INEWHORIZON

ขอบฟ้าใหม่

นายกรัฐมนตรีคนใหม่อิรักกับฉากทัศน์ทางการเมืองที่เปราะบาง

นายกรัฐมนตรีคนใหม่อิรักกับฉากทัศน์ทางการเมืองที่เปราะบาง

ประเสริฐ สุขศาสน์กวิน

คณะรัฐประศาสนศาสตร์  วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม

ถ้าจำกันได้ภาพข่าวการมีผู้ประท้วงชาวอิรักเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นๆปี ค.ศ.2021 เป็นต้นมา และส่วนใหญ่ของกลุ่มผู้ประท้วงเป็นกลุ่มการเมืองปีกของซัยยิด มุกตะดา อัศ-ศ็อดร์ และที่เป็นข่าวไปทั่วโลกพวกเขาได้ได้บุกเข้าไปในรัฐสภาและได้คัดค้านเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคการเมืองที่อิหร่านให้การสนับสนุน

จนกระทั้งเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้สร้างความวิตกไม่น้อยสำหรับผู้ติดตามการเมืองประเทศอิรัก กับข่าวที่สื่อกระแสหลักพูดถึงและเผยแพร่ภาพของการประท้วงของประชาชนที่ไม่พอใจรัฐบาลชุดของประธานาธิบดี นายบัรฮัม ศอและ และอดีตนายกรัฐมนตรี มุสตอฟา อัลกาซิมี  ทำให้นักวิเคราะห์ยังแสดงถึงความวิกฤตการเมืองของอิรักและกล่าวกันว่าอาจจะไปถึงความเป็น”รัฐล้มเหลว”ก็เป็นได้  โดยข่าวได้รายงานว่าความรุนแรงของผู้ประท้วงชาวอิรักที่นิยมต่อซัยยิด มุกตะดา ศ็อดร์หรือขบวนการศ็อดร์ ได้ออกมาเขย่า การเมืองในอิรักอย่างน่าติดตาม

ซัยยิดมุกตะดา อัล-ศอดร์ นักการศาสนาและนักการเมืองชื่อดังของอิรักและยังเป็นผู้ทรงอิทธิพลการเมืองคนสำคัญของอิรักในวันนี้ก็ว่าได้ เขาได้ออกมาเรียกร้องความสงบและยังได้ประกาศขอยุติบทบาททางการเมือง โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับความล้มเหลวของฝ่ายชีอะห์ ในการร่วมปฏิรูปทางการเมืองในอิรัก และเขายังได้วิจารณ์ธรรมาภิบาลปัจจุบันของรัฐว่าเป็นรัฐ “ที่ล้มเหลว”

ข่าวรายงานอีกว่าเนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลยังคงไม่สำเร็จ หลายฝ่ายจึงมองว่า ยิ่งเป็นการสะสมความตึงเครียด และความรุนแรงที่ปะทุยิ่งบานปลาย โดยผู้สนับสนุนและฝ่ายต่อต้าน อัดศอ็ดร์ ปะทะกันอย่างหนัก ในหลายพื้นที่ของกรุงแบกแดด รวมถึงกรีนโซนที่เป็นเขตความมั่นคงสูง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า50รายและบาดเจ็บหลายร้อยคน

 

      นักวิเคราะห์ด้านอิรักศึกษามองว่าชนวนความขัดแย้งและวิกฤตมีหลายปัจจัย ดังนี้

 หนึ่ง-เนื่องจากกลุ่มขบวนการอัศ-ศ็อดร์( Al-Sadr Movement)มีความขัดแย้งระหว่างกลุ่มการเมืองชีอะฮ์อื่นๆ   ซึ่งซัยยิดมุกตะดา อัศ-ศอ๊ดร์ได้กล่าวย้ำตลอดว่า นักการเมืองคนใดก็ตามซึ่งอยู่ในอำนาจ นับตั้งแต่การรุกรานของสหรัฐฯ ไม่สมควรอยู่ในอำนาจอีกต่อไป  นั่นหมายถึงกลุ่มการเมืองของอดีตนายกรัฐมนตรี นูรี อัลมาลีกีและเป็นการเมืองปีกสนับสนุนอิหร่าน

สอง- เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มการเมืองที่อิหร่านสนับสนุนกับกลุ่มขบวนการอัศ-ศ็อดร์( Al-Sadr Movement) โดยกลุ่มปีกของซัยยิดมุกตะดา อัศ-ศอ็ดร์มองว่าอิหร่านเข้ามาแทรกแซงการเมืองภายในมากเกินไปและพวกเขาต้องการจะสร้างการเมืองในแบบของอาหรับและอิรักไม่ต้องการอยู่ภายใต้นโนบายทางการเมืองของอิหร่าน

 สาม- เป็นเหตุปัจจัยภายนอกที่ต้องการทำลายเสถียรภาพการเมืองในอิรักและความเป็นเอกภาพระหว่างกลุ่มการเมืองชีอะฮ์ลงและไม่ต้องการให้อิหร่านเข้ามามีอิทธิพลในอิรักซึ่งนั่นคืออิสราเอลและสหรัฐฯได้วางอุบายของความขัดแย้งให้เกิดขึ้น

สี่-เนื่องจากความแข็งกร้าวมากจนเกินไปของซัยยิด มุกตะดา ศ็อดร์ ที่ไม่มีการประณีประนอมทางการเมืองกับกลุ่มอื่นๆ จนไม่สามารถหาจุดร่วมกับกลุ่มการเมืองอื่นๆได้ และเขายังพยายามจะสร้างอัตลักษณ์ตัวเองให้โดดเด่นทางการเมืองในอิรักและเป็นผู้กำหนดการเมืองอิรักเอง โดยไม่ได้เห็นด้วยกับผู้นำจิตวิญญาณระดับสูงของโลกชีอะฮ์ อย่าง อายาตุลลอฮ์ ซิสตานี และเขายังพยายามจะอยู่ตรงกันข้ามกับการต่างประเทศของอิหร่าน ถึงแม้ว่าจะมีหลายนโนบายได้เห็นด้วยกับอิหร่าน เช่นการขับไล่ฐานทัพสหรัฐฯออกจากอิรัก หรือประเด็นปัญหาเรื่องปาเลสไตน์

ซัยยิด มุกตะดา  อัศ-ศอ๊ดร์ คือใคร?

ถ้าย้อนดูประวัติย่อๆของซัยยิด มุกตะดา อัศ-ศ็อดร์แล้ว จะพบว่าเขานั้นทำกิจกรรมทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง จุดเด่นของกลุ่มการเมืองนี้คือเขาได้รวบรวมชาวอิรักที่เป็นคนหนุ่มสาวจำนวนมากมายและถือว่าเป็นความหวังของชาวอิรักยุคใหม่เพื่อเข้าถึงประชาชนที่ยากจนและเขาได้รวบรวมกลุ่มก้อนที่เป็นสายตระกูล อัศศ๊อดร์ เข้าด้วยกัน  ต่อมาเขาได้จัดตั้งกองกำลังอาสา”เยชุลมะฮ์ดี(กองกำลังอิมามมะดี)”  จุดเด่นของขบวนการศ๊อดร์( Al-Sadr Movement)  คือได้นำเรื่องปัญหาปาเลสไตน์ผูกโยงกับปัญหาในอิรักและเขาสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธฮามาสต่อสู้กับอิสราเอลและยังสนับสนุนกลุ่มกองกำลังฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอนอีกด้วย และซัยยิดมุกตะดา ศ็อดร์ยังทำงานร่วมกับกลุ่มการเมืองของนิกายซุนนีในเขตพื้นที่ฟะลูจา และจุดยืนขบวนการการเมืองซัยยิดมุกตะดา อัศศ็อดร์ ต่อต้านสหรัฐฯอย่างรุนแรงและเรียกร้องให้สหรัฐฯถอนฐานทัพออกไปจากอิรักและ ไม่ต่อต้านกลุ่มชีอะอ์อื่นๆ  เรียกร้องความเป็นเอกภาพในหมู่ชีอะห์และไม่เผชิญหน้ากับผู้นำทางจิตวิญญาณระดับสูงชีอะฮ์อย่างอายาตุลลอฮ์ ซิสตานี ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางการเมืองกับอิหร่านในระดับที่ไม่ค่อยจะดีนักแต่ไม่เลวร้าย ถึงแม้ว่าจะมีนโยบายทางการเมืองแตกต่างกันอยู่บ้างก็ตาม และเขายังมีแนวคิดสร้างเมือง”อัศศ๊อดร์” ในแบกแดดรวบรวมประชาชนจะอยู่รวมกันมากถึงสองล้านคน

นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอิรัก

วันที่13 ตุลาคม 2565ที่ผ่านมารัฐสภาอิรักได้เลือกนักการเมืองชาวเคอร์ดิช อับดุล ลาติฟ รอชีด (Abdul Latif Rashid) เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งนายอับดุล ลาติฟ รอชีด วัย 78 ปี เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีทรัพยากรน้ำระหว่างปี 2003-2010 เขาเป็นวิศวกรที่จบการศึกษาจากอังกฤษ ได้รับชัยชนะเหนืออดีตประธานาธิบดีบาร์ฮาม ซาลีห์ ที่ลงชิงชัยเพื่อดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 2และทันทีที่ได้รับเลือก เขาได้ระบุชื่อ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ คือ นายโมฮัมเหม็ด ชียาอ์ อัส-สุดานี (Mohammed Shia al-Sudani) ว่ากันว่าอันเป็นการยุติปีแห่งทางตันทางการเมืองอิรักได้เสียที ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในปีกการเมืองของกลุ่มที่สนับสนุนอิหร่านก็ตาม

ที่ต้องจับตาคือนายอับดุล ลาติฟ รอชีด (Abdul Latif Rashid)ประธานาธิบดีคนใหม่ของอิรักได้เชื้อเชิญ นายซูดานี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม ส.ส. ที่ใหญ่ที่สุดในรัฐสภา คือกลุ่ม Coordination Framework ซึ่งเป็นพันธมิตรของกลุ่มที่สอดคล้องกับอิหร่าน ให้มาจัดตั้งรัฐบาล และถือว่าเป็นนายกรัฐมนตรีคนละปีกกับกลุ่มการเมืองซัยยิดมุกตะดา อัศ-ศ็อดร์  ซึ่งนั่นหมายถึงการเมืองต่อจากนี้ในอิรักอาจจะเห็นฉากทัศน์ความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้นหรืออาจจะนำไปสู่การปรองดองด้วยบุคลิกภาพของนายซูดานี นายกรัฐมนตรีป้ายแดง

แต่ถ้าดูปฏิกิริยาทางด้าน”การเมืองกลุ่มซัยยิดมุกตะดา ศ็อดร์”  พวกเขาไม่ได้เข้าร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ครั้งนี้ ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า เป็นไปได้ที่ความขัดแย้งจะปะทุมาอีกครั้งและอาจจะเกิดความวุ่นวายที่ถึงขั้นแตกหักก็เป็นไปได้เลยทีเดียว

ในขณะที่กลุ่มการเมืองที่ได้รับการสนับสนุนจากฟากฝั่งอิหร่านได้มีจุดยืนว่า ถือเป็นความพยายามของสภาและกลุ่มการเมืองในอิรักอีกหลายกลุ่มในการจะแก้ปัญหาวิกฤติในอิรัก

ซัยยิด มุฮัมมัด บาเกร อัลฮะกีม นักการเมืองชีอะฮ์ชื่อดังชาวอิรักกล่าวว่า หลังจากที่นายซูดานีได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี  เราได้เห็นทิศทางการเมืองที่ดีขึ้นระหว่างกลุ่มการเมืองภายในอิรัก และเราหวังว่านายซูดานีคงจะทำให้การเมืองอิรักดีขึ้น

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีคนใหม่อิรักได้เตรียมแผนการพูดคุยกับกลุ่มการเมืองของขบวนการอัศ-ศ็อดร์และพบปะกับซัยยิด มุกตะดา ศ็อดร์ด้วยตัวเอง

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอิรักกล่าวว่า ขบวนการอัศ-ศ็อดร์ถือว่าเป็นกองกำลังอาสาประชาชนที่ใหญ่และมีพลังต่อชาวอิรักเป็นอย่างมากทีเดียวและยังจะสร้างเปลี่ยนแปลงการเมืองอิรักได้อย่างสร้างสรรค์  ดังนั้นเราจะไม่เพิกเฉยต่อการสร้างเสถียรภาพการเมืองในอิรักเด็ดขาด และจะไม่เพิกเฉยในการจะเจรจากับกลุ่มการเมืองฝ่ายมุกตะดา ศ็อดร์แน่นอน

ฉากทัศน์การเมืองอิรักเปราะบางเหมือนที่นักวิเคราะห์ได้พยากรณ์ไว้หรือไม่?หรือว่ากระบวนของการพูดคุยสามารถแก้ปัญหาระหว่างกลุ่มการเมืองฟากซัยยิด มุกตะดา อัศ-ศ็อดร์กับกลุ่มการเมืองที่อิหร่านให้การสนับสนุนจะบรรลุทางการเมืองได้จริงหรือไม่?และบทบาทของนายกรัฐมนตรีคนใหม่กับความท้าทายการเมืองอิรักจะทำได้แค่ไหน? นักวิเคราะห์มองว่า

  • ฉากทัศน์หนึ่งที่อาจจะเกิดขึ้นต่อจากนี้คือความรุนแรงและความขัดแย้งภายในที่ควบคุมไม่ได้เสมือนกับระเบิดเวลาที่ถูกตั้งไว้ และว่ากันว่าคณะรัฐบาลภายใต้การนำของนายซูดานี คงอยู่ได้ไม่นานและจะไม่มีเสถียรภาพใดๆ เพราะกลุ่มการเมืองฝ่ายซัยยิดมุกตะดา อัศ-ศ็อดร์ไม่ยอมรับและยังถือว่านายซูดานีเป็นกลุ่มการเมืองที่อิหร่านให้การสนับสนุน และว่ากันว่ากลุ่มการเมืองขบวนการอัศ-ศอ็ดร์มีความเข็มแข็งมากและมีแนวร่วมจำนวนมากโดยเฉพาะคนหนุ่มสาว พวกเขาไม่ยอมให้อิรักอยู่ภายใต้การเมืองแบบไร้ธรรมาภิบาลและคอรัปชั่นอย่างแน่นอน นักวิเคราะห์มองว่าอาจจะเกิดถึงขั้นแตกหักและความรุนแรงมากขึ้นและเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มนิยมในตัวซัยยิดมุกตะดา ศ็อดร์และกลุ่มนิยมอิหร่านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
  • ฉากทัศน์ที่สอง อาจจะเกิดการประนีประนอมทางการเมืองมากขึ้นระหว่างกลุ่มของซัยยิดมุกตะดา ศ็อดร์ กับรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของนายซูดานีที่มีอิหร่านสนับสนุน เพราะว่าบุคลิกของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ได้แถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ต่อสื่อในอิรักและสื่อต่างประเทศว่า เขาจะเดินเข้าไปเจรจาและพูดคุยกับซัยยิดมุกตะดา ศ็อดร์ด้วยตัวเอง ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณหนึ่งของการจะร่วมตกลงทางการเมืองอิรักและอาจจะเป็นไปได้ที่อิหร่านเองไม่รุกคืบและแทรกแซงการเมืองอิรักมากเกินไปและขณะเดียวกันกลุ่มของซัยยิดมุกตะดา ศ็อดร์ก็ไม่เอนเอียงไปยังกลุ่มประเทศอาหรับมากเกินไปเพื่อแยกความเป็นชีอะฮ์อาหรับและชีอะฮ์เปอร์เซีย
  • ฉากทัศน์ที่สาม การเมืองชีอะฮ์ในอิรักอย่างไรเสียก็ต้องฟังผู้นำจิตวิญญาณสูงสุด ซึ่งนั่นเป็นใครเสียไม่ได้ คือ อายาตุลเลาะฮ์ ซัยยิดอะลี ซิสตานี อยู่ในฐานะผู้รู้สูงสุดของโลกชีอะฮ์ในอิรักและทั่วโลก และถ้าผู้นำทางจิตวิญญาณได้ออกคำฟัตวาห์หรือมีคำเสนออะไรทางการเมืองใดๆ เชื่อว่าการเมืองกลุ่มต่างๆของชีอะฮ์จะต้องรับฟังและคงไม่มีใครแตกแถวเป็นแน่

แต่อย่างไรก็ตามการเมืองอิรักมีความสลับทับซ้อนและลึกลับ  คงจะต้องติดตามกันต่อไป.

Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *