INEWHORIZON

ขอบฟ้าใหม่

อิสราเอลใจดำเป็นที่ประจักษ์

สบาย สบาย สไตล์เกษม
เกษม อัชฌาสัย
อิสราเอลใจดำเป็นที่ประจักษ์
ผมอ่านข่าว”เบน-กวิร์”แสดงความไม่เห็นด้วยกับการเปิดช่องทางให้ความช่วยเหลือชาวกาซาสองล้านคนที่กำลังจะอดตายแล้ว คับแค้นใจมากครับ
“เบน-กวิร์”คือใคร ?
เขามีชื่อเต็มๆ ว่า”อิตามาร์ เบน-กวิร์” รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติของอิสราเอลคืออดีตทนายวัย ๔๙ ที่มีความคิดขวาตกขอบ เป็นผู้นำพรรคพลังชาวยิว Otzma Jehudit
นับว่าเป็นตัวแทน”ไซออนิสต์”อย่างแท้จริง ตามอุดมการณ์”คาฮานิสต์นิยม”
ความเป็นขวาตกขอบของ”เบน-กวิร์”มีมากกว่า”เบนจามิน เนทันยาฮู”นายกรัฐมนตรี เสียอีก เพราะในที่สุด”เนทันยาฮู”ก็ทำท่ายอมจะเปิดพรมแดน เพื่อให้การบรรเทาทุกข์ความช่วยเหลือจากภายนอกเข้าไปบรรเทาความอดอยากปากไหม้ของชาวกาซาที่กำลังจะอดตาย
ทั้งนี้ หลังจากที่”เนทันยาฮู”ได้เปิดฉากสงคราม”ปิดประตูตีแมว”หมายกำจัดกลุ่ม”ฮามาส”มาตั้งแต่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๖ แล้ว โดยไม่สนใจต่อในชีวิตของพลเรือนแต่อย่างไร
ตามที่”เนทันยาฮู”ลั่นวาจาไว้แต่แรกว่า จะกำจัดไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว ด้วยการใช้การปิดกั้นพรมแดนเป็นเครื่องมือในสงครามไปพร้อมๆ กับถล่มด้วยระเบิด ขีปนาวุธและปืนใหญ่ โดยไม่แยกแยะเป้าหมาย
เพราะเช่นนั้น ๆ ไมว่าที่อยู่อาศัย โรงเรียน โรงพยาบาล สุเหร่า หรือแม้แค่ค่ายผู้อพยพ ก็ตกเป็นเป้าทำลายด้วย
หากสงสัยว่าจะเป็นที่หลบซ่อนของสมาชิก”ฮามาส”
ฉะนั้น จึงไม่แปลกเลยที่พลเรือนรวมทั้งเด็กๆ จะเสียชีวิตไปกว่า ๕๓,๐๐๐ แล้ว บาดเจ็บอีกเท่าไร ก็ไม่แน่ใจครับ
แต่หลังสุดถูกกดดันจากวงการระหว่างประเทศมากเข้าว่าการทำสงครามแบบเหวี่ยงแหเช่นนี้เป็นการกระทำผิดหลักมนุษยธรรม
ในที่สุดอิสราเอลก็เลยต้องยอมเปิดพรมแดนที่ล้อมเอาไว้นิดหน่อยเพื่อให้ขบวนรถบรรเทาทุกข์อาหารสำหรับเด็กเล็ก เข้าไปได้จำนวนหนึ่งเพียงไม่กี่คันเท่านั้น
ทั้งนี้ หลังมีข่าวฉาวโฉ่จากหน่วยงานบรรเทาทุกข์สหประชาชาติว่าการปิดกั้นแบบโหดเหี้ยมไม่สนใจในมนุษย์ธรรมนั้น ทำให้เด็กๆ ต้องเสียชีวิตเพราะความอดอยากแล้วหลายคนและกำลังจะตายเพิ่มมากขึ้
ก่อนจะพูดถึงสถานการณ์กาซาต่อ ก็ใคร่จะเขียนถึง”เบน-กวีร์”อีกนิดหนึ่งว่า เขาเคยมีประวัติความโหดเหี้ยมมาแล้วในอดีต ทั้งก่อนหน้าที่จะเล่นการเมืองเต็มรูปแบบ
โดยถูกกล่าวหาว่า เป็นคนหนึ่งที่สมรู้ร่วมคิดในการสังหาร”อดีตนายกรัฐมนตรี”อิตซัก ราบิน”ในปี ๒๕๓๘ เพราะไม่พอใจที่”ราบิน”สนับสนุนสันติภาพ
อีกหนหนึ่งก็คือ เขาออกคำสั่งให้ตำรวจยิงชาวปาเลสไตน์ได้ โดยไม่ต้องรับผิดชอบ ในกรณีที่ชาวปาเลสไตน์ชุมนุมแล้วโบกธงชาติ เพื่อแสดงความเป็นตัวตน เพื่อแสดงความเป็น”เจ้าถิ่น”ที่แท้จริงในดินแดนปาเลสไตน์
ในเรื่องของความมีจิตใจเหี้ยมโหดนี้ มีอีกกรณีหนึ่งที่ใคร่จะหยิบยกมาเขียนชัดๆ ก็คือ
เมื่อปี ๒๕๖๖ รัฐมนตรีกระทรวงมรดกหรือ Heritage minister คือ”อะมิชัย เอลิยาฮู”เคยพูดว่า:-
”ทางหนึ่งในการปราบ”ฮามาส”ก็คือการใช้ระเบิดปรมาณู”
ดีที่”เนทันยาฮู”ไม่เชื่อ
                                                                                                                       เป็นยังไงครับ สภาพจิตใจที่ไร้มนุษยธรรมของนักการเมืองยิวทั้งสองคนนี้ พอจะสะท้อนภาวะจิตใจของชาวยิวโดยรวมได้หรือไม่ ว่ามีความรู้สึกต่อชาวปาเลสไตน์เจ้าของแผ่นดินตัวจริงอย่างไร
ซึ่งผมเองไม่เชื่อชาวยิวทุกๆ คนจะเป็นเช่นที่ตั้งข้อสงสัย
ชาวยิวดีๆ ที่ผมเคยพบกับตัวเองมาหลายคนยืนยันได้ว่า พวกเขาคือมนุษย์ธรรมดานี่เอง มีความรู้สึกนึกคิด ที่ดีงามและมีคุณธรรม
แต่บรรดาผู้นำอิสราเอล มีแต่จะเอาให้ตาย ให้วินาศย่อยยับ โดยลืมไปว่ามนุษย์ทุกคนล้วนมาจากมนุษย์คู่แรกคือ“อาดัม”และ”อีฟ”ตามคติความเชื่อของศาสนาคริสต์ อิสลามและยูดาย
ล่าสุด ณ ขณะที่เขียนเรื่องนี้ (๒๑ พค.๖๘) กองกำลังอิสราเอลยังคงถล่มกาซาอยู่อย่างต่อเนื่องครับ
ไม่สนใจต่อการส่งเสียงโวยวายของสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปที่ขู่จะบอยคอตทางการค้า
ขณะเดียวกันทางสหประชาชาติก็โวยด้วยว่าเด็กเล็กแรกเกิด ๑๔,๐๐๐ รายในกาซากำลังจะอดตายภายใน ๔๘ ชั่วโมงนี้แล้ว
เหตุการณ์ในกาซาจะเป็นอย่างไรต่อจากนี้ อิสราเอลจะเข้ายึดครองเป็นเพื่อผนวก”กาซา”เข้าเป็นส่วนหนึ่งจริงตามที่เล่าลือกันหรือไม่
ชาวกาซาจะถูกขับออกจากถิ่นที่อยู่หรือไม่และอย่างไร                               
ผมจะติดตามมารายงานความคืบหน้าครับ
Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *