วันเกิดของผม ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

วันเกิดของผม ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เป็นวัน (คล้ายวัน)เกิดของผม ครบรอบ ๗๘ ปีแล้ว นับว่าใช้ชีวิตมายาวนานพอสมควร ตั้งใจขอบคุณเพื่อนๆ พี่น้อง ที่ต่างก็อวยพรวันเกิดด้วยความตั้งใจและมอบสิ่งดีๆให้ในวันนี้ ผมได้อ่านของทุกๆคน และตั้งใจจะเขียนตอบให้ยาวๆ เป็นการขอบคุณ และที่สำคัญกว่านั้น คือมิตรภาพที่มอบให้ผมซึ่งนานแล้ว และจะยืนยาวต่อไป
เนื่องจากประวัติอันยาวนาน ตั้งแต่วัยรุ่น ไม่ค่อยเรียบร้อย ในสมัยนั้น คิดว่า การทำตัวเกเร เป็นคุณสมบัติของลูกผู้ชาย เริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่เด็กๆ เรียน ม. ๓ ( ม. ๑ ในปัจจุบัน) หัดดื่มและเมาสุราตั้งแต่ยังเป็นนิสิตเกษตร จนถึงปัจจุบัน เกิดผลทำให้ร่างกายทรุดโทรม เป็นทั้งระบบประสาท กระดูก กล้ามเนื้อ และอื่นๆ ไม่ว่า ใครจะเป็นอะไร พอมาคุยกัน ผมเป็นเหมือนกันหมด เพื่อนๆที่เกเรมาด้วยกัน ก็ทะยอยจากไป และที่สุขภาพกำลังทรุดโทรมไปไหนไม่ได้ ก็ยังมีอีกหลายคน สำหรับผมเป็นเรื่องเกี่ยวกับกระดูก ตา หู คอ จมูก และเกี่ยวกับประสาท
ความขี้ลืมเป็นเรื่องอันดับ ๑ ของผม เช่นเปิดก๊อกน้ำแล้วลืมปิด ปล่อยให้ไหลเป็นเวลานานหลายครั้ง เปิดไฟแล้วลืมปิด เปิดประตูบ้านแล้วลืมปิด แต่ที่เป็นบ่อยๆ โดยเฉพาะในที่สาธารณะ คือ ไปถ่ายปัสสาวะ แล้วลืมรูดซิบกางเกงขึ้น ดีแต่ว่า นุ่งเกงเกงหลายชั้น จึงไม่เห็นรถเบนซ์ข้างใน ยังไงๆตอนนี้ พอแก่ตัวขึ้นมา ไม่มีรถเบนซ์อีกแล้ว มีแต่มอเตอร์ไซค์คันเล็กๆจอดอยู่ข้างใน
ไม่ว่าจะอยู่ที่กรุงเทพฯ หรือเชียงใหม่ เรื่องที่คุ้นเคยที่สุดในการขับรถกลับบ้าน คือเลี้ยวเข้าซอยเข้าบ้าน เชื่อไหมว่า ขนาดอยู่มาเป็นเวลานานหลายสิบปี ยังอุตส่าห์ขับเลยซอยหลายครั้ง เพราะสมองของเราเอง สมาธิไม่ดี คิดโน่น คิดนี่เตลิดไป จึงลืมเลี้ยว ซึ่งพอจะวกกลับมา ต้องอ้อมไปไกลอีกมาก เมื่อไม่นานมานี้ อุตส่าห์เร่งรีบ เอาของไปส่งไปรษณีย์ คิดว่าต้องด่วนมาก เพราะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับปลายทาง นั่นคือแว่นสายตานั่นเอง ปัญหา คือ เมื่อถึงที่ทำการไปรษณีย์ ลืมของที่จะเอาไปส่งไว้ที่บ้าน ต้องกลับไปเอา เสียเวลามาก

เมื่อสมัยยังเป็นวัยรุ่น อยู่หอพัก วิทยุเป็นสื่อที่สำคัญมากๆ ทุกคนต้องมีไว้ โดยเฉพาะตอนก่อนนอน พอวันไหนเมื่อไหร่ ที่เกษตรไปแข่งรักบี้ กลับมาแล้ว ประมาณ ๒ ทุ่มกว่าๆ ทุกคนจะเปิดช่องวิทยุยานเกราะฟังข่าวกีฬา จะแพ้ชนะไม่สำคัญ เพราะที่อยากฟังคือคำชมเชย กองเชียร์ที่ขนกันไปทั้งมหาวิทยาลัย เพราะส่วนใหญ่อยู่หอกันเกือบหมด ในการแข่งขันแต่ละครั้ง ทางองค์การนิสิตว่าจ้างรถโดยสารหลายสิบคันเป็นยานพาหนะ ด้วยการเดินทางเป็นหมู่เยอะๆนี่เอง ที่ทำให้เพลงต้อนกระบือ “ค่ำแล้วควาย กลับคอกที เร็วเถิดสิเฮ้ย อย่าเชือน เร็วเถิดสิเฮ้ยอย่าช้า กลับคืนหาแหล่งควายเอย” ดังกระหึ่มตอนขากลับ ที่หัวเข็มขัดของนิสิตสมัยนั้น เป็นหัวบางเขน ก็มีรูปหัวควาย คันไถ เป็นสัญญลักษณ์ กระบือเป็นสัตว์ที่มีพระคุณต่อวงการเกษตรมาตั้งแต่โบราณ
ที่ประทับใจจนถึงปัจจุบัน เกี่ยวกับคำชมเชยทีมเชียร์ของวิทยุยานเกราะนั้น ผู้รายงานจะเรียกพวกเกษตรว่าเนื้อนมไข่ เนื่องจากในสมัยนั้น ในบริเวณมหาวิทยาลัย มีเพิงที่ตั้งขายนมเกษตร และมีการเลี้ยงไก่ ปลูกผัก เป็นที่โด่งดัง เกษตรก็ต้องเนื้อนมไข่อยู่แล้ว แต่ตอนนั้น หลายๆคนก็ไม่ได้สนใจจะบำรุงสุขภาพกัน อยู่กันตามยถากรรมและรสชาติของสุรา แม่โขงเป็นที่โด่งดัง ใครๆก็ต้องรู้จัก

มาตอนนี้ ที่สุขภาพย่ำแย่ ไปตรวจสุขภาพทีไร มีปัญหาเรื่อง cholesterol ความดัน ปริมาณการสร้างเม็ดเลือด และแคลเซี่ยม ต้องโหมกินวิตามิน ยาลด cholesterol ยาลดความดัน หมอแนะนำให้กินไข่ทุกวัน วันละ ๒ ฟอง เพื่อฟื้นฟูเม็ดเลือด ซึ่งไม่ค่อยได้ผล ไปตรวจเมื่อไหร่ ก็ยังต่ำกว่ามาตรฐานทุกที นอกจากนั้น ยังมีเอกสารแนะนำให้กิน yoghurt เป็น probiotic ช่วยกำจัด bacteria ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ผมก็เลยกินทุกวันๆละ ๒ ถ้วย เลือกกินขององค์การโคนมไทยเดนมาร์ค และกินนม pasteurized ของฟาร์มโชคชัย อีกวันละ ๑ เหยือกใหญ่ๆ แม้จะไม่ได้เป็นเนื้อนมไข่ เมื่อสมัยเรียน ก็ตอนนี้ เรียกว่าเนื้อนมไข่ได้เต็มๆ เลย

สาเหตุที่เริ่มกินนม pasteurized เนื่องจากที่หลาน ๓ คน กำลังจะเริ่มวัยรุ่น มาอยู่ด้วยกันที่บ้านเป็นเวลา ๓ อาทิตย์ เมื่อหลานกลับไปแล้ว ยังทิ้งนมไว้ในตู้เย็น ด้วยความเสียดาย ลองเอามากินดู ได้ลิ้มรสความสดชื่นของนม กินแล้ว ตื่นเช้ามาก็เป็นปกติดี เลยเริ่มกินนมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา (ประมาณ เกือบปีที่ผ่านมา) ถึงแม้จะมีผู้แนะนำว่า คนไทย ไม่มีน้ำย่อยนม ( lactase ) และบอกว่านมวัวสำหรับลูกวัว แต่ผมว่า ถ้ากินทุกวัน ร่างกายคงจะสร้างน้ำย่อยขึ้นมาเอง และเห็นว่า ทุกๆแห่งในโลกใบนี้ ก็มีการผลิตนมวัวมาจำหน่าย ก็เลย กินมาเรื่อยๆจนปัจจุบัน ทั้งนี้ เมื่อสมัยวัยกลางคน ตอนลูกๆยังเล็กๆ ผมก็เคยกินนมวัว ที่เป็นนมกล่อง ( sterilized ) มาหลายปี ซึ่งจำไม่ได้ว่าด้วยเหตุใด จึงเลิกกินนมมาเป็นเวลานาน
วันเกิดของผม เป็นวันที่ผมเปิดอ่านไลน์ และเฟสบุ๊ค นานที่สุด มีพี่ๆ เพื่อนๆ และน้องๆอวยพรวันเกิดให้กับผม อยากจะตอบเป็นคนๆไปกลัวจะไม่ซึ้งเท่ากับเขียนบทความนี้ แล้วส่งให้ พี่น้องเพื่อนได้รับความรักความอบอุ่นจากผมบ้าง และปีหน้า ฟ้าใหม่ ก็คงจะเป็นเช่นเดิม ไม่สามารถหยุดเวลา ต้องเดินไปตามครรลองของสิ่งมีชีวิต จนถึงวันสุดท้าย แล้วลูกหลานก็รับหน้าที่จากเรา ต่อไปเรื่อยๆ สุดท้ายนี้ ขอส่งความรัก ปรารถนาดี และความหวังให้กับทุกๆคน เมื่อถึงปีหน้า อย่าลืมอวยพรมาอีก คิดถึงมากๆครับ
บู๊ คนเคยหนุ่ม
๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
กรุงเทพมหานคร







