ไม่คืบหน้าทั้งสันติภาพกาซาและกัมพูชา

สบาย สบาย สไตล์เกษม
เกษม อัชฌาสัย
ไม่คืบหน้าทั้งสันติภาพกาซาและกัมพูชา
ผมเคยเขียนก่อนหน้านี้ว่า การตกลงหยุดยิงล่าสุดในกาซาของ”ประธานาธิบดีสหรัฐ”โดนัลด์ ทรัมป์”ตามข้อเสนอตกลงสันติภาพ ๒๐ ข้อ โดยมีการหยุดยิงและแลกเปลี่ยนเชลยอันเป็นขั้นแรกในการปฏิบัติตามนั้น เป็นเพียงแค่กลยุทธ์เพื่อให้อิสราเอลได้”ตัวประกัน”กลับคืนไปจนครบถ้วนเท่านั้น
ซึ่งก็เป็นจริงตามที่ผมคาดคะเน เพราะมีการละเมิดหยุดยิงขึ้นมาอีกแล้ว ชาวกาซาตายเพิ่มไปอีกกว่า ๒๐ ราย ทหารอิสราเอลเสียชีวิตไปสองนาย
แต่สหรัฐโดย”ทรัมป์”คงยืนกรานว่า การหยุดยิงยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป เช่นเดียวกันกับที่อิสราเอลก็ยืนยันตามเช่นนั้น เพราะยังได้ศพชาวอิสราเอลที่ถูกจับไปไม่ครบถ้วน
หากได้ไม่ครบ ชาวบ้านอิสราเอลซึ่งเป็นญาติ ก็จะเอาเรื่องรัฐบาลไม่เลิก จะยังออกมาขับไล่”เนทันยาฮู”ต่อไป แม้”ทรัมป์”จะประกาศขอต่อประธานาธิบดีแห่งอิสราเอลให้อภัยโทษยกเลิกคดีฉ้อโกงติดตัวเขาอยู่
เพราะในสายตา””ทรัมป์”นั้น”เนทันยาฮู”คือพันธมิตรที่ดีที่สุดที่เขามีในยามนี้
จำได้ใช่ไหมครับว่า”ทรัมป์”พูดเรื่องนี้ในสภา”คเนตเสต”ของอิสราเอล ในวันที่เขาไปเยือน ก่อนจะเดินทางไปประชุมกับชาติมุสลิมที่”ชาร์ม เอล เชก”เพื่อเดินหน้าต่อแผนสันติภาพ ๒๐ ของเขา ที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะช่วยทำให้ได้รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพอย่างน้อยก็ในปีหน้า หลังจากที่พลาดไปแล้ว สำหรับปีนี้
ในกรณีหาเสียง-หาความนิยมนี้ แน่นอนว่า”ทรัมป์”จะพยายามทำแต้มต่อไป โดยการเดินทางมาประชุมมาเป็นประธานร่วมลงนามใน”ข้อตกลงกัวลาลัมเปอร์” Kuala Lumpur Accord 2025 ระหว่างไทยกับกัมพูชา ระหว่างวันที่ ๒๖-๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๘ ในวาระที่อาเซียนมีการประชุมสุดยอดที่นั่น
แม้จะมิใช่ข้อตกลงสันติภาพเต็มรูปแบบ ด้วยชัดเจนว่า ไทยไม่เอาด้วย เนื่องจากกัมพูชายังไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง(๒๘กค.๖๘)อย่างเคร่งครัด แถมยังพยายามยั่วยุเรื่อยมาเสียด้วย
ในขณะเดียวกันกัมพูชาก็พยายามใช้ทุกเวทีโลก โฆษณาชวนเชื่อว่าฝ่ายไทยยั่วยุและละเมิดการหยุดยิง อย่างหน้าด้าน ๆ จนล่าสุด ตัวแทนกัมพูชาถูกตำหนิโดยประธานในที่ประชุมเจนีวา เพราะเห็นว่าผิดมารยาท ที่ใช้เวลายืดยาวเกินไป ในการป่าวประกาศโยนความผิดให้ไทย
อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าล่าสุด ที่มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee – GBC)ระดับเลขานุการที่กัวลามลัมเปอร์ ก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ในสามประเด็นคือ ใน ๑ ประเด็นการถอนทหาร(และอาวุธ) ๒ ประเด็นการจัดเก็บทุ่นระเบิดและ ๓ ประเด็นการปราบปราม Cyber Scam
ฉะนั้น โอกาศที่ไทยกับพูชาจะปรับความสัมพันธ์ทางการทูตให้ราบรื่นนั้น ย่อมมีหนทางที่จะเป็นไปได้ ตามที่”สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว”รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยให้ความหวังไว้
ยกเว้นแต่ว่ากัมพูชาไม่ยอมถอนชาวบ้านออกจากบ้านหนองจานเท่านั้น ซึ่งนั่นเป็นประเด็นที่ ๔ ที่ไทยยืนกรานว่า กัมพูชาจะต้องถอนชาวบ้านออกไป
เพราะที่นั่นเป็นดินแดนไทยชัดเจน เพราะชาวกัมพูชาเข้ามาอาศัยหลบหนีสงครามภายในระหว่างเขมรสามฝ่าย แต่บางส่วนไม่ยอมถอนตัวกลับไป แล้วจะมาอ้างว่าที่นั่นคือดินแดนกัมพูชาได้อย่างไรกัน
ในวันนี้ (๒๓ ตค.๖๘)ก็จะรู้กันว่าที่ประชุมระดับรัฐมนตรีกลาโหมของ GBC ที่กัวลาลัมเปอร์ จะมีผลออกมาอย่างไรในประเด็นที่ ๔ และจะกลายเป็นอุปสรรคต่อสามข้อที่ว่าข้างบนได้หรือไม่
โดยสรุปความพยามสร้างสันติภาพในสามเรื่องไม่ว่าจะในกาซา ในกัมพูชาและแม้แต่ในยูเครนของ”ทรัมป์”นั้นไม่ใช่จะเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดายเลย
มารอดูกันว่า “ทรัมป์”จะทำหน้าอย่างไร หากไทยไม่ยอมเข้าร่วมการลงนาม“ข้อตกลงกัวลาลัมเปอร์”
ทั้งยังเป็นไปได้ด้วยว่า หากกัมพูชาไม่ยินยอมปฏิบัติตามทำตามข้อเสนอครบ ๔ ข้อ
การเผชิญหน้าครั้งใหม่ ด้วยการสู้รบ ก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน







