อาการไซโลตามหน้าที่
อาการไซโลตามหน้าที่
ถ้อยคำ “ช้างระบบราชการภายในห้อง” อ้างถึงปัญหาของระบบราชการที่ใหญ่โต ชัดเจน และหลีกเลี่ยงไมได้ ที่บุคคลบุคคลทุกคนรู้ว่ามีอยู่ แต่ได้
หลีกเลี่ยงการอภิปราย หรือการยอมรับ แม้ว่ามีผลกระทบที่ชัดเจนของมัน
เพราะว่ามันมันยากเกินไป หรืออึดอัดใจที่จะจัดการมัน การเปรียบเทียบช้างช้างภายให้องเป็นสำนวนโดยทั่วไปที่อ้างถึงบางสิ่งบางอย่างที่ใหญ่ใต ชัดเจน และละเลย เเต่บุคคลทุกคนแสร้งทำ มองไม่เห็นมันหรือหลีกเลี่ยงเผชิญกับมันโดยตรง การอ้างถึงความเป็นจริงชัดเจนและอึดอัดใจบุคคลปฏิเสธที่จะยอมรับ มันได้ถูกใช้อธิบายปัญหาที่สำคัญที่ปรากฏอยู่แล้ว แต่ไม่มีใครต้องการพูด
ถ้อยคำ “ช้างภายในห้อง” ถูกกำเนิดมาจากนิทานรัสเซีย 1814 ของอิวาน ครีลอฟ “The Inquistive Man” เขาได้เขียนนิทานเกี่ยวกับชายคนหนึ่งไปเยี่ยมพิพิธภันฑ์ และมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างแต่ไม่ได้มองเห็นช้างที่ปรากฏอยู่
เรื่องราวสั้น 1882 ของมาร์ค ทเวน “The Stolen White Elephant” มักจะถูกอ้างเป็นต้นกำเนิดที่เป็นไปได้ เเม้ว่าต้นกำเนิดของมันมีอยู่ก่อนหน้่านี้แล้วภายในวรรณกรรมของรัสเซีย ภายในเรื่องราวนี้นักสืบกำลังค้นหาช้างที่ขโมย แต่ช้างแท้จริงอยู่ภายในห้อง ไม่ได้มองเห็นโดยนักสืบ
เมื่อได้ประยุกต์ใช้ต่อระบบราชการ มันแสดงสถานการณ์ ตรงที่ปัญหาที่
สำคัญเกี่ยวพันกับเรด เท้ปที่ไม่จำเป็นระเบียบการที่ไม่มีประสิทธิภาพ การขาดความรับผิดชอบ และการขาดการสื่อสาร ปรากฏอยู่แต่ไม่มีใครต้อง
การที่จะแก้ปัญหารากฐาน ปัญหาระบบราชการเหล่านี้มักจะถูกละเลยอยู่
เสมอเพราะว่ามันยุ่งยากที่จะเเก้ไข มันอาจจะต้องการการเปลี่ยนแปลงที่
ลำบาก หรือการประนีประนอม
พิม เดอ มอร์รี ผู้ก่อตั้งร่วม ครอปอเรท เรเบิ้ล มักจะอ้างถึงแกรี ฮาเมลต่อกรณีของฆ่าระบบราชการบุคคลทั้งสองสนับสนุนอย่างเข้มแข็งต่อการรื้อโครงสร้างระบบราชการที่ไม่จำเป็นภายในองค์การ การปลดปล่อยความคล่องตัว และนวัตกรรมมากขึ้นด้วยแกรี ฮาเมล เป็นเสียงนำภายในด้านนี้ผ่านทางข้อเขียนและการบรรยายเกี่ยวกับเรื่องนี้ของเขา พิมพ์ เดอ มอร์รี มีมุมมองที่สอดคล้องกับแกรี ฮาเมล เขาได้สนับสนุนความต้องการที่จะรื้อระบบราชการ และให้อำนาจบุคคลทำงานอย่างอิสระมากขึ้น
พิมพ์ เดอ มอร์รี ได้อภิปรายหนังสือ Humanocracy ของแกรี ฮาเมล บน
ลิงค์อิน บุคคลทั้งสองเกี่ยวพันภายในความคิดของฮิวแมนอคราซี วิถีทาง
ของการจัดองค์การ บนพื้นฐานของความร่วมมือร่วมใจ และการเป็นผู้ประ
กอบการ พวกเขาได้เสนอเเนะการทดแทนระบยราชการด้วยโครงสร้้างที่ยืดหยุ่นและคล่องตัวมากขึ้น
คุณสามารถสร้างสถานที่ทำงานที่มีความหมายเพื่อบุคคลของคุณแย่าง
ไร พิม เดอ มอร์รี และจอสท์ มินนาร์ ได้เขียนหนังสือ Corporate Rebels : Make Work More Fun พวกเขาได้ไปเยี่ยมองค์การที่ก้าวหน้าหลายร้อยแห่ง ค้นหาทำให้สถานที่ทำงานของคุณไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้นอย่างไร แต่การสร้างสภาพแวดล้อมตรงที่บุคคลถูกไว้วางใจทำงานของพวกเขาอย่างไรด้วยพิม เดอ มอร์รีได้อภิปรายความคิดของการทำให้
ระบบราชการเรียบง่ายลง
จอสท์ มินนาร์ และพิน เป็นผู้ก่อตั้งของคอร์ปอเรท เลเบิ้ลขบวนการระดับ
โลกทำให้งานสนุกสนาน บล็อกของพวกเขา ถูกอ่านภายในมากกว่า 100 ประเทศ และได้ถูกนำนำแสดงภายในนิวยอรค์ไทม์ ฟอร์บ บีบีซี กอร์เดียน และฮัฟฟ์โพสท์ ผู้เขียนได้ติดลำดับ ท่ามกลางนักคิดการบริหารที่ปรากฏขึ้นลำดับสูงสุด 30 คน
“ระบบราชการต้องตาย” แกรี ฮาเมล ร้องตะโกนจากเวทีของการประชุมเรนดานไฮยีครั้งที่สองภายในจีนไม่นานมานี้ กูรูที่มีอิทธิพลคนนี้จะอยู่บนภารกิจที่จะกำจัดองค์การของระบบราชการ
ในฐานะของคอรปอเรท เรเบิ้ล เราสนับสนุนอย่างเข้มเเข็งต่อการรณรงค์ของเขา มันถูกต้องการอย่างเร่งด่วน ทำไม เพราะว่าระบบราชการภายในองค์การใหญ่กำลังเจริญเติบโต ไม่ใช่หดตัวลง ทั้งที่มีการพูดไม่นานมานี้เกี่ยวกับแฟชั่นเหมือนเข่นโฮลาคราซี เเกรี ฮามเมล ได้เเสดงองค์การใหญ่ส่วนใหญ่มีแปดหรือมากกว่าลำดับชั้นของการบริหาร
ปุ่มถอนการติดตั้งยากที่จะค้นพบ เราจะไม่มีกระบวนการที่เรียบง่ายที่จะ
กำจัดระบบราชการที่จริงแล้ว แกรี ฮาเมล สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงค่อย
เป็นค่อยไปจากบิวรอคราซี ไปสู่อะไรที่เขาเรียกว่าฮิวแมนอคราซี่ แนวคิดของฮิวแมนอคราซีอยู่บนการปฏิบัติที่ดีที่สุดของสถานที่ทำงานที่ก้าวหน้าที่เราคุ้นเคยมากกว่า
ท่ามกลางพวกนี้เป็นองค์การบัคเก็ต ลิสท์อย่างเช่น ไฮเออร์ มอร์นิ่ง สตาร์ ดับบลิว แอล กอร์ และสปอติฟา พวกเขามีความสามารถที่พิสูจน์แล้วของการบริหารองค์การใหญ่และซับซ้อนด้วยการบริหารแบบลีนและระบบราช
การน้อยที่สุด การสร้างข้อได้เปรียบทางธุรกิจที่สำคัญแก่พวกเขาพวกเขาได้แสดงแก่เราที่จะกำจัดระบบราชการมากเกินไปอย่างไร พวกเขาได้บัน
ดาลใจคุณลักษณะที่แตกต่างสิบข้อของฮิวแมนอคราซีของแกรี ฮาเมล
*บุคคลทุกคนกระทำเหมือนเป็นเจ้าของ
*หน่วยการดำเนินงานเล็กไม่ถึง 50 คน
*ผู้นาถูกเลือกโดยเพื่อนร่วมงาน
*การผูกขาดภายในไม่มี
*การควบคุมมาจากรายรอบไม่ใช่ข้างบน
*งานได้ถูกเลือกไม่ใช่มอบหมาย
*การประสานงานเป็นผลของความร่วมมือร่วมใจ
*การตัดสินใจสะท้อนความฉลาดของกลุ่ม
*พรมแดนขององค์การไร้รอยต่อ
* บุคคลทุกคนรายงานต่อลูกค้า
เราปลื้มใจที่จะมองเห็นว่าคุณลักษณะสิบข้อเหล่านี้สอดคล้องอย่างดีกับ
แปดนิสัยหรือแนวโน้มของสถานที่ทำงานที่ก้าวหน้าสูงของเราคือ
*การให้ความสำคัญความมุ่งหมายเหนือกำไร
*การก้าวจากโครงสร้างลำดับชั้นไปสู่เครือข่ายของทีม
*การยึดเอาความเป็นผู้นำแบบสนับสนุน
*การส่งเสริมการทดลองและการปรับตัว
*ความไว้วางใจบุคคลด้วยอิสรภาพและเป็นอิสระ
*การกระจายอำนาจการตัดสินใจ
*การส่งเสริมความโปร่งใสอย่างสุดขีด
*การมุ่งที่การพัฒนาความสามารถ
องค์การที่ก้าวหน้าก้าวจากโครงสร้างพีรามิดสมัยเดิม ไปสู่ความร่วมมือร่วมใจข้ามแผนกงานด้วยความเป็นอิสระมากขึ้น เครือข่ายของทีมได้เข้ามาแทนลำดับชั้น องค์การที่ก้าวหน้ารู้ว่า พีรามิดที่คุ้นเคยกันล้าสมัยแล้ว มันเพียงแค่ ไม่สอดคล้องกับสภาพเเวดล้อม ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของวันนี้ ความตายตัวของการบังคับบัญชา-การควบคุมไม่ส่งเสริมความคล่องตัว ความรวดเร็ว และความผูกพัน แนวคิดของคอปอเรท เรเบิ้ลส์ เสนอแนะการพลิกกลับข้างพีรามิดนี้ การกระจายอำนาจหน้าที่่ไปทั่วทั้งองค์การ
มันเป็นทำไมที่เราได้พบองค์การที่ก้าวหน้ามักจะรับเอาโครงสร้างทาง
เลือก โดยทั่วไปพวกเขาได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างพีรามิดที่ตายตัวไปสู่
เครือข่ายของทีมที่คล่องตัว พวกเขารับผิดชอบผลลัพธ์ของพวกเขาเอง
ภายในเครือข่ายของทีมเช่นนี้ แต่ละทีมมีส่วนได้เสียภายในเกม พวกเขา
รู้สึกผลกระทบของความสำเร็จและความล้มเหลวของพวกเขา มันจะเพิ่ม
ความรับผิดชอบ การเป็นผู้ประกอบการ การสื่อสาร การปรับตัว และการ
สนับสนุนกันและกัน องค์การที่ตายตัวเป็นส่วนหนึ่งภายในสุสานแล้ว
ภายในบริบทของคอปอเรท เรเบิ้ลส์ สุสานพีรามิด จะอ้างถึงความคิดว่า
โครงสร้างลำดับชั้นสมัยเดิมที่มักจะถูกมองเป็นพีรามิด ได้ล้าสมัยไปเเล้ว
และควรจะถูกโยนทิ้ง เพื่อโครงสร้างที่คล่องตัวขึ้น บนเครือข่ายของทีม
สอดคล้องดีกว่ากับความต้องการของธุรกิจสมัยใหม่ โครงสร้างพีรามิด
ที่ตายตัว ล้าสมัย และไม่มีประสิทธิภาพต่อไปอีกแล้ว ภายในสภาพแวด
ล้อมงานที่เปลี่ยนแปลงของวันนี้
พีรามิดแสดงการบริหารแบบการบังคับบัญชา-การควบคุม ตรงที่อำนาจ
หน้าที่่รวมศูนย์อยู่ ณ ระดับสูง ที่ถูกมองว่าเป็นการขัดขวางนวัตกรรมและความผูกพันของบุคคล ภายในสภาพแวดล้อมธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่าง
รวดเร็วของวันนี้ขบวนการส่งเสริมโดยคอปอเรท เลเบิ้ลส์ ได้สนับสนุนการ
เปลี่ยนแปลงจากโครงสร้างลำดับชั้นนี้ ไปสู่เครือข่ายของทีมที่กระจายอำ
นาจมากขึ้น ตรงที่บุคคลมีความเป็นอิสระ และความรับผิดชอบมากขึ้น
