INEWHORIZON

ขอบฟ้าใหม่

เกรต้า ธันเบิรก ทำลายขวัญเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ อย่างไร

เกรต้า ธันเบิรก ทำลายขวัญเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ อย่างไร

เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ยืนยันว่าบริษัทไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมต้องรับไว้อย่างจริงจัง ณ ทุกระดับของบริษัท เขาได้สร้างความผูกพันต่อความยั่งยืนอย่างเข้มแข็ง เขาได้รับรู้ว่าอุตสาหกรรมความหรูหรามีผลการะทบที่สำคัญต่อสิ่งแวดล้อม และได้ดำเนินการขั้นตอนที่จะลดรอยเท้าคาร์บอนของเเอลวีเอ็มเอช
ทั้งที่เขาบรรลุความสำเร็จอย่างมาก เขายังคงผูกพันให้คืนกลับแก่ชุมชนของเขา เขาได้บริจาคเงินหลายล้านเหรียญแก่การกุศล รวมทั้งมูลนิธิหลุยส์ วิตตองสนับสนุนศิลปและวัฒนธรรม เขาได้สร้างรางวัลเเอลวีเอ็มเอช ยกย่องและสนับสนุนนักออกแบบแฟชั่นวัยหนุ่มสาว
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ไดัถูกยกย่องต่อการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ของเขาด้วย เขาได้บริจาค 200 ล้านยูโรช่วยเหลือสร้างใหม่วิหารนอร์ท ดามภายในปารีส พังทลายจากไฟไหม้ การเเสดงความผูกพันของเขาต่อการรักษามรดกทางวัฒนธรรม และลงทุนภายในชุมชนท้องที่ การบริจาคนี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่างหนึ่งของความมีน้ำใจของเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์
ด้วยสงครามต่อเนื่องระหว่างยูเครนและรัสเซีย เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ รู้สึกถึงความจำเป็นที่จะช่วยเหลือยูเครนต่อสู้การรบ กลุ่มแอลวีเอ็มเอชได้ได้จัดสรรเงิน 5.5 ล้านเหรียญบริจาคแก่คณะกรรมการกาชาด ช่วยเหลือบุคคลถูกกระทบจากสงคราม วีอีเอ็มแอช ได้แถลงข้อความว่าพวกเขาตรวจสอบอย่างใกล้ชิดสถานการณ์น่าเศร้าสลดเกิดขึ้นภายในยูเครน ความห่วงใยอย่างแรกของพวกเขาคือ ความเป็นอยู่ที่ดีของบุคคลของ
พวกเขาภายในยูเครน และบริษัทได้ให้ความช่วยเหลือบุคคลของพวก
เขาทางการเงินและการดำเนินงานแล้ว
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ นำบริษัทของเขา แอลวีเอ็มเอช เป็นหุ้นส่วนกับนูเนสโกช่วยเหลือสนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพ การสร้่างโครงการที่มุ่งหมายลดผลกระทบการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศภายใน
โลกให้น้อยที่สุด และปรับปรุงการฟื้นตัวของระบบนิเวศ เพื่อการช่วย
เหลือชุมชนท้องที่
เบอรนาร์ด อารโนลต์ ซีอีโอของเเอลวีเอ็มเอช ได้หนุนหลังการสร้าง
ความยั่งยืนภายในอุตสาหกรรมแฟชั่น การวิจารณ์คำปราศัยของ
เกรต้า ธันเบิรก ณ สหประชาชาติ เบอร์นาร์ด อารโนลต์ ได้เยาะเย้ยเธอขาดการมองในเเง่ดีของปัญหาภูมิอากาศ วิจารณ์คำพูดของเธอเป็นการทำลายขวัญ ตามมาด้วยการหนุนหลังความพยายามของอุตสาหกรรมแฟชั่นไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น
ณ สหประชาชาติ นักเคลื่อนไหวภูมิอากาศวัยรุ่น เกรต้า ธันเบิรก ได้
ปราศัยต่อความฉุกเฉินของภูมิอากาศที่เราเผชิญอยู่ในฐานะของโลก
เกรต้า ธันเบริกแสดงความรู้สึกเมื่อเธอพูดอย่างเสียดแทงเกี่ยวกับวิถีทางระหว่างประเทศต่อสิ่งแวดล้อม
“บุคคลกำลังเจ็บปวด บุคคลกำลังจะตาย ระบบนิเวศกำลังพังทลาย เรา
อยู่ภายในการเริ่มต้นของการสูญสิ้นอย่างมาก และคุณทุกคนพูดเกี่ยว
กับเงินและเรื่องโกหกของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจนิรันดร กล้าดี
ยังไง”
การกระทำของเกรต้า ธันเบิรก ได้บันดาลใจบุคคลวัยหนุ่มสาวหลายล้านคน การทำอะไรที่รุ่นของพวกเขาควรจะทำแต่ได้ล้มเหลว รับผิดชอบต่ออนาคตของพวกเขา ถ้าเราอะไรก็ตามหดหู่ใจและหมดกำลังใจ มันเป็นอุตสาหกรรมแฟชั่นกระทบอย่างมากต่อโลกของเรา อุตสาหกรรมแฟชัน
มีส่วนต่อรอย
เท้าคาร์บอนสูงกว่าแม้แต่อุตสาหกรรมสายการบิน เกรต้า ธันเบิรก ได้โพสท์บนอินสตาแกรมการก้าวไปสู่ความยั่งยืนของอุตสาหกรรมแฟชั่นไม่มีอะไรนอกจากการฟอกเขียวอย่างแท้จริง
ต่อประเด็นของเกรต้า ธันเบิรก อุตสาหกรรมแฟชันเป็นผู้มีส่วนขนาดใหญ่ต่อการระเหยก้าสเรือนกระจก ประมาณ 8% ของผลกระทบภูมิอากาศของโลก สหประชาชาติ กล่าวว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นถูกเชื่ออย่างกว้างขวางเป็นอุตสาหกรรมสร้างมลภาวะมากที่สุดลำดับที่สองของโลก มันรับผิดชอบต่อน้ำเสียมากกว่า 20% ทั่วโลก ต่อการระเหยคาร์บอน อุตสาหกรรมแฟชันรับผิดชอบประมาณ 8% ของทั่วโลก มันมากกว่าอุตสาหกรรมสายบิน
เธอได้บอกโวค สแกนดิเนเวีย ว่าตราสินค้าแฟชั่นต้องรับผิดชอบต่อผล
กระทบทางสิ่งแสดล้อมของผลิตภัณฑ์ของพวกเขา เธอได้กล่าวหาบริษัท
ทำการโฆษณาการฟอกเขียว ออกแบบทำให้เสื้อผ้าของ
พวกเขาแสดงความยั่งยืน เกรต้า ธันเบิรก ได้กล่าวว่า เธอซื้อเสื้อผ้าใหม่สามปีที่แล้ว และมันเป็นมือสอง โวค สแกนดิเนเวีย ได้ลงภาพเกรต้า
ธันเบิรก หน้าปกฉบับแรก


เกรต้า ธันเบิรก นักเคลื่อนไหวภูมิอากาศ อายุ จากสวีเดนได้ถูกเสนอชื่อเป็นบุคคลแห่งปี 2019 ของวารสารไทม์ ณ ตอนอายุ 16 ปี เธอเป็นบุคคล
อายุน้อยที่สุดที่ได้ชื่อเรียกภายในประวัติ 92 ปีของวารสาร เธอได้ระเบิด
ออกมาสู่เวทีโลก ด้วยการจัดตั้งการประท้วงของโรงเรียน และเดินขบวน
ประท้วงเรียกร้องความสนใจต่อวิกฤติภูมิอากาศ
วารสารไทม์ กล่าวว่า การยกย่องอยู่บนพื้นฐานความคิดที่บุคคลที่มี
พลังสร้างโลก พวกเขาเลือกเกรต้า ธันเบิรก เพื่อการยกสัญญานเตือน
ต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และการแสดงเราทุกคนมันจะเป็นอย่าง
ไรเมื่อรุ่นใหม่เข้ามานำ
แม้ว่าเรามีถ้อยคำที่ชัดเจนเกี่ยวกับความยั่งยืน คอลเลกชั่นส่วนใหญ่
แสดง ณ สัปดาห์ปรารีส แฟชั่น ไม่ได้ทำอะไรกับความยั่งยืน นั่นคือทำตามการพูด ไม่ใช่เดินบนความยั่งยืน
ด้วยการพูดคุยกับนักหนังสือพิมพ์ ณ กิจกรรมความยั่งยืนของบริษัท
ของเขาภายในปารีส เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ได้วิจารณ์นักเคลื่อนไหวสิ่ง
เเวดล้อม เกรต้า ธันเบิรก ชาวสวีเดน อายุ 16 ปี ภายในการปราศัยแผนของเอ็มวีเอ็นเอชที่จะกลายเป็นสีเขียวมากขึ้น เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ได้กล่าวว่า ผมพบว่ามุมมองของเธอเป็นการทำลายขวัญต่อบุคคลวัยหนุ่มสาว…… เธอเป็นเด็กสาวที่มีพลัง แต่เธอยอมแพ้ต่อลัทธิภัยพิบัติอย่างสิ้นเชิง ผมพอใจต่อข้อแก้ปัญหาทางบวกทำให้เราก้าวไปข้างหน้าไปสู่ตำแหน่งที่มองโลกในเเง่ดีมากขึ้น
