กลยุทธ์ของจอห์นสันและโชลส์
กลยุทธ์ของจอห์นสันและโชลส์
ภายในอาณาจักรของการบริหารเชิงกลยุทธ์ เรามีไม่่กี่โมเดลที่ได้มาการ
ยอมรับและการใช้อย่างเเพร่หลายมากเท่ากับกลยุทธ์ของเจอร์รีจอห์นสันและเคเเวน โชลส์ โมเดลนี้จะรู้จักกันเป็น โมเดลการเบี่ยงเบนทางกลยุทธ์ด้วย ได่ให้กรอบข่ายที่เข้มแข็ง เพื่อความเข้าใจ การวิเคราะห์ และการดำ
เนินการกลยุทธ์ธุรกิจกลยุทธ์จอห์นสันและโชลส์ถูกตั้งชื่อตามผู้ให้กำเนิดของมัน เจอร์รี จอห์นสัน และเคเเวน โชลส์ พวกเขาได้พัฒนาโมเดลนี้ ที่จะ
ช่วยเหลือองค์การ เพื่อการนำทางสภาพแวดล้อมธุรกิจซับซ้อนและเปลี่ยน
แปลง
กลยุทธ์ของจอห์นสันและโชลส์ เป็นกรอบข่ายจากหนังสือของพวกเขา
“Exporing Corporate Strategy” เกี่ยวกับทิศทางและขอบเขตของธุรกิจโดยส่วนรวมระยยาว ได้มาข้อได้เปรียบทางการแข่งขันภายในสภาพแวด
ล้อมที่เปลี่ยนแปลง ให้พื้นฐานเพื่อความเข้าใจความไม่สอดคล้องระหว่าง
กลยุทธ์ขององค์การและสภาพแวดล้อมของมันสามารถนำไปสู่ความเบี่ยงเบนทางกลยุทธ์ การเบี่ยงเบนทางกลยุทธ์ไม่ได้เป็นกลยุทธ์ตัวมันเองการกำหนดและการดำเนินการกลยุทธ์ของพวกเขา ถ้าไม่ได้ปรับตัวอย่างสม่ำ
เสมอ สามารถนำไปสู่การเบี่ยงเบนทางกลยุทธ์ เมื่อองค์การล้มเหลวที่จะตามทันการเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อม
กรอบข่ายกลยุทธ์ของจอห์นสัน และโชลส์เป็นกระบวนการบริหารเชืง
กลยุทธ์ การมุ่งเน้นขั้นตอนสามขั้นการวิเคราะห์ทางกลยุทธ์ – ความเข้าใจสภาพแวดล้อมภายในและภายนอก – การเลือกทางกลยุทธ์ -การสร้่างและและการเลือกทางเลือกกลยุทธ์ – และการดำเนินการทางกลยุทธ์ – การดำ
เนินการและการตรวจสอบกลยุทธ์ที่เลือก –
*การวิเคราะห์ทางกลยุทธ์
ขั้นต้นแรกเกี่ยวพันกับการประเมินสภาพแวดล้อมภายนอก เพื่อการระบุ
โอกาสและอุปสรรค อย่างเช่น แนวโน้มของตลาด การแข่งขัน และสภาวะเศรษฐกิจ และการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน เพื่อการระบุจุดแข็งและ
จุดอ่อน อย่างเช่น ทรัพยากร ความสามารถ และวัฒนธรรมขององค์การ
*การเลือกทางกลยุทธ์
ขั้นตอนนี้เกี่ยวพันกับการสร้่าง และการเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุด
บนพื้นฐานของการวิเคราะห์ทางกลยุทธ์ทางเลือกกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน
ได้ถูกระบุและประเมินตามเกณฑ์ อย่างเช่น ความเหมาะสม กลยุทธ์จะ
สอดคล้องกับสถานการณ์หรือไม่ ความเป็นไปได้ กลยุทธ์สามารถถูก
ดำเนินการได้สำเร็จหรือไม่ และการยอมรับ กลยุทธ์ถูกสนับสนุนโดย
ผู้มีส่วนได้เสียหรือไม่
*การดำเนินการทางกลยุทธ์
ขั้นตอนนี้เกี่ยวพันกับการนำกลยุทธ์ที่เลือกลงไปสู่การกระทำ การถ่าย
ทอดกลยุทธ์ไปสู่แผนการกระทำเฉพาะ ความมั่นใจทรัพยากรที่จำเป็นหา
มาได้เพื่อการดำเนินการ และการตรวจสอบความก้าวหน้าของกลยุทธ์ที่
ต่อเนื่อง และทำการปรับปรุงเมื่อต้องการที่จะรับรองความสำเร็จ
กรอบข่ายกลยุทธ์ของจอห์นสันและโชลส์ ได้ใช้เคริ่องมือบางอย่างเช่น
เอสเอฟเอ แมทริกซ์ ประเมินทางเลือกกลยุทธ์ และเว็บทางวัฒนธรรมเพื่อ การวิเคราะห์วัฒนธรรมองค์การ การให้เครื่องมือที่สำคัญเพื่อการตัดสินใจภายในกระบวนการบริหารเชิงกลยุทธ์ของการวิคราะห์ การเลือก และการดำเนินการของพวกเขา เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจเข้าใจสภาพแวด
ภายในและสภาพเเวดล้อมภายนอกของพวกเขาที่จะพัฒนาและดำเนินการกลยุทธ์อย่างมีประสิทธิภาพ
*เอสเอฟเอ เเมทริกซ์
ความมุ่งหมายเบื้องต้นของตารางเอสเอฟเอคือการช่วยเหลือภายในการ
เลือกทางกลยุทธ์ที่ยุ่งยาก ด้วยการให้วิถีทางเป็นระบบ ประเมินทางเลือก
ที่แตกต่างกันตามเกณฑ์ที่สำคัญ มันช่วยเหลือที่จะระบุกลยุทธ์ที่เหมาะสม
มากที่สุด เอสเอฟเอ แมทริกซ์ ใช้ระบบการให้คะเเนนที่จะประเมินกลยุทธ์
ทางเลือกบนพื้นฐานของเกณฑ์สามข้อคือความสอดคล้อง ความเป็นไปได้ และการยอมรับ เพื่อการให้คะเเนนมัน เราต้องระบุกลยุทธ์ทางเลือก และให้คะเเนนตามเกณฑ์เหล่านี้ภายในตารางเอสเอฟเอที่มักจะใช้ระดับอย่าง
เช่น 1 – 10 คะเเนนของแต่ละกลยุทธ์ได้ถูกรวมกัน และมักจะให้น้ำหนัก
ต่อความสำคัญของเกณฑ์ การเปรียบเทียบและการเลือกทางเลือกที่ดีที
สุด
โดยทั่วไปเอสเอฟเอ แมทริกซ์ เดินตามเครื่องมือการวิเคราะห์ทางกล
ยุทธ์อื่น อย่างเช่น การวิเคราะห์สวอท การวิเคราะห์เพสเทล และพลังห้าตัวของพอร์เตอร์ได้ให้ข้อมูลเพื่อการประเมินความเหมาะสม การวิเคราะห์สวอท พิจาณาจุดเเช็ง และจุดอ่อน และโอกาสและอุปสรรคภายนอกขององค์การ การวิเคราะห์เพสเทล มุ่งเน้นที่ปัจจัยทางสภาพแวดล้อมมหภาคเท่านี้นคือ การเมือง เศรษฐกิจ สังคม-วัฒนธรรม เทคโนโลยี กฏหมาย และสิ่งเเวดล้อม พลังห้าของพอร์เตอร์ จะประเมินโครงสร้างการแข่งขันของอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมจะมีความเข้มข้นทางการแข่งขันอย่างไร ด้วยการพิจารณาพลังห้าตัวคือ การเข้ามาของคู่เเข่งขันรายใหม่ อำนาจการต่อรองของลูกค้า อำนาจการต่อรองของซัพพลายเออร์ การคุกคามของผลิตภัณฑ์ และการเเข่งขันท่ามกลางบริษัทภายในอุตสาหกรรม
กรอบข่ายเพื่อการประเมินทางเลือกกลยุทธ์ เอสเอฟเอ แมทริกซ์จะทำ
การประเมินทางเลือกกลยุทธ์บนพี้นฐานของเกณฑ์สามอย่าง
*ความเหมะสม เกณฑ์ข้อนี้พิจารณาเหตุผลทางกลยุทธ์ และทางเลือกสอดคล้องกับทิศทางเเละความมุ่งหมายขององค์การหรือไม่ การประเมิน
โอกาสและอุปสรรคภายนอก
*ความเป็นไปได้ เกณฑ์ข้อนี้ประเมินการปฏิบัติภายใน เช่น องค์การจะมีทรัพยากร ความสามารถ บุคคล และเทคโนโลยี จำเป็นต่อการดำเนินการกลยุทธ์หรือไม่
*การยอมรับ เกณฑ์ข้อนี้พิจารณากลยุทธ์ถูกยอมรับต่อผู้มีส่วนได้เสียที่
หลากหลาย ด้วยการพิจารณาผลตอบแทนทางการเงิน อย่างเช่น การทำกำไรและและผลกระทบต่อวัฒนธรรมและผู้มีส่วนได้เสียอื่นหรือไม่
*เว็บทางวัฒนธรรม
เว็บทางวัฒนธรรมเป็นโมเดลที่จะเข้าใจและวิเคราะห์วัฒนธรรมองค์การ มันมุ่งที่การเปิดเผยค่านิยม ความเชื่อ และการปฏิบัติที่มีอิทธิพลต่อบุคคล
ภายในองค์การกระทำอย่างไร โมเดลนี้จะช่วยเหลือความเข้าใจวัฒนธรรม
ที่เป็นอยู่ขัดขวาง หรือสนับสนุนต่อกลยุทธ์ใหม่อย่างไร การระบุการปรับตัวที่จำเป็นต้องการดำเนินการและบริหารการเปลี่ยนแปลงทางกลยุทธ์ให้บรรลุความสำเร็จ มันช่วยเหลือภายในการระบุรากฐานของพฤติกรรมและงานประจำวันภายในองค์การ
เว็บทางวัฒนธรรมช่วยเหลือป้องกันการเบี่ยงเบนทางกลยุทธ์ด้วยการให้
กรอบข่ายที่จะวิเคราะห์วัฒนธรรมองค์การ การใช้เว็บทางวัฒนธรรมตรวจ
สอบวัฒนธรรมองค์การ ที่เป็นอยู่ ด้วยการพิจารณาองค์ประกอบที่สำคัญ
หกอย่างของมันคือ เรื่องราว สัญลักษณ์ โครงสร้างอำนาจ โครงสร้างองค์
การ ระบบการควบคุม และพิธิการ และงานประจำวัน กระทบกลยุทธ์อย่่างไร การพิจารณาองค์ประกอบอะไรของวัฒนธรรมในขณะนี้สอดคล้องหรือขัดขวางกลยุทธ์ใหม่ที่ต้องการ
ภายใต้ความเข้าใจองค์ประกอบทางวัฒนธรรมหกอย่างเหล่านี้ ผู้นำจะสามารถระบุการปฏิบติที่ตายตัวและล้าสมัยขัดขวางการปรับตัวต่อสภาพเเวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างไรและสามารถที่จะปรับตัวใหม่วัฒนธรรมกับกลยุทธ์ การกระตุ้นความยืดหยุ่นและการมองอนาคต ไม่ใช่ความเฉื่อยชาทางการรู้คิด และการรักษาฐานะเดิม การวิเคราะห์สาเหตุรากฐานของการเบี่ยงเบน ด้วยการระบุองค์ประกอบทางวัฒนธรรมเฉพาะ เช่น งานประจำ
วันตายตัวหรือโครงสร้างอำนาจที่สำคัญ กำลังขัดขวางความสามารถขององค์การที่จะปรับตัวต่อสภาวะภายนอกใหม่อย่างไร
วัฒนธรรมองค์การที่เข้มเเข็งและมั่นคง สร้างพฤติกรรม ที่ปลูกฝังอย่าง
ลึกซึ้ง และสมมุติฐานรรวมเกี่ยวกับวิถีทางที่เราควรจะทำอะไรที่นี่อย่างไร
มันหมายถึงบุคคลบุคคลเป็นไปได้น้อยที่จะรับเอากลยุทธ์ใหม่ที่เบี่ยงเบน
จากบรรทัดฐานที่มั่นคงเหล่านี้
*เรื่องราว
สิ่งนี้จะเป็นเรื่องราว เกร็ดประวัติ เเละตำนาน เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่สำคัญหรือบุคคลภายในองค์การ ที่มักจะถูกร่วมกัน เรื่องราวจะถ่ายทอดประวัติ
ความสำเร็จ ความล้มเหลว และค่านิยมของมัน เรื่องราวจะเป็นเหตุการณ์
ที่ผ่านมา และบุคคลได้พูดเกี่ยวกับมันภายในและภายนอกองค์การ เรื่อง
ราวแสดงอะไรที่องค์การให้คุณค่าและพฤติกรรมอะไรที่ยิ่งใหญ่และเป็น
ตัวอย่าง เรื่องราวได้ถูกใช้เป็นการเล่าเรื่องที่จะรักษาวัฒนธรรมให้มีชีวิตอยู่ และสามารถอธิบายความสำเร็จ ความล้มเหลว หรือช่วงเวลาที่สำคัญ
ภายในประวัติขององค์การ
*สัญลักษณ์
การเเสดงที่มีตัวตนและมองเห็นได้ของวัฒนธรรมองค์การ ที่จะนำไปสู่
ความหมาย ืมันสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรม และการให้ความสำคัญขององค์การ อย่างเข่น โลโก้ของมัน การตกแต่งสำนักงาน การแต่งกาย รถยนต์บริษัท และภาษาที่ใช้
*พิธีการแลงานประจำวัน
สิ่งนี้จะอ้างถึงกิจกรรมประจำวัน พฤติกรรม และการกระทำ ถูกพิจารณาเป็นปรกติ หรือยอมรับภายในองค์การ การระบุวิถีทางที่เราทำอะไรกันที่นี่ มันถูกใช้เสริมแรงการปฏิบัติและพฤติกรรมที่ต้องการ อย่างเช่น ระเบียบวิธีการปฏิบัติงานส่วนบุคคล สัญญานการปฎิบัติที่ยอมรับภายในองค์การ *โครงสร้างองค์การ
องค์ประกอบนี้จะอ้างถึงโครงสร้างลำดับชั้นที่เป็นทางการ แสดงโดยแผนภูมิองค์การและความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นทางการ สายของอำนาจ และอิทธิพลที่ไม่เป็นทางการ และสายการสื่อสารระหว่างบุคคลภายในองค์
การ
*ระบบการควบคุม
สิ่งนี้จะเป็นกลไกและกระบวนการใช้ตรวจสอบและควบคุมพฤติการและการปฏิบัติงาน วิถีทางที่องค์การตรวจสอบและบริหารตัวมันเอง มันรวมถึง
ระบบเพื่อการบริหารการเงินและคุณภาพ และบุคคลถูกให้รางวัล ลงโทษและประเมินอย่างไร
*โครงสร้างอำนาจ
องค์ประกอบนี้จะแสดงใครยึดอำนาจที่แท้จริง เป็นทางการ หรือไม่เป็นทางการภายในองค์การ มันจะเชื่อมโยงอย่างใกล้ชืดต่อค่านิยมและความ
เชื่อขององค์การ
Cr : รศ สมยศ นาวีการ