รู้ว่ามีสติเป็นเรื่องดี…แต่ไม่ชอบเมื่อมีคนมาเตือนสติ!

รู้ว่ามีสติเป็นเรื่องดี…แต่ไม่ชอบเมื่อมีคนมาเตือนสติ!
โดย พระไพศาล วิสาโล
มีพนักงานหญิง 2 คนในบริษัทแห่งหนึ่งทะเลาะกัน มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง เจ้านายเห็นเข้าก็เลยเข้าไปถามว่า ทะเลาะกันเรื่องอะไร บอกหน่อยสิ ปรากฏว่า 2 คนนั้นกลับแย่งกันพูด แล้วก็ชี้หน้าด่ากัน ฟังไม่รู้เรื่องเลย
เจ้านายทำอย่างไร ถ้าไปบอกว่าเธอสองคนนี่เป็นผู้ใหญ่แล้ว คุยกันให้รู้เรื่องหน่อยสิ สองคนนั้นก็อาจจะโกรธเจ้านาย แล้วก็หันมาเล่นงานเจ้านายแทน หรือถ้าไปบอกว่าพวกเธอเสียสติแล้วนะ มีสติหน่อยสิ พูดแบบนี้เข้าไปนะ สองคนนั้นก็คงระบายความโกรธมาใส่เจ้านาย

เจ้านายคนนี้แกฉลาด เข้าใจคน แกเลยบอกว่าไม่ต้องแย่งกันพูด เดี๋ยวผมจะให้คุณทั้งสองคนได้พูด แต่ว่าอยากจะให้คนที่หน้าตาขี้เหร่พูดก่อน เท่านี้แหละหยุดเลยนะ ทั้งสองคน เพราะว่าไม่อยากเป็นคนขี้เหร่ ถ้าพูดก่อนก็เป็นคนขี้เหร่ กิเลสพอมันเจอคำพูดของเจ้านายแบบนี้ มันชะงักเลย เพราะว่ามันไม่อยากจะเป็นฝ่ายยอมรับว่าฉันขี้เหร่ ถ้าฉันพูดก่อนฉันก็ขี้เหร่สิ ก็เลยหยุด อีกคนหนึ่งก็ไม่ยอมพูดต่อเหมือนกัน เพราะถ้าพูดต่อหรือพูดเป็นคนแรก ก็แสดงว่ายอมรับว่าฉันเป็นคนขี้เหร่
แล้วบางทีตัวหลงหรือตัวกิเลส ถ้าพูดกับมัน ถ้าเตือนสติดีๆ นี่ก็อาจจะไม่ฟัง แต่ถ้าหากว่ามาเตือนด้วยคำพูดที่ไม่ถูกใจกิเลส มันก็ชะงักได้เหมือนกัน แล้วผลที่ตามมาคือสติกลับมาเลยนะ สองคนนี้พอเจ้านายทักแบบนี้ว่า ใครที่ขี้เหร่พูดก่อน ได้สติขึ้นมาเลย
แล้วพอได้สติก็รู้เลย ที่ทำไปเมื่อกี้นี่มันแย่ แต่ตอนที่จมอยู่ในอารมณ์ ไม่คิดที่จะเรียกสติกลับมาเลย มีแต่จะปล่อยใจให้ทำตามอารมณ์ หรือจมดิ่งอยู่ในอารมณ์นั้น ใครเตือนยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ หรือยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่ แต่ว่าพอเจอคำพูดแบบนี้ ได้สติกลับมาเลย แล้วพอได้สติก็รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด อะไรควรอะไรไม่ควร
แต่ว่าคนเราถ้าจะรอให้มีสติเมื่อมีใครมาทัก เมื่อมีใครมาบอก มันคงไม่พอ มันต้องรู้จักเรียกสติกลับมาด้วยตัวเอง ใหม่ๆ กว่าจะมีสติ มันก็หลงจมเข้าไปในอารมณ์อยู่พักใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ ความเศร้า ทั้งที่เตือนตนว่าถ้าฉันโกรธเมื่อไหร่ ฉันจะกลับมามีสตินะ
อย่างบางคนรู้ว่าเป็นคนเจ้าอารมณ์ ก็ตั้งใจว่าถ้าโกรธเมื่อไหร่จะกลับมาตามลมหายใจ หรือกลับมาอยู่กับพุทโธ แต่พอถึงเวลาโกรธจริงๆ มันลืมไปหมดเลยที่ตั้งใจจะทำอะไร พุทโธก็ลืม ลมหายใจก็ลืม มันจะไม่ลืมได้อย่างไร เพราะขนาดตัวนี้ยังลืม คือลืมตัว

เพราะฉะนั้นอย่างอื่นนี่ก็ลืมไปได้ไม่ยาก ต่อเมื่ออารมณ์มันเบาบางลงแล้วจึงนึกขึ้นมาได้ พอโกรธมันลุเลาเบาบางจึงนึกขึ้นมาได้ นี่เราไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ แต่ว่าเจอแบบนี้ไม่ต้องท้อนะ ก็ขอให้ตั้งใจไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่ากว่าจะมีสติกลับมามันก็ล่วงเลยไปมากแล้ว หรือว่าปล่อยใจไปตามอารมณ์ หรือว่าก่อความเสียหายหายไปไม่น้อยแล้ว
แต่ถ้าว่าเราตั้งใจไม่ท้อไม่ถอย ต่อไปมันจะได้สติเร็วเข้า ใหม่ๆ ก็ได้สติหลังจากที่โวยวายระบายด่าทอไปเรียบร้อยแล้ว แต่ต่อมามันก็จะเริ่มมีสติระหว่างที่กำลังขุ่นมัวอยู่ ขณะที่ด่าทอก็เริ่มมีสติกลับมา กลับมาอยู่กับลมหายใจ กลับมาอยู่กับพุทโธ แต่ว่าก็อาจจะอยู่ไม่ได้นาน แล้วก็หลุดไปตามอารมณ์ แต่ถ้าหากว่ายังทำไปเรื่อยๆ มันจะรู้ไวขึ้น มีสติเร็วขึ้น จนกระทั่งถึงจุดหนึ่งยังไม่ทันจะพูดอะไรเลย ยังไม่ทันจะ โวยวายอะไรเลย ก็หักห้ามคำพูด หักห้ามใจได้ กลับมาอยู่กับลมหายใจ กลับมาอยู่กับพุทโธ