คอรปอเรท เรเบิ้ลส์ เสนอแนะโครงสร้างแบบแบน การทำลายไซโลเพื่อ
ที่จะส่งเสริมความร่วมมือร่วมใจและการให้อำนาจบุคคล ด้วยแปดเเนวโน้มหรือนิสัยของพวกเขา การระบุหลักการ ที่สำคัญของการบรรลุสภาพแวด
ล้อมงานที่ก้าวหน้านี้ การลดลำดับชั้ และจำนวนของผู้บริหารให้น้อยที่สุดภายในองค์การ การยอมให้มีการสื่อสารโดยตรงระหว่างบุคคล ณ ระดับที่แตกต่างกัน การส่งเสริมความเป็นอิสระและการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
ภายในบริบทของบริษัท ไซโลจะแสดงแผนกงานที่โดดเดี่ยวดำเนินงาน
อย่างอิสระจากแผนกงานอื่น มันมักจะขาดความโปร่งใสและร่วมมือร่วมใจกับกับแผนกงานอื่นขององค์การ มันสามารถนำไปสู่การขาดประสิทธิภาพการพลาดโอกาส ถ้อยคำไซโลได้กำเนิดมาจาก โครงสร้างเก็บรักษาพืช
ผลเกษตร ได้ถูกใช้เก็บรักษาพืชผลภายในความโดดเดี่ยว ดังนั้นไซโลได้
สะท้อนความคิดการทำหน้าที่แยกจากกันและเป็นอิสระภายในองค์การ
ถ้อยคำ “ความคิดไซโล” กำเนิดมาจากโครงสร้างกายภาพของไซโลเก็บรักษาพืชผลบนฟาร์ม และถูกใช้การเปรียบเทียบอธิบายสถานการณ์ ตรงที่แผนกงานหรือบุคคลภายในองค์การดำเนินอย่างโดดเดี่ยว การกักกตุนข้อมูล และไม่ร่วมมือร่วมใจกับแผนกงานอื่น คล้ายกันมากที่พืชพันธุ์ได้ถูกเก็บรักษาเเยกจากกันภายในไซโลอย่างไร
ถ้อยคำ “ความคิดไซโล” กำเนิดภายใน ค.ศ 1988 ด้วยถ้อยคำ “อาการไซโลตามหน้าที่” สร้างโดยฟิล เอ็นซอร์ ผู้บริหารกูดเยียร์ ได้ถูกบันดาลใจโดยไซโลเมล็ดพันธุ์ของบ้านเกิดอิลลินอยส์ชนบทของเขาบนการไปเยี่ยมบ้านชนบทอิลลินอยส์ เขาผ่านทุ่งนาแล้วทุ่งนาเล่า ไซโลพืชผลแล้วไซโลพืชผลเล่า เมื่อเขาได้คำนึงถึงความท้าทายของสถานที่ทำงานสมัยใหม่
ความคิดไซโลอ้างถึงโครงสร้างองค์การ และกรอบความคิดตรงที่แผนกงานหรือทีมดำเนินงานอย่างอิสระ การขัดขวาางการร่วมข้อมูล และความร่วมมือร่วมใจ ต้นกำเนิดของถ้อยคำมีรากเหง้าตามภาพของไซโลพืชผลที่บันดาลใจคำพูดเปรียบเทียบของฟิล เอ็นซอร์ ความคิดไซโลจะปรากฏอยู่เมื่อบุคคลเชื่อว่า มันไม่ได้เป็นความรับผิดชอบของพวกเขา ที่จะประสานงานกับบุคคลอื่นภายในองค์การ
มันเป็นกรอบความคิดของการไม่มีความรับผิดขอบต่ออะไรก็ตามที่ตกอยู่ข้างนอกขอบเขตของคุณ มันนำบุคคลที่จะกลายเป็นคับข้องใจ เมื่อพวกเขาได้ต่อสู้ที่จะให้อะไรก็ตามกำหนดให้ทำงานกับแผนกงานอื่น มัน
เป็นคำเปรียบเทียบเมื่อกลุ่มของบุคคลภายในองค์การทำงานอย่างอิสระ และไม่ได้ร่วมข้อมูลกัน มันสามารถนำไปสู่สภาพแวดล้อมงานมลพิษ
ถ้อยคำ “ความคิดไซโล” ได้ถูกทำให้นิยมแพร่หลายโดย ฟิล เอ็นซอร์ ้เขาได้ ดึงการเชื่อมโยงระหว่างลักษณะที่โดดเดี่ยวของไซโลพืชผล และวิถีทางที่แผนกงานภายในบริษัทได้ทำหน้าที่ทำนองเดียวกัน ฟิล เอ็นซอร์ ได้ถูกยกย่องกับการใช้ถ้อยคำครั้งแรก “อาการไซโลตามหน้าที่” อธิบาย
โครงสร้างองค์การ ตรงที่แผนกงานดำเนินงานอย่าเป็นอิสระ การดึงแรงบันดาลใจจากไซโลพืชผลของภูมิหลังอิลลืนอยส์ชนบทของเขา
เขาได้สร้างถ้อยคำ “อาการไซโลตามหน้าที่” ที่ได้อธิบายความคิดทางองค์การนี้ ตรงที่บุคคลได่ให้ความสำคัญเป้าหมายของพวกเขาเอง เหนือ
เป้าหมายของบริษัทที่กว้างขึ้น เพื่อที่จะอาชนะความคิดไซโล เราจะต้องสนับสนุนวัฒนธรรมของความร่วมมือร่วมใจ ด้วยการส่งเสริมการสื่อสาร
ที่เปิดกว้าง การสร้างเป้าหมายร่วม และการกระตุ้้นการเกี่ยวพันกันข้ามหน้าที่ การสร้างวิสัยทัศน์ที่เป็นหนึ่งเดียวและความเข้าใจร่วม การพัฒนาวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและดึงดูดเพื่อองค์การ ที่บุคคลทุกคนสามารถร่วมกัน
ช่วยเหลือ การระบุและการจัดการสาเหตุพื้นฐานของความคิดไซโล เช่น การขาดการสื่อสาร การเเข่งขันระหว่างแผนกงาน หรือบทบาทและความรับผิดชอบที่ไม่ชัดเจน
“ถ้าคุณต้องการไปให้รวดเร็ว ไปคนเดียว ถ้าคุณต้องการไปให้ไกล ไปด้วยกัน” สุภาษิตอัฟริกันที่มุ่งเน้นความคิดว่า ในขณะที่การกระทำของบุคคลเดียว สามารถนำมาผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว สุภาษิตได้ท้าทายโดย
ตรงความคิดไซโล ด้วยการสนับสนุนความร่วมมือร่วมใจ และเป้าหมาย
ร่วม ด้วยการมุ่งเน้นความสำคัญของไปด้วยกัน สุภาษิตได้กระตุ้นการทำ
ลายไซโล และสนับสนุนวัฒนธรรมของการทำงานเป็นทีมเเละความรับผิด
ชอบร่วม องค์การที่รับเอาวิถีทาง ไปไกล ไปด้วยกัน สามารถเอาชนะการ
คิดไซโลได้ และบรรลุความสำเร็จมากขึ้นในระยะยาว
เเจ็ค เวลซ์ ซีอีโอก่อนหน้านี้ของ เจ็นเนอรัล อีเลคทริค รู้จักกันต่อการไร้
พรมแดน และวิถีทางทำลายไซโลของเขา เขาได้สนับสนุนอย่างมีชื่อเสียงต่อการทำลายไซโลขององค์การและสนับสนุนความร่วมมือร่วมใจผ่านการริเริ่มกระทำเหมือนเช่นจีอี เวิรค-เอ้าท์ และองค์การที่ไร้พรมแดน แจ็คเวลซ์ เชื่อว่าการคิดอย่างไซโล และพรมแดนระหว่างแผนกงานจะขัดขวางความสามารถของจีอีที่จะสร้างสรรค์ และเเข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพ เขาได้ส่งเสริมความร่วมมือร่วมใจข้ามหน้าที่และการร่วมข้อมูล
เเนวคิดการไร้พรมแดนของเเจ็ค เวลซ์ ได้กระตุ้นบุคคลคิดเลยพ้นแผนกงานของพวกเขา การมุ่งเน้นการริเริ่มคุณภาพซิกซ์ ซิกมาของเขา ได้ช่วยเหลือทำลายไซโล ด้วยการมุ่งที่การปรับปรุงกระบวนการ และการตัดสินใจขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่ต้องการ ความร่วมมือร่วมใจข้ามแผนกงานการมุ่งเน้นบริการลูกค้าของเขาได้ช่วยเหลือทำลายไซโลด้วย การรับรองว่าแผนกงานที่แตกต่างกันถูกวางแนวบนประสบการณ์ของลูกค้า และเเต่ละแผนกงานมุ่งที่ความต้องการของลูกค้า
การแสวงหาข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของแจ็ค เวลซ์ หมายความว่าจีอีต้องมุ่งนวัตกรรมและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ ต้องการความร่วมมือร่วมใจและร่วมความรู้ข้ามแผนกงาน ที่แตกต่างกันด้วยการทำลายไซโล การทำ
ลายไซโลที่จะบรรลุข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยการสนับสนุนความร่วมมือร่วมใจ นวัตกรรม และการตัดสินใจอย่่างรวดเร็ว ผ่านทางการริเริ่ม
อย่างเช่นจีอีเวิรค-เอ้าท์ และองค์การไร้พรมแดน
แจ็ค เวลซ์ ได้กล่าวไว้ว่า “ถ้าไม่มีข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน อย่าไปแข่งขันเลย” ความส่ามารถขององค์การเพื่อที่จะเรียนรู้ และถ่ายทอดการเรียนรู้นั้นให้เป็นการกระทำอย่างรวดเร็วจะเป็นข้อได้เปรัยบทางการแข่่งขันในที่สุด การเปลี่ยนแปลงบริษัทของเราให้เป็นองค์การเรียนรู้ เพื่อที่จะกระตุ้นกระแสของการสื่อสารและการแลกเปลี่ยนความคิดอย่างเสรี การสร้างกำลังงานที่เชื่อมั่นอย่างแท้จริง ความเชื่อมั่นจะเป็นส่วนผสมที่สำคัญขององค์การเรียนรู้ การกำหนดเงื่อนไขของการได้ชัยชนะคือ ความรวด
เร็ว ความเรียบง่าย และความเชื่อมั่นตนเอง บุคคลที่เชื่อมั่นตนเองจะเปิดรับความคิด ไม่สนใจแหล่งที่มาของความคิด และเต็มใจที่จะร่วมความคิด
แจ็ค เวลซ์มองว่าจีอีจะต้องทำให้ดีกว่าดีที่สุด เมื่อตื่นนอนทุกวัน ถ้าเรารู้ว่าใครกำลังทำได้ดีกว่าเราแล้ว เราจะต้องกระตุ้นบุคลคลของเราให้ค้นหาวิถีทางที่ดีกว่า เนื่องจากจีมีหน่วยธุรกิจถึง 350 หน่วย แจ็ค เวลซ์ กำหนดให้หน่วยธุรกิจทุกหน่วยของจีอีต้องมีส่วนแบ่งตลาดเป็นหมายเลข 1 หรือ 2 ถ้าเป็นไม่ได้ หน่วยธุรกิจเหล่านี้จะต้องถูกแก้ไข ขาย หรือเลิกไป
เขาได้รับรู้ว่าโครงสร้างองค์การสมัยเดิมมักจะนำไปสู่การคิดและการสื่อ
สารเป็นไซโล และการกลายแผนกงานไซโลได้ ขัดขวางนวัตกรรม และประสิทธิภาพ เพื่อที่จะต่อสู้กับความคิดไซโล เเจ็ค เวลซ์ ได้ดำเนินการ
จีอี เวิรค-เอ้าท์ กระบวนการ ที่เกี่ยวพันกับการแก้ปัญหาข้ามหน้าที่ และการพัฒนาข้อแก้ปัญหา เขาได้คิดถึงองค์การที่ไร้พรมแดน ตรงที่ข้อมูล และความคิดไหลเวียนอย่างเสรีข้ามแผนกงาน และเเม้แต่ภายนอกบริษัท การส่งเสริมความร่วมมือร่วมใจ และนวัตกรรม เขาได้กระตุ้นบุคคลที่จะ
กระโดดข้ามไซโล หรือใช้สายตาจากนกของบริษัท และเรียนรู้เกี่ยวกับเพื่อนร่วมงานของพวกเขากำลังทำอะไร
ภายในบทความฮาวาร์ด บิสซิเนส รีวิว วิถีทางทำลายไซโลขององค์การของ เเจ็ค เวลซ์ เกี่ยวพันกับการสนับสนุนวัฒนธรรม ของการร่วมข้อมูล ความร่วมมือร่วมใจ และการไร้พรมแดน การมุ่งเน้นความสำคัญของการทำงานเป็นทีมข้ามหน้าที่ และการสื่อสารที่เปิดกว้าง ขับเคลื่อนนวัตกรรมและประสิทธิภาพ เขาได้รับรู้ว่าไซโลแผนกงานดำเนินงานอย่างอิสระ และ
ไม่ร่วมข้อมูล หรือร่วมมือร่วมใจมันสามารถนำไปสู่ความไม่มีประสิทธิภาพ
การพลาดโอกาส และการขาดนวัตกรรม
เพื่อการต่อสู้กับไซโลของจีอี เเจ็ค เวลซ์ ได้ส่งเสริมวัฒนธรรมของการ
ไร้พรมแดน การกระตุ้นการสื่อสารที่เปิดกว้าง และการร่วมการปฏิบัติที่ดีที่สุดข้าแผนกงานที่แตกต่างกัน เขาเน้นย้ำว่าการทำลายไซโลไม่ได้เป็นเพียงแค่เกี่ยวกับการดำเนินการกลยุทธ์หรือเครื่องมือเฉพาะ แต่เกี่ยวกับการสร้างวัฒนธรรมของการร่วมข้อมูล ความร่วมมือร่วมใจ และความไว้วางใจด้วย
เมื่ออ้างถึงวิถีทางเเจ็ค เวลซ์ ที่จะทำลายไซโล มันหมายความว่าซีอีโอ
จีอีก่อนหน้านี้ แจ็ค เวลซ์ ดำเนินการกลยุทธ์ที่จะรื้อ “ความคิดไซโล” ภายในบริษัทของเขา อ้างถึงแผนกงานดำเนินงานอย่างอิสระด้วยการสื่อสารน้อยหรือความร่วมมือร่วมใจน้อยที่สุด โดยการกระตุ้นทีมข้ามหน้าที่ การสื่อสารที่เปิดกว้าง และการสร้างวิสัยทัศน์ร่วมข้ามแผนกงานขององค์การที่แตกต่างกัน ผ่านการริเริ่มกระทำเหมือนอย่างกระบวนการ
จีอีเวิรค-เอ้าท์ ตรงที่บุคคลสามารถอภิปรายอย่างเปิดเผย และการแก้ปัญหาที่กระทบแผนกงานที่แตกต่างกัน
เเจ็ค เวลซ์ มุ่งเน้นการกำจัดอุปสรรคระหว่างแผนกงาน และการกระตุ้นความร่วมมือร่วมใจข้ามหน้าที่ การส่งเสริมนวัตกรรมและการแก้ปัญหาที่ดีขึ้น เเจ็ค เวลซ์ ได้บุกเบิกที่มีชื่อเสียง ความคิดขององค์การที่ไร้พรมเเดนเป็นวิถีทางที่จะโค่นล้มไซโลขององค์การการทำงานข้ามพรมแดนองค์การเป็นวิถีทางใหม่ของการคิด 25 ปีที่แล้ว เเจ็ค เวลซ์ ซีอีโอก่อนหน้านี้ของเจ็นเนอรัล อีเลคทริค ได้ถูกชักจูงว่าความรวดเร็วของการกลายเป็นระดับโลก และนวัตกรรมทางเทคโนโลยีภายในศตวรรษที่ 21 กำหนดให้บริษัททำงานแตกต่างกันมากขึ้นด้วยวงจรการตัดสินใจที่รวดเร็วขึ้น ความผูกพันของบุคคลมากขึ้น และความร่วมมือร่วมใจเข้มแข็งขึ้น
แจ็ค เวลซ์ ได้ถูกรู้จักกันอย่างกว้างขวาง ต่อการต่อสู้กับความคิดไซโลภายในบริษัท ด้วยการส่งเสริมแนวคิดขององค์การที่ไร้พรมแดนมุ่งหมายที่จะทำลายอุปสรรคระหว่างแผนกงานที่แตกต่างกัน และกระตุ้นความร่วมมือร่วมใจข้ามหน้าที่ ผ่านการริเริ่มกระทำมีชื่อเสียงมากที่สุด เหมือนเช่น
จีอี เวิรคเอ้าท์ตรงที่ทีมจากหลายระดับมาร่วมกัน แก้ปัญหาอย่างรวดรเร็วและมีประสิืทธิภาพ เขาได้สนับสนุนอย่างเข้มแข็ง ต่อต้านความคิดของทีมดำเนินงานแยกระหว่างกัน การมุ่งที่วิถีผสมผสานกันมากขึ้น ตัดสินใจและแก้ปัญหาทั่วทั้งองค์การ
เเจ็ค เวลซ์ ได้สร้างถ้อยคำ องค์การที่ไร้พรมแดนแสดงวิสัยทัศน์ของเขาต่อบริษัท ตรงที่ข้อมูลและความคิดไหลอย่างเสรี ข้ามแผนกงานโดยไม่มีพรมแดนประดิษฐ์ การมุ่งเน้นของเขาต่อการทำลายไซโลได้ถูกพิจารณาเป็นการมีส่วนช่วยที่สำคัญต่อความเป็นผู้นำสมัยใหม่ การกระตุ้นผู้นำที่จะส่งเสริมความร่วมมือร่วมใจ และการสื่อสารข้ามแผนกงาน ที่แตกต่างกันภายในองค์การ
เมื่ออ้างถึงเเจ็ค เวลซ์ การไร้พรมเเดน จะหมายถึงโครงสร้างบริษัทตรงที่ข้อมูลและความคิดไหลได้อย่างเสรีข้ามแผนกงานและระดับที่แตกต่างกัน
โดยพื้นฐานการทำลายไซโลขององค์การสมัยเดิม เพื่อการบรรลุองค์การไร้พรมแดนนี้ แจ็ค เวลซ์ ได้ดำเนินการกระบวนการจีอี เวิรค-เอ้า
แจ็ค เวลซ์ ต้องการปฏิรูปจีอีให้กลายเป็นบริษัทที่ “ไร้พรมแดน” บริษัทที่ไร้พรมแดนเป็นถ้อยคำที่สร้างขึ้นมาโดยแจ็ค เวลซ์ เมื่อเขาเขียนรายงานประจำปี 1990 ของจีอีว่า ” ความฝันของเราสำหรับ ค.ศ 1990 คือ บริษัท
ที่ไร้พรมแดน เราได้ทำลายพรมแดนที่แยกพวกเราออกจากกันภายในและแยกพวกเราออกจากลูกค้าภายนอก บริษัทที่ไร้พรมแดนจะหมายความว่าบุคคลภายในแผนกงานและหน่วนธุรกิจหนึ่งพูดคุยกับบุคคลภายในแผนกงานและหน่วยธุรกิจอื่นได้เพื่อที่จะร่วมความคิดทรัพยากร และความเข้าใจ
เขาต้องการยกเลิกพรมแดนตามแนวนอน ระหว่างแผนกงาน และหน่วยธุรกิจ และพรมแดนตามแนวดิ่ง ระหว่างสายการบังคับบัญชา แม้แต่พรม
แดนระหว่างบริษัทและลูกค้าด้วย การใช้โครงสร้างแบบแนวนอนหรือทีม สามารถกำจัดพรมแดนเหล่านี้ได้ แจ็ค เวลซ์ ยืนยันว่าเราไม่ต้องการระบบราชการที่อ้วนใหญ่ เราต้องการการไร้พรมแดน พรมแดนของบริษัททุกอย่างเป็นประตูที่ ต้องเสียค่าผ่านทาง สิ่งที่ขัดขวางความรวดเร็ว ความรวดเร็วเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จภายในทศวรรษนี้ การระเบิดพรมแดนจะนำไปสู่การทำกำไร ส่วนแบ่งตลาด และการตอบสนองลูกค้ามากขึ้น
แจ็ค เวลซ์ ได้ปรากฏตัวเป็นประจำ ณ ศูนย์การประชุมผู้บริหารของจีอี การพูดคุยกับผู้บริหารจีอีหลายคนพร้อมกัน เขาได้ถอดเสื้อแจ็คเก็ตออก และม้วนแขนเสื้อของเขาขึ้นมา การส่งสัญลักษณ์ว่า เราทุกคนอยู่ด้วยกัน และต้องลงมือทำแล้ว แจ็ค เวลซ์จะพูดและฟัง เขากระตุ้นให้ผู้บริหารพูดอย่างเสรี การร่วมความกลัว ความห่วงใย และความรู้ ผู้บริหารมองเขาเป็นมนุษย์คนหนึ่ง และเต็มใจร่วมการเดินทางเพื่อการค้นพบของเขา ภายใต้การรับฟังผู้บริหาร แจ็ค เวลซ์ ได้มองเห็นจุดอ่อนและโอกาสของจีอี และสามารถเจรจาต่อรอง เพื่อที่จะลดการต่อต้านการปฏิรูปจีอีของเขาลงได้
Cr : รศ สมยศ นาวีการ