ฮามาส – อิสราเอล ความขัดแย้งครั้งที่ 5 (18)

ฮามาส – อิสราเอล ความขัดแย้งครั้งที่ 5 (18)
จรัญ มะลูลีม
ฉากทัศน์ของสงครามฮามาส – อิสราเอล (ต่อ)
สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นพันธมิตรอันดับต้นๆ ของอิสราเอล กล่าวว่า ยังคงทำงานร่วมกับผู้ไกล่เกลี่ยอย่างอียิปต์และกาตาร์ เพื่อพยายามเป็นตัวกลางในข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกันฉบับใหม่ แต่ความพยายามเหล่านั้นดูเหมือนจะหยุดชะงักลง
กระทรวงสาธารณสุขของฉนวนกาซาระบุเมื่อวันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ ว่ายอดผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์เพิ่มขึ้นมากกว่าสามหมื่นรายนับตั้งแต่เริ่มสงคราม โดยประมาณสองในสามของผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงและเด็ก ชาวปาเลสไตน์มากกว่าเจ็ดหมื่นคนได้รับบาดเจ็บ ส่งผลให้โรงพยาบาลในดินแดนกาซาล้นหลามไปด้วยคนบาดเจ็บ โดยน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของโรงพยาบาลทั้งหมดยังใช้งานได้บางส่วนเท่านั้น ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้แยกแยะระหว่างการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนและทหารในการนับแต่อย่างใด

อิสราเอลกล่าวว่าได้สังหารกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ไปแล้วกว่า 10,000 คน แต่ไม่ได้ให้หลักฐานใด ๆ สำหรับการนับจำนวนดังกล่าว กองทัพกล่าวว่า พวกเขาพยายามหลีกเลี่ยงการทำร้ายพลเรือน และกล่าวโทษพลเรือนที่เสียชีวิตจำนวนมากว่าเป็นฝีมือของกลุ่มฮามาส เนื่องจากกลุ่มติดอาวุธต่อสู้อยู่ในย่านที่อยู่อาศัยอันหนาแน่นของผู้คน กองทัพอิสราเอลกล่าวว่าทหารของตนถูกสังหารไปแล้ว 237 นายนับตั้งแต่เริ่มการโจมตีภาคพื้นดินเมื่อปลายเดือนตุลาคม
ความรุนแรงจากการโจมตีของอิสราเอลทำให้หน่วยงานด้านอาหารของสหประชาชาติระงับการจัดส่งอาหารทางตอนเหนือของฉนวนกาซา

ขบวนรถบรรทุกเริ่มมุ่งหน้าสู่เมืองกาซา ซึ่งฝูงชนอยู่ท่ามกลางความหิวโหยและพยายามเข้าใกล้รถบรรทุกคันดังกล่าว จากนั้นพวกเขาก็ต้องเผชิญกับเสียงปืนเมื่อพวกเขาเข้าไปในเมือง หน่วยงานดังกล่าว ระบุ
โครงการอาหารโลก ระบุเมื่อวันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ 2024 ว่าได้ระงับการส่งความช่วยเหลือด้านอาหารไปยังฉนวนกาซาตอนเหนือ จนกว่าเงื่อนไขในดินแดนปาเลสไตน์จะอนุญาตให้มีการแจกจ่ายอาหารได้อย่างปลอดภัย
“การตัดสินใจหยุดจัดส่งอาหารทางตอนเหนือของฉนวนกาซานั้นก็เพราะว่ามันเต็มไปด้วยความลำบาก ดังที่เราทราบดีว่าสถานการณ์ที่นั่นจะย่ำแย่ลงไปอีก และผู้คนจำนวนมากขึ้นเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากความหิวโหย” หน่วยงาน WFP ที่มีฐานอยู่ในกรุงโรม ซึ่งเป็นอาหารของสหประชาชาติ กล่าวในแถลงการณ์
หน่วยงานของสหประชาชาติสามแห่ง ได้แก่ WFP, องค์การอนามัยโลก และหน่วยงานสำหรับเด็ก UNICEF กล่าวว่า อาหารและน้ำสะอาดนั้น “ขาดแคลนอย่างไม่น่าเชื่อและโรคต่างๆ ก็มีมากมาย ส่งผลให้เกิดภาวะทุพโภชนาการเฉียบพลันเพิ่มขึ้น” ในฉนวนกาซานานกว่าสี่เดือนนับตั้งแต่เกิดสงครามฮามาส – อิสราเอล

วิกฤติอาหาร
วิกฤตการณ์ด้านอาหารมีความร้ายแรงเป็นพิเศษในภาคเหนือ โดยในเดือนมกราคม เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบทุก 1 ใน 6 รายได้รับรายงานว่าขาดสารอาหารเฉียบพลัน และ “สถานการณ์น่าจะเลวร้ายลงในวันนี้” หน่วยงานต่างๆ ระบุ
WFP กล่าวว่าได้กลับมาดำเนินการจัดส่งอาหารให้ทางตอนเหนือได้อีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ หลังจากที่พวกเขาถูกระงับให้มีการส่งอาหารเป็นเวลาสามสัปดาห์ เนื่องจากการโจมตีรถบรรทุกของหน่วยงานผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์แห่งสหประชาชาติ (UNRWA) และ “ไม่มีระบบแจ้งเตือนด้านมนุษยธรรมแต่อย่างใด“
วันรุ่งขึ้น รถบรรทุกของ WFP ถูกปล้นระหว่างเมืองข่าน ยูนิสทางตอนใต้กับเดียร์ อัล บาลาห์ ในฉนวนกาซาตอนกลาง และมีคนขับคนหนึ่งถูกทุบตี
ราฟาห์แดนมิคสัญญี
มติที่เสนอระบุว่าอิสราเอลวางแผนโจมตีภาคพื้นดินครั้งใหญ่ในเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ซึ่งชาวปาเลสไตน์ราว 1.5 ล้านคนแสวงหาความปลอดภัย ดังนั้นอิสราเอลจึง “ไม่ควรดำเนินการภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน”
สหรัฐอเมริกา จะสนับสนุนการหยุดยิงชั่วคราวในฉนวนกาซา หลังจากปฏิเสธมติที่ได้รับการสนับสนุนจากอาหรับ ที่เรียกร้องให้มีการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมทันทีในดินแดนที่ถูกทำลายด้วยความขัดแย้ง
ร่างมติของสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับจาก Associated Press เป็นการเน้นย้ำถึงการหยุดยิงชั่วคราว “โดยเร็วที่สุด” กำหนดให้ต้องมีการปล่อยตัวประกันทั้งหมดที่ถูกจับมาจากอิสราเอลหลังการโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม และเรียกร้องให้ยกเลิกข้อจำกัดทั้งหมดในการส่งมอบสิ่งของซึ่งเป็นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
ร่างมติดังกล่าว “จะช่วยสร้างเงื่อนไขสำหรับการยุติความเป็นปรปักษ์อย่างยั่งยืน” ตามมติของสภาเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม
มติที่มีการเสนอระบุว่าการที่อิสราเอลวางแผนโจมตีภาคพื้นดินครั้งใหญ่ในเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ซึ่งชาวปาเลสไตน์ราว 1.5 ล้านคนแสวงหาความปลอดภัยนั้น “ไม่ควรดำเนินการภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน” และเตือนถึงการที่พลเรือนต้องพลัดถิ่นเพิ่มเติม รวมทั้งที่อาจเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน” ซึ่งหมายถึงอียิปต์ จะมีผลกระทบร้ายแรงต่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค
คณะมนตรีความมั่นคงเห็นพ้องกับร่างมติที่ได้รับการสนับสนุนจากอาหรับซึ่งเผยแพร่โดยแอลจีเรีย ซึ่งเป็นตัวแทนของชาติอาหรับ 22 ชาติในองค์กรที่ทรงอิทธิพลที่สุดของสหประชาชาติ
นอกเหนือจากการหยุดยิงแล้ว ร่างกฎหมายแอลจีเรียฉบับสุดท้ายที่ AP ได้รับ ยังเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันทั้งหมดโดยทันที และย้ำข้อเรียกร้องของสภาที่เรียกร้องให้อิสราเอลและฮามาส “ปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด” โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคุ้มครองพลเรือน และปฏิเสธการบังคับย้ายถิ่นฐาน ของพลเรือนชาวปาเลสไตน์

เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ กล่าวในแถลงการณ์ว่า สหรัฐอเมริกาดำเนินการเกี่ยวกับข้อตกลงตัวประกันมาเป็นเวลาหลายเดือน ซึ่งจะนำความสงบมาให้เป็นเวลาอย่างน้อยหกสัปดาห์ “หลังจากนั้นเราจะได้ใช้เวลาและขั้นตอนต่างๆ ในการสร้าง ความสงบสุขให้มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น”
เธอกล่าวว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐอเมริกาได้รับโทรศัพท์จากนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลหลายครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมารวมทั้งจากผู้นำของอียิปต์และกาตาร์เพื่อผลักดันข้อตกลงดังกล่าว อย่างไรก็ตามผู้แทนจากกาตาร์กล่าวว่าการเจรจา “ไม่คืบหน้าอย่างที่คาดไว้”
“แม้ว่าช่องว่างจะยังคงอยู่” นางสาวโธมัส-กรีนฟิลด์กล่าว “องค์ประกอบสำคัญอยู่บนโต๊ะ” และยังคงเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการรวมตัวประกันกับครอบครัวของพวกเขาอีกครั้ง และทำให้เกิดการหยุดการต่อสู้ชั่วคราวเป็นเวลานาน ซึ่งจะทำให้ความช่วยเหลือในการช่วยชีวิตชาวปาเลสไตน์เข้าถึงได้
ในทางตรงกันข้าม มติที่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศอาหรับจะไม่บรรลุผลดังกล่าว “และแน่นอนว่าอาจขัดแย้งกับพวกเขา” เธอกล่าว “ด้วยเหตุผลดังกล่าว สหรัฐอเมริกา จึงไม่สนับสนุนการดำเนินการตามร่างมตินี้
เมื่อวันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ รองเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา โรเบิร์ต วูด กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลายรายว่าร่างกฎหมายแอลจีเรียไม่ใช่ “กลไกที่มีประสิทธิภาพในการพยายามทำสามสิ่งที่เราต้องการให้เกิดขึ้น ซึ่งได้แก่ การนำตัวประกันออกมา ความช่วยเหลือเพิ่มเติม และการหยุดความขัดแย้งนี้ไว้เป็นเวลานาน “.
สหรัฐอเมริกายืนกรานว่า “สิ่งที่เรากำลังพิจารณาอยู่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เป็นไปได้ และเราจะหารือเรื่องนี้กับเพื่อนๆ ของเราในอนาคต” วูดกล่าว “ผมไม่คิดว่าคุณจะคาดหวังอะไรให้เกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ได้”
ประเทศอาหรับซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสหประชาชาติทั้ง 193 ประเทศ เรียกร้องให้มีการหยุดยิงเป็นเวลาหลายเดือน ในขณะที่การโจมตีทางทหารของอิสราเอลเพื่อตอบโต้การโจมตีของกลุ่มฮามาสทวีความรุนแรงขึ้น โดยจำนวนชาวปาเลสไตน์ที่ถูกสังหารขณะนี้เกินกว่าสามหมื่นรายแล้ว
ฏอริก ลาเดบ ประธานกลุ่มอาหรับ และเป็นเอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติของตูนิเซียกล่าวกับผู้สื่อข่าวของสหประชาชาติว่าชาวปาเลสไตน์ราว 1.5 ล้านคนที่ต้องการความปลอดภัยในเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา จะต้องเผชิญกับ “สถานการณ์หายนะ” หากนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู เดินหน้าดำเนินการอพยพต่อไป
เนทันยาฮูสั่งให้กองทัพจัดทำแผนการอพยพของราฟาห์ แต่อิสราเอลยังไม่ได้ประกาศแผนหรือลำดับเวลา
ร่างข้อมติของแอลจีเรียยังแสดงถึง “ความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่ย่ำแย่และทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก” ในฉนวนกาซา และย้ำถึงข้อเรียกร้องของสภาให้เข้าถึงด้านมนุษยธรรมอย่างไม่มีข้อจำกัดทั่วทั้งดินแดน โดยเจ้าหน้าที่สหประชาชาติกล่าวว่า หนึ่งในสี่ของประชากร 2.3 ล้านคนกำลังเผชิญกับความอดอยากอย่างแสนสาหัสอยู่ในเวลานี้





