กอดฟาเธอร์เกี่ยวกับการนำทางความสมดุลงาน-ชีวิต
กอดฟาเธอร์เกี่ยวกับการนำทางความสมดุลงาน-ชีวิต
คำพูดอ้างอิง “ทิ้งปืนไว้ เอาแคนโนลี” จากกอดฟาเธอร์ เป็นเครื่องเตือนความจำที่จะสมดุลอาชีพและชีวิตส่วนบุคคล คำพูดของบุคคลคือพันธะของเขา และเขาต้องรักษาคำสัญญาของเขาต่อครอบครัว เคลเมนซาได้แสดงว่าเขารักษาคำสัญญาต่อภรรยาของเขา ด้วยการนำแคนโนลีกลับไปให้เธอที่เขาได้สัญญาต่อเธอกอดฟาเธอร์ ได้เสนอแนะว่าความสำเร็จและชีวิตที่สมบูรณ์ต้องการการค้นหาความสมดุลระหว่างงาน และชีวิตครอบครัว ดังที่ ดอน คอร์ลีโอเน
หัวหน้าครอบครัวคอร์ลีโอเน กล่าวว่า “ชายที่ไม่ได้ใช้เวลากับครอบครัวของเขาไม่เคยสามารถเป็นชายที่แท้จริง” บนวันแต่งงานของลูกสาวของเขา ส่วนใหญ่ของวันแต่งงาน ดอน คอร์ลีโอเน ได้ใช้กับการประชุมธุรกิจ แต่เขาได้กล่าวว่า “ถ้าไม่มีอะไรอีกเเล้ว ผมจะไปงานแต่งงาน” นี่คือความสมดุลงาน-ชีวิตความสมดุลงาน-ชีวิต เป็นจุดดุลยภาพระหว่างงานและชีวิตส่วนบุคคล ความสมดุลระหว่างเวลาที่คุณใช้ทำงาน และเวลาที่คุณใช้กับชีวิตส่วนบุคคลของคุณ ความสมดุลงาน-ชีวิตที่สมบูรณ์จะสำคัญต่อการรักษาประสิทธิภาพของงาน สุขภาพทางร่างกายและจิตใจ และการเชื่อมโยงทางสังคม เเนวคิดของความสมดุลงาน-ชีวิตมีต้นกำเนิดของมันภายในต้นศตวรรษที่ 20 เมื่อการปฏิวัติอุตสาหกรรมได้แยกงานจากชีวิตบ้าน ความคิดคือ คนงานสามารถเลิกงานห้าโมงเย็น และยังคงมีเวลาเพื่อครอบครัวและกิจกรรมอื่นครอบครัวเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง ภายในโลกของครอบครัวคอร์ลีโอเนแล้วครอบครัวมาก่อนอย่างอื่นทั้งหมด กอดฟาเธอร์ ได้สำรวจความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวและธุรกิจผ่านแก่นของเรื่องของความจงรักภักดี การเสีนสละ และอำนาจ ครอบครัวดอน คอร์ลีโอเน เชื่อว่าครอบครัวเป็นหน่วยสังคมสำคัญที่สุดมันได้เสนอแนะว่าพวกเขาต้องการเลือกความจงรักภักดีต่ครอบครัวสายเลือดเหนือความจงรักดีต่อครอบครัวอาชญากรรม ภายหลังที่ซอลลอซโซ พยายามลอบสังหารดอน คอร์ลีโอเน ซอนนี คอร์ลีโอเน ได้มุ่งเน้นธรรมชาติของครอบครัวสำคัญที่สุด เมื่อเขาได้เตือนใจฐานะของทอม เฮแกน ที่ปรึกษาลูกเลี้ยงของครอบครัวคอร์ลีโอเน สายเลือดคือสายเลือด และไม่มีอะไรเท่าเทียมมันได้ครอบครัวคอร์ลีโอเนเป็นทั้งครอบครัวสายเลือดและครอบครัวมาเฟียและะทั้งสองเชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก ครอบครัวอาชญากรรมเป็นแหล่งที่มาของรายได้ต่อครอบครัวสายเลือด ดอน คอร์ลีโอเน กอดฟาเธอร์แก่ตัวลง ให้ความสำคัญธุรกิจครอบครัวเหนือครอบครัวสายเลือดของเขาโชคชะตาของสองครอบครัวพัวพันกัน ซอนนี เฟรโด และไมเคิลคอร์ลีโอเน เป็นสมาชิกของทั้งครอบครัวสายเลือดและครอบครัวอาชญากรรม ทอม ได้ประท้วงซอนนีว่า ดอน คอร์ลีโอเนเป็นผู้เปรียบเสมือนพ่อของเขา แต่เพราะว่าเขาไม่ได้สัมพันธ์ทางสายเลือด ที่ปรึกษาเป็นบุคคลภายนอกภายในครอบครัว”ชายไม่ได้ใช้เวลากับครอบครัวของเขาไม่เคยสามารถเป็นชายที่แท้จริง ความมั่งคั่งอย่างเดียวเท่านั้นภายในโลกคือลูก มากกว่าเงินทั้งหมด อำนาจ และความมั่งคั่ง”. ดอน คอร์ลีโอเน เป็นบุคคลแห่่งครอบครัวได่ให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่ครอบครัวของเขา คำพูดอ้างอิงนี้ของดอน คอร์ลีโอเน ได้สะท้อนค่านิยมสมัยเดิมของความจงรักภักดี การคุ้มครอง และการสนับสนุนที่เป็นศูนย์กลางต่อความเชื่อของครอบครัวคอร์ลีโอเน มันเน้นย้ำแก่นของเรื่องของครอบครัวเป็นข้อเท็จจริงของอาณาจักรและต้นตอความเข้มแข็งของครอบครัวคอร์ลีโอเนความรู้สึกนี้จะเป็นแก่นของเรื่องปรากฏอยู่บ่อยตลอดนิยาย แสดงผลกระทบกันและกันที่ซับซ้อนระหว่างความรัก หน้าที่ และอำนาจภายในโลกขององค์กรอาชญากรรม เมื่อไมเคิล คอร์ลีโอเนได้กล่าวว่าอย่าเข้าข้างกับใครก็ตามต่อต้านครอบครัวอีกครั้ง เขาทำให้มันชัดเจนว่า การทรยศหรือขัดขวางครอบครัวจะเป็นความผิดที่อภัยไม่ได้ เขาได้ยืนยันความสำคัญสูงสุดของความจงรักภักดีของครอบครัวต่อโลกขององค์กรอาชญากรรมภาพยนตร์กอดฟาเธอร์ถูกสร้างด้วยการมุ่งเน้นวัฒนธรรมซิซิลีที่แท้จริงและได้ถูกถ่ายทำภายในหลายเมืองของซิซิลีวัฒนธรรมซิซิลีแตกต่างบางอย่างจากวัฒนธรรมอิตาลี แม้ว่าซิซิลีเป็นส่วนหนึ่งของของอิตาลี และได้ร่วมความคล้ายคลึงกันบางอย่าง ครอบครัวเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมซิซิลีครอบครัวเป็นแกนของชีวิตซิซิลีกอดฟาเธอร์ สำรวจวัฒนธรรมและค่านิยมของครอบครัวซิซิลีผ่านทางเรื่อวราวของครอบครัวอาชญากรรมคอร์ลีโอเน ภายในวัฒนธรรมอิตาลี กอดฟาเธอร์ เป็นบุคคลที่รับผิดชอบต่อการพัฒนาศีลธรรมและศาสนาของลูกบุคคลอื่นครอบครัวจะเป็นส่วนหนึ่งศูนย์กลางของวัฒนธรรมซิซิลี ด้วยพันธะที่เข้มแข็ง บนความรัก ความจงรักภักดี และการสนับสนุน ลูกสำคัญอย่างมาก และมักจะถูกตั้งชื่อตามปู่ย่าตายาย พิธีการตั้งชื่อจะเป็นระยะเวลาเพื่อการฉลอง ครอบครัวสวดด้วยกัน เพื่อการอวยพรและโชคชะตาเพื่อตัวพวกเขาเองและญาติพี่น้องของพวกเขา มันจะเป็นธรรมดาที่หลายช่วงอายุคนอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกัน บุคเซลลาโต เป็นขนมเค้กอบซิซิลีแบบดั้งเดิม และเป็นสัญลักษณ์วงจรของชีวิตและเอกภาพ มันเป็นประเพณีที่จะตัดเป็นชิ้นแบ่งกับผู้มาเยี่ยมการสำรวจค่านิยมของครอบครัวผ่านทางเรื่องราวของไมเคิล คอร์ลีโอเนแต่งงานกับอพอลโลเนีย วิเทลลี ภายในเมืองซาโวคาของซิซิลี กลายเป็นเป็นสัญลักษณ์ของการยอมรับวัฒนธรรอิตาลีของเขา รับเอาวิถีชีวิตและวัฒนธรรมซิซิลีของพ่อของเธอ การเเต่งงานของไมเคิลกับอพอลโลเนียเป็นงานแต่งงานตามประเพณี และโลกเก่าวิถีทางต่อเขาที่จะสลัดวิถีทางอเมริกัน และได้กลายเป็นชาวซิซิลีที่แท้จริง การเเต่งงานกับอพอลโลเนียของไมเคิลเป็นพิธีอิตาลีสมัยเดิมภายในเมืองด้วยชื่อของครอบครัวคอร์ลีโอเนกอดฟาเธอร์ใช้วัฒนธรรมซิซิลีทำให้นักแสดงเป็นมนุษย์ถ่ายทอดความรู้สึกว่าเป็นเรื่องราวฝังรากภายในวัฒนธรรมของผู้อพยพชาวอิตาลี มันได้แสดงวัฒนธรรมครอบครัวของซิซิลีภายในวิถีทางหลายอย่างที่ได้รวมทั้งสองการเเต่งงานที่แสดงประเพณีและค่านิยมครอบครัวของซิซิลี การแต่งงานของคอนนี เป็นการเเต่งงานอเมริกันที่ฟุ่มเฟือยด้วยประเพณีซิซิลีเช่นเพลงอิตาลี และกระเป๋าใส่เงินแต่งงาน ครอบครัวคอร์ลีโอนีได้ใช้งานแต่งงานแสดงความมั่งคั่งและการเชื่อมโยงของพวกเขา”ผมไม่เคยต้องการสิ่งนี้แก่คุณ ผมทำงานทั้งชีวิตของผม ผมไม่ขอโทษ ดูเเลครอบครัวของผม และผมไม่ยอมเป็นคนโง่ ถูกชักใยโดยบุคคลที่มีอิทธิพลทุกคน ผมไม่ขอโทษ นั้นคือชีวิตของผม แต่ผมคิดว่า เมื่อมันเป็นเวลาของคุณ คุณจะเป็นบุคคลที่ชักใย” ดอน คอร์ลีโอเน ได้แสดงความรู้สึกที่ลึกซึ้งของเขาต่อความรับผิดชอบและการเสียสละต่อครอบครัวของเขา เขาได้ถ่ายทอดความผูกพันที่ไม่เปลี่ยนแปลงของเขาที่จะให้และคุ้มครองบุคคลที่รักของเขา เมื่อดอนคอร์ลีโอเน กล่าวว่า ผมไม่ขอโทษ ดูแลครอบครัวของผม เขาได้เน้นย้ำความเสียสละที่เขาได้ทำและช่วงเวลาที่เขาได้ผ่านไปมั่นใจความเป็นอยู่ที่ดีและความเจริญรุ่งเรืองของครอบครัวของเขา มันได้สะท้อนความรู้สึกที่เข้มแข็งของหน้าที่เป็นหัวหน้าของครอบครัวคอร์ลีโอเนเขาได้อธิบายต่อไปว่าเขาได้เลือกไม่ใช่ถูกจัดการหรือควบคุมโดยบุคคลที่มีอิทธิพล ดอน คอร์ลีโอเนยืนยันการไม่ขึ้นอยู่กับใครของเขาและไม่ยอมเป็นเพียงแค่ม้ารับใช้ ภายในแผนของบุคคลอื่น มันได้สะท้อนความภูมิใจและความมุ่งมั่นตัวเองภายในการเผชิญกับความกดดันภายนอกที่จริงแล้วคำพูดอ้างอิงของดอน คอร์ลีโอเนได้สรุปค่านิยมและหลักการของเขาที่นำทางชีวิตของเขาเขาจะไม่ขอโทษเกี่ยวกับการเลือก เขาได้เลือกเพื่อการคุ้มครองอนาคตของครอบครัวของเขา เเม้ว่ามันหมายถึงการนำทางภายในโลกที่อันตรายขององค์กรอาชญากรรม ตามมุมมองนี้ มาริโอ พูโซ ได้ชี้ว่าโชคชะตาของสองครอบครัวพัวพันกัน ซอนนี เฟรโด ไมเคิลจะเป็นสมาชิกของครอบครัวอาชญากรรมของคอร์ลีโอเนด้วย สมาชิกคนอื่นของครอบครัวจะมีทั้งทอม เฮเกน ปีเตอร์ เคลเมนซา และซาล เทสซิโอ ด้วย
ดอน คอร์ลีโอเน โหดร้ายต่อศัตรูของเขา แต่เขารู้ว่าครอบครัวสำคัญต่อชึวิต ฉากงานแต่งงานลูกสาวของเขาได้แสดงความรักของดอน คอร์ลีโอต่อครอบครัวของเขา และมาตรฐานของพฤติกรรมที่เขาได้คาดหวังจากพวกเขา กอดฟาเธอร์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวแม้ว่าครอบครัวคอร์ลีโอเนได้ยุ่งเกี่ยวภายในองค์กรอาชญากรรมก็ตามภาพยนตร์มุ่งเน้นความสำคัญของพันธะและการเชื่อมโยงของครอบครัว ครอบครัวเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง แก่นของเรื่องทุกอย่างที่มาริโอ พลูโซ และฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลาได้สำรวจภายในกอดฟาเธอร์สามภาคแก่นของเรื่องที่น่าสนใจมากที่สุดคือ………ครอบครัว ภาพยนตร์ เดินตามแก่นของเรื่องรวมทั้งการเมือง การทรยศ ฆาตกรรม ความจงรักภักดี อาชญากรรมแต่ครอบครัวเป็นหัวใจครั้งหนึ่งไมเคิล คอร์ลีโอเน ได้กล่าวว่า *ความมั่งคั่งอย่างเดียวเท่านั้นภายในโลกนี้คือลูก มากกว่าเงินทั้งหมด อำนาจบนโลก คุณเป็นสมบัติของผม” ในขณะนี้เราอยู่ที่กอดฟ่าเธอร์ภาคสาม และไมเคิลอายุ 60 ปีแล้วด้วยความมั่งคั่งและอำนาจมากขึ้น ลูกของเขาแอนโธนีและแมรี ได้ เจริญเติบโตและมีชีวิตอยู่กับเคย์ ไมเคิลดูเหมือนพอใจกับชีวิตของเขา แต่หุ้มห่อด้วยความผิดบนการลุกขึ้นไปสู่อำนาจ และการฆ่าพี่ชายของเขา เขายังคงถูกหลอกหลอนเกี่ยวกับบาปในที่สุดของเขาเขาจะเลิกทุกสิ่งทุกอย่างป้องกันลูกของเขา การรู้ว่าพ่อของเขาจะทำอย่างเดียวกันกอดฟาเธอร์ สำรวจแก่นของเรื่องของความสมดุลงาน-ชีวิต และความสำคัญของการค้นหาความสมดุลระหว่างสองอย่าง ดอน คอร์ลีโอเน ได้กล่าวว่า “ชายที่ไม่ได้ใช้เวลากับครอบครัวของเขาไม่สามารถเป็นชายที่แท้จริง” ความสมดุลของงาน-ชีวิตที่สมบูรณ์เป็นส่วนผสมที่สำคัญต่อความสำเร็จและความสมหวังของชีวิต เขาได้รับรู้ความสำคัญของการค้นหาจุดดุลยภาพระหว่างงานและครอบครัวความต้องการของชีวิตอาชีพของพวกเขาและความต้องการของครอบครัวของพวกเขาการใช้เวลากับครอบครัวสามารถช่วยสร้างความสัมพันธ์และมุมมองภายในธุรกิจในฐานะของหัวหน้าครอบครัวคอร์ลีโอเน ดอน คอร์ลีโอเน ผูกพันอย่างลึกซึ่งต่อครอบครัวของเขา การกระทำของเขามุ่งไปสู่การรักษาอนาคต และความเป็นอยู่ที่ดีของลูกของเขา กรอบความคิดครอบครัวลำดับแรกเป็นศูนย์กลางต่อการตัดสินใจของเขา และจะเป็นหลักการนำทางภายในความเป็นผู้นำของเขา เขาคุ้มครองครอบครัวของเขา มั่นใจได้ว่าลูกของเขาพยายามห่างจากความรุนแรงของธุรกิจเท่าที่เป็นไปได้บนวันแต่งงานของลูกสาวของเขาส่วนใหญ่ของงานแต่งงานจะไปสู่การประชุมของวีโต คอร์ลีโอเน “ถ้าไม่มีอะไรอย่างอื่น ผมจะไปงานแต่งงาน” “หรือชายที่ไม่ใช้เวลากับครอบครัวของเขาไม่เคยสามารถเป็นชายที่แท้จริงได้” มันเป็นคำพูดอ้างอิงของความสมดุลงานและชีวิตที่สมบูรณ์ วีโต คอร์ลีโอเนรับรู้ความสำคัญของการพบความสมดุลระหว่างความต้องการ
ของชีวิตอาชีพและความต้องการของครอบครัว
“ทิ้งปืนไว้ เอาแคนนอลี” ในฐานะของผู้นำ มันสำคัญที่ควรจะรู้ว่าเมื่อไรจะใช้ความโหดร้าย และเมื่อไรเราควรจะลิ้มรสช่วงเวลาที่หวานของชีวิต ดังคำพูดอ้างอิงนี้ ได้เตือนใจเรารักษาความสมดุลระหว่างชีวิตอาชีพและส่วนบุคคล เมื่อปีเตอร์ เคลเมนซา ได้ตะโกนถ้อยคำความทรงจำนี้ เขาได้สอนเราว่าในขณะที่โลกธุรกิจสามารถตัดคอหอยกันได้ เราไม่ควรจะสูญเสียการมองเห็นความยินดีเล็กน้อย
แก่นของเรื่องที่ปรากฏอยู่บ่อยภายในภาพยนตร์คือ ความสามารถของดอนคอร์ลีโอเน นำทางความซับซ้อนของครอบครัวและธุรกิจ ความสงบของเขาระหว่างงานแต่งงานของลูกสาวของเขาทั้งที่มีการขอร้องเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ สะท้อนความสามารถของเขาจัดการ ทั้งความรับผิดชอบส่วนบุคคลและอาชีพได้พร้อมกัน แม้ว่าเขาเข้มงวดและวินัยภายในธุรกิจของเขา เขาจะดูแลอย่างลึกซึ้ง และป้องกันครอบครัวของเขา สร้างความสมดุลทั้งสองโลกโดยไม่มีการผ่อนปรนโดยไม่คำนึงถึงความรุนแรงของครอบครัวคอร์ลีโอเนถูกนำเสนอภายในภาพยนตร์อย่างไร เราไม่มีข้อสงสัยเลยว่า ความจงรักภักดีต่อครอบครัวค่อนข้างสำคัญภายในวัฒนธรรมมาเฟียทั้งหมดการกระทำทุกอย่างโดยดอน คอร์ลีโอเนได้พิจารณผลประโยชน์อย่างดีที่สุดของครอบครัวของเขา แม้แต่เขาได้ถามบุคคลที่มาหาเขาเพื่อความช่วยเหลือ ในกรณีนี้คือลูกทูนหัวของเขา จอห์นนี ฟอนเทนระหว่างงานแต่งงานของคอนนี่ ดอน คอร์ลีโอเน ได้พบกับลูกทูนหัวและนักร้องที่มีชื่อเสียงของเขา จอห์นนี ฟอนเทน เขาต้องการความช่วยเหลือของกอดฟาเธอร์ให้เขาเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ที่สามารถนำเขา กลับไปสู่จุดสูงสุด ภายหลังการรับฟังปัญหาของฟอนเทนแล้ว ดอน คอร์ลีโอเนได้ร้องตะโกนแก่เขาต่อน้ำตาที่ไหลออกมา ในขณะที่ลูกชายคนโตสุดของเขา ซอนนี เข้ามาภายในห้อง เเละดูประหนึ่งได้ถามฟอนเทน แวบเเรกที่ได้มองเห็นซอนนี่ ถ้าไม่ใช้เวลากับครอบครัวของคุณ คุณไม่สามารถจะเป็นบุคคลครอบครัวที่ซื่อสัตย์ได้ถ้อยคำนี้ได้พูดถึงความสาคัญของพันธะทางครอบครัว และบทบาทที่มันแสดงภายในการระบุความเป็นชายของบุคคล มันได้แสดงความคิดว่าชายที่แท้จริง ไม่ควรจะถูกวัดโดยความเข้มแข็งทางร่างกาย หรือความสำเร็จภายในภายในโลกภายนอกเท่านั้น เเต่โดยความผูกพัน และการเชื่อมโยงต่อบุคคลที่รักของเขาด้วย คำพูดอ้างอิงนี้ได้มุ่งเน้นว่าผู้ชายสามารถจะถูกพิจารณาอย่างแท้จริงและสมบูรณ์ เมื่อพวกเขาให้ความสำคัญ และลงทุนเวลาต่อการสนับสนุน และการเลี้ยงดูความสัมพันธ์กับครอบครัวของเขา ด้วยการทำสิ่งเหล่านี้ เขาได้แสดงคุณลักษณะของความรัก ความจงรักภักดี และความรับผิดชอบมันหมายถึงเป็นชายอย่างแท้จริง ดอน คอร์ลีโอเนรู้คุณค่าของความเป็นครอบครัว และความสำคัญของมันต่่อบุคคลโดยรวม
การประชุมส่วนตัวกับดอน คอร์ลีโอเน บนวันแต่งงานของลูกสาวสำคัญเพราะว่ามันสะท้อนประเพณีซิซิลี ตรงที่เขาไม่สามารถปฏิเสธคำร้องขอได้ การแสดงสัญลักษณ์ลักษณะของส่วนบุคคลและธุรกิจอาชญากรรมที่พันกันภายในเรื่อวราวของกอดฟาเธอร์ ประเพณีจะกำหนดว่าชาวซิซิลีไม่สามารถปฏิเสธคำร้องขอที่มีเหตุผลใดก็ตามบนวันแต่งงานของลูกสาวของเขา ส่วนใหญ่ของการแต่งงาน ไปสู่การประชุมธุรกิจเพื่อดอน คอร์ลีโอเน “ถ้าไม่มีอะไรอีกแล้ว ผมขอไปงานแต่งงาน”
ทำไมดอน คอร์ลีโอเน ดูเหมือนลังเลที่จะเชิญลูคา บราซี มาวันแต่งงานของลูกสาวของเขา เพราะว่าเขากลัวลูคา บราซีอาจจะร้องขอต่อเขาที่เขาไม่อยากจะทำ แต่โดยประเพณีต้องถูกบังคับให้ทำ ลูคา บราซีเป็นบุคคลที่รุนแรงและอันตรายมาก ไม่เชื่อฟังใครเลยนอกจากดอน คอร์ลีโอเน เขามีประโยชน์เป็นเครื่องมือใช้บังคับความต้องการของดอน คอร์ลีโอเน การแต่งงานของลูกสาวคนเดียวของเขาเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข สังคม และครอบครัว ลูคา บราซี ไม่ได้เป็นครอบครัวดอน คอร์ลีโอเน จะรักครอบครัวมากกว่าอะไรก็ตาม เขาจะเป็นบุคคลที่รอบคอบ พิจารณาทุกสิ่งทุกอย่างที่ครอบคลุม โดยเฉพาะห่วงใยเกี่ยวกับผลกระทบตามมาของสถานการณ์ ยิ่งกว่านั้นเขาไม่ได้ถูกอิทธิพลโดยอารมณ์ เขาเป็นนายของอารมณ์ ไม่ใช่ทาสของอารมณ์ เขาเกลียดศัตรูทำร้ายครอบครัวของเขา แต่เขาสามารถควบคุมความเกลียดได้ภายในใจของดอน คอร์ลีโอเน เมื่อคุณเผชิญกับความยุ่งยาก ครอบครัวเท่านั้นจะทำทุกสิ่งทุกอย่างช่วยเหลือคุณ ดังนั้นคุณไม่สามารถทรยศต่อครอบครัวได้ มันมาจากประเพณีของชาวซิซิลี เพราะว่าครอบครัวของเขาได้ถูกทำลาย เมื่อตอนที่เขาเป็นวัยหนุ่ม ดังนั้นมุมมองของครอบครัวของดอน คอร์ลีโอเน สำคัญอย่างมาก ภายในงานแต่งงานของลูกสาวของเขา ดอน คอร์ลีโอเนยึนยันไม่ถ่ายภาพ เพราะว่าไม่เคิลยังไม่ได้มา เมื่อเขาคิดว่าบุคคลทุกคยภายในครอบครัวต้องอยู่ด้วยกันที่จะถ่ายภาพ และไม่มีใครสามารถถูกทิ้งไว้ข้างหลังเขามีลูกเลี้ยงกลายเป็นที่ปรึกษาของเขาเมื่อเขาได้เจริญเติบโต ชื่อทอมเฮแกน ดอน คอร์ลีโอเน ได้เลี้ยงดูเขาเหมือนลูกของเขาเองแต่เขาไม่ยอมให้เฮแกนเปลี่ยนชื่อนามสกุลของเขาเป็นคอร์ลีโอเน เมื่อเขาคิดว่าการทำสิ่งนี้เท่ากับยอมให้เฮแกนละทิ้งครอบครัวของเขา
* ผมทำงานทั้งชีวิตของผม ผมไมขอโทษ ดูแลครอบครัวของผม ผมไม่ขอโทษ นั้นคือชีวิตของผม – ดอน คอร์ลีโอเน
* ชายที่ไม่ได้เป็นพ่อของลูกไม่สามารถเป็นชายที่แท้จริงได้
* คุณสามารถทำอะไรก็ตาม แต่ไม่เคยต่อต้านครอบครัว
* ชายที่ไม่ใช้เวลากับครอบครัวของเขาไม่เคสามารถเป็นชายที่แท้จริง
*ผมมีจุดอ่อนทางความรู้สึกต่อลูกของผม และผมทำให้พวกเขาเสียตามที่คุณสามารถมองเห็น พวกเขาพูดเมื่อพวกเขาควรจะฟัง
*ไม่เคยบอกใครก็ตามข้างนอกครอบครัวคุณกำลังคิดอะไรอีกครั้งลูคา บราซี มาสู่ครอบครัวคอร์ลีโอเน เพื่องานเเต่งงานของคอนนี่ เขาถูกมองเห็นครั้งเเรกนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างนอกบ้านของดอน คอร์ลีโอเน และได้พึมพำอะไรที่เขาตั้งใจจะกล่าวแก่ดอน คอร์ลีโอเน ภายในความขอบคุณเพียงเพื่อถูกเชิญมางานเลี้ยง ไมเคิล คอร์ลีโอเน ได้อธิบายต่่อเพื่่อนสาวของเขา เคย์ อดัมส์ เรื่องราวของดอน คอร์ลีโอเน ช่วยลูกทูนหัวของเขาจอห์นนี ฟอนเทน อย่างไรไมเคิล ได้อธิบายว่าพ่อของเขาไปชักจูงหัวหน้าวง เลส ฮอลลีย์ ปล่อยจอห์นนีจากสัญญาบริการส่วนบุคคลที่สกัดกั้นอาชีพการร้องเพลงของจอห์นนี ภายหลังจากการปฏิเสธข้อเสนอ 10000 เหรียญ ดอน คอร์ลีโอเนได้กลับมาวันต่อมาด้วยลูคา บราซี และภายในหนึ่งชั่วโมงหัวหน้าวงลงนามปล่อยเพียงเพื่อข้อเสนอครั้งที่สองของ 1000 เหรียญ เท่านั้น ลูคา บราซี ได้ถือปืนจ่อที่หัวของหัวหน้าวงในขณะที่ดอน คอร์ลีโอเนได้ยืนยันเขาว่าสมองของเขา หรือลายมือชื่อของเขาจะอยู่บนสัญญาโดยปรกติลูคา บราซี จะหลีกเลี่ยงการติดต่อสาธารณะกับดอน คอร์ลีโอเนที่จะป้องกันชื่อเสียงของกอดฟาเธอร์ ดังนั้นการเชิญมางานแต่งงานเป็นความประหลาดใจอย่างเเท้จริง ลูคา บราซีปลื้มปิติอย่างมากเมื่อเขาได้รับการเชิญ และได้ใช้เวลาอย่างมากตัดสินใจแสดงความเคารพของเขาอย่างดีที่สุดอย่างไรต่อผู้มีพระคุณมาเฟียของเขา ลูคา บราซีได้ให้จำนวนมากแก่กระเป๋าเงินเจ้าสาวโดยตรงต่อดอน คอร์ลีโอเนที่ได้ถูกกล่าวว่ามากที่สุด มันไม่ยากที่จะคิดว่ากอดฟาเธอร์เป็นภาพยนตร์ของผู้ชาย ผู้หญิงภายในภาพยนตร์โดยส่วนใหญ่ถูกมองต่ำต้อยและอ่อนแอเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ชายภายในชีวิตของพวกเธอ มันไม่น่าประหลาดใจเลยเมื่อลูคา บราซี ได้อวยพรว่าลูกคนแรกของลูกสาว คอนนี ของดอน คอร์ลีโอเน และสามีคนใหม่คือ คาร์โล เป็นลูกชาย
“ผมได้เรียนรู้จากถนนมากกว่าภายในห้องเรียนใดก็ตาม” คำพูดอ้างอิงนี้มาจากดอน คอร์ลีโอเน เขาได้กลายเป็นความมั่งคั่งผ่านทางการดำเนินงานที่ผิดกฏหมายและบริษัทน้ำมันมะกอกของเขา เจ็นโกพูรา เจ็นโก พูรา เริ่มต้นเป็นผู้นำเข้าน้ำมันมะกอก และในที่สุดกลายเป็นใหญ่ที่สุดภายในประเทศ มันจะเป็นแนวหน้าที่ถูกกฏหมายที่สำคัญต่อองค์กรอาชญากรรมของวีโต คอร์ลีโอเนคำพูดอ้างอิงนี้ได้ถ่ายทอดความคิดว่าบุคคลสามารถเรียนรู้อย่างมากภายนอกห้องเรียน การเกี่ยวพันกันและสภาพแวดล้อมโลกแห่งความจริงสามารถช่วยเหลือคิดอย่างวิเคราะห์เกี่ยวกับสภาพเเวดล้อมทางสังคมที่ซับซ้อน การเกี่ยวพันกับจากภูมิหลังที่หลากหลายสามารถช่วยให้บุคคลพัฒนาความรู้สึกร่วม ความอดทน และความเข้าใจทักษะเหล่านี้สามารถช่วยให้บุคคลขยายมุมมองโลกของพวกเขา และกลายเป็นบุคคลโลกที่ดีขึ้นคำพูดอ้างอิงนี้ได้กล่าวถึงคุณค่าของประสบการณ์โลกที่แท้จริง และบทเรียนที่เรียนรู้ผ่านความท้าทายของชีวิต ซอนนี คอร์ลีโอเน เสนอแนะว่าความรู้ทางปฏิบัติจะได้มาจากการนำทางบนถนน ที่มักจะมีผลกระทบและคุณค่ามากกว่าการศึกษาภายในห้องเรียนเท่านั้น ไม่มีอะไรสามารถชนะประสบการณ์โลกแห่งความจริงได้”ทนายความด้วยกระเป๋าเอกสารสามารถขโมยเงินได้มากกว่าบุคคลด้วยปืน”คำพูดอ้างอิงนี้ได้ส่องแสงอิทธิพลและอำนาจของความรู้ กลยุทธ์ และกลอุบายภายในการบรรลุผลประโยชน์ส่วนบุคคล แสดงว่าควาเชี่ยวชาญทางความฉลาดแกมโกงและความรู้กฏหมายสามารถมีประสิทธิภาพบรรลุเป้าหมายของบุคคลมากกว่าการอาศัยการแก้เเค้น ถ้อยคำได้พูดถึงพลังของความฉลาดและกลอุบายเหนือพลังดุร้า มันได้สรุปอำนาจของอิทธิพลควบคุมโดยบุคคลที่เข้าใจความซับซ้อนของระบบกฏหมาย ที่ครอบครองความรู้ที่จะใช้ประโยชน์ช่องโหว่ของมันเพื่อผลประโยชน์ส่วนบุคคล”เราไม่อภิปรายธุกิจ ณ โต๊ะอาหาร”ช่วงเวลานี้เป็นการสรุปที่ยิ่งใหญ่ของซอนนี คอร์ลีโอเน เขาได้พูดถ้อยคำอ้างอ่งนี้หยุด และไม่สนใจสามีที่ไม่เหมาะสมของน้องสาวของเขา คำพูดนี้ได้แสดงศีลธรรมเฉพาะที่ซอนนนีได้ยึดไว้ ณ แกนของเขา เขาเต็มใจที่จะไม่สนใจสามีของน้องสาวของเขาเอง แต่กระนั้นเขาไม่เต็มใจยอมให้น้องเขยของเขาหลอกลวงเธอแต่อย่างใด เขาไม่ได้อ่อนโยน แต่เขาเกลียดอย่างโหดร้าย
Cr : รศ สมยศ นาวีการ