วิกฤติโลกวิกฤตไทย

คอลัมน์ ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ
ทหารประชาธิปไตย
www.INEWHORIZON.NET

    เกิดเหตุการณ์หลายที่ในโลกที่อาจนำไปสู่สงครามขนาดใหญ่ ซึ่งคนไทยจะทำเป็นเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ด้วยหลักคิดที่ว่าไม่ใช่เรื่องของเรา เป็นเรื่องของเขานั้น ผู้เขียนเห็นว่าเป็นมิจฉาทิษฐิอย่างยิ่ง และความคับแคบในความคิดเหล่านี้จะทำให้เกิดการประมาท และนำไปสู่ภัยพิบัติในที่สุด

    เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่เยรูซาเล็ม เมื่อรัฐบาลยิวไซออนิสต์ได้เข้ายึดครองเยรูซาเล็ม และทำการกดขี่คนพื้นเมือง ทั้งอาหรับและปาเลสไตน์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ทำการปิดล้อมมัสยิด “อัลอักซอร์” อันเป็นศาสนาสถานที่สำคัญ 1 ใน 3 ของโลกอิสลาม ทั้งนี้รัฐบาลอิสราเอลอ้างว่าเพื่อดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัย แต่ความจริงก็คือการปิดกั้นไม่ให้ชาวมุสลิมเข้าไปทำการสวดมนต์ในมัสยิด และเมื่อชาวมุสลิมทำการละหมาด(สวดมนต์) นอกมัสยิดดังกล่าวก็ถูกทุบตี เข่นฆ่าบาดเจ็บล้มตายไปหลายคน จนทรัมป์ต้องยกหูมาเตือน เหตุการณ์จึงทุเลาลงบ้าง แต่ความตึงเครียดก็มิได้หมดไป นอกจากนี้กองทัพอิสราเอลยังดำเนินการโจมตีพื้นที่ในเขตกาซา โดยอ้างว่าโจมตีฮามาส ซึ่งเป็นกองกำลังต่อต้านอิสราเอลมิให้ขยายการยึดครองแผ่นดินของปาเลสไตน์ การโจมตีดังกล่าวสร้างการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินแก่พลเรือนปาเลสไตน์ โดยเฉพาะเด็กจำนวนไม่น้อย

    เรื่องนี้อดีตนายกรัฐมนตรีอีฮูด บารัค แห่งอิสราเอล ได้ออกมาเปิดเผยว่า เนทันยาฮู นายกฯคนปัจจุบันต้องการเบี่ยงเบนประเด็นที่ตนเองถูกสอบสวนในกรณีทุจริตคอร์รัปชั่น แต่การกระทำดังกล่าวอาจมีผลให้เกิดการขยายตัวของสงครามได้ โดยเฉพาะการกระทำในครั้งนี้ทำให้ซาอุดิอารเบียที่เพิ่งจับมือกับอิสราเอล อยู่ในฐานะถอยร่นทางการเมือง ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ เพราะไม่กล้าประณามอิสราเอลในขณะที่อิหร่านเปิดฉากรุกทางการเมืองด้วยการปลุกระดมมุสลิมทั้งหลายให้ลุกขึ้นมาปกป้องและทวงคืนศาสนสถานที่สำคัญจากยิวไซออนิสต์ โดยเฉพาะจะมีการรณรงค์ในระหว่างที่มวลมุสลิมจากทั่วโลกจะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ยิ่งไปกว่านั้นเหตุการณ์จะเลวร้ายขึ้นไปอีกถ้ารัฐไซออนิสต์จะย้ายเมืองหลวงมายังเยรูซาเล็ม ซึ่งรัฐบาลอิสราเอลมุ่งมั่นที่จะดำเนินการ แถมยังกดดันทางการเมืองต่อสหรัฐฯอย่างหนัก

    ประเด็นนี้จะลุกลามบานปลายใหญ่โตได้ ถ้ายิวยังไม่หยุดละเมิดมติขององค์การสหประชาชาติ และทำการขยายประเทศด้วยแผน “THE GREATER ISAEL” แม้ยิวจะพยายามกลบเกลื่อนด้วยการบีบน้ำตาอ้างเอาเหตุการณ์ในอดีตคือการที่ถูกนาซีเยอรมันฆ่าหมู่จำนวนมากในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่กลวิธีนี้ใช้ไม่ได้แล้วในปัจจุบัน เพราะยิวไม่มีสิทธิเอาเหตุการณ์ที่ถูกเข่นฆ่าทารุญในสมัยนั้น มากระทำย่ำยีกับชาวปาเลสไตน์ และยิ่งไปกว่านั้นแผนของไซออนิสต์ยังต้องการครองโลกด้วยการจัดระเบียบโลกใหม่ ด้วยการก่อสงครามอย่างไม่หยุดหย่อนโดยใช้สหรัฐฯเป็นเครื่องมือ

    เหตุการณ์ถัดมาก็คือการที่รัฐสภาสหรัฐฯออกกฎหมายใหม่ในการปิดล้อมทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น และถึงแม้ว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะสามารถยับยั้ง (VETO)ได้ เพื่อรักษาสัมพันธ์กับรัสเซีย แต่รัฐสภาก็อาจจะประกาศใช้ได้ด้วยคะแนน 3 ใน 4 งานนี้ทำให้เกิดปฏิกิริยาจาก 3 ประเทศดังต่อไปนี้

    หนึ่งรัสเซีย ประกาศตอบโต้ด้วยการขับนักการทูตสหรัฐฯในรัสเซียกว่า 700 คน และยังเชื้อเชิญยุโรปให้แข็งขืน ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ เพราะเยอรมันเริ่มออกมาวิพากษ์การแซงซั่นนี้แล้ว ซึ่งคาดว่าฝรั่งเศสคงเอาด้วยเพราะทั้งสองประเทศจะเสียหาย รวมทั้งหลายประเทศในยุโรปที่มีแผนจะร่วมทุนกับรัสเซียในเรื่องพลังงาน รวมไปถึงการลงทุนในอิหร่าน นอกจากนี้ยังคาดว่าการปิดล้อมทางเศรษฐกิจในครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบต่อรัสเซียมากนัก ตรงข้ามจะมีผลทำให้ราคาพลังงานเพิ่มสูงขึ้น อันจะมีผลดีต่อประเทศและอุตสาหกรรมค้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งรวมทั้งรัสเซียและอิหร่าน

    นอกจากนี้รัสเซียยังจัดการซ้อมรบใหญ่ในตะวันตก “ตะวันตก 2017” ในทะเลบอลติคร่วมกับเบลารุส โดยมีจีนเป็นผู้ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการซ้อมรบนี้เท่ากับเป็นการคุกคามกองกำลังนาโต้โดยตรง และเป็นภัยคุกคามต่อกลุ่มประเทศในแถบทะเลบอลติค โดยเฉพาะลิทัวเนีย แลทเชีย และเอสกัวเนีย ตลอดจนนอร์เวย์ และสวีเดน ทำให้เกิดความตึงเครียดอย่างมาก

    เท่านั้นไม่พอรัสเซียยังเข้าแข่งขันกับสหรัฐฯโดยตรงในการเข้ามามีอิทธิพลต่อเชอร์เบียในแหลมบอลข่าน เช่น การส่งตัวแทนจากองค์การรักษาความปลอดภัยเคสไปยังเบลเกรดเมืองหลวงของเซอร์เบียเพื่อร่วมในพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีเซอร์เบีย พร้อมกันนั้นยังตกลงส่งมอบขีปนาวุธ SAM 300 ให้แข่งกับการที่สหรัฐฯส่งมอบ F-16 ให้เซอร์เบีย ซึ่งทำให้เกิดความตึงเครียดในแหลมบอลข่าน เพราะมอนเตเนโกรก็เข้าเป็นสมาชิกนาโต้แล้ว ส่วนมาซิโดเนียกำลังตามมา

    เรื่องนี้น่าติดตามมากเพราะเซอร์เบียตระหนักดีว่าหากเกิดสงครามประเทศของตนจะพลอยย่อยยับไปด้วย เนื่องจากเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในแหลมบอลข่าน จึงพยายามสร้างสมดุลระหว่างตะวันออกกับตะวันตก พร้อมกันนี้ก็กระชับมิตรกับเยอรมันและตุรกีเพื่อสร้างสมดุล

    สองอิหร่านได้ทำการทดสอบขีปนาวุธระยะไกล พร้อมกับประกาศท่าทีแข็งกร้าวต่อสหรัฐฯ โดยเฉพาะมีการกระทบกระทั่งกันระหว่างกองเรือของสหรัฐฯกับกองเรือของอิหร่านในอ่าวเปอร์เซีย นอกจากนี้อิหร่านยังประกาศตอบโต้การแซงซั่นของสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้บริษัทของสหรัฐฯหลายแห่งที่ทำการลักลอบทำการค้ากับอิหร่าน โดยผ่านดูไบและโอมานต้องมีปัญหาแน่นอน

    สามเกาหลีเหนือทำการทดลองขีปนาวุธพิสัยไกล เหมือนเป็นการตบหน้ามะกัน ทำให้เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐฯต้องประชุมเครียดเพื่อหามาตรการตอบโต้ ล่าสุดสหรัฐฯส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดไปคุกคามเกาหลีเหนือแต่ก็ไม่ได้ผลอะไรนัก

    ด้วยสถานการณ์โลกที่เกิดความตึงเครียดดังกล่าว แม้ว่าคู่ขัดแย้งอาจจะไม่ต้องการให้เกิดการรบหรือสงครามขนาดใหญ่แต่อุบัติเหตุย่อมเกิดขึ้นได้เหมือนสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 โดยขณะนี้นาโต้ได้ทำการติดตั้งขีปนาวุธในเขตบอลติคทั้งหมด ยกเว้นโปแลนด์ที่นาโต้มีฐานทัพอยู่แล้ว

    ประเทศไทยจึงไม่ควรประมาท ในการสร้างสมดุลระหว่างประเทศ หากอยู่โดดเดี่ยวเดียวดาย คงไม่ปลอดภัยแน่ อย่างน้อยต้องรวมกลุ่มอาเซียนให้ได้ และสานสัมพันธ์ตะวันออก ตะวันตกให้ได้ดุล อย่างไรก็ตามพึงตระหนักว่าขณะนี้แม้ภาพภายนอกของอาเซียนจะดูดี แต่การดำเนินนโยบายหลายอย่างของแต่ละประเทศล้วนเป็นไปอย่างอิสระและเอกเทศ หลายนโยบายที่ทำเพื่อผลประโยชน์ของชาติตนแต่ก็ขัดแย้งกันเองในที ทำให้ไม่มีพลังพอในการต่อรอง แถมยังมีภัยคุกคามจากการเคลื่อนตัวเข้ามาของกลุ่มไอเอส(ดาอิซ) ในภูมิภาคนี้ยิ่งทำให้เหตุการณ์น่าวิตกไปกันใหญ่

    ที่สำคัญคือความมั่นคงภายในของไทย แม้จะดูว่ามีความสงบแต่ในความเป็นจริงมีคลื่นใต้น้ำที่ปั่นป่วนอย่างยิ่ง ยิ่งพูดเรื่องปรองดองมากแค่ไหนก็ยิ่งแตกแยกกันมากแค่นั้น ประชาชนแบ่งกันเป็นฝักเป็นฝ่าย และฝังหัวเลือกข้างอย่างเหนียวแน่น ต่างก็อ้างความถูกต้อง ความเป็นธรรม และหลักการ โดยไม่ฟังอีกฝ่ายหนึ่ง ทำให้เสถียรภาพของชาติไม่มั่นคง

    ยิ่งไปกว่านั้นสภาวะทางเศรษฐกิจที่ทรุดตัวลงโดยเฉพาะความทุกข์ยากของชาวไร่ชาวนา ที่มีหนี้สินล้นพันตัว ซ้ำเติมด้วยราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ รัฐบาลเองก็มีแต่ดำเนินนโยบายที่เอื้อต่อคนระดับบน ส่วนคนระดับล่างแม้มีการช่วยเหลือบ้าง แต่ก็เหมือนโยนเศษเนื้อลงไปไม่เกิดผลที่จะสนองกลับอย่างเป็นระบบ ช่องว่างระหว่างคนยากจน คนร่ำรวย จึงยิ่งแยกแตกปริออกไปยิ่งขึ้น

    ด้วยความไม่มีเสถียรภาพภายในประเทศดังกล่าวมานี้ หากเกิดเหตุการณ์ประทุขึ้นในเวทีโลก ย่อมส่งผลรุนแรงต่อประเทศไทยอย่างมากจนยากจะประเมินได้ หากเราไม่อาจสร้างความมั่นคงภายในให้เกิดขึ้นโดยการสร้างระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง หากเราไม่อาจทำให้ประเทศไทยเป็นเขตสันติภาพเราคงต้องมานั่งน้ำตาเช็คหัวเข่ากันแน่นอน และที่คิดว่าจะบินหนีไปอยู่ต่างประเทศ คิดเสียใหม่ถ้ามันเกิดสงครามโลกจะหนีไปไหน