ยูเครนเปิดฉากตีโต้ครั้งใหญ่แล้ว

สบาย สบาย สไตล์เกษม
เกษม อัชฌาสัย
ยูเครนเปิดฉากตีโต้ครั้งใหญ่แล้ว
ที่เคยสงสัยในปฏิบัติการทางทหารของยูเครน ที่เคยแถลงย้ำครั้งแล้วครั้งเล่าว่า จะรุกรบครั้งใหญ่เพื่อยึดพื้นที่คืนจากการยึดครองของกองทัพรัสเซียนั้น กลายเป็นความจริงขึ้นมาแล้ว โดยทางยูเครนไม่ประกาศ
เริ่มจากการส่งโดรนถล่มเครมลินและพื้นที่โดยรอบ จากการส่งหน่วยจรยุทธ์โจมตีฉาบฉวยรบกวนที่พรมแดนรัสเซียในแคว้น”เบลโกรอด”ก่อนหน้านี้ หลายหน
จนในที่สุดก็เปิดฉากโจมตีหลายแนวรบในเขต”โดเนสกต์”ตั้งแต่วันที่ ๔ มิถุนายน ๖๖ ที่ผ่านมา แม้ได้รับความเสียหายอย่างยับเยิน สูญเสียทหารยูเครนไปราว ๒๕๐ นายและสูญเสียรถถังกับยานลำเลียงพลหุ้มเกราะไปจำนวนหนึ่ง ตามที่รัสเซียอ้าง
แต่ยูเครนก็ยังส่งทหารหนุนเนื่องเข้าไป ไม่หยุดยั้งตามที่ สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียเอง ก็ยืนยัน
หลังสุด เขื่อนใหญ่ในเขต”เคอร์ซอน”พื้นที่ภาคใต้ของยูเครน ที่ตกอยู่ใความยึดครองของรัสเซียจากการบุกครั้งก่อน ถูกระเบิดพังทลายลงมา ทำให้น้ำในเขื่อนไหลบ่าท่วมพื้นที่ท้ายเขื่อน ผู้คนต้องอพยพหนีกันจ้าละหวั่น

เขื่อนนี้ มีชื่อเรียกว่า “โนวา คาคอฟคา” (ตั้งขวางลำน้ำ”ดนิโปร”) ฝ่ายบริหารที่รัสเซียตั้งขึ้นใน”เคอร์ซอน” แถลงว่าได้แจ้งให้ชาวบ้านช่วยตัวเองไปก่อน อย่างไรก็ได้ เพื่อความอยู่รอด
ไม่ว่าฝ่ายไหนระหว่างรัสเซียกับยูเครน จะกล่าวหาว่าการระเบิดเขื่อนนี้เป็นฝีมือของอีกฝ่ายหนึ่ง แต่มีความเป็นไปได้ว่า เป็นการกระทำของฝ่ายยูเครน ในปฏิบัติการรบก่อกวน หมายยึดคืนพื้นที่
เชื่อว่า ยูเครนต้องกระทำ เพื่อตัดการจ่ายน้ำไปยังคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งรัสเซียผนวกไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งจะสงผลกระทบต่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในเขต”ซาโปริสเซีย”ซึ่งก็ตกอยู่ในความยึดครองของรัสเซียด้วย
ย้ำว่า นี่คือสัญญานการตีโต้ใหญ่ ซึ่งยูเครนคงจะต้องพยายามต่อไป
รัสเซียเอง ก็คงตระหนักดีในการเปิดแนวรบหลายด้าน(ทั้งในและนอกรัสเซีย)ของยูเครนครั้งนี้ ว่าหมายสร้างความระส่ำระสาย ให้ไม่สามารถใช้สมาธิ มุ่งเข้าครอบครองพื้นที่ยูครนอย่างง่ายดาย
เพราะทางด้านเมือง”บักห์มุต”ที่กลุ่ม”วากเนอร์”ยึดได้แล้วส่งมอบให้ทหารรัสเซียดูแลนั้น กลับถูกโจมตีครั้งใหม่ จากทหารยูเครนด้วยในคราวเดียวกัน ในความมุ่งมั่น หมายยึดคืนอีกครั้ง ด้วยตระหนักว่า ทหารรัสเซีย ที่ได้รับมอบพื้นที่ จากกลุ่มทหารรับจ้าง”วากเนอร์”มีขวัญกำลังใจสู้ไม่ได้

ในการนี้ สำนักข่าว”ทาสส์”ยืนยันถ้อยคำของรองรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียว่า”บักห์มุต”คือศูนย์กลางของความขัดแย้ง
ในขณะที่นักวิเคราะห์ด้านการทหารเห็นว่า “บักห์มุต”คือหัวหาดของรัสเซียที่จะรุกคืบต่อ
ส่วนยูเครนเองนั้น ถือว่า”บักห์มุต”คือสัญญลักษณ์แห่งการสู้รบ ที่ถึงอย่างไรก็ต้องยึดคืนให้ได้
ดังนั้นจึงไม่แปลก ที่ทั้งสองฝ่ายต้องทุ่มเทกำลังจำนวนมาก เพื่อยึดครองเอาไว้ แม้จะต้องสูญเสียชีวิตทหาร เป็นจำนวนมาก
การโจมตีครั้งใหญ่ของยูเครน จะก้าวหน้าต่อไปหรือไม่เพียงไร และรัสเซียจะตั้งตัวได้มั่นและลงมือตีโต้และรุกคืบหน้าในยูเครน อีกเมื่อไรชัดๆ
คงจะได้เห็นกันในไม่ช้านี้ครับ
คราวหน้า ผมจะเขียนถึงกลุ่ม”วากเนอร์”อีกครั้ง ว่ามีอำนาจและอิทธิพลมากแค่ไหน ทั้งในรัสเซียและวงการระหว่างประเทศ