แต่กระนั้นการปราศัยของเกรต้า ธันเบิรกได้ทำลายขวัญเบอร์นาร์ด
อาร์โนลต์ ด้วยหรือไม่ เธอน่าจะเป็นยากดประสาทเล็กน้อยต่อเขาด้วย
ประธานาธิบดีโดเนลด์ ทรัมป์ ได้ฉีกคำพยากรณ์ทางสิ่งแวดล้อมของความหายนะ ณ การประชุมดาวอส การไม่ยอมรับการเตือนที่เผ็ดร้อน
จากนักเคลื่อนไหววัยรุ่น เกรต้า ธันเบิรก การประชุมครั้งที่ 50 ของสภาเศรษฐกิจโลก มุ่งหมายเพื่อที่จะสร้างจุดมุ่งที่เข้มแข็งต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
แต่โดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความชัดเจนว่าเขาไม่มีเวลาต่อการเตือนของ
เกรต้า ธันเบิรก ว่า “บ้านของเรายังคงอยู่บนไฟ” การไม่กระทำของคุณ
ได้เติมเชื้อเปลวไฟ โดนัลด์ ทรัมป์ได้ประกาศว่าอเมริกาจะร่วมการริเริ่ม
ที่จะปลูกต้นไม้ล้านล้านต้น แต่ได้พูดอย่างยืดยาวเกี่ยวกับความสำคัญของน้ำมันและเเก้ส และเรียกนักเคลื่อนไหวการเปลี่ยนปลงภูมิอากาศเป็นทายาทของนักทำนายที่โง่ของเมื่อวาน
เขาได้พูดโอ้อวดว่าเศรษฐกิจอเมริกากำลังเจริญเติบโตอย่างไม่เคยมีก่อนต้องขอบคุณต่อนโยบายของเขา มันเป็นถ้อยคำที่เขากล่าว ณ
การพบกันตอนอาหารเย็นกับซีอีโอรวมทั้งเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ จาก
แอลวีเอ็มเอช


ข้อวิจารณ์ของเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์เกิดขึ้นเพียงแค่สองวันภายหลัง
เกรต้า ธันเบิรก ได้กล่าวคำปราศัยที่มีพลัง ณ การประชุมสุดยอดการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศสหประชาชาติภายในนิวยอร์ค เธอได้กล่าวหา
ผู้นำโลกของการขโมยความฝันและความเป็นเด็กของเธอ เบอร์นาร์ด
อาร์โนลต์ รู้สึกคำปราศัยของเกรต้า ธันเบิรก มองโลกในแง่ร้ายเกินไป
และทำลายขวัญของบุคคลวัยหนุ่มสาว เขาไม่ยอมรับอะไรที่เขาเรียกว่า
การเผยแพร่ความกลัว ความหายนะของเกรต้า ธันเบิรก
เธอไม่ได้เสนอแนะอย่างใดเลย นอกเหนือจากข้อวิจารณ์ ผมชอบข้อ
แก้ปัญหาทางบวก ทำให้เราก้าวไปสู่ตำแหน่งมองโลกในแง่ดีมากขึ้น
การวิจารณ์ของเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ต่อเกรต้า ธันเบิรก เกิดขึ้นใน
ขณะที่เขาอภิปรายการริเริ่มสิ่งแวดล้อมเป็นมิตรของบริษัท เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ กล่าวว่า เราเชื่อว่าการปฏิบัติงานทางสิ่งแวดล้อมเป็นแหล่งที่มาของนวัตกรรม ความคิดสร้่างสรรค์ ความเป็นเลิศ และมันต้องถูกพิจารณาภายในการออกแบบและการผลิต
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ได้โจมตีเกรต้า ธันเบิรก อะไรที่เราได้จากเธอคือ เราต้องหยุดการเจริญเติบโต ลดความยากจน เพิ่มมาตรฐานการดำรงชีวิต และปรับปรุงสุขภาพภายในพื้นที่ยากจน เช่น อัฟริกา ถ้าเราต้องการถอยหลัง จงหยุดการเจริญเติบโต เขาประกาศ
เเต่แอนเดรียส์ คอรนธาเลอร์ นักออกแบบ สามีของวิเวียน เวสท์วูด ได้ตะโกนภายหลังแฟชั่นโชว์ปารีสของเขา “ธุรกิจตามปรกติ” ทัศนคติไช้
ไม่ได้อีกแล้ว เขากล่าว แฟชั่นเป็นผู้สร้างมลภาวะที่ยิ่งใหญ่ เรากำลังนั่ง
บนภูเขาไฟ และยืมเวลา ผมไม่ใช่มองโลกในแง่ร้าย ผมเชื่อภายในสิ่งที่ดีของบุคคล แต่มันบ้าอะไรที่เราทำอยู่ มันชัดเจน และแฟชันเป็นผู้สร้างมลภาวะยิ่งใหญ่
แอนเดรียส์ ครอนธาเลอร์ ยกย่องเกรต้า ธันเบิรก ต่อการมุ่งทำให้การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศเป็นจุดศูนย์รวมทั้งหมด ผมคิดว่าเด็กสาวคนนี้น่าทึ่งมาก และเราควรจะขอบคุณเธอ ผมดีใจอย่างมากที่บุคคลบางคนชอบเธอ นักออกแบบชาวออสเตรียและภรรยาของเขาเป็นนักเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อมมายาวนาน ครั้งหนึ่งวิเวียน เวสท์วูดได้บอกว่าเธออาบน้ำสัปดาห์ละครั้ง เพื่อการประหยัดน้ำ
การใช้ผ้ารีไซเคิล ได้ถูกยกย่องเป็นการก้าวไปที่จะส่งเสริมความยั่งยืน
ภายในแฟชั่น แอนเดรียส ครอนธาเลอร์ เพื่อคอลเลคชั่นของวิเวียน เวสท์ วูด ได้พิสูจน์ว่าอัพไซเคิลและรีไซเคิลปฟชั่น ไม่น่าเบื่อ วิเวียน เวสท์วูด
เป็นทั้งนักออกแฟชั่นและนักเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อม
เกรต้า ธันเบิรก ได้เคยพูดคุยกับพระสันตะปาปา เลขานุการยูเอ็น และ
บุคคลที่มีอิทธิพลอื่น แต่เธอได้ถูกวิจารณ์หรือเย้นหยันโดยผู้สงสัยภูมิ
อากาศด้วย และโดยผู้นำโลก เช่น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานา
ธิบดีบราซิล ชาอีร์ โบลโซนาโร และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ พูติน

เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ หลีกเลี่ยงสปอร์ตไลน์ บุคคลที่พูดจาอ่อนนุ่ม
ด้วยประวัติของการซื้อบริษัทที่ทารุณ และการปรับปรุงโครงสร้าง
อย่างทำลายล้วง เขาได้เเอลวีเอ็มเอช ผ่านการรวมกันของสัญชาติ
ญานนักฆ่าและการพลิกแพลง การซื้อบริษัืทคู่แข่งขัน ในขณะที่
เลี้ยงดูรุ่นของนักออกแบบแฟชั่น ความสำเร็จนี้ทำให้เขาได้ชื่อเล่น
หมาป่าภายในเเคชเมีย
เมื่อ ค.ศ 1984 เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ กลับจากอเมริกาสู่่ฝรั่งเศส และ
ทำการโจมตีผลิตภัณฑ์หรูหรา เขาได้ยึดครองบูเเซค กลุ่มสิ่งทอที่ล้มละลายเจ้าของอัญมณี คริสเตียน ดิออร์ บริษัทแม่ บูแซคได้ยื่นล้มละลาย รัฐบาลฝรั่งเศสกำลังมองผู้ซื้อ เพื่ออาณาจักรสิ่งทอที่เจ็บป่วย เป็นเจ้าของบริษัทจำนวนหนึ่งรวมทั้งแฟชั่น เฮ้าส์ ดิออร์ที่เขาอยากได้มาหลายปี
ดังนั้นเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ได้ซื้อบูเเซค ภายหลังการขายทรัพย์สินอื่นส่วนใหญ่ การซื้อบูแซคได้ช่วยให้อาร์โนลต์ กระโดดข้ามจากธุรกิจ 15 ล้านเหรียญต่อปีของครอบครัว ไปสู่บริษัทใหญ่ขึ้นยี่สิบเท่า เขาได้ลงทุนใหม่ ไปสู่เป้าหมายความหรูหราต่อไปของเขา : หลุยส์ วิตตอง และโมเอต์ เฮนเนสซี่ สองบริษัทฝรั่งเศสไอคอนที่ได้รวมบริษัทกันเป็นแอลวีเอ็มเอชเมื่อ ค.ศ 1987
ด้วยการซื้อบริษัทที่บรรลุความสำเร็จส่วนใหญ่ แอลวีเอ็มเอชมีความ
ล้มเหลวที่มีชื่อเสียงด้วย เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ได้พ่ายแพ้แก่ฟรองซัวส์
ปิโนลต์ ภายในการซื้อกุชชี่ เขาได้ล้มเหลวต่อความพยายามซื้อบริษัทอย่างไม่เป็นมิตรต่อเเอร์เมด อินเตอร์แนชั่นแนล สมาชิกของครอบครัว
แอร์เมดเรียกเขาว่า หมาป่าภายในแคชเมีย ต่อวิถีทางไล่ล่าที่เขาได้พยายามซื้อบริษัทของพวกเขา
ซีอีโอชองเอร์เมด แพตตริค โทมัส ได้กระตุ้นการตกตะลึงภายในปารีส
้เมื่อเขาได้โจมตีวิธีการของเเอลวีเอ็มเอชภายในการซื้อ 20% ของตราสินค้าเครื่องหนังมรดก เขาได้เปรียบเทียบการซื้อบริษัทอย่างไม่เป็นมิตรต่อ
การข่มขืน เมื่อมันได้ปรากฏว่าแอลวีเอ็มเอช ได้สร้างส่วนได้เสียอย่างไม่เปิดเผยภายในกลุ่มกระเป๋าถือเบอริกิ้นและผ้าพันคอไหม ซีอีโอ ได้กล่าว
ด้วยความโกรธ “ถ้าคุณต้องการเกลี้ยกล่อมผู้หญิงสวย คุณอย่าเริ่มต้น
ด้วยการข่มขืนเธอจากข้างหลัง”
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ได้สร้างราชวงศ์ของเขาเองภายในเเอลวีเอ็มเอช
เขามีลูกห้าคนจากการแต่งงานสองครั้ง ลูกทุกคนทำงานอยู่ ณ บริษัท
หรือตราสินค้า เเอลวีเอ็มเอช ได้เพิ่มอายุเกษียณซีอีโอของแอลวีเอ็มเอชเป็น 80 ปี มันทำให้เบอร์นาร์ดอาร์โนลตยังคงอยู่ ณ ตำแหน่งจนอายุ 80
ปี สัญญานที่เขามุ่งหมายรับผิดชอบยาวนานขึ้น การซื้อเวลาเพื่อการสืบ
ทอดท่ามกลางลูกของเขา ท่ามกลางการเพิ่มอายุซีอีโอสูงสุดจาก 75 ปี
เป็น 80 ปี การชี้ว่าเบอร์นาร์ดอารโนลต์ กำลังตระเตรียมเพื่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจอย่างราบรื่น แต่เรามีการประท้วงขอวมวลชนฝรั่ง
เศส ได้อดทนต่อสู้การเพิ่มอายุการเกษียณของพวกเขาจาก 62 ปีเป็น
64 ปี ถ้าเรามีใครก็ตามภายในฝรั่งเศสที่ไม่ต้องการเกษียณ คำตอบ
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์
ณ การประชุมครั้งหนึ่ง ด้วยลูกของเขานั่งแถวหน้า เมื่อถูกถามเกี่ยวกับ
ผู้สืบทอด เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ได้ตอบสนองอย่างตลกเกี่ยวกับการ
ปฏิรูปเงินบำนาญภายในฝรั่งเศส คุณจะมองเห็นว่าอายุการเกษียณได้
ถูกเพิ่มขึ้น
ณ อายุ 73 ปี เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ มีความมั่งคั่ง 196 พันล้านเหรียญ
ลูกห้าคน และขับเคลื่อนที่จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ที่ระบาดกับหลายราช
วงศ์ ความขัดเเย้งของครอบครัวภายในการสืบทอดมักจะถูกเปรียบเทียบ
กับครอบครัวของรูเพิรต เมอร์ดอก ผู้ก่อตั้ง นิวส์ คอร์ป ลูกของเขาได้ถูกฝึกฝนเพื่อความสำเร็จ แต่เขาต้องเลือกทายาทต่อบัลลังก์
เมื่อเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ถูกถามอะไรทำให้เขาลุกจากที่นอนตอนเช้า เขาได้ยืนกรานว่ามันไม่ใช่เงิน ความมั่งคั่งของเขาเป็นเพียงแค่ผลตามมาของผมได้ทำอะไร ความเป็นจริงคือเงินส่วนใหญ่อยู่ภายในบริษัท มันไม่ได้เป็นเงินที่หมายความว่าพรุ่งนี้ผมสามารถไปซื้ออะไรก็ตามที่ผมต้องการหรือไปคาสิโน และคลุ้มคลั่ง
ราชวงศ์ร่ำรวยที่สุดของโลกอยู่ภายในความเสี่ยง ใครจะยึดครองกลุ่มธุรกิจ 418 พันล้านเหรียญของเขา การต่อสู้เพื่อการสืบทอดภายในบ้าน
ของดิออร์ พี่น้องกระเเทกกันที่จะยึดมงกุฏของครอบครัว เขาได้ยื่น
กุญแจลูกสาวของเขาด้วยการให้ลูกสาวของเขาควบคุมดิออร์ เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ได้เริ่มต้นการประกวด เพื่อที่จะมองลูกห้าคนคนไหนจะยึดครองอาณาจักรของเขา แอลวีเอ็มเอช
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ สามารถใช้เวลานี้คิดเกี่ยวกับลูกคนไหนของเขาจะยึดครอง อายุไม้ใกล้ฝั่งและและลูกห้าคนของเขาแข่งขันกันเพื่ออำนาจ ทำไมชีวิต
ของเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์คล้ายกับ “Succession” ภาพยนตร์ชุดโทรทัศน์ชนะรางวัลเอ็มมี่ของเอชบีโอ แสดงเรื่องราวของครอบครัวสุดมั่งคั่ง รอยส์
ด้วยลูกกำลังแข่งขันเพื่อการควบคุมอาณาจักรสื่อของครอบครัวของพวก
เขา ผ่านทางนิยาย มันได้ดึงเเรงบันบาลใจจากชีวิตจริงของรูเพิรต เมอร์
ดอก ผู้ก่อตั้งชาวออสเตรเลีย นิวส์ คอร์ป และลูกหกคนของเขา แก่นที่สำ
คัญภายในเรื่อวราวของเขาคือ การวางแผนสืบทอดเพื่ออาณาจักรสื่อของ
เขา การสร้างความตึงเครียดระหว่างลูกของเขา
การแข่งขันการสืบทอดของแอลวีเอ็มเอช ได้ทำให้เราคิดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ แสดงโมกุลสื่อที่มั่งคั่ง และลูกสี่คนของเขาแข่งขันกัน เพื่อการควบคุมกลุ่มธุรกิจสื่อของครอบครัวของพวกเขา โลแกน รอย เป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอของกลุ่มธุรกิจสื่อ เวย์สตาร์ โรแกน รอย ผู้นำชั้นเชิงของครอบครัวนิยาย มักจะถูกเปรียบเทียบรูเพิรต เมอร์ ดอก ผู้ก่อตั้งนิวส์ คอร์ป หัวหน้าครอบครัวเมอร์ดอก
ทั้งสองนำการขยายตัวของอาณาจักรสื่อ รูเพิรต เมอร์ดอก เป็นนักธุรกิจที่โหดร้าย เผชิญการเเข่งขันด้วยการซื้อพวกเขา หรือทำให้พวกเขาต้องออกไปจากธุรกิจยุทธวิธีที่ก้าวร้าวเหล่านี้คล้ายกับยุทธวิธีใช้โดยโลแกน รอย ทั้งรูเพิรตเมอร์ดอก และโลแกน แต่งงานหลายครั้ง ด้วยลูกจากการแต่งงานหลายครั้ง ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับลูกของพวกเขา
กรณีของครอบครัวเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ เป็นเพียงแค่การเดาเหมือนกับ
โลแกน รอย และรูเพิรต เมอร์ดอก ลูกสาวคนโตสุด เดลฟิน อาร์โนลต์
และลูกชายสี่คน แต่ละคนด้วยบทบาทภายในอาณาจักรแฟชั่น เฮ้าส์
หรูหรา แข่งขันเพื่อการควบคุม เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ได้ตอบสนองต่อ
คำถามของนักวิเคราะห์ต่อการวางแผนสืบทอด คุณจะมองเห็นว่าอายุ
การเกษียณของเราได้ถูกเพิ่มขึ้น ด้วยการให้ลูกสาวของเขาควบคุมดิออร์ เบอร์นาร์ อาร์โนลต์ ได้เริ่มต้นการประกวดมองว่าลูกคนไหนจะยึดครองตำแหน่งของเขาเป็นผู้นำแอลวีเอ็มเอช
ความขัดเเย้งของครอบครัวบนภาพยนต์ชุดโทรทัศน์ “Succession” มักจะถูกเปรียบเทียบกับความขัดแย้งของครอบครัวของรูเพิรต เมอร์ดอก
แต่การต่อสู้อย่างเดียวกันเพื่อการสืบทอด ได้เกิดขึ้นภายในแอลวีเอ็มเอช
ด้วย
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ หัวหน้าครอบครัว กำลังเลี้ยงดูลูกของเขาที่จะยึดครองธุรกิจของครอบครัว การให้ชีวิตจริงที่น่าสนใจเทียบเคียงกับภาพยนตร์ชุดโทรทัศน์ของเอชบีโอ เรื่องนี้
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ได้กล่าวว่าผู้สืบทอดของเขาจะถูกเลือกบนความสามารถ เป็นการพยักหน้าต่อความสำคัญของความสามารถ และความเป็นผู้นำภายในการดำเนินธุรกิจที่บรรลุความสำเร็จ ภายใน “Succession” การต่อสู้อำนาจของครอบครัวโลแกน รอย มักจะขับเคลื่้อนโดยความ
ทะเยอทะยานและอัตตาส่วนบุคคล ไม่ใช่ความสามารถ การแสดงอันตรายของการเลือกที่รักมักที่ชัง และความสำคัญของการเลือกผู้นำ
บนพื้นฐานความสามารถของพวกเขา ไม่ใช่ความผูกพันของครอบครัว
เมื่อเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์เลี้ยงดูลูกของเขาที่จะยึดครองกลุ่มธุรกิจหรูหราของเขา เขาได้ดำเนินการสืบทอดภายในชีวิตจริง และในขณะที่
โลแกน รอยอาจจะเป็นครอบครัวนิยายน่าหลงใหลที่จะชม แผนการสืบทอดที่แท้จริงของเบอร์นาร์ด อารโนลต์มีผลตามมาโลกแห่งความเป็นจริงต่อแอลวีเอ็มเอช และอุตสาหกรรมแฟชั่นโดยส่วนรวม
ครอบครัวของอาร์โนลต์ ได้ตระเตรียมเพื่อช่วงเวลานี้มายาวนาน เขา
ได้เลี้ยงดูลูกของเขาเพื่อความเป็นผู้นำภายในแอลวีเอ็มเอช และพวกเขา
ทุกคนเกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งภายในธุรกิจ ครั้งละหนึ่งเดือน เบอร์นาร์ด
อาร์โนลต์ ได้ทานอาหารเที่ยง 90 นาทีกับลูกห้าคนของเขา ณ สำนักงานใหญ่แอลวีเอ็มเอช ตรงที่เขาได้ทดสอบและท้าทายความสามารถของ
พวกเขา เขาได้สรุปกลยุทธ์ของบริษัทแก่พวกเขา และขอคำแนะนำ
ของพวกเขา
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ได้กระตุ้น “การแข่งขันของดาร์วิน” ท่ามกลาง
ลูกของเขา คล้ายกับการต่อสู้ภายในครอบครัวโลแกน รอยภายใน “Succession” ความลับของความสำเร็จของเขาภายในแอลวีเอ็มเอช
คือ การคิดค้นของถ้อยคำพูดที่ขัดเเย้งกัน การขายความเป็นเฉพาะตัว
แก่บุคคลจำนวนมาก ถ้าปราศจากการแข่งขัน สิ่งมีชีวิตจะไม่วิวัฒนาการ
ความสามารภทางร่างกายและความคิดใดเลย ดังนั้นการแข่งขันได้ถูก
เข้าใจเป็นแรงขับเคลื่อนเบื้องหลังวิวัฒนาการของชาร์ล ดาร์วิน
การเเข่งขันเป็นหลักการเบื้องต้นของวิวัฒนาการของดาร์วิน ภายในทฤษฎีของดาร์วินบนกลไกของวิวัฒนาการ การแข่งขันท่ามกลางสิ่งมีชีวิตถูกมองเป็นส่วนที่สำคัญของการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด และเป็นราก
ฐานเพื่อการคัดเลือกโดยธรรมชาติ
วิลเลียม รอธเวลล์ ได้อธิบายการวางแผนสืบทอดเป็นกระบวนการผสมผสาน เชื่อมโยงต่อเป้าหมายโดยส่วนรวมขององค์การ การวางแผนสืบ
ทอดเป็นความพยายามอย่างมีระบบและรอบคอบโดยองค์การที่จะมั่นใจความต่อเนื่องของการเป็นผู้นำภายในตำแหน่งที่สำคัญ รักษาและพัฒนาทุนปัญญาและความรู้เพื่ออนาคตและกระตุ้นการพัฒนาของบุคคล
ต้นกำเนิดของการวางแผนสืบทอดต้องยกย่อง
แก่ผู้บุกเบิกของทฤษฎีการบริหารชาวฝรั่งเศส เฮนรี่ ฟาโยล ตามเฮนรี
ฟาโยล จุดเเข็งขององค์การอยู่ภายในบุคคลของพวกเขา เมื่อบุคคลมี
ความสามารถมากขึ้น และถูกตระเตรียมเพื่อประโยชน์ขององค์การ
บิลล์ จอร์จ ซีอีโอก่อนหน้านี้ของเมดโทรนิค ได้กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุด
อย่่างหนึ่งไม่สามารถรับภาระที่จะละเลยคือ ตระเตรียมบุคคลเพื่อการ
สืบทอดของพวกเขาเอง
ถ้าคุณเคยดูคุกใต้ดินและมังกรจากภาพยนตร์ชุดโทรทัศน์ “Game of Thrones” ผมคิดว่าคุณจบลงด้วยการแสดงคล้ายมากกับ “Succession”
บุคคลทุกคนต้องตาย “Game of Thrones” เป็นการแสดงเดินขบวนแห่งความตายตลอดทุกตอนให้แนวทางการปฏิบัติต่อการวางแผนสืบทอดได้ดี
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ได้ขายเครื่องบินไอพ่นส่วนบุคคลของเเอลวีเอ็มเอช ครั้งหนึ่งเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ เป็นเจ้าของเครื่องบินไอพ่น บอมบาร์ดิแอร์ 7500 ภายหลังที่บุคคลจำนวนมากเริ่มต้นติดตามเครื่องบินบนทวิตเตอร์ เขาต้องการหยุดนักเคลื่อนไหวทวิตเตอร์จากการติดตามการเคลื่อนไหวของเขา
ผลลัพธ์ในขณะนี้คือ ไม่มีใครสามารถมองเห็นผมไปที่ไหน เพราะว่าผมเช่าเครื่องบิน เมื่อผมใช้เครื่องบินส่วนบุคคล เขาได้กล่าวว่าทวิตเตอร์รายงานว่าเครื่องบินไอพ่นของเขาอยู่ที่ไหน และมันไม่ดีต่อธุรกิจ มันไม่ดีอย่างมากเมื่อคู่แข่งขันสามารถรู้ตรงไหนที่เราอยู่ ณ เวลาหนึ่ง มันสามารถให้ความคิด และมันสามารถให้ร่องรอยด้วย

แอลวีเอ็มเอช ได้ซื้อทิฟฟานี แอนด์ โค 15.8 พันล้านเหรียญเมื่อ ค.ศ 2021 พวกเขาเกือบจะไม่ได้ซื้อทิฟฟานี บริษัทได้ตกลงจ่ายมากกว่า 16 พัน
ล้านเหรียญแก่ผู้ค้าปลีกนาฬิกาอเมริกันที่มืชื่อเสียงภายใน ค.ศ 2019
และต่อมาได้พยายามถอนตัวข้อตกลง เมื่อการแพร่โรคระบาดนำไปสู่
การลดลงอย่างมากของยอดขาย และรายได้ของทิฟฟานี แอลวีเอ็มเอช
ได้อ้างการกระทำโดยรัฐบาลฝรั่งเศสเพื่อการก้าวไปของการซื้อ
การซื้อทิฟฟานี แอนด์ โค เป็นผู้มีส่่วนช่วยใหญ่ที่สุดต่่อการเจริญเติบโตของแอลวีเอ็มเอช เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ได้กล่าวว่า ผมยินดีต้อนรับทิฟฟานี และบุคคลที่สามารถของพวกเขาทุกคนภายในกลุ่มของเรา ทิฟฟานีเป็นตราสินค้าไอคอน เราผูกพันต่อการสนับสนุนทิฟฟานี ตราสินค้าที่มี
ความหมายเดียวกับความรัก และกล่องสีน้ำเงินถูกเคารพไปทั่วโลก ด้วยการทุ่มเทและความลุ่มหลงอย่างเดียวกันที่เราได้ใช้กับแต่ละบ้านที่มีชื่อเสียงของเรา
เรามองโลกในเเง่ดีเกี่ยวกับความสามารถของทิฟฟานีเร่งการเจริญเติบโตของมัน การซื้อทิฟฟานีจะช่วยให้เเอลวีเอ็มเอชขยายตัวไปสู่ธุรกิจเครื่องเพชรที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดผลิตภัณฑ์หรูหรา ทิฟฟานี ได้ถูกยกย่องด้วยการคิดค้นแหวนหมั้น และทิฟฟานีกลายเป็นอมตะภายในภาพยนตร์ “Breakfast at Tiffany”1961 แสดงโดยออเดรย์ เฮพเบิรน

ทิฟฟานี แอนด์ โค ได้ถูกยกย่องจากการคิดค้นแหวนหมั้น ดังเป็นพลุเเตกจากภาพยนตร์แห่งความทรงจำตลอดกาล “Breakfast at Tiffanys” : อาหารเช้าที่ทิฟฟานี นำแสดงโดยออร์เดย์ เฮฟเบิร์น ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รางวัลออสการ์สาขาเพลงประกอบยอดเยี่ยม “Moon River”
ทิฟฟานี แพรวพราวดั่งเพชรจากฉากเเรกของภาพยนตร์เรื่องนี้ ด้วยทำนองคล้ายความฝัน “Moon River” ได้เริ่มต้นบรรเลง เมื่อออร์เดย์ เฮฟ
เบิรน ก้าวลงจากแทกซี่คันสีเหลือง ตอนพระอาทิตย์ขึ้น บนฟิฟท์ อเวนู
ที่โล่งด้วยผู้คน และหยุดที่ข้างหน้า 727 ฟิฟท์ อเวนู อาคารที่อยู่ของ
ร้านเพชรที่มีชื่อเสียง ทิฟฟานี แอนด์ โค ออร์เดย์ เฮปเบิรน ภายในชุด
สีดำสวยงาม ของไอคอนฮูเเบร์ เดอ จิวองชี เครื่องประดับเป็นชุดไข่มุก
ตุ้มหูใหญ่
เธอนำอาหารเช้าและกาแฟ และกินมันข้างหน้าต่างร้านของทิฟฟานี เมื่อเธอมองดูเพชรหลากหลายที่นำเเสดงด้วยความสนใจ และฉากนี้ได้ทำให้ออรเ์ดย์ เฮปเบิรน กลายเป็นไอคอนเครื่องเพชรของทิฟฟานี แอนด์ โค

Cr : รศ สมยศ นาวีการ

Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *