก แซ่ปร้องสรรเสริญเราร่วมไปกับดาวูด และเราเป็นผู้ทำ

 

มันเอง (21:79)

 

และเราเป็นผู้สอนเขาให้ทำเสื้อเกราะเพื่อเจ้า เพื่อว่ามันจะ ได้ปกป้องเจ้าในสงครามต่างๆของเจ้า เจ้าจะไม่กตัญญูดอก

 

หรือ (21:78)

 

จึงเป็นการแสดงให้เห็นว่า ดาวูดเป็นผู้ประดิษฐ์เสื้อเกราะที่มี น้ำหนักเบาเป็นบุคคลแรก อัลลอฮ์ตรัสว่า

 

และแน่แท้เราได้ให้ดาวูด ในความเยี่ยมยอดไปจากเรา โอ้ภูเขา จงแซ่ซร้องสรรเสริญร่วมไปกับเขา และนกก็เช่นกัน

 

(34:10)

 

บางคนกล่าวว่า อัลลอฮ์ทรงทำให้พวกมันทั้งหมด อยู่ใต้ อำนาจการควบคุมของดาวูด และในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าเขาจะ ปรารถนาสิ่งใดจากภูเขาก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ยกตัวอย่างเช่นการออกมา ปรากฏของแร่จากเหมืองต่างๆหรือการขุดบ่อน้ำ และอื่นๆอีก ใน ทำนองเดียวกัน สิ่งใดก็ตามที่เขาสั่งให้นกกระทำ พวกมันก็จะกระทำ ไปตามคำบัญชานั้นเช่นกัน

 

และเราได้ทำให้เหล็กอ่อนนุ่มสำหรับเขาด้วยการกล่าวว่า จง ทำให้พอเพียง(เสื้อเกราะ)และจงกำหนดเวลาให้กับการทำ เสื้อเกราะ และจงปฏิบัติการดี แน่แท้ฉันเห็นในสิ่งที่เจ้ากระทำ

 

(34: 10-11)

 

และพระองค์ตรัสไว้ในอีกที่หนึ่งว่า “และโดยแน่นอนยิ่ง

 

เราได้มอบความรู้ให้กับดาวูด และสุลัยมาน และทั้งสอง กล่าวว่า มวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮ์ ผู้ทรงทำให้เรา ล้ำหน้าบรรดาข้าทาสที่ศรัทธาของพระองค์อีกหลายคน

 

(27:15)

 

ดาวูด และ สุลัยมาน ซึ่งไม่เคยมอบให้กับศาสดาองค์ใดมาก่อน เขา อะลี อิบนิ อิบรอฮีม เล่าว่า อัลลอฮ์ทรงมอบความอัศจรรย์ให้ ถูกสอนให้รู้จักภาษาของนก และพระองค์ทรงทำเหล็กและดีบุกผสม ให้อ่อนนุ่มสำหรับเขา (โดยไม่ต้องใช้ความร้อนของไฟ) และภูเขา แซซรองสรรเสริญอัลลอฮ์ร่วมไปกับเขา และทรงมอบคัมภีร์ซะบูรซึ่ง บรรจุไว้ด้วยเรื่องเอกภาพของอัลลอฮ์และการสรรเสริญและการมอบ หมายต่อพระองค์ ในคัมภีร์นี้มีการแจ้งข่าวถึงเรื่องราวของมุฮัมมัด ศาสนทูตของอัลลอฮ์พร้อม(ศ.)ด้วยกับอะลี อมีรุ้ลมุอฺมีนีน(อ) และ บรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์และเหตุการณ์ต่างๆของการรอจอะฮ์(การกลับ คืนมา) และผู้ซื่อสัตย์และการปรากฏกายของอิมาม อัลมะฮ์ดี ดังที่ อัลลอฮ์ ตรัสไว้ในอัลกุรอานความว่า “โดยแน่นอนยิ่ง เราได้บันทึก ไว้ในคัมภีร หลังจากผู้เตือนสำทับคนนั้น ดังว่า (สำหรับ)แผ่นดินนั้น ข้าทาสผู้ทรงคุณธรรมของข้าจะเป็นผู้รับมรดกสืบทอดมัน” (21: 105)

 

ตามการรายงานที่เป็นเรื่องจริงแท้ว่า อิมาม อัศ ศอติก กล่าวว่า เมื่อใดก็ตามที่ท่านอิมามเผชิญกับการงานที่ยากลำบากใดๆ ท่านมักจะ ทำมันในวันอังคาร นั่นคือเป็นวันที่อัลลอฮ์ทรงทำให้เหล็กอ่อนนุ่ม สำหรับดาวูด มีกล่าวไว้ในฮะดีษอีกบทหนึ่งว่า อัลลอฮ์ทรงวิวรณ์มา ยังดาวูดว่า “เจ้าคว หาเลี้ยงชีพด้วยการทำงานโดยใช้มือของเจ้าเอง และไม่ต้องเอามัน “เจ้าควรจะได้เป็นบุคคลที่ดีมีคุณธรรมคนหนึ่ง หากเจ้า มาจากกองคลังสาธารณะหรือไบตุลมาล” เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดาวุดจึง สะอื้นให้อย่างหนัก ฉะนั้นอัลลอฮ์จึงมีพระบัญชามายังเหล็ก “จงอ่อน นุ่มเพื่อดาวูด ข้าทาสของข้า” ด้วยเหตุนี้ ตาวูดจึงผลิตเสื้อเกราะวันละ หนึ่งตัวและขายมันตัวราคา 1000 ดิรฮัม จนกระทั่งเขาผลิตครบ

 

Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *