INEWHORIZON

ขอบฟ้าใหม่

จีน:ความเติบใหญ่ของสำนักคุ้มภัย (PSC)

สบาย สบาย สไตล์เกษม

เกษม อัชฌาสัย

จีน:ความเติบใหญ่ของสำนักคุ้มภัย (PSC)

ผมรู้จักสำนักคุ้มภัยครั้งแรกจาก”มังกรหยก”ภาคสาม ตอนที่”ฮึง ซู่ซู่” ต่อมาเป็นแม่ของ”เตีย บ่อกี้” ว่าจ้างสำนักคุ้มภัยส่งตัว”หยู ไต้งั้ง”ศิษย์”บู๊ตึง”กลับสำนัก ครับ

สำนักคุ้มภัยที่ว่านี้ เจ้าของเป็นศิษย์ฆราวาสของวัดเส้าหลินแหล่งฝึกวิทยายุทธ์ดั้งเดิมแต่บรรพกาล ที่ยังดำรงอยู่จริง มาทุกวันนี้

นิยายกำลังภายในของ”กิมย้ง”เรื่องนี้ให้ความรู้ผมอย่างหนึ่งว่า

”สำนักคุ้มภัยจีน”มีมาก่อนที่”จูหยวนจาง”จะสถาปนาราชวงศ์หมิงขึ้นเมื่อ ๖๕๕ ปีที่แล้ว เสียอีก

จึงใคร่จะเขียนเรื่องสำนักคุ้มภัยในจีน หลังจากที่ได้เขียนถึง”ทหารรับจ้างวากเนอร์”ในรัสเซียและ”นักรบแบล็กวอเตอร์”ในสหรัฐไปแล้ว เพื่อจะได้เปรียบเทียบกัน

แท้ที่จริง จีนไม่มีบริษัทเอกชนฝึกทหารรับจ้างที่เรียกว่า Private Military Company หรือ PMC เลยครับ

มีแต่บริษัทเอกชนฝึกพนักงานรักษาความปลอดภัยที่เรียกว่า Private Security Company ( PSC )หรือในภาษาจีนคือ  私营保安公司

ซึ่งผมอยากจะเรียกง่ายๆ ว่า”สำนักคุ้มภัย”

เป็นสำนักคุ้มภัยที่ล้วนเป็นบริษัทจดทะเบียน ไม่มีบริษัทเถื่อน แบบ”วากเนอร์” ทำธุรกิจให้บริการกิจการของชาวจีนและรัฐบาลจีนโดยเฉพาะ

ขอบเขตการให้บริการมีแค่ไหน ก็จะได้ว่ากันจากนี้ไป

ถามว่าใครบ้างที่เปิดทำธุรกิจ”สำนักคุ้มภ้ย”เช่นว่านี้

ตอบว่า ใครก็ได้ โดยเฉพาะผู้เคยทำงานเป็นทหารและตำรวจมาก่อน เช่นผู้ที่เคยทำงานอยู่ในกองทัพปลดแอกประชาชนจีน หรือ People’s Liberation Army

“เกเบรียล ฮอนราดะ”เขียนไว้ใน“เอเชีย ไทมส์”ลงวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๐๒๒ ว่า”สำนักคุ้มภัย”จะมีบทบาทมากขึ้นในด้านรักษาความปลอดภัย ขณะที่ผลประโยชน์ของจีนขยายตัวไปทั่วโลก เป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ (เพราะมีการติดอาวุธ) ในพื้นที่สำคัญๆ ในขณะที่เกิดความตึงเครียดกับสหรัฐเพิ่มมากขึ้น”

ย้อนกลับไปดูการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ ๒๐ ระหว่าง ๑๖-๒๒ ตุลาคม ปีที่แล้ว

ในโอกาสนี้ ประธานาธิบดีจีน”สี จิ้นผิง”แถลงตอนหนึ่งว่า “จีนต้องเพิ่มความเข้มแข็งเพื่อประกันประสิทธิภาพในการป้องกันความปลอดภัยและปกป้องสิทธิประโยชน์ของชาวจีนตลอดจนหน่วยงานที่ถูกต้องตามกฎหมายในโพ้นทะเล”

ตีความได้ว่านั่นคือหน้าที่ของ”สำนักคุ้มภัยจีน”นั่นเอง

โดยเฉพาะดินแดนในต่างประเทศที่”โครงการแถบและเส้นทาง”ของจีน ในการรื้อฟื้น”เส้นทางสายไหม”ที่ผ่านไปถึงทั้งในทะเลและแผ่นดิน ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาของจีน ซึ่งเชิญชวนให้รัฐบาลชาติต่างๆ ทั่วโลก ร่วมมือกันในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นที่และการลงทุนครอบคลุม ๖๘ ประเทศ

ล้วนเป็นดินแดนที่จีนไม่สามารถส่งทหารไปคุ้มครองป้องกันได้ คำตอบจึงอยู่ที่”สำนักคุ้มภัย”ครับ

มีรายงานที่น่าเชื่อถือได้ระบุว่า จีนมีสำนักคุ้มภัยที่จดทะเบียนอยู่ราว ๕,๐๐๐ บริษัท ในจำนวนนี้มีอยู่ ๒๐ บริษัทที่ให้บริการในระดับสากล คือส่งพนักงานไปทำงานยังต่างประเทศ

๒๐ บริษัทที่ว่านี้ ส่งพนักงานรวมราว ๓,๐๐๐ ไปทำงานในประเทศต่างๆ เช่น ซูดาน ปากีสถานและอิรัก ฯลฯ เป็นต้น

ผมไม่สามาถหาข้อมูลชนิดลงลึกในรายละเอียดว่างานที่พนักงาน ๒๐ บริษัทไปทำนั้นมีอะไรบ้าง

รู้มาเพียงคร่าวๆ ว่าไปรักษาความปลอดภัยสถานทูตจีน ไปคุ้มครองท่าเรือ(คงจะเป็นที่ศรีลังกาซึ่งจีนไปสร้างไว้)

รายงานของ”เจมส์ทาวน์ ฟาวนฺเดชัน”ระบุว่า สำนักงานคุ้มภัยจีนในโพ้นทะเลทำรายได้ในดินแดนโพ้นทะเลราว ๑๐,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี

รายได้ของสำนักงานคุ้มภัยในจีนทำรายรวมกันได้ปีละเท่าไร ไม่มีตัวเลขครับ

เท่าที่ได้ข้อมูลมานี้ จึงเชื่อว่าอุตสาหกรรม”สำนักคุ้มภัย”ของจีน จะเติบโตขึ้นอีกมาก ในดินแดนที่การแผ่ขายเศรษฐกิจของจีนแผ่ไปถึง

จึงใคร่แจ้งเตือนมาว่า สักวันหนึ่งไทยอาจจะต้องปล่อยให้”สำนักคุ้มภัย”จากจีน”เข้ามาทำมาหากินในบ้านเราด้วย

ลองไปเช็กดูที่สถานทูตจีนเป็นแห่งแรกก็ได้ครับว่าใช้รปภ.ไทยหรือ รปภ.จีนกันแน่

หนี่ห่าว 你好

Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *